 |
+++++++++++++++++++ The Best one in Thailand +++++++++++++++++++
หวัดดีก๊า...ไม่ได้มีอะไรมาก แต่อยากจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเฉยๆ เผื่อว่าจะมีชาวหัวฟูอยากไปบ้าง คือเรื่องมันมีอยู่ว่าเราชอบทะเลมากๆ แต่ต้องเป็นทะเลไกลๆ หน่อยนะ ใกล้ๆ ไม่ค่อยปลื้มนัก ด้วยความที่ทะเลไกลสวยกว่าทะเลใกล้นั่นล่ะ คนยังไม่ดั้นด้นไปกันมากนัก แม้ว่าตอนนี้จะเริ่มเยอะแล้ว แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่พอรับได้ ไม่วุ่นวายมากนัก...ส่วนจะเป็นที่ไหน ลองมาอ่านกันดูนะก๊ะ
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา หรือที่เราเรียกกันว่า เกาะตะรุเตานั้น อยู่ในจังหวัดสตูล อำเภอละงูนี่เอง หากเดินทางด้วยรถก็ประมาณ 14 ชั่วโมงถึงท่าเรือ แต่หากไปโดยเครื่องบินก็ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง 40นาที ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก็จะบินลัดฟ้าถึงที่หมาย หรืออีกทางเลือกหนึ่ง หากใครชอบนอนฟังเสียงล้อบดกับเหล็กก็เลือกเดินทางด้วยรถไฟก็ได้ ส่วนตัวเราแล้วชอบที่จะนั่งรถ เป็นเพราะชอบบรรยากาศที่ผ่านไปสองข้างทางรวมถึงบรรยากาศบนรถที่หาไม่ได้บนเครื่องบิน จึงยอมที่จะเมื่อยก้นไปบ้าง ก็ช่างมัน
หมู่เกาะตะรุเตา กินพื้นที่ค่อนข้างเยอะ เกาะเล็กเกาะน้อยรายล้อมอยู่รอบๆ ถ้าหากจะให้พูดถึงชื่อเกาะที่เราๆ รู้จักกันก็จะมี เกาะไข่ เกาะอาดัง ราวี (หาดทรายขาว) หลีเป๊ะ เกาะรอ-กลอย เกาะผึ้ง อ่าวลิง เกาะหินซ้อน ฯลฯ แทบทุกเกาะ เราจะสามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื่นและน้ำลึก เลือกได้ตามความถนัด แต่จากประสบการณ์เคยแต่ดำน้ำตื่น แค่นี้ก็ตื่นตาตื่นใจมากแล้ว หากลงไปสัมผัสถึงด้านล่างคงจะสวยงามกว่านี้แน่ๆ ส่วนเรื่องหาดทราย ทุกเกาะที่เอ่ยมาไม่มีความสกปรกให้เห็นเลย เจ้าหน้าที่ทุกคนดูแลอย่างดี แต่ในความรู้สึกเรา ใครที่ลุยไปเที่ยวถึงที่นั่นแล้ว ก็แสดงว่ารักทะเลกันพอสมควร ดังนั้น เค้าจึงช่วยกันดูแลรักษาทะเลกันแบบไม่ต้องพูดกันให้เมื่อยปากล่ะ เศษขยะที่จะลอยให้เห็นนั้น ไม่ต้องกลัวว่าจะมี หาดทรายขาว น้ำใส ใช้ได้กับที่นี่ คอนเฟริ์ม!!!!
ส่วนถ้าหากใครที่ชอบความบันเทิง ครึกครื้น แสงสียามกลางคืนแล้ว เราแนะนำให้ไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ บนเกาะนั้นจะมีความบันเทิงท่ามกลางบรรยากาศที่สวยมาก หลังหาด ที่เราเรียกว่า หาดพัทยา ยามเย็นนั้น นั่งดูพระอาทิตย์ตกพร้อมจิบเครื่องดื่มริมหาดก็เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้มากพอสมควร บนเกาะนั้นจะมีบังกะโลหรือรีสอร์ทให้เลือกพักได้ตามใจชอบอีกด้วย แล้วแต่กำลังทรัพย์กันเลย หรือ....ถ้าใครจะแค่แวะเวียนมาเที่ยวก็สามารถเหมาเรือหางยาวมาเที่ยวกันได้ คนขับใจดีใช้ได้เลยนะ ซึ่งถ้าให้เราเทียบแล้ว เหมือนรถเมล์กรุงเทพฯ นี่แหละ ต่างกันแค่ไม่มีกลิ่นเหม็นของควันให้ดม ซึ่งเราว่ามันดีกว่าแยะเลยนะ
ส่วนถ้าใครชอบความสงบ นอนฟังเสียงคลื่นกันแบบชิวๆ สบายอุรา บนเกาะอาดังก็มีบ้านพักของอุทยานฯ สำรองไว้ให้เรียบร้อย หลังใหญ่นอนได้สบาย หรือถ้าหากใครชอบสัมผัสธรรมชาติ นอนกลางดิน กินในร้านอาหาร ก็สามารถเลือกกางเต้นท์ริมหาดได้เลย เราว่าแบบหลังนี่แหละ เข้าถึงจริงๆ ไปลองมาแล้ว...กิจกรรมบนเกาะนี้อาจจะไม่เยอะเท่าเกาะหลีเป๊ะ แต่ถ้าหากใครชอบกินบรรยากาศแล้วล่ะก็....reccommend เลยล่ะ ไม่ลองไม่รู้นะจ้ะ
ส่วนเรื่องของการดำน้ำนั้น ก็จะมีเป็นแพ็คเกจจัดไว้ให้เรียบร้อย หากจองแพ็คเกจบนเกาะอาดัง ก็จะมีให้เลือกสองแบบด้วยกัน แพ็คเกจที่หนึ่ง จะพาไปดำทั้งหมด 4 เกาะ ราคาก็อยู่ที่ 1200 บาท/วัน จะขึ้นเรือกันไปกี่คนก็ได้ แต่ต้องไม่เกินกำหนดที่เรือจะรับไหวนะ ใช้เวลาประมาณครึ่งวันเป็นอย่างต่ำ เราสามารถดำน้ำได้แบบไม่ต้องรีบร้อน เพราะพี่คนขับใจดีมาก ไม่คอยเร่งลูกค้าเลย แต่ถ้าเห็นว่าตัวใกล้เปื่อยแล้ว พี่เค้าจะเรียกทันที แต่เราไม่ขอคอนเฟริ์มเกาะทั้งสี่ เพราะเจ้าหน้าที่จะมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพของปะการังและปลาใต้น้ำซึ่งต้องผ่านการสำรวจในช่วงปิดอุทยานฯ ก่อน ส่วนแพ็คเกจที่สองนั้น จะพาไปดำทั้งหมด 6 เกาะด้วยกัน ราคาอยู่ที่ 2,000 บาท/วัน ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวก็เช่นกัน เท่าที่เรือจะรับไหว แพ็คเกจนี้จะใช้เวลาทั้งวันในการออกไปดำน้ำ เนื่องจากแต่ละเกาะ ปะการังด้านล่างจะไม่เหมือนกัน มีทั้งแบบอ่อนและแบบแข็ง แม้กระทั่งปลาที่ว่ายอยู่นั้น ก็สีสันแตกต่างกันไปตามลักษณะปะการังและกระแสน้ำด้วย เรื่องแพ็คเกจนี้ เจ้าหน้าที่เค้าแล้วแต่เราเลย
ส่วนเรื่องอาหารการกินระหว่างที่ออกไปดำน้ำนั้น เราจะต้องพกพาไปเองจากเกาะที่เราพักโดยการสั่งอาหารตอนเช้าหรือจดรายการไว้ให้ร้านตอนกลางคืนแล้วเช้ามารับ ยกเว้นซะว่า มากับทัวร์ อันนั้นทัวร์เค้าจะจัดการให้เราเอง เตรียมท้องไว้รอได้เลย ส่วนใหญ่แล้วพี่คนขับเรือจะพาไปพักมื้อกลางวันกันที่เกาะรอกลอย ที่นั่นจะมีที่นั่งพัก มีวิวให้เราได้พักถ่ายรูปกันพอสมควร เพื่อที่จะเติมพลังก่อนออกไปดำน้ำกันต่อที่เกาะต่างๆ
ที่เล่ามาทั้งหมด ก็เพราะว่าได้ไปเจอของดี เจอสิ่งที่ดีๆ ก็เลยอยากจะบอกต่อกัน อยากจะบอกว่า ในประเทศไทย ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอีกเยอะที่รอให้เราได้ค้นหา รอให้เราไปเห็นด้วยตา อันนี้อยู่ที่ว่า เราจะก้าวขากันออกไปหรือไม่แล้วล่ะ หลีกหนีความวุ่นวาย ไปพักผ่อนจิตใจให้สงบ กลับมาจะได้มีพลังมีแรงสู้กับภาระหน้าที่อันหนักหน่วงกันต่อไปได้
สุดท้ายและท้ายสุด เราไม่ขออะไรมาก หากใครอ่านแล้วอยากจะไปบ้าง ขอแค่อย่างเดียว ช่วยกันรักษาทุกๆ อย่างเอาไว้ให้คงเดิมให้ได้มากที่สุด แตะต้องทุกๆ อย่างที่นั่นให้น้อยที่สุด นำกลับมาแค่เพียงภาพถ่ายและความรู้สึกความทรงจำที่ดีๆ เท่านี้ก็มากเพียงพอแล้วเราว่านะ หากยังรู้สึกว่าไม่ถึงจริงๆ ก็ไปใหม่อีกรอบสิ รอบสอง รอบสาม หรือกี่รอบก็ได้ หากเรารักษามันเอาไว้ให้คงเดิม...
หากใครสนใจไปเที่ยว สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ คุณอึ่ง เป็นเจ้าหน้าที่อยู่บนเกาะอาดัง ประจำอยู่ที่เกาะนั้น สามารถโทรสอบถามข้อมูลได้ หรือจะจองเรือล่วงหน้าก็สามารถติดต่อได้ ที่เบอร์ 084-6916358 ในเวลาราชการ อาจจะเลยมาถึงซัก 2 ทุ่มก็ได้ เพราะยังไม่เลิกงาน
ค่าเดินทางต่างๆ
รถทัวร์ (สอบถามราคาได้ที่บริษัท 999 หรือขนส่ง) เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามราคาน้ำมัน
ค่าเรือจากท่าเรือปากบารา-เกาะอาดัง 1,200 บาท ไป/กลับ (สปีดโบ้ท ลำใหญ่) ค่าเรือหางยาวเข้าเกาะ คนละ 50 บาท/เที่ยว ค่าเรือเที่ยวเกาะ สามารถตกลงกับเจ้าหน้าที่ได้ภายหลัง
ยังงัยก็ขอให้เที่ยวไทยกันเยอะๆ ชอบที่ไหนไปที่นั่น อย่าลืมรักษาไว้ให้รุ่นหลังเห็น และที่สำคัญ อย่าลืมบอกต่อกันด้วย
หากใครไปมาแล้ว ก็มาเล่าให้ฟังบ้างนะก๊าบบบบบบบ
จากคุณ :
noo_kui
- [
21 ก.พ. 52 10:42:48
]
|
|
|
|
|