ความคิดเห็นที่ 1 jpg เก็บแสงสีที่ 8 bits/สี หมายความว่า แต่ละโทนสี แสดงความแตกต่างได้ 256 ระดับ สามสีมารวมกัน เขา(ฝาหรั่ง) ว่าแสดงสีได้ 256*256*256 หรือ 16 ล้านสี จอภาพ LCD ปัจจุบัน แสดงได้จริงๆ ... ไม่ถึงนะเออ แต่ก็ใกล้เคียงขึ้นเรื่อยๆ เพราะหลักการทำงานของจอ LCD คือ มีแสงสีขาวอยู่ด้านหลัง แสงสว่างจะต้องส่องผ่านผลึกเหลว (liquid crystal) - เมื่อได้รับสัญญาณไฟฟ้า ผลึกก็จะบิดตัว เปิดหน้าต่างให้แสงผ่าน - พอไม่ได้รับสัญญาณ ก็บิดตัวคืนที่เดิม ปิดหน้าต่าง แสงไม่ผ่าน แสงที่ทะลุหน้าต่างจิ๋วๆออกมา ใช่ว่าเราจะเห็นเลยทันทีเมื่อไหร่กัน ต้องผ่านฟิลเตอร์สามสี ... แดง เขียว น้ำเงิน ลองเอาแว่นขยาย อันโตๆ กำลังขยายสูงๆ ส่องดูหน้าจอตอนนี้เลย ส่องดูใกล้ๆนะ ดูบริเวณที่เห็นเป็นสีขาวๆนั่นแหละ จะเห็นว่า มันไม่ได้ขาวซักกะหน่อย แต่ประกอบด้วยจุดสว่างแดง เขียว น้ำเงิน อย่างที่ว่ามา มันแปลว่า ... สีที่เราเห็น .. ม่ายช่ายสีของรูปที่ถูกต้อง แต่เป็นสีของแผ่นฟิลเตอร์ตะหาก แย่นิ ยังไม่แย่เท่าไหร่ มีแย่กว่านั้นอีก จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 4 ม.ค. 52 22:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ที่แย่กว่านั้น คือ ลองเอารูปที่ว่าถ่ายมาดีๆ สีว่าสวยๆ สวยเลอเลิศแล้ว ไปดูบนจอ Mac ดิ .. จอ Mac .. จอซึ่งให้ความสว่าง, โทนสี และช่วงสี (gamut) ที่มากกว่าจอ PC ... หลายคนจะพบว่า ... ถึงเวลาควักกระเป๋าซื้อจอ Mac อีกแล้วหละตู (เกือบครึ่งแสน!) แย่ไหมหละ? จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 4 ม.ค. 52 22:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ .. ช้าไว้โยม ขนาดจอ Mac ที่ว่า ให้รายละเอียดมากกว่าจอ LCD ทั่วๆไป ยังแสดงภาพออกมาได้ ไม่เต็มคุณภาพของภาพที่แท้จริง เพราะกระบวนการสร้างภาพ และแต่งภาพของ Photoshop กับการ์ดจอ ทำได้มากกว่านั้น PS แก้ไขภาพที่ความละเอียด 16 bits ถ้าเก็บเป็น jpg ก็เก็บ 8 bits .. ถ้าเก็บเป็น tiff ก็ 16 bits แต่ เส้นทางการส่งข้อมูลจากการ์ดจอ ไปยังจอภาพ ถ้าเป็นสาย 9 pin ธรรมดาๆ ขอให้รู้ว่า มันส่งไม่ถึง 8 bits ถ้าส่งผ่านสาย RGB .. ค่อยส่งได้เต็มที่ 8 bits ฉะนั้น .. ภาพที่บรรจงถ่ายมา บรรจงแต่งซะสวยงาม ... ... ไม่มีทางสวยเต็มที่ แต่ก็ยังดี เพราะจอภาพมันแสดงได้ไม่เต็มที่อยู่แล้ว ซาหรุปง่ายๆ .. จอภาพของทุกวันนี้ แสดงความงดงามของภาพ jpg ออกมาได้ไม่ถึง 50% จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 4 ม.ค. 52 22:52:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แต่ .. (อีกแล้ววุ้ย!) ... คาดว่าไม่เกิน 3 ปี (พ.ศ.2555) ... จอภาพ และการ์ดจอ ณ ตอนนั้น จะแสดงความงามของ JPG ออกมาได้เต็มๆ ทั้งความละเอียด ความคม ความอิ่มตัวของสี .. ที่ 8 x 8 x 8 bits ปัญหา? ปัญหาคือ JPG มันเก็บข้อมูลแค่ 8 bits/สี ภาพพิมพ์ออกมา 8 bits/สีเช่นกัน แต่ (เมื่อไหร่จะหมดคำว่า "แต่"?) จะ 6,7 หรือ 8 bits ต่อสี มันเป็น ความละเอียดของระดับสี ไม่ใช่ความละเอียดของความสว่างของสี จอภาพ LCD ทั่วๆ ไป ให้ความสว่างของสีอยู่ที่ 500:1 ถึง 1000:1 กระดาษอัดภาพ ให้ความสว่างของสี อยู่ระหว่าง ... แต่น แต๊นนนนนนนนนนนนนนนนนน 25:1 - 100:1 เพราะกระดาษ สะท้อนแสงออกมา แต่จอภาพ .. ให้แสงสว่างออกมา มันต่างกันเยอะ ซาหรุป? โปรดอ่านเนื้อกระทู้ซ้ำอีกครั้ง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 4 ม.ค. 52 22:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รอๆๆๆ ต่อไป รอน้าเหมียวพุงปลิ้น เล่าต่อ ขอบคุณที่ให้สาระดีๆครับ จากคุณ : cocoaroom - [ 4 ม.ค. 52 23:34:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับเรื่องนี้ หมดแล้วครับ  ธรรมชาติของ กระดาษ กับ จอภาพ มันต่างกันมากเกินไป  ภาพบนกระดาษ เกิดจากการสะท้อนแสง จุดสีแต่ละจุดมึความเข้มสี และความสามารถในการสะท้อนแสง ต่างกัน  แต่ภาพบนจอ (LCD) เกิดจากแสงสีขาว (ที่ไม่ใช่ขาวจริงๆ) ทะลุผ่านหน้าต่างใบจิ๋วๆ ที่วางเรียงติดกัน สามบาน บานละสี  สมองเรา ค่อยมารวมแสงจากสามแหล่ง ให้มาเป็นแหล่งเดียวกัน  มันต่างกันขนาดนั้น .. จะให้ภาพออกมาเหมือนกัน คงเป็นไปได้ยาก  ตัวกระดาษเอง สีพิมพ์เอง ก็แตกต่างออกไป  จอเอง ก็มีความสามารถในการแสดงสี และความละเอียดจำกัด  เราคงต้องยอมรับขีดจำกัดนี้ครับ  และไปมีความสุข กับการถ่ายภาพ การแจกจ่ายภาพถ่ายกันต่อไป  ถ้ามันเพี้ยนมากๆ ค่อยมากังวลและหาทางแก้ไข ..  เปลี่ยนร้านใหม่, ปรับแ่ต่งจอภาพ, เทียบ color profile ฯลฯ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 52 00:25:20 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 5 ม.ค. 52 00:23:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตถถา จากคุณ : อะธีลาส - [ 5 ม.ค. 52 00:34:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมเห็นเดี๋ยวนี้มันจะมีกระดาษแบบพิเศษบางรุ่นที่จะมีโปรไฟล์(ผมไม่รู้เรียกถูกรึปล่าวนะ)เป็นของตัวเองมาโดยเฉพาะ คือเราสามารถตั้งค่าตัวนี้ให้เครื่องปริ๊นเตอร์ได้เลยว่ากระดาษที่เราใช้นี่คือกระดาษอะไร รุ่นไหน จากคุณ : อย่ามาห้ามผม - [ 5 ม.ค. 52 01:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตั้งกระทู้ได้จังหวะครับ ขอถามเลย 1. LED ต่างจาก LCD ธรรมดาอย่างไรครับ? 2. แล้วมีวิธี calibrate ได้อย่างไร?? มีโปรแกรมช่วยหรือไม่? หรือมีหลักการอย่างไรครับ? 3. ในการ calibrate หน้าจอใน mac จะมีให้เลือกเป็น 1.8 Standard Gamma กับ 2.2 Television Gamma เราควรเลือกอันไหนดีครับ?? จากคุณ : system idle - [ 5 ม.ค. 52 01:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอบ คห. 8 ครับ กระดาษแต่ละแบบก็จะมีโปรไฟล์ในการเลือกบันทึกต่างกันครับ  (คนละประเทศยังต่างกัน) อัันนี้เป็นตัวอย่างใน InDesign จากคุณ : system idle - [ 5 ม.ค. 52 02:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11 1. LED ต่างจาก LCD ธรรมดาอย่างไรครับ?  โอ้โห ... ต่างกันประมาณเทียบ ดอกกุหลาบป่าบนเทือกเขาหิมาลัย กับ ปะการังใต้ทะเลสิมิลัน  LED ย่อมาจาก Light Emitting Diode  LCD ย่อมาจาก Liquid Crystal Display  แค่รากศัพท์ซึ่งบ่งบอกที่มา ยังคนละเรื่องละราวกันเลย  ขอกลับไปพื้นฐาน  ----------------------------------------  LED เป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ (semiconductor) ประเภทหนึ่ง .. แบบเดียวกับพวก chipset ของคอมพิวเตอร์ หรือ ทรานซิสเตอร์  แต่มี 2 ขั้ว ('di' ode)  ในการทำงานของสารกึ่งตัวนำ กระแสไฟฟ้าจะผลัก/ดึง ตัวนำประจุ (carrier) ไปในทิศทางที่วิศวกรเขาออกแบบ  ในสารกึ่งตัวนำ จะมีตัวนำประจุ 2 อย่างคือ อีเล็คตรอนซึ่งมีประจุลบ และ  "หลุม" (hole) ซึ่ง(เสมือน)มีประจุบวก  สองอย่างนี่พอมาเจอกัน อีเล็คตรอนจะตกลงไปในหลุมรัก  ไม่ว่อีเล็คตรอน หรือ ผู้ชาย .. ตกหลุมรักเมื่อไหร่ คายทรัพย์สินที่มีมาทั้งนั้น  ทรัพย์สินของอีเล็คตรอน คือ พลังงานครับ .. พลังงานจะถูกปล่อย (emit) ออกจากอีเล็คตรอนที่ตกหลุมรัก ในรูปแบบของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (ตามสูตรยาขม เด็ก ม.ปลาย ... E = hv)    ถ้าออกแบบมาดีๆ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะมีความยาวคลื่นในช่วงที่เราเห็น(และไม่เห็น) .. ตั้งแต่ Ultraviolet ผ่าน Visible Light จนถึง Infrared  สรุปง่ายๆ ..  diode จะเปล่งแสงออกมา เมื่อได้รับกระแสไฟฟ้า  แต่ LCD ... ตัวผลึก (crystal) จะเหมือนหน้าต่าง ที่ปิดอยู่หน้าสปอตไลท์  พลังงานไฟฟ้า จะไปเปิดหน้าต่างนี้ ทำให้แสงผ่านออกมาได้ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 5 ม.ค. 52 08:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 จะเห็นว่า จากโครงสร้าง ... LED   สว่างกว่าแน่นอน (เพราะเป็นแหล่งกำเนิดแสงด้วยตัวเอง) และ ความต่างความสว่าง (contrast) มากกว่า LCD  LCD .. ตอนปิดหน้าต่าง แสงก็อาจลอดผ่านมาได้ รวมทั้งแสงสว่งที่ผ่านหน้าต่าง ก็อาจติดวงกบ หรือ บานหน้าต่างเอง ที่เปิดไม่สุด ฯลฯ  แต่ LED มีปัญหาหลายๆอย่าง .. ตั้งแต่การสร้่างจำนวนมากๆ การใช้พลังงาน ฯลฯ  เพราะโครงสร้างพื้นฐานของ semiconductor ทำจาก silicon  ต้องใช้พลังงานสูงมาก ในการทำงาน  ตอนหลังค้นพบว่า .. สารเคมีชีวะ (organic) โมเลกุลบางอย่าง ทำตัวเหมือน semiconductor .. สามารถเกิดปรากฏการณ์ "อีเล็คตรอนตกหลุมรัก" ได้  แต่ใช้พลังงานในการผลักอีเล็คตรอนให้หัวทิ่ม น้อยกว่า  รวมทั้งใช้พลังงานในการสร้างหลุมดักน้อยกว่าเช่นกัน  แถมสร้างง่าย มีขนาดเล็กระดับ micron ได้  ตอนนี้ เทคโนโลยีนี้ .. ORGANIC L.E.D. (OLED) เลยมาแรง  และคาดว่า จะออกสู่ท้องตลาด "ในราคาระดับชาวบ้าน" ได้ใน 2-3 ปี  จุดเด่นมากๆ ของ OLED display คือ กินไฟน้อย (ประมาณ LCD)  แต่สว่างสูงมาก  (ประมาณจอ plasma)  และให้ความต่างความสว่าง (contrast) สูงมากๆๆ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 5 ม.ค. 52 08:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 นู๋ใช้ CRT ค่ะมีความรู้สึกว่าภาพมันสวยกว่า ในราคาที่ถูกกว่าจอ LCD เืพ่อนมันเคยบอกว่า LCD ถูกๆก็ใมีได้แต่เถียงในใจ LCD ถูกๆภาพมันสวยน้่อยกว่้า CRT ฉานอ่ะ ถ้าจะเอาแบบคุณภาพดีๆ ราคาจับไม่ลงไม่เหมือนกัน สรุปขอเป็นคนยุคเก่าใช้ CRT ไปก่อนละกัน จากคุณ : บลูดานูป - [ 5 ม.ค. 52 08:20:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 2. แล้วมีวิธี calibrate ได้อย่างไร?? มีโปรแกรมช่วยหรือไม่? หรือมีหลักการอย่างไรครับ?  มีทั้งโปรแกรม และหลักการ และอุปกรณ์  ก็เจ้าตัว spyder สุดฮิตนั่นแหละ  แต่พวก calibrate ก็ยังมีหลายระดับ  เพราะสีที่เราเห็นจากหน้าจอ LCD มีปัจจัยหลายอย่าง ที่ทำให้เพี้ยน  ตัวแหล่ีงกำเนิดแสงเอง .. สีเพี้ยน  ตอนเปิดใหม่ๆสีนึง เปิดนานๆ อีกสีนึง  ตัว Liquid Crystal เอง .. ได้รับความร้อนนานๆ โครงสร้างก็เปลี่ยนแปลง  แต่แย่กว่านั้น .. แสงสว่างที่มาจากภายนอก  นึกถึงหน้าต่างที่เปรียบเทียบให้ฟัง  ในการเปิดหน้าต่างให้แสงผ่าน  ถ้าบานหน้าต่างเปิดได้ไม่สุด  นอกจากแสงที่มาจากข้างหลัง ออกไม่เต็มที่  แสงที่มาจาก ข้างหน้า ยังไปสะท้อนบานหน้าต่างนั้นได้อีก  สีที่มาจากหน้าต่างบานนั้น จะขึ้นกับสีของสปอตไลท์ + สีบานหน้าต่าง + สีของแสงภายนอก  ก็ต้อง calibrate กันเรื่อยๆแหละ  -----------------  การ calibrate มันแค่ครึ่้งเดียว ...  เพราะตั้งอยู่บนรากฐานว่า .. ภาพที่พิมพ์ออกมา เป็นไปตามมาตรฐาน (ตาม คห.10)  แต่ถ้าภาพที่พิมพ์ออกมา สีไม่เป็นไปตามมาตรฐานหละ  เพราะเครื่องแต่ละเครื่อง กระดาษแต่ละล็อต สีแต่ละล็อต .. มีความต่างกันได้นิดหน่อย  ถ้าจะให้เชื่อถือได้  ต้อง calibrate ครบวงจร  ปรับจอภาพ ให้นิ่ง -> เก็บ profile จอ (P1)  พิมพ์ภาพมาตรฐาน  เอาภาพที่ได้ มาอ่านค่าของสีต่างๆ -> ได้ profile ภาพพิมพ์ (P2)  แล้วเอา P1 กับ P2 มาปรับเทียบเปรียบกัน แก้ไปแก้มา  (โดยมากแก้ที่ P1 เพราะง่ายกว่า )  นั่นแหละถึง "เชื่อถือได้" ว่า .. เห็นหน้าจอยังไง .. พิมพ์ออกมาก็อย่างนั้น  แต่  วุ่นวายหนอ สับสนหนอ  เรามาถ่ายรูป เพื่อเก็บความทรงจำดีๆ  เพื่อแบ่้งปันความสุข  ไม่ใชเพื่อทำมาหากิน  มันเพี้ยนมั่ง นิดๆหน่อยๆ ก็ .. อ่านตามเนื้อหากระทู้อีกรอบ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 5 ม.ค. 52 08:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สรุปขอเป็นคนยุคเก่าใช้ CRT ไปก่อนละกัน  หนูบลู' จ๋า ...  ปีใหม่แล้ว .. ทำตัวใหม่เหอะ  CRT ปล่อยมันไปกับปีเก่า  สีสวยกว่า สดกว่า (แน่นอน เพราะการเกิดแสงสว่างและสี กลไกพื้นฐานสุด มาจากสมการ E=hv เหมือนกัน)  แต่โครงสร้างและกลไก การเกิดภาพของจอ CRT  ทำลายความคมชัดในการมองเห็นของนัยน์ตา อย่างรุนแรง  ถ้าไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับธุรกิจภาพ .. อย่าไปใช้มันเลย  เพราะสายตาที่เสีย .. จะเสียถาวร จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 5 ม.ค. 52 08:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 งงอะน้า จากคุณ : CAMErider - [ 5 ม.ค. 52 09:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สุดยอดเลยคับน้า จากคุณ : infinitesadness - [ 5 ม.ค. 52 10:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ยักมีคนบ่น แสกนมาไม่ตรงกับ กระดาษ จากคุณ : WATERBOY R - [ 5 ม.ค. 52 10:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณน้าแมวมากครับ ได้ความรู้ขึ้นเยอะเลย แต่ผมแก้ด้วย อัดขาวดำไปเลย 555+ จากคุณ : เพิ่อคนอื่นๆ - [ 5 ม.ค. 52 11:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมก็พึ่งจะรู้นี้ล่ะครับ ... ขอบคุณครับ ... ^  ^ จากคุณ : D_YONG - [ 5 ม.ค. 52 11:37:47 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ร้านปรับสีให้................ หน้าเราจะได้ขาวๆ ผมเคยเอาไปโวย....ว่าจริงๆมันไม่ได้สีนั้น เลยเทียบให้ดู  เจ้าของร้านเลยอัดให้ใหม่แต่โดยดี สรุปได้ อัดอัลบั้มใหม่ที่ถูกใจ.....ให้กิ๊ฟ จากคุณ : คนตรัง..ยังโสด - [ 5 ม.ค. 52 11:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ใช้ CRT อยู่เหมือนกัน เพราะ LCD ที่ถูกใจ มันแพงเหลือเกิน T^T จากคุณ : เบื่อโลก - [ 5 ม.ค. 52 12:20:57 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อย่างนี้ กล้องโปร เลนส์เทพ ถ่ายมาสวยกริป แต่ไปอัดที่ร้านอัดรูปออกมาสีเพี้ยน  ทำใจสิครับ   ซื้อแมงมุมไปขยุ้มจอที่ร้านอัดรูปก่อนได้ป่่ะครับ ^ ^ เคยส่งรูปไปอัด ธงชาติสวิสฯ สีแดงสด ได้กลับมาบ้านสีแดงเลือดหมู ซะงั้น จากคุณ : galaga - [ 5 ม.ค. 52 12:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ซื้อ Photo Inkjet Printer ดีๆ แล้วพิมพ์เองไปเล๊ย จากคุณ : DoraeMew - [ 5 ม.ค. 52 12:35:19 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ใช้ CRT ด้วยคน.. LCD  ดี ๆ ยังไม่มีตังค์ ซื้อ ครับ จากคุณ : tikhumpol - [ 5 ม.ค. 52 13:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมปริ๊นท์เองที่บ้าน ทำเอง ชอบเอง สบายใจ ทำจนรู้แล้วว่า เห็นจากจอเป็นแบบนี้ ปริ๊นท์ออกมาจะเป็นแบบไหน สีตรงหรือไม่ตรงไม่เกี่ยว   ถือคติว่า ถูกใจ สำคัญ กว่าถูกต้อง เพราะไม่ได้ขายใคร เวลาปริ๊นท์ไปให้ใคร เขายิ้ม เขาชอบ เขาใส่กรอบตั้งโชว์ จบข่าวแล้ว จากคุณ : สุพจน์ - [ 5 ม.ค. 52 14:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จอ CRT ให้สีที่เที่ยงตรงกว่า LCD ก็จริง แต่มันทำลายสายตาของเราในระยะยาวครับ LCD ทั่ว ๆ ไป สีเพี้ยนเยอะ และเพี้ยนง่าย ไม่น่าเอามาใช้ทำงาน graphic แต่ถ้าเป็น LCD รุ่นดี ๆ หน่อยก็ ล่อไปสองสามหมื่น จากคุณ : Take a Look Around - [ 5 ม.ค. 52 15:12:28 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อย่างนี้ กล้องโปร เลนส์เทพ ถ่ายมาสวยกริป แต่ไปอัดที่ร้านอัดรูปออกมาสีเพี้ยน  ทำใจสิครับ  ถูกต้องแล้วคร้าบบบบ  ลองถามมือโปรฯ ที่ใช้กล้องเทพ เลนส์เทพ เพื่อทำมาหากิน   ดูสิครับว่า ... เอาไฟล์ที่ถ่ายได้มา ส่งให้ร้านอัดรูปดื้อๆเลยหรือเปล่า  เรื่องที่ปวดใจคือ ต่อให้ใช้แมงมุมขยุ้มหน้าจอ ทั้ังที่จอเรา และที่ร้าน ก็ยังไปไหนมา สามวาสองศอกได้ เพราะสีที่พิมพ์ออกมาบนกระดาษ กับสีที่เห็นบนหน้าจอเรา มันคนละโพรไฟล์กัน  ถ้าพิมพ์แค่โปสการ์ดเล็กๆ .. และมีหน้าคนอยู่ .. ทางร้านเขาสบายใจครับ เพราะสีอื่นๆเพี้ยนได้ไม่เป็นไร ขอให้สีผิวหน้าคนถูกต้องไว้ก่อน ลูกค้าไม่ด่า  คนที่มีพรินเตอร์เองที่บ้าน .. เขาจะปรับสีหน้าจอ กับสีเครื่องพิมพ์อยู่แล้ว .. ด้วยตาเขาเอง จนกระทั่งทุกอย่างค่อนข้างนิ่ง  แต่กว่าจะนิ่ง รับรองได้ว่า หมดไปเป็นร้อยๆแผ่น จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 5 ม.ค. 52 15:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 29 CRT ตั้ง refresh rate 85Hz นี่ถือว่าถนอมสายตาพอมั้ยครับ หรือว่ามีประเด็นอื่นนอกจากเรื่อง refresh rate ที่ทำให้สายตาแย่ลงอีกครับ จากคุณ : ธรฏ - [ 5 ม.ค. 52 15:44:19 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คห.29 ครับ เปลี่ยนคำถามใหม่เป็นว่า CRT ตั้ง refresh rate 85 Hz นี่ ถือว่าทำลายสายตามากไหม จะตรงประเด็นกว่าครับ เพราะไม่ว่า refresh rate จะเท่าไหร่ก็ตามที่ ... CRT ทำลายสายตาทั้งนั้น สมัยก่อน .. เราไม่มีทางเลือก แต่สมัยนี้ .. ต้องถามตัวเองแล้วครับว่า .. อนาคตยาวนานอีกหลายสิบปี คุ้่มค่าที่จะแลกกับ การได้เห็นสิ่งที่สวยงามขึ้นอีกหน่อย ในไม่กี่เดือนปีนี้ไหม (รู้สึกว่าจะออกนอกประเด็นกระทู้ไปไกลแล้วครับ ) แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 52 16:09:00 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 5 ม.ค. 52 15:56:40 ]

ความคิดเห็นที่ 31 "อย่างนี้ กล้องโปร เลนส์เทพ ถ่ายมาสวยกริป แต่ไปอัดที่ร้านอัดรูปออกมาสีเพี้ยน  ทำใจสิครับ" ผมว่า น้า "แมวเหมียวพุงป่อง" มีกระทู้ติดทุกเดือนเลยก็ดีนะครับ ผมจะได้ตามอ่านบทความดีๆแบบนี้บ่อยๆ ทำให้ผมได้เตือนตัวเองว่า แท้จริงแล้ว ต่อให้แต่งให้ตายอย่างไร "มันก็เพี้ยน" ขอบคุณ จขกท อีกครั้ง ผมชอบบทความคุณมากๆ รักษาสุขภาพด้วยครับ จากคุณ : PICKER GEMINI - [ 5 ม.ค. 52 16:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ^ ^ ... โห... น้าอย่าขู่จิ - -" เครื่องทำงานป๋มยิ่งต่อ CRT ไว้สามจอซะด้วย - -" ยังไม่ไม่งบมาเปลี่ยนจอใหม่เลย ปล.ชี้ คห.30 นะคร้าบ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 52 16:07:33 จากคุณ : DoraeMew - [ 5 ม.ค. 52 16:07:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มึนตึ๊บค่ะน้า เดี๋ยวกลับมาอ่านใหม่ให้เข้าใจอีกรอบ เดินคอตกออกไปอย่างสงบ จากคุณ : plako-plako - [ 5 ม.ค. 52 16:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ได้ความรู้มากมายครับ ขอบคุณน้าเหมียวพุงป่องมากครับ จากคุณ : kittynoys - [ 5 ม.ค. 52 16:15:46 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ต้องลอง.....ถึงจะรู้ จากคุณ : tough - [ 5 ม.ค. 52 19:03:54 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ... ถึงเวลาแล้วเหรอ ที่ผมต้องเปลี่ยนจอ..... ยังไม่มีเงินเลย .. ขอใช้ CRT กับแสงสว่างที่เพียงพอช่วยไปก่อนได้ั้มั้ย จากคุณ : คลิกที่นี่เพื่อส่งข้อความ - [ 5 ม.ค. 52 19:48:19 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ได้ความรู้อีกแล้ว ได้เสียตังอีกแล้ว 555 ขอบคุณน้าแมวเหมียวพุงป่องมากๆครับ จากคุณ : Abolys - [ 5 ม.ค. 52 20:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 38 >> ยังไม่มีเงินเลย .. ขอใช้ CRT กับแสงสว่างที่เพียงพอช่วยไปก่อนได้ั้มั้ย  ไม่ได้ ก็ต้องได้  ขอให้มีเงินเร็วๆ และเปลี่ยนจอเร็วๆ  ไม่ต้องไปเล็งจอ ที่ให้ภาพสดใสกว่า สีสันใกล้จริงมากกว่า  แต่ราคาแพงละลิ่ว  เพราะกว่าจะได้จออย่างนั้น .. สายตาจะเสียก่อน  และพอสายตาเสีย .. ถ่ายรูปไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่แล้วครับ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 5 ม.ค. 52 22:25:40 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ก็ทำใจไว้ระดับหนึ่งละว่าสีเพี้ยน แต่ไงๆ เวลานั่งทำรูป ก็พยายามไม่เชื่อจอมากอยู่แล้ว เพราะความสว่าง และอุณหภูมิสีมันตั้งได้ แถมที่บ้านไม่มีตัว calibrate ด้วย ก็เลยอาศัยเอารูปที่เคยอัดแบบไม่ให้เขาปรับอะไร มาเทียบกับ histogram ใน lightroom ตอน process ไปอัด ว่าสีแบบนั้น กราฟของสีนั้นอยู่โทนไหน และความสว่างโทนนั้น กราปอยู่ไปทางขวาแค่ไหน แล้วก็จูนตัวเองตามความต่างนั้น ก็พอถูๆ ไถๆ ไปได้ใกล้เคียงใช้ได้ทีเดียว แต่ก็อย่างว่าแหละ เราก็ต้องเอาตัวเองไปยึดกับ profile ของร้านนั้นๆ ด้วย พอไปอัดร้านอื่น มันก็เพี้ยนอีกอยู่ดี เป็นสัจจธรรม จากคุณ : Redrum - [ 5 ม.ค. 52 23:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อ่านไปอ่านมา เริ่มเครียดกับจอ CRT กับเค้าบ้างล่ะ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ ครับ จากคุณ : nicknak - [ 5 ม.ค. 52 23:07:17 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อ่อ จากคุณ : espucino-ccj - [ 6 ม.ค. 52 00:13:56 ]

ความคิดเห็นที่ 42 หมอเหมียวครับ ผมเรียนด้านวิทยาศาสตร์ด้านภาพมา 2 ปีเนี่ยแหล่ะถึงได้ อ่านของหมอเข้าใจ ทั้ง CMS Color reproduction ครบคอนเซปต์ในกระทู้นี้เลยทีเดียว กระทู้นี้ยอดมากขอเสริมนิดนึง (ถ้าผิดขออภัยครับ) จอภาพ LCD ทั่วๆ ไป ให้ความสว่างของสีอยู่ที่ 500:1 ถึง 1000:1 กระดาษอัดภาพ ให้ความสว่างของสี อยู่ระหว่าง 25:1 - 100:1  ผมเคยไปถามอาจารย์เรื่องนี้ อาจารย์บอกเธอต้องไปบีบ อัดเอาเองเน้ออออออ เพี้ยนไม่เพี้ยนตามแต่ประสบการณ์ 555 แถม กระดาษอาร์ตมัันก็ contrast แบบนึง ด้านก็อีกแบบนึง ยี่ห้อนึงก็อีกแบบนึง ฆ่ากันให้ตายดีมั๊ยคับพี่น้อง อีกอย่างหนึ่ง จอ LCD ขั้นเทพยี่ห้อ EIZO แสดงสีได้ผมว่ามากกว่า 8 bit สีอีกนา เพราะ พี่แกเคลมว่าขอบเขตสีได้ถึงระดับ Adobe RGB เลยทีเดียวเชียว แต่ราคาเป็น แสนนนนนนนนน  T  T อ้อและอีกอย่างหนึ่ง แมงมุมขยุ้มจอไม่ใช่ calibrate ทีนึงแล้วหายใช้ไปอีก เพี้ยนอีก อย่างที่หมอว่าใช้ไปๆๆ จอก็เพี้ยนก็ต้องขย่มจอกันใหม่ แสงจากสิ่งแวดล้อมก็ตัวดีอีกที่ำทำให้สีจอเราเพี้ยน แถมถ้ามีแสงอะไรลอด ส่องผ่านมาโดยตรงเกิด internal flare อีกถึงจอมันจะเป็นแบบ matte ก็เหอะ ปล . E = hv นี่คือ E = hf ใช่ป่าวเอ่ย (สับสนตัวแปรอ่ะ) พลังงานที่แผ่ออกมาเป็นสีต่างๆ(โฟตอน) ก็เพราะมันมีความยาวคลื่นต่างๆกัน ความยาวคลื่นที่ e- มันแผ่ออกมาคิดได้จาก E = hc / lambda เรื่องสีเนี่ยคุยกันเป็นวันๆก็ไม่จบ สนุกดี :D แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 52 01:52:59 แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 52 01:46:39 แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 52 01:41:25 แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 52 01:40:13 จากคุณ : .NetMagic - [ 6 ม.ค. 52 01:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณคุณ netmagic มากๆๆๆครับ  กิ้งกือตกท่อ ตั้งแต่ปีใหม่เลย .. E=hf หรือ h/v ไม่ใช่ hv  ขอบคุณครับ  เรื่องสีภาพ และสีจอเพี้ยน ไม่ตรงกันเนี่ย ผมเคยบ้าอยู่พักนึง  เพราะพยายามปรับให้มันตรง .. จะส่งรูปประกวด  เอารูปไปพิมพ์ ..  พิมพ์เสร็จกลับมาแก้รูปในจอ  แก้เสร็จ เอาไปพิมพ์ใหม่  พิมพ์เสร็จกลับมาแก้รูปในจอ  แก้เสร็จ เอาไปพิมพ์ใหม่  ...  ...  วนไม่รู้กี่รอบ จนนิ่ง  เอาไปพิมพ์ เพื่อส่งเข้าประกวด  ปรากฏว่า .. รูปที่พิมพ์ออกมา ... ไม่ตรง!!!!  อ้าว???????  เพราะกระดาษ 4x6 มันคนละประเภท คนละยี่ห้อ กับ 8x11  เครื่องพิมพ์เอง ร้านเขาแยกออกมา  พิมพ์รูปเล็กใช้เครื่องนึง  รูปใหญ่ใช้อีกเครื่อง (เพื่อไม่ให้ไปขวางงานของรูปเล็ก)  ฉนั้น ไอ้ที่ปรับไปแทบตาย ... ไม่ตรง  แต่ใกล้หมดเขตรับสมัครแล้วนี่หว่า ..  ส่งไอ้ที่ใกล้เคียงไปนั่นแหละ  ตกรอบตามระเบียบ  ทุกงานประกวด  ตกตั้งแต่รอบแรกเลยด้วยซ้ำ  จนครั้งสุดท้าย ...  รู้จักกับกรรมการเขา เลยถามเหตุผล (ไม่บอกหรอกว่ารูปไหนของผม)  เขาบอกว่า ... รูปที่คัดออกมาเนี่ย  รูปนี้ไม่สวย, รูปนั้น ไม่ตรงคอนเซปท์การประกวด ฯลฯ  รูปนี้(รูปของผม) ... ผิดกติกาอย่างมาก  เพราะมีการ "แต่งรูปจนเกินจริง"  ไอ้เราก็ .. เอ๋ ตูแต่งรูปให้ใกล้จริงที่สุด ไอ้พวกกรรมการไหงบอกว่า "แต่งจนเกินจริง"  พอไปดู .. หงายเก๋งเลยขอรับ  โปรไฟล์สี ของจอกรรมการ มันไม่ใช่โปรไฟล์จอ/ภาพพิมพ์  รูปที่เราเห็นบนจอเรา รูปที่เราพยายามปรับโปรไฟล์จอเรา ให้ตรงกับร้าน ฯลฯ พอขึ้นจอของกรรมการ .. เละชนิด อุบาทว์อัปลักษณ์ดูไม่ได้ สีสันแจ๋ๆๆๆ ท้องฟ้าเป็นบั้งๆๆๆ ฯลฯ และโทนสีภาพติดเหลืองติดม่วงช้ำเลือดช้ำหนอง  ไม่ได้รางวัล แต่ปิ๊ง .. บรรลุสัจจธรรมขึ้นมาอีกข้อ  ว่า ..  ผมถ่ายรูปเพื่ออะไร จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 6 ม.ค. 52 06:34:02 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เป็นกระทู้ ที่ดีมากคะ แม้น  อ่านเช้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ก็ทำให้เข้าใจระดับหนึ่งคะ จากคุณ : พาไล - [ 6 ม.ค. 52 10:38:24 ]

ความคิดเห็นที่ 45 จอ LED มีดีอีกอย่างนึงคือสามารถผลิตมาได้บางมากครับ แล้วความสว่างของมัน ทำให้มันดูในที่กลางแจ้ง แสงจ้าได้ชัดกว่า LCD อีกซัก 5 ปีจอเก่า คงพังพอดี ตอนนั้นราคาคงกำลังน่าซื้อ ส่วนจอ CRT อย่าลืมนะครับว่าส่วนมากเราดูทีวีกันด้วยจอ CRT ใครใช้อยู่ก็ติดละครกันน้อย ๆ นะครับ  อิอิ จากคุณ : noraneko - [ 6 ม.ค. 52 12:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 46 น้าแมวเหมียวนี่เก่งจัง สุดยอดดดดครับ จากคุณ : auttokung66 (autokung66) - [ 6 ม.ค. 52 16:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ต้องอ่านช้าๆสัก3รอบ เด่วไปอ่านใหม่อีกสักรอบ..........อิอิ จากคุณ : ktt116 - [ 6 ม.ค. 52 16:21:20 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ถึงว่า เค้าบ่นกันเรื่อง สีสันไม่ตรงกับภาพ ทำไมของเรามันตรงตลอดว้าาา อ่อ เพราะเราใช้ CRT นั่นเอง T_T จากคุณ : Next Station The Moon - [ 6 ม.ค. 52 20:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ปวดหัวนะเนี่ย จากคุณ : i_santi - [ 6 ม.ค. 52 21:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 50 กระจ่างเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : brastor - [ 7 ม.ค. 52 00:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ก่อนอื่นต้องบอกว่าสวัสดีปีใหม่ครับ คุณแมวเหมียวพุงป่อง ยังพอจะจำกระผมได้ไหมครับเฮอะๆ แวะมาทักทายท่านอาจารย์ ในฐานะที่คุณแมวเหมียวพุงป่อง ให้ความรู้เรื่องกล้องและการถ่ายภาพเป็นคนแรกสำหรับผม ยังไงอย่าหยุดฝีมือไว้แค่นี้นะครับ เพราะต่อไปท่านอาจารย์ อาจจะถูกผมแทรง 5555 ไว้ผมะมาอ่านกระทู้ท่านอาจารย์อีกนะครับ จากคุณ : ความทรงจำ(ก้าวแรก) - [ 7 ม.ค. 52 01:04:00 A:124.121.92.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอเสริมอีกครับ CRT อาจจะนิ่งจริงครับ แรกๆ แต่ใช้นานๆมีเหลือง (หลอดภาพเสื่อมลงทุกๆปี) ส่วน LCD นั้นรุ่นแรกๆจะใช้ CCFL ใช้นานๆไปหลอดก็จะเหลืองเช่นกัน แต่รุ่นใหม่ๆ ใช้ LED เป็นแหล่งกำเนิด ก็จะทนมากขึ้น OLED เป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจอย่างมากเลยครับ ทำให้บางได้จริงๆขนาด มีคนทำทีวีติดเสื้อมาแล้ว(ลอง search ใน google ดู) ภาพคมชัดและสว่าง กว่า LCD แต่ตอนนี้ถือว่าเป็นของใหม่อยู่เป็นธรรมดาที่จะแพง แต่ในอนาคตก็หวังว่าจะได้มีโอกาสได้สัมผัสในราคาที่เราพอใจ จากคุณ : .NetMagic - [ 7 ม.ค. 52 04:19:54 ]

ความคิดเห็นที่ 53 >> ยังไงอย่าหยุดฝีมือไว้แค่นี้นะครับ เพราะต่อไปท่านอาจารย์ อาจจะถูกผมแทรง 555  เรื่องฝีมือถ่ายภาพ .. อย่าเทียบกับผมครับ  เพราะทุกคน แซงผมเรียบ  ผมมันช่างภาพสายเทคนิค   ... รู้ทุกเรื่อง ตั้งแต่โครงสร้าง P-N junction ของตัวเซนเซอร์ และ ray tracing จนกระทั่ง psychological theory of image perception ฯลฯ  มีไม่รู้อย่างเดียว ...  ทำอย่างไร ถึงจะถ่ายภาพให้สวย  ขอบอกจากหัวใจ ...  ยิ่งมีคนแซง ยิ่งดี  ยิ่งแซงเยอะๆ ยิ่งดีครับ  โลกเราพัฒนา เพราะรุ่นหลัง เก่งกว่ารุ่นก่อน จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 7 ม.ค. 52 07:29:22 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เหอๆ อ่านบทความน้าแมวเหมียวจบ สงสัยคงต้องเริ่มเมียนมอง LCD บ้างซะแล้ว ผมยังใช้ CRT หลอด FD Trinitron อยู่เลย -_-' จากคุณ : VSA-100 - [ 7 ม.ค. 52 20:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สรุปแล้วยังไงดีครับ เทพเหมียว จากคุณ : ตาแป๊ะหวานเย็น - [ 7 ม.ค. 52 21:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สำหรับเรื่องสีที่ไม่ตรงกันนั้น จริงๆ ผมทำงานอยู่ในสายงานพิมพ์ มันมีการแก้ไขปัญหานี้ด้วยระบบ CMS (Colour System Management) อธิบายหลักการง่ายๆ คือการควบคุมระบบสีหมดทั้งกระบวนการ โดยไล่ย้อนมาจากฝั่ง Output ซึ่งป็นปลายทาง มายังฝั่ง Input ซึ่งเป็นต้นทาง โดยเราดูว่าเครื่องมือที่อยู่ปลายทาง สีที่แสดงออกมามีการแสดงผลได้มากน้อยแค่ไหน แล้วทำการเก็บค่าเพื่อนำมา Set ค่าอุปกรณ์ ตัวอื่นๆ ให้แสดงผลหรือควบคุม ให้มีผลใกล้เคียงกับอุปกรณ์ปลายทางชิ้นนั้นๆ โดยผ่าน Profile ซึ่งสร้างขึ้นโดยเฉพาะ ไม่ใช่ Profile สำเร็จรูป ถ้าสนใจลองเข้าไปดูที่นี่นะครับ จะทราบว่าข้อมูลเชิงวิชาการ   http://www.cameraeyes.net/index.php?option=com_smf&Itemid=27&topic=404.0 แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 52 08:48:32 แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 52 08:48:02 จากคุณ : mr_jame - [ 8 ม.ค. 52 08:47:45 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สำคัญคือ ที่ทำงาน เขาไม่ลงทุนจอ LCD ให้อ่ะดิ...... เราถ่ายรูป อัดรูป ไว้ดูเอง เพี้ยนนิด ไม่ตรงหน่อย ยังพอรับได้ แต่ถ้าทำงานสิ่งพิมพ์นี่ จะบ้าตาย จออย่าง ดิจิทัลปรู๊ฟอย่าง พิมพ์จริงอีกอย่าง.... แถมเจ้าของเงิน (สปอนเซอร์) จิ้มๆๆๆ จะเอาสีแบบนี้ๆ (เห็นในหน้าจอ) ตายกันไปข้าง.... จากคุณ : proofman - [ 8 ม.ค. 52 09:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 58 #24 แต่ก่อนผมก็คิดครับ เรื่อง Print เองเนี่ย แต่เลิกแล้ว เพราะสีซีดเร็วมาก ต่อให้ใช้ หมึกแท้กระดาษเทพก็เถอะ.... ถ้ารูปสำคัญ ส่ง LAB อัดดีแล้วครับ แต่ถ้าส่งให้เพื่อนหรือดูเล่นก็ Print เองได้ แต่ พยายามอย่าให้โดนแสง ที่เหลือก็ทำใจครับ -__-" จากคุณ : Tire Tracks Studio - [ 8 ม.ค. 52 15:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ได้ความรู้มากเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : Mr.pokpak - [ 8 ม.ค. 52 21:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ผมใช้วิธีนี้นะ print ร้านเดิมเครื่องเดิม profile เดิมตลอด แต่ตอนแรกๆจะเหนื่อยหน่อย ต้อง tune จอเรากับที่ print ออกมาให้ใกล้เคียงจนเรารู้ charactor ของมัน วันหลังก็จะเพี้ยนน้อยลง จากคุณ : Nukie - [ 9 ม.ค. 52 18:17:30 ]

ความคิดเห็นที่ 61 นอกเรื่องนิดนึงครับ... เล่นห้องกล้องมาประมาณเดือนนึง ได้เห็นคุณแมวเหมียวพุงป่องตอบคำถามแล้ว คิดถึงคุณศุภชัย  ประเสริฐเวชทนต์ของเว็บ Mr.Palm ครับ ใครไม่รู้จักลองๆ เข้าเว็บบอร์ดของเว็บนี้ดูนะครับ จะเจอเค้าตอบให้ผู้ที่ถามเสมอๆ น่าจะเกือบ 10 ปีแล้วมั้งครับ และได้คำตอบที่บางครั้งก็ทำให้ผมคิดไปว่า "มาจากต่างดาวหรือเปล่าเนี่ย? รู้ไปหมด รู้ลึก รู้จริง จริงๆ" ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ที่นำมาเสนอตลอดมาและ จะติดตามตลอดไปครับ จากคุณ : JoKeR3753 - [ 12 ม.ค. 52 11:57:05 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณศุภชัย @ Mr.Palm????  ไม่แน่ใจ แต่ถ้าคุณอังกุศ .. สมาชิกเก่าชาว falcon ครับ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 16 ม.ค. 52 06:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ถึงน้าแมวเหมียว ด้้วยความเคารพนะครับ ทำไมถึงพูดถึงแต่เรื่่องสีละครับ กับภาพที่ส่งประกวด แค่สีเพี้้ยนก็ตกรอบไปก่อนเลยรึครับ กรรมการเค้าไม่่ดูองค์ประกอบอื่นเลยเรอะครับ??? ปล.ขอบคุณสำหรับบทความความรู้ดีๆในหลายๆกระทู้ด้วยครับ จากคุณ : ILIE_Romania - [ 16 ม.ค. 52 07:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ^ ^ คุณศุภชัย @ Mr.Palm ใช้ชื่อว่าศุภชัย_หาดใหญ่ครับ เพราะเค้าอยู่หาดใหญ่ เป็นคนเดียวเลยมั้งที่ช่วยสมาชิกMr.Palmคลายใจปัญหาน้องปาล์มมาตั้งแต่เวปเปิดเลย จากคุณ : Bluedoft - [ 16 ม.ค. 52 07:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 65 โห ความรู้แน่นปึ๊กเลยกระทู้นี้ สรุปคือถ่ายรูปมาสวย วัดแสง อันเดอร์หรือโอเวอร์อย่างใจต้องการ มาใส่จอ สวยงามอย่างที่ถ่ายมา แต่ลูกค้าจะพอใจหรือ ในเมื่อรูปที่เค้าเอาไป print ไม่ว่าที่บ้านหรือร้าน profile มันไม่ตรงกัน โอ๊ยปวดหัว สรุปคือถ่ายเล่นเหมือนเดิมไม่ต้องไปรับงงรับงาน อิอิ จากคุณ : Buddykung - [ 16 ม.ค. 52 10:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 66 คุณหมอแมวเหมียวเวลาศึกษาอะไรแล้ว ศึกษาซะทะลุปรุโปร่งล่ะครับ สุดยอดครับ กระทู้นี้ จากคุณ : Ontjung - [ 17 ม.ค. 52 09:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ตอนนี้ เทคโนโลยีนี้ .. ORGANIC L.E.D. (OLED) เลยมาแรง และคาดว่า จะออกสู่ท้องตลาด "ในราคาระดับชาวบ้าน" ได้ใน 2-3 ปี ู^ ^ ^ ้เดี๋ยวนี้ notebook ส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีนี้กันหมดแล้วน่ะครับ คงไ่ม่ต้องรอ ถึงขนาด 2-3 หรอก เอิ๊กๆ จากคุณ : lunaticmachine - [ 29 ม.ค. 52 12:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 29 ม.ค. 52 17:10:33 ]