ความคิดเห็นที่ 1 วัดใหญ่ชัยมงคล หลายๆ คนก็คงเคยไปมาแล้ว วัดใหญ่ชัยมงคล เดิมชื่อวัดป่าแก้ว หรือ วัดเจ้าไท ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะพระนคร จุดเด่นของวัด ได้แก่ เจดีย์องค์ใหญ่ที่เชื่อกันว่า ได้รับการปฏิสังขรขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด นอกจากนี้แล้ว ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2544 ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นที่พำนักของ สมเด็จพระวันรัตน์ ผู้เป็นพระเถระที่สมเด็จพระนเรศวรทรงให้ความเคารพ ในครั้งที่ทรงกระทำยุทธหัตถี ชนะพระมหาอุปราชของหงสาวดี สมเด็จพระนเรศวรทรงกริ้วต่อบรรดาแม่ทัพนายกองที่ตามทัพไม่ทัน ทรงดำริจะลงพระราชอาญาประหารชีวิต แต่สมเด็จพระวันรัตน์ได้ทูลขอพระราชทานชีวิตของแม่ทัพนายกองเหล่านั้นไว้ โดยยกเอาพุทธประวัติตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะบำเพ็ญเพียรอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ต้องผจญมารอยู่โดยลำพัง เปรียบเสมือนกับสมเด็จพระนเรศวรที่ต้องทรงกระทำยุทธหัตถีโดยลำพัง และได้ทูลแนะนำให้ทรงสร้างเจดีย์ใหญ่ขึ้นแทนการประหารชีวิต สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นด้วยและทรงให้สร้างพระเจดีย์ใหญ่ขึ้น ชื่อว่า พระเจดีย์ชัยมงคลประมาณ พ.ศ. 2135 มีความสูง 1 เส้น 1 วา เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาจนทุกวันนี้ จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 21:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พระพุทธไสยาสน์ในวิหารหลวงอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระอุโบสถ ติดกับกำแพงวัด เข้าใจว่า เดิมน่าจะสร้างขึ้นเป็นทำนอง พระที่นั่งทรงธรรม มากกว่าจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป เพราะภายในไม่ปรากฏว่ามีฐานชุกชีสำหรับตั้งพระพุทธรูป ...พระนอนในวิหารนี้ ไปทีไร ไม่เคยถ่ายได้แบบโล่งๆ เลย มีคนเต็มไปหมดทุกที ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่เจอคนน้อยมาก จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 21:55:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนถ่ายรูปนี้เห็นพระอาทิตย์อยู่ตรงยอดเจดีย์พอดี พอถ่ายรูปเสร็จ มาดูรูป ก็ตั้งใจไว้เลยว่า จะทำให้เป็นสีแดง อารมณ์ประมาณวัดนี้ เคยโดนเผาทำนองนั้นอ่ะค่ะ จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 21:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พระนอนองค์เล็กๆ อยู่ด้านข้างเจดีย์ รูปนี้ บอกตรงๆ ว่า ใช้ 10-20 ถ่าย กะจะให้ได้มุมแบบหม่อมป้ากำปงพิรามหาเทวี แต่ไม่ได้มุมที่พอใจ เลยครอปจัดองค์ประกอบนิดหน่อยค่ะ จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 21:56:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ออกจากวัดใหญ่ชัยมงคล น้าโอ๋ก็บอกว่าจะพาไปทีนึง แต่นึกชื่อไม่ออก สักพักป้าแหม่มบอกว่า อยากไปปราสาทนครหลวง น้าโอ๋เลยบอกว่า นั่นแหล่ะ ที่จะพาไป คราวนี้ก็มองหาป้ายบอกทางกันใหญ่ เจอป้าย อ.นครหลวง รถก็แล่นเลยไปซะแร้ว ต้องค่อยๆ ถอยกลับมา แถมทางที่เข้าไปก็มีแต่โรงปูน ไม่มีวี่แววจะเป็นปราสาทนครหลวงเลย ฉันเลยสงสัย จะพาไปโรงปูนนครหลวง หรือปราสาทนครหลวงกันแน่หว่า แต่ในที่สุด น้าโอ๋ก็พาพวกเราไปถึงปราสาทจนได้ค่ะ จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 21:57:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ปราสาทนครหลวง เดิมเป็นตำหนักที่ประทับของกษัตริย์ในระหว่างเสด็จไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรี และเป็นที่ประทับแรม ในระหว่างเสด็จไปลพบุรี สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าทรงธรรม แต่มาสร้างเป็นที่ประทับก่ออิฐถือปูนในสมัยพระเจ้าปราสาททอง เมื่อพ.ศ.2147 พระองค์โปรดให้ช่างถ่ายแบบมาจากปราสาทศิลาที่เรียกว่า“พระนครหลวง”ในกรุงกัมพูชา นำมาสร้างใกล้กับวัดเทพจันทร์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติที่ได้กรุงกัมพูชากลับมาเป็นประเทศราชอีก แต่สร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ด้วยประการใดไม่ปรากฏ ต่อมาจึงมีผู้สร้างมณฑปและพระบาทสี่รอยขึ้นบนปราสาทนี้ ส่วนตำหนักที่สร้างอยู่ข้างปราสาทนี้ได้ปรักหักพังไปหมดแล้ว จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 21:58:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พระพุทธรูปที่อยู่บริเวณซุ้มของระเบียงรอบปราสาทนครหลวง รูปนี้ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะถ่าย แต่ป้าแหม่มบอกว่า อยากถ่ายให้ได้แฟลร์เป็นเส้นหลายๆ สี เลยลองถ่ายให้ป้าแหม่มดู ว่าแบบนี้เหรอ พอกลับถึงบ้านเปิดดูในคอม เออ...สวยดีเหมือนกัน เหมือนเวลาที่ขอพรแล้วเทพให้พรลงมาเป็นแสงวิ๊งๆ น่ะค่ะ จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 21:59:00 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พระพุทธรูปอีกแบบหนึ่ง ที่อยู่บริเวณซุ้มของระเบียงรอบปราสาทนครหลวง จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 21:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มณฑปพระบาทสี่รอย สร้างขึ้นบนลานชั้นบนของปราสาทนครหลวง ตรงตำแหน่งที่เคยพบซากปรางค์ประธาน เป็นมณฑปทรงจตุรมุข ขนาด 8 คูณ 19 เมตร ก่ออิฐถือปูน มีประตูทางเข้ามุขละ 2 ประตู  ที่หน้ามุขด้านตะวันตก   จารึกปีที่ปฏิสังขรณ์มณฑปหลังนี้  เมื่อ พ.ศ. 2446 ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบาทสี่รอย ที่คูหามุขแต่ละมุขมีพระพุทธรูปตั้งอยู่มุขละ 2 - 4 องค์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ซึ่งแกนในของพระองค์จะเป็นหอนทราย   ชั้นส่วนของพระพุทธรูปที่สร้างมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระบาทสี่รอยที่ประดิษฐานอยู่ในมณฑปจตุรมุขนี้ มีลักษณะเป็นพระบาทศิลารอยใหญ่ซ้อนกัน 4 รอยลึกลงไปในเนื้อหิน ตามคตินิยมทางพุทธศาสนา ลัทธิมหายาน นิยมการสลักหินเป็นพุทธบูชา เปรียบรอยพระบาทกับอดีตพุทธ 4 องค์ คือรอยที่ 1 หมายถึง พระพุทธกกุสนธ์  รอยที่ 2 หมายถึง พระพุทธโกนาคมน์  รอยที่ 3 หมายถึง พระพุทธกัสสป และรอยที่ 4 หมายถึง พระพุทธโคดม จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 22:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เจ้านี่นอนอยู่ข้างประตูทางเข้ามณทปพระบาทสี่รอยค่ะ จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 22:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ในรูปคือ พระจันทร์ลอย ที่อยู่ในศาลาพระจันทร์ลอย ตั้งอยู่ห่างจากปราสาทนครหลวงประมาณ 90 เมตร พระจันทร์ลอยนี้เป็นแผ่นหินแกรนิตรูปวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เมตร หนา 6 นิ้ว ด้านหน้าสลักเป็นรูปเจดีย์ 2 องค์ พระพุทธรูป 3 องค์ ...เจดีย์องค์หนึ่งเป็นรอยสลักอยู่เดิม แต่เจดีย์อีกองค์หนึ่ง และ พระพุทธรูปสามองค์มีปูนปั้นพอกให้นูนเด่นออกมามากกว่าหน้าศิลา คงจะมีผู้ทำขึ้นภายหลัง ด้านใต้มีรอยสลักลายตรงกลางมีรูปต่าง ๆ ที่ปรากฎชัดเป็นรูปปลา 2 ตัว เหมือนสัญลักษณ์ราศีมีน ต่อจากลายมาสลักเป็นลวดโค้งเหมือนรอยต้นพระบาท ลายเหล่านี้ลบเลือนมาก สันนิษฐานได้ว่าแผ่นศิลาพระจันทร์ลอยนี้คือ ธรรมจักร ซึ่งยังทำไม่เสร็จ จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 22:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 วัดกระดังงาบุปผาราม มีโบสถ์รูปทรงสมัยใหม่ที่งดงามไม่เหมือนโบสถ์แห่งไหนสร้างอยู่บนฐานศาลาการเปรียญหลังเก่า และวัดนี้ยังมีเจดีย์โบราณทรงระฆังคว่ำคล้ายเจดีย์สมัยอยุธยาตอนต้น ฐานเป็นชั้น มีซุ้มทรงระฆังตั้งแต่ปล้องไฉนขึ้นไป เจดีย์องค์นี้นับว่ามีความสมบูรณ์ที่สุดที่มีอยู่ในสมัยเดียวกันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติแล้ว นอกจากนี้ด้านหน้าเจดีย์ยังมีวิหารเก่าแก่หลังคามุมด้วยกระเบื้องดิน บานประตูโบสถ์เป็นไม้แกะสลักลวดลายสวยงามมาก เห็นเจ้าซี่เดินเข้าไปคุยกับเจ้าอาวาส ท่านบอกว่า วิหารนี่เป็นวิหารมหาอุตด้วย คือมีประตูทางเข้าทางเดียว จากในรูปก็คือ วิหารที่เห็นไกลๆ นั่นแหล่ะค่ะ จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 22:02:10 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จากนั้นก็ไปต่อที่วัดประโชติการามที่อยู่ใกล้ๆ กัน วัดประโชติการาม เป็นวัดเก่าแก่ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ พุทธลักษณะงดงาม ศิลปะแบบสุโขทัยขนาดใหญ่ 2 องค์ คือ หลวงพ่อทรัพย์ สูง 6 วา 7 นิ้ว และหลวงพ่อสิน สูง 3 วา 3 ศอก 5 นิ้ว ซึ่งมีพุทธลักษณะที่งดงาม เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป ชาวบ้านเชื่อกันว่า จะช่วยปัดเป่าความทุกข์ร้อนของตนได้ โดยอาราธนาศีลจากหลวงพ่อสิน แล้วไปขอพรจากหลวงพ่อทรัพย์ แต่องค์ไหน หลวงพ่อทรัพย์ องค์ไหน หลวงพ่อสิน ... ฉันลืมแล้วอ่ะค่ะ - -" จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 22:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ก่อนออกจากวัดประโชติการาม พวกเราก็เข้าไปที่โบสถ์กันค่ะ ตอนแรกฉันไม่เห็นหรอกว่า มีพระสงฆ์นั่งอยู่ในโบสถ์ นึกว่าเป็นรูปปั้น พอท่านขยับตัว เล่นเอาสะดุ้ง .. ท่านเรียกให้ไปจุดธุปบูชาพระ เลยส่งคุณต้น เทวดาไปเป็นตัวแทน ต้นมาเล่าทีหลังว่า ท่านถามว่า มาทำอะไร ต้นบอกว่า เป็นชมรมถ่ายรูป ท่านก็บอกว่า อธิษฐาน ขอพรจากพระ ให้ถ่ายรูปติด ซิ ... แหะแหะ แล้วท่านก็เรียกให้ทุกคนเข้าไปใกล้ๆ ท่านจะพรมน้ำมนต์ให้ แต่ก่อนจะพรมน้ำมนต์ท่านก็เล่าประวัติวัดให้ฟัง เล่นเอาพวกเราที่อิ่มๆ จากบ้านเจ้าซี่ แทบจะหลับอยู่ตรงไหน ก่อนกลับออกมาท่านก็แจกพระให้คนละองค์ ท่านบอกว่าเป็นรุ่นแรกด้วยนะคะ จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 22:03:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ปิดท้ายด้วยรูปนี้ค่ะ เจ้าถิ่นหัวทิ่ม ในทุ่งนาสิงห์บุรี อิอิ ขอบคุณ คุณตาคุณยาย คุณพ่อคุณแม่ คุณน้า แล้วก็น้องสาว ของซี่นะคะ ที่ให้พวกเราไปฝากท้องกันอีกครั้ง ขอบคุณ ป้าแหม่ม น้าโอ๋ ติ๊ก ป๋อง ต้น เอ้ เก๋ น้าปู ป้าอุ้ม เจ๊สน ที่ไปสนุกด้วยกันค่ะ จากคุณ : ยัยบี๋ - [ 15 ก.ย. 51 22:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีพี่สาว ประทับใจ คหที่ 7 มากมายค่ะ อยากทำได้บ้าง สวยมากทุกรูปจ้า จากคุณ : yaibook - [ 15 ก.ย. 51 22:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตามมาชมบ้านนี้ด้วย... ชอบฟ้าอ่ะเบ๋า... จากคุณ : rraiwa - [ 15 ก.ย. 51 22:44:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สวยทุกภาพเลยค่ะ ชอบคห.ที่ 6 เป็นพิเศษ ดูมีมิติค่ะ จากคุณ : ตองเจ็ด - [ 15 ก.ย. 51 22:53:33 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เดือนนี้ไปกันยังอะ อ่าว ไม่ใช่ทริปรายเดือนเหรอ จากคุณ : mOm1 - [ 15 ก.ย. 51 23:42:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาชมด้วยคนจ้า จากคุณ : บึงฉวาก - [ 16 ก.ย. 51 04:37:00 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ภาพสวยครับ   ตามไปเที่ยวด้วย.... จากคุณ : prakorbs - [ 16 ก.ย. 51 04:54:05 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ภาพสวย ข้อมูลแน่น อย่างเคยเลยนะครับ อ่าน เพลิน คห.3,7,12 โดนครับ หุหุหุ จากคุณ : Gm!หัวโขน - [ 16 ก.ย. 51 06:54:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สวย ๆ ทุกภาพเลย... ตามไปเที่ยวด้วยคนนะ...เบ๋า จากคุณ : practice_ma - [ 16 ก.ย. 51 08:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวยโดนใจทุกภาพเลยคับ.... จากคุณ : poopichit - [ 16 ก.ย. 51 08:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ชอบ 7 อ่ะ สวยมากๆ เลย จากคุณ : แฮมชีส - [ 16 ก.ย. 51 08:25:27 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แวะมาชมภาพสวย ๆ ด้วยจ้ะ..... จากคุณ : บุณฑริกา - [ 16 ก.ย. 51 08:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 งดงามมากเลยครับ จากคุณ : w_tupthai - [ 16 ก.ย. 51 08:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 28 #7 นี่สุดยอดเลยคร่าาาาา จากคุณ : บึงฉวากจูเนียร์ - [ 16 ก.ย. 51 09:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คห.4 สวยดีนะแปลกตา เริ่ดเลย จากคุณ : omen666 - [ 16 ก.ย. 51 10:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ฟ้าสวยจังพี่ จากคุณ : GukGui - [ 16 ก.ย. 51 10:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ฝีมือไม่ตกนะหล่อน จากคุณ : Colour by Numbers - [ 16 ก.ย. 51 10:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สวยแจ่มเลยคับ ^o^ y จากคุณ : zhoubotong - [ 16 ก.ย. 51 12:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 7 โดนใจ จ๊อดดด จริงๆ จากคุณ : พี่เก๋านะ - [ 16 ก.ย. 51 12:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สวยทุกรูปเลยค่ะ มุมมองไม่ธรรมดาจิงๆ คห. 3 ไอเดียแจ่มเลยค่ะ ^ ^ จากคุณ : เก็ตโตะ - [ 16 ก.ย. 51 13:31:46 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อยากไปอีกอ่ะ... ตอนนี้น้ำท่วมรึป่าว ปล. อยากกินขนมจีนแกงไก่อีกอ่ะ จากคุณ : zardamonoxication (zardamon) - [ 16 ก.ย. 51 16:27:46 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ภาพสวยจังเลยครับพี่ จากคุณ : nickyumc - [ 16 ก.ย. 51 18:32:20 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คห.7 วิ้งๆเลย ชอบๆ จากคุณ : ป้าmam - [ 16 ก.ย. 51 19:07:40 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ดองเล็กน้อย รูปสวยมากมายค่ะพี่ จากคุณ : bibiz - [ 16 ก.ย. 51 19:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ว้าว....โดนใจหลายรูป.... จากคุณ : rockriver5000 - [ 16 ก.ย. 51 19:49:50 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ...ว่างๆขอลองบ้างได้หรือเปล่าเอ๋ย...มุมลึกดีจังครับ จากคุณ : เนก_พิษณุโลก - [ 16 ก.ย. 51 22:01:28 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ชอบภาพในทุ่ง 555 จากคุณ : แพนด้ามหาภัย - [ 17 ก.ย. 51 21:22:45 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ภาพสวยมากเลยครับ จากคุณ : kasarongs - [ 18 ก.ย. 51 06:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เสียดายไม่ได้ไป  แงแง จากคุณ : tor_talingchan - [ 20 ก.ย. 51 04:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ภาพสวยทุกรูปเลยครับ จากคุณ : tantawan300 - [ 20 ก.ย. 51 11:52:43 ]