PANTIP.COM : O7012126 nic กะ non []

ความคิดเห็นที่ 4

นิกกะหนอน ไม่ค่อยวางสินค้าชนกันแบบจะจะหรอกครับ นอกจากตัวบนๆอย่าง D700 กับ 5DII ที่พึ่งออกมาใหม่ หรือตัวล่างๆไ ปเ ลยอย่าง 1000D กับ D60 ส่วนรุ่นอื่นๆจะวางตัวสินค้าแบบเหลื่อมๆกันอยู่ครับ

พูดถึงราคาตอนนี้ไม่น่าจะหนีกันมาก D80 ราคาตกลงมาเยอะแล้วเพราะตอนนี้นิกมีตัวใหม่คือ D90 มาแทนแล้วเรียบร้อย

พูดถึงคุณสมบัติ อันนี้แล้วแต่คนชอบจริงๆครับ D80 ออกมาได้สองปีแล้ว แต่ก็ยังคงความเป็นกล้องสุดคลาสสิค ยอดนิยมที่สุดตัวหนึ่ง เหตุผลก็เพราะนิกทำตัวนี้ออกมาได้ดีจริงๆ บอดี้แข็งแรงมากสำหรับกล้องระดับนี้ ผมเอาไปลุยมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำแล้ว ยังไม่พังเลย โดนทั้งอากาศทะเลทราย ทั้งภูเขาหิมะ ก็ยังทำงานได้ตามปกติ พูดถึงความอึด D80 กินขาดครับ จับดูก็รู้ เรื่องการวางปุ่มต่างๆ ออกแบบมาได้ดีมาก ใช้ง่าย คุณภาพของภาพที่ได้นี่ก็ถือว่าเยี่ยมครับ 10 MP นี่ เอาไปปริ้นท์ 8*10 ได้สบายๆ ปริ้นท์ 13*19 ยังได้ไม่อายใครเลยครับ ถ้าสำหรับคนทั่วไปใช้งาน ความละเอียดขนาดนี้ถือว่าเหลือๆ ยังมีฟังก์ัชั่นอีกหลายอย่าง ที่แม้แต่แคนอนรุ่นปัจจุบันก็ยังไม่ทำ อย่าง ออโต้โฟกัส 11 จุด เส้น grid แบบอิเลคโทรนิคช่วยในการจัดองค์ประกอบ ความสามารถในการสั่งแฟลชหลายตัวพร้อมกัน ฯลฯ ซึ่งสำหรับกล้องที่อายุเกินสองปี มีฟังก์ชั่นขนาดนี้ ในสมัยนั้นต้องบอกว่าล้ำยุคไปมากๆแล้ว เพราะถึงสมัยปัจจุบันก็ยังถือว่าเทคโนโลยีในกล้อง D80 นี้ เหลือๆครับ ผมใช้รุ่นนี้มาตั้งแต่อาทิตย์แรกที่กล้องเปิดตัวขาย จนปัจจุบันตกรุ่นไปแล้ว ยังยอมรับเลยครับ ว่าใช้ไม่ครบทุกฟังก์ชั่นที่มีอยู่ครับ เยอะจริงๆ

ส่วน 450D ก็มีข้อดีของตัวเองครับ อย่างแรกที่เห็นๆ็ก็คือ ใช้เซนเซอร์แบบ CMOS ซึ่งตอนนี้คงเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปแล้วว่าดีกว่า CCD แบบที่กล้องยี่ห้ออื่นใช้กัน (กล้องรุ่นใหม่ๆถึงหันมาใช้ CMOS กันหมด) ที่ว่าดีนี่ก็เพราะเวลาถ่ายภาพที่ ISO สูงๆแล้ว น้อยซ์น้อยลงมากอย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับการถ่ายภาพในสภาพแสงที่ไม่เื้อื้ออำนวย ซึ่งอันนี้ยอมรับเลยครับ D80 ถ้าถ่ายอะไรเป็นงานเป็นการเนี่ย ผมจะต้องพยายามคุมไม่เร่ง ISO เกิน 800 ถ้าถ่ายแบบไม่เป็นงานเป็นการ หรือเลี่ยงไม่ได้จริงๆ 1250 ครับ ไม่เกินนั้น ซึ่ง 450D ถ่ายที่ ISO เดียวกัน น้อยซ์จะต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ แต่ 450D เสียอยู่อย่างหนึ่ง ตรงที่ ปรับ ISO ละเอียดๆไม่ได้ ปรับได้แค่ 100 200 400 800 แล้วข้ามไป 1600 เลย ส่วน D80 ปรับได้ละเอียดกว่าคือ 100 125 160 200 250 320 400 ..... 800 1000 1250 1600 ซึ่งตรงนี้ช่วยได้เยอะเลยครับ เวลาที่เราไม่ต้องการเร่ง ISO มากเกินความจำเป็น อย่างบางกรณี ISO 1000 ก็พอแล้ว ได้รูปที่ต้องการแล้ว แต่ 450D ปรับไปที่ 1000 ไม่ได้ ก็ต้องข้ามไปที่ 1600 เลย ผลออกมา ก็เลยได้ภาพที่มีปริมาณน้อยซ์ใกล้เคียงกับ D80 ถ่ายที่ ISO 1000 อะไรแบบนี้แหละครับ ถ้า 450D ปรับได้ละเอียดเหมือน D80 นี่ก็คงชนะขาดลอยเรื่องนี้ไป แต่พอปรับได้ไม่ละเอียดเท่า ผลออกมาเลยไม่ต่างกันเท่าไหร่

ข้อดีอีกอย่างของ 450D คือขนาดเล็ก กระทัดรัด อาจจะเหมาะมือผู้หญิงมากกว่า อันนี้พูดยากมากครับ ต้องไปลองถือดูเองถึงจะทราบว่าถูกใจหรือเปล่า

เรื่องอื่นๆ อย่างไลฟ์วิว กันฝุ่น นี่ผมไม่่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เพราะกันฝุ่น ทั้ง Nikon ทั้ง Canon สู้ Olympus ไม่ได้ทั้งคู่ ขานั้นเป็นต้นตำรับระบบกำจัดฝุ่นบนเซนเซอร์ จนบัดนี้ก็ยังถือว่าเป็นยี่ห้อเดียวที่ระบบกำจัดฝุ่นทำงานได้ผลจริงดีกว่ายี่ห้ออื่นครับ เรื่องไลฟ์วิวก็เหมือนกัน Olympus กับ Panasonic ริเริ่มเอามาใส่กับ DSLR ก่อนชาวบ้าน จนเดี๋ยวนี้พัฒนาไปถึงขั้นพับจอ หมุนจอ ได้รอบทิศทางแล้ว จอไลฟ์วิว ในความรู้สึกของผมคือ ถ้ามันพับขึ้นลงไม่ได้เป็นอย่างน้อยนี่ ไม่ค่อยมีประโยชน์ครับ โดยเฉพาะกับกล้อง DSLR เพราะกล้อง DSLR มันตัวใหญ่ ไม่เหมือนคอมแพค ตัวเล็กๆ เวลาเราถือกล้องยื่นห่างจากหน้าเราออกไป ก็ยังบังคับมือนิ่งๆได้ เพราะกล้องมันเบา กล้อง DSLR นี่ จบเลยครับ หนักกว่ากันหลายเท่า เอายื่นห่างหน้าออกไปแบบนี้ มือสั่นมากมายครับ ผมเลยรู้สึกว่า เล็งด้วยจอ LCD บน DSLR นี่ ไม่มีประโยชน์เลยนอกจากเวลาถ่ายมาโคร แต่ถ้าจอพับไม่ได้ ถ่ายมาโครก็ไม่มีประโยชน์อีกแหละครับ เพราะปัญหาที่คนใช้ DSLR มีมาตลอดเวลาถ่ายมาโครคือ ถ้า subject อยู่ติดพื้่น เราก็ต้องนอนถ่าย ทีนี้พอมีกล้องที่พับจอได้อย่าง Sony A300 Olympus E3 Panasonic L10 ฯลฯ ขึ้นมา มันก็ช่วยได้เยอะครับ เพราะเวลาเล็งเราก็ปรับไปที่ไลฟ์วิว แล้วก็พับจอขึ้น คนถ่ายก็ไม่ต้องนอนราบกับพื้น สามารถนั่งลงเฉยๆแล้วเล็งได้ มีประโยชน์ตรงนี้ครับ แต่ถ้าจอพับขึ้นไม่ได้นี่ก็จบเลย จะเล็งจากจอ LCD ก็ต้องนอนราบกับพื้นอยู่ดี ผมถึงว่าทั้ง Nikon Canon ยังต้องทำการบ้านเรื่องจอ LCD อีกเยอะเลยครับ (แต่ก็แว่วๆมาว่าอาจจะไม่ทำแบบพับได้กัน เพราะกลัวพังง่าย ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่ผมก็ยังไม่เคยได้ยินคนใช้ E3 บ่นกันเลยนะครับ)

สรุป ก็ไม่ทราบว่าที่ตอบมาจะเป็นประโยชน์แค่ไหนนะครับ แต่หวังว่าคงพอทำให้มองเห็นข้อดีข้อเสียได้มากขึ้นระหว่างกล้องสองตัวนี้ ว่ากันจริงๆแล้ว มีดีมีด้อยแตกต่างกันไป ซื้อตัวไหนก็ไม่ผิดหรอกครับ แต่ที่อยากแนะนำอย่างหนึ่ง คือลองมองดูอุปกรณ์เสริมด้วย ว่าต่อๆไปจะซื้ออะไรเพิ่มอีก โดยเฉพาะเรื่องเลนส์ เพราะทั้งสองยี่ห้อนี้ ทำเลนส์ออกมาแตกต่างหลากหลายกันมาก ยกตัวอย่างนะครับ

เมื่อก่อนนี้ ใครที่อยากซื้อกล้อง เอาไปเที่ยว แล้วก็พกเลนส์ไปตัวเดียว จะชอบนิคอนมากๆ เพราะนิคอนมีเลนส์ 18-200 VR AFS ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของเลนส์เอนกประสงค์เลยทีเดียว ได้ทั้งช่วงครอบคลุม ทั้งกันสั่น ทั้งมอร์เตอร์โฟกัสไว สุดๆมากครับตัวนี้ ซึ่งถ้าใช้แคนอน ก็จะต้องหาทางเลี่ยงไปซื้อเลนส์ซิกม่า แทมรอนแทน เพราะแคนอนไม่ทำเลนส์ระยะขนาดนี้ออกมา จนกระทั่งเมื่อไม่ถึงเดือนนี่เอง แคนอนพึ่งจะออกตัว 18-200 IS มาอุดช่องว่างตรงนี้ แต่เลนส์ตัวนี้ก็ไม่มีมอร์เตอร์ USM มาด้วย สรุปว่า ถ้าใครที่คิดจะใช้เลนส์เอนกประสงค์แบบตัวเดียวเที่ยวรอบโลกกับกล้องรุ่นเ ล็ก นิคอนดีกว่า เพราะมีเลนส์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนกว่า

แต่ถ้าหากว่าใครที่ซื้อกล้องรุ่นใหญ่แบบฟูลเฟรมหรือ FX อย่าง 5D 5DII D700 D3 1Ds ฯลฯ แล้วอยากได้เลนส์ประเภทเดียวกัน ตัวเดียวเที่ยวรอบโลกแบบนี้ ซื้อแคนอนดีกว่า เพราะแคนอนมีเลนส์ 28-300 อยู่หลายตัว เป็นช่วงที่เหมาะสมกับกล้องประเภทนี้มากกว่าในขณะที่นิคอนไม่ทำเลนส์ระยะขนาดนี้ออกมา ถ้าใช้นิคอน แล้วอยากได้เลนส์ระยะขนาดนี้ ก็ต้องไปหาพวกซิกม่า แทมรอนมาใช้แทน

หรือคนที่ชอบถ่ายมาโคร ถ้าชอบแบบเป็นชีวิตจิตใจนี่ แคนอนมีเลนส์ MP-E 65mm ซึ่งถือว่าเป็นเลนส์อภิมหาเทพมาโคร กำลังขยาย 5 เท่าของขนาดจริงของวัตถุ สุดยอดเลนส์มาโครแล้วครับตัวนี้ ทางนิคอนไม่มีเลนส์ที่กำลังขยายขนาดนี้

แต่ในเวลาเดียวกัน นิคอนก็มีเลนส์ตัวอื่นที่แคนอนไม่มี อย่างเลนส์ 10.5 fisheye ซึ่งเป็นเลนส์ฟิชอายที่ใช้กับกล้องรุ่นกลางถึงเล็ก (D300 D80 D90 D60 ฯลฯ) คนที่เป็นแฟนฟิชอายจะชอบตัวนี้มากครับ ถือว่าเป็นสุดยอดเลนส์ตาปลาแล้ว ทางแคนอนไม่มีเลนส์ฟิชอายมาใช้กับกล้องรุ่นเล็ก (350D 400D 450D 30D 40D 50D ฯลฯ) แบบนี้ มีแต่เลนส์ 15mm fisheye ซึ่งต้องใช้กับกล้องฟูลเฟรมโน่น

ก็ยกตัวอย่างแบบนี้แหละครับ ว่าเรื่องอุปกรณ์เสริมทีหลังนี่ สำคัญพอสมควร ผมเห็นหลายคนแล้ว เวลาซื้อไม่คิดให้รอบคอบก่อน ซื้อไปแล้วมารู้ตัวทีหลัง อ่าว อยากได้อันนี้ ยี่ห้อนี้ไม่ทำนิ สุดท้ายอึดอัด รำคาญ เพราะไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจ ย้ายค่ายกันวุ่นวาย เห็นมาหลายคนแล้วครับ เพราะ
ฉะนั้น ก่อนซื้อกล้องตัวไหน ต้องคิดหลายๆด้านประกอบกันครับ

แถมรูปไว้ใบหนึ่ง เป็นรูปล่าสุดที่ถ่ายด้วย D80 หลังจากที่ไม่ได้แตะมาหลายเดือนครับ อิ อิ

จากคุณ : Sandhill - [ 19 ก.ย. 51 03:09:10 ]