จากคำตอบสุดท้ายที่ได้โพสไปนั้น
ผมขอออกมาเล่าสู่กันฟังนิดหน่อยล่ะกันครับ
คือว่าที่ผมว่างานเข้าอ่ะ
เข้าจริงๆครับ
ตอนนี้เพิ่งว่าง
งานยุ่งครับ
ผมเองก็ไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวมากมายเท่าไหร่นัก
จะว่างก็คงเป็นระยะเวลาสั้นๆ
ตอนนี้อะไรหลายๆอย่างก็เริ่มเข้ารูปเข้ารอยแล้วครับ
ที่ห่างหายไปนั้นก็ต้องทำงานครับ
งานมันยุ่งมากมายจริงๆ
ทั้งเรื่องงานและเรื่องเรียนที่ถึงจุดคลายเม็กครับ
แต่ตอนนี้หมดห่วงเรื่องเรียนแล้วครับ
ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยหนักจริงๆ
จากการที่พักไปนานทำให้เรียนรู้ว่าการที่ไม่ได้เข้ามาในกระทู้นี้
การที่มีคนคอยค้นประวัติให้ความสนใจในตัวผมทั้งด้านดีและไม่ดี
ไม่ได้มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบันเลยครับ
ทำให้นึกไปได้ว่าหากคนใดในโลกอินเตอร์เนตได้กระทำบางสิ่ง
ที่นำพาในสิ่งที่คนกลุ่มหนึ่งไม่ชอบการกระทำ
แล้วไม่ใส่ใจที่อ่านเข้ามาดูในกระทู้แล้วนั้น
เขาจะอยู่ได้ตามปกติดี
สำหรับผมทำงานโดยไม่ต้องคิดเรื่องในกระทู้
ผลคือได้งาน และหมดภาระเรื่องเรียน
สำหรับเรื่องที่อยากจะขอโทษด้วยคือ
การตอบคำถามให้กับกระทู้ สำหรับเจ้าของกระทู้(คนตั้งกระทู้)
ที่ทำให้คำตอบของผมมองว่าเบี่ยงประเด็น
ผมเป็นคนชอบแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง
มองอีกมุมหนึ่ง(บ้างเป็นบางครั้ง)
แต่ไม่ได้คิดว่ามันถูกหรือผิด
ในแนวคิดของผมทุกคนมีสิทธิที่จะคิดและมีแนวทางต่างกัน
คนที่มีแนวทางการดำเนินชีวิตไม่เหมือนเรา(บางครั้ง)เราจะคิดว่าเขาผิดนั้น
ถือเป็นเรื่องปกติ
แต่คนที่วิจารณ์โดยขาดเหตุผลองค์ประกอบและคิดว่าสิ่งที่ตนเองเข้าใจคือสิ่งที่ถูกนั้น
ก็เป็นการแสดงถึงวุฒิภาวะของเขาเองครับ
ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังครับ
ครั้งหนึ่งผมเคยโกรธกับเพื่อนมากๆ
ผมทะเลาะกันรุนแรงและทำให้เราต้องแยกทางเดิน
ตอนนั้นผมเสียใจที่เสียเพื่อนครับ
จึงคิดว่าเราจะทำอย่างไรไม่ให้เสียเพื่อนอีก
ผมจึงคิดว่า
ถ้าเราโกรธใครมากๆ
ก็เขียนระบายความรู้สึกออกมา(จะด่าทอและแสดงความเถื่อนถ่อยออกมาก็ได้ครับ)
เขียนเสร็จก็เอาใส่ลิ้นชักและล็อกให้เรียบร้อย
ทำใจให้สบายสักสองสามวัน ก็ค่อยๆเอามาเปิดอ่านค่อยๆอ่านครับ
ตอนนั้นผมทั้งขำและทั้งอายตัวเองครับ ว่าเราเขียนไปได้อย่างไง
ทำไมเราช่างเด็กที่ไม่รู้จักโตเสียเหลือเกิน เรื่องเล็กๆก็จะมาทำให้เสียเพื่อนไปได้
ตอนนี้ทำให้รู้สึกอารมณ์เย็นขึ้นแยะครับ เมื่อมีคนพูดถึงคนอื่นเกี่ยวกับเรา
ผมจะฟังและนำมาวิเคราะห์ความจริงเท็จ และที่สำคัญต้องบวกกับสัจธรรมด้วยครับ
เพราะคนเราอารมณ์นั้นมีขึ้นและลง จริงๆเขาอาจจะโกรธแต่ก็ไม่ได้เกลียด
เรายังคุยกันได้และเป็นเพื่อนกันต่อ นึกถึงตอนเปิดอ่านทีไรก็อดขำไม่ได้ครับ
ช่วงสุดท้ายขอตอบคำถามก่อนครับเริ่มจาก
ความคิดเห็นที่ 670 ของคุณ gofhyper
เรื่องการโพสกระทู้ที่ห้องราชดำเนินครับ
ผมเองก็จำไม่ค่อยได้หรอกครับว่าตอบคำถามครั้งสุดท้ายที่ห้องนี้เมื่อไหร่
แต่บังเอิญผมเดาๆว่าน่าจะหลังเลือกตั้ง
ถ้าคุณมีสถิติ จะเห็นว่าในช่วงระหว่างวันที่ 30 มีนาคม นั้นเป็นช่วงที่ผมไม่ค่อยได้ตอบแล้วครับ
หรือตอบน้อยมาก ที่ผมจำไม่ได้ว่ามันจะก่อนหรือหลังการเลือกตั้งคงไม่แปลก
และคงไม่ใช่สาระสำคัญที่มีผลต่อกระทู้ที่ผมตอบด้วยครับ
และก็รู้สึกว่าผมจะตอบคนอื่นด้วยนะเรื่องการโพสกระทู้ที่ห้องราชดำเนินแต่ไม่รู้ว่าเขารู้ความจริงแล้วเขาจะเดือนร้อนหรือต้องคอยค้นหาความจริงด้วยหรือเปล่า(ตรงนี้จำไม่ได้ว่าใครถามขี้เกียจหาครับกระทู้มันยาวจำไม่ได้จริงๆแต่ก็ขอทษคนถามด้วยล่ะกันครับเรื่องเวลาการโพสที่ห้องราชดำเนิน)
ความคิดเห็นที่ 653 ของคุณ gofhyper
ผมเขียนบทความให้อ่านนั้นก็อยากให้อ่านครับส่วนใครจะคิดอย่างไงผมก็เอาไว้เป็นแนวทางครับในการแก้ไขครั้งต่อไป ยินดีรับฟังครับ
ความคิดเห็นที่ 655 ของคุณ gofhyper
การที่โพส ห้าคำ สอง บรรทัดนั้นดูเป็นสาระสำคัญที่ตัดสินอะไรได้ก็แล้วแต่คุณครับผมไม่ใส่ใจ
ความคิดเห็นที่ 666 ของคุณ gofhyper
ประเด็นการเขียนเรื่อง"หลอกลวง" "กล่าวหา" "ด่าผู้หญิง" "ทิ้งความรับผิด" "คิดแต่เรื่องแถ"
หากมีเวลาคิดว่าคงได้รับชมครับ มีอีกหลายประเด็นที่น่าหยิบยกขึ้นมากล่าวอ้างครับ
ความคิดเห็นที่ 674 ของคุณ ดอกไม้เจ็ดสี
ยินดีรับคำแนะนำครับ
ความคิดเห็นที่ 682 ของคุณ อั้งเกย
ผมว่างๆก็มานั่งเขียนแสดงความคิดเห็นครับ
ที่หายไปนานเพราะติดภารกิจเรื่องเรียนครับ
ตอนนี้ทำรายงานเสร็จเรียบร้อยแล้วครับจะได้รับวุฒิบัตรแล้วจึงยังพอมีเวลาว่างอีกครั้งครับ
ตอนนี้เปิดกระทู้ของตังเอง
เพื่อไม่ทำให้ใครมาว่าเรื่องเปลี่ยน เบี่ยง ประเด็นครับ
ความคิดเห็นที่ 706 ของคุณ thichachan
ครับสนใจอยู่เหมือนกันเรื่องของระบบอินเตอร์เนตและระบบแลนครับจะเอามาใช้ประโยชน์กับงาน
ที่ต้องเจอทุกวันครับเรื่องพวกนี้ยอมรับว่าโง่จริง
และหากคุณได้กลับมาอ่านกระทู้นี้
ติดต่อผมหลังไมค์ได้คับ
เพราะผมติดต่อคุณไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 798 ของคุณนัดดา
หากมองเป็นเรื่องน้ำเน่าก็คงน้ำเน่ากันหมดตั้งแต่ต้นแล้วครับ
จบครับ....
จากคุณ :
35-25-36
- [
6 มิ.ย. 51 22:54:31
]