ความคิดเห็นที่ 1 รายละเอียดเชิงลึกผมเองก็ไม่ทราบน่ะครับ แต่ที่ได้ยินจากผู้เชี่ยวชาญหลายๆท่าน ( ขอไม่ประสงค์ออกนาม ) จริงๆระบบกันสั่นใน lense ทำได้ดีไม่แพ้กับกันสั่นตัวกล้องครับ เพราะเคยมีหลาย case อย่าง Pentax , Olympus, Minolta ( ก่อนมาเป็น Sony ) มีอาการล็อคค้างตัว sensor และต้องรีบส่งศูนย์เป็นการด่วนครับ จริงๆแล้วระบบกันสั่นช่วยได้มากในเรื่องแสงน้อยๆ ( ในร่ม ) หรือใช้ในงาน แต่หลังๆดูจะออกมาขายเป็นหลายรุ่นมากแล้ว ดูเป็นเชิงพาณิชย์มากเกิน ทุกวันนี้ส่วนตัว ผมไม่มีเลนส์ IS หรือ VR เลยแม้แต่สักตัวเดียว และผมมองว่าไม่จำเป็นครับ เพราะถ้าจริงๆแล้วคุณเลือกใช้ขาตั้งกล้องที่เหมาะสม ตั้ง shutter speed กับ ISO ที่สอดคล้อง เลนส์ที่สว่างๆไม่มี IS VR กับเทคนิคการถ่ายภาพที่ถูกต้อง มันมากเกินพอแล้วและได้รูปคุณภาพเยอะมากมายครับ หลายท่านในนี้ถ่ายรูปโดยใช้เลนส์และกล้องธรรมดา แต่รูปที่ออกมาไม่ธรรมดาเพราะฉะนั้นอย่าตามกระแส อย่าเสียเงินไปกับอุปกรณ์ก่อนคิดว่า เราควรจะศึกษาวิธีการถ่ายรูปที่ถูกต้องก่อนไหม ? แล้วสมัยก่อนที่ไม่มี digital กล้องฟิล์ม ( หรือท่านที่ยังใช้ รวมทั้งผมทุกวันนี้ ) ยังคงใช้กันต่อไป สนุกกับการถ่ายภาพดีกว่าครับ อุปกรณ์เป็นตัวช่วย แต่ชอบหรือไม่ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์และความชอบส่วนบุคคลครับ จากคุณ : Jump - [ 10 ส.ค. 51 11:47:25 A:58.181.252.150 X: TicketID:152638 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้า นิค กับ หนอน ทำก็คงได้ครับ..ไม่น่าจะมีอะไรยาก สำหรับเขา อย่าง Pentax , Olympus, Minolta ก็เพราะเค้าเป็นมวยรอง พยายามใส่ฟังก์ชั่นอื่นๆเข้ามาเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาด อย่างโอลิมปัส ถ้าไม่มีกันสั่น ไม่มีไลฟ์วิว หรือไม่พยายามทำเล็กๆเป็นพิเศษ จะมีกี่คนที่เขาเลือกใช้...เพราะเมื่อเทียบคุณภาพไฟล์ที่ได้ กับเลนส์ให้เลือกมากมาย ของ 2 ค่ายนั้นเขามีภาษีดีกว่า ส่วนค่ายยักษ์ เมื่อรู้ว่าจะเสียส่วนแบ่งระดับล่าง เขาก็เพิ่มฟังก์ชั่นเพื่อสู้อีกละครับ..ก็ไม่แน่ อย่างไลฟ์วิว เมื่อก่อนมีแต่คนบอกว่าไม่จำเป็น ไม่ต้องมีก็ได้ แต่เขาก็จับยัดมาให้แล้ว คุณจะเปิดใช้งานหรือเปล่าก็แล้วแต่ แต่มีก็ไม่เสียหายอะไร พูดง่ายๆมันเป็นเกมการตลาด ที่มีกั๊ก มีการประเมินคู่แข็ง เพื่อดึงเงินในกระเป๋าเราทั้งนั้นครับ.. จากคุณ : โทษที ชื่อนี้มีแล้ว - [ 10 ส.ค. 51 13:42:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สั้นๆนะครับ...... เพราะกันสั่น ที่ติดกับเลนส์ทำงานได้ดีกว่ากันสั่นที่กล้องครับ... จากคุณ : pepur (propur) - [ 10 ส.ค. 51 13:44:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ สั้นๆ นะครับ เพราะกันสั่นที่เลนส์ ทำให้ขายเลนส์ได้แพงกว่าเลนส์แบบไม่มีกันสั่นครับ... จากคุณ : banhong - [ 10 ส.ค. 51 13:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ^ ึค.ห.3 เดี๋ยวต้องมีเหล่าอัครสาวกเข้ามาเถียงแน่ๆเรยยยยยยย ^^ จากคุณ : ม่วงโตน - [ 10 ส.ค. 51 13:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แพงก็ซื้อแบบไม่มีกันสั่นสิครับ ^ ^ เขาก็มีออกมาให้เลือกนี่นา... ฝึกมือให้นิ่งดีกว่าหวั่งพึ่งกันสั่นนะครับ ส่วนผม.... แบกขาตั้งครับ ;) จากคุณ : TeMpLaTe - [ 10 ส.ค. 51 14:00:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่ามันทำให้คุณภาพด่อยลงไปนะหลายท่านเวลาถ่ายก็ปิดกันสั่นไว้ผมเคยถ่ายของ PANA เปิดกันสั่นกับปิดกันสั่นพบว่าปิดดีกว่าครับกันสั่นที่เลนให้ผลข้างเคียงน้อยกว่าที่กล้องแต่กันสั่นที่เลนต้นทุนการทำแพงกว่าอุปกรณ์ที่ชิปเลนต้องเล็กและแม่นยำ ผมว่าผมชอบแบบไม่มีกันสั่นมือนิ่งๆภาพสวยกว่าครับ จากคุณ : TM_410 - [ 10 ส.ค. 51 14:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มีใน lens อยู่แล้วนิครับ ... ทำในกล้องอีกก็ซ้ำกัน (คำตอบอนาถมะ?). ผมคิดเอาเองนะไม่รู้ว่า Canon กับ Nikon เขาคิดอย่างไร. ถ้าใส่กันสั่นมาแต่แรก กล้องมันก็จะซับซ้อนขึ้น แพงขึ้น และอาจจะหนักขึ้น ด้วย โดยผู้ใช้ไม่มีโอกาสเลือกเลย. ไม่ใส่มาก็อาจจะเลือกซื้อแต่ body แล้วเลือกเลนส์ที่ไม่มีกันสั่นได้. ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องใช้ :-) [เดาไปเรื่อยเปื่อย] จากคุณ : vee_r - [ 10 ส.ค. 51 14:14:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กล้อง compact ของนิค ก็กันสั่นในเลนส์ *หรือเปล่า?* จากคุณ : vee_r - [ 10 ส.ค. 51 14:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กันสั่น พอกันนะครับ ทั้งที่เลนส์ และกล้อง แต่ที่มันออกมาในรูปนี้ เพราะว่า การออกแบบ การผลิต การตลาด แต่ละ ยี่ห้อ ต่างกันไง ครับ !! เรื่องคุณภาพผมว่า พอ ๆ กัน อ่ะ ครับ จากคุณ : PRUEKPOOm - [ 10 ส.ค. 51 14:24:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 twin action  คืออะไรอะครับ? จากคุณ : vee_r - [ 10 ส.ค. 51 14:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กันสั่นของ Compact ทั้ง Canon และ Nikon เป็นกันสั่นที่เลนส์ครับ มันก็คือระบบ IS และ VR ของทั้งสองค่ายนั่นแหละ ส่วนเรื่อง ว่าถ้ากล้องมีกันสั่น และเลนส์ก็มีกันสั่น จะดีมั๊ย.... อืม... อันนี้ ของ Minolta หรือ  Sony ณ ตอนนี้ เค้าก็ไม่ทำเลนส์กันสั่นนะครับ .... อาจจะยังไม่มีเทคโนโลยี ที่จะนำมาใช้ร่วมกันได้ (หรือ มีแล้วแต่ต้นทุนสูงเกินไป) ตาม คห สอง ผมก็เห็นด้วยนะครับ ว่าเค้าไม่มีความจำเป็นต้องทำ (ไม่ก็เรื่องของ ลิขสิทธิ์ ด้วยมั้ง ) หรือถ้าจะทำ ก็ต้องไปหาวิธีพัฒนาระบบขึ้นมาใหม่ ...เสียเวลา เสียงบ ไปโดยใช่เหตุ เพราะยังไง เค้าก็มีกันสั่นที่เลนส์ อันยอดเยี่ยมอยู่แล้ว และตอนนี้ ทั้ง Nikon และ Canon ก็ออกเลนส์ ติดกันสั่น ราคาประหยัดออกมาให้มือใหม่เลือกใช้แทน หรือถ้าต้องการคุณภาพสูงๆ ก็มีเลนส์ระดับเทพๆ ให้ใช้ด้วย จะเห็นว่า ในกล้องรุ่นใหม่ๆ ของทั้ง Canon และ Nikon ก็จะออกมาพร้อมเลนส์คิท กันสั่นด้วยเลย (แถมขายในราคาไม่สูงกว่าค่ายอื่น ที่มี Body กันสั่นด้วย) ก็เป็นการแก้เกม ทางการตลาดของเค้าแล้วน่ะนะ (อันนี้ผมมั่วๆ นะ) และ เหตุผลสุดท้าย ก็คือ ระบบกันสั่น มีไว้ก็ดี แต่ไม่มีก็ได้ครับ (เหตุผล ก็ ตาม คห 1 น่ะนะ) จากคุณ : นายตัวเล็กจัง - [ 10 ส.ค. 51 15:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เออ อย่าว่างั้นว่างี้เลยครับ ที่นิคกับหนอนไม่ทำกันสั่นในกล้อง มันติดอยู่ที่ เรื่องสิทธิบัตรอ่ะครับ ไม่สามารถลอกเรียนแบบได้ ผมคนนึงที่ใช้ โอลิมปัส และผมเลือกโอลี่เพราะคุณภาพจริงๆ สีที่เที่ยงตรง สกินโทนสมจริง ภาพคมมทั้งภาพ เลนส์คุณภาพดี ไม่ใช่เพราะมีลูกเล่นอะไรมากมาย อีกอย่าง โอลี่ถึงจะเป็นมวยรอง แต่ก็มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยพอสมควร อย่างเช่น ระบบกำจัดฝุ่น ที่ค่ายอื่นไม่สามารถทำได้ดีเท่าโอลี่ ไลฟ์วิว ตอนนี้เห็น หลายๆ ค่ายทำตามยกใหญ่ ที่โอลี่ครองตลาดไม่ได้ก็เพราะ การโฆษณา สู้เจ้าอื่นไม่ได้ ศูนย์บริการอาจสู้เจ้าใหญ่ไม่ได้ แต่อยากบอกว่า ของโอลี่ก็ใช่ว่าจะด้อยคุณภาพ ปล.กล้าทำแบบนี้กับกล้องคุณหรือป่าวล่ะ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 51 16:16:53 แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 51 15:49:52 แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 51 15:48:47 จากคุณ : puritat_jam - [ 10 ส.ค. 51 15:43:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นี่สิของจริง แต่ผมชอบ IS ในกล้องนะ สามารถใช้ได้กับเลนส์มือหมุนเทพๆ ได้หมดเลยอ่ะ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 51 13:10:48 จากคุณ : puritat_jam - [ 10 ส.ค. 51 15:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ สิทธิบัตรกันสั่นมันของminoltaไม่ใช่เหรอครับ แล้วถูกsonyซื้อไป จ้าวแรกที่ทำก็minolta แต่ผมชอบกันสั่นที่เลนส์ครับ มันช่วยให้ภาพนิ่งตั้งแต่ในviewfinderเลย อย่างLiveviewที่หลายๆคนเข้าใจผิดคิดว่าolyเป็นคนทำเจ้าแรกความจริงcanonเค้าทำมาก่อน ก่อนที่E330จะออกอีก รุ่นCanon20Daไง Olyเอาไปโฆษณาน่าตาเฉยว่าเป็นเจ้าแรกในโลก แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 51 16:16:06 แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 51 16:13:33 จากคุณ : adisonx - [ 10 ส.ค. 51 16:11:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ใครที่ใช้ยี่ห้อเดียวกับ 2 ภาพด้านบน  คิดจะลองทำตามดูบ้างไหมครับ จากคุณ : RmD - [ 10 ส.ค. 51 16:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จริงเหรอ ที่บอกว่าคุณภาพไฟส์ของโอลี่สู้ สองค่ายใหญ่ไม่ได้ ขอหลักฐานยืนยันหน่อยจิ จากคุณ : บางระจันวันเพ็ญ - [ 10 ส.ค. 51 16:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 #15 มันจะออกมาเท่แบบในโฆษณาของ Tamron เลยใช่เปล่า? http://www.tamron.com/a20special/tryvc.asp #16 ยี่ห้อเดียวกันไม่กล้าครับ เอา FE-310 ไปล้างๆ คงพังอะครับ -_-! ... ถ้ารุ่นเดียวกันกล้าครับ ซื้อมาแล้วต้องใช้ให้คุ้ม. #12 ขอบคุณครับ ... กล้อง Compact ของ Panasonic ก็เหมือนทำกันสั่นที่เลนส์เหมือนกัน จากคุณ : vee_r - [ 10 ส.ค. 51 16:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ช่วย จากคุณ : โอนิบาคุ - [ 10 ส.ค. 51 16:46:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ระบบ 43 ภาพคมนรกเลยครับ แต่ที่เห็นว่าบางทีภาพจากกล้องบางตัวสู้ไม่ได้เพราะค่าจากโรงงานตั้งระบบลบ Noise มาแรงเกิน ภาพนี้หนึ่งในภาพที่ทำให้รู้ว่าระบบ 43 ของโอลี่สู้ สองค่ายใหญ่ไม่ได้ เหอะๆ http://www.cameralabs.com/reviews/Olympus_E-3/outdoor_results.shtml ยืมคอมเม้น คห5หน่อย "เดี๋ยวต้องมีเหล่าอัครสาวกเข้ามาเถียงแน่ๆเรยยยยยยย ^^" จากคุณ : โอนิบาคุ - [ 10 ส.ค. 51 16:57:28 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สิทธิบัตร Shake reduction ของ Olympus ก็มีอะครับ http://www.google.com/patents?id=WbkOAAAAEBAJ&dq=shake+reduction ของ Minolta ก็มีแต่เหมือนเป็นแบบ lens มั้ง http://www.google.com/patents?id=RokYAAAAEBAJ&dq=shake+reduction+minolta คงมีแบบอื่นๆ ที่ผมหาไม่เจออีก (ไม่พยายามหามากเท่าไหร่) ถ้าน้าๆ มี link ก็เอามาฝากหน่อยนะครับ. แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 51 17:01:35 จากคุณ : vee_r - [ 10 ส.ค. 51 17:00:33 ]

ความคิดเห็นที่ 22 กันสั่น *ที่เลนส์* ใช้กับ *กล้องฟิล์ม* ได้ด้วยหรือเปล่า?  กันสั่นที่ sensor ใช้กับเลนส์เก่าได้ด้วย. เขาเลือกไปสักอย่างก็ได้แล้วมั้ง ที่เลนส์ก็ดีไปอย่าง ที่กล้องก็ดีไปอย่าง ... ติดมาสองอย่างเลยคงตีกันแย่ ... หรือว่ามีเจ้าไหนทำแบบที่กล้องด้วยที่เลนส์ด้วย แล้วเปิดพร้อมกัน? (หมายถึงแบบใช้กลไกนะครับ ไม่ใช่ Digital SR) จากคุณ : vee_r - [ 10 ส.ค. 51 17:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แต่ที่แน่ๆคือของหนอนกะของนิค เลนส์กันสั่น คุณภาพชิ้นเลนส์ การเคลือบผิวเลนส์ ดีกว่ารุ่นเดียวกันแต่ไม่กันสั่นแน่ครับ ราคาก็แพงกว่าเกือบ2เท่า จากคุณ : น้ากล้วย (iamfat) - [ 10 ส.ค. 51 17:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 วิศวกรที่ออกแบบเลนส์ของ nikon เค้าบอกว่า กันสั่นที่เลนส์ ทำงานดีว่ากันสั่นที่ตัวกล้องครับ เลนส์แต่ละตัว ต้องการระบบกันสั่นที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น จึงต้องออกแบบระบบกันสั่นให้เหมาะกับเลนส์ครับ ไม่ใช่ใส่มาในกล้องแล้วใส่เลนส์อะไรก็กันสั่นหมด เค้าว่ามางี้ครับ จากคุณ : Take a Look Around - [ 10 ส.ค. 51 17:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 25 canon nikon เผื่อตลาดโปร ทำที่เลนส์ไปแล้วครับ ลงทุนไปแล้วถอนตัวยาก กล้องที่ีมีตัวรับภาพ 36x24 หรือกล้องถ่ายต่อเนื่องได้ 10 ภาพต่อวินาที มีกันสั่นที่บอดี้ คงดูไม่จืดแน่ครับ อยากเล่นกล้องที่มีตลาดโปรด้วย ต้องทำใจ จากคุณ : WATERBOY R - [ 10 ส.ค. 51 17:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คหที่ 10 ครับ twin action คือผมสมมุติเองครับ คือถ้าเลนส์ก็กันสั่น กล้องก็กันสั่น เป็นกันสั่นแบบ 2 ชั้น มันจะเวิร์คไหม หรือ ถ้าเปิดพร้อมกันอาจจะเละ ภาพล้มก็ได้ บางทีอาจจะต้องมี ระบบ Sync กันสั่นกล้องกับเลนส์เพิ่มขึ้นมาอีกต่างหาก จากคุณ : myst-man - [ 10 ส.ค. 51 17:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตอนนี้อยากได้กัน"สั้น"มากกว่าอ่ะ กิ๊กเล็กกิ๊กใหญ่ชอบบ่น จากคุณ : 9george (ge-or-ge) - [ 10 ส.ค. 51 18:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 28 #26 เคยดูในเว็บมีคนเอาเลนส์ Leica 4/3 ที่มี OIS มาใช้กับ E-520 ที่เปิด กันสั่นทั้งคู่ออกมาอนาถๆ เปิดอย่างเดียวดีกว่า. ไม่เคยเห็นที่เอามา sync กันนะครับ. จากคุณ : vee_r - [ 10 ส.ค. 51 18:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 29 #24 พวกกันสั่นที่ sensor อาจจะใช้ software ช่วยได้หรือเปล่า (ก็ไม่รู้). กล้องกับ lens รู้ตัวมันเองว่าใช้ lens แบบไหนอยู่ ก็อาจจะไปปรับกันสั่นได้? ... (อันนี้ผมก็มั่วๆ เอาเองอะนะ) จากคุณ : vee_r - [ 10 ส.ค. 51 18:19:45 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอโทษด้วยครับ เอากล้องราดน้ำนี่กล้องflagshipยี่ห้อไหนๆในโลกก็ทำได้ครับ ลองsearchหาD3จากในyoutubeสิแค่นี้เด็กๆมากน้อง แล้วก็ลองเอาISO3200ของE3เทียบกับISO6400ของD3 เอาแบบเนื้อๆนะในสภาพการใช้งานจริงผผลการทดสอบจากlabไม่เอา อ้อ!!ถ้าจะเอาผลการทดสอบแบบเชื่อถือได้จริงๆแนะนำให้ดูในdpreviewดีกว่าครับ ทดสอบในcontrol condition รู้สึกE3จะได้แค่เกือบๆHighly Recommandนะ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 51 18:37:14 จากคุณ : adisonx - [ 10 ส.ค. 51 18:35:27 ]

ความคิดเห็นที่ 31 #13 พูดเหมือนโอลี่ทุกรุ่น กันน้ำกันฝุ่น ไม่ใช่ว่ามันได้แค่บางรุ่นเรอะ?  รุ่นบนๆ ของค่ายอื่น เขาก็กันได้เหมือนกันนิ ---------------------------------------------------------------------------- ข้อดีของกันสั่นที่เลนส์ ที่วิศวกรของหนอน หรือนิกร ออกมาตอบ ผมคิดว่าน่าจะเป็นแค่ข้ออ้าง (ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องจริง) สาเหตุที่แท้จริงน่าจะ 1) ติดลิขสิทธิ์ 2) ลงทุนกับระบบกันสั่นที่เลนส์ไปเยอะแล้ว ถ้าไม่ติดสองข้อข้างบน หนอน นิกร เองก็คงอยากลงมาทำกันสั่นที่บอดี้ เพื่อแข่งขันในตลาดระดับล่าง ที่ผู้ซื้อไม่มีปัญญาซื้อเลนส์กันสั่นราคาแพง เช่นเดียวกัน จากคุณ : คาเมะจัง - [ 10 ส.ค. 51 18:39:31 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ของ Fujifilm ที่โฆษณาว่าใช้กันสั่นสองแบบ ผมเข้าใจว่าใช้แบบ กลไกด้วย (ไม่รู้ว่าที่ lens) และใช้การเล่น ISO เอาด้วย เข้าใจว่าในสถานการณ์ส่วนมาก ถึงกันมือสั่นอย่างไร ถ้าวัถตุที่ถ่ายวิ่งไปวิ่งมา ก็ต้องเพิ่มความเร็ว shutter อยู่ดี. กันสั่นที่ sensor ของ olympus ปรับตามความยาว focus ได้ด้วย (เท่าที่อ่านมานะครับ). อันนี้ก็คงปรับให้ SR มันเหมาะกับเลนส์ได้ระดับหนึ่ง http://www.olympus-europa.com/consumer/dslr_16742.htm อ่านเว็บ http://en.wikipedia.org/wiki/Image_stabilization มา ... VR ของ Nikon กับ IS ของ Canon ก็ไม่เหมือนกันอีก :-O.  หรือว่ากันสั่นที่ sensor ของ Minolta กับของ Casio, Ricoh และ(และอื่นๆ) ก็มีเทคนิคต่างๆ กันออกไปอีก -_-' ของ กลุ่มหลังนี้ใช้ DSP คำนวณกันตอนที่ถ่ายภาพเลย ว่าจะขยับ sensor ไปแค่ไหน. ข้อดีข้อเสียที่เขาสรุปออกมาชัดเลยก็คือ แบบที่กันสั่นในเลนส์มันช่วย ให้เห็นภาพใน optical view finder ไม่สั่นไปด้วย (แต่ว่าก็ไม่มีผลถ้าใช้ electronic view finder). แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 51 18:47:27 จากคุณ : vee_r - [ 10 ส.ค. 51 18:45:06 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จขกท. จะทำวิทยานิพนธ์เรื่องกันสั่นหรือเปล่าครับ? ตามๆ ไปอ่านมีคนทำอะไรแนวนี้เหมือนกัน แบบประมาณออกแบบวิธีทดสอบอะไรแบบนั้นอะครับ. เคยดูอีกแบบหนึ่ง อาจารย์เคยเอามาให้ดูอะครับ. แบบถ่ายมาเลยสองรูป รูปหนึ่งเอาแบบที่สั่นๆ มา ... อีกรูปหนึ่งเร่ง ISO เอา (ก็ noise เยอะ) แล้วใช้ software (อาจจะเป็น software ในกล้องก็ได้) เอา 2 รูปมารวมกัน ชัดซะงั้น :-). แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 51 18:54:09 จากคุณ : vee_r - [ 10 ส.ค. 51 18:53:37 ]

ความคิดเห็นที่ 34 กันสั่นที่เซนเซอร์เป็นเทคโนโลยีของมินอลต้าครับ แป้นเองก็ไปซื้อเค้ามา ส่วนนิคกะหนอนนั้นได้พัฒนากันสั่นในเลนส์ไว้นานแล้ว และมันช่วยให้พวกเค้าทำกำไรจากการขายเลนส์ที่มีราคาสูงกว่าได้อีก ใครจะอยากมาทำกันสั่นในบอดี้แล้วเลนส์ตัวเองขายไม่ออกกันล่ะ จากคุณ : chongkho - [ 10 ส.ค. 51 18:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าหนอนกะนิกทำกันสั่นในกล้อง เลนส์กันสั่นเค้าก้อขายไม่ได้สิครับ ... ผมว่าเหตุผลก้อแค่นั้นแหละครับ กันสั่นในไหนดีกว่ากันผมว่ามันเปนอะไรที่ insignificant มากๆ...เถียงกันเพื่อ...สุดท้ายกันก้อกันสั่นได้เหมือนกัน ผมชอบกันสั่นในกล้องเพราะกล้องผมมีกันสั่นในกล้อง เลนส์ขึ้นราโง่ๆยันเลนส์โปรอันละแสนก้อกันสั่นได้ งบไม่บานกะกันสั่นในเลนส์ที่ต้องจ่ายเพิ่มสองเท่า... อันนี้แล้วแต่ความชอบ.... ปล.ผมเองก้อชอบโฟเทิร์ดซิสเต็มครับ.... จากคุณ : Like_a_Heaven - [ 10 ส.ค. 51 19:02:59 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ก็ใช้ขาตั้งกล้องสิครับ..ลงทุนต่างกันกับเลนส์ ผมคนนึงล่ะที่แบกขาตั้งตลอด... ไม่สั่นแน่นอน จากคุณ : เกิดมาเพื่อเป็นหนึ่ง (นางสาวจำเป็น) - [ 10 ส.ค. 51 19:14:29 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โอ้....... โหวต จากคุณ : pipek (yuktoday) - [ 10 ส.ค. 51 19:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ vee_r ความคิดเห็นที่ 33 ไม่ได้จะทำวิทยานิพนธ์หรอกครับ (จบโทมา 10 ปีแย้วววว) แค่อยากรู้เฉยๆนะครับ แต่ใครจะเอาไปทำวิทยานิพนธ์ ก็เป็นการดีเลยครับ แล้วเอามาเผยแพร่ให้ด้วยก็ดีนะ ถ้าเครื่องกันสั่นได้ ใครจะซื้อเลนส์กันสั่น ใช่ครับนี่เป็นเหตุผลพื้นๆ ที่ผมก็คิด ทุกคนก็คงคิดเหมือนกัน แต่ ผมว่า 2 ค่ายนี้กำลังกั๊กกันอยู่ ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทนไม่ไหว ออก body กันสั่นออกมา (แบบยอมแล้วว่าเลนส์กันสั่นตนเองจะขายไม่ออก) เช่น สมมุติว่า D90 เป็น body แบบกันสั่น ใช้เลนส์ธรรมดาก็กันสั่นได้ ถึงแม้ว่าจะทำให้เลนส์กันสั่นตนเองขายไม่ออก แต่มันจะทำให้ หนอนทั้งเลนส์กันสั่น ไม่กันสั่น และbody ขายไม่ออกด้วยเพราะคนมาใช้นิคกันหมด เพราะไม่ต้องไปลงทุนกับเลนส์กันสั่นแพงๆอีก แค่ลงทุนครั้งเดียวก็กันสั่นตลอดชีพเลย พอหนอนยอดขาย body น้อยลง ก็ต้องหันมาทำ body แบบกันสั่นบ้างเพราะคนอาจจะย้ายค่ายหมด ถึงแม้เลนส์ IS ตนเองจะขายไม่ออก แต่ดีกว่าเสียทั้งระบบ (เอาเลนส์ IS มาลดราคาให้กล้องรุ่นเก่า เดี๋ยวของก็หมด คนรอช้อนซื้อมากมาย) อีกตัวอย่างนึง ถ้า Fuji ที่ใช้เลนส์ mouth นิค ทำ body กันสั่นออกมา น่าจะเป็นตัวอย่างทำให้ 2 ค่ายใหญ่กระเทือนได้ อยู่ที่ค่ายไหนจะมองเห็นช่องทางก่อนระหว่าง 2 ค่ายนี้มากกว่า ถ้าทำกันสั่นเร็วอีกค่ายก็กระเทือนแน่นอน **** ยกเว้นว่า 2 ค่ายนี้เขาจะฮั้วกันนะ ว่าร่วมกันไม่ทำกันสั่นในเครื่อง  จบ จากคุณ : myst-man - [ 10 ส.ค. 51 20:10:16 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณคุณ pipek (yuktoday) ความคิดเห็นที่ 37 ที่โหวตให้ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเป็นกระทู้แนะนำสักที จากคุณ : myst-man - [ 10 ส.ค. 51 20:12:01 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สรุปจากความคิดตัวเองอีกที "ถ้าหนอนกะนิกทำกันสั่นในกล้อง เลนส์กันสั่นเค้าก้อขายไม่ได้สิครับ" แต่ถ้าทำ มันจะทำให้อีกค่ายขายไม่ได้เลย (ไม่รู้พูดเกินไปหรือเปล่า) จากคุณ : myst-man - [ 10 ส.ค. 51 20:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ทำไปแล้วนี่นา จะมาเริ่มใหม่ ผู้ใช้ก็ด่าทอกันตรึมสิครับ ผมว่ากันสั่นในเลนส์แล้วมาสั่นในกล้องอีก ทำให้ภาพน่าจะผิดปกติ ระดับ canon คงทดสอบแล้วเพื่อปิดจุดอ่อนตัวเอง แล้วได้ผลว่ายังไม่ถึงเวลา จากคุณ : ^^" (AVSystem) - [ 10 ส.ค. 51 20:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คนจะย้ายค่ายมากมายเพราะกันสั่นไปอยู่แถว sensor แทนที่จะเป็นเลนส์ หรือเปล่าผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่. เท่าที่ดู lens ของ Nikon (ที่ fotofile นะครับ)  AF-S 55-200 DX มี VR หรือไม่มีราคาต่างกันเพียง 2600 บาท หรือคิดกับราคากล้องแล้วก็ประมาณ 18% ... (แต่ก็นั้นล่ะ ตัวอย่างที่ผมเลือกมาก็อาจจะไม่ดี). กรณีที่ใช้กันสั่นบน sensor จะถูกกว่าแบบเห็นได้ชัดก็คง ต้องเป็นคนที่ใช้เลนส์ tele เยอะ เหมือนกัน? ถ้าเป็น prime lens เอามาถ่ายคนใกล้ๆ หรือแม้แต่ wide angle lens ที่เอาถ่าย landscape มีกันสั่นหรือเปล่าก็คงไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ *หรือเปล่า?*. Fujifilm S5 Pro น่าสนใจจริงๆ แต่ประเด็นก็อาจจะไปอยู่ที่ SuperCCD SR และการปรับสีของ image engine มากกว่าเรื่องกันสั่น?  ส่วนตัวผมแล้ว AF Assist lamp หรือ liveview มีความสำคัญมากกว่า กันสั่นที่เลนส์ หรือ ที่ sensor อะครับ (ไม่รู้คนอื่นคิดยังไง). แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 51 21:11:17 จากคุณ : vee_r - [ 10 ส.ค. 51 21:09:39 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ผมรอ อัครสาวก ครับ จากคุณ : fete - [ 10 ส.ค. 51 21:33:05 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่จำเป็นสำหรับทุกคนรึว่าทุกสถานการณ์หรอกคับกันสั่นเนี้ย จะมีไปทำไมสู้ฝึกถ่ายให้นิ่งๆดีกว่า เรื่องกันสั่นเอาไว้หลังๆเหอะ ยังไงก้อรัก C แต่บ้างครั้งก้อยืม N ของเพื่อนอิอิแต่ O นี้ดูยังไม่รู้ผมว่า จากคุณ : เล่งฮู้ - [ 10 ส.ค. 51 23:21:10 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เพราะว่าระบบกันสั่นมันบอบบาง และมีโอกาสเสียง่ายกว่าไงครับ โดยทั่วไปเลนซ์มีอายุยาวนานกว่ากล้อง ซึ่งเต็มไปด้วยกลไกและอุปกรณไฟฟ้ามาก Canon กะ Nikon ซึ่งเก่งการตลาดเลยบอกว่า งั้นผมขอเอาระบบนี้ใส่ที่เลนซ์ โดยฉพาะรุ่นโปรดีกว่า จะได้เพิ่มโอกาสการเสียหายมากขึ้น และก็ลูกค้าจะได้ซื้อเลนซ์แพงๆ ใหม่เรื่อยๆ Minolta Olympus และ Pentax ซึ่งเห็นอกเห็นใจลูกค้ามากกว่าเลยบอกว่า ตอนนี้เทคโนโลยีไปเร็ว ทั้ง image sensor และอื่นๆ ยังพัฒนาต่อไปได้เรื่อยๆ และกล้องเปลี่ยนรุ่นบ่อยกว่าเลนซ์มากๆ เอากันสั่นไว้ในกล้องละกัน ถ้ากันสั่นเสีย ซ่อมแพงไป ลูกค้าก็เปลี่ยนแค่กล้อง ซึ่งก็ต้องเปลี่ยนเรื่อยๆ อยู่แล้ว  ส่วนเลนซ์มันไม่ค่อยมีอะไรให้เสีย สู้ทำออกมาทนๆ ลูกค้าใช้ได้นานๆ ดีกว่า การติดตั้งระบบกันสั่นในเลนซ์ รังแต่จะยิ่งเพิ่มโอกาสการเสียหายให้เลนซ์ ก็เลยออกมาเป็นแบบที่เห็นไงครับ จากคุณ : silane - [ 10 ส.ค. 51 23:41:27 ]

ความคิดเห็นที่ 46 โดยส่วนตัวจะมีกันสั่นหรือไม่ ไม่ได้เป็นปัจจัยในการเลือกซื้อกล้องครับ มันมีคุณสมบัติอื่นๆของกล้องอีกที่ทำให้ผมเลือกกล้องอันนั้น และสุดท้ายก็ขึ้นกับความชอบในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ครับ เช่น อย่างผมไม่ชอบแบกขากล้องก็เลยชอบกันสั่น(โดยเฉพาะtele เพราะรู้ว่าถึงมีขาตั้งกล้องก็เก็บไว้ที่บ้านอยู่ดี) ผมชอบสีสรรของภาพและcontrast รวมถึงfeelingการควบคุมของนิกรก็เลยเลือกค่ายนี้ครับ เรื่องกันสั่นอยู่ที่ไหนไม่เคยเข้ามาเป็นตัวพิจารณาเลยครับ และผมว่าทั้งนิกรและหนอน เขาตระหนักในจุดนี้ดี ว่าลูกค้าของเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับfeatureนี้ครับ เพราะส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่ใช้กล้องมานานแล้วตั้งแต่ยังไม่มีกันสั่น ส่วนแบรนด์อื่นๆ เนื่องจากเป็นแบรนด์ใหม่(หรือเป็นแบรนด์เก่าแต่public imageต่อแบรนด์ยังไม่ดีเท่าสองแบรนด์หลัก เนื่องจากปัจจัยทางการตลาดหรือศูนย์บริการก็ตามแต่) อาจจะอยากได้ตลาดที่เป็นbeginnerที่ไม่ค่อยรู้เรื่องกล้องเท่าไหร่เข้ามาเป็นฐานลูกค้าให้ตัวเองครับ (ผมไม่ได้บอกว่าจะไม่มีคนที่loyalต่อbrandอื่นๆนะครับแต่ก็คงน้อยกว่าสองแบรนด์หลัก) ดังนั้นคนที่เป็นbeginnerน่าจะมองหาคือเหมือนคนทั่วไปมอง คือเป็นกล้องที่ให้featureมากที่สุดในราคานั้นๆโดยที่ไม่ต้องหาซื้อfeatureอื่นๆเพิ่มเติม(ซึ่งเป็นมุมมองของความคุ้มค่าของเขา) เพราะเริ่มต้นอาจจะไม่อยากเสียเงินมากกับงานที่เป็นงานอดิเรก ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไรครับ ในขณะที่น้าคนอื่นๆก็อาจจะมีเหตุผลต่างๆกันไป รวมทั้งมองปัจจัยในกระเป๋าด้วยครับว่าตนเองมีกำลังแค่ไหน โดยสรุปผมว่ามองว่ากันสั่นเป็นเพียงoptionหนึ่งของสินค้าเพื่อให้แบรนด์ตัวเองมีความแตกต่างกันครับ เพื่อแยกตลาดลูกค้าของตัวเองให้ชัดเจนครับ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 51 00:24:46 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 51 00:22:11 จากคุณ : Leofish - [ 10 ส.ค. 51 23:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ^ ^ ^ (^ ^") โดนใจโจ๋จริงๆ จากคุณ : Like_a_Heaven - [ 10 ส.ค. 51 23:55:17 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ระบบ 43 ภาพคมนรกเลยครับ แต่ที่เห็นว่าบางทีภาพจากกล้องบางตัวสู้ไม่ได้เพราะค่าจากโรงงานตั้งระบบลบ Noise มาแรงเกิน ภาพนี้หนึ่งในภาพที่ทำให้รู้ว่าระบบ 43 ของโอลี่สู้ สองค่ายใหญ่ไม่ได้ เหอะๆ http://www.cameralabs.com/reviews/Olympus_E-3/outdoor_results.shtml ยืมคอมเม้น คห5หน่อย "เดี๋ยวต้องมีเหล่าอัครสาวกเข้ามาเถียงแน่ๆเรยยยยยยย ^^" จากคุณ : โอนิบาคุ  - [ 10 ส.ค. 51 16:57:28 ] โอววววววววววววววววว สู้ไม่ได้จิงๆคับ 555 จากคุณ : CraZyBMW - [ 11 ส.ค. 51 00:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ^ ^ สรุปถ้าจะเล่นไม่เลิก หากอย่างนั้นก็ดูreviewที่นี่ครับ แล้วก็เทียบเอาเองละกันว่าwebไหนมันได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของuserมากกว่ากันครับ ในการreview ภาพที่เป็นRaw E-3ไม่สามารถเทียบได้ทั้งนิกร(D300)และหนอน(40D)เลยครับ ส่วนหากจะเถียงเรื่องjpegว่าชัดกว่า ไม่ว่าทั้งนิกรหรือหนอนก็ทำให้คมได้ครับโดยการตั้งค่าprocessในกล้องแค่นั้นเอง เพียงแต่ค่าstandardที่มันตั้งไม่ให้คมมาก เพราะภาพที่ได้มันขาดความเป็นธรรมชาติครับ ดังนั้นค่าที่เป็นfile rawของภาพที่ยังไม่ได้ตกแต่งใดๆน่าจะบอกศักยภาพของกล้องได้ดีกว่าครับ http://www.dpreview.com/reviews/olympuse3/page29.asp http://www.dpreview.com/reviews/olympuse3/page30.asp หากจะเปรียบเทียบspecตัวต่อตัวแล้วก็ยังแพ้D300อยู่ดีครับ http://www.dpreview.com/reviews/olympuse3/page29.asp นี่ขนาดเทียบรุ่นtopของoly กับรุ่นกลางของสองค่ายหลักผลยังออกมาอย่างนี้นะครับ ดังนั้นไม่ต้องไปเทียบกับรุ่นtopของนิกรและหนอนเลยครับ เทคโนโลยีมันคนละเรื่องครับ ที่ค่ายหลักเป็นที่นิยมกว่าก็เพราะเขาตอบโจทย์ที่ว่าอะไรคือสิ่งที่คนรักการถ่ายภาพต้องการได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นระบบcreative lightingของนิกรที่ฉลาดจนuserแทบไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้มากมาย ความสามารถในการใช้ร่วมกับอุปกรณ์หรือlensอื่นๆที่มีให้เลือกมากกว่า ความสามารถให้การปรับแต่งกล้องให้เข้าตามแต่สไตล์ของช่างภาพแต่ละคน สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญกับคุณภาพของภาพที่ได้ มากกว่าระบบกันน้ำ หรือระบบกันสั่นครับ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 51 04:07:17 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 51 03:26:20 จากคุณ : Leofish - [ 11 ส.ค. 51 03:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณ คุณ Leofishสำหรับข้อมูลดีๆมีประโยชน์กับเพื่อนๆครับ โฮ้ย...E3ปลายปีราคาลงอีกหน่อยเถ้อ...แง่มๆๆๆๆ E3:กล้องทนไม้ทนมือ ทนสภาวะอากาศ มีlive viewถ่ายสนุก มีกันสั่นที่bodyปลุกชีวิตเลนส์โบราณๆทั้งหลายมากันสั่นได้ และสำคัญที่ราคาไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงกว่า เลนส์ก็มีครบช่วง ส่วนเทคโนโลยี-เทคนิค-ช่างกลอาราย ผมไม่รู้ ก็ผมใช้แต่Mode Mอย่างเดียวแหะๆ.. แค่นี้ก็ตอบโจทย์Beginnerอย่างผมแล้วก้าบ....เมื่อวานงานซ้อมใหญ่ มธ.เห็น E500 + 35-100 /f2แล้วมันได้ใจจิงๆ....จบแระ ไม่ตรงหัวข้อกระทู้เลย อุอุ จากคุณ : เงินออกต่างประเทศทั้งน้าน..... (OlyLeeds) - [ 11 ส.ค. 51 07:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 51 สาวก C กะ D บางท่านเถียงได้ Make Sense สุดๆ เลยครับ ฮาเกือบตกเก้าอี้ :) จากคุณ : Dont Be Serious - [ 11 ส.ค. 51 09:40:35 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ดูแล้วคงจะปิดไม่ลงง่ายๆ นอกประเด็นกันไปใหญ่แล้ว เหอะๆ ที่จริง จขกท. ต้องการคำตอบว่าทำไม ในนิคกับหนอน ทำกันสั่นที่เลนส์ หวังว่าคงได้คำตอบแล้วนะครับ เอาเถอะๆ มันก็กล้องเหมือนกัน ถ่ายออกมาได้รูปเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน เอ๊ะ งง... จากคุณ : puritat_jam - [ 11 ส.ค. 51 09:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อ่านซะมันส์เลย แต่ให้เอากล้อง มารองน้ำจากก๊อก ถึงแม้กันน้ำได้ แต่กระผมก็ไม่ทำ กลัวๆๆๆๆ จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ - [ 11 ส.ค. 51 10:06:40 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เรื่องทำท่าจะไปยาวแล้วนะเนี่ย  จริงๆแล้วที่ หนอนกับนิค ไม่ทำกันสั่นที่ CCD ก็คงกลัวขายเลนส์กันสั่นไม่ออกน่ะแหร่ะ มันไม่มีไรมากหรอก คนซื้อกล้องตัวนึง ซื้อเลนส์อีกหลายตัว เลนส์กันสั่นๆหลายตัวๆแพงกว่ากล้อง ซะอีก จะโง่ทำทำใน CCD ทำมัยเล่า กำไรเห็นๆ หุๆ          ส่วนตัวผมไม่มีกันสั่น ทั้งเลนส์ทั้งกล้องก็ยังถ่ายรูปได้เป็นปกติ ไม่เดือดร้อน 555 คห.16 ผมกล้าลองตามแบบด้านบนครับ จากคุณ : GEARSOLID - [ 11 ส.ค. 51 10:25:12 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ทำไม New Altis กับ New Civic ไม่ติดNGVมาจากโรงงาน เหมือนเชฟโรเรตน๊า อ้าว ไม่เกี่ยวกันเหรอ จากคุณ : DUB-COOK - [ 11 ส.ค. 51 10:44:05 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่มีใครยอมใครเลย 55+ เป็นผมถ้ามีตังก็เล่น Oly ครบเซ็ตครับ เพราะชอบในสีสัน มีตังไม่มากผมจะเล่น C , D เพราะอุปกรณ์ราคาพอคบหาได้ ซื้อขายแลกเปลี่ยนง่ายครับ จบ... จากคุณ : Anti_Shake - [ 11 ส.ค. 51 11:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 57 กันสั่นในเลนส์ VS กันสั่นในCCD มาดูผลกันครับ http://www.cameralabs.com/reviews/OlympusE510/Olympus_E510_with_Leica_14-50mm.shtml จากคุณ : ~bytebird~ - [ 11 ส.ค. 51 12:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 58 อิ อิ .. ซื้อ E3 ก็เพราะเรื่องกันเขย่าไว้ใช้กับเลนส์เก่าๆ OM united จากคุณ : Spycam - [ 11 ส.ค. 51 13:02:27 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ทำไมคนทำงานที่ honda กลับใช้รถ toyota ล่ะ แล้วคนทำงาน toyota กลับใช้รถ nissan  ล่ะ  เง้อ....... จากคุณ : yugyun - [ 11 ส.ค. 51 13:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คห.49 ครับ อันนี้ผมว่าต้องมองปัจจัยเรื่องราคาด้วยนะครับ แต่ละรุ่นราคาก็ไม่เท่ากันนะจ๊ะ...และอีกอย่างเลนส์ก็เหมือนกัน  ถ้าจะเทียบช่วงและรูรับแสงรวมทั้งคุณภาพเนื้อเลนส์ให้ได้เท่าเกรดเดียวกันของแต่ละยี่ห้อ  ปัจจัยตัวแปรทำให้ราคาเปลี่ยนไปมาบวกลบไม่เท่ากันเยอะนะครับ ฯลฯ คห.55 ถ้าเข้าใจไม่ผิดน่าจะเป็นแบบดูด มะช่ายหัวฉีดนะครับ  ติดรง.เป็นอย่างไรไม่ทราบ  แต่ถ้าเอามาติดเอง  ผู้ที่ใช้แบบหัวฉีดจะปลื้มกว่าแบบดูดขอรับ อันนี้ขอเสริมนะจ๊ะ จากคุณ : คมหอม - [ 11 ส.ค. 51 14:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 61 >>อย่างLiveviewที่หลายๆคนเข้าใจผิดคิดว่าolyเป็นคนทำเจ้าแรกความจริง>>canonเค้าทำมาก่อน ก่อนที่E330จะออกอีก รุ่นCanon20Daไง Olyเอา ไป >>โฆษณาน่าตาเฉยว่าเป็นเจ้าแรกในโลก ผมว่าเรื่อง live view มันจบไปตั้งนาน หลายกระทู้แล้วนะ ว่าเป็นของ oly ลองไปค้นดูประวัติเก่าๆนะ liveview ตัวแรกของโลก เเป็น olympus E10 หรือไงนี้ ซึ่งออกมาแรกๆ ไม่ค่อย work  ส่วน canon 20Da มาทำตามที่หลัง oly อยู่ดีครับ ซึ่งก็ไม่ work เช่นกัน แต่ที่ว่า E330 เป็น liveview ตัวแรกของโลกก็เพราะ เป็นระบบ Liveview E330 นั้น สมบูรณ์แบบตัวแรก ใช้งานได้โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ จึงยกให้ E330 รุ่นนี้เป็นตัวแรกของโลก นะครับ จากคุณ : .. (kongsoft) - [ 11 ส.ค. 51 14:30:46 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สำหรับเรื่องกันสั่น ผมไม่แน่ใจว่ากันสั่นที่ตัวกล้องกับที่เลนส์ ให้ผลต่างกันมากไหม เพราะทางแต่ละฝ่ายก็บอกว่าของตนเองดีกว่า แต่คิดว่าในลักษณะการใช้งานจริงๆไม่น่าจะหนีกันมากนัก น่าจะช่วยได้ใกล้เคียงกัน ผมใช้ 400d ผมก็อยากให้ค่าย canon ทำกันสั่นที่กล้องเหมือนกันครับ เพราะเลนส์ IS ของ canon มีราคาสูงทั้งนั้น ยกตัวอย่างง่าย Canon55-250IS ราคา 9 พันกว่า เทียบกับ zuiko 40-150f3.5-4.5 แล้ว ราคาพอๆกัน ผมว่า Zuiko ชนะขาดเลยทั้งในแง่ ความคมใสและวัสดุความทนทาน แต่ ถ้า 55-250 ถ้าตัดระบบ IS ออกไป ผมว่าน่าจะราคาพอๆกับ Sigma70-300 ก็น่าจะเหมาะสม ซึ่งมันทำให้เลนส์ IS มีราคาแพงเกินไปหน่อย แต่ถ้ามีกันสั่นที่ตัวกล้อง จะทำให้ประหยัดให้กับผู้บริโภคเป็นอย่างยิ่งครับ แต่ถ้าสามารถนำระบบสั่น มาใช้ร่วมกันได้ ก็น่าจะดีไม่น้อย จากคุณ : . (kongsoft) - [ 11 ส.ค. 51 14:55:47 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เข้ามาลงชื่อด้วยคน อิอิ ตอบ จขกท. นะครับ ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องการตลาดที่ขายจุดเด่นของตัวน่ะครับ คงไม่มีอะไรอื่นหรอก ตอบคนอื่นๆ ผมพอใจในสิ่งที่ผมมีอยู่ แล้วจะให้มันให้คุ้มค่ากับคุณสมบัติของมันเท่าที่จะสามารถทำได้ครับ และผมชอบโอลี่เพราะด้วยสีที่ผมชอบ อะไรมันจะด้อย จะเทียบอะไรกับใครไม่ได้ ผมก็ไม่สนหรอกครับ เรื่องของอุปกรณ์เนี่ย คนเรามันเริ่มต้นไม่เท่ากัน มีงบและโอกาสไม่เท่ากัน แต่มันอยู่ที่การถ่ายทอดออกมามากกว่าครับ ผมให้ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญกว่า ต่อให้อุปกรณ์เลิศหรูแต่ใช้ไม่คุ้มกับมัน ต้องมากังวลโน่นนี่ สู้ใช้อะไรที่มันเหมาะกับตัวเราดีกว่ามั้งครับ เอาที่เราใช้แล้วมีความสุขไปก็พอ จากคุณ : Nettyna - [ 11 ส.ค. 51 15:00:11 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ตอบเจ้าของกระทู้นะครับ คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องการตลาดเป็นหลักครับ เหตุผลที่ว่าอะไรดีกว่าอะไร ผมว่าเป็นเหตุผลที่เอามาอ้างเพื่อดันสินค้าตัวเองทั้งนั้นอ่ะครับ ส่วนเรื่องว่า ไฟล์อะไรดีกว่าอะไร อย่าไปเทียบกันเลยคร้าบบ ชอบอะไรก็ซื้อ แล้วก็ใช้ไปให้คุ้มเท่านั้นแหละ ดีที่สุดแล้ว แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 51 16:06:51 จากคุณ : yutei - [ 11 ส.ค. 51 15:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 65 หนังเรื่องยาวเลย จากคุณ : Allterrain - [ 11 ส.ค. 51 16:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เถียงกัน จบไม่จบ เงินไปอยู่ญี่ปุ่นอยู่ดี มียี่ห้อไหนทำกล้องรุ่นที่ีมีระบบมุมมอง ระบบจินตนาการ ระบบเทคนิคการถ่ายระดับเทพ มาด้วยเลยมั้ยครับ จะได้ไม่ต้องเซียนกันในเรื่องสเปกกล้อง จากคุณ : nanokacha - [ 11 ส.ค. 51 16:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เทพระดับ 1 อยู่เพียบเลยนะครับ ฮา... จากคุณ : WATERBOY R - [ 11 ส.ค. 51 16:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขอแจมด้วยคน ขำๆ อย่าไปซีเรียสเลยยยยพี่น้องงงงงงงงงงงง เครดิตให้เจ้าของภาพ คุณยุหะ จากคุณ : แม่ไอ้ฟู - [ 11 ส.ค. 51 19:37:39 ]

ความคิดเห็นที่ 69 จ้าก!!!คุณพี่ทางขวา E500ไม่ใช่เรอะ เด๋วกล้องเป็นหวัดน้า จากคุณ : OlyLeeds - [ 11 ส.ค. 51 20:05:54 ]

ความคิดเห็นที่ 70 จ.ข.ก.ท. เพียงแค่ถามว่าทำไมหนอนกับนิค ไม่ทำdslrทีมีกันสั่น ไม่ใช่เหรอครับ หงัยกลายเป็นเรื่องอื่นไปได้   "แม่ไอ้ฟู"ครับ ช่วยบอกให้เจ้าของกล้องทางด้านขวา หายาพาราฯใส่กล้องด้วยนะครับ นั่นมัน E-500 ไม่ใช่เหรอครับ กล้าเนอะ จากคุณ : spkjmd - [ 11 ส.ค. 51 21:10:21 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เลนส์ที่ติดอยู่กับ E3 ข้างนังโจรก็แอบเนียนใช่หรือเปล่าน้อ จากคุณ : Nettyna - [ 11 ส.ค. 51 21:15:47 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ู^ ^ ^ จิ้มทะลุไป คห.27   กิ๊กไหนบ่น??? กิ๊กนี้ไม่เคยบ่น อย่าร้อนตัวดิคุงป๋า _______________________________________________ ขออภัยที่นอกเรื่องนะค๊าบบ เชิญถกกันต่อด้ายยยย ว่าแต่ จขกท. ได้คำตอบมั่งยังเนี่ย??? ปล. เถียงกันให้ตายเงินใครเงินมันอยู่ดี สุดท้ายที่สำคัญก็คนหลังกล้องนั้นแหละคับ จากคุณ : DeE dEe - [ 11 ส.ค. 51 22:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เรา ๆ ท่าน ๆ กะลังเถียงถันแต่เจ้าของบริษัทตอนนี้กะลัง v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v จากคุณ : TECHNO_FEVER - [ 11 ส.ค. 51 23:31:00 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ผมกะลังหาวิธีดูดเงินที่มันไหลออกนอกประเทศกลับมาจนหัวหงิก เฮ้ออ..คิดเท่าไหร่ก้อคิดไม่ออก -*- จากคุณ : Thai Brand,World Class Quality (เสือต้าน) - [ วันแม่แห่งชาติ 02:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เข้าใจว่าจขกท.เค้าถามเรื่องกันสั่นนะ ไม่ใช่กันน้ำ เลอะเทอะไปกันใหญ่แล้ว ตอบจขกท. ผมก็เข้าใจอย่างเดียวกะน้าล่ะครับ ถ้าออกกันสั่นมาในกล้องล่ะก็ ไม่ต้องขายเลนส์กันสั่นกันพอดี แต่ถ้าถามคนใช้ (จะถามคนขับรถ ยาม หรือแม่บ้านด้วยก็ได้) ผมว่าคนใช้ก็คงอยากจะให้ใส่มาในกล้องแน่ๆล่ะครับ ส่วนจะใช้ไม่ใช้ก็อีกเรื่อง จากคุณ : kk - [ วันแม่แห่งชาติ 04:16:49 A:125.24.168.38 X: ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอเลอะเทอะต่ออีกนิดนะครับ ต่อเรื่องดูดเงินนอกของคุณเสือต้านครับ ผมว่าไทยเรามีจุดแข็งด้านงานฝีมือ มาผนวกกับทิวทัศน์สถาปัตยกรมไทยและทิวทัศน์ บวกกับฝีมือตา(บ้า)กล้องในไทยมากมาย ผมว่าเรามาทำกรอบรูปติดบ้านฝรั่ง ใส่กรอบHandmakeใหญ่ซักเมตรนึง แล้วลงWebเป็catalog onlineขายดีกว่า....ไม่ต้องkeep inventory แถมช่วยการท่องเที่ยวอีกต่างหาก (แอบโฆษณาแฝง E1 5MPยังล้างรูปขยายได้เป็นเมตรเลยนา) จากคุณ : ถ่ายไม่เก่งแต่จะพยายาม (OlyLeeds) - [ วันแม่แห่งชาติ 08:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 77 โต ซะเปล่า จากคุณ : Angryman - [ วันแม่แห่งชาติ 17:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ทำไมต้อง เอากล้องไปตากฝน อาบน้ำ คลุกฝุ่นกันด้วยนะ ที่จริงน่ะ โอเคว่ามันยังดีอยู่ แต่ สภาพอย่างนั้น ถ้าใช้จริงมันจะดีเหรอครับ สมมติว่า กล้องคุณฝุ่นเขรอะ ไม่เช็ดออก ไปเจอน้ำ เป็นโคลน คุณจะจับกล้องแบบนั้นถ่ายเหรอ สุดท้าย ก็ต้องเช็ด ทำความสะอาดออก แล้วค่อยใช้ ส่วนเรื่องกันสั่น ผมไม่รู้ ผมใช้กล้องฟิล์ม น้ำหนักมันมาก ไม่ค่อยสั่นเท่าไหร่ ถ้าไม่ไหวก็ แบกขาตั้ง จากคุณ : Komeks (Komeks) - [ 24 ส.ค. 51 13:31:08 ]

ความคิดเห็นที่ 79 แล้วไอ้รูปกล้องเปียกน้ำต่าง ๆ นา ๆ ของโอลี่นี่มันไม่เป็นการค้ามากกว่า IS VR อีกเหรอครับ อรรถประโยชน์ของการกันน้ำมันสูงขนาดนั้นเลยเหรอ โอกาสที่ตัวกล้องจะถูกน้ำในระดับนั้น มันมีกี่ % กันเชียว จากคุณ : Capo - [ 26 ส.ค. 51 14:59:46 ]