ความคิดเห็นที่ 1 ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพนะครับ จากคุณ : โจนาธาน ลิฟวิงสตัน - [ 28 ก.พ. 51 13:39:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อยากใช้กล้องยี่ห้อหรู  แต่ความรู้เรื่องถ่ายภาพไม่มี แล้วถ้าไม่มีให้เรียนรู้แล้วจะเรียนรู้ได้จากอะไรเหรอครับ??? จากคุณ : เทพแห่งความฝัน - [ 28 ก.พ. 51 15:22:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อย่าลืมไปโพสต์รูปที่คลับฟูจิ@พันทิบด้วยนะคะ //นกนหนาว จากคุณ : มินเอง - [ 28 ก.พ. 51 15:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โห S100 ราคามันหรูกว่าDSLRหนอน 400D อีกนะครับ จากคุณ : Buddykung - [ 28 ก.พ. 51 15:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 "อยากใช้กล้องยี่ห้อหรู  แต่ความรู้เรื่องถ่ายภาพไม่มี....." แต่ความจริงแล้ว ไม่มีความรู้ ก็เพิ่มพูนความรู้ได้ อยู่ที่เราพร้อมจะก้าวไปหรือยัง จากคุณ : ZtahC - [ 28 ก.พ. 51 16:05:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เงินของตัวเอง จะไปอินกับลมปากคนขนาดนั้นเชียว? คุณว่าคนที่ตอบกระทู้น่ะเชื่อถือได้แค่ไหนครับ? จากคุณ : Piggie MM - [ 28 ก.พ. 51 16:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เค้าไม่ได้บอกไม่ให้ใช้กล้องหรูหนิครับ แต่เค้าบอกให้ไปหาความรู้มากกว่า :P จากคุณ : ZooRider - [ 28 ก.พ. 51 16:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่น่ารีบซื้อเลยครับกล้องดิจิตอลซื้อช้าๆ หาข้อมูลเยอะๆดีที่สุด ราคาเจ้า S100 เนี่ยซื้อ DSLR +เทเลซูมราคาประหยัดได้แน่ๆ ราคานี้เป็นกล้องในระดับเริ่มต้น สำหรับเริ่มหัดถ่ายภาพ หรือต้องการความคุ้มค่าไม่จริงจังมาก รับรองว่าไม่โดนประโยคที่ว่า"อยากใช้กล้องยี่ห้อหรู  แต่ความรู้เรื่องถ่ายภาพไม่มี....." จากคุณ : ZXR - [ 28 ก.พ. 51 16:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดูเหมือนกล้องยี่ห้อหรู จะถูกกว่า S100 นะ...คิดยังไงล่ะครับ.. จากคุณ : time99lek - [ 28 ก.พ. 51 17:43:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แต่ S100 ก็ไม่บานปลายนะครับ จากคุณ : มองต่างมุม (DUB-COOK) - [ 28 ก.พ. 51 17:51:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คนที่บอกว่าเล่นDSLR-Likeแล้วงบไม่บาน จริงแค่ครึ่งเดียวครับ สุดท้ายมันก็ต้องไปDSLRเกือบหมดอยู่ดี ผมเคยใช้DSLR-Likefเพราะประโยคไม่อยากบานปลายนี่แหละสุดท้ายก็ต้องเสียเงินสองรอบซื้อDSLRอยู่ดี feelingมันต่างกันครับ จากคุณ : adisonx - [ 28 ก.พ. 51 17:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 จริงของ  adisonx  ครับ จากคุณ : homme - [ 28 ก.พ. 51 21:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วย ๆ จากคุณ : กระเหรี่ยงอินเตอร์ - [ 28 ก.พ. 51 21:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทำไมต้อง dslr ล่ะครับ   อยู่ที่จุดประสงค์การใช้งานมากกว่า   อยากได้กล้องมาถ่ายรูป เก็บภาพ บันทึกความทรงจำ ถ้าไม่ได้เป็นช่างภาพ หรือชอบกล้อง dslr จริงๆ จังๆ    จำเป็นหรือไม่ที่ต้องแบกกล้อง แบกเลนส์ เวลาไปเที่ยว (dslr-like ยังพกพาสะดวกกว่าเยอะ) จริงๆแล้ว ไม่ต้อง dslr หรือ dslr-like  แค่กล้องคอมแพ็ค 3900 บาท ก็๋จบได้ครับ  ถ่ายออกมาอัดแล้วใส่อัลบั้ม  ใส่กรอบรูป  มันก็สวยและชัดดี คงไม่มีใคร มาดูรูปของเราแล้วมาขยาย จ้องหา noise หรอก แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับบางคนแล้วล่ะครับ  ขอให้มีความสุขการถ่ายรูปเก็บภาพความทรงจำดีๆ   กล้องอะไร ยี่ห้อไหนก็ไม่สำคัญครับ  ^^ จากคุณ : bglite - [ 28 ก.พ. 51 22:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จขกท. S-100 ซื้อมาเท่าไหร่? จากคุณ : บลูเรย์ - [ 28 ก.พ. 51 22:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ซื้อไม่ใช้ ไม่ลอง ไม่เก่งหรอกครับ ถ้ากล้องดี แต่ใช้ไม่เป็น ก็ไม่สวยนะครับ ซื้อเท่าที่เราจะไม่ลำบาก แล้วฝึกใช้จนชำนาญก็เก่งเองแหละครับ จากคุณ : noname!!! - [ 28 ก.พ. 51 23:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 17 -ถูกใจ #14 อย่างแรง มากๆ จากคุณ : หลี่ เสียนหลอ - [ 29 ก.พ. 51 01:02:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สนับสนุน คห.14 ครับ งบบานปลายหรือไม่ บางทีมันก็ขึ้นอยู่กับกิเลสของคนคนนั้น จากคุณ : KatsuyA_Aon - [ 29 ก.พ. 51 01:59:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับคุณ bglite ครับ ยิ่งพักหลัง ๆ DSLR ราคาถูกด้วย คนเลยนิยมกันใหญ่ แต่ผมว่าถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วไป เค้าต้องการที่จะได้ภาพที่เค้ามองแล้วสวยมากกว่าศิลป์นะครับ จากคุณ : Boilkung - [ 29 ก.พ. 51 02:14:49 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ่ายรูป ถ่ายให้สนุกดีกว่าค่ะ life style แต่ละคนไม่เหมือนกัน กล้องคอมแพคหรือกล้องโปร ถ้าคนหลังกล้องฝีมือไม่ดี รูปก็ออกมาไม่สวยพอกัน ภูมิใจในสิ่งที่เรามีดีที่สุดค่ะ ไม่ต้องตามแฟชั่น  หรือซื้อกล้องเพราะคนอื่นเค้าซื้อกัน เรื่องฝีมือคนเรามันเรียนตามกันได้ ไม่มีใครแก่เกินเรียน และไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ถ้าเรารักการถ่ายรูป หมั่นฝึกฝนวันนึงเราก็ถ่ายรูปสวยๆได้ และตัวเราเองพอใจก็เพียงพอแล้ว เอารูปมาแปะ มาแชร์ให้ชาวกล้องได้มีควา่มสุขไปกับรูปที่คุณถ่ายด้วยกันนะคะ จากคุณ : Mimi_Ne - [ 29 ก.พ. 51 06:25:37 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบ คห. 15 ซื้อมาในราค 24,600 บาทครับ ที่เซียร์รังสิต เพิ่งจะมีโอกาสแกะมาลองเล่นเมื่อคืนวานหลังจากซื้อตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยังใช้ไม่คล่องเลยเพราะมันมี function มากมายไปหมด และคู่มือที่ให้มาก็เป็นภาษาอังกฤษ อ่านไปลองไป แบบลองถูกลองผิดงั้นแหละครับ ลองถ่ายแบบมาโครระยะ 1 ซม. ภาพที่ออกมาถือว่าได้ความละเอียดตามที่ผมต้องการครับ น้ำหนักกล้องรวมแบตเตอรี่แล้ว 1 กิโลนิด ๆ  พลังซูมก้อใช้ได้ ถ่ายภาพ candid สบายเลยครับ ไม่ต้องกังวลว่าผู้ถูกถ่ายจะรู้ตัว ขอศึกษาวิธีใช้งานซักพักก่อนครับ คล่องตัวแล้วจะมาโพสต์ภาพให้ดู และตอนนี้ก็เริ่มค้นคว้าศึกษาเกี่ยวกับศิลปและเทคนิคการถ่ายภาพตามสำนักต่าง ๆ แล้ว ถ้าเจอข้อมูลอะไรดี ๆ ผมต้องขออนุญาตนำมาโพสต์ที่นี่ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อท่านอื่นที่ไม่มีเวลาไปค้นหา....ขอบคุณทุกท่านครับ สำหรับคำแนะนำต่าง ๆ ในด้านบน จากคุณ : Joe_SE - [ 29 ก.พ. 51 07:21:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อคืน ผมก็ได้เวลาเริ่มต้นค้นคว้าหาข้อมูลมาศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการถ่ายภาพทั้งหลาย เพื่อเป็นความรู้ที่จะช่วยให้ผมสามารถถ่ายรูปได้ตามแนวทางที่ควรจะเป็น ถ้ามีบทความใดที่เคยผ่านตารุ่นพี่ ๆ ทั้งหลายมาแล้ว ผมก็ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะครับ.... วันนี้ผมขอเริ่มจากเรื่อง "10 วิธีถ่ายรูปให้ชัด" ก่อนนะครับ.... เรื่องการถ่ายรูปไม่ชัด  ถือว่าเป็นปัญหาเบื้องต้นบันไดขั้นที่หนึ่งเลยก็ว่าได้ที่คนถ่ายรูปจะต้องฝ่าด่านนี้ให้ได้ หลายครั้งที่ตอนถ่ายรูปแล้วเปิดดูรูปบนจอ LCD ดูก็ชัดดีใช่ไหมครับ แต่พอกลับมาส่งรูปไปอัดขยายหรือนำมาขยายรูปดูบนจอคอมพิวเตอร์รูปที่แต่แรกคิดว่าชัดดี กลับไม่ชัดอย่างที่ตั้งใจ ผมเชื่อว่าหลายต่อหลายท่านต้องเคยเจอปัญหานี้กันมาบ้างละครับ ปัญหาเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นมานานตั้งแต่เมื่อครั้งกล้องถ่ายรูปใช้ฟิล์มและเป็นกล้องปรับระยะชัดด้วยมือ ต่อมาเมื่อกล้องพัฒนามาใช้ระบบปรับระยะชัดอัตโนมัติซึ่งก็น่าจะได้ภาพที่ชัด แต่ก็มีที่ถ่ายมาแล้วไม่ชัดอีก จนเวลานี้กล้องเป็นระบบดิจิตอล เรื่องถ่ายรูปไม่ชัดก็ยังคงเป็นเรื่องที่เจอะเจอกันเป็นประจำ จนเป็นคำถามที่เจออยู่บ่อยๆ จนเป็นเรื่องธรรมดาๆ แล้วทำไมอีกหลายต่อหลายๆ คนจึงถ่ายภาพออกมาได้คมชัด ภาพชัดแจ๋วแหว๋วได้สะใจจริงๆเขาทำกันอย่างไรกันเนี่ยมันต้องมีวิธีซิคุณ เมื่อเขาสามารถถ่ายภาพให้ชัดได้ ทำมั๊ยทำไมเราจะถ่ายไม่ได้ จริงไหมครับ เพื่อให้พวกเราถ่ายภาพได้ชัดอย่างที่ตั้งใจ เลยขอชวนเพื่อนๆ มาเสวนาเรื่องทำอย่างไรจึงจะถ่ายภาพได้ชัดกะเขาเสียที ความจริงเรื่องถ่ายภาพให้ชัดนั้นไม่ใช่เรื่องลึกลับ และก็ไม่ใช่เทคนิคที่ยุ่งยากหรือซับซ้อน เพียงแต่ใช้ความสังเกตสักนิด ผมเชื่อว่าทุกท่านก็สามารถแก้ปัญหาได้ไม่ยากนัก สิ่งหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นกับนักถ่ายภาพที่เจอกับปัญหานี้ก็คือ ส่วนใหญ่มักจะลืมสิ่งปลีกย่อยเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ซึ่งถ้าเพียงแต่นึกได้ก่อนถ่ายรูปเท่านั้น ผมเชื่อว่าทุกท่านก็จะได้ภาพที่คมชัดตามต้องการ เรามาสร้างเป็นคัมภีร์ย่อยๆ ไว้ใช้งานกันดีกว่า ผมขอประมวลเอากรรมวิธีต่างๆ ที่ทำให้ได้ภาพที่คมชัดรวมๆ กันได้ กรรมวิธีที่จะทำให้ถ่ายภาพได้ชัดนำมาฝากไว้ให้พวกเราได้ลองใช้แก้ปัญหาดูครับ จากคุณ : Joe_SE - [ 29 ก.พ. 51 07:43:19 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ต้องขออภัยที่ผมไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของบทความที่ผมนำมาโพสต์ที่นี่ และขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงหากท่านจะคิดว่า นี่คือวิทยาทานของท่าน... ต่อเลยนะครับ.. กรรมวิธีที่ 1 กดชัตเตอร์ในนิ่มนวลในการถ่ายภาพ เริ่มต้นหลายคนอาจจะบอกว่าง่ายราวกับปลอกกล้วยหอมเข้าปากเลยนะครับ แต่ผมอยากจะขอบอกไว้สักนิดว่าหลายครั้งการกดชัตเตอร์ด้วยความรวดเร็วหรือหนักเกินไปจะทำให้กล้องไหวได้ง่ายครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกล้องคอมแพคที่ขนาดเล็กและเบารวมทั้งกล้อง D-SLR ที่เป็นกล้องขนาดเล็กทั้งหลายที่มีน้ำหนักเบา การกดชัตเตอร์ที่หนักเกินไปหรือรวดเร็วเกินไปมีส่วนทำให้กล้องไหวได้ง่ายนี่คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภาพถ่ายขาดความคมชัดครับ ด้วยเหตุนี้กล้องในระดับโปรทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในตลาดส่วนใหญ่เชื่อขนมกินได้เลยครับว่าไม่มีกล้องที่มีน้ำหนักเบาส่วนใหญ่แล้วจะมีน้ำหนักที่ค่อนไปทางหนักเสียละมากกว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะด้วยน้ำหนักของกล้องนั่นเองทำให้การกดชัตเตอร์มีความเสถียรมากกว่าการกดชัตเตอร์ของกล้องที่มีน้ำหนักค่อนข้างเบาทำให้ได้ภาพที่คมชัดกว่าในการใช้งานดังนั้นการกดชัตเตอร์ที่นิ่มนวลจะช่วยลดปัญหานี้ได้ครับ จากคุณ : Joe_SE - [ 29 ก.พ. 51 07:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 24 กรรมวิธีที่ 2 โฟกัสให้ชัดก่อนกดชัตเตอร์ ปัญหาถ่ายรูปไม่ชัดส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุนี้ครับ ถ้าคุณโฟกัสภาพด้วยมือต้องระลึกเสมอว่าต้องปรับระยะชัดให้ดีก่อนกดชัตเตอร์ ดังนั้นถ้าโฟกัสเองแล้วไม่ชัดก็ไม่ต้องไปโทษใครหรอก ข้าพเจ้าเองแหละครับ แต่ถ้าเป็นระบบออโต้โฟกัส สิ่งที่คุณต้องเข้าใจมี 2 เรื่อง หนึ่งคือเรื่องจุดโฟกัสของกล้อง การเลือกจุดโฟกัสถ้ากล้องมีหลายจุดจะทำให้คุณโฟกัสในตำแหน่งที่ต้องการได้อีกเรื่องหนึ่งก็คือการยืนยันโฟกัสของกล้อง ซึ่งกล้องมักจะมีสัญญาณเตือนให้ทราบ เช่นสัญญาณที่เป็นจุดเขียวในแถบข้อมูลของช่องมองภาพ หรือสัญญาณเสียงก็ตามนั่นหมายความว่ากล้องยืนยันการโฟกัสเมื่อกดชัตเตอร์จะทำให้ได้ภาพที่คมชัด แต่ถ้ากดชัตเตอร์ทันทีทันใดให้เข้าใจไว้ก่อนว่าอาจจะได้ภาพที่ชัดหรือไม่ชัดก็ได้ ซึ่งขึ้นกับสมรรถนะความเร็วในการโฟกัสภาพและความแม่นยำในการอ่านระยะโฟกัสของกล้อง ยิ่งถ้าเป็นกล้องคอมแพคด้วยแล้วให้ระมัดระวังไว้ว่าความเร็วในการโฟกัสและความสามารถในการอ่านจุดโฟกัสจะช้ากว่ากล้องในระดับ D-SLR ครับ จากคุณ : Joe_SE - [ 29 ก.พ. 51 07:51:23 ]

ความคิดเห็นที่ 25 กรรมวิธีที่ 3 เลือกความไวชัตเตอร์ให้สูงขึ้นป้องกันการสั่นไหวของกล้องปัญหาหลักอีกอย่างหนึ่งที่ทำได้รูปถ่ายไม่ชัดก็คือ ภาพที่ถ่ายออกมาไหว ปัญหานี้เกิดจากการถ่ายภาพที่ความเร็วชัตเตอร์ต่ำเกินไปเป็นสาเหตุหนึ่ง อีกสาเหตุหนึ่งก็คือการถือกดชัตเตอร์แล้วกล้องไหว แก้ได้ไม่ยากครับ เรื่องแรกก็คือถ้าคุณถือกล้องถ่ายรูปต้องถือให้มั่น กดชัตเตอร์ให้นุ่มนวลขึ้นก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องกล้องไหวได้ อีกอย่างหนึ่งก็คือการเลือกความไวชัตเตอร์ให้สูงขึ้นเพื่อลดการไหวของกล้อง เท่านี้คุณก็จะเพิ่มโอกาสให้ถ่ายรูปได้ภาพที่นิ่งมีความคมชัดมากขึ้นแล้วครับ จากคุณ : Joe_SE - [ 29 ก.พ. 51 07:52:09 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องงบบานไม่บาน มันอยู่ที่คนคนนั้นมากกว่าครับ บางคนบอก สำหรับผม กล้องตัวเล็กๆ ก็พอแล้ว (พ่อผมเอง) แต่พอผมไปใช้ ก็ทำให้อึดอัดไปเลย ปรับอะไรไม่ได้ ตั้งโหมดแล้วถ่ายอย่างเดียว สำหรับพ่อผม คงเหมาะแล้ว ใช้ง่ายดี รุ่นน้องใช้ S9500 ตอนนี้ก็อยากเปลี่ยนเป็น 400D เพราะ ถามเหตุผลก็บอกว่า DSLR-Like ยังไง มันก็ยังเป็นกล้องคอมแพค ปรับตั้งได้ เลนส์ที่มี ครบช่วง แต่คุณภาพก็ยังสู้ DSLR ไม่ได้ จากคุณ : AMATAENG - [ 29 ก.พ. 51 08:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ฟูจิ ยี่ห้อดังนี่ ไม่หรูยังไง ราคาแพงด้วยนะนั่น ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพค่ะ จากคุณ : vnv - [ 29 ก.พ. 51 08:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ทนอ่านหน่อยนะครับ....ต่อครับ กรรมวิธีที่ 4 ใช้ขาตั้งกล้องช่วยป้องกันการไหวของกล้อง หลายครั้งที่การถ่ายภาพจำเป็นต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำในการถ่ายภาพซึ่งจะทำให้การถือกล้องให้นิ่งไม่ให้สั่นไหวทำได้ยาก อย่าฝืนควรเลือกการใช้ขาตั้งกล้องช่วยจะทำให้สามารถถ่ายรูปได้โดยกล้องไม่ไหว ภาพที่ได้ก็จะเพิ่มโอกาสให้มีความคมชัดมากขึ้น อีกประการหนึ่งการเลือกใช้ขาตั้งกล้องก็ควรมีความสมดุลกับกล้องที่ใช้งาน ถ้ากล้องเล็กขาตั้งกล้องเล็กก็ถือว่าใช้งานสมน้ำสมเนื้อ แต่ถ้าคุณใช้กล้อง D-SLR ติดเลนส์ที่ใหญ่ขึ้นการใช้ขาตั้งกล้องที่เล็กเกินไปก็อาจจะมีโอกาสทำให้กล้องสั่นไหวได้เหมือนกันครับ ยิ่งถ้าเป็นกล้อง D-SLR การกระดกของกระจกการลั่นชัตเตอร์ซึ่งแม้เพียงเล็กน้อยก็มีโอกาสทำให้กล้องสั่นได้เช่นกัน จากคุณ : Joe_SE - [ 29 ก.พ. 51 09:00:11 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ครึ่งทางแล้วครับ... กรรมวิธีที่ 5 เลือกรูรับแสงที่แคบเพื่อเพิ่มความชัดลึกการเลือกรูรับแสงที่แคบเล็กหน่อยจะทำให้วัตถุมีความชัดลึกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถ้าการโฟกัสภาพคลาดเคลื่อนเล็กน้อยการควบคุมภาพให้มีความชัดลึกก็สามารถช่วยให้วัต:-)ังมีความคมชัดอยู่ได้ส่วนหนึ่งอีกประการหนึ่งการถ่ายภาพที่มีความชัดลึกไว้หน่อยจะทำให้การมองภาพเสมือนมีความชัดมากขึ้นครับ แก้ไขเมื่อ 29 ก.พ. 51 09:16:08 จากคุณ : Joe_SE - [ 29 ก.พ. 51 09:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เราก็หัดจาก S5600 ฟูฟู เหมือนกัน แล้วหันมาจับ 400D มั่ง ฟูฟู สู้ ๆ จ้า จากคุณ : ampzeries - [ 29 ก.พ. 51 09:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 31 กรรมวิธีที่ 6 เลือกทิศทางแสงในการถ่ายภาพเพื่อให้มีมิติ ในการดูภาพเราจะพบว่าถ้าวัตถุที่เราถ่ายภาพมีมิติจะทำให้ภาพดูมีความคมชัดมากขึ้น ทิศทางของแสงเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ภาพมีมิติ แสงด้านข้างจะทำให้เกิดเงาซึ่งจะช่วยให้วัตถุที่เราถ่ายภาพมีมิติมากขึ้น การเลือกทิศทางแสงด้านข้างจะช่วยเรื่องมิติภาพได้เป็นอย่างดีทำให้ภาพมีความคมชัดมากขึ้น จากคุณ : Joe_SE - [ 29 ก.พ. 51 09:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กรรมวิธีที่ 7 เลือกถ่ายภาพวัตถุให้มีความเปรียบต่างมากขึ้น ความเปรียบต่างของวัตถุที่เราถ่ายภาพจะช่วยให้การดูภาพเสมือนหนึ่งมีความคมชัดทีดี เพราะความเปรียบต่าง (CONTRAST) จะทำให้การดูภาพมีความตัดกันในด้านของโทนภาพ หรือสีสันของภาพที่ชัดเจนขึ้น ทำให้ภาพดูมีความคมชัดได้มากขึ้น จากคุณ : Joe_SE - [ 29 ก.พ. 51 09:35:01 ]

ความคิดเห็นที่ 33 กรรมวิธีที่ 8 เลือกถ่ายภาพวัตถุที่มีรายละเอียดมากขึ้น โดยปกติเมื่อเราดูภาพวัตถุที่มีรายละเอียดมากเปรียบเทียบกับวัตถุที่มีรายละเอียดที่น้อยกว่า เราจะรู้สึกว่า ภาพที่มีรายละเอียดที่มากกว่านั้นจะมีความคมชัดที่ดีกว่าภาพของวัตถุที่ไม่มีรายละเอียดทั้งที่ความจริงแล้วความคมชัดนั้นเท่ากัน แต่ที่เห็นต่างกันก็คือความรู้สึก ดังนั้นการสร้างสรรค์ภาพด้วยการเลือกถ่ายภาพที่มีรายละเอียดมากกว่าจึงทำให้รู้สึกว่าภาพมีความคมชัดที่ดีกว่า จากคุณ : Joe_SE - [ 29 ก.พ. 51 10:21:27 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ไปแตกเป็นกระทู้ใหม่ดีกว่าครับ แล้วถ่ายรูปตัวอย่างแต่ละหัวข้อมาด้วย   ได้ฝึกจริงและ  เป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วย เผลอๆจะได้เป็นกระทู้โหวต จากคุณ : ZXR - [ 29 ก.พ. 51 12:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณครับ สำหรับคำแนะนำ ผมเองก็กำลังคิดอยู่เหมือนกันว่าจะทำอย่างไรดีหากเรื่องที่จะโพสต์มันอยู่ในลักษณะข้อมูลด้านวิชาการแบบนี้...การแตกเป็นกระทู้ใหม่หมายถึงให้ทำเป็นกระทู้ละ 1 เรื่อง หรือว่า 1 กระทู้รวมหลาย ๆ เรื่องครับ...รบกวนผู้มีประสบการณ์ช่วยชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Joe_SE - [ 29 ก.พ. 51 14:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 36 14 ครับ DSLR กับ DSLR-Like ไม่ได้ต่างกันที่แค่เวลาเปิดภาพ 100% แล้วเห็น Noise หรอกนะครับ หากแต่การใช้งานปกติก็ยังต่างกัน DSLR มีโอกาสได้ภาพมากกว่า เช่นในสภาพแสงที่แย่ และอยู่ในที่ที่ไม่สามารถใช้แฟลชได้ DSLR-Like กับ Compact จบครับ แต่ DSLR ยังไปไหวอยู่ เพราะที่ ISO สูงๆ สามารถใช้งานได้จริง รูปที่ได้เอามาใช้ได้สบายๆ แต่ Like กับ Compact หมดสิทธิ์ เพราะ ISO สูงๆ Noise เห็นชัดเจนแม้จะย่อลงเหลือขนาดอัดจัมโบ้ หรือเล็กกว่า 800 X 600 การสูญเสียสีและรายละเอียดก็เกินทำใจครับ แต่ Compact กับ Like ก็มีข้อดีนะครับ นอกจากความสะดวกแล้ว ก็ยังมีข้อดีอื่นๆ เช่น ถ่ายภาพได้ง่าย ถ่ายมั่วๆ ก็ยังชัดในโหมดออโต้ แต่ DSLR หากมือใหม่และยังไม่เข้าใจมันดีพอล่ะก็ ผมว่าไม่นานก็ต้องกลับมาถามที่นี่อีกว่า ทำไมใช้ DSLR แล้ว ไม่เห็นชัดเลย เบลอไปหมด อะไรทำนองนี้แน่นอนครับ จากคุณ : Lotus Esprit - [ 1 มี.ค. 51 08:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าคุณคิดจะเล่นจริงจัง พามันออกงานบ่อย ๆ DSLR นั้นหละที่เหมาะ แต่ถ้า นาน ๆ ถ่ายที ชาตินึง เอาออกมาปัดฝุ่น ซื้อ อะไรก้อได้ แต่ผมว่า สุดท้ายแล้ว จขกท ก้อต้องซื้อ DSLR อีก ตัว แน่นอน จากคุณ : vinze - [ 1 มี.ค. 51 08:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 38 36-37 ครับ -DSLR ก็ถ่ายภาพได้ง่าย ถ่ายมั่วๆ ก็ยังชัดในโหมดออโต้ มันก็เหมือนกับ DSLR-Like กับ Compact ที่พูดได้เพราะ ได้เคยใช้SLR รุ่นที่ไม่มีระบบ โอโต้ โฟกัส ประเภทใช้มือหมุนปรับความชัด -ประเด็นก็คือ คนใช้กล้องต้องรู้จักกล้องที่ใช้ จริงๆก่อนหนะครับ รู้ว่ามีดีอะไรบ้าง มีข้อเสียอย่างไรและจะแก้ไขอย่างไร บางทีแสงน้อย แทนที่จะปรับ ISO ก็เปลี่ยนมาใช้ขาตั้งแทน เป็นต้น -ส่วนตัวตอนนี้ ขาย SLR(ฟิมล์) 3ตัว+อุปกรณ์ทั้งหมดทิ้ง แล้วมาใช้ Fuji S5000 ใช้มา4ปีกว่าๆแล้ว ใช้บ่อยๆด้วย ถ่ายรูปก็ไม่ได้ขี้เหล่อะไร ใช้ประกอบในการทำอาชีพอีกต่างหาก(ถ่ายSiteงาน) เพียงแต่มองว่า กล้อง ดิจิทัล ทุกวันนี้เป็นแค่ยุคเริ่มต้นของ เทคโนโลยีเท่านั้น ถ้าเทียบกับ คอม ก็เป็นเพียงพวก 386 ยังต้องพัฒนาอีกยาวไกล การไปลงทุนอะไรมากๆมันยังไม่คุ้มหนะครับ จากคุณ : หลี่ เสียนหลอ - [ 1 มี.ค. 51 20:09:15 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ต่อให้ใช้กล้องระดับเทพ ก็ไม่ทำให้ผมหล่อไปกว่าเดิมหรอก ....... ^ ^ จากคุณ : โจโฉ2000 - [ 2 มี.ค. 51 12:06:32 ]

ความคิดเห็นที่ 40 s100 หรูสุดแล้วครับสำหรับกล้องที่ไม่ใช่ dslr ว่าแต่ราคาเต็มแบบนี้แถมเป็นกล้องที่มี funtion เยอะแยะมากมายขนาดนี้ ถ้าไม่มีคู่มือภาษาไทยให้เป็นผมๆไม่ซื้อจริงๆนะ เดี๋ยวเล่นแล้วงง ไปญี่ปุ่นจะหิ้ว g9 ประมาณ16000 แต่คิดไปคิดมา เมืองไทยหาประกันศูนย์ได้ 16800 แต่ได้คู่มือภาษาไทยกับประกัน ผมเลยซื้อที่เมืองไทยแทน จากคุณ : Parachies - [ 19 มี.ค. 51 03:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ออแต่หิ้ว ixy910is มาแทนเพราะกล้องพวกนี้มันยกกดแล้วถ่าย ไม่ต้องการคู่มือ จากคุณ : Parachies - [ 19 มี.ค. 51 03:45:54 ]