ความคิดเห็นที่ 1 ตัวเลขน้อยหมายถึงค่าความไวแสงน้อย ตัวเลขมากหมายถึงค่าความไวแสงมาก ตัวเลขความไวแสง เช่น ISO100, ISO200, ISO1600 หรือ ISO6400 จะเป็นตัวบ่งบอกความไวในการรับแสงของเซ็นเซอร์ ในการถ่ายภาพเมื่อเราเพิ่มความไวแสง ผลที่เห็นชัดเจนคือเราจะได้ความเร็วชัตเตอร์มากขึ้น ความเร็วชัตเตอร์เพิ่มขึ้นก็หมายความว่าถ่ายภาพได้นิ่งและคมชัดยิ่งขึ้น ปัญหาเรื่องมือไม่นิ่งก็หายไปด้วย แต่ต้องแลกมาด้วยภาพที่แตกเป็นเม็ดเล็กๆ หรือที่เรียกกันว่า noise (ข้อนี้ จกขท เอาไว้ถามคราวหน้าก็แล้วกันนะ) ใช้ ISO ต่ำเมื่อ    - ต้องการไฟล์งานคุณภาพสูง    - ต้องการควบคุมความเร็วชัตเตอร์ให้ต่ำลง เช่นถ่ายภาพน้ำตกให้นุ่ม จำเป็นต้องถ่ายที่ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ เราจึงต้องตั้งค่า ISO ให้น้อยที่สุด เช่น ISO100 เป็นต้น    - ถ่ายภาพในสภาพแสงดี ควรใช้ ISO ต่ำเป็นค่าเริ่มต้น ใช้ ISO สูงเมื่อ    - ต้องการถ่ายภาพที่ความเร็วชัตเตอร์สูงขึ้น เช่น ต้องการถ่ายวัตถุที่เคลื่อนที่ให้หยุดนิ่ง อาจต้องการความเร็วชัตเตอร์สูงถึง 1/1000 วินาที ซึ่งใช้การเร่งความไวแสงช่วยได้ เช่น ISO800 เป็นต้น (สภาพแสงดี)    - ต้องการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย โดยไม่ใช้แฟลช และไม่ใช้ขาตั้งกล้อง เช่นถ่ายภาพในร่มเงา    - ถ่ายภาพคอนเสิร์ต มีการจัดแสง จัดไฟเวที หากต้องการเก็บแสงสีให้เหมือนบรรยากาศจริงๆ การเร่ง ISO และหลีกเลี่ยงการใช้แฟลซก็เป็นสิ่งจำเป็น จากคุณ : ผ่านมาพอดี (Ilovedriving) - [ 15 ต.ค. 51 04:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผ่านมีอีกคน คุณ Ilovedriving ตอบไว้ได้กระจ่างดีทีเดียว ขอเสริมนิดนะครับ ISO ของเซ็นเซอร์ในกล้องดิจิตอล ก็เหมือนฟิล์ม ที่แต่ก่อนเราเคยได้ยินฟิล์ม 100 200 หรือ 400 นั่นแหละ เลขยิ่งมากยิ่งไวแสง คือถ้าถ่ายด้วยความเร็วชัตเตอร์และความกว้างรูรับแสงเท่ากัน ISO มากก็จะได้ภาพที่สว่างกว่าครับ ทีนี้พอมีความไวแสงมากก็จะมีการเกิดความคลาดของรายละเอียดในจุดรับแสงเล็ก ๆ ในแต่ละจุดมากขึ้น เรียกว่า noise นั่นแหละครับ (เอาแบบคร่าว ๆ พอครับ) นั่นคือการใช้ ISO ที่สูงขึ้น ทำให้เซ็นเซอร์ไวแสงยิ่งขึ้น เป็นผลให้เราสามารถใช้สปีดชัตเตอร์ที่เร็วขึ้นได้ เป็นการเพิ่มโอกาสในการได้ภาพครับ (โดยเฉพาะในที่แสงน้อย) เวลาที่ดูเสปคของกล้องนะครับ สมมติว่าตัวหนึ่งตั้ง ISO ได้สูงสุด 3200 กับอีกตัวตั้งได้จนถึง 6400 นั่นแปลว่าตัวที่สองมีความสามารถในการตั้งค่าความไวแสงได้ดีกว่าตัวแรก แต่ไม่ได้แปลว่าตัวที่สองจะดีกว่าเสมอไปทีนี้เวลาเราจะเทียบ เราต้องดูมากกว่านี้คือ เอาไฟล์ที่ถ่ายที่สภาพแสงเท่า ๆ กันของทั้งสองตัวที่ ISO เท่ากันมาเทียบกัน วัดแสงพอดีเท่ากัน ไล่ดูกันไปที่ ISO ระดับต่าง ๆ จะเห็นว่าภาพของกล้องแต่ละตัวจะเริ่มแตกเหมือนกัน แล้วดูว่าเรารับได้แค่ไหน เช่น กล้องตัวแรกอาจจะเริ่มแตกที่ 1600 และที่ 3200 ก็แตกเพิ่มขึ้นอีกแต่ยังได้รายละเอียดที่พอรับได้ขณะที่ตัวที่สองที่ 6400 เมื่อถ่ายที่ 3200 เท่ากันอาจจะมีน๊อยซ์มากกว่าตัวแรกก็ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ที่ 6400 ไม่ต้องพูดถึง น๊อยซ์มหาศาล (เป็นตัวอย่างสมมตินะครับ) ถ้าเป็นแบบนี้ตัวแรกก็น่าจะดีกว่าเนื่องจากว่าเอาตัวที่สองมาแล้วได้ ISO สูงกว่าก็จริงแต่คุณภาพไม่ดีผมก็ไม่ได้ใช้ที่ 6400 อยู่ดีครับ ในทางปฏิบัติ กล้องปกติโดยทั่วไปค่า ISO สูงสุดที่ใช้ไม่ควรเกินกว่ากึ่งหนึ่งของ ISO สูงสุดครับ เช่น 3200 ก็ตั้งสูงสุดไม่เกิน 1600 เป็นต้น ในการถ่ายภาพผมจะพยายามถ่ายที่ ISO ต่ำที่สุดเท่าที่ทำได้ (โดยที่สปีด กับ F ต้องเหมาะสมด้วย) เพื่อให้ได้ภาพที่มีรายละเอียดดีที่สุดครับ จากคุณ : Cao Cao (PNZS) - [ 15 ต.ค. 51 05:46:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ลองเข้าไปดูตัวอย่างหน้าตาของ noise ได้ใน link นี้ครับ http://www.fujifilm.co.th/forum/showthread.php?t=387 จากคุณ : JoeNy - [ 15 ต.ค. 51 07:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณทุก คห. ครับ  เข้าใจมากขึ้นจากเดิมเยอะเลย  ^^ จากคุณ : คนในนิยาย - [ 15 ต.ค. 51 09:05:12 ]