ความคิดเห็นที่ 1 รูปสวยชะมัดเลยครับ ถ้าพกแม่ชีไปด้วย ต้องจุดไฟเอาควันด้วยนะครับถึงจะครบสูตร 555555 จากคุณ : Keng -w - [ วันนักถ่ายภาพไทย 21:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ชอบบรรทัดสุดท้ายครับน้า ส่วนใหญ่ผมไปไม่ค่อยอยู่ในตำแหน่งเลยไม่ค่อยได้ภาพแจ๋ว ๆ กลับมา จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ วันลอยกระทง 07:01:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โอ่ว ช่างได้อารมณ์จิง คับพี่น้อง จากคุณ : koonkhun (koonkhun) - [ วันลอยกระทง 08:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปกติเขาจัดฉากกันอย่างงั้นหรือ ทึ่ง หึ หึ จากคุณ : nop0611 - [ วันลอยกระทง 08:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Perfecto !!!! เยี่ยมครับ!! จากคุณ : lol - [ วันลอยกระทง 10:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ชอบด้วย จากคุณ : heronop2003 - [ วันลอยกระทง 12:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ชื่นชอบภาพที่ได้มาด้วยวิธีการแบบนี้จริงๆพับเผื่อย :-D หาตัวเล็กๆติดตัวไว้ทุกที่นะคร๊าบพี่น้อง ;-) จากคุณ : siamsummer - [ วันลอยกระทง 13:15:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณKeng-wช่างสังเกตจัง เหมือนหนังผีนั่นแหละครับ ตอนผีกำลังจะโผล่ไม่รู้ควันมาจากไหนเยอะแยะ ไม่เห็นมีที่มา จะให้รูปถ่ายออกมาได้อารมณ์ก็คงต้องใช้วิธีไม่ต่างกัน ผมเคยได้ยินเรื่องขำ ๆ เกี่ยวกับการจัดถ่ายมาเยอะเลย ความน่าสนใจอยู่ตรงที่มันเป็นเรื่องจริง 100 % ซะด้วยซิ บางคนเล่าให้ฟังเองผ่านการเสวนา บางคนโน้ตไว้ใต้ภาพเป็นข้อมูลเชิงเทคนิคเผื่อคนอื่นจะจำเอาไปใช้บ้าง เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังอีกที แต่ตอนนี้อยากต่อ ยอด คห.ของคุณจอมมารฯกับคุณsiamsummerก่อน เพราะอ่านแล้วนึกถึงวิธีการทำงานของช่างภาพ Street นามอุโฆษคนนึงขึ้นมา ...   เขาชื่อ  Garry Winogrand จากคุณ : George (Sonnar Devotee) - [ วันลอยกระทง 17:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเห็นด้วยกับไอเดียของคุณsiamsummerครับ ภาพดีๆมีให้ถ่ายไม่ใช่เฉพาะตอนไม่ได้พกกล้องติดตัวเท่านั้น บางทีมันก็มาเอาตอนเรากำลังก้มหน้าก้มตาใส่ฟิล์มด้วยซ้ำไป แล้วที่คุณจอมมารฯว่าไม่ค่อยได้ภาพแจ๋วๆกลับมา ถ้าได้ศึกษาชีวิตและผลงานของตากล้องคนที่ผมเกริ่นให้ฟัง อาจค้นพบก็ได้ว่าจริง ๆ แล้วพลาดที่ตรงไหน Winogrand ถ่ายรูปบ่อยและแต่ละครั้งเยอะมากๆ มีคนเคยประมาณว่าตลอดชีวิตการทำงานเป็นช่างภาพ เขาผลาญฟิล์ม Tri-X เฉลี่ยถึง"วันละ" 4 ม้วน ! (ฟังตัวเลขเป็นม้วนอาจจะรู้สึกเฉยๆ เลยอยากให้ลองคูณเป็นจำนวนรูปแล้วเทียบกับจำนวนฟิล์มที่มนุษย์อย่างเราๆใช้ใน"365วัน"ดูก่อน) เขาบริโภคฟิล์มเยอะซะจนขนาดที่ว่าหลังจากลาโลกไปแล้ว ยังเหลือฟิล์มที่ยังไม่ได้ผ่านการล้างตกทอดเป็นมรดกให้วงการถ่ายภาพอีกกว่า 2500 ม้วน ! จากคุณ : Sonnar Devotee - [ วันลอยกระทง 17:26:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ่ายแล้วไม่ล้างจนฟิล์มตกค้างมากมายขนาดนี้ฟังดูชอบกลอยู่แต่มีคำอธิบายครับ คนที่อ่านแล้วแอบเดาไปด้วยว่าสงสัยเขาจะเอาตังค์ไปซื้อฟิล์มซะหมดจนไม่เหลือพอเป็นค่าล้าง คิดผิดแล้วนะครับ  เพราะอันที่จริงเป็นความจงใจของ Winogrand เองที่จะไม่ล้างฟิล์มทันทีหลังถ่ายเสร็จ บางส่วนทิ้งไว้ปีสองปีโน่นกว่าจะขุดเอามาล้าง เขาทำอย่างงี้เพราะอยากให้ความทรงจำในแต่ละช็อตที่บันทึกมาเลือนหายไปเสียก่อน เขาเชื่อว่ารูปดียังไงก็ดีวันยังค่ำ ถ้าถ่ายเสร็จแล้วล้างเลย เขาอาจจะคัดเอาแต่เฉพาะรูปที่มีที่มาน่าประทับใจแทนที่จะเป็นรูปที่ดีที่สุดออกมา ทำให้เสียโอกาสพิจารณารูปอื่นๆไปอย่างน่าเสียดาย จากคุณ : Sonnar Devotee - [ วันลอยกระทง 17:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แนวคิดอีกอย่างที่ทำให้ Winogrand ถ่ายรูปได้เป็นจำนวนมากคือ เขาเชื่อว่าอะไรก็ถ่ายรูปได้หมด ("All things are photographable.") เขาไม่เคยคิดล่วงหน้าว่าจะถ่ายอะไร การคิดไว้ก่อนว่าวันนี้จะถ่ายไอ้นี่ไอ้นั่นเท่านั้น เจออย่างอื่นไม่ถ่ายอย่างเรา ๆ ถือเป็นการปิดกั้นจินตนาการ พอคิดได้อย่างงี้ การออกไปบันทึกภาพทุกครั้งของเขาก็เลยเหมือนการผจญภัยครั้งใหม่อยู่เสมอซึ่งตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้จะต้องไปเจอเข้ากับอะไร จากคุณ : Sonnar Devotee - [ วันลอยกระทง 17:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ยังมีบางคนเข้าใจว่าภาพของ Winogrand ส่วนใหญ่จะเป็น shot from the hip คือ ถือว่าใช้เลนส์ไวด์แล้วถ่ายส่งเดช ไม่ค่อยใส่ใจ composition  จริง ๆแล้วไม่ใช่เลยครับ เขามองเฟรมไลน์ทุกครั้งก่อนตัดสินใจลั่นชัตเตอร์ ความชำนิชำนาญทำให้เขาสามารถควบคุมการทำงานของกล้องพร้อมๆไปกับการกะประมาณค่าแสงได้ราวกับเกิดมาเพื่อกันและกัน http://www.cameraquest.com/LeicaM4G.htm ความน่าสนใจในงานและชีวิตของ Winogrand ยังไม่หมดแค่นี้หรอกครับ คนเขียนต่างหากที่เห็นว่าถึงเวลาอันควรจะจบเรื่องราวไว้แต่เพียงเท่านี้ได้แล้ว บางแง่มุมน่าจะนำไปแบบอย่างได้แต่ต้องคำนึงถึงความพอดีเป็นที่ตั้งด้วยนะครับ   แล้วทุกคนก็จะสนุกกับการถ่ายภาพในแนวทางของตัวเองอย่างแน่นอน จากคุณ : Sonnar Devotee - [ วันลอยกระทง 17:35:21 ]

ความคิดเห็นที่ 13 © Garry Winogrand, Los Angeles, California, 1969 จากคุณ : Sonnar Devotee - [ วันลอยกระทง 18:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอาอีกครับน้า ชอบเกร็ดฟามรู้พวกนี้มากครับ จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ วันลอยกระทง 18:48:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สงสัยว่าที่ตา Winogrand ไม่ล้างฟิล์มทันทีโดยจะเก็บไว้ปีสองปีเนี่ย เจา TriX ที่ Exposed แล้วคุณภาพจะไม่มีลดลงเลยเหรอ ? หรือเป็นเพราะอุณหภูมิ - ความชื้นที่ประเทศเค้า เอื้อให้เก็บได้นานๆอย่างนี้ครับพี่ ? จากคุณ : siamsummer - [ วันลอยกระทง 18:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โว้ว ขอบคุณครับสำหรับบทความดีๆ จากคุณ : Keng -w - [ วันลอยกระทง 23:24:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณภาพต้องลดลงบ้างไม่มากก็น้อย แต่กับคนที่ถ่ายรูปมากขนาดนั้น ผมว่าเขาตระหนักกับเรื่องนี้ดีอยู่แล้วว่าฟิล์มขาวดำไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็ยังคงคุณภาพอยู่ในขั้นรับได้อยู่เมื่อเก็บรักษาไว้อย่างถูกวิธีเป็นระยะเวลานานๆ (ถ้าเป็นฟิล์มสีก็อีกเรื่องนึง) ภาพจากฟิล์มขาวดำหมดอายุสวยไปอีกแบบ ถ้ามีโอกาสได้มาในราคาไม่แพงอย่าลังเลที่จะหามาใช้กันนะครับ จากคุณ : George (Sonnar Devotee) - [ 25 พ.ย. 50 08:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เค้าว่ากันว่าฟิลม์ที่โดนถ่ายไปแล้ว ถ้าเก็บในตู้เย็น ก็เก็บได้หลาย ๆ ปีเหมือนกันครับ จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ 25 พ.ย. 50 10:04:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่รู้จะมีใครคิดเหมือนผมรึเปล่าว่า ความสุดโต่งของ Garry Winogrand ทำให้เราต้องกลับมามองย้อนตัวเองว่าทุกวันนี้ที่ถ่ายรูปไม่ค่อยจะได้เรื่อง สาเหตุมาจากมุมมองแย่อย่างเดียวหรือเพราะถ่ายรูปน้อยเกินไปกันแน่ ทั้งนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าอาจจะเป็นผลพวงจากทั้งสองอย่างรวมกัน ถ้าแค่อาศัยว่าใช้ฟิล์มเยอะ ใครๆก็คงเป็น Winogrand ได้หมด จากคุณ : George (Sonnar Devotee) - [ 25 พ.ย. 50 10:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ในยุคนึง เคยเป็นที่ถกเถียงกันว่าภาพใน National Geographic ซึ่งล้วนแล้วแต่สุดยอดเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก ส่วนหนึ่งมาจากศักยภาพของผู้ผลิตที่ปล่อยให้ช่างภาพทำงานกันได้อย่างไม่มีข้อจำกัดในเรื่องปริมาณฟิล์ม ในฟิล์มนับพันนับหมื่นเฟรมที่ใช้ในหนึ่ง assignment ย่อมต้องมีซัก 5-6 รูปแหละที่เข้าขั้น หลายคนเคยคิดและอยากมีโอกาสทำอย่างงั้น นับถึงวันนี้ เราเข้าสู่ศตวรรษที่ 21มาเกือบแปดปี ข้อจำกัดที่ว่าไม่มีอีกแล้วด้วยการถ่ายภาพระบบดิจิตอล   Memory card 4 GB ราคาไม่แพงเลย ถ่ายทิ้งถ่ายขว้างยังไงก็ไม่มีใครว่า  น่าแปลกที่จำนวนภาพเยี่ยม ๆ ก็ไม่เห็นจะเพิ่มเป็นเท่าทวีกว่าเมื่อก่อน ... จากคุณ : Sonnar Devotee - [ 25 พ.ย. 50 10:49:18 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณครับน้า เจ๋งมาก! จากคุณ : Rangefinder - [ 25 พ.ย. 50 11:59:35 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จากคุณ : punam02 - [ 26 พ.ย. 50 09:42:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ดีครับชอบๆ เอาอีก ๆ จากคุณ : ko (Essueko) - [ 27 พ.ย. 50 11:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : โอครับ - [ 27 พ.ย. 50 19:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมว่าตอนนี้คนถ่ายภาพส่วนใหญ่แนวความคิดเปลี่ยนไปครับ สมัยฟิล์มนั้น ต่อรูปมันแพงค่าล้างบวกค่าอัดและถ้าไม่ดีย้อนเวลามาถ่ายไม่ได้ ดังนั้นต้องคิดให้มากๆระวังมากๆก่อนถ่าย สมัยดิจิตอล ถ่ายก่อนแล้วค่อยเอามาคิดว่าจะแต่งอย่างไร หรือถ่ายไปเลยแล้วมาดูจอด้านหลังว่าดีหรือไม่ดี แล้วถ่ายใหม่ต่อเลย ไม่ดีก็กดลบทิ้ง เมื่อวันศุกร์เจอเพื่อนเก่าที่ถ่ายรูปด้วยกันมาไม่ค่อยได้เจอกัน เขาบอกว่าตอนนี้เขาหยาบมาก(ไม่ละเอียดตอนถ่ายรูป) ตั้งแต่ใช้ดิจิตอล ผมยังมีแนวคิดเสมอว่า กล้องและคนถ่ายภาพมากขึ้นแต่เทคโนโลยีทำให้คนถ่ายภาพเป็นน้อยลง การถ่ายให้มีรูปดีตอนนี้ง่ายมากจนแทบไม่ต้องศึกษาอะไรมากมาย วันนี้ซื้อกล้องพรุ่งนี้ถ่ายได้รูปงามๆเยอะเลย คนถ่ายหรือกล้องถ่าย ถ้าพอใจในความสามารถของตัวเอง ผมเชื่อว่ากล้องฟิล์มจะสามารถพิสูจน์ได้ ผมยังคงใช้กล้องฟิล์มครับ มีความสุขกับมันอยู่เวลาเอารูปเก่ามาดู และยิ่งตอนนี้ ผมเข้าใจแล้วว่าความสุขมากกว่านั้นคือความสุขตอนถ่ายและบรรยากาศในขณะนั้น หลายๆคนในชมรมกล้องเก่าคงคล้ายๆกันน่ะครับ ผมรักที่จะถ่ายภาพครับ ส่วนการได้ภาพสวยๆเป็นผลพลอยได้ จากคุณ : Mr.Technika - [ 3 ธ.ค. 50 11:03:59 ]