ความคิดเห็นที่ 1 วันนี้เราจะมาหาค่า c กันนะครับ ค่า c ก็คือขนาดของโบเก้นั่นเอง จะเห็นได้ว่าถ้าค่า c มีค่ามาก โบเก้ก็จะมีขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้หลังเบลอมากขึ้น จากสมการมันจะมีตัวแปรหลายตัวนะครับเช่น N คือรูรับแสงเราสามารถตั้งค่าไปได้เลย f คือทางยาวโฟกัสของเลนส์ก็ใช้ตามเลนส์ไปได้เลย แต่ปัญหาคือค่า S3 ซึ่งก็คือระยะระหว่าง แบบ กับ ฉากหลัง และ S1 ซึ่งก็คือระยะระหว่าง แบบ กับ กล้อง และยังมี S1 + S3 = S2 ด้วยนะครับ เราจะใช้วิธีสมมุติค่า S3 ว่า ที่ฉากหลังเท่าๆกันเลนส์ไหนมันจะเบลอกว่ากัน คราวนี้มันก็จะเหลือตัวแปรเคลื่อนที่อีกอันเดียวคือ S1 ซึ่งคือระยะระหว่างแบบ กับกล้อง ซึ่งระยะนี้มันจะเปลี่ยนตามเลนส์ที่ใช้ จากคุณ : Onunu (tripplebond) - [ 5 ก.ค. 51 15:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ค่า S1 นี้จะขึ้นกับขนาดของภาพและมุมรับภาพ ตัวอย่างเช่น ถ้าใช้เลนส์ 35mm ขนาดภาพเท่ากับเส้นแนวนอนสีแดง แล้วเปลี่ยนไปใช้เลนส์ 100 mm (ขนาดภาพเท่ากับเส้นแนวนอนสีเหลือง)องศารับภาพแคบกว่า เราซึ่งเป็นตากล้องก็ต้องถอยออกจากตัวแบบ ดังนั้นถ้าต้องถ่ายรูปให้ได้ภาพขนาดใกล้เคียงของดิม ค่า S1 ของเลนส์ 100mm ก็จะมากกว่า S1 ของเลนส์ 35mm ซึ่งถ้าเราทราบมุม เซต้าและกำหนดขนาดของภาพ (ขนาดภาพ =2d) เราก็จะหา S1 จากคุณ : Onunu (tripplebond) - [ 5 ก.ค. 51 15:17:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มารออ่านต่อ ขอปาดทีเถอะ เห็นแล้วนึกถึงวิชาฟิสิกส์จัง เพราะ เคยสอบตก 555 จากคุณ : r-pueng - [ 5 ก.ค. 51 15:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก็ไปเปิดตารางค่ามุมรับภาพ แบบแนวนอน (horizontal) เพื่อที่จะดูว่าทางยาวโฟกัสแต่ละค่า มีมุมรับภาพเท่าไหร่ แต่เนื่องจาก จขกท ใช้กล้องตัวคูณ มันก็เลยไม่มีค่าอยู่ในตาราง ก็ต้องทำการสมมุติโดย จขกท ได้ลองนำค่า tan เซต้า ของกล้อง FF กับค่าทางยาวโฟกัสมา plot  พบว่าได้กราฟดังรูป แถมได้สมการแสดงความสัมพันธ์มาด้วย จากนั้นนำค่าทางยาวโฟกัสที่ได้ทำการคูณ 1.6 แล้วมาแทนค่าในสมการเพื่อที่จะประมาณค่ามุมรับภาพ ของกล้องตัวคูณ ก็จะทำให้สามารถหาค่า S1 ได้ทุกช่วงทางยาวโฟกัส  ถ้าเรากำหนดขนาดภาพ จากคุณ : Onunu (tripplebond) - [ 5 ก.ค. 51 15:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทีนี้เราก็มากะขนาดภาพ ซึ่งจขกท ก็กะๆมาประมาณ 4  แบบตามตัวอย่าง  มี พอตเทรตครึ่งตัว, ครึ่งตัวกับฉากหลังแบบนั่ง, ครึ่งตัวฉากหลังเยอะหน่อย, แล้วก็แบบแคนดิตพร้อมฉากหลังกว้างๆ ก็คือเราจะใช้ขนาดของภาพตามแนวนอนเป็น 0.75m, 1.5m, 2m, 3m จากคุณ : Onunu (tripplebond) - [ 5 ก.ค. 51 15:52:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มารออ่านด้วยคนครับน้า ^ ^ จากคุณ : Devilzamurai - [ 5 ก.ค. 51 15:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อนำไปแทนค่าต่างๆในสมการใน คห1 โดยสมมุติตัวแปรต่างๆ แล้ว simulated ออกมาจะได้กราฟแท่งดังรูปครับ สำหรับภาพบุคคลครึ่งตัว โดยที่ แกน y คือค่า c ยิ่งมากยิ่งได้โบเก้ขนาดใหญ่ ก็คือภาพยิ่งนุ่มนะครับ แกน x คือค่าตัวแปรที่สมมุติวไว้ เช่นเลนส์  50 mm F2 ส่วนเลข 1, 2, 3, ...... ถึง 100 คือระยะห่างระหว่างแบบกับฉากหลัง จากคุณ : Onunu (tripplebond) - [ 5 ก.ค. 51 15:58:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ทีนี้กราฟมันบอกอะไรเราละ ตัวอย่างก็เช่น ถ้าเราลากเส้นสีเหลือง ซึ่งก็คือเส้นที่ลากผ่าน เลนส์เปิดรูรับแสงเป็น F2 และมีฉากหลังห่างจากแบบ 1 เมตร ก็จะพบว่า ขนาดของโบเก้แทบไม่ต่างกันเลยในทุกช่วงเลนส์ โดยเลนส์ที่จะทำให้ได้โบเก้โตสุดก็คือ 135 F2 เนื่องจากมีค่า c สูงสุด นอกจากนี้ถ้าไปดูที่ลูกศรสีเหลืองก็จะพบว่า เมื่อใช้เลนส์ 50 ที่ F2 จะให้ขนาดโบเก้ที่ใกล้กับ 200 F 2.8 เมื่อมีระยะระหว่าง แบบกับฉากหลัง 1 เมตร ถ้าดูเส้นสีแดงซึ่งจะเป็นรูรับแสงกว้างที่สุดของแต่ละช่วงทางยาวโฟกัส จะพบว่า เมื่อใช้เลนส์ทางยาวโฟกัสมากขึ้น โบเก้ก็ใหญ่ขึ้น แล้วจะเห็นว่า 135 F2 ให้โบเก้ได้ใหญ่ก.ใกล้เคียง 200 F2.8 ถ้าแบบกับฉากหลังอยู่ห่างกันไม่เกิน 20 เมตร ลูกศรสีแดง แต่ถาแบบกับฉากหลังอยู่ใกล้กันมากกว่า 20 เมตร 135 F2 จะได้โบเก้ใหญ่กว่า และ ถ้าแบบกับฉากอยู่ห่างกันมากกว่า 20 เมตร 200 F2.8 จะได้โบเก้ใหญ่กว่า จากคุณ : Onunu (tripplebond) - [ 5 ก.ค. 51 16:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ทีนี้ลองมาดูสำหรับคำถามยอดฮิตเช่น 50, 85, 100 และ 70-200 F4 (200 F4) อันไหนดีกว่ากัน ก็ให้มาดูเส้นปะสีดำล่างสุดก็จะพบความจริงว่า 50 ที่ F 2.8 ให้โบเก้ได้เท่ากับ 200 F4 เมื่อฉากหลังอยู่ห่างแบบ 1 เมตร แต่ถ้าฉากไกลเกินกว่านั้น 200 F4 ชนะโลด ถ้ามาดูเส้นปะสีดำตรงกลางก็จะพบความจริงว่า 85 ที่ F 2.8 ให้โบเก้ได้ดีกว่า 200 F4 เมื่อฉากหลังอยู่ห่างแบบไม่เกิน 3เมตร แต่ถ้าฉากไกลเกินกว่านั้น 200 F4 ชนะโลด เส้นปะสีดำบนสุดก็จะพบความจริงว่า 105 ที่ F 2.8 ให้โบเก้ได้ดีกว่า 200 F4 เมื่อฉากหลังอยู่ห่างแบบไม่เกิน 5 เมตร แต่ถ้าฉากไกลเกินกว่านั้น 200 F4 ชนะโลด ดังนั้นถ้าเราอยากได้เลนส์ที่ถ่ายหลังเบลอสวยก็อาจใช้เลนส์พวก 85 ก็จะสวยกว่าถ้าระยะฉากหลังไม่ได้ไกลมาก จากคุณ : Onunu (tripplebond) - [ 5 ก.ค. 51 16:18:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สำหรับขนากภาพระยะอื่น จากคุณ : Onunu (tripplebond) - [ 5 ก.ค. 51 16:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ต่อ จากคุณ : Onunu (tripplebond) - [ 5 ก.ค. 51 16:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กราฟสุดท้าย จากคุณ : Onunu (tripplebond) - [ 5 ก.ค. 51 16:24:33 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จากกราฟทั้งหมด ก็พอจะสรุปได้ว่า สำหรับกล้องตัวคูณ เลนส์เทพที่ทำมห้โบเก้ใหญ่สุดคือ 135F2 > 200 F2.8 ถ้าลดระดบลงมาหน่อยก็จะได้ว่า 100 F2 > 85 F2> 200 F4 = 50 F2 ในกรณีที่ฉากหลังอยู๋ในระยะไม่เกิน 3 เมตร จากแบบ  50 F2 ให้โบเก้ใหญ่กว่า 200 F4 แต่ในความเป็นจริงเรามักใช้กันที่ค่า F 2.8 สำหรับเลนส์ฟิก ซึ่งมันจะทำให้ได้เน 100 F2.8> 85F2.8 = 200F4 > 50 F2.8 ในกรณีที่ฉากหลังอยู๋ในระยะไม่เกิน 5 เมตร จากแบบ  85 F2.8 ให้โบเก้ใหญ่กว่า 200 F4 ในทุกกรณีนี้จะสมุตว่ามีที่ให้เราถอยหลังไปภ่ายเพื่อให้ราได้ภาพขนาดเท่ากัน แต่ในทางปฏิบัติ เราอาจไม่มีที่ให้ถอยหลังก็ได้ ดังนั้นเวลาซื้อเลนส์ให้เลือกซื้อเลนส์ที่รูรับแสงกว้าง จากนั้นให้เลือกทางยาวโฟกัสที่เราคิดว่าพอจะเก็บภาพให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ ว่าแล้วไปซื้อ 100 F2 ดีกว่า มีใครจะปล่อยมั๊ยครับ จากคุณ : Onunu (tripplebond) - [ 5 ก.ค. 51 16:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เจ๋งมากคร้าบ คณะลูก ขอ เยนดังๆ ว่า เจ๋งสุดๆ เจ๋งสุดๆ เจ๋งสุดๆ ----- แฮ่ๆ ยังไงก็ตาม ตัวสำคัญคือค่า c อยากค่า c มากๆ ต้องกล้องใหญ่อะคร้าบ มันส์กระจาย จากคุณ : ก้อง : ) - [ 5 ก.ค. 51 16:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ้อ ทู้ดี เลขสวยอีกต่างหากคร้าบ เจ๋งๆ แต่ทำ spreadsheet กันเหนื่อยเลยซิครับ ที่ทำคัญคือ การที่ได้รู้เงื่อไขการทำให้ภาพเบลอ อันนึงที่ไม่ต้องข้นกับเลนส์ คือ ระยะของเลนส์ ถึงวัตถุ  จ่อใกล้ๆ ยังไงคร้าบ จากคุณ : ก้อง : ) - [ 5 ก.ค. 51 17:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 Oh my god ช่างคิดจริงๆครับ นับถือๆ จากคุณ : kuroyasha - [ 5 ก.ค. 51 21:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สุดยอดความรู้บึกๆนับเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนตัดสินใจไม่ได้ซ่ะทีอย่างมาก จากคุณ : หมูป่าเดียวดาย ภาคพิเศษ - [ 6 ก.ค. 51 01:21:25 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ว่ากันด้วย เรื่อง circle of confusion  ยาวละครับ จากคุณ : nod_dice - [ 6 ก.ค. 51 02:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หัวบวมเลยครับ จากคุณ : tiger_b52 - [ 6 ก.ค. 51 12:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาดูสรุปครับ คำอธิบายคงต้องใช้เวลาทำความเข้าใจนาน ๆ วิชาฟิสิกส์เป็นของแสลงของผมเลย ขอบคุณน้าสำหรับความรู้ครับ จากคุณ : NuengArts67 - [ 6 ก.ค. 51 22:46:09 ]

ความคิดเห็นที่ 21    ข้อมูล แจ่มมากครับ ขอบคุณครับ หามานานครับสำหรับข้อมูล ที่เป็นหลักการแบบนี้ จากคุณ : WizardMadrid - [ 6 ก.ค. 51 23:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 22 โหวต ให้แล้วนะครับ เก็บขึ้นคลังแสงความรู้เลย จากคุณ : E_Ta_GoLF (blue bike) - [ 7 ก.ค. 51 10:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เดี๋ยวมาอ่านต่อครับ...มึน จากคุณ : ~~~ (~~~) - [ 7 ก.ค. 51 13:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เยี่ยมครับ โหวตให้เลย แต่คงต้องมาอ่านช้าๆ อีกสักหลายรอบครับ จากคุณ : อาอิ่ม (arimm) - [ 7 ก.ค. 51 17:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่า มันใช่เลยละครับ ตรงตามประสบการณที่ทดลองมา แต่อธิบายเป็นตัวเลขไม่เป็น ถ้าฉากหลังไกลๆ เทเล ชนะ แต่ถ้า ที่แคบๆ ฉากหลังใกล้ๆ พวกฟิกว์รูโตๆ ชนะ จากคุณ : WATERBOY R - [ 10 ก.ค. 51 18:29:25 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สุดยอดไปเลยคับ จากคุณ : NuuTeee (Atiraj T.) - [ 11 ก.ค. 51 15:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โอ้ววว....มึนเลยยย จากคุณ : พวงเงิน - [ 13 ก.ค. 51 21:13:57 ]