ความคิดเห็นที่ 1  นั่งแถวหน้า เลย... จากคุณ : BabyOiL - [ 3 มิ.ย. 51 00:48:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นั่งรอ ชมแถวแรก เลย...คับ... จากคุณ : มันจะโพสได้มั้ยเนี่ย... (BabyOiL) - [ 3 มิ.ย. 51 00:49:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คราวนี้ เรามีดู ระบบการวัดแสงแบบต่าง ๆ กันนะครับ โดยวงกลม ที่ผมวงไว้ คือ พื้นที่หลักในการวัด และตัวเลข คือ เปอร์เซ็นแสง ที่จะอามา คำนวณ ครับ ระบบวัดแสงแบบเฉลี่ยหนักกลาง คือ จะเน้นค่าแสงหลัก ตรงกลาง ประมาณ 70 %  ที่เหลือ นอกวงกลมอีก 30 %   ฉะนั้น ค่าแสงส่วนใหญ่ จะมา จากกลางภาพ ที่เราทำการวัดแสงขณะนั้น ย้ำ ขณะนั้นนะครับ ไม่รวมการล็อคแสงแล้วจัดองค์ประกอบใหม่ หรือ การการวัดแสงแบบแมนนวล เพราะสเกลค่าแสงมันจะเปลี่ยนค่าไป เรื่อย ที่เราหันกล้องไปมา แต่ค่ารูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ เท่าเดิม เมื่อเรามองในกล้องไป จะเห็นวงกลม ใหญ่ๆ  แบบในภาพ นั่นหล่ะครับ พื้นที่วัดแสงเฉี่ยหนักกลาง มันจะเอา แสงทั้งภาพมาคิดรวมกัน แล้วเอาส่วนที่ใช้ ตรงกลาง 70% เป็นแนวทางในการคำนวณแสง และดูแสงรอบนอก นิดหน่อย ภาพที่ได้ อะไร ที่อยู่ในอนาเขตวงกลมนี้ ก็จะได้ค่าแสง ที่ถูกต้องแม่นยำ เป็นหลักอ้างอิง ในการวัดแสงที่ได้รับ เมื่อถ่ายภาพออกมา ปริมาณความสว่างมืด ของภาพ จะเป็นแนวทางเดียว กัน คือ ถ้าภาพจะมืดลงก็ มืดลงทั้งภาพ ถ้าภาพจะสว่างก็ สว่างทั้งภาพ ในสัดส่วนที่เท่าๆ  กัน ไม่ใช้ สว่างตรงกลาง 70 % แล้ว ขอบจะมืดลง 30 %  นะครับ คนละเรื่องกันเลย มั่วมาก ๆ ลืมความคิดแบบนั้นไปได้เลย มาดู การวัดแสงที่ถกต้องแล้วจำแม่นๆ  ดีกว่านะครับ อิ อิ ภาพนี้ ผมเอาวงกลมทาบตามรูป จะได้ภาพที่ออกมาแบบที่คุณเห็นตอนต้น เพราะ ในวงกลมนั้น มี ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม ๆ อยู่ ซึ่งอาจจะสะท้อนแสงสว่าง กว่า ค่าเทากลาง 18 % ประมาณ 1 สตอป แต่ว่า มีชายคา ที่เห็นเงามืด ไม่โดนแสง อยู่ด้วยนิดหน่อย เลยออกมา รวม ๆ แล้ว พอดี เพราะมันเอาแสงทั้งหมดในวงกลมนี้ เป็นตัวอ้างอิง หลัก ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ ในวงกลม 70 % และพื้นที่รอบข้าง เพียง 30 % ไม่ใช่ วัดแสงแล้ว ได้ความส่วาง กลางภาพ 70%  แล้วขอบจะมืด 30 %  นะครับ อิ อิ จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 3 มิ.ย. 51 00:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หง่ะ ความคิดเห็นขึ้นมาซ้ำครับ อิ อิ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 51 01:10:35 จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 3 มิ.ย. 51 01:01:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อเราวัดแสงแบบที่เห็นของระบบวัดแสงเฉลี่ยหนักกลางก็จะได้ภาพ แบบเดียวกับภาพแรกเลยครับ ง่ายๆ   เป็นระบบที่มีมานาน และเป็นพื้นฐานในกล้องแทบทุกตัว ตั้งแต่ในอดีตเลยครับ คราวนี้ มาดูระบบวัดแสงเฉลี่ยหลายส่วน หรือ เฉลี่ยทั้งภาพ โดยกล้องแต่ละตัว จะมีพื้นที่เซลล์วัดแสง แตกต่างกันไป เช่น 5 ส่วน หรือ บางรุ่น อาจจะมี 24 ส่วนไปเลย ยกตัวอย่างกล้องที่มี 5 ส่วนนะครับ คือ มันจะเอาค่าแสง ที่มันวัด แล้ว ได้ค่า 100% ที่ค่าสะท้อนแสงแบบเทากลาง 18% โดยเอาค่าแสง ที่ได้ 100% ทุกส่วน ไม่สนใจจะมากหรือ น้อยกว่ากัน เอามาหารเฉลี่ย ครับ เช่น มี 5 ส่วนก็ หารค่า จะได้ ค่าแสงกลางๆ   ในภาพนี้ มีส่วนที่ พอดี ส่วนสว่าง และส่วนมืด ภาพที่ได้ ก็จะออกมา กลางๆ  แบบนี้เช่นกันครับ หลายท่านเลย งง ว่าทำไม ปรับระบบวัดแสงแล้ว ภาพที่ได้ก็ เหมือน ๆ กัน ก็เพราะถ้าสิ่งที่คุณวัดแสง โดยรวมมันพอดีแล้ว ภาพที่ได้ ก็จะสว่างพอ ๆ กันทุกระบบไง ครับ อิ อิ จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 3 มิ.ย. 51 01:29:24 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คราวนี้มาดูระบบวัดแสง แบบที่แสนจะงุน งง และดูจะยากในความเข้าใจ และการใช้งาน เพราะมันจะวัดแสงในพื้นที่ แคบ ๆ เท่านั้น นั่นคือระบบวัดแสง เฉพาะส่วน หรือ เฉพาะจุด ย้ำ เฉพาะส่วน นะครับ ไม่ใช่ เฉลี่ยหลายส่วน เป็นระบบวัดแสง  มืออาชีพใช้กัน เพราะมีความแม่นยำสูง และต้องใช้ควบคู่กับการล็อคค่าแสงในการถ่ายภาพแต่ละครั้ง เพราะ เราต้องมองหา ค่าแสงสะท้อนอ้างอิง ที่มีค่าใกล้เคียงกับ ค่าเทากลาง 18 %  ที่กล้องใช้อ้างอิงในการวัดแสงนั่นเอง โดยในภาพตัวอย่างแรก ผมวัดแสง ในพื้นที่ตรงกลางภาพ ซึ่งบังเอิญ เป็นพื้นที่ ที่มีค่าใกล้เคียงกับแสงเทากลาง (ในความจริง แสงตรงนี้ จะโอเว่อร์ สัก 0.5-1 สตอป ส่งผลให้ภาพออกมา โทนภาพโดยรวม และ ท้องฟ้า อาจจะมืดเข้มลงไปนิดนึง แต่อธิบายง่ายๆ  ว่า มันโอเคระดับนึงแล้วกันครับ เดี๋ยวจะ งง ) เมื่อเรากดปุ่มเพื่อวัดแสง แน่นอน กล้องจะเอาค่าแสงในพื้นที่ เล็ก ๆ ตรงนี้ เป็นค่าอ้างอิง 100% เลยซึ่งแล้วแต่กล้องแต่ละตัว ว่าจะกินพื้นที่ กี่เปอร์เซ็นต์ของภาพ ส่วนมาก ไม่เกิน 10 % และเล็กสุด 1% ลองคิดดูว่าถ้าเราเอาไปวัดแสงผิดที่ผิดทาง มันจะเข้าใจไปเลย ทันที ว่าพื้นที่ตรงนี้ พอดี หรือ มืด ทำให้ได้ค่าแสงเพี้ยนไปทันที เพราะถ้าพื้นที่ ใหญ่มาก ๆ แล้วในพื้นที่ มีทั้ง ส่วนที่ มืด และส่วนที่ สว่าง จะทำให้ค่าแสงผิดเพี้ยนไปได้ จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 3 มิ.ย. 51 01:42:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพที่ได้จากการวัดแสงเฉพาะส่วนตรงท้องฟ้า ก็จะได้ภาพ ดังนี้ ซึ่ง ในส่วนพื้นทรายที่โดนแดดมากกว่า ก็จะได้ค่าแสงมากกว่า ส่วนที่อยู่ในเงามืด ไม่ดดนแดด ก็จะมืดลงเป็นโครงทึบแบบที่เห็น เพราะว่าค่าแสงมันต่างกันมากครับ แม้ว่า ตาเราจะมองไป ก็สว่างดีก็ตาม เพราะตาเราจะยืดหดขยาย ตลอดเวลา ครับ จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 3 มิ.ย. 51 01:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คราวนี้ เรามาดู ว่า ถ้าเราเอาไปวัดแสงอ้างอิง ผิดที่ จะเกิดอะไรขึ้น ผมลองวัดแสง ที่หลังคามุมจาก ตามภาพ แล้วล็อคค่าแสง ก่อนจะจัดองค์ประกอบแบบเดิม แล้วกดมา มันจะเอาค่าแสง ที่หลังคานั้น 100% มาเป็นค่าแสงในการถ่ายภาพครับ จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 3 มิ.ย. 51 01:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 หลังจากวัดแสง ที่หลังคาไปแล้ว เนื่องจากกล้อง จะสนใจ ปริมาณแสง ที่พอดี กับค่าสะท้อนแสงเทากลาง 18% เท่านั้น ไม่รวมกรณี ชดเชยแสงนะครับ ฉะนั้น หลังคาในเงามืด ที่เราถ่ายมา มันจะบอกค่าแสง ว่าอันเดอร์ คือ น้อยกว่า18% และเมื่อเราวัดแสงให้พอดี มันจะทำให้ได้ภาพที่มีแสงสะท้อน ที่ 18% มีผลให้ หลังคาส่วนนี้ มีค่าแสงถูกต้อง แต่ส่วนอื่น ๆ ที่มีค่าแสงมากกว่าอยู่แล้ว ก็เลยพลอยต้องสว่างตามไปด้วยเพราะค่าแสงที่เพี้ยนไป เลยทำให้ ส่วนอื่นๆ  ที่มีค่าสว่างมากกว่า กลายเป็นโอเว่อร์มากไปนั่นเอง จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 3 มิ.ย. 51 01:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คราวนี้ เราลองมาวัดแสง ที่มุมล่างบ้าง แม้ตรงนี้ จะดูด้วยตาเปล่า สว่างดี แต่ว่าอยู่ในเงามืด และข้างนอกก็แดดเปี้ยงซะขนาดนั้น มันก็ จะเอาค่าแสงตรงนี้ มาอ้างอิง 100% เลย โดยไม่สนใจส่วนอื่นๆ  ภาพที่ได้ จะคล้ายๆ  กับกรณี ที่วัดแสงตรงหลังคาด้านบน คือ พื้นด้านล่างจะสว่างพอดีๆ  แต่ส่วนอื่นๆ  สว่างมากจนพุ้งไปทั้งภาพ จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 3 มิ.ย. 51 02:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คราวนี้ เราลองมาวัดแสงที่ พื้นทรายสีขาว ที่โดดแดดแรง ๆ ตอนเที่ยงๆ  กันนะครับ แน่นอนครับ มันเอาค่าแสงนี้ อ้างอิง 100%  เช่นเคย ทำให้กล้องวัดได้ว่า ค่าสะท้อนแสง ตรงนี้ มากกว่า ค่าสะท้อนแสงสีเทากลาง 18%  มาก ๆ เลยต้องปรับให้มืดลง เพื่อให้เท่ากับ ค่าเทากลาง 18%  นั้นเอง จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 3 มิ.ย. 51 02:12:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คราวนี้ ภาพที่ได้ ในส่วนของพื้นทราย จะออกมาพอดี เพราะเราวัดแสงที่ตรงนี้ แต่ในส่วน อื่นๆ  เช่น ท้องฟ้า จะมืดลง และใสส่วน เงามืด จะมืดจนไม่เห็นรายละเอียดไปเลย ตามสัดส่วนของค่าแสงที่แตกต่างไปในแต่ละพื้นที่ แต่ อย่าลืมนะครับ ไม่ว่าจะวัดแสงแบบไหนก็ตาม ถ้าเราวัดแสงแล้วมันสว่างเพี้ยน ไป มันจะสว่าง เพิ่มขึ้น ตามสัดส่วน ทั้งภาพ ไม่ใช่ สว่างแค่จุดตรงนั้น แล้วรอบๆ  นั้นมืดลง นะครับ ต้องดูสภาพแสงในเวลานั้นด้วย ว่าแต่ละพื้นที่ แสงแตกต่างกันยังไงบ้าง ฉะนั้น ผู้ที่จะใช้ ระบบวัดแสงแบนี้ มีทางเลือกในการใช้ 2 แบบเท่านั้น คือ 1 วัดแสงโดยมองหา พื้นที่ อ้างอิง ที่จะวัดแสงให้ได้ค่าแสงสะท้อน เทากลาง 18% โดยวิธีการนี้ผู้ใช้ต้องเข้าใจเรื่องแสงมากพอควร ส่วนวิธีที่ 2 คือ วัดแสงตรงไหนก็ได้ แต่คุณต้องดูออกมา แสง หรือ สี ส่วนนั้น ที่กำลังวัด ให้ค่าแสงมากกว่า หรือ น้อยกว่า แสงสะท้อนเทากลางเท่าไร เราก็ชดเชยไปเท่านั้น ซึ่งวิธีนี้ ผู้ใช้ต้อง มีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องแสงสะท้อนที่สีต่างๆ  มากกว่า วิธีแรกอีกครับ เห็นมั้ยครับ วิธีการวัดแสงแต่ระบบ มีข้อดีข้อจำกัด แตกต่างตามสถานะการณ์ไป แล้วแต่ทักษะของช่างภาพแต่ละคน หวังว่าเพื่อน ๆ จะไม่งงอีกต่อไป และพอจะเห็นแนวทางในการนำไปใช้นะครับ ขอเป็นกำลังใจ ให้เพื่อน ๆ ที่น่ารัก พัฒนาความสามารถยิ่ง ๆ ขึ้นไปครับ ราตรีสวัสดิ์ อิ อิ จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 3 มิ.ย. 51 02:15:15 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณน้าหนูครับ สุดยอดจริงๆ ขอโหวตเก็บเข้าคลัง.. จากคุณ : viosmania - [ 3 มิ.ย. 51 06:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ย๊ะโฮ้ววววววว............ เจ๋งจริงๆคร๊าบบบ ขอเอาไปใช้ฝึกฝนบ้างนะครับ จากคุณ : ฟักกลิ้ง (Rolling Green Melon) - [ 3 มิ.ย. 51 06:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากครับน้าหนูฯ จากคุณ : Tentop_13 - [ 3 มิ.ย. 51 07:06:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากครับน้าหนูฯ  ผมทำให้น้าหนูฯ ลำบากมานั่งเขียนอธิบายหน้าจออีกตามเคย.. ผมอ่านตามที่น้าหนูอธิบาย ผมเริ่มเห็นภาพแล้วครับ..ผมมัวแต่ไปสนใจในประเด็นที่ว่า การวัดแสงเฉพาะจุด จะวัดแสงเฉพาะจุดนั้น บริเวณอื่นของพื้นที่วัดแสงจะไม่สนใจ (คนอื่นอ่านแค่ตรงนี้อาจจะเข้าใจละ แต่ผมดันเป็นคนเข้าใจยาก ตีความยากไปหน่อย)..และด้วยความเข้าใจแบบนี้จึงทำให้ไขว้เขวไปว่า เมื่อวัดแสงเฉพาะจุดนั้น แล้วจุดอื่นสภาพแสงจะเป็นอย่างไร ตอนนี้พอจะเข้าใจแล้วครับว่าเฉพาะจุดที่วัดนั้นค่าแสงที่ได้เป็นค่าแสงที่เราคิดว่าเป็นพื้นที่อ้างอิงที่จะวัดแสงให้ได้ค่าแสงสะท้อน เทากลาง 18% ค่าแสงที่คำนวณได้ ณ พื้นที่เล็กๆ นี้(โดยไม่สนใจพื้นที่อื่นเลย) จะใช้เป็นค่าอ้างอิงให้กับทั้งภาพ ขอบคุณน้าหนูฯ มากๆ ครับ.. ถ้ามีอะไรคลาดเคลื่อนไปจากความเข้าใจของน้าหนูฯ ท้วงติงได้นะครับ.. สุดท้ายนี้ผมขอโหวตกระทู้นี้ครับ.. จากคุณ : nayaon - [ 3 มิ.ย. 51 08:04:38 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นภาพชัดเจน แจ่มแจ้ง... ขอบคุณ จขกท. มัก ๆ จากคุณ : tgclub - [ 3 มิ.ย. 51 08:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สุดยอดครับน้าหนู เพื่อนๆที่ยังไม่รู้ได้รับรู้ครับ การถ่ายภาพด้วยการวัดแสงแต่ละแบบนั้น จะได้ภาพที่ไม่เหมือนกันแบบที่น้าหนูทำให้ดูครับ น้าๆป้าๆที่ยังไม่รู้ ลองไปทำดูสิครับ จากคุณ : pin6403 - [ 3 มิ.ย. 51 08:33:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แหล่ม ๆ อีกแล้วน้าชาติ เอิ๊ก ๆ ๆ ๆ ยอดเยี่ยมปายเรย จากคุณ : ตินติน (tintinclub) - [ 3 มิ.ย. 51 08:34:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาหวัดดีอาจารย์ จากคุณ : my name's bond james bond - [ 3 มิ.ย. 51 08:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมว่า ความเห็นที่ 5  ไม่ถูกนะครับ มันไม่ได้เฉลี่ยเท่ากันทั้งหมด เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยี มันเอาหลายอย่างมาคิดด้วย มีความซับซ้อน ซ่อนเงื่อนมากกว่าที่คิดไว้เยอะ ไว้ให้มีเวลาก่อน จะมาเขียนเพิ่มครับ ฝากผู้รู้ท่านอื่นช่วยกันก่อนนะครับ จากคุณ : สุพจน์ - [ 3 มิ.ย. 51 09:11:29 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เยี่ยมมากๆ ครับ จากคุณ : JL - [ 3 มิ.ย. 51 09:45:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มาเปิดโต๊ะจอง "น้าสุพจน์" คคห. 21 มาเพิ่มเติมความรู้ครับ.. จากคุณ : nayaon - [ 3 มิ.ย. 51 10:14:15 ]

ความคิดเห็นที่ 24 น่าจะสอนกันสักนิดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : thaandcat - [ 3 มิ.ย. 51 10:15:25 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โหวตขอรับ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : มุมมองใหม่ที่ค้นหา - [ 3 มิ.ย. 51 10:24:41 ]

ความคิดเห็นที่ 26 น้าหนูสุดยอดค่ะ นอกจากจะหน้าตาดี ถ่ายรูปเก่ง แล้วยังจะใจดีอีก อิอิ จากคุณ : Red Leaves - [ 3 มิ.ย. 51 10:37:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 . จากคุณ : GolfGear - [ 3 มิ.ย. 51 10:39:07 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ...สมองใหม่ขึ้นอีกเยอะเลยเรา ...ขอบคุณครับ จากคุณ : ผมเป๊ะครับ - [ 3 มิ.ย. 51 11:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณ อาจารย์หนู ครับ เอ ชื่อคุ้นๆ 5555 ขอบคุณน้าหนูมากๆครับ เพิ่มรอยหยักให้ผมอีกเยอะเลย จากคุณ : Benznoi - [ 3 มิ.ย. 51 11:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สุดยอดไปเลย...น้าหนู ขอบคุณคับ ^_^ จากคุณ : Gap (ไม่หล่อ_แต่เลือกได้ !!!) - [ 3 มิ.ย. 51 11:59:10 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โอ้ ขอบคุณมากครับ เพื่อนๆ  น้า ๆ ป้า ๆ ที่น่ารัก ผมเองก็ แค่ไข้อข้องใจ เพราะว่า เพื่อนๆ  ผม ที่เว็ปโน้น และที่ห้องหนอนหลายท่าน ก็ยังมีคนเข้าใจแบบผิด ๆ อยู่เสมอ เลยต้องตอบหลายครั้ง จึงถือวิสาสะ ตอบ เป็นกระทู้ แก้ไขข้อข้องใจไปเลย ไม่ได้มาตั้งเพื่ออวดอ้างความรู้ใด ๆ เพราะเป็นเรื่องพื้นฐานที่ไม่ยากเลย แต่ว่า สำหรับทานที่เพิ่ฝเริ่ม และดันไปจำสับสนซะแล้ว จึงอยากห้เห็นภาพการทำงาน แบบคร่าว ๆ ครับ สวัสดีครับ คุณ nayaon ที่คุณเข้าใจตอนนี้ถูกต้งแล้ว ครับ ดีใจด้วยนะครับ ส่วนเรื่องระบบวัดสงหลายส่วนนั้น กล้องแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ มี หลักการพื้นฐาน เคร่า ๆ แบบที่ผมบอกไป แต่ในความเป็นจริง มันจะมี เงื่อนไขในการคำนวณเพิ่มเติม แบบที่น้า สุพจน์ ได้กล่าวไว้นะครับ  แต่ผมขอไม่อธิบายในที่นี้ เพราะผมไม่ได้สนใจ ลงไปลึกถึงกลักการคำนวณ ของกล้องแต่ละรุ่น เท่าไร แต่อาจจะต้องรบกวนน้าสุพจน์ มาบอกเพิ่มเติม หรือ น้า ๆ ท่านอื่นๆ  ที่มีความรู้ในอุปกรณ์ แบบลึกซึ้งดีกว่า ผมไม่อยากปล่อยไก่ 555 ผมเห็นว่า เพื่อนๆ  มือใหม่ ยังไม่พร้อมจะเข้าใจ เรื่องที่ยุ่งยากมาก ๆ และประเด็นก็แค่ต้องการให้เห็นภาพการทำงานแบบเครา ๆ ง่ายๆ ของระบบวัดแสง เท่านั้น โดยเฉพาะ เรื่อง วัดแสงเฉพาะจุด ที่หลายคนเข้าใจว่า ใช้แล้ว ตรงกลางสว่าง รอบๆ  มืด นะครับ อิ อิ ซึ่งในความเป็นจริง อาจจะมี ปัจจัย อีกมากครับ ที่มีผลต่อความเพี้ยนของค่าแสงที่จะได้ ขอให้มีความสุขในการถ่ายภาพนะครับ อิ  อิ จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 3 มิ.ย. 51 12:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ยอดเยี่ยมเลยครับน้าชาติ จากคุณ : ใส่ชื่อตรงนี้เหรอฟระ (por-puay) - [ 3 มิ.ย. 51 13:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณครับ จากคุณ : หวานน้อย - [ 3 มิ.ย. 51 13:48:19 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณน้าหนูสำหรับกระทู้ดี ๆ แบบนี้ครับ สำหรับผมกล้องมีหลักการวัดแสงหลัก ๆ อย่างที่น้าหนูน้อยว่า แต่กล้องรุ่นไหนจะฉลาดเป็นพิเศษนั้น คงต้องศึกษาเพิ่มเติมจากคู่มือเสริมเอา และท้า้ยที่สุดถ้าคุณเคยใช้กับกล้องและสภาพแสงคุณก็จะยิ่งสามารถวัดแสงได้แม่นยำขึ้นครับ เรียกว่ามองผ่านปั๊ป ชดเชยแสงได้เลย ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและเคยชินนะครับ และถ้าเปลี่ยนกล้องก็ต้องปรับตัวอีกครั้งกับกล้องใหม่ อย่างผม เปลี่ยนจาก 30D มา 5D ต้องปรับอีกเล็กน้อยครับ เพราะ 5D เป็นกล้องที่วัดแสงแบบเฉลี่ยได้ใกล้เคียงมาก ๆ ครับ และเชื่อว่ายิ่งราคาสูงก็ยิ่งฉลาดมากขึ้น สรุปว่า พื้นฐานตามน้าหนูน้อยว่าที่เหลือก็ขยันฝึกครับ ใช้ประโยชน์จากความเป็นดิจิตอลให้คุ้มครับ ถ่ายเสร็จสามรถเห็นข้อผิดพลาดและเรียนรู้ได้เร็วกว่าสมัยฟิล์มมากมายครับ ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพนะครับ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 51 14:37:48 จากคุณ : Yo! (Yolink) - [ 3 มิ.ย. 51 14:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เยี่ยมยอดมากครับ จากคุณ : teeangel - [ 3 มิ.ย. 51 14:53:51 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มานั่งฟังฮะ จากคุณ : babu_radio - [ 3 มิ.ย. 51 15:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ยอดเยี่ยมเลยครับน้าหนู มาเก็บความรู้สายไปหน่อย   จากคุณ : jujuโหล - [ 3 มิ.ย. 51 17:15:12 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาเก็บความรู้ด้วยคนค่ะน้า จากคุณ : prettybee_ผึ้งหวาน - [ 3 มิ.ย. 51 20:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เซฟเก็บไว้แล้วครับ 2 ทู้เลย  ขอบคุณครับ จากคุณ : เย็นสบายซาวนา - [ 3 มิ.ย. 51 20:32:23 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เก็บความรู้ ขอบคุณครับอาจารย์หนู.... จากคุณ : todi_tim - [ 4 มิ.ย. 51 00:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณครับอาจารย์หนู จากคุณ : ณัฏฐภัทร์ - [ 4 มิ.ย. 51 00:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 42 พรุ่งนี้ต้องรีบไปลองด่วนครับ ขอบคุณมากครับน้าหนูที่นำความรู้มาแบ่งปันกันครับ จากคุณ : tiny worm - [ 4 มิ.ย. 51 00:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เวลาน้อยไม่ได้อ่านกระทู้ละเอียดๆนะครับ แต่ก็เห็นเหมือนคุณสุพจน์ว่ามีบางส่วนไม่ใช่เช่นนั้นแต่ถืออนุโลมเข้าใจตามนั้นไปก่อนจะง่ายกว่าสำหรับมือใหม่ครับ กระทู้นี้ของคุณหนูน้อยก็จึงเป็นกระทู้ที่ดีมากๆสำหรับทำความเข้าใจกับการวัดแสงเบื้องต้น ( ซึ่งผมว่าสำคัญมากๆเพราะตอนนี้น้องๆมือใหม่เพียบ ) สำหรับมือที่ก้าวหน้าขึ้นมาแล้ว ก็ค่อยทำความเข้าใจว่าระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ ( Average Metering ) และเฉลี่ยหลายส่วน ( Multi-Segment Metering ซึ่งเป็นคำที่ใช้กับระบบของ Nikon ) หรือแบบแบ่งพื้นที่ ( Evaluative Metering หนอนใช้คำนี้ครับ ) ว่ามันต่างกันอย่างไร แต่ส่วนตัวผมว่ายิ่งถ่ายภาพมากๆการวัดแสงไม่ใช่สิ่งที่จะสอนหรือแนะนำกันได้ง่ายๆเลยครับ ไปๆมาๆมันกลายเป็นเรื่องที่ต้องเห็นโทนของภาพทั้งภาพก่อนกดชัตเตอร์ไปโน่นเลย ทำไมผมรู้สึกว่าตัวเองยิ่งถ่ายภาพยิ่งชุ่ย + โง่ยังไงชอบกลก็ไม่รู้ครับ จากคุณ : ตอสระอือ - [ 4 มิ.ย. 51 02:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ผมเห็นตามน้าสุพจน์ครับ ไม่งั้นจะแบ่งหลายส่วนมาทำใมกัน เมื่อเราใช้ระบบวัดแสงหลายส่วน (ซึ่งจะมีชื่อแตกต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ) กล้องจะนำค่าแสงจาก sensor ซึ่งแบ่งภาพออกเป็นหลายส่วน ตามแบบของแต่ละยี่ห้อ 14 บ้าง 16 บ้าง 5 บ้าง 23 บ้าง และแต่ละยี่ห้อก็จะมีรูปแบบในการแบ่งแตกต่างกันไป เช่นรังผึ้ง รังนก ฯลฯ จากนั้นก็จะนำค่าแสงของแต่ละส่วนนั้น มาคำนวณ โดยใช้ AI (Artificial Intelligent) ซึ่ง AI นี้หลังๆมันฉลาดมาก เช่น มันรู้ว่าเราถ่ายย้อนแสง ถ่ายในหิมะ ถ่ายรูปวิวตอนกลางคืน ฯลฯ โดย AI นี่เองจะเป็นตัวกำหนดว่า ควรจะใช้ค่าแสงจากส่วนใด เป็นสัดส่วนเท่าไรในการคำนวณ (weighted-mean) ประมาณว่ามีช่างภาพมือโปร มาวัดแสง spot ทีละจุด แล้วตัดสินใจให้เสร็จว่าควรจะใช้ shutter / f.stop เท่าไร ระบบนี้ออกแบบมาสำหรับมือใหม่ หรืองานที่ต้องการความเร็วในการถ่ายมากๆ เช่นงานข่าว ฉะนั้น มันไม่ใช่เป็นการเอาทั้งรูปและ weight ทั้งหมด 100% พวกนี้สามารถศึกษาได้ ในคู่มือกล้อง ที่ติดมาในกล่อง มีอธิบายไว้ชัดเจนมาก เพียงแต่มันไม่มีตัวอย่างเท่านั้นเอง สำหรับมือใหม่อาจจะเข้าใจยากหน่อย จากคุณ : bank147 - [ 4 มิ.ย. 51 04:53:12 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อนึ่ง การวัดแสงสมัยนี้เรียนรู้ได้เร็วกว่าสมัยก่อนมาก เมื่อก่อน หมด film slide หลายม้วน กว่าจะรู้ว่าวัดแสงยังไง แล้วพอเพิ่ม flash เข้าไปอีก ก็หมดไปอีกหลายม้วน ตังหมดก่อนกว่าจะวัดแสงเป็น รับงานได้ และระบบวัดแสงสมัยนี้ดีขึ้นมากโดยเฉพาะแบบเฉลี่ยหลายส่วน สังเกตได้ว่าเมื่อก่อน ถ่ายอะไรก็แล้วแต่ รูปเสียกระจาย หมุนชดเชยแสงกันเป็นว่าเล่น เดี๋ยวนี้อัตรารูปเสียน้อยลงมาก ถึงขนาดบางคนยังไม่รู้เลยว่ากล้องมันชดเชยแสงได้ แนะนำหนังสือวัดแสงของ บก.สุรเดช มาอ่านกันนะครับ พิมพ์สีทั้งเล่ม ตัวอย่างเยอะ อธิบายดี เข้าใจง่าย ซึ่งเป็นหนังสือไม่กี่เล่ม ที่อธิบายเรื่องการวัดแสงโดยเฉพาะ และถ้าสนใจเพิ่มเติม ไปหาหนังสือชุดของ ansel adam มาอ่านได้ เรื่อง zone system จากคุณ : bank147 - [ 4 มิ.ย. 51 05:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เพิ่มเติมนะครับ ในบางครั้ง ระบบวัดแสงหลายส่วน จะนำตัวแปรอื่นๆมาใช้ในการตัดสินใจด้วย เช่นเลือก af จุด ไหน, ทางยาว focus ของเลนส์ที่ใช้อยู่, ถือกล้องแนวนอนหรือแนวตั้ง http://www.canon.com/technology/canon_tech/explanation/multi_zone.html http://en.wikipedia.org/wiki/Metering_mode อันนี้เป็น reference ครับ จากคุณ : bank147 - [ 4 มิ.ย. 51 05:06:27 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาเก็บความรู้ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : คนหลังภาพ - [ 4 มิ.ย. 51 08:29:57 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบ คุณ ครับ เป็น กระ ทู้ ที่ ดี ครับ . . . จากคุณ : น้องน้ำผึ้ง - [ 4 มิ.ย. 51 09:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เยี่ยมมาก bank จากคุณ : สุพจน์ - [ 4 มิ.ย. 51 09:57:47 ]

ความคิดเห็นที่ 50 โย่  ในที่สุดก็ จบลงอย่างสวยงาม ครบถ้วน แบบที่ตั้งใจ แต่เราดันขี้เกียจพิมพ์ 5555 ถ้าใครเคยอ่านโฆษณา นิคอน สมัยก่อน จะพบ รูปแบบของการวิเคราะสี  3D metrix  หรือ การใช้ระบบประมวลด้วยข้อมูลรูปแบบการถ่ายภาพ 300,000 รูปแบบ ในกล้อง F5 เป็นครั้งแรก ก่อนจะมามีในกล้อง F100 และรุ่น อื่นๆ  จนมีกันในกล้องโปรเกือบจะทุกรุ่น ส่วนกล้องรุ่นเล็ก ก็จะมีการคำนวณอีกแบบ แต่ก็ยังคงมีความแม่นยำที่น่าเชื่อถือได้ รูปแบบการใช้ ระบบเฉลี่ยทั้งภาพ นั้น ถ้าจะเอาโครงสร้างลึก ๆ ตั้งแต่ มินอลต้า ออก ระบบรวงผึ้ง 16 จุดครั้งแรก จะเห็นว่า มันมีการคำนวณที่แตกต่างไปเรื่อยๆ  และมีความละเอียดพิถีพิถันมาก ๆ ผมเลยไม่รู้จะอ้างไปทำไม เพราะมันเยอะ ๆ หลากหลาย อีกทั้ง ผมแค่ตอบประเด็นว่า เมื่อวัดแสงเฉพาะจุดแล้ว สิ่งที่ได้ ไม่ใช่การได้ภาพที่แสงสว่างอยู่ตรงจุดนั้นเล็ก ๆ แล้วรอบๆ  มืด แบบที่หลายคนเข้าใจ ในกระทู้ต่างๆ  และที่มีคนมาถามบ่อย ๆ เพียงแค่อยากให้เห็นภาพ ไม่อยากสร้างความสับสน กับมือใหม่มาก ขนาดว่า วัดแสงแล้ว สว่างตรงกลาง รอบ ๆ มืดลง หน่ะ คิดเอาเองเหอะครับ ว่าเรื่องอื่นๆ  จะเข้าใจมั้ยเวลานี้ แต่เมื่ออ่านไปแล้ว เข้าใจโหลงหลักการทำงานแล้ว มาต่อด้วยการศึกษาในกรณีต่างๆ  ที่ลงลึกไปอีกของ น้า Bank 147 โอ้ ... คราวนี้ ถือว่า สมบูรณ์ แบบ หัวข้อกระทู้เลย อิ อิ สบายเราไม่ต้องเขียน ต้องขอขอบคุณน้าแบงค์มาก ๆ ครับ ที่เข้ามาเพิ่มข้อมูลดี ๆ ให้เพื่อนๆ  ได้อ่านกัน วันนั้น บอกตรง ๆ ที่ น้า nayaon มาตั้งกระทู้ถามถึงผม ผมกำลัง ไม่สบาย ปวดหัวตาบวมเลย ทีแรกว่าจะไม่ตอบ เพราะเชื่อว่า จะมีน้า ๆ ที่มีความสามารถ มากมายมาตอบแทน แต่เห็นที่มาตอบ ก็จะตอบแบบพื้น ๆ ไม่เข้าใจอยู่ดี ถ้าน้าแบงค์ ไปตอบเสียตอนนั้น ผมใส่ไปแล้ว ตามน้าแบงค์ครับ 555 วันนั้นดึกมากแล้วนะ ผมเจอกระทู้นั้น เกรงใจมาก ๆ อุตส่าห์ มีคนเขาโพสถามหา เราก็เลยขอตอบแบบเป็นวิทยาทาน ไม่ได้ตั้งใจอวดรู้อะไร เพราะผมถ่ายภาพ เองยังแทบไม่ได้สนใจเลย ว่าจะใช้ระบบอะไร เพราะใช้ชดเชยแสงเอามากกว่า อีกทั้งไม่สบาย เลยขอตอบแบบพื้น ๆ ตามประเด็นที่ถามมาเท่านั้น ถ้าดู เวลาให้ดี คห แรก ๆ เวลาจะห่างกันมาก เพราะผมปวดหัว และไม่สบาย จนฟุบหลับคาคอมไปเป็นพัก ๆ แล้วด้วยซ้ำ 555 เบลอ ๆ แต่ก็ดีใจที่เพื่อนๆ มือใหม่ ที่มีความสนใจ ได้มีความเข้าใจที่ดี และดีใจยิ่งกว่า ที่น้า ๆ ที่มีความสามารถและได้ศึกษามาอย่างลึกซึ้ง ได้เข้ามาช่วยตอบ ช่วยหาข้อมูลดี ๆ มาให้อ่านกัน จึงทำให้กระทู้นี้ สมบูรณืสวยงาม ในความคิดผม ห้องหนอนเราไม่เคยทิ้งกันจริงๆ  ขอบคุณทุกท่านมาก ๆ นะครับ ที่เข้ามาตอบกระทู้นี้ และท่านที่อ่าน แต่ไม่ได้ตอบ ผมขออนุญาต เอาข้อความ น้า แบงค์ ไปใส่ที่ห้องสมุด ของเว็ป ดูอาร์ตดี ที่ผมกับเพื่อนๆ  อยู่กับ จะได้มีให้อ่านนาน ๆ ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง แล้วพบกันใหม่นะครับ ผมขอตัวไปหัดถ่ายภาพก่อน กำลังปรับปรุง อิ อิ จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 4 มิ.ย. 51 09:58:57 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เข้ามาแอบอ่านครั้งนึงตอนน้าหนูน้อยยังโพสไม่เสร็จ พอมาอีกทีทู้ยาวได้ที่เลย.. ไม่ผิดหวังจริงๆ คับ นี่ขนาดงานชุุกๆ น้าหนูน้อยยังอุตส่าสละเวลาพิมพ์ไว้ยาวขนาดนี้เลย เยี่ยมยอด... แถมน้าสุพจน์ น้าตรือ กับเจ้าแบงค์ ก็มาเพิ่มเติมในส่วนที่คลาดเคลื่อนแล้ว ทู้นี้น่าจะให้ประโยชน์กับหลายๆ คนเลย... เจ้าแบงค์พูดถึงหนังสือครู ปรมาจารย์ zone system ขึ้นมา ลุงคนนี้เนี่ย เขียน Zone System ขึ้นมาได้เยี่ยมยอดมั่กๆ ถึงขนาดที่ว่าทำให้ผู้ที่ได้อ่านแล้วสามารถอุปโลกได้ว่าตนถ่ายรูปสวยเพราะวัดแสงเทพมาแล้ว... ว่ากันว่า กล้องมองภาพทที่เราจะถ่ายเป็นขาวดำ หากเราสามารถมองให้เห็นภาพที่จะถ่าย ให้เป็นโทนขาวดำได้แล้ว การวัดแสงที่เที่ยงตรงจะไม่มีความหมายอีกต่อไป ... 555 ขนาดน้านมันก็เกินปาย....555 จริงๆ การวัดแสงเป็นเพียงปฐมบท แห่่งศาสตร์ของการถ่ายภาพ หากวัดแสงดี แสงเยี่ยม แล้วจบตัวเอง อาจจะได้ถ่ายแต่ไม้กวาดข้างฝา หรือใบไม้แห้งเทวดาเท่านั้น... เพราะครั้งนึง ผมเคยคิดว่าตัวเองวัดแสงแม่น แต่สุดท้าย ลงเอยด้วยรูปห่วยๆ รูปนึง... ที่เขียน ไม่ได้จะกล่าวถึงใคร แต่อยากจะเล่าประสบการณ์จริงของตัวเองเท่านั้น ว่าเคยแล้วที่จะหยุดการถ่ายภาพเพียงแค่การวัดแสง ทั้งที่ยังมีทางให้เดินต่ออีกไกล สุดท้ายฝากไว้ว่า วัดแสงดี อาจไม่ใช่แค่พอดี วัดแสงดีแล้ว ยังต้องพัฒนาด้านอื่นต่อ.... เสียงภาคโดย พันธมิตร จากคุณ : <-อาฮุย-> - [ 4 มิ.ย. 51 10:12:53 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อิอ  มายังไงน้าฮุย มุขซะ ขำเลย อิ อิ ผมเองกำลัง ปรับปรุงเรื่องการถ่ายภาพ อารมณ์ และการปรับแต่ง แบบฝรั่งหน่ะ เก็บงานจนนิ่งได้ที่แล้ว จะเอาของดองมาให้ดูนะครับ น้าฮุย  อิ อิ แต่อาจจะต้องรอปีหน้ามั้ง อิ อิ จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 4 มิ.ย. 51 10:31:50 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณน้าแบงค์ และน้าตือ ที่มาเพิ่มความรู้ให้นะครับ..และที่พิเศษสุดจริงๆ คือน้าหนู...ผมอ่านคคห.ที่ 50 แล้วอยากจะขอบคุณเป็นสองเท่าหรือหลายๆ เท่าจากที่เคยรู้สึกอยู่แล้ว และรู้สึกผิดนิดๆ ที่กระทู้ผมเป็นเหตุให้น้าหนูฯ ที่ป่วยอยู่ ต้องมานั่งคิดนั่งเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาอีกรอบ..ทั้งๆ ที่น้าฯ ควรจะนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงเสียมากกว่า.. ตอนนี้รู้ซึ้งเลยว่า ห้องหนอนไม่เคยทิ้งกันจริงๆ   น้าหนูฯ เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กรุ่นใหม่อย่างผมและอีกหลายคนที่เพิ่งเข้ามาสู่วังวนแห่งการถ่ายภาพนี้..ทั้งในแง่ของการถ่ายภาพ และการทุ่มเทถ่ายทอดความรู้  เสมือนเป็นครูบนอินเตอร์เน็ตคนหนึ่ง ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะลำบากอย่างไร หากศิษย์ได้ความรู้ไปแล้วเกิดประโยชน์..ขอคารวะด้วยใจจริงๆ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 51 10:47:22 จากคุณ : nayaon - [ 4 มิ.ย. 51 10:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณสำหรับน้ำใจ และการแบ่งปันครับ จากคุณ : DUB-COOK - [ 4 มิ.ย. 51 12:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 55 โห น้า ครับ อย่ากระนั้นเลย ผมเขินจริงๆ  ผมไม่ได้เสียเงินทอง เรี่ยวแรงอะไรมากมาย แค่เห็นว่า ความเข้าใจที่ผิด ๆเกิดขึ้นได้เสมอ ๆ และผมเองก็พอรู้มั่ง มั่วมั่ง ยินดีช่วยเหลือ เพื่อนๆ  ที่รักการถ่ายภาพเสมอครับ ด้วยใจจริง และขอขอบคุณ ที่เห็นแก่ความพยายามอันเล็กน้อยของผม ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพ นะครับ แล้วคงได้พบกันสักวันนึง อิ อิ จากคุณ : หนูน้อยห้อยเลนส์ L - [ 4 มิ.ย. 51 15:05:17 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เข้ามาชื่นชมอาจารย์หนู อย่าลืมมาสักให้ผมบ้างนะครับ กร๊ากกกกก จากคุณ : 9TonEos - [ 4 มิ.ย. 51 22:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เยี่ยมครับน้าหนู จากคุณ : จุกcanon - [ 5 มิ.ย. 51 11:39:10 ]

ความคิดเห็นที่ 58 มาเก็บความรู้ครับ ขอบคุณน้าหนูมากๆ ครับ จากคุณ : Ake (SpaceWeb) - [ 6 มิ.ย. 51 00:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 59 มาเก็บความรู้ครับ ขอบคุณน้าหนูครับ สุดยอดจริงๆ ขอโหวตเก็บเข้าคลัง.. จากคุณ : นายเกวียนห้าพันเล่ม - [ 6 มิ.ย. 51 14:54:17 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณน้าหนูครับ วันนี้ไม่ได้ไปแสดงความยินดีด้วย ขออภัยจริงๆครับ ยินดีด้วยนะน้า มาทีเดียวรับรางวัลสองเวทีแน่ะ หุหุ ขอบคุณมากๆเลยน้า จากคุณ : toro pazzo - [ 13 มิ.ย. 51 12:13:55 ]