ความคิดเห็นที่ 1 จุดผ่านแดนสู่ลาวใต้โดยทางรถยนต์ที่สะดวกที่สุดคือด่านช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี รถโดยสารประจำทางนั้นมีทั้ง กรุงเทพฯ – ช่องเม็ก แล้วจึงต่อรถจากช่องเม็กไปปากเซ หรือ จะใช้บริการรถโดยสารระหว่างประเทศ อุบลราชธานี-ปากเซ ก็ตามแต่สะดวกครับ รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางหาอ่านได้ตามหนังสือนำเที่ยวทั่วไป จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โดยปกติผมแทบไม่เคยสนใจถ่ายภาพอาคารสำนักงานจุดผ่านแดน แต่ครั้งนี้ต้องขอเก็บภาพสถานที่นี้ไว้เป็นที่ระลึกสักครั้ง เพราะไม่บ่อยนักที่จะมีโอกาสได้เห็นสถานที่ราชการถูกสร้างให้มีหน้าตาแบบนี้ โดยเฉพาะว่ามาตั้งอยู่ตรงชายแดนด้วยนี่สิ ผมไม่ทราบหรอกว่าใครเป็นผู้ออกแบบ และผมก็ไม่ฉลาดพอที่จะเข้าถึงแนวความคิดในการออกแบบด้วย แถมยิ่งรู้สึกโง่ลงไปอีกตอนที่เดินมาถึงด้านหน้าอาคารแล้วก็ไม่รู้ว่าจะต้องเดินต่อไปทางไหน เพราะตรงนั้นมันไม่มีอะไรเลยนอกจากตู้เอทีเอ็มสองตู้กับกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ที่มานั่งหลบแดด  ผมรู้สึกทึ่งที่นอกจากตัวสถาปัตยกรรมจะเข้าใจได้ยากแล้ว การจัดวางทางสัญจรก็เข้าใจได้ยากเช่นกัน จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:14:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากจุดผ่านแดนวังเต่าผมเดินทางไปปากเซโดยใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างในราคา 300 บาท ออกจะแพงอยู่กับระยะทาง 45 กม. ทั้งที่ในตอนแรกกะว่าจะโดยสารรถประจำทางท้องถิ่น แต่ผมหาคิวรถไม่เจอน่ะ ภายหลังจึงมารู้ว่ามันต้องเดินจากด่านมาประมาณ 400 ม. จึงจะเจอคิวรถ สำหรับท่านที่มากันหลายคนก็อาจจะเหมารถแท็กซี่บุคคลก็น่าจะสะดวกรวดเร็วดี การเดินทางจากจุดผ่านแดนเข้าสู่ลาวใต้นั้น จะต้องผ่านตัวเมืองปากเซเสมอครับ ภาพประกอบเป็นบรรยากาศของเมืองปากเซยามเช้า ถ้าคุณพักในโรงแรมที่เป็นอาคารสูงก็จะมีโอกาสได้เห็นภาพของตัวเมืองที่เติบโตเคียงคู่กับแม่น้ำโขงและทิวเขาสลับ น่าเสียดายว่าโรงแรมบางที่นั้นสร้างสูงมากเกินไป จนกลายเป็นการรบกวนทัศนียภาพโดยรวมของเมือง (ความคิดเห็นส่วนตัวครับ) จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปากเซถ้าเทียบกับบ้านเราก็ต้องบอกว่าเป็นอำเภอขนาดเล็กที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เพราะเป็นประตูการค้ามาสู่ฝั่งไทย ผังเมืองแบบตารางที่ใช้เวลาเดินสักครึ่งวันก็แทบจะทั่วเมืองแล้ว ถนนหนทางในเมืองกว้างขวางพอที่จะรองรับการเติบโตของเมืองไปได้อีกนาน ความกว้างของถนนเมื่อเทียบกับปริมาณรถที่มีอยู่น้อยในปัจจุบันก็ดูจะทำให้บรรยากาศในเมืองออกจะเหงาๆ ไปสักหน่อยแต่ก็ดูผ่อนคลายดี แน่นอนว่าสำหรับคนที่เคยชินกับสภาพการจราจรในกรุงเทพฯ อย่างผมเมื่อมาอยู่ที่นี่ก็รู้สึกหลอนนิดหน่อยน่ะ ภาพประกอบเป็นบรรยากาศยามเช้าวันอาทิตย์ กับถนนเส้นหลักที่ตัดผ่านตัวเมือง มีโรงแรมจำปาสักพาเลซซึ่งมีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองสร้างโดดเด่นเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมือง จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:15:59 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จากจุดผ่านแดน ผมเดินทางเข้าปากเซและต่อรถประจำทางท้องถิ่น ลักษณะเหมือนรถสองแถวบ้านเราเพื่อเดินทางต่อไปยังสี่พันดอนซึ่งอยู่ห่างจากปากเซไปทางใต้ตามทางหลวงหมายเลข 13 เป็นระยะทางประมาณ 128 กม. และกะว่าจะไปหาที่พักสำหรับคืนแรกในละแวกนั้น สภาพเส้นทางขอบอกว่าอยู่ในสภาพดีมากครับ อย่างน้อยก็ดีกว่าสภาพถนนจากเวียงจันทน์ไปวังเวียงตอนนี้มากครับ ในช่วงวันหยุดเทศกาลก็จะมีกลุ่มทัวร์หรือขบวนเสือภูเขาจากฝั่งไทย โผล่มาให้เห็นเป็นระยะๆ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คำว่าสี่พันดอนนั้นเป็นชื่ออาณาบริเวณของแม่น้ำโขงช่วงที่กว้างมากที่สุดช่วงหนึ่งของลำน้ำสายนี้ บริเวณดังกล่าวก็จะปรากฎเนินดินและเกาะแก่งมากมายที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่าดอน ซึ่งมีอยู่มากมายนับเป็นพันๆ แห่ง จนมีชื่อเรียกกันว่าสี่พันดอน ที่กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของลาวใต้ ในบรรดาดอนมากมายหลายแห่งนั้น บางจุดก็มีการตั้งรกรากของชุมชนที่ใช้ประโยชน์จากดินและน้ำอันอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำโขงเป็นแหล่งทำเกษตรกรรมและกสิกรรม  แต่ปัจจุบันธุรกิจการท่องเที่ยวก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่ทำรายได้อย่างดีให้กับผู้คนในละแวกนี้ ภาพประกอบเป็นท่าเรือบริเวณดอนเดด การเดินทางข้ามไปมาตามดอนต่างๆ นั้นต้องใช้เรือเป็นพาหนะหลักเท่านั้นครับ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:16:59 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โดยปกติถ้าคุณโดยสารรถสองแถวท้องถิ่นเพื่อจะไปชมคอนพะเพ็งซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเขตแม่น้ำโขงตอนล่างนั้น รถจะมาสิ้นสุดเส้นทางที่หมู่บ้านนากะสัง แล้วก็ต้องใช้บริการรถรับจ้างท้องถิ่นแถวนั้นหากจะเดินทางต่อไปยังคอนพะเพ็ง ผมลงจากรถและต่อเรือที่นี่เพื่อไปหาที่พักสำหรับคืนแรกบนดอนกลางแม่น้ำโขงที่มีชื่อว่าดอนเดด บรรดาที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่สร้างกันอยู่บนดอนนั้น ส่วนใหญ่มักจะสร้างกันตามริมแม่น้ำอย่างในภาพประกอบ สำหรับใครที่เคยไปพักที่วังเวียงก็อาจจะคุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้ ผิดกันแต่ว่าขนาดของแม่น้ำโขงนั้นกว้างใหญ่กว่าแม่น้ำซองที่วังเวียงมากๆ ทัศนียภาพของแม่น้ำโขงที่แผ่ไพศาลนับเป็นหลายกิโลเมตรแบบนี้นั้นก็หาดูไม่ได้ในละแวกจังหวัดบ้านเรา จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:17:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 นักท่องเที่ยวที่มาพักส่วนใหญ่เป็นฝรั่งในแบบ Backpacker ที่ดั้นด้นมาหาบรรยากาศเงียบสงบ คือไปทางไหนก็จะเจอแต่ฝรั่งผมทองเดินกันให้ทั่วไปหมด อัตราค่าที่พักก็จัดว่าถูกมาก อย่างเช่นห้องที่ผมพักขนาด 2 เตียง มีพัดลมและห้องน้ำในตัว สภาพสะอาดมีทิวทัศน์ของทุ่งข้าวสีทองอยู่ด้านหลัง ระเบียงหน้าบ้านมีเปลญวณไว้ให้นอนเล่น ที่กล่าวมานั้นหาได้ทั่วไปในราคาคืนละ 120 บาท ดังนั้นไม่แปลกที่คุณจะพบว่าฝรั่งบางคนนั้นมานอนเล่นที่นี่อยู่นานหลายเดือน แต่บรรยากาศแบบนี้ก็ต้องแลกกับบางอย่างที่คนเมืองใหญ่อาจจะเรียกว่าเป็นความไม่สะดวกสบาย อย่างเช่นว่าไฟฟ้าแสงสว่างที่อาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เนื่องจากบนเกาะนั้นใช้เครื่องปั่นไฟแบบใช้น้ำมัน ซึ่งพอสักประมาณห้าทุ่มก็จะงดการจ่ายไฟ แน่นอนว่ามันก็จะมืดสนิทไปหมดแถมพัดลมก็หยุดหมุนด้วยสิ ถ้าเป็นหน้าร้อนก็คงจะลำบากอยู่ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เช้าของวันที่สองผมโดดซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เพื่อเดินทางไปชมคอนพะเพ็งที่อยู่ห่างจากบ้านนากะสังไปราว 3 กม. สภาพของน้ำตกก็ดูกว้างใหญ่ดี จะขาดไปก็แค่ความสูงที่หากมีมากกว่านี้อีกสักหน่อยก็น่าจะทำให้กระแสน้ำดูมีพลังมากกว่านี้ ตอนที่ผมไปถึงนั้นไม่มีใครสักคนเดียวอยู่ในบริเวณนั้น งานนี้จึงต้องใช้ตัวเองเป็นแบบในภาพเพื่อเปรียบเทียบสัดส่วนกับพื้นที่โดยรอบ ขาตั้งกล้องที่อุตส่าห์แบกไปด้วยกับระบบตั้งเวลาถ่ายของกล้องมีประโยชน์ขึ้นมาทันทีในสถานการณ์แบบนี้ ด้านมุมซ้ายสุดของภาพจะเห็นอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดชมวิวที่สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:19:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ช่วงปลายหน้าฝน แม่น้ำในบริเวณนี้ออกจะขุ่นและเต็มไปด้วยตะกอนสีแดง คอนพะเพ็งมีประวัติมายาวนานที่น่าสนใจอยู่หลายอย่างลองไปหาอ่านตามหนังสือท่องเที่ยวดูนะครับ การเดินลงมาชมตามบริเวณในภาพไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็กและผู้สูงอายุนะครับ เพราะสภาพทางเป็นหินที่ไม่สะดวกต่อการเดินและควรสวมใส่รองเท้าผ้าใบ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:19:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณหนึ่งชั่วโมง พลางสงสัยว่าหากเป็นช่วงเวลาเย็น สภาพแสงจะดูแตกต่างกว่าตอนนี้อย่างไร ใกล้กันกับน้ำตกมีบริการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่หลายหลัง สภาพดูดีกว่าที่พักตามดอนต่างๆ เหมาะสำหรับท่านที่ไม่สะดวกนั่งเรือไปตามดอนต่างๆ ใครสนใจก็ลองไปเที่ยวชมดูนะครับ ถ้ามาลาวใต้แล้วก็น่าจะมาให้ถึงคอนพะเพ็งครับ ถัดจากคอนพะเพ็งลงไปทางใต้อีก 10 กม. เป็นจุดผ่านแดนเข้าสู่ประเทศกัมพูชา แถวนั้นมีบริเวณที่อยู่อาศัยของปลาโลมาอิรวดีหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ปลาข่า แต่ผมก็ไม่ได้ไปดูหรอกเพราะไม่มีเวลา จากการพูดคุยกับนักท่องเที่ยวที่พบเจอกันระหว่างทางก็เล่าให้ฟังว่ายังมีปลาให้ได้ดูกันอยู่ แต่ต้องเสียค่าเข้าชมให้ทางกัมพูชาน่ะ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 การได้นั่งทานอาหารเช้าริมฝั่งดอนพร้อมกับเฝ้าดูทิวทัศน์และภาพชีวิตของผู้คนริมแม่น้ำโขงจัดว่าเป็นความรื่นรมย์อย่างหนึ่งสำหรับการท่องเที่ยวในลาวใต้ คำนิยามใน Lonely Planet กล่าวถึงที่นี่ว่า Fascinating glimpse of tranquil river-oriented village life – ‘more detached from time than from the riverbank’ ปัจจุบันดอนเดดนั้นกลายเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงและบอกเล่ากันแบบปากต่อปากในหมู่ Backpacker ทั่วโลก ที่จะต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งหากมีโอกาสมาเยือนเอเชียอาคเนย์ และขอบอกอีกอย่างว่าอาหารที่นี่อร่อยมากในราคาที่สมเหตุสมผล คือราคาไม่จัดว่าถูกเมื่อเทียบกับบ้านเราแต่ก็ไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:21:15 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หลังอาหารเช้าผมเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางย้อนขึ้นเหนือ เพื่อไปชมโบราณสถานที่มีชื่อเสียงมากของลาวใต้คือวัดภูจำปาสัก เส้นทางไปวัดภูนั้นจะต้องผ่านเมืองจำปาสักซึ่งทำเลของเมืองนั้นสร้างอยู่อีกฟากหนึ่งของริมแม่น้ำโขงโดยจะต้องอาศัยแพข้ามฟากตามภาพประกอบครับ สภาพท่าแพก็เป็นอย่างที่เห็นคือทำกันแบบง่ายๆ ไม่มีอะไรมากมาย ความแข็งแรงปลอดภัยของแพยนต์ก็อยู่ในระดับที่พอไว้ใจได้ สามารถรองรับน้ำหนักรถบรรทุกขนาดใหญ่ได้สบาย แต่บนแพไม่มีชูชีพให้หยิบฉวยยามฉุกเฉินนะครับ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:22:00 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ในคราแรกนั้นผมตั้งใจว่าหลังจากแวะชมวัดภูแล้วก็จะกลับออกไปหาที่พักในเมืองปากเซ แต่ทันทีที่ผมมาเห็นทัศนียภาพของภูมิทัศน์บริเวณนี้ ผมก็ตัดสินใจในทันทีที่จะค้างแรมที่เมืองจำปาสัก แน่นอนว่าภาพถ่ายของผมนั้นไม่สามารถถ่ายทอดความงดงามตามอย่างที่ตาเห็นได้ดีเพียงพอ ผืนแม่น้ำโขงที่กว้างไกลสุดสายตาจนบรรจบกับแนวขอบฟ้าที่ระบายไปด้วยปุยเมฆ  การได้เป็นประจักษ์พยานแห่งความเวิ้งว้างไร้ขอบเขตของโลก สัมผัสเหล่านั้นโอบล้อมร่างกายและกระตุ้นการรับรู้ของผมให้เห็นถึงคุณค่าของความเป็นอิสระ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมเคยแวะเวียนไปตามท่าข้ามริมฝั่งโขงอยู่หลายแห่ง อาทิ ห้วยทราย, หลวงพระบาง, ปากซัน, สะหวันนะเขต ถ้าถามผมตอนนี้ว่าทัศนียภาพที่ใดสวยที่สุดในความคิดเห็นของผม ขอบอกว่าคือที่จำปาสักนี่แหละครับ โดยเฉพาะบรรยากาศช่วงเช้าที่มีแสงแดดสีทองสาดส่องผืนน้ำ มีฉากหน้าเป็นภาพชีวิตของผู้คนท้องถิ่นโดยสารเรือสองลำที่นำมาต่อกันเป็นแพข้ามฟาก การใช้บริการแพขนาดเล็กนี้ไม่เสียค่าบริการครับ ฉากหลังเป็นทิวเขาที่มีปุยเมฆสีขาวลอยเอื่อย นึกถึงช่วงเวลานั้นแล้วผมก็อยากกลับไปยืนแถวนั้นอีกสักครั้ง จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ภาพชีวิตแบบปกติธรรมดาของคนที่นี่ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:24:19 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ้ายหนุ่มลาวที่ใช้เวลาครึ่งหนึ่งของชีวิตอยู่บนผืนน้ำ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:24:44 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เมืองจำปาสักในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีความสำคัญในเขตลาวใต้ แต่ปัจจุบันกลายเป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ ในตัวเมืองมีบ้านพักริมแม่น้ำโขงอยู่หลายแห่งเปิดให้บริการในราคาไม่แพง ลักษณะของเมืองคล้ายกันกับอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย คือตัวเมืองสร้างไปตามถนนเส้นเดี่ยวที่วิ่งขนานกันกับลำน้ำโขง หากมีโอกาสขอแนะนำให้มาแวะพักที่นี่อย่างน้อยสักหนึ่งคืนนะครับ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รูปสวยบรรยากาศน่าไปเที่ยวครับ สักวันหนึ่งเราคงได้ไป จากคุณ : อนันต์ครับ - [ 10 พ.ย. 51 22:26:46 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อาคารที่เคยเป็นที่พำนักของบิดาเจ้าผู้ครองนครองค์สุดท้ายก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง คือถ้าใครมาที่จำปาสักนี่ก็ต้องมาถ่ายภาพอาคารนี้กันน่ะ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ห่างจากตัวเมืองจำปาสักไปราวสิบกิโลเมตรเป็นที่ตั้งของปราสาทวัดภู สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างตามแนวความคิดของขอมโบราณ ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในภาพเป็นบันไดหินที่ถูกปูซ้อนกันคล้ายเกล็ดพญานาค ทอดยาวขึ้นสู่ปรางค์ประธาน ทั้งสองข้างของบันไดมีต้นจำปาขาดใหญ่เรียงรายสร้างมิติของการเข้าถึงได้อย่างงดงาม จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 บันไดช่วงสุดท้ายก่อนถึงปรางค์ประธาน มีความชันมาก ต้องอาศัยการเดินช้าๆ อย่างระมัดระวัง ผู้สูงอายุอาจจะลำบากในการขึ้นลงบ้างแต่ส่วนใหญ่ก็ขึ้นมาถึงกันได้อย่างไม่มีปัญหา จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:28:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ปรางค์ประธานหรือหอไหว้ที่ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปแบบศาสนาพุทธแทนที่ของเดิมที่เคยเป็นศิวลึงค์ สภาพปัจจุบันทรุดโทรมไปตามกาลเวลา อ่านประวัติเพิ่มเติมได้จากหนังสือท่องเที่ยวนะครับ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:28:50 ]

ความคิดเห็นที่ 24 การมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ควรมาแต่เช้า หรือไม่ก็ช่วงบ่ายแก่ๆ ครับ จะได้ไม่ต้องลำบากมากจากความร้อนของแสงแดด จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ภาพจากมุมสูงจะมองเห็นบารายและผังบริเวณที่สร้างตามคติจักรวาล จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:30:11 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ความเชื่อเกี่ยวกับคติจักรวาลนั้นเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความมีอารยธรรมของมนุษย์ ความเข้าใจในจักรวาลยังคงเป็นปริศนาและความท้าทายต่อกำลังสติปัญญาของเรามาตลอดทุกกาลสมัย เราผ่านช่วงเวลาของความรู้ในจักรวาล 4 มิติแบบขอมมาหลายพันปีแล้ว ผมสงสัยว่าหากมีการออกแบบสิ่งก่อสร้างตามความเชื่อแบบคติจักรวาลในปัจจุบัน หน้าตาของสถาปัตยกรรมที่ออกแบบจากแนวความคิดควอนตัมฟิสิกส์ บนเนื้อหาล่าสุดของ Super String ที่คำนวณว่าจักรวาลมี 26 มิติ นั้นจะมีหน้าตาอย่างไรกัน จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คืนสุดท้ายในลาวใต้ผมกลับเข้าไปพักที่ปากเซ เพื่อใช้เวลาเดินเล่นชมเมืองในช่วงเวลาที่เหลือ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อย่างที่เล่าไว้ข้างต้นว่าปากเซเป็นเมืองเล็กๆ ที่เดินสักพักก็แทบจะทั่วแล้ว ขนาดของเมืองใหญ่กว่าหลวงพระบางนิดหน่อยแต่ความหนาแน่นของบ้านเรือนและผู้คนน้อยกว่า บางมุมของอาคารบางแห่งก็อาจจะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจแฝงอยู่ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ในยามเย็นกับบรรยากาศแบบเหงาๆ การเดินเล่นริมแม่น้ำโขงเป็นกิจกรรมเดียวที่ผมคิดออกในตอนนั้น จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 30 บรรยากาศตอนนั้นถึงตัวเองจะรู้สึกเหงาไปบ้างแต่ก็รู้สึกดีที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ โดยส่วนตัวแล้วผมชอบการเดินทางเพื่อจะได้มีโอกาสค้นหาและสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ เพราะสิ่งเหล่านั้นทำให้รับรู้ว่าจิตวิญญาณของเรายังคงมีชีวิตอยู่ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 31 วิถีของผู้คนท้องถิ่นดูเป็นชีวิตที่ไม่เร่งรีบ และเต็มไปด้วยสีสันแห่งความจริงตามธรรมชาติ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เดือนตุลาคมเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวสำหรับฤดูทำนา เรือนพักแรมที่ปลูกอยู่ข้างทุ่งข้าวสำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวมีหาได้ทั่วไป โดยคุณไม่จำเป็นต้องไปพักรีสอร์ทราคาแพงที่จ้างชาวบ้านมาดำนาให้ดู จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ภาพเด็กเล็กๆ มีให้เห็นอยู่แทบทุกหนทุกแห่ง จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:34:27 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมหวังว่าเด็กๆ เหล่านั้นจะเติบโตโดยรู้รักษาในทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่าของประเทศ จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:35:00 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เวลาเพียงสี่วันของผมในลาวใต้นั้นน้อยเกินไป มีสถานที่อีกมากมายหลายแห่งที่ผมยังไม่มีโอกาสได้ไปเยือน ผมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องกลับมาที่ภูมิภาคนี้อีกครั้งในสักวันหนึ่ง จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ทุกภาพถ่ายด้วย Olympus E-510 + Lens Kit 14-42 และเป็นครั้งแรกที่ได้ลองใช้ Filter ND สีเทาแบบครึ่งซีก ชนิดที่เป็นแผ่นใหญ่ เสียบอยู่หน้าเลนส์น่ะ ซึ่งก็ทำให้ชีวิตการถ่ายรูปง่ายขึ้นเยอะเลยครับ เพราะสามารถเก็บรายละเอียดของท้องฟ้าได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่จะว่าไปแล้วทริปนี้ผมถ่ายภาพได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่ เวลาว่างส่วนใหญ่มักจะนั่งๆ นอนๆ เหมือนมาพักผ่อนน่ะ สวัสดีและพบกันใหม่ในโอกาสต่อไปครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความคิดเห็นครับ ปล. อ่านกระทู้เก่าๆ ของการเดินทางที่ผ่านมาของผมได้ตามข้างล่างนี้ครับ *กรกฎาคม 2551 - Mumbai, อินเดีย: http://www.pantip.com/cafe/gallery/topic/G6899204/G6899204.html *เมษายน 2551 - เวียดนามกลาง: http://www.pantip.com/cafe/gallery/topic/G6568244/G6568244.html *ธันวาคม 2550 - หลวงพระบาง, ลาว: http://www.pantip.com/cafe/gallery/topic/G6135063/G6135063.html จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 22:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อยากทราบว่าใช้ Body ตัวไหนหรอครับ ดูแล้วไม่เหมือนภาพจาก 4:3 เลย จากคุณ : Pro_Grade_Better - [ 10 พ.ย. 51 22:36:27 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอจองไว้ก่อน เดี๋ยวต้องดูให้ลึกซึ้ง ............................... งามมาก จากคุณ : lumpoo - [ 10 พ.ย. 51 22:40:32 ]

ความคิดเห็นที่ 39 Discovery Channel ... จากคุณ : Photio - [ 10 พ.ย. 51 22:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 40 งามทั้งภาพและเรื่องราวเลยครับ จากคุณ : zalazit - [ 10 พ.ย. 51 22:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 41 Quote แต่จะว่าไปแล้วทริปนี้ผมถ่ายภาพได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่  /Quote แค่นี้ก็เหลือจะประมาณแล้วครับ   ถ้าตั้งใจให้เป็นชิ้นเป็นอัน...จะสุดยอดขนาดไหนล่ะครับ จากคุณ : mixz - [ 10 พ.ย. 51 22:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 42 กรี๊ดเลยครับ สุดๆๆ กล้องอะไรเลนส์อะไรเอ่ย จากคุณ : CraZyBMW - [ 10 พ.ย. 51 23:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 43 reply คห.37, คห.42 ทุกภาพถ่ายด้วย Olympus E-510 + Lens Kit14-42 ครับ อุปกรณ์อื่นๆ ที่พกไปด้วยได้แก่ขาตั้งกล้องกับฟิลเตอร์ ND แบบสีเทาครึ่งซีกครับ ภาพแนวตั้งเป็นสัดส่วน 4:3 ส่วนแนวนอน crop เป็น 3:2 ครับ, สำหรับภาพ Panorama ต่อภาพโดยใช้โปรแกรม Panorama Factory ครับ... แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 51 23:22:57 จากคุณ : Filmlandscape - [ 10 พ.ย. 51 23:20:23 ]

ความคิดเห็นที่ 44 งามมากมาย...ชอบหลายภาพเลยครับ จากคุณ : pa-pem - [ 10 พ.ย. 51 23:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เล่นเอาผมอึ้งวะทุกรอบจริงๆ เลยคุณนี่ - -'' จากคุณ : Dont Be Serious - [ 10 พ.ย. 51 23:34:43 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สุดยอดเลยครับน้า ชอบ ตังแต่ไปอินเดีย แล้ว จากคุณ : คนดงบ้านดอน - [ 11 พ.ย. 51 00:18:32 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เยี่ยมยอดทั้งภาพและเรื่องราวที่นำเสนอเลยครับ ภาพก็เยี่ยมในตัวมันเอง ได้เรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาเสริมเข้าไปอีก เยี่ยมจริงๆครับ เมื่อ 2 ปีที่แล้วผมก็มีโอกาสไปตามโปรแกรมอย่างในภาพนี่แหละครับ แต่มันติดขัดนิดหน่อย ไปดูคอนพะเพ็ง ตอน 2 ทุ่มยังงี้ ได้ยินแต่เสียงอ่ะ 55 ยังไม่เคยเห็นของจริงเลย เพราะมันมืดมากๆ โรงแรม ค.ห.4 ไม่แน่ใจว่าเป็นวังเจ้ามหาชีวิตเก่ารึเปล่า เคยไปกินข้าวเย็นที่นั่น มีประวัติศาสตร์น่าสนใจดีครับ ^_^ จากคุณ : new rose - [ 11 พ.ย. 51 00:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ชอบสี ท่านทุกภาพเลย   ภาพดูเรียบแต่สวยขาดใจเลยครับ ไม่ทราบว่าท่านโปรเซสเร่งสีบ้างหรือเปล่าครับ เพราะผมชอบแนวนี้อย่ จากคุณ : ดอกไม้และสายลม - [ 11 พ.ย. 51 01:04:49 ]

ความคิดเห็นที่ 49 งามมากเลยครับ สีสวยดีมุมมองแจ๋ว พาโนสวยทุกรูปเลยครับ จากคุณ : CocoSang - [ 11 พ.ย. 51 01:27:41 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณครับ รอมานานแล้วครับกระทู้ดีๆ มีเรื่องลาว (ราว) ให้น่าติดตาม เห็นแค่ชื่อล็อกอินก็รู้แล้วครับว่างานดีมีคุณภาพ (ผมยังไม่ได้อ่านเลย) จากคุณ : ขวางโลก (โทษที ชื่อนี้มีแล้ว) - [ 11 พ.ย. 51 07:14:00 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ภาพสวยมากๆ ไว้จะไปลอง ND บ้างค่ะ จากคุณ : แม่ไอ้ฟู - [ 11 พ.ย. 51 07:33:35 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เรื่องราวดีๆ ภาพสวยๆ รอชมภาคต่อไปค่ะ จากคุณ : มอคโคริ (มอคโคริ) - [ 11 พ.ย. 51 07:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เห็นชื่อนี้ ต้องรีบคลิกเข้ามาด่วนเลยครับ ขอบคุณสำหรับภาพสวย ๆ และเรื่องราวดี ๆ  :D จากคุณ : chotto - [ 11 พ.ย. 51 08:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 54 วิวสวยมากครับ จากคุณ : Pulanka - [ 11 พ.ย. 51 08:39:26 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ภาพสวยดีจังเลยครับ  สถานที่ก็น่าเที่ยวครับ จากคุณ : puritat_jam - [ 11 พ.ย. 51 08:45:36 ]

ความคิดเห็นที่ 56 งดงามครับ...ภาพดูเรียบง่าย แต่ มันก็สวยซะจริงๆ จากคุณ : ตี๋265 - [ 11 พ.ย. 51 09:16:45 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สวยเป็นบร้าเลยอะ...เจ๋งสุดๆๆ จากคุณ : Photo-Engineer - [ 11 พ.ย. 51 09:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เป็นภาพชุดลาว ที่สวยที่สุดเลยอ่ะตั้งแต่หามา ใช้เลนส์คิทได้สุดยอดเลยจ้า จากคุณ : yuinaya - [ 11 พ.ย. 51 09:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 59 7 แรง พาโนเยี่ยมมมมมมม จากคุณ : pomgm2000 - [ 11 พ.ย. 51 10:39:34 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ว้าว....ภาพดี เรื่องเด่น น่าไปเที่ยวจังครับ จากคุณ : รุกฆาต - [ 11 พ.ย. 51 11:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ประทับใจภาพที่ 3 มากเลยครับ จากคุณ : toxinnn_po - [ 11 พ.ย. 51 11:53:31 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ลาวใต้สวยมากครับ จากคุณ : tough - [ 11 พ.ย. 51 11:59:21 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สวยและเป็นแรงบันดาลใจให้อยากถ่ายภาพแบบนี้ได้บ้างครับ จากคุณ : อาป๋อง - [ 11 พ.ย. 51 12:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ภาพสวยงาม มุมมองเยี่ยมมากเลยคร๊าบ เห็นทีต้องไปหา ND มาใช้บ้างแล้วอ่ะ กำลังจะหาซื้ออยู่พอดีเลยคร๊าบ ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ เหมือนได้เกาะน้าไปเที่ยวด้วยเลยคร๊าบ ชอบจังกระทู้แบบนี้อ่ะ จากคุณ : eawoly - [ 11 พ.ย. 51 12:34:39 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ยอดเยี่ยมทั้งภาพ และ เรื่องราวประกอบ เคยอ่านผลงานก่อนหน้าแล้วครับ อึ้งและทึ่งจริงๆ จนต้องบุคมาร์ค จากคุณ : น้องครับผม - [ 11 พ.ย. 51 12:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ซูดดดดดดด ย๊อด เลย คับ จากคุณ : azoons - [ 11 พ.ย. 51 12:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สุดยอดเลยครับ .. .. จากคุณ : Spycam - [ 11 พ.ย. 51 12:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 68 สุดยอดครับ ภาพไม่ธรรมดาเลย จากคุณ : adome - [ 11 พ.ย. 51 14:39:31 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณ ที่นำภาพสวย ๆ มาให้ชมกันนะครับ ชอบผลงาน ของคุณ Film มากครับ ติดตามชม ทุก ๆ ตอนครับ เป็นตัวอย่างที่ดีมาก ๆ ครับ ว่า ภาพสวย ๆ ได้จากมุมมอง ทั้งที่ให้อุปกรณ์ ธรรมดา ๆ นำผลงานมาให้ชม กันเรื่อย ๆ นะครับ ... จากคุณ : murmur - [ 11 พ.ย. 51 20:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ภาพสวยมากๆ คำบรรยายก็เจ๋ง ครับ จากคุณ : O_root - [ 11 พ.ย. 51 21:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 71 มาชมอีกรอบ พานอรามาเเจ่มมากๆๆๆๆๆๆๆๆ สวยยกชุดครับ ไม่รู้จะชมอย่างไร .................... เยี่ยม จากคุณ : lumpoo - [ 11 พ.ย. 51 22:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เป็นแฟนคลับล็อกอินนี้ซะแล้วครับ ประทับใจทั้งภาพและคำบรรยายครับ จากคุณ : e20amy - [ 11 พ.ย. 51 23:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 73 สุดยอดจริงๆครับ ขนาดยังงี้ยังว่าไม่สามารถถ่ายทอดได้เหมือนตาเห็น นี่ไปจริงจะขนาดใหนเนี่ย จากคุณ : แพรมรกต - [ วันลอยกระทง 13:18:38 ]

ความคิดเห็นที่ 74 งดงามมากมาย จากคุณ : Eddoi - [ วันลอยกระทง 17:25:26 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ติดตามชื่อนี้ทุกทีต้องเข้ามาชมครับ.. นี่ขนาดรีบแล้วนะยังไม่ทันคนอื่นเลย จากคุณ : DominoX - [ วันลอยกระทง 17:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สวยสุด ๆ ไปเรย ค่ะ ต้องหาเวลาไปเที่ยวบ้างซะแล้ว จากคุณ : I-ONLY - [ 13 พ.ย. 51 20:26:11 ]