ความคิดเห็นที่ 1 หลักการเลือกเลนส์ hassy มีง่ายๆ  นับเงินในกระเป๋าก่อน  นับเสร็จ ค่อยมาดูว่า ซื้ออะไรได้มั่ง  ดูแบบไม่ให้โดนฟัน .. ซื้อหา polaroid back มาลอง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 12 เม.ย. 51 09:09:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ^ ^ งง คห.ข้างบน ซื้อมาลองแล้วไม่ดีค่อยซื้อใหม่เหรอครับ เสียดายตังห์แย่เลยนะ ^^ ส่วนตัวผมไม่ทราบครับ รอท่านอื่นก่อนน่าจะได้คำตอบ จากคุณ : heronop2003 - [ 12 เม.ย. 51 10:41:55 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าบอดี้ที่ใช้เป็นเพียง500series ก็ไม่ควรมองเลนส์ที่เกินไปกว่าCF จริงๆแล้วCFนี่ยังถือว่าเกินความจำเป็นเลยครับ แต่สิ่งที่จะได้จากCFคือความใหม่กว่าของชุดชัตเตอร์ และโครงสร้างเลนส์+coatingที่ใหม่กว่า(เฉพาะในเลนส์บางรุ่น โดยเฉพาะเลนส์ช่วงwide) เลนส์ที่เหนือไปว่าCF คือ CFE ,CFI เป็นเลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับระบบautoและdatabus connections สำหรับบอดี้Focal-plane ชัตเตอร์ในกล้อง200series ดังนั้นหากคุณซื้อเลนส์พวกนี้มาก็เท่ากับคุณต้องจ่ายเงินเพิ่มกับสิ่งที่จะไม่ได้ใช้เลย ส่วนCBคือเลนส์ที่ออกมาเพื่อขายกับกล้อง501cmการใช้งานเหมือนกับCFทุกอย่างแตกต่างที่ภายนอกเท่านั้น สำหรับเลนส์ที่แนะนำก็50,80,150จะซื้อให้ครบหรือขาดตัวใดก็ได้แค่นี้ก็หนักสะใจแล้วได้เป็น C T*ทั้งหมดก็ดีเพราะใช้filter B50 ซึ่งหาง่ายและราคาถูกกว่าB60มาก(B60ใช้กับCFขึ้นไป) สำหรับเลนส์50Cใช้filter E67เกลียวธรรมดา mag polariod ความจำเป็นขึ้นอยู่กับเราจะเอาไปถ่ายเป็นงาน-เป็นการหาเงินรึป่าว ถ้าเอามาถ่ายเล่นก็อย่าซื้อ ยิ่งเคยใช้MFแบบRolleiflexถ่ายแบบ"เดนตาย"กันมาแล้ว เคยถ่ายแล้วรอลุ้นยังไงก็ทำแบบเดิมนั่นแหละดีแล้ว จากคุณ : TTT (เสือตุ๋งติ๋ง) - [ 12 เม.ย. 51 13:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 C เก่ามั่กๆ C T* เก่ารองมาหน่อย มี T* Multicoat แล้ว 2 รุ่นนี้ใช้ชัตเตอร์ Syncro compur เก่าละ CF รุ่น Modern ละ CB รุ่นประหยัดของเลนส์ CF เข้าใจว่าเป็น Kit lens แต่คุณภาพใช้ได้ CFI ใหม่ขี้นอีกหน่อย CFE รุ่นสุดท้าย ไอที่ซื้อได้ก็ CF หละครับ หลังจากนั้นมันแพงมากๆ! แถม FLE แปลว่า มี Floating element เช่น 40 CF FLE แล้วก็มีรุ่น FE  / F ไม่มีชัตเตอร์นะจ๊ะ ใช้กะ 200 Series ที่มีชัตเตอร์ในตัว ตอบจากความจำนะครับ ผิดพลาดขออภัย :) จากคุณ : Keng -w - [ 12 เม.ย. 51 13:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ^ สองน้าข้างบนนี้เป็นเต้บ Hass เน่อ จากคุณ : Rangefinder - [ 12 เม.ย. 51 15:36:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ^ เอิ๊กๆ "กรู ม่าย รู้ กรู มาว" >.< ลืมบอกข้อควรระวังอย่างนึงสำหรับHass คือ มันจะออกลูกออกหลานได้ไวมาก อุปกรณ์จุกจิกเสริมสมรรถนะ+เสริมหล่อเยอะมากทั้งที่จริงๆแล้วซื้อมาก็ไม่ได้ใช้เพราะขนไปไม่ไหว ยิ่งพ.ศ.นี้ถูกเป็น...ยิ่งน่าห่วง ฉะนั้นขอให้ใจคอหนักแน่นหน่อยแล้วกัน จากคุณ : TTT (เสือตุ๋งติ๋ง) - [ 12 เม.ย. 51 19:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ส่ิงที่จะได้จากเลนส์รุ่น CF มีอะไรเหนือกว่า C T* บางครับ สวยกว่า หรือใช้ง่ายกว่า เรื่องกลไลน่าจะดีกว่า ใช่มั้ยครับ นอกนั้นล่ะครับ เท่าที่จับ ๆ ดูผมว่า CF มันดูทันสมัยกว่า จับถือปรับตั้งง่ายกว่า ไม่เจ็บมือเหมือนเลนส์ C ที่สีเงิน ๆ แค่นั้นครับ นอกนั้นไม่ทราบ จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ 12 เม.ย. 51 19:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 CF ปุ่มเช็ค DOF ใช้และเลิกใช้ได้ดั่งใจ C, CT*  โอยเหนื่อยกดปุ่ม DOF แล้วถ้าจะยกเลิก ต้องหมุนกลับไปที่เอฟกว้างสุดก่อน  หรือไม่ก็กดถ่ายไปเลย มันจะเด้งกลับมากว้างสุดให้เราโฟกัสง่ายๆอีกครั้ง C, CT*  มัน EV coupled ตลอดเวลาแบบ Rolleiflex บางรุ่น จะว่าดีก็ดี  แตเวลาจะปลดแยก  เฮ้อ มันดูโบราณมาก ต้องเบี่ยงแหวนเอฟออกจากชัตตเตอร์สปีด CF ใช้กดปุ่มเพื่อ EV couple ถ้าไม่กดมันจะแยกอิสระ ดูของจริงจะเข้าใจง่ายมาก C, CT* มีดีอย่างคือมันมี self-timer ติดมาด้วย   แต่จะใช้ได้หรือได้ใช้หรือเปล่า  คิดเอาเอง เลนส์ series CB มี 3 ตัว  60-80-160 ตัว 160 ไม่เคยซ้ำกับรุ่นเดิม ตัว 60 ชิ้นเลนส์เหมือน 60C Distagon เดิม ตัว 80 ไม่เหมือน 80 ในซีรี่ย์ใดๆเลย เพราะมีชิ้นเลนส์น้อยลง 1 ชิ้น ความคมชัดที่ขอบเป็นรองแม้แต่รุ่น C แต่ตรงกลางภาพไม่ค่อยต่างครับ CFi, CFE series ปรับปรุงทั้งชัตเตอร์ การป้องกันแสงสะท้อนภายใน  กลไกการหมุน ทำให้เวลาหมุนโฟกัสนี่นุ่มนวลชวนฝัน แล้วก็ฝันค้างไปเลยเพราะสู้ราคาไม่ไหว และตัวล็อคขั้วสาย sync นี่มันเปราะเหลือเกิน ที่เห็นๆมา  หักแทบทุกราย !!!! ผมว่าเริ่มที่เลนส์ 80CT*  หรือ 80 CF กับบอดี้ 500 C/M สวยๆสักตัว อย่าหาเรื่องเพิ่มน้ำหนักด้วยปริซึม เอาแบบเบสิคแค่นี้ให้อยู่ก่อน แล้วค่อยคิดว่าเลนส์ตัวต่อไปน่าจะเป็นช่วงไหน เอาแค่นี้ก่อนนะ จากคุณ : silverliner - [ 12 เม.ย. 51 21:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อได้เปรียบของ CF คือใช้ฟิลเตอร์ B60 ร่วมกันได้หมด ไม่เหมือน C  ต่างเลนส์ก็ใช้ต่างขนาด ทำให้ต้องพกฟิลเตอร์ไปเยอะมาก ถ้าใช้เลนส์มากกว่าหนึ่งช่วง (ทั้งนี้รวมไปถึง filter holder ด้วย กรณีที่ใช้ฟิลเตอร์แผ่น) ส่วนเรื่องจับถือปรับตั้ง ผมเคยอ่านพวกเว็บ bwthai เขาเถียงกันว่า CF ดีกว่า C เพราะปรับได้ด้วยมือเดียว ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจประเด็นทีี่เขาเถียงกันเพราะตั้งแต่ใช้เลนส์ C มา ผมก็ใช้มือเดียวปรับเอฟ ปรับสปีดมาตลอด ไม่เคยต้องใช้ทั้งสองมือพร้อมกันให้ลำบากสักที จากคุณ : Sonnar Devotee - [ 12 เม.ย. 51 21:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โอเค จับคู่ชู้ชื่นได้แล้ว 500 c/m หรือ 500 c ก้อได้สำหรับเข็มขัดรัดพุง คุยกับหลาย ๆ คนบอกว่าเปลี่ยน winder knob ก็คล้ายแล้ว ใช้ได้เหมืิอนกัน เน้นประตูฟิลม์ทำงานดี ๆ ก็พอ อย่าคิดมาก (ว่าแต่ว่าจริงเหรอครับ?) กับเลนส์ 80 mm CF สักตัว และก็ แบค A12 สักสองอัน สไลด์อัน ขาวดำอัน คำถามคือ ตุ่ง ตุ่ง ตุ่ง (เสียงแบบแฟนพันธุ์เตี๊ยม) ทั้งหมดควรราคาเท่าไหร่ดีครับ (สภาพดี) รอคำตอบนะครับ :-) แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 51 21:25:15 จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ 12 เม.ย. 51 21:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 500 C/M ครับ  จะได้เปลี่ยนสกรีนได้ไม่ยาก ถ้าให้ดีได้ Acute-Matte screen มาตั้งแต่แรกเลย ส่วน winder knob รุ่นเก่าจะบางกว่าหน่อยนึง เวลายัดลงกระเป๋าจะง่ายกว่านิดนึง การใช้งานผมไม่รู้สึกว่าต่างกันเท่าไร  ผมมีทั้งสองแบบ แม็กถ้าได้มาสองอันแต่เริ่มก็ดีครับ   ดูให้ดีๆนะ  ของมันไม่ถูก ซ่อมก็แพง  ชิ้นส่วนมันเยอะกว่าบอดี้อีก waist-level viewfinder ก็ควรจะเป็นรุ่นใหม่นะ ของใหม่อันละ 5000 ลดแล้ว  รุ่นเก่าเลนส์จะสี่เหลี่ยม พับเก็บได้ช้า รวมๆสภาพสวยๆก็ราว 48000 - 55000 จากคุณ : ไรืกำพ าืนิ (silverliner) - [ 12 เม.ย. 51 21:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 Welcome to hasselblad&Zeiss! ชมรมคนแบกของหนัก !! 555 501CM (รุ่นใหม่เลยนะเนี่ย)  + MAGAZINE A12 ตัวนึง + 80 CF ตก 1600-1700 US ++ ครับคุณบอย (ราคา Keh) แนะนำว่าสอย 150 มาอีกสักตัวดีไหม? ถ้ามีแต่ 50 อาจจะรู้สึกซ้ำๆ กะ Rolleiflex นา 150 CF ไม่แพงด้วย ในEprey ตกสองหมื่นกว่าๆ ถ้าเอามาแล้วไม่มี Acute-matte บอกผมนะ ผมมีเหลืออันนึง หุหุหุหุ **ออ อย่าลืมตรวจ Serial number ของ Magazine กะ Insert ว่าตรงกันรึเปล่านะครับ !!!*** จากคุณ : Keng -w - [ 12 เม.ย. 51 22:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อูย มาเก็บเข้าคลังกระทู้ เพื่อเจนเนอเรชั่นต่อไป จากคุณ : thichachan - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 11:28:15 ]