ความคิดเห็นที่ 1 ต้องเป็น เบ๊นซ์อื่น แน่ๆ 5555+ เพราะถ้าเรื่อง flash เพื่อนๆทุกๆคนรู้ว่า ผมไม่มีหลัก และ ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านตลอดเลย ไม่รู้มันเหมือนกับ มั่วหรือเปล่า  555+ ตอบไม่ได้ เพราะใช้ไม่เก่ง ตอบไปก็ อายเค้า 5555+ ผมหัดถ่ายมา เกือบ 2 ปี พึงมี flash เมื่อ 2 เดือนที่แล้วเอง เพราะไม่ได้ใช้งาน ถ่ายแต่แสงธรรมชาติ ถ้าถามแสงธรรมชาติผมตอบได้ อิอิ อีกอย่าง ตัวแปรเยอะมากครับน้า ในห้อง กลางแจ้ง เลนส์มุมกว้าง เทเล ปวดหัวด้วยคนครับ มานั่งรอเป็นเพื่อนครับ อิอิ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 16:25:29 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 16:12:45 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 16:06:10 จากคุณ : Benznoi - [ 25 ก.ย. 51 16:03:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มารอฟังด้วยคน ไม่รู้จะเรียบเรียงคำพูดอย่างไรดี เพราะของผมใช้อาศัยความเคยชินเสียมากกว่า รอฟังแบบเป็นทางการดีกว่า อิอิ จากคุณ : Starck - [ 25 ก.ย. 51 16:06:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รอฟังด้วยเหมือนกันครับ จากคุณ : Majika (Majika) - [ 25 ก.ย. 51 16:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 F 2.8  S 1/30 iso 1600 ผมไม่แน่ใจว่าคุณกำลังถ่ายอะไรอยู่...... - ถ้าถ่ายอะไรที่ flash ยิงไม่ได้เช่น ภาพวิวกว้างๆไกลๆ อันนี้ flash ก็ช่วยไม่ได้ - ถ้าถ่ายคน สิ่งของ แล้วมีฉากหลัง อันนี้ก็อีกเรื่อง ดั้งนั้น สถานการณ์ที่ จขกท ต้องการเป็นกรณีไหนครับ น้าๆท่านอื่นจะได้ตอบได้ตรงประเด็น อิอิ จากคุณ : เน็ทหลักสี่ - [ 25 ก.ย. 51 16:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปัดพื้นจนสะอาด เอากระดาษมาปูรอครับ ถ้านานมากๆจะไปสั่งส้มตำไก่ย่างข้าวเหนียว มากินรอเลย จากคุณ : andypop - [ 25 ก.ย. 51 16:15:24 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องแฟลชนั้น ความคิดเห็นส่วนตัวนะ ซึ่งไม่เก่งเรื่องนี้เหมือนกันครับว่า...ประสบการณืจะบอกเรามากกว่าครับ ไม่มีกฎอะไรที่ตายตัวครับผม จากคุณ : pin6403 - [ 25 ก.ย. 51 16:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอลองตอบนะครับ ถ้าเป็นผมใช้โหมด M ครับ ตั้งspeedประมาณ 1/30 (สำหรับ normal lens นะครับ) รูรับแสง 5.6  ส่วน ISO ก็แล้วแต่ว่ามืดมากมืดน้อย ถ้าใช้ ISO สูงมาก ๆ ก็เก็บแสงฉากหลังได้เยอะ สำหรับวัตถุที่เราถ่ายก็จะได้รับแสงพอดีจากแฟลตอยู่แล้ว (TTL) ในส่วนของสเกลวัดแสง เมื่อเสียบแฟลตแล้วก็ยังเป็นการวัดแสงรรมชาติของกล้องครับ และการดูสเกลเมื่ออยู่ในโหมด M ผมจะไม่ให้สเกลมาทางโอเวอร์ครับ   ขอบคุณครับ จากคุณ : OAK63 - [ 25 ก.ย. 51 17:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น้าข้างบนสั่ง ไก่ย่าง ส้มตำไปแล้ว งั้นผมขอ น้ำแข็ง + เป๊บซี่ และก็ โคโยตี้ซัก 2 คนมานั่งกินเป็นเพื่อนด้วยครับ จากคุณ : Jaxx5788 - [ 25 ก.ย. 51 17:54:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อจำกัดของแฟลช ก็ มี ไม่น้อยนะครับ เช่น สัมพันธ์ กับ ความเร็วชัตเตอร์ได้ ไม่เกิน 1/200 วินาที ซึ่ง ตรงนี้ คือ เพดาน ของการปรับค่าเลย จะใช้ชัตเตอร์ สูงกว่านี้ มีสิทธิ์ ภาพ ขาด (คือ ม่านปิดเร็วกว่า แสงแฟลชมาถึง) แล้ว เมื่อ ความเร็วชัตเตอร์เป็น ข้อจำกัด แรก เรื่อง รูรับแสง จึงต้องเป็นตัวที่จะต้องปรับค่า เป็น สำคัญ รองลงมา เอาให้ได้ กว้างมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ จึงต้องใช้ เลนส์ที่รับรองหน้ากล้องกว้าง ๆ ประมาณ 2.8 หรือ 1.4 เป็นตัวช่วยอันดับต่อมา ความสำคัญ ที่ 3 ก็คือ ระยะยิงแสงครับ หรือ ค่าแฟลชมันจะบอกไว่ เป็น GN  หรือ ไกด์นัมเบอร์ เป็นเมตร ต่อ เอฟสตอป เช่น ไกด์ 24 เอฟ 4 ระยะยิงจะได้ 24/4 คือ 6 เมตร ถ้าจะเอาไกลกว่านี้ โปรดกลับไปใช้ตัวช่วยที่ 2 ขาตั้ง เป็นตัวช่วยต่อไป อันดับที่ 4 เมื่อต้องใช้ ความเร็วต่ำ เพื่อให้แฟลช ยิงได้ไกล แล้วกลับมาพอ อาจจะต้องมี ข้าตั้งช่วย จะเป็น ขาเดียว (ซึ่งสะดวกกว่า ในงาน event  หลาย ๆ งาน เพราะ ขาตั้ง ไม่จำเป็นต้อง ปักลงพื้น ก็ ทำใหความเสถียร ของกล้องมีมากขึ้น อาจเกระเป๋าคาดเอว มา เป็นตัวรองรับขาเดียว แล้ว เดินถ่าย ยังได้เลย ไอเอสโอ อย่าเอามาเกี่ยวครับ เพราะ สิ่งที่ ได้มา เมื่อ ขยับค่านี้ เพิ่มขึ้น ยังไม่คุ้มค่า เอาเต็มที่ ได้แค่ ไม่เกิน 400 (ถ้า รุ่นใหม่นี้ อาจคุยได้ที่ 1600) ภาพที่หวังผล อย่ายุ่งกับไอเอสโอ ครับ เอาค่าต่ำที่สุดที่กล้องมีให้ ภาพจะ ดูดีมากที่สุด จากคุณ : greeny pony - [ 25 ก.ย. 51 17:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กรณีที่ผมอ่านคาดว่าเป็นการถ่ายด้วยการใช้แฟรชแบบแมนวลใช่ใหมครับ ถ้าอย่างนั้นเราต้องมาตีสูตรการถ่ายรูปตามไกด์นัมเบอร์ของแฟรชกันละ..ซึ่งสูตรนี้ผมไม่เคยใช้ ใช่แล้วฮะเวลาผมถ่ายด้วยแฟรชแมนวลแบบนี้ผมมักลองค่าแสงและกำลังไฟแฟรชไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ภาพที่ถูกใจ แต่ถ้าเป็นการถ่ายฟิล์มจะใช้เครื่องวัดแสงเป็นตัวช่วยครับผม แต่ถ้าเป็น TTL ปล่อยให้กล้องกับแฟรชมันคุยกันเอง ส่วนผม กดอย่างเดียวครับ จากคุณ : babu_radio - [ 25 ก.ย. 51 19:15:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เข้ามาเก็บความรู้ด้วยคนครับ จากคุณ : เย็นสบายซาวนา - [ 25 ก.ย. 51 20:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องแฟลซ.. ยังลองผิดลองถูกอ่ะครับ วิธีที่ผมใช้กับการถ่ายระยะห่างจากวัตถุหรือแบบไม่เกิน 5 เมตรนะครับ ถ้าภาพมืด ก็ปรับค่าความไวชัตเตอร์ลง แต่ถ้าคิดว่าความไวชัตเตอร์มือถือแล้ว สั่นลองดัน iso ขึ้นช่วยอ่ะครับ ถ้าภาพสว่าง ก็ลองลด iso ลง + ปรับค่าความไวชัตเตอร์ เพื่อให้ได้สภาพแสงที่เราต้องการ สถานการณ์จริง คงไม่มีทฤษฎีตายตัวอ่ะครับ บางภาพกดไม่ต่ำกว่า 10 ภาพกว่าจะได้ที่เราพอใจ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 20:22:39 จากคุณ : Ake (SpaceWeb) - [ 25 ก.ย. 51 20:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาช่วยตอบด้วยเพราะส่วนตัวแล้วใช้แฟลชถ่ายเยอะกว่าแสงธรรมชาติครับแบบว่าผมกลัวแดดน่ะ  อิอิ เราต้องแบ่งแสงเป็น 2 ส่วนก่อนคือ แสงธรรมชาติและแสงประดิษฐ์ เอาแต่แมนวลนะ ที่กล้องเราก็วัดแสงแล้วตั้งค่าตายตัวไว้เลย เช่น 1/60 f 5.6 iso 800 หรืออะไรก็ได้ที่แสงในฉากพอดี และสปีดถือถ่ายได้ไม่สั่น ทีนี้ก็มาดูที่แฟลชกัน เรามาตั้งที่ iso กันก่อนให้ตรงกะกล้องตามด้วย f stop ส่วนspeed  มันไม่มี ทีนี้จงสังเกตระยะทางที่ระบุไว้หลังแฟลชว่า ใช้ได้ที่กี่เมตร เราก็ใช้อยู่ในช่วงนั้น ถ้าอยากได้ระยะไกลขึ้นก็ต้องเพิ่ม iso เอา แต่ถ้าใช้แฟลชของหนอนอันนี้ง่ายมักๆ แค่กด mode ให้เป็น e ttl แค่นี้เองมันก็จะคำนวณทุกอย่างให้เราเอง ส่วนที่ถามเรื่องสเกลวัดแสงในโหมด  m มันหมายถึงสเกลของกล้องครับไม่ใช้แฟลช ถ้าอยากให้แฟลชสว่างขึ้นก็ชดเชยที่แฟลชครับ กล้องไม่เกี่ยว จากคุณ : toodtu's อาย - [ 25 ก.ย. 51 21:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พอเราถ่ายด้วยแฟลช  เราจะทราบได้ยังไงครับว่าเราควรถ่ายที่รูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ , ISO ที่เท่าไหร่ จึงจะทำให้ได้สภาพแสงที่ได้ไม่ over หรือ under - เดี๋ยวนี้ TTL แล้วครับถ่ายไปเลย  ถ้า Subject ไม่ได้อยู่กลางภาพกดล็อคแสงแฟลชจบ กล้องมันคิดให้เราครับพอดีหรือใกล้เคียงอยู่แล้ว แต่ถ้าจะใช้เป็น Manual flash ต้องจำระยะของมันให้ได้ครับแล้วสั่งลดกำลังไฟเอา ( แฟลชยุคก่อนจะมีตารางที่หลังแฟลชเลยว่า DIN21หรือ ISO100 เปิด f/5.6 ได้ระยะแสงแฟลชที่ช่วงกี่เมตรกี่ฟุต ) ยกตัวอย่างถ่ายด้วย f2.8  1/30  ISO 1600 ภาพพอดี  แต่ 1/30 ทำให้ภาพไม่คม อีกทั้ง noise เยอะมาก และชัดตื้นเกินไป  พอติดแฟลชเราจะเพิ่มความเร็วชัตเตอร์ขึ้นไปได้อีกเท่าใด รวมถึงการลด ISO ด้วย - กล้องหนอนเวลาเราใช้แฟลชในระบบ TV, AV,P นี่จะ Fill flash ให้อัตโนมัติอยู่แล้ว แต่เวลาใช้ M เราก็เลือกหน้ากล้อง/สปีดเอง การเลือกสปีดให้เร็วขึ้นหรือตั้งหน้ากล้องให้แคบลง ( แม้นกระทั่งลด ISO ) ก็ล้วนทำได้ครับถ้าไม่เกินความสามารถของแฟลช/กล้องนั้นๆ ( ยกตัวอย่างกล้องสัมพัทธ์ไฟแฟลชไม่เกินสปีด 1/200 ก็ทำได้แค่นั้น  แต่ถ้ามีโหมดไฮสปีดก็ได้สูงกว่านั้น ) แต่ทั้งนี้ก็จะทำให้ได้แสงแฟลชพอดีแค่ที่ตัวแบบนะครับ  แสงฉากหลังจะมืดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมดก็เลยเป็นว่าเราต้องการภาพแบบไหนมากกว่า เอาภาพชัดๆแฟลชเคลียร์แต่ฉากหลังมืดๆแบบกล้องคอมแพ๊คกล้องมันก็ทำได้อยู่แล้ว แต่ถ้าจะเอาแสงที่ Subject พอดี/ฉากหลังก็ได้/ชัดลึก OK แถมยังมี Noise ต่ำด้วย ผมก็ไม่รู้ว่า 50D หรือ 5D mkll จะสามารถตอบสนองการใช้งานแบบนี้ได้หรือเปล่าด้วยซ้ำครับ 555 คือพอใช้แฟลชเข้ามาร่วมด้วยแล้วเกิดอาการงงๆ ครับ.. เราจะดูที่สเกลบาร์วัดแสงเช่นเดิมมั้ยครับ (ปกติใช้โหมด M)  พอติดแฟลชมันจะเป็นสเกลวัดแสงแฟลชแทนใช่หรือไม่ - ไม่ใช่ครับ สเกลนั้นวัดแสงทั้งภาพตามปรกติ แสงแฟลชเราวัดไม่ได้ครับเพราะแฟลชยังไม่ได้ยิงออกไป ( เพราะเราสั่งให้มันยิงเป็น Manual แบบลดกำลังไฟ หรือชดเชยมันเพิ่ม/ลดจากระบบ TTL ตามปรกติของมันเองได้  ดังนั้นถ้าแค่ถ่ายภาพทั่วๆไปไม่ต้องวัดแสงแฟลชหรอกครับสั่งชดเชยเอาสะดวกเกินพอแล้ว ) ตัววัดแสงแฟลชนั้นอยู่หน้าม่านชัตเตอร์คอยวัดแสงพรีแฟลชครับซึ่งระบบไม่ได้แสดงให้เราเห็น แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 51 03:09:08 จากคุณ : ตอสระอือ - [ 26 ก.ย. 51 03:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 น้าตือสุดยอดไปเลยค่ะ......... จากคุณ : Red Leaves - [ 26 ก.ย. 51 04:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ความรู้เยอะแยะมากมายในนี้ เข้ามาดูด ใส่ หัวลูกโป่งของเรา จากคุณ : bellcanon - [ 26 ก.ย. 51 08:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 17 น้าตือ จุ๊บๆ อิอิ จากคุณ : Benznoi - [ 26 ก.ย. 51 10:17:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18  ตอบง่ายๆครับน้าเบ๊นซ์ ก็ปรับตั้งกล้องให้สอดคล้องกับตัวแฟลชให้มากที่สุดครับ เบื้องต้น ผู้ใช้ต้องศึกษาเรื่องทิศทางของแสง ต้องแยกแยะให้ออกระหว่างการใช้แฟลชในโหมด Auto กับการใช้แฟลชในโหมด Manual แน่นอนส่วนใหญ่จะเริ่มด้วยระบบอัตโนมัติ ดังนั้นเครื่องวัดแสงในตัวกล้อง สามารถถูกทิศทางของแสงบางสถานะการณ์หลอกได้ฉันใด แฟลชก็เช่นกันครับ  มันต้องมีการชดเชย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อให้ภาพที่ถ่ายได้รับแสงในปริมาณที่พอเหมาะที่สุด [ระยะทางระหว่างกล้องกับวัตถุก็มีผลต่อแฟลชด้วยครับ] *** ภาพที่สวยที่สุด ไม่จำเป็นว่าต้องได้รับแสงพอดีเป๊ะเสมอไป แค่ภาพนั้นได้รับแสงที่พอเหมาะก็สวยที่สุดได้แล้วครับ *** ศึกษาพื้นฐานจากแหล่งข้อมูลก่อนครับ ส่วนลูกเล่นอื่นๆอีกร้อยแปดพันประการไว้ทีหลัง   จากคุณ : Yon Sang - [ 26 ก.ย. 51 10:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ในแสงธรรมชาติ ช่องรับแสง/สปีดชัตเตอร์/ไอเอสโอ มีผลต่อภาพจะรับแสงพอดี-โอเวอร์-อันเดอร์  เมื่อติดแฟลช สเกลวัดแสง ยังคงวัดแสงธรรมชาติเหมือนเดิม  เมื่อใช้แฟลช เราจะแยกเป็นสองส่วน คือตัวแบบ และฉากหลัง(หรือบรรยากาศนะครับ)  ตัวแบบรับแสงพอดีหรือไม่ ขึ้นกับ ช่องรับแสง/ไอเอสโอ และความแรงของแฟลช หรือเรียกว่าไกด์นัมเบอร์ (GN)  เช่นแฟลช GN=36 ที่ไอเอสโอ100 จะเปิดช่องรับแสงเท่าใด ให้นำ GN.คือ 36 หารด้วยระยะทางระหว่างตัวแบบกับแฟลช (ที่นี้หมายถึงความแรงแฟลชตรงตามสเปคนะครับ)  เช่นระยะทาง 4เมตร = 36 / 4 = 9 นั่นคือถ้าเป็น TTL เราเลือกช่องรับแสงได้เอง แต่ไม่เกินระยะทำการคือ F9  แล้วถ้าเป็นแมนนวลแฟลช ต้องตั้งที่ F9 เท่านั้น กว้างกว่าจะโอเวอร์ ถ้าตั้งแคบกว่า F9 ก็อันเดอร์ครับ จากคุณ : เจตต์/// - [ 26 ก.ย. 51 19:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ต่ออีกนิดครับ  ถ้าตอนนี้เราเพิ่มไอเอสโอล่ะ ก็ต้องลดช่องรับแสง จำนวนสตอปที่เท่ากัน  แล้วสปีดชัตเตอร์ล่ะ มันมาเกี่ยวกับฉากหลังโดยตรงครับ เช่นเราเลือกตั้งค่าช่องรับแสง จากกระบวนการข้างบนแล้ว ก็วัดแสงฉากหลัง โดยดูสเกลวัดแสงได้เลย และปรับเปลี่ยนสปีดชัตเตอร์ เลือกค่าว่า จะให้พอดีเท่ากับแบบ หรืออันเดอร์กว่ากี่สตอป (สปีดไม่ควรสูง เกินค่าสัมพันธ์แฟลช และไม่ต่ำเกินจะถือให้นิ่ง ยกเว้นต้องการ ผลของภาพในสปีดต่ำครับ) จากคุณ : เจตต์/// - [ 26 ก.ย. 51 19:26:05 ]