ความคิดเห็นที่ 1 "สตอป" จ้า ไม่ใช่ "สต๊อป" จากคุณ : สตอป (Naihoiken) - [ 1 พ.ย. 51 19:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จำไว้ก็ดี แต่ถ้ารู้ว่าที่มามายังไง จำแค่ 2ตัวแรกที่เหลือมันจะออกมาเอง จากคุณ : Ace-pilot - [ 1 พ.ย. 51 20:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ง่า ก็ต้นฉบับเขาเขียนว่า สต๊อป ก็เข้าใจตามนั้นอะคะ ขอบคุณคะ จากคุณ : Sachiko_KU - [ 1 พ.ย. 51 20:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 1 สตอป คือ การขยับ ทั้ง 2 ค่า เพิ่ม หรือ ลด พร้อมกัน 1 ครั้ง หากปรับค่าเดียว มันจึงได้แค่ ครี่งสตอป ไม่ต้องจำครับ ว่า แสงสมมาตร มันอยู่ตรงไหน ให้รู้ว่า เมื่อวัดแสง ได้ค่าแสงที่ ถ่ายได้ แล้ว (EV = 1) ถ้าปรับค่าใดเพิ่ม ต้องลด ค่าอีกฝั่งลง แสงจึงจะสมดุล เสมอ แต่ ถ้า ฃดเฃยแสง ก็ ปรับอะไรก็ได้ ขึ้น หรือลง โดยจำว่า คลิกละ 1/2 สตอป (เว้นแต่ จะไปตั้งค่าของกล้องให้เป็น1/3 หรือ 1 ) จากคุณ : greeny pony - [ 1 พ.ย. 51 20:26:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 >> คือ การปรับสต๊อปนี่ต้องปรับทั้งความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสงรึเปล่าคะ สมมติกล้องวัดแสงออกมาได้ 1/60  F 5.6 แล้วถ้าต้องการเพิ่ม 1 สต๊อป ค่าที่เปลี่ยนไปควรจะกลายเป็นเท่าไรคะ ได้หลายแบบครับ อย่างเช่น 1/30 f/5.6, 1/60 f/4, 1/125 f/2.8, 1/15 f/8 และอีกหลายแบบ 1 Stop คือ 1 E.V. ค่าความไวชัตเตอร์ กับค่าช่องรับแสง ต้องจำครับ ว่ามีค่าอะไรบ้าง จากคุณ : อะธีลาส - [ 1 พ.ย. 51 21:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าต้องการให้ โอเว่อร์ 1 สตอป หมายถึง ให้แสงผ่านเข้ามามากขึ้น 1 ระดับ คุณสามารถ ปรับสปีดให้ช้าลง 1 สตอป หรือ เปิดรูปรับแสงให้กว้างขึ้น 1 สตอป ถ้าต้องการให้อันเดอร์ ก็ทำในทางตรงข้ามกับข้างบน ส่วนจะปรับ สปีด หรือ หน้า กล้อง ก็แล้วแต่สถานการณ์ และความต้องการของคุณ บ่อยครัง ที่ไม่ต้องการให้โอเว่อร์ และ อันเดอร์ แต่ต้องการ ปรับสปีด ให้ไวขึ้น หรือ ช้าลง เช่นให้ไวขึ้นเพื่อหยุดวัตถุที่เคลื่อนไหว (นกบิน) ,ให้ช้าลงเพื่อนให้ได้ภาพการเคลื่อนไหว (น้ำตก) หรือ ต้องการภาพชัดตื้น / ลึกว่าเดิม เมื่อต้องการเปลี่ยน สปีด ก็ต้องปรับ f ให้สัมพันธ์กัน สมมติว่าวัดแสงได้ 30 f8 แต่ต้องการถ่ายคนวิ่งให้นิ่ง ก็ต้องเพิ่มความไวที่ 250 (เพิ่มขึ้น 3 สตอป) เมื่อแสงเข้านอยกว่าเดิม 3 สตอป ก็ต้องเปิดรูรับแสงให้เข้ามาชดเชย 3 สตอป= 2.8 จากคุณ : นายไวรัส - [ 1 พ.ย. 51 21:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สตอป (รากศัพท์) มันมาจาก f-stop ครับ f-stop คือ อัตราส่วนสัมพัทธ์ ระหว่างเส้นผ่านศูนย์กลางของรูให้แสงผ่านของเลนส์ เมื่อเทียบกับความยาวโฟกัสเลนส์ ถ้ามีกล้อง dSLR .. ให้หยิบกล้องขึ้นมาดูทางหน้าเลนส์ เข้าโหมดถ่ายแบบ manual ตั้งความเร็วชัตเตอร์ 1 วินาที และขนาดรูรับแสงสัมพัทธ์ = f/8 ระหว่างดูเข้าไปในเลนส์ .. กดชัตเตอร์ จะเห็นว่ารูรับแสง มันหรี่เล็กลงวูบหนึ่ง จำขนาดรูให้ดีๆ แล้วเปลี่ยนขนาดรูรับแสงสัมพัทธ์ เป็น f/16 ดูเข้าไปในเลนส์ กดถ่ายอีกที .. รูรับแสง มันหรี่เล็กลงวูบหนึ่ง และมีขนาดเล็กกว่าขนาดรูรับแสงครั้งแรก อัตราส่วน ระหว่าง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของรูรับแสง (d) ต่อ ความยาวโฟกัสของเลนส์ (f) นั่นแหละ คือที่เราเรียกว่า f/stop ถ้า f/stop ของเลนส์ 2 ตัวเท่ากัน  มันไม่สำคัญว่า เลนส์ตัวใดแรก มีความยาวโฟกัสเท่าไหร่ หรือขนาดรูรับแสง ที่หรี่มาตอนถ่ายรูป ใหญ่โตแค่ไหน แสงที่ผ่านรูรับแสง ไปจนถึงเซนเซอร์ จะมีความเข้ม(ต่อพื้นที่รับแสง) เท่ากัน นี่คือ กฏพื้นฐานที่ต้องจำให้แม่นๆๆๆๆๆๆ (มีต่อ) จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 1 พ.ย. 51 23:02:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กฏข้อแรก .. จำได้แล้วนะครับ เลนส์ 2 ตัว .. ที่ไม่เหมือนกัน ถ้า f/stop เท่ากัน แสงที่ไปถึงเซนเซอร์ มีความสว่าง(ต่อพื้นที่รับแสง) เท่ากัน -------------------- กลับมาดูเรื่องขนาดรูรับแสงใหม่ จำเลขพื้นฐาน ม.2 ได้ไหมเอ่ย ขนาดพื้นที่วงกลม  =  k * pi * เส้นผ่านศูนย์กลางยกกำลังสอง สูตรข้างบน .. ใช้เรื่องการคำนวนแสงนี่แหละ แสงผ่านรูกลมๆ มีปริมาณแปรผันตามพื้นที่รู ไม่ใช่แปรตามเส้นผ่านศูนย์กลาง นั่นคือ ถ้าเส้นผ่านศูนย์กลางของรูรับแสงครั้งแรก มีขนาด d แล้วเราหรี่รูรับแสงลง แต่ครั้งที่สองมีขนาดครึ่งหนึ่งของครั้งแรก วงกลมที่ให้แสงผ่านครั้งที่สอง จะมีพื้นที่แค่ 1/4 ของครั้งแรก ซึ่งหมายความว่า การหรี่รูรับแสงลง ครั้งที่ 2 ... แสงผ่านไปได้แค่ 1/4 ของครั้งแรก (****) แต่ถ้าจะให้แสงผ่านไปได้แค่ 1/2 ของครั้งแรก ต้องหรี่รูรับแสงให้เล็กกว่าเดิม .. ไม่ใช่ 1/2 แต่เป็น 0.707 ... หรือ 1/ squareroot(2) (ไปคุ้ยๆตำราเลขมาอ่านใหม่ได้เลย ว่าทำไมถึงเป็นอย่างงี้ ) -------------- จากที่ว่ามาต้นๆ ถ้ารูรับแสง มีขนาด (d) โตเท่าความยาวโฟกัส (f) f/stop มีค่า = d/f = 1/1 หรือ f/1.0 ถ้ารูรับแสง มีขนาด (d) โตครึ่งหนึ่งของความยาวโฟกัส (f) f/stop มีค่า d/f = 0.5f/f หรือ f/2 และให้แสงผ่าน 1/4 ของเมื่อเปิดรูรับแสง f/1.0 (จา่กที่ทำ **** ไว้) +-+-+-+- ดูตรงนี้ให้ดีๆ -+-+-+-+-+-+ ถ้ารูรับแสง มีขนาด (d) โต 1/4 ของความยาวโฟกัส (f) f/stop มีค่า d/f = 0.25f/f หรือ f/4 และให้แสงผ่าน  - 1/4 * 1/4 หรือ 1/16 ของเมื่อเปิดรูรับแสง f/1.0  หรือ ***************** ต้องทำความเข้าใจตรงนี้ให้แม่นๆ **************** หาก NEXT "STOP" ... ต้องการให้แสงผ่านครึ่งหนึ่ง (1/2) ของ f/1.0 .. ไม่ใช่ 1/4 เราต้องเปิดรูรับแสงให้มีขนาด d = 1/sqrt(2) ของความยาวโฟกัส f/stop จะมีมีค่า d/f = 0.707f/f หรือ f/1.4 (มีต่อ) แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 51 23:24:48 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 1 พ.ย. 51 23:23:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ใน คห.ที่ 8 ที่ผมทำตัวหนาๆ เพื่อให้พยายามทำความเข้าใจนั่นแหละ เป็นที่มาของตัวเลข"พิสดาร" 1.0 1.4 2.0 2.8 4.0 5.6 8.0 11.0 16.0 22.0 ฯลฯ ตัวเลขที่ว่า .. คือ ตัวเลขที่บอกว่า อัตราส่วนเส้นผ่านศูนย์กลางรูรับแสง ต่อ ความยาวโฟกัส มีค่าเท่าไหร่ ตัวเลขแต่ละตัว ที่ตามหลัง จะเท่ากับตัวเลขแรก คูณด้วย 1.4 (หรือ squareroot(2)) ค่า 1.414 นี่ มาได้อย่างไร .. คงเข้าใจแล้ว และตัวเลขนี้ มันสรุปบอกว่า f/stop ถัดไป .. แสงจะเข้าได้ครึ่งหนึ่งของ f/stop ที่มาก่อน เพราะพื้นที่หน้าตัดรูรับแสง เหลือแค่ครึ่งเดียว (มีต่อ) แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 51 23:30:46 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 1 พ.ย. 51 23:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จบเรื่องขนาดรูรับแสง ... มาว่ากันที่ความเร็ว เข้าใจง่ายกว่า f/stop เริ่มต้นที่ 1 วินาที เร็วกว่า 1 วินาที เท่าตัว คือ 1/2 วินาที เร็วกว่า 1/2 วินาที เท่าตัว คือ 1/4 วินาที เร็วกว่า 1/4 วินาที เท่าตัว คือ 1/8 วินาที ตรงนี้จะเริ่มมั่ว .. หาสาเหตุไม่เจอ เร็วกว่า 1/8 วินาที เท่าตัว คือ 1/15 วินาที มา่ได้อย่างไรไม่รู้ .. ติดหนึบมาตั้งกะสมัยกล้องฟิล์ม! แต่พอถัดๆไป ก็สมเหตุสมผลเหมือนเดิม เร็วกว่า 1/15 วินาที เท่าตัว คือ 1/30 วินาที เร็วกว่า 1/30 วินาที เท่าตัว คือ 1/60 วินาที ทำตัวดีไม่เท่าไหร่ ..ร่อแร่ๆ เร็วกว่า 1/60 วินาที เท่าตัว คือ 1/125 วินาที จากนั้น ก็ลงตัว เร็วกว่า 1/125 วินาที เท่าตัว คือ 1/250 วินาที เร็วกว่า 1/250 วินาที เท่าตัว คือ 1/500 วินาที เร็วกว่า 1/500 วินาที เท่าตัว คือ 1/1000 วินาที ฯลฯ ------------------------------------ ถ้าเราเปิดรูรับแสง ให้แสงผ่าน 1 วินาที แล้วพบว่า มันให้แสงมากเกินไปเท่าัตัว (2x) เราต้องการให้แสงน้อยลงครึ่งหนึ่ง (1/2x) ถ้าขนาดรูรับแสงเท่าเดิม เราก็ต้องเพิ่มความเร็วขึ้นเท่าตัว (หรือให้แสงผ่านในเวลาแค่ครึ่งเดียวของเวลาเดิม) ... ถูกต้องไหมครับ? นั่นคือเปิดรูรับแสง ให้แสงผ่าน 1/2 วินาที ----------------------------- และในทำนองเดียวกัน ถ้าเราเปิดรูรับแสง ให้แสงผ่าน 1/60 วินาที และพบว่า แสงมันเข้ามากเกินไป 8 เท่าตัว เราก็ต้องเพิ่มความเร็วขึ้นแปดเท่าตัว (หรือให้แสงผ่านในเวลาแค่ 1/8 ของเวลาเดิม) ... ถูกต้องไหมครับ? ดูให้ดีๆ ดูให้ดีๆ ดูให้ดีๆ ถ้าความเร็ว 1/60 ให้แสงเข้า L ความเร็ว 1/125 ... ให้แสงเข้าครึ่งเดียว ของความเร็ว 1/60 หรือ L/2 ความเร็ว 1/250 ... ให้แสงเข้าครึ่งเดียว ของความเร็ว 1/125 หรือ (L/2) / 2 = L/4 ความเร็ว 1/500 ... จะให้แสงเข้าครึ่งเดียว ของความเร็ว 1/250 หรือ (L/4) / 2 = L/8 นั่นคือถ้าขนาดรูรับแสงสัมพัทธ์เท่าเดิม แล้วต้องการให้แสงเข้าน้อยลง 1/8 ต้องเพิ่มความเร็วขึ้น 3 (next) stops (มีต่อ) แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 51 23:43:02 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 1 พ.ย. 51 23:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จาก คห.9 และ 10 พอเกิดความเข้าใจบ้างหรือยังครับ?  ถ้ายัง .. อ่านช้าๆ ใหม่อีกรอบ  ผมว่าไม่เกิน 2-3 รอบ ก็จะปิ๊ง! และได้บทสรุป  -----------------------------  ตัวเลขพิสดารของ f/stop บอกว่า ... ทุึกๆ (next) stop .. แสงจะเข้าได้น้อยลงครึ่งหนึ่ง ของตัวเลขปัจจุบัน  หรืออีกนัยหนึ่ง  ทุึกๆ (previous) stop .. แสงจะเข้าได้มากขึ้นสองเท่า ของตัวเลขปัจจุบัน  ตัวเลขพิสดารของ speed บอกว่า ... ทุึกๆ (next) stop .. แสงจะเข้าได้น้อยลงครึ่งหนึ่ง ของตัวเลขก่อนหน้า  หรืออีกนัยหนึ่ง  ทุึกๆ (previous) stop .. แสงจะเข้าได้มากขึ้นสองเท่า ของตัวเลขปัจจุบัน  -------------------- ตัวอย่าง  ถ้าเปิดรูรับแสงที่ f/8 นาน 1/60 วินาที ... แสงเข้าพอดี  ถ้าต้องเปิดรูรับแสง ให้พื้นที่แสงผ่านลดลงครึ่งหนึ่ง ... ก็ต้องเปิด next stop ... f/11  และถ้ายังต้องการ f/11 (ซึ่งแสงผ่านน้อยลงครึ่งหนึ่ง) แต่ต้องการให้แสงเข้าพอดี  ก็ต้องเพิ่มเวลาขึ้นเท่าตัว ... previous stop ... 1/30 วินาที  -------------------- อีกตัวอย่าง  ถ้าเปิดรูรับแสงที่ f/5.6 นาน 1/250 วินาที ... แสงเข้าพอดี  ถ้าต้องเปิดรูรับแสง ให้พื้นที่แสงผ่านลดลงสี่สตอป ... ก็ต้องเปิด next 4 stop  f/5.6 -> f/8 -> f/11 -> f/16 -> f/22  และถ้ายังยืนยันว่า ต้องการ f/22 (ซึ่งแสงผ่านน้อยลงกว่าเปิดที่ f/5.6 สี่สตอป, -4 stops) แต่ยังต้องการให้แสงเข้าพอดี  ก็ต้องเพิ่มเวลาขึ้นสี่สตอป (+4 stops) ...  ...  1/250 -> 1/125 -> 1/60 -> 1/30 -> 1/15 วินาที  ----------------  ถ้าจะถามว่า ทำไมต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา  ก็ต้องตอบแบบทุบโต๊ะฟันธงว่า เพราะมันขึ้นกะอารมณ์ติสต์ตอนนั้นเฟร้ย  จบ  ขอบคุณที่ไม่ปาดและตามอ่าน  อ่านแล้วปวดหัว ไม่รู้เรื่อง ก็กดผ่านๆไป  อ่านแล้วคิดว่า พอรู้เรื่อง ก็พยายามจำๆหน่อย  แต่ถ้าอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง แต่รักการถ่ายภาพมาก .. จนต้องซื้อกล้อง dSLR มาใช้  ก็ให้ print ไปอ่านอย่างน้อยยี่สิบรอบ หรือจนกว่าจะเข้าใจ  นี่แหละ .. สิ่งที่คนรักการถ่ายรูปอย่างหนัก ต้องจ่าย เพื่อแลกกับการถ่ายออกมาแล้ว .. เทคนิคอลไม่เละตุ้มเป๊ะ  จอ บอ ... จบ  เมื่อยนิ้วมั่กๆๆๆๆ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 1 พ.ย. 51 23:57:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไปซดน้ำเย็นๆ  ก่อนกลับมา ปล. เล็คเชอร์ เข้าใจตัวเลขพิสดาร ของ stop แล้ว ... ทั้ง f/stop และ speed รู้ว่า ที่มาที่ไป เป็นยังไง ที่มาเพิ่มคือ 1/2 stop .. หรือ f/1.2, f/1.8, f/2.5, f/3.5, f/6.3 ฯลฯ มันครึ่ง ... ระหว่าง stop ที่ว่ามา ครึ่ง stop ของความเร็ว .. ก็ตรงกลาง อย่างเช่น 1/90 ที่สงสัยนั่นแหละ 1/3 stop มันคือ squareroot (3) หรือ 1.732 อย่าไปยุ่งกับมัน ... ปวดหัวตายชัก ยุคนี้ ยุค digital 1/3 stop มันเรื่องของฟิล์ม slide 1/2 stop เป็นเรื่องของฟิล์ม negative และ b/w digital ทนต่อแสงผิดพลาดได้ถึง 1 stop ---------------- เข้ามา ปล.ว่า ข้อความสงวนลิขสิทธิ ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร โดยเด็ดขาด แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 00:14:36 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 2 พ.ย. 51 00:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เอ่อ อ่านแล้วเข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่ง แบบว่าโง่วิชาเลข เดี๋ยวจะปริ้นท์ไปอ่านอีกรอบคะ ขอบคุณมากๆนะคะ จากคุณ : Sachiko_KU - [ 2 พ.ย. 51 14:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ Sachiko ... KU เท่าไหร่ครับ ผมน้อยกว่า 50 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 2 พ.ย. 51 18:27:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ่าขอบอกตามตรงคะ น้อยกว่า 50 ขอโทษจริงๆคะ หัวช้าเรื่องเทคโนโลยีอะคะ จากคุณ : Sachiko_KU - [ 2 พ.ย. 51 19:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 16 น้าเหมียว ผม 44 อิอิ.....ดวงมันสมพงษ์จริงๆ เลยนะน้า ..... จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 3 พ.ย. 51 23:26:07 ]