ความคิดเห็นที่ 1 f 4.8, S 1/1000, flash จากคุณ : BAND-01 - [ 2 ก.พ. 52 08:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 f 5.6, S 1/1000, flash จากคุณ : BAND-01 - [ 2 ก.พ. 52 08:53:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 3. จากคุณ : BAND-01 - [ 2 ก.พ. 52 08:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 4. จากคุณ : BAND-01 - [ 2 ก.พ. 52 08:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 5. จากคุณ : BAND-01 - [ 2 ก.พ. 52 08:55:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 6. จากคุณ : BAND-01 - [ 2 ก.พ. 52 08:56:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 7. จากคุณ : BAND-01 - [ 2 ก.พ. 52 08:57:11 ]

ความคิดเห็นที่ 8 และสุดท้าย คือ ถ่ายโดยไม่ใช้แฟลช จากคุณ : BAND-01 - [ 2 ก.พ. 52 08:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอถามตามนี้ ตอบ FREESTYLE นะครับ คือ ผมใช้ความเร็ว 1/1,000 ภาพน้ำไม่หยุดนิ่ง กลับเห็นเป็นสายน้ำ แต่เมื่อใช้ความเร็วต่ำลง ๆ กลับเห็นน้ำเป็นหยด เกิด FREEZING MOMENT มากกว่า อันนี้ งงครับ ขอความรู้ด้วยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : BAND-01 - [ 2 ก.พ. 52 09:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ที่ความเร็วสูง 1/1,000 ... กล้องวัดแสงแล้ว พบว่า แสงธรรมชาติ น้อยเกินไป มันจึงบังคับให้แฟลช ปล่อยแสงยาวนานขึ้น ภาพที่เห็น เกิดจากแสงแฟลชผ่านเข้ากล้องนานถึง 1/1000 วินาที แต่ที่ 1/30 หรือ 1/60 .. คุณใช้หน้ากล้อง f/10 .. แสงธรรมชาติไม่พอ แสงที่สะท้อนจากน้ำ ผ่านเข้ากล้อง เป็นแสงแฟลชส่วนใหญ่ (ดู background ได้) ในกรณีนี้ แสงแฟลช จะสว่างแค่ 1/10,000 วินาทีเท่านั้น .. แสงเกินพอ หยดน้ำ จึงเป็นหยดน้ำ ไม่ใช่สายน้ำ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 09:10:34 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 2 ก.พ. 52 09:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดูภาพที่ 8 ซ้ำอีกที เป็นหลักฐานยืนยันทั้งหมด ภาพที่ 8 แสดงว่า ความสว่างของแสงธรรมชาติ อยู่ที่ประมาณ EV 8.5 (Tv=4, Av=4.5) ในภาพที่ 1 ... อย่างแรกคือ แสงธรรมชาติ under ไปมาก เพราะคุณเปิดหน้ากล้อง 1/1000 (Tv =10), F/4.8 (Av=4.5) หรือพอเหมาะกับแสง EV 14.5) คุณบังคับให้แฟลชต้องสว่างให้นานไม่น้อยกว่า 1/1000 วินาที (จุดเด่นของ SB900 เขาเลยหละ .. high shutter speed flash) ถ้าแฟลชสว่างสั้นกว่า 1/1000 วินาที .. จะโดนม่านชัตเตอร์บัง เกิดเป็นเงาดำครับ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 2 ก.พ. 52 09:13:36 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ในภาพที่ 4-7  ม่านชัตเตอร์ใบแรก เปิดกว้่างสุด จากนั้นแฟลชถึงจะสว่าง  แฟลชสว่างแค่ 1/20,000 วินาที ก็พอแล้ว  แสงธรรมชาติ เข้าพอไหม?  จากหลักฐานภาำำพ #8 .. @ 1/30s (Tv = 5), f/10 (Av = 7)  .. EV = 12 ... แสงน้อยไป 12.0 - 8.5 หรือ 3.5 stop  แทบไม่พอให้เกิดภาพด้วยซ้ำ (ประตูห้องน้ำ ซึ่งเป็นฉากหลัง ถึงค่อนข้างมืด)  จบ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 2 ก.พ. 52 09:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 13 การถ่ายภาพของเคลื่อนไหวโดยใช้แฟลช ภาพจะถูกหยุดโดยแฟลชมากกว่าความเร็วชัตเตอร์ ภาพหลังๆ ถึงเปิดหน้ากล้องนาน แต่ลักษณะภาพก็ถูกจำกัดจากการใช้แฟลช เพราะแสงจากแฟลชมันจะออกมาเป็นระยะเวลาสั้นมากๆ สั้นกว่าความเร็วชัตเตอร์ที่เราตั้งไว้มาก ทำให้หยดน้ำได้รับแสงอยู่แว๊บเดียว ก็มืดแล้ว ทำให้ถึงแม้หน้ากล้องจะเปิดนาน แต่ภาพหยดน้ำที่ได้ก็จะเหมือนเปิดหน้ากล้องเร็วๆ ถึงใช้ชัตเตอร์ B (ถ้าถ่ายในที่มืดจริงๆ) และใช้แฟลช ก็จะยังเป็นน้ำถูกหยุดเป็นหยดอยู่ดี ส่วนภาพแรกๆที่ใช้ 1/1000 ความเร็วขนาดนี้ ทำให้แฟลชใช้โหมด High speed sync แฟลชจะยิงแสงสั้นๆหลายๆหน แทนที่จะยิงแรงๆหนเดียวแบบโหมดปกติ ทำให้เวลารวมที่แฟลชยิงแสงออกมา นานกว่าโหมดปกติ ทำให้เหมือนน้ำวิ่งเป็นสายแทนที่จะเป็นหยดๆ จากคุณ : alan the lamb - [ 2 ก.พ. 52 09:22:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สรุึปง่ายๆ  เมื่อคุณใช้แฟลช  ความเร็วในการเปิดหน้ากล้อง เสมือน ความยาวนานของแฟลช  ไม่ว่าเปิดหน้า่กล้อง 1/8 หรือ 1/1000 ก็ตามที  1. ที่ 1/8 .. หรือ ความเร็วที่ต่ำกว่า flash sync speed .. แฟลชจะติดสว่าง ก็ต่อเมื่อม่านชัตเตอร์ม่านแรกเปิดสุด และม่านที่สองยังไม่เคลื่อนที่  แฟลชที่ติดกรณีนี้ จะสว่าง 1/20,000 - 1/100,000 วินาที  เสมือนกับคุณใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/20,000 - 1/100,000 วินาที  2. ที่ความเร็วมากกว่า flash sync speed .. แฟลชจะต้อง ติดสว่างตั้งแต่ม่านชัตเตอร์ม่านแรก เริ่มเคลื่อนที่ โดย (แทบ) ไม่แคร์ว่า ม่านที่สองเปิดหรือยัง  แฟลชที่ติดกรณีนี้ จะสว่างตั้งแต่ 1/250 - 1/4000 .. whatsoever  ซึ่งเป็นไปตามความเร็วชัตเตอร์ที่แท้จริง  จบจริงๆ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 2 ก.พ. 52 09:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณคุณแมวเหมียวพุงป่องครับ กรุณาตอบให้ผมเยอะมาก ด้วยอยากให้ผมเข้าใจ ข้อความเป็นวิชาการลึก ๆ จริง ๆ เป็นอาหารสมอง อ่านยาก ต้องอ่านนาน ผมจะเซฟไว้อ่าน จริง ๆ ก็อ่านอยู่หลายรอบแล้ว ก็เข้าใจเพิ่มขึ้นบ้าง ไม่เพิ่มบ้างในแต่ละรอบที่อ่าน และขอบคุณคุณ alan the lamb มากเช่นกันครับ คุณ alan เขียนใน version ที่ง่ายของคุณแมวเหมียวฯ กระทู้นี้ผมได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะครับ และเชื่อว่าเป็นประโยชน์กับมือใหม่อีกหลาย ๆ ท่านครับ จากคุณ : BAND-01 - [ 2 ก.พ. 52 10:20:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมยังไม่มีแฟลช เลย แต่กระทู้นี้ เต็มไปด้วยความรู้ครับ...ขอบคุณมากๆครับ ทั้ง จขกท ที่ตั้งคำถามมา และ น้าแมวเหมียวพุงป่อง...ที่มาให้คำตอบพร้อมสาระดีๆครับ... ปล.ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้ความรู้ครับ... จากคุณ : giwgaw16 - [ 2 ก.พ. 52 10:51:01 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คห.14 2. ที่ความเร็วมากกว่า flash sync speed .. แฟลชจะต้อง ติดสว่างตั้งแต่ม่านชัตเตอร์ม่านแรก เริ่มเคลื่อนที่ โดย (แทบ) ไม่แคร์ว่า ม่านที่สองเปิดหรือยัง แฟลชที่ติดกรณีนี้ จะสว่างตั้งแต่ 1/250 - 1/4000 .. whatsoever ซึ่งเป็นไปตามความเร็วชัตเตอร์ที่แท้จริง **************************************************** ที่โหมด High speed sync แฟลชไม่ได้ปล่อยแสงนานถึง 1/125 -1/4000 วิ ตามที่เปิดหน้ากล้องหรอกครับ แต่จะยิงแสงสั้นๆ ถี่ๆ หลายครั้งให้ครอบคลุมระยะเวลาที่เปิดหน้ากล้องแทน แสงที่ยิงแต่ละปี๊ดก็ยังคงสั้นมากๆ (อาจจะถึง 1/12000) และเบากว่าโหมดปกติ ที่ยิงครั้งเดียวให้แสงพอเลย แต่ที่ high speed sync ยิงทีละน้อย หลายๆครั้ง แต่พอรวมกันแล้วได้ปริมาณแสงพอให้ภาพสว่างครับ ปกติแล้วในการถ่ายรูปด้วยแฟลชที่ความเร็วปกติ (ความเร็วซิงค์ปกติ) การยิงแสงแฟลช จะยิงตอนที่ม่านชัตเตอร์ตัวแรกเปิดสุด ซึ่งในความเร็วซิงค์ ม่านชัตเตอร์ตัวที่สองซึ่งมีหน้าที่ปิดเฟรม จะยังไม่ขยับมาปิด ทำให้ขณะที่ยิงแสงแฟลช ม่านชัตเตอร์เปิดทั้งเฟรม แสงแฟลชก็จะส่องลงเซลรับแสงเต็มเฟรม แต่พอใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงกว่าความเร็วซิงค์ ม่านตัวแรกยังไม่ทันเปิดจนสุดเลย ม่านตัวที่สองก็เริ่มปิดแล้ว ถ้ารอใ้ห้ม่านตัวแรกเปิดสุดแล้วค่อยยิงแสงแฟลช บางส่วนของเฟรมที่ม่านตัวสองเริ่มปิดไปแล้ว ก็จะไม่ได้รับแสงแฟลช จะทำให้มีอาการแถบดำที่ส่วนหนึ่งของภาพ จะบน/ล่าง ก็แล้วแต่กล้องครับ คนออกแบบก็เลยแก้โดยซอยการยิงแสงออกไปเป็นลูกเล็กๆหลายๆลูกถี่ๆ เริ่มยิงตั้งแต่ม่านตัวแรกเริ่มเปิด แล้วยิงซอยไปเรื่อยๆ พอม่านตัวที่สองเริ่มปิดไล่ม่านตัวแรก พื้นที่ที่ถูกม่านตัวสองบังไป ก็(ควร)จะได้รับแสงพอแล้ว แฟลชก็จะยิงไล่ม่านตัวที่สองไปจนปิดหมดเฟรม ทุกพื้นที่บนเฟรมก็จะได้รับแสงเท่าๆกันทั้งหมด ไม่เกิดอาการแถบดำครับ แต่ความที่มันถี่มาก และความเร็วตั้งแต่ต้นจนจบก็สั้นมาก ตาคนเราเลยเห็นเหมือนกับยิงตูมเดียว แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 13:35:25 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 13:33:00 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 13:30:19 จากคุณ : alan the lamb - [ 2 ก.พ. 52 13:29:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 น้า alan .. เอาแค่ simplified น้องเขายังเวียนหัว  น้าเล่นอธิบาย ไม่มีรูปประกอบ ... ผมว่าเดี๋ยวเละ  แต่ผมกำลังเหล่พวกแฟลชวงแหวนอยู่ เพราะพวกนี้ระยะเวลาแสงแฟลชสว่าง นานถึง 2 millisec ... เนื่องจากแนวลำอาร์คแฟลชยาว   สามารถใช้ high speed shutter ได้ โดยไม่ต้องยิงถี่ยิบอย่างที่ว่า  แบบยิืงแบบถี่ๆเนี่ย .. ถ้าฉากหลังเป็นสีขาว หรือสีเดียว (สีขาวเห็นชัดกว่า) จะเห็นแนวรอยต่อสว่าง-มืดค่อนข้างชัดทีเดียว จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 2 ก.พ. 52 15:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อาการแถบมืดพวกนั้น .. แฟลชรุ่นหลังๆ ลดลงแล้ว  เพราะยิงถี่เร็วขึ้น  แฟลชสว่าง ไม่ใช่เป็น 0 หรือ 1  ลำอาร์คภายในหลอดแฟลช ใช้เวลาในการสว่าง (Ton)  และใช้เวลาพอสมควรในการหรี่ลงจนดับ  (Toff)  ช่วง Toff นี่ เป็นจุดขายของ flash รุ่นใหม่  เพราะในช่วงนี้ .. ต่อให้มีการส่งกระแสไฟเข้าไปจุดแฟลช มันก็ไม่ติด (เรียกว่า refractory period .. หลายๆ ท่าน คุ้นคำนี้นะ )  แฟลชดีๆ (แพ๊งงงง) ... จะวัดเวลานี้แม่นเป๊ะๆ .. ทำให้สามารถส่งกระแสไฟฟ้าเข้าไปจุดหลอดได้ใหม่ทันที  ทำให้ลำอาร์คที่ เกือบจะดับ สว่างใหม่ทันที  แสงที่ออกมาจากแฟลช high speed sync (หรือ Auto FP High-Speed Sync) รุ่นใหม่ จะเป็น แสงต่อเนื่อง  ไม่ใช่แสงเป็นจังหวะๆ (pulse) เหมือนรุ่นแรกๆ  .. อาการฉากหลังมืดเป็นหย่อมๆ แทบจะไม่เหลือ .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 2 ก.พ. 52 16:04:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 นั่นสิ ยังนึกว่าหมอแมวป่องไม่น่าจะตกม้าเรื่องง่ายๆแบบนี้อ่ะ หมอ แฟลชอย่างที่หมอว่าหน่ะ เคยมีคนเอาเครื่องวัดแสงไปวัด ก็ยังมีลักษณะเป็น Pulse อยู่ดี เพียงแต่มันเบียดกันแน่นจน Base line สูงขึ้น ไม่มืดสนิท เลยดูเหมือนสว่างต่อเนื่อง จากคุณ : alan the lamb - [ 2 ก.พ. 52 16:18:00 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สนุกครับ ผู้รู้สองท่านคุยกัน ผมเฝ้าอ่านแล้วกัน จากคุณ : BAND-01 - [ 2 ก.พ. 52 16:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 2 ก.พ. 52 16:49:46 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ... เข้ามามึน จากคุณ : DoraeMew - [ 2 ก.พ. 52 18:06:12 ]

ความคิดเห็นที่ 24    กระทู้นี้เต็มไปด้วยความรู้ครับ จากคุณ : WizardMadrid - [ 2 ก.พ. 52 18:11:53 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เช้ามาเก็บความรู้ อีกคนครับ  เต็มไปด้วยความรู้จริง ๆ ....อิอิอิ จากคุณ : plateau - [ 2 ก.พ. 52 20:18:38 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กำลังจะเข้ามาอธิบาย เจอสองท่านนี้เข้าไป ผมไม่ต้องพูดอะไรแล้วครับ เหอ ๆ ๆ ๆ จากคุณ : Take a Look Around - [ 2 ก.พ. 52 21:00:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เข้ามาเก็บความรู้ หมายเหตุ  ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกไหม เพื่อทดสอบความเข้าใจ ผมขอลองลองสรุปในแง่การนำไปใช้งาน "ผิดถูกประการใดช่วยแก้ด้วยนะครับ" หากต้องการใช้ Flash เพื่อ stop motion วัตถุที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง จะต้องใช้ shutter speed ไม่เกินค่าความเร็ว synchronized ของ Flash เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่กลายเป็น High sync เวลาโดยรวมที่ flash ยิงแสงออกมาจะมากกว่า การยิง flash แบบธรรมดา ภาพที่ได้จึงเสมือนว่าเปิด shutter นานกว่า แต่สมมุติว่า บังคับ flash ให้ยิงแบบธรรมดา เช่นในโหมด Manual โดยที่ใช้ shutter speed เกินความเร็ว sync. ผลลัพที่ได้คือ ได้ภาพ stop motion เหมือนกัน แต่จะมีบางส่วนของภาพ มืดหรือสว่างเป็นแถบๆ เพราะม่านชัตเตอร์อันที่สองเริ่มปิดไปแล้วบางส่วน จากคุณ : Chanin.U - [ 3 ก.พ. 52 10:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ ถูก แต่ไม่หมด เวลาชัตเตอร์เปิด แสงไม่ว่าจะมาจากแฟลช หรือจากสภาพแวดล้อม มันก็กรูเกรียวกันเข้าไปพร้อมๆกันทั้งหมด ถ้าแสงอื่นๆมาก ก็จะทำให้การ "หยุด" โดยแสงแฟลชลดลง เปิดหน้ากล้อง 1/60 ก็เท่ากันรับแสงแวดล้มเข้าไป 1/60 ด้วย ทีนี้มันจะมีผลมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นกับความสว่าง สว่างมาก ก็มีผลมากขึ้น สว่างจัดเลย ก็ทำให้เห็นการเคลื่อนไหวชัดขึ้น แต่ถ้าถ่ายในห้องมืดสนิท ถึงเปิด B แสงแฟลชก็ยังหยุดการเคลื่อนไหวได้ จากคุณ : alan the lamb - [ 3 ก.พ. 52 12:29:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ชอบครับ ความรู้เน้นๆ กำลังศึกษาการใช้แฟรชพอดี ขอบคุณครับ เอาอีกๆๆๆ จากคุณ : Sympho - [ 3 ก.พ. 52 12:45:10 ]

ความคิดเห็นที่ 30 "เวลาชัตเตอร์เปิด แสงไม่ว่าจะมาจากแฟลช หรือจากสภาพแวดล้อม มันก็กรูเกรียวกันเข้าไปพร้อมๆกันทั้งหมด ถ้าแสงอื่นๆมาก ก็จะทำให้การ "หยุด" โดยแสงแฟลชลดลง เปิดหน้ากล้อง 1/60 ก็เท่ากันรับแสงแวดล้มเข้าไป 1/60 ด้วย ทีนี้มันจะมีผลมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นกับความสว่าง สว่างมาก ก็มีผลมากขึ้น สว่างจัดเลย ก็ทำให้เห็นการเคลื่อนไหวชัดขึ้น แต่ถ้าถ่ายในห้องมืดสนิท ถึงเปิด B แสงแฟลชก็ยังหยุดการเคลื่อนไหวได้ " ถ้าอย่างนั้นเวลาที่ในห้องมีแสงแต่ต้องการ stop motion เราใช้วิธีการตั้ง shutter speed 1/60 แล้วไปบีบรูรับแสงให้แคบๆ เช่น 1/32 แทนเพื่อให้แสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาได้น้อยๆแทน ก็จะแก้ปัญหานี้ได้ใช่ไหมครับ ?? จากคุณ : Chanin.U - [ 3 ก.พ. 52 12:57:18 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ได้ครับ ขึ้นกับความต้องการ "เก็บ" แสงรอบข้างไว้หรือเปล่า ถ้ายังต้องการแสงรอบข้าง ก็ต้องเปิดรูรับแสงกว้าง ซึ่งแฟลชก็ไม่ต้องยิงแสงแรงมากนัก ทำให้แสงรอบข้างพอไปสู้กับแสงแฟลชได้ แต่เวลาเปิดหน้ากล้องแคบๆ แฟลชจะต้องยิงแสงแรงขึ้นทำให้กลบแสงรอบข้างไป จะใช้แบบไหนก็ต้องดูเอาตามสถานการณ์และความต้องการครับ จากคุณ : alan the lamb - [ 3 ก.พ. 52 15:40:43 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ^ ^ ขอบคุณครับ จากคุณ : Chanin.U - [ 3 ก.พ. 52 23:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณครับ ตามมาเก็บสาระมากมายเต็มกระทู้ จากคุณ : popkung - [ 9 ก.พ. 52 11:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ครั้งแรกที่ผมเข้ามาอ่าน ยอมรับครับว่างงมาก ว่าทำไมยิ่งใช speed shutter สูง+แฟลช์ทำไมยังหยุดสายน้ำไว้ไม่ได้.. พออ่านข้อความความรู้ที่น้า alan the lamb กับน้า แมวเหมียวพุงป่อง และทุกๆท่านเข้ามาช่วยกันถกและอธิบาย ทำให้พอจะนึกภาพออกได้ครับว่าการทำงานและหลักการณ์มันเป็นยังงัยถึงจะหยุดการเคลื่อนไหวของสายน้ำได้. กระทู้นี้เป็นข้อมูลที่ทำให้ผมได้ แนวคิดเอาไปใช้งานต่อได้ครับ ลองดูผลงานเล็กๆน้อยๆของผมได้ครับ. น้าๆท่านใดอยากแนะนำเพิ่มเติม อันนี้ยินดีมากครับ. ตามลิ้งด้านล่างเลยครับ ขอบคุณหลายๆครับ http://www.pantip.com/cafe/camera/topic/O7572705/O7572705.html จากคุณ : Jrod - [ 28 ก.พ. 52 23:26:31 ]