ความคิดเห็นที่ 1 อ่านกันอีกซักนิด การวิเคราะห์ และวิจารณ์ ภาพถ่าย โดย อ. ศรศักดิ์ สังเกตุเห็นบ่อยๆว่าเมื่อมีผู้ส่งภาพขึ้นมาขอความเห็นและขอคำวิจารณ์ ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะมีแต่คำชม...ภาพสวย มุมมองแปลก ขอเอาใจช่วย ฯลฯ แต่ไม่มีคำแนะนำหรือความคิดเห็นอื่นใด ที่จะให้ผู้ถามได้นำไปใช้ในการปรับปรุงการถ่ายภาพให้ดีขึ้น เข้าใจดีว่าเป็นการให้กำลังใจ ไม่อยากทำลายน้ำใจ และก็เข้าใจดีอีกเช่นกันว่า หลายคนที่โหลดภาพขึ้นมาก็เพราะอยากโชว์ภาพ และอยากได้คำชมเช่นนี้ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ต้องการความคิดเห็นและคำวิจารณ์ที่เหมาะที่ควร และบางคนก็อาจจะเซ็งกับคำชม ก็เลยไปหาคำวิจารณ์จากที่อื่น ผมเข้าใจว่าหลายคนคงยังไม่รู้ถึงวิธีการดูภาพว่ามันจะต้องดูกันอย่างไร จึงจะเรียกว่าภาพดี ยังไม่ดีพอ หรือว่าไม่ได้เรื่องเอาซะเลย ก็เลยอยากจะแนะนำให้ศึกษาบทความที่นำมาให้อ่านนี้ให้ดี มันไม่ยากอะไรนัก แต่ผู้วิจารณ์ควรจะมองภาพให้ถี่ถ้วน ไม่มองว่าเป็นภาพของใคร หรือตัวแบบ วิว หรือว่าดอกไม้สวยเพียงไร ขอให้มองให้ครบ 3 ประการ คือ 1. คุณภาพทางด้านเทคนิค 2. องค์ประกอบ และ 3. ความรู้สึกที่ได้จากภาพ บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ผมได้คัดมาสั้นๆจากวิชาที่ได้เคยเรียนมา คือ Photo Appreciation จุดประสงค์ในการเรียนวิชานี้ก็คือ มันจะช่วยทำให้เราสามารถดูภาพได้อย่างเข้าใจ อ่านความหมายของภาพ ดูให้กระจ่างถึงภาพรวมทั้งหมด และสามารถที่จะวิจารณ์ภาพได้ การวิจารณ์ภาพถ่ายควรจะเป็นการมุ่งเน้นในการที่จะช่วยให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือได้รับความรู้ ความเข้าใจที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางทฤษฏี ทางด้านมุมมอง ทางด้านศิลปะ หรือทางด้านเทคนิคในการถ่ายภาพให้ดีขึ้นและมีหลักการมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ควรจะช่วยเหลือแนะนำให้ปรับปรุงแนวของการมองภาพ ให้เป็นตัวของตัวเองในการทำงานอีกด้วย ผู้วิจารณ์ควรจะแนะนำให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือศึกษาการถ่ายภาพให้มากขึ้นด้วยการดูงานของผู้อื่น แต่ต้องไม่เปลี่ยนมุมมองของเขาหรือพยามยามที่จะให้เขาเลียนแบบงานของผู้อื่น หรือของผู้วิจารณ์เอง เพราะการเลียนแบบ หรือการลอกงานเป็นศัตรูตัวฉกาจของความสร้างสรรค์ ผู้วิจารณ์ภาพจำเป็นที่จะต้องเข้าใจจุดประสงค์ของการถ่ายภาพของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือให้แน่ชัดเสียก่อนว่าเป็นอย่างไร...จะต้องเข้าใจว่าภาพที่กำลังจะวิจารณ์นี้ เป็นภาพที่จะนำไปใช้ในสถานการณ์เช่นใด เช่น เป็นภาพที่จะนำไปใช้สำหรับการศึกษาอะไรหรือเปล่า หรือว่าใช้ในการประกอบบทความ, ใช้เป็นการรายงาน, เป็นภาพใช้ดูกับเพื่อนและครอบครัว, เป็นงานศิลปะ หรือว่าจะส่งเข้าประกวด หากผู้ขอคำแนะนำมิได้บอกจุดประสงค์มา ก็ควรที่จะถามถึงจุดประสงค์ให้ชัดเจน จึงจะสามารถที่จะโฟกัสการมองให้แคบลงและวิจารณ์, วินิจฉัยภาพให้ได้ตรงเป้าหมาย การวิจารณ์ภาพโดยทั่วไปจะอาศัยหลักดังต่อไปนี้...เนื่องจากเป็นการดูภาพผ่านจอคอมพิวเตอร์ จึงขอปรับบางส่วนนิดหน่อยเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ I. Technical quality คุณภาพทางด้านเทคนิค...เป็นที่เข้าใจกันดีว่าภาพที่ดีจะต้องเริ่มต้นด้วยความคุณภาพทางด้านเทคนิคก่อน เช่น 1. Focus  การโฟกัสชัดหรือไม่ หากไม่ชัด เป็นเพราะว่าความจงใจที่จะให้ภาพมีความนุ่ม และประสบความสำเร็จหรือไม่ หรือว่าไม่ชัดเพราะความผิดพลาด 2. Cleanliness    ภาพสะอาดหรือไม่ มีรอยขีดข่วน มีจุดขาวของฝุ่นเกาะและไม่ได้รับการแต่ง หรือแต่งแล้วแต่ไม่เนียนพอ หรือว่ามีรอยด่าง มีแฟลร์ให้เห็น เป็นต้น 3. Exposure  ภาพมืดไป สว่างไป หรือว่ากำลังดี 4. Lighting  แสงในภาพความเปรียบต่างสูงไป น้อยไป หรือว่ากำลังดี 5. Colour    ภาพมีโทนสีที่ถูกต้อง หรือว่ามีสีที่เพี้ยน II. Composition  องค์ประกอบ...จากมุมมองของกล้องและระยะความยาวของเลนส์ ภาพจะออกมาอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ 1. Balance  ภาพวางได้สมดุลดีหรือว่าเอียง 2. Logic  การใช้องค์ประกอบได้ผลหรือไม่ 3. Purpose  มีจุดสนใจที่ชัดเจนหรือว่ามีอะไรน่าสนใจหรือไม่ 4. Clarity  ดูเรียบง่าย แต่สมบูรณ์ปราศจากสิ่งรบกวน หรือว่ายุ่งเหยิง   III. Emotional Appeal ความดึงดูดสายตาและอารมณ์...สิ่งที่สำคัญสำหรับภาพที่ดีก็คือจะต้องเป็นภาพที่ดูแล้วสมควรแก่การจดจำ 1. Dynamic  ภาพดึงดูดสายตามากน้อยเพียงไร มันมีจุดที่เรียกว่า “ใช่เลย” รึเปล่า 2. Provocative    ภาพทำให้ดูแล้วตื่นเต้นหรือทำตื่นตาตื่นใจหรือไม่ 3. Creative  ในภาพแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่คุ้นเคยในมุมมองที่แปลกและใหม่หรือไม่ 4. Unusual  ในภาพแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่แปลกในด้านที่ต้องตาอะไรบ้างไหม ด้วยหลัก basic ง่ายๆเช่นนี้ มันก็จะทำให้เราเปลี่ยนวิธีการมองภาพไปได้มากทีเดียว หากยังไม่แน่ใจว่าจะ work เพียงไร ลองนำภาพของเราเองออกมาวางเรียงดูแล้วพิจารณาอย่างถี่ถ้วน วิเคราะห์ และวิจารณ์ ดูก่อนที่จะวิจารณ์ภาพของคนอื่น ก็จะช่วยได้มากเช่นกัน แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 51 11:47:16 จากคุณ : จิ๊กโก๋สะพายกล้อง - [ 2 ส.ค. 51 11:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โอ้วขอบคุณคุณพี่ จิ๊กโก๋ฯ มากครับ ที่เปิดกระทู้ดีดีอย่างนี้ ต้องขอจองที่ไว้ก่อนละครับ แค่สิบภาพเท่านั้น ช้าหมดเดี๋ยวอด ผมขอส่งสองภาพนะครับ เป็นภาพเปรียบเทียบ -ถ่ายด้วย Compact kodak C330 4 MP. ISO 80 Multiple Focus WB Auto -ใช้ โปรแกรม ACD 8.0 ย่อภาพแล้วก็ เพิ่ม Sharpness -ชื่อภาพ Where's Toilet? เรื่องของเรื่องคือผมเดินหาห้องน้ำอยู่ในสวนแล้ว เจอป้ายนี้เข้า แต่มันดันใช้คำว่า Lavatories  แทนซะได้ แล้วก็เห็นว่ามันมีชื่อสถานที่ต่าง ๆ ในสวนบอกเรื่องราวได้มากมายว่าสวนที่ผมไปมามีอะไรอยู่บ้าง -ข้อจำกัดคือ ผมอยากถ่ายมุมนี้แต่ว่ามันมีต้นไม้มาแซมอยู่ด้วยครับ จะเงยขึ้นไปอีกก็ไม่ได้มุม แต่อีกรูปที่อยากให้เปรียบเทียบดันไปใส่ อีวี เพราะเห็นว่าแดดมันจัด เท่านี้แหละครับ ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะครับ จากคุณ : TOMeo - [ 2 ส.ค. 51 13:54:20 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อีกภาพหนึ่งครับ แต่ดันไปลบ EV ออก 0.50 เพราะเห็นว่าอยู่กลางแดดจัด ขอบคุณทุก ๆ คนที่เข้ามาวิจารณ์ติชม ให้คำแนะนำอีกครั้งนะครับ เดี๋ยวจะถ่ายภาพ lake district มาฝาก ผมอาจจะไม่ได้เข้ามาอีกห้าหกวันนะครับ เพราะไป lake district แต่จะเข้ามาตามผล ฝากด้วยครับ ปล.พี่จิ๊กโก๋หากไม่เป็นการรบกวนเกินไป ช่วยลงไปดูกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/camera/topic/O6850723/O6850723.html ให้ผมหน่อยนะครับ รบกวนแค่รูปเดียวที่ คคห. 9ที่สีมันฟุ้ง ๆ ขึ้นมาอ่ะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : TOMeo - [ 2 ส.ค. 51 13:59:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยครับ.... แล้วผมจะหาโอกาสมาร่วมกิจกรรมกับชาวบ้านชาวเมืองเค้าบ้างสักครั้ง จากคุณ : เสรีไพร - [ 4 ส.ค. 51 11:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไง...มีคนโพสภาพน้อยจัง สงสัย เขายังไม่รู้ว่ามีกิจกรรมนี้... อ่ะ ภาพเดียวก็ภาพเดียวเนอะ... ภาพ  Where's Toilet? ความสัมพันธ์ของการตั้งชื่อกับการถ่ายภาพ ถ่ายเกี่ยวกับป้ายนี่ แถมตั้งชื่อว่า Where's Toilet? ผมคิดว่า น่าจะเก็บ ป้ายให้ครบ เพื่อสื่อให้หัวข้อภาพชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจากภาพ 2 ภาพ ผมว่า ภาพที่ 1 ดีกว่า มุมมอง ภาพทั้งสองภาพ ที่ถ่ายมา ให้ความรู้สึกว่าป้ายมันสูงมากเลยอ่ะครับ จากการถ่ายมุมแหงนขึ้น ผมก็เข้าใจว่าผู้ถ่ายต้องการตัดสิ่งรกๆ ออกไปในภาพ แต่ในความคิดเห็นของผม เท่าที่ดูภาพ ผมว่าถ่ายภาพป้ายในระดับสายตาน่าจะดีกว่า ถึงแม้จะได้ภาพแวดล้อมอื่นๆ รอบๆ แต่ถ้ารอจังหวะ รอเวลา ก้น่าจะได้ภาพที่ไม่รกนักได้ มั้งครับ  อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน  รู้แต่ว่า การดูภาพนี้แล้ว รู้สึกว่า ป้ายทำไมมันสูงจัง ต้องแหงนคอมอง อีก 1 ความคิดเห็นส่วนตัวเล็กๆครับ จากคุณ : sharingstory - [ 4 ส.ค. 51 12:45:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่เป็นไรครับอาทิตย์แรกคงอาจยังกล้า ๆ กลัว ๆ หรือรอดูเชิงกันอยู่ เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งลบกระทู้ออกจากกระดานกิจกรรมก็แล้วกันนะครับสาร แปะแช่ไว้ก่อนเปิดบ้านรอผู้ส่งภาพทั้งอาทิตย์กันเลยดีกว่า วันศุกร์หน้าค่อยเริ่มกระทู้ใหม่ แล้วผมจะเข้ามาดูและตอบคำถามให้กับภาพที่ส่งมาเอง หรือมีคนเข้ามาช่วยวิเคราะห์ด้วยก็ดีนะ จะได้มีหลากหลายมุมมองหน่อย ----------------------------------------------------------------------------- สำหรับภาพของ TOMeo ก่อนอื่นต้องขอชมก่อนว่าใช้งานกล้องได้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมากเพราะถึงแม้จะใช้ compact แต่ก็ยังรู้จักการปรับค่าการใช้งานลูกเล่นของกล้องได้อย่างดี มุมมอง กับการสื่อความหมาย พอเข้าใจว่า TOMeo ต้องการสื่อภาพให้ตรงกับชื่อ Where's Toilet? โดยใช้ป้ายบอกทางเป็นตัวนำเรื่อง TOMeo ชอบภาพลักษณะนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไร มุมของภาพที่ 1 จะบอกเรื่องราวได้มากกว่า เพราะเห็นตัวหนังสือจากป้ายได้ชัดเจนกว่าขาดแค่คำว่า Lavatories โดนบังไปนิด ถ้าแต่สำหรับผม ผมว่าภาพดูอึดอัดไปหน่อย มาแต่ป้ายเลยทำให้ขาดเรื่องราวโดยรวม ลองมองในมุมกว้าง ๆ ดูอีกนิดใช้มุมกว้างเล่าเรื่องราวมากขึ้นให้เห็นเส้นทาง คนเดินไปมา เพิ่มเติมเข้าไปจัดเป็นองค์ประกอบภาพ การชดเชยแสง ผมว่าในภาพแรกนั้น แสงเกือบจะได้แสงที่พอดีแล้วนะหากกล้องสามารถชดเชยแสงได้ละเอียดหน่อยอาจจะปรับที่ -0.3 ev น่าจะได้ ส่วนภาพที่ 2 Under ไปนิดมีภาพที่ไม่ได้ชดเชยแสงเป็นตัวเทียบรึเปล่าครับ เพราะใช้มุมของภาพที่ 1 เปรียบเทียบไม่ได้เพราะทางแสงคนละทาง ภาพที่ 2 ผมว่าไม่ต้องชดเชยแสงก็ได้ การชดเชยแสงเราจำเป็นจะต้องดูทางแสงด้วยว่าแสงเข้าจากทางไหนครับ เช่น การถ่ายย้อนแสงกับตามแสง การชดเชยแสงก็จะใช้ต่างกัน ฝึกง่าย ๆ โดยการที่เราเก็บภาพแรกถ่ายตามแสง (พระอาทิตย์อยู่ด้านหลัง) มุมเดียวกัน 3 ภาพ ชดเชยแสงทางลบ ไม่ชดเชยแสง และชดเชยแสงทางบวก ลองเปรียบเทียบกัน ภาพที่ 2 ย้อนแสง (พระอาทิตย์อยู่ด้านหน้า) ทำเช่นเดียวกัน แล้วลองเปรียบเทียบกันดูครับ ต่อไปก็ฝึกถ่ายจากทางแสงหลาย ๆ มุมเราก็จะรู้เองว่าแสงเข้าทางไหนควรชดเชยแสงยังไงครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : จิ๊กโก๋สะพายกล้อง - [ 4 ส.ค. 51 14:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อุปกรณ์ที่ใช้ Compact Cannon Ixus 70 มาโคร ISO 80 ใช้โปรแกรม Photo Scape ในการตกแต่งภาพ ปรับสี แสง ใส่กรอบ ฯลฯ ชื่อภาพ เจ้าแมลงปอน้อย ข้อจำกัดในการถ่ายภาพ เจ้าแมลงปอน้อยพวกนี้มันซุกซนเหลือเกินค่ะ บินกันไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย กว่าจะเก็บภาพนี้มาได้ วิ่งกันซะจนเหนื่อย แดดก็แรง อีกอย่างพื้นด้านล่างเป็นหญ้ามีต้นไม้เล็กๆ เต็มไปหมด เลยทำให้ภาพดูรกๆ ไปนิด ละลายด้านหลังยากจิง.. ภาพนี้ชัดป่าวไม่รู้ค่ะ แต่ทำดีที่สุดแล้ว สถานที่ถ่ายทำ สวนรถไฟ 3-Aug-08 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Fon_Za - [ 4 ส.ค. 51 15:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ่าย macro เป็นเรื่องยาก .. คนที่ถ่ายบ่อยๆจะรู้ดี  สิ่งที่ผมแนะนำรูปของคุณฝน จึงเป็นได้แค่ "ทฤษฎี" เพราะเอาจริงๆ ทำแทบไม่ได้ ... live macro มันควบคุมอะไรได้ที่ไหนกัน  ทางด้านเทคนิค ..  กล้องสมัยใหม่ดีตรงนี้ ... ควบคุมปริมาณแสงให้พอดี โดยที่ตากล้องไม่ต้องมาวุ่นวายปรับนู่นปรับนี่ ยิ่งกล้อง compact ... ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ไม่ต้องมาปรับกระทั่งโฟกัส  แต่มีข้อดีก็มีข้อเสีย .. การปรับโฟกัสไม่ได้ และปรับรูรับแสงไม่ได้ ทำให้คุมระยะชัดลึก (DOF) ไม่ได้เช่นกัน  ปลายปีกขวาหน้า และหลังซ้าย มันจึงเลือนหายไป  มุมกล้องสูง .. ทำให้ใบไม้ด้านหน้า โผล่ขึ้นมามีบทบาทชัดเจน แย่งจุดสนใจจากตัวแมลงปอ ... ถ้าทำได้ มุมกล้องต่ำลงกว่านี้อีกนิด ... ซัก 3-4 นิ้่ว (ถ้าถามว่า ... ทำยังไง ผมก็จนใจเหมือนกัน ... ขุดรูมั้ง ) กับเพิ่ม f-stop อีกซัก 2 stop เพื่อให้มันชัดทั้งตัว ภาพจะดีขึ้นอีกมาก  -ถ้า-  ถ้าขุดรูลงไปได้ เอากล้องวางที่ระดับตาแมลง .. จะทำให้ฉากหลังสีเขียวที่เบลอๆ ไม่มารบกวนฉากหน้าสีเขียวที่ชัดเจน หรือ ได้แต่ตัวแมลงปอทั้งตัวที่สีสดใสโทนร้อน ตัดกับฉากหลังเบลอๆโทนเย็น  ---------------  องค์ประกอบภาพ มีอีกจุดที่ควรต้องปรับปรุง  การถ่ายรูปสัตว์ทุกชนิด ต้องระวังเรื่องดวงตา .. ขอให้เป็นจุดโฟกัสที่สำคัญที่สุดไว้ก่อน  ภาพนี้ ปล้่องอกส่วนปีก จะชัดกว่าส่วนดวงตา .. ถ้าขยับถอยหลังมาอีกราวๆ 2-3 **มิลลิเมตร** ตาจะชัดขึ้น และน่าดูขึ้น (ถ้าคนถ่ายไม่เป็นลมซะก่อน ) จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 4 ส.ค. 51 17:25:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แจมด้วยแล้วกัน...ไม่ใด้ถ่ายรูปมาเกือบ 9 เดือน...ฝุ่นจับกล้อง...สนิมขึ้นง่ามนิ้ว หมดแว้ววววว...อิอิอิ -อุปกรณ์ Canon EOS40D+EF24-105/F4L IS -ISO H (3200)^_^"...(Noise ตรึม) -TV1/50, AV f4.0, Focal Lenght 80mm. -Flash Off -Auto WB -แสงไฟในห้องนอน PS...ดึง Curve, ปรับ Level, Contrast+15, Photo Filter (Warm), Lens Distort ชื่อภาพ...จับมือฉันใว้ ข้อจำกัด...ก็ขณะนั้นลูกๆผมกำลังนั่งดูโทรทัศน์ตามปรกติ...นานๆเห็นเขานั่งจับมือกันก็เลยเก็บมาซะหน่อย แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 51 18:49:24 แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 51 18:48:34 จากคุณ : Noung_Alien_11 - [ 4 ส.ค. 51 18:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อย่าโกรธนะคะ กับคำ วิแคะที่นอกเรื่อง ... ต้องมีซักคนที่ต้องกลังไปคาริเบทหน้าจอค่ะ ^ ^" จากคุณ : ::: the 4th hand ::: - [ 5 ส.ค. 51 08:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วไงสงสัยงานจะเข้า 555+ ไม่เป็นไรครับมู๋ภาแนะนำกันได้ทุกเรื่องครับ ว่าแต่มู๋ภาหมายถึงผมใช่ป่ะ เอิ๊ก..ๆๆ (แอบร้อนตัว) พอดีผมซื้อจอมาใหม่น่ะครับยังไม่ได้ปรับแต่งอะไร แบบว่าเห่อรีบเอามาใช้ก่อน แต่ดูสีเทียบกับภาพใน blog ของผมแล้วก็เหมือน ๆ จะใกล้เคียงกัน แต่สงสัยต้องเอาไปให้ร้านทำให้ใหม่ T T ----------------------------------------------------------------------------- ภาพ Fon_Za คงต้องขอชมล่ะครับว่าทำได้ค่อนข้างดีกับกล้อง compact ผมก็ถ่ายมาโครไม่ค่อยเก่ง (เป็นพวกสมาธิสั้น) อยู่นิ่ง ๆ นาน ๆ ไม่ได้ น้าแมวอธิบายได้ค่อนข้างครอบคลุมแล้ว ผมเสริมอีกนิดก็แล้วกันนะ ในกรณีที่หลังไม่สามารถละลายได้ Fon_Za ลองหาแมลงปอและดอกไม้ที่มีสีตัดกันกับฉากหลัง จะสามารถดึงสายตาของคนดูให้มาสนใจอยู่ที่ตัวแบบได้มากกว่า ภาพที่มีโทนเดียวกันทั้งภาพน่ะครับ ภาพของพี่หนึ่ง ภาพ Snap ธรรมดา ส่วนตัวผมว่ายังสือได้ไม่ชัดเจนว่า เขาจับมือกันเพราะอะไร ใช้ filter warm เพื่อให้โทนภาพรู้สึกถึงความอบอุ่นในการจับมือ แต่ก็มี noise มาเป็นตัวขัดขวางทำให้ภาพดูดิบ drop อารมณ์ของภาพไปพอสมควร (เข้าใจว่าเป็นความชอบส่วนตัว) ถ้ามองในมุมผม ผมจะลบ noise แล้วใส่  filter ที่ทำให้ภาพดู soft แทน พื้นที่สีขาวด้านซ้ายยังรบกวนสายตาอยู่บ้างเพราะกินพื้นที่ 1/3 ของภาพเลยทีเดียว ขอบคุณครับ ขอตัวไปคาริเบทหน้าจอก่อน อาทิตย์หน้าจะได้ไม่เพี้ยน T T อ๊ะจ๊าก !! พิมพ์ผิด filter Sofe  ออกแนวเนียนนุ่มเบาสบาย (--") แก้ให้แล้วนะพี่หนึ่ง !! แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 51 09:21:09 แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 51 09:06:26 จากคุณ : จิ๊กโก๋สะพายกล้อง - [ 6 ส.ค. 51 09:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ^ ^ รับทราบครับ...อิอิอิ Quote"ถ้ามองในมุมผม ผมจะลบ noise แล้วใส่  filter sofe แทน"............................มี Filter Sofe ด้วยหรือครับ...ชื่อเหมือนผ้าอนามัยเลยอะ 555 (ขำๆ อย่าคิดมาก) จากคุณ : Noung_Alien_11 - [ 6 ส.ค. 51 15:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หุหุ ... น้า นู๋ไม่ได้ว่านะ แต่ลองดู ^^" คาริปเบท เองดีกว่านะน้า ร้านใช่ว่าจะเชื่อได้เสมอไป ปล เรื่องรูปแรก คิดว่ารูปแรกดูดีแล้วนะคะ สีสด ภาพใส แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 51 21:31:11 จากคุณ : ::: the 4th hand ::: - [ 6 ส.ค. 51 21:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ดีแล้วครับมู๋ภา เห็นข้อผิดพลาดแล้วทักท้วงซิดี เราจะได้รู้ตัวแล้วแก้ไขให้ถูกต้องไม่เช่นนั้นก็จะผิดอยู่ตลอด อย่างเช่นอย่างสัปดาห์นี้ถ้ามู๋ภาไม่ทักท้วงเข้ามาผมก็จะไม่รู้ว่าจอผมมันเพี้ยน อาทิตย์หน้าผมก็จะวิเคราะห์ภาพพลาดอีก ต้องขอบคุณมากครับ รวมไปถึงเพื่อนสมาชิกที่เข้ามาดูกระทู้ถ้าเห็นว่าจุดไหนน่าจะเกิดความผิดพลาดในการวิเคราะห์ก็ทักท้วงได้เลยครับไม่ต้องเกรงใจ อย่างที่บอกไว้ในข้างต้นแล้วว่ากระทู้นี้เราเปิดใจรับฟังทุกความคิดเห็นครับ ผมก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญหรือมืออาชีพ ย่อมมีข้อผิดพลาด (บ่อย ๆ ) เป็นเรื่องธรรมดา ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพื่ออยากให้เกิดการพัฒนาอย่างจริงจังมากกว่าเดิมน่ะครับ ว่าแต่เรื่องปรับหน้าจอสงสัยผมต้องไปหาแมงมุมมาช่วยแล้วล่ะ ตั้งเองเดี๋ยวเพี้ยนกันไปใหญ่ 555+ จากคุณ : จิ๊กโก๋สะพายกล้อง - [ 7 ส.ค. 51 09:38:09 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แมงมุม ราคาแพ๊งงงงง  ผมคาลิเบรทง่ายๆ เพราะคอมพ์ผม อยู่ตรงหน้าต่าง  เอากล้องขึ้นมากดถ่ายรูปนอกหน้าต่าง จากมุมที่ผมนั่ง (ไม่ให้ติดหน้าจอ) แล้วถ่ายโอนขึ้นจอทันที  เทียบภาพบนจอ กับภาพที่เห็นนอกหน้าต่าง ปรับให้สีมันใกล้เคียงกันมากที่สุด แล้วเซฟเป็นโพรไฟล์เก็บไว้  มี 3-4 โพรไฟล์ครับ  - แสงธรรมชาติยามเช้า  - แสงธรรมชาติยามเที่ยง-บ่าย  - แสงไฟตอนกลางเย็น (อันนี้ยากที่สุด เพราะในห้อง มันเป็นแสงหลอดไฟ นอกห้องยังเป็นแสงธรรมชาติ)  - แสงไฟตอนกลางคืน (เอาพวกผ้าห่มลายสก๊อต มาวางคลุมโต๊ะทำงาน แล้วกดถ่ายออกมา) จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 8 ส.ค. 51 08:40:25 ]