ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มด้วยคลิ๊ปเด็ด... จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 11:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เขาเรียกว่าประมาท เห็นแน่นอนว่าน่าสงสัย ทะเบียนปลอม ระหว่างเพื่อนติดตั้งเครื่องทำลาย ก็เดินเขาไปตรวจสอบทะเบียน วนกันรอบรอบรถ แบบว่าชำนาญมั้งนะ อย่างไรก็ไม่เป็นไรโปรแล้ว จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 11:26:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อันนี้นักข่าวและชุดสำรวจประมาทเอง จริงก็ระวังตัวตั้งแต่รับแจ้งเหตุ ไม่ขับรถเข้าไป ใช้เดินทางเข้าไปแทน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 11:28:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ว่าแต่เขากำลังสู้อยู่กับใคร จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 11:31:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วไปตายเพื่อใครกัน... จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 11:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 พักฟังเพลงชมสไลด์สักนิด สำหรับคนที่ไม่ทราบว่าเขามีอะไรกันบ้าง กว่าสามพันศพ กว่าแสนล้านบาทที่หายไป จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 11:37:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เกิดได้ทุกที่ เกิดโดยไม่เลือกฝ่าย... เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 6 พ.ย.50 ศูนย์วิทยุ สภ.อ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้ นที่แผงขายอาหารสำเร็จรูป ภายในตลาดสดเมืองใหม่ เขตเทศบาลนครยะลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 11:41:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อำนาจทำลายล้าง ต่อรถที่ทำด้วยเหล็กขนาดใหญ่ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 11:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อาจจะไม่เลือกเวลาและสถานที่ เกิดระเบิดลูกที่ 4 ภายในดิสโก้เทค ชั้น 2 โรงแรมมารีน่า ถนนเจริญเขต ซอย 3 ทำให้นักท่องเที่ยวพากันหนีออกม าข้างนอก เมื่อมาถึงที่จอดรถหน้าโรงแรมมา รีน่า รถจยย.ฮอนด้าเวฟ 110 ซึ่งคนร้ายจอดไว้หน้าร้าน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 11:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้านิยมสุด น่าจะเป็นบุกจ่อยิงไม่ว่ารถกะบะหรือจักรยานยนต์ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 11:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ศาสตร์แห่งอมภัณฑ์ที่ง่ายง่ายทำขึ้นได้เองที่บ้าน แต่การเก็บกู้ไม่ง่าย จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 11:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กัลบกในที่ทำการของรัฐก็ยังโดน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 11:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หลายสิ่งก็ประดิษฐ์จากของง่ายง่ายได้ วัสดุเหลือใช้ก็มีคุณอนันต์ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 11:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แม้ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐจะสูญเสียแต่ก็น้อยมาก เกิดเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้า ที่กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เมื่อเวลา 16.45 น.วันที่ 8 ต.ค. 50 เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจที่ 4 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ใกล้มัสยิดหมู่ 1 บ้านสวนใน ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สิ่งที่ถูกใช้โดยนักการเมืองใต้ เพื่อทำลายรัฐบาลในขณะนั้นเพื่อ ฐานเสียงการเมือง จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พลิกขั้วกันแล้วก็ไม่เห็นจะสงบลง จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าเป็นคุณ มวลชนที่บ้าคลั่งคุณจะจัดการอย่างไร จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณจะอดกลั้นได้เหมือนทหารที่ปฏิบัติการในวันนั้นเหรอ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:09:00 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แล้วแต่ละท่าน ละกัน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:10:25 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ได้เกี่ยวกับศาสนา แต่วัดก็เป็นอีกเป้าหมาย จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สิ่งที่เป็นปัญหาต่อความสงบอีกอย่างเห็นจะไม่พ้นสิ่งที่เรียกว่า Human Right จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เป้าหมายไม่ได้เลือก แม่และเด็กก็ไม่เว้น จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จะเป็นเอกชนก็คงไม่พ้น จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:23:56 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อะไรคือจิตวิญญาณ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พักฟังเพลงเบาเบาอีกสักรอบ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:30:04 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ว่าแต่ ทำไมต้องโยงศาสนาต่อศาสนา สิ่งที่ชอบพูดกันสมานฉันท์ เพื่ออะไร จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:33:21 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เซคั่นบอมส์ หุหุ ขณะ นักข่าวกำลังมุงหลุมที่ระเบิดไปแล้ว ได้ภาพกันจะจะดี นักข่าวชอบ ชอบเสียงมือตื๋อสังหารจริงจริง จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 12:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อีกอำนาจของระเบิดที่ประกอบจากถังดับเพลิง ยนตกรรมอเมริกันยังปลิว http://img155.imageshack.us/img155/7100/hv1bn1.gif จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 13:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 29 บางทีก็เหลือแค่หัว จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 13:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ความไว้วางใจชาวบ้านในพื้นที่... จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 13:35:23 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ชาวบ้านร่วมกันปิดล้อมไม่ให้เข้าไปช่วยสองคนขั้นต้น... จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 13:38:00 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ย้ายซุงขนาดใหญ่จากที่ห่างไกลเพื่อป้องกันชุดจู่โจมชิงตัวประกัน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 13:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เอาละครับ สิบเก้าชม.แห่งความเลวร้าย... หลังเกิดเหตุคนร้ายยิงถล่มร้านน้ำชาภายในหมู่บ้าน หมู่ที่7 บ้านตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็กลายเป็นชนวนทำให้ชาวบ้านจับตัวนายทหารนาวิกโยธิน 2 นายไว้เป็นตัวประกัน โดยชาวบ้านสงสัยว่าทหารทั้งสองอาจจะเกี่ยวข้องกับเหตุถล่มร้านน้ำชาดังกล่าว และเรียกร้องให้นำสื่อมวลชนมาเลเซียมาทำข่าว ในขณะที่ฝ่ายรัฐเอง ได้พยายามเข้าเจรจาให้มีการปล่อยตัว พร้อมกับยืนยันว่าทหารทั้งสองนายเข้ามาเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจาก เหตุระเบิดเท่านั้น     "อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ได้มีความพยายามเจรจากันกว่า 19 ชั่วโมง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน กลุ่มวัยรุ่นได้เข้ารุมทำร้ายนายทหารทั้ง 2 นาย จนเสียชีวิต" จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 13:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 34 นั่นไม่ใช่สิ่งเลวร้ายที่สุด ของช่วงเวลา เกือบวัน... สิ่งเลวร้ายกว่านั้นคือ... ผู้ บังคับบัญชาสองนาวิกโยธินผู้พลีชีพ พ้อ ถูกสังคม ตำหนิ ว่าปล่อยให้ลูกน้องตาย ระบุเข้าไปช่วยก็ตาย ไม่ช่วยก็ตาย และถือ เป็นบทเรียน ที่ทำให้รู้ว่า การแก้ปัญหา ด้วยกฎหมายอาจไม่เพียงพอ " ผมยังตกเป็นจำเลยของสังคมทหารด้วยกันว่า ทำไม ไม่ตัดสินใจ ไปช่วยชีวิต ลูกน้องทั้งสองคน นี่เป็น เรื่องที่ทำให้ผมเครียดอยู่จนถึงทุกวันนี้ เมื่อรู้ว่าลูกน้องถูกจับนั้น รู้สึกว่า เข้าไปช่วยก็ตาย ไม่เข้าไปก็ตาย แต่ในเมื่อ ต้องตาย แล้วจะทำอย่างไรให้สิ่งดีๆ มันเกิดขึ้น การ สูญเสียลูกน้องไปสองคน ยังมีส่วนดี อยู่ที่ว่า ได้มีการสร้างอะไร ขึ้นมาบ้าง อย่างน้อย ก็ทำให้ทุกฝ่าย ได้มาขบคิดกันอย่างจริงจังเสียทีว่า การทำงาน โดยยึดหลัก กฎหมาย อย่างเดียวนั้น มันยังเป็นข้อจำกัดในพื้นที่นี้" น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ วาบหนึ่งเราเห็นน้ำตาคลออยู่ในดวงตาทั้งสอง จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 13:43:23 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อนาจมากขอบอก... เข้าไปช่วยก็ตาย ไม่เข้าไปก็ตาย แต่ในเมื่อ ต้องตาย แล้วจะทำอย่างไรให้สิ่งดีๆ มันเกิดขึ้น หลักนิยมอย่างหนึ่งของทหารหาญคือ เมื่อเอาศพกลับมาไม่ได้ ก็เพิ่มศพเข้าไปอีก... แต่นี่เขาไปตายเพื่อใครกัน... จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 13:45:26 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จะมีอะไรอีกล่ะ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 13:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มันก็แค่ขุดหลุมบนถนน... (การฝังระเบิดเป็นเรื่องลับนะครับ ไม่สามารถแสดงได้ว่าเขาได้ขุดฝัง ด้วยวิธีการการใช้เครื่องมือดัดแปลงจากอุปกรณ์การเกษตรได้อย่างไร) จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 13:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 38 "ผมแทงสองนาวิกโยธินเป็นคนแรก ก่อนที่คนอื่นจะใช้ไม้ทุบตีทหารทั้งสองจนเสียชีวิต" นั่น คือคำสารภาพตอนหนึ่งของ นายหามะมาโซ มามะ อายุ 28 ปี ชาวบ้านตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ครูฝึกหน่วยรบอาร์เคเค และผู้ต้องหาคดีสังหารโหด 2 นาวิกโยธินเมื่อปลายปี 2548 ที่ผ่านมา จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 13:55:21 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เหตุผลพิลึก... หามะมาโซ ระบุว่า สาเหตุที่เข้าร่วมขบวนการกู้ชาติ เพราะอ่านประวัติศาสตร์รัฐปัตตานี พบว่าในอดีตเคยเป็นเมืองขึ้นของประเทศสยาม และบรรพบุรุษชาวมลายูถูกจับไปเป็นทาส โดยมีการเจาะเอ็นร้อยหวายเพื่อให้ไปขุดคลองแสนแสบที่กรุงเทพฯ ทั้งยังมีความเชื่อตามหลักการทางศาสนาว่า ถ้ามุสลิมเจ็บคนเดียวก็เหมือนเจ็บทั้งหมด จึงคิดที่จะต่อสู้เพื่อพี่น้องมุสลิมซึ่งถูกรังแกจากชาวสยาม ระหว่าง นั้นก็ได้รับการฝึก กระทั่งปี 2545 จึงได้รับความไว้วางใจจากขบวนการกู้ชาติให้เข้าฝึก "หลักสูตรชุดปฏิบัติการขนาดเล็ก" (คอมมานโด/อาร์เคเค) กับสหายร่วมแนวทาง 6 คน โดยเป็นการฝึกการรบพิเศษทุกระบบ ทั้งทางร่างกาย และอาวุธในการสงครามย่อยทุกรูปแบบ ทั้งนี้ จะเน้นคำปลุกใจว่า "เมอเดก้า" ซึ่งหมายถึง "เอกราช" ของขบวนการกู้ชาติปัตตานี จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 13:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขั้นตอน... หามะมาโซ เล่าว่า เมื่อไปถึงอาคารอเนกประสงค์ใกล้มัสยิด ก็เห็นนายอัลเอนสานจับตัวทหารมัดมือมัดเท้าและปิดตาขังไว้ในอาคาร จากนั้นจึงปรึกษากันว่าต้องการให้ "นักข่าวมาเลเซีย" มาทำข่าว เพื่อป่าวประกาศให้ชาวมุสลิมทั่วโลกรู้ว่า ทหารยิงเด็ก ผู้หญิง และชาวบ้านมุสลิม แต่เมื่อเวลาล่วงเลยมานานก็ยังไม่มีนักข่าวมาเลเซียมาทำข่าว ทุกคนเลยเกิดความลังเลว่าจะทำอะไรต่อไป กระทั่งมีบุคคลคนหนึ่งเข้ามาเจรจา พร้อมทั้งให้คำแนะนำว่า "ถ้าเป็นพวกนี้จริงจะทำยังไงก็ทำไปเถอะ" หา มะมาโซและเพื่อนจึงคิดว่า แม้จะไม่ใช่คำสั่ง แต่ก็ถือว่าเป็นการ "เปิดไฟเขียว" ให้ จึงเสนอให้ฆ่าทหารเพื่อแก้แค้นให้ชาวบ้าน และทุกคนก็ไม่มีใครโต้แย้ง จึงตัดสินใจฆ่าเพื่อไม่ให้เสียโอกาส นาที สังหารเกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 กันยายน 2548 โดยหามะมาโซไปขอกุญแจที่ขังสองนาวิกโยธินจากนายนิอามราญ และให้แนวร่วมปิดล้อมมัสยิดไว้ เพื่อไม่ให้ใครเห็นเหตุการณ์ " ผมเป็นคนแรกที่แทงทหารทั้งสองคน ส่วนคนอื่นอีก 5 คนใช้ไม้ทุบตีจนทหารทั้งสองเสียชีวิต จากนั้นผมและนายอัลเอนสานจึงบอกให้ทุกคนรู้ว่าทหารตายแล้ว และให้รีบสลายตัว" จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 13:58:32 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แต่คนนี้ก็หาใช่ระดับปฏิบัติการ ที่ผ่านการซูเปาะมาแล้วนะ... จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สิ่งที่ทหารไทยทำกันทุกวันนี้คือ เตรียมพร้อมสำหรับตนเอง และผู้อื่น จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:03:56 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สุดท้ายแล้ว มวลชนจะอยู่ข้างโจร หรืออยู่ข้างรัฐ 5 พ.ย. เด็กและผู้ใหญ่ประมาณ 300 คน ทำการรวมตัวปิดล้อมโรงเรียนบ้านบาเจาะ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา พร้อมยื่นเงื่อนไขให้ย้ายฐาน ตชด.3202 ที่มีกำลังพล 30 นาย ที่อยู่ภายในโรงเรียนออกนอกพื้นที่ เพราะเชื่อว่าทหารเป็นคนยิงชาวบ้านเสียชีวิตไป 1 คน เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา          ต่อมาเจ้าหน้าที่เสริมกำลังทหารและตำรวจ ประมาณ 200 นาย พร้อมรถหุ้มเกราะอีก 2 คัน เข้าล้อมพื้นที่รอบโรงเรียนบ้านบาเจาะไว้หมดทุกเส้นทาง จากนั้นตำรวจและทหาร กว่า 200 นาย เดินทางถึงโรงเรียนบาเจาะ พบเด็กอายุ 3 – 5 ปี รวมทั้งผู้หญิงกว่า 300 คน ยืนอยู่ด้านหน้าโรงเรียนพร้อมกับตะโกนไล่ ส่วนผู้ชายแยกออกไปรวมกลุ่มอยู่ห่างๆ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:11:24 ]

ความคิดเห็นที่ 44 แล้วเขาตายเพื่อแค่ได้รับธงเท่านั้นรึ ศพ 4 ทหารกล้าค่ายศรีสองรัก ซึ่งเสียชีวิตจากระเบิดที่จ.ปัตตานี ถูกลำเลียงออกจากเครื่องบินซี 130 เมื่อมาถึงสนามบินจ.เลย ไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดศรีสุทธาวาส โดยทางจังหวัดจัดพิธีรับศพอย่างสมเกียรติ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:14:41 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แผนปฏิวัติ 7 ขั้นตอน (บันได 7 ขั้น) แผนปฏิวัติ 7 ขั้นตอนได้กำหนดมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1992 (พ.ศ.2535) โดยมุ่งหวังยึดกุมเยาวชนเป็นกลุ่มปฏิบัติการ ทั้งทางการทหาร ประชาสัมพันธ์ และการโฆษณาชวนเชื่อ อันเป็นจุดเด่นที่สำคัญของแผนงานนี้ กลยุทธ์ที่ 1 ทำอะไรก็ได้ ทำให้พี่น้องมุสลิมเกลียดคนไทยเอาให้เกลียดถึงกระดูกดำ ดังนั้น การฆ่าชาวบ้านในหลายพื้นที่ มันเป็น ฝีมือของพวกโจรฆ่าแล้วโยนความผิดให้ตำรวจถ้าโยนไม่ได้ ก็จะกล่าวโทษคนที่ถูกฆ่าตายว่าทรยศต่อพวกเดียวกัน สมควรตาย!!!! กลยุทธ์ที่ 2 โจรพูโล วางแผนสร้างนักรบมายาวนาน พวกอุสตาส(ครูสอนศาสนา) รับหน้าที่อบรมสั่งสอนจิตสำนึก แล้วคัดเลือกคนส่งต่อให้หน่วยเหนือของเขา หาทางส่งไปฝึกอบรมที่ต่างประเทศ ทั้งโดยเปิดเผยภายใต้การสนับสนุนของรัฐ และแอบไปรับการ ฝึกแบบใต้ดินหลักสูตรให้เก่งภาษาอาหรับ จบแล้วให้ทางการ (ไทย) รับรองปริญญาตรี เมื่อกลับถึงประเทศไทยจะได้รับราชการบริหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนักรบหนุ่ม และสาว กำลังฝึกอบรมอยู่ต่างประเทศ พ่อแม่จะได้รับเงินจากกองทุนช่วยเหลือครอบครัวจะไม่ให้ได้รับความลำบาก กลยุทธ์ที่ 3 สร้างนักการเมืองในทุกระดับ ส่งลงเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองทั้งใน 3 จังหวัดภาคใต้และทั่วประเทศกระจาย" นักการเมือง " ออกไปทุกตำบล ทุกอำเภอทุกจังหวัด เพื่อการยึดหัวหาดเบ็ดเสร็จสร้างอำนาจต่อรองให้มีกำลังมากขึ้น กลยุทธ์ที่ 4 ประสานงานกับองค์กรมุสลิมโลก มีการเดินทางไปมาหาสู่เชื่อมสัมพันธไมตรี ผูกมิตร แล้วถือโอกาสเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ กล่าวหาประเทศไทยของตัวเองโดยบอกให้สังคมภายนอกเข้าใจผิด คิดว่า ปัตตานีตกเป็นเมืองขึ้นของไทย!!!! ใน กลยุทธ์ตัวนี้โจรพูโลไม่ได้รับความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะทะเบียนเมืองขึ้นของโลกไม่มีรายชื่อของประเทศปัตตานี โจรปัตตานีจึงหันไปให้ข้อมูลเท็จ ฆ่ากันเองแล้วหาว่าถูกอุ้ม ไม่มีใครรังแกก็หาว่าถูกรังแก ไม่ยอมทำงานอะไรเลยก็หาว่ารัฐบาลเอาใจใส่แต่พวกพุทธ ปล่อยทิ้งมุสลิมไม่ใยดี!!!! กลยุทธ์ที่ 5 สร้างสุเหร่าให้มากเข้าไว้ แม้ว่าบางหมู่บ้านจะมีอิสลามเพียงครอบครัวเดียวก็สามารถ "หาเงินมาสร้างสุเหร่าได้" แล้วก็ออกข่าวเสมอว่า จำนวนประชากรของมุสลิมในประเทศไทยมีมากเป็นอันดับสองของประเทศพูดให้มากเข้า ไว้ กลยุทธ์ที่ 6 ออกวารสารและนิตยสาร ภายในที่ไหนก็ตาม เนื้อหาจะต้องสะท้อนปัญหาของอิสลามทั่วโลกแล้วดึงมาลงว่าประเทศไทยก็มี ปัญหาไม่หย่อนกว่ากัน พร้อมกับได้สนับสนุนให้ปัญญาชนออกมาทำสื่อให้มากขึ้นสร้างองค์กรประชาชนด้าน นี้เพื่อการเผยแพร่ให้กว้างขวาง กลยุทธ์ที่ 7 ได้รับผลกระทบอะไรเล็กน้อยก็ตาม ให้โวยวายทันที!!! กลยุทธ์ที่ 8 จัดตั้งกองกำลังส่วนหน้า กองหนุน และจัดตั้งแนวร่วมให้กระจายครบ 5 จังหวัด แต่ให้เน้นที่ 3 จังหวัดก่อนถ้าได้ยินเสียงบอกกล่าวให้ระดมผู้คนไม่ว่ากรณีใด ๆ ให้จัดการระดมได้ภายใน 3 ชั่วโมง เฉพาะหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ต้องระดมได้ทันที หมู่บ้านไหนไม่ให้ความร่วมมือจะถูกขึ้นบัญชีดำ!!! กลยุทธ์ที่ 9 เป้าหมายคือแบ่งแยกดินแดน !!! แต่เวลาแสดงความคิดเห็นไม่ว่าที่ไหนก็ตาม จะไม่บอกแม้แต่ประโยคเดียวว่าต้องการแบ่งแยก สิ่งที่พวกเขาเรียกร้องคือ " ขอปกครองตนเอง" โดยยินดีที่จะให้รัฐบาลกลางเป็นผู้บริหารกลยุทธ์ข้อนี้ถือว่าเป็นหัวใจ เพราะว่าถ้าได้ปกครองตนเอง.....จะเป็นเงื่อนไขไปสู่การ " ปกครองตนเอง " จะทำให้การแยกตัวเองอย่างแท้จริงง่ายขึ้น กลยุทธ์ที่ 10 เรียกร้องให้ใช้ภาษายาวีเป็นภาษากลาง ประดาผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต. และข้าราชการทั้งหลายร้อยละ 80 ต้องเป็นอิสลาม!!!! กลยุทธ์ที่ 11 กองกำลังทั้งหมด แม้จะจบวิชาฆ่ามาจากต่างประเทศ!!!มีความชำนาญในการใช้อาวุธ แต่ให้เริ่มต่อสู้ด้วยอาวุธโบราณ เช่นมีดสปาต้า กริช การฆ่าให้เชือดคอ!!เชือดลูกกระเดือก หรือไม่ก็ตัดหัวหิ้วเอาไปประจานแสดงออกประหนึ่งเป็นการระบายความแค้น!!! กลยุทธ์ที่ 12 หลอกล่อ.......ยั่วยุให้ฝ่ายราชการใช้กำลังปราบปรามเพื่อจะได้เป็นข้ออ้างว่าถูกปราบอย่างทารุณ ไม่มีความยุติธรรม กลยุทธ์ที่ 13 โปรยใบปลิว ปลุกระดมชาวบ้านให้เข้าร่วม พวกอุสตาสออกไปพบกับชาวบ้านแจ้งให้ทราบว่า..... " อีกไม่นานก็จะชนะ........." กลยุทธ์ที่ 14 เริ่มปฎิบัติการกับสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนาและชาวพุทธ ขับไล่ให้ออกไปจากดินแดน ถ้าใครไม่กลัวตาย ให้ฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยม ไม่เลือกลูกเล็กเด็กแดง กลยุทธ์ที่ 15 ให้คอยฟังสัญญาณปลดปล่อยปัตตานี!!!........ เมื่อ ได้รับสัญญาณให้ทุกคนออกไปยึดที่ทำการของรัฐบาลทุกแห่ง เอาเด็กและผู้หญิงเป็นเกราะกำบังกะว่าจะใช้คน 5 แสน หรือ 2 ล้านคน ก็จะสามารถยึดได้ภายในวันเดียว!!! แล้วประกาศเอกราช และวันนั้นชาวปัตตานีจะได้เห็นว่า..........ใคร คือสุลต่านหรือประธานาธิบดีคนแรกของชาวปัตตานีที่รอคอยมานาน 100 ปี กลยุทธ์ที่ 16 เป็นกลยุทธ์พลิกผันไปตามสถานการณ์จะมี " คำสั่งพิเศษ" ออกมาเป็นระยะโดยจะปรับเข้ากับกลยุทธ์เก่าหรือกลยุทธ์ใดกลยุทธ์หนึ่ง หมายเหตุ : โจรปัตตานีไม่ใช่โจรกระจอกอย่างแน่นอน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อะไรคือสิ่งที่ ต่างใจ ปารถนา จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ๑/ จุดเริ่มต้นของแผนการ คาดว่าเกิดขึ้นมาไม่น้อยกว่า ๕ ปีแล้ว ผ่านครูสอนศาสนาหัวรุนแรงจำนวนหนึ่ง ใน ๓ จังหวัดภาคใต้ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ มิได้ดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้กฎหมายไทยมานานแล้ว ตั้งแต่ภาษาพูด วัฒนธรรม ความคิดอ่าน ตลอดจนวิถีชีวิตในครอบครัว มิได้มีความเป็นไทยมานานแล้วครับ การชุมนุมกันเพื่อแสดงความคิดอ่านของคนในหมู่เดียวกันกระทำได้โดยง่าย เพราะองค์กร สถาบันทางศาสนาที่พวกเขาตั้งขึ้น เป็นเกราะกำบังที่ดีจากการตรวจสอบของฝ่ายการเมืองและข้าราชการในรัฐบาล ๒/ หาแนวร่วมผู้ทรงอิทธิพล แผนขั้นนี้ คือ หาแนวร่วมของคนในอุดมการณ์เดียวกันซึ่งทรงอิทธิพลในแง่ใดแง่หนึ่งมา สนับสนุนการก่อการ ซึ่งได้แก่.. นักการเมืองในภาคใต้ ..ผู้นำมุสลิม ที่นิยมการใช้ความรุนแรงในการตอบโต้จากต่างประเทศ ผ่านเครือข่ายมุสลิมในภูมิภาคนี้ และสุดท้าย ผู้นำชุมชนมุสลิมใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นครูสอนศาสนา ๓/ เริ่มต้นดำเนินการแผนปฏิบัติการมวลชน นักการเมือง...หว่านล้อมให้คลายมาตรการควบคุมดูแลปัญหาภาคใต้ลง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จด้วยดี เพราะนายกรัฐมนตรีมิได้ระแวงพวกเดียวกันเอง เครือ ข่ายมุสลิมที่นิยมความรุนแรงในภูมิภาค....ส่งคนเข้ามาฝึกอาวุธให้..ให้เงิน สนับสนุนการก่อการ พวกนี้เดินทางเข้าออกผ่านชายแดนไทย-มาเลย์ ไม่นิยมโดยสารโดยเครื่องบิน เพราะหลักฐานและเอกสารส่วนบุคคลจะทำให้สืบทราบได้ ผู้นำศาสนาและครู สอนศาสนาบางส่วน เริ่มต้นระดมไพร่พล และล้างสมองเยาวชนในโรงเรียนให้เห็นอนาคตของชาวมุสลิม อ้างความรุนแรง และความเจ็บแค้นที่ศาสนาอื่นกระทำต่อมุสลิม ทั่วโลก และประวัติศาสตร์ของรัฐปัตตานีที่เคยเป็นรัฐอิสระของอิสลามมาก่อนที่จะถูก กลืนหายไป ทำความเชื่อว่านี่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์เหมือนเช่นที่ตะวันออกกลาง รัฐบาลไทยคือผู้รุกรานที่มายึดพื้นที่ไปครอบครองในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น และไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ การสร้างเรื่องล้างสมอง รวมไปถึงปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น ความสำเร็จในการแยกตัวของชาวติมอร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินโดมาช้านาน การตายเพื่อรับใช้พระเจ้าบนสวรรค์ และวีรกรรมพลีชีพที่ยังไม่บรรลุผลของชาวรัฐปัตตานีในอดีต ๔/ จุดชนวนความรุนแรง ด้วยแนวความคิดที่สอดคล้องกับมุสลิมผู้นิยมลัทธิก่อความรุนแรงทั่วโลกว่า ถ้าไม่ใช้ความรุนแรงไม่มีทางที่จะชนะได้ ไม่มีทางที่จะได้รัฐปัตตานีคืนด้วยการเจรจา (เช่นเดียวกับการเจรจาบนโต๊ะเพื่อขอคืนดินแดนปาเลสไตน์) การปล้นปืนที่ค่ายทหารและการเผาโรงเรียนเป็นบททดสอบแรกที่นำมาพิเคราะห์ แล้วว่า ..แผนการสำเร็จได้ เป็นไปได้ เพราะสร้างความมืดมนให้กับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง วิเคราะห์สาเหตุกันไปต่างๆ นานา ถูกๆ ผิดๆ และเกิดความไม่ไว้วางใจพวกเดียวกันเอง ขบวนการได้นำผลสำเร็จจากการปฏิบัติการมาสร้างความเชื่อมั่นให้กับสาวกเพื่อ การวางรากฐานแผนขั้นต่อไป ๕/ สร้างเกราะป้องกันตัว หลังจากความพยายามสืบหาตัวการก่อการร้าย และอาวุธปืนที่ถูกปล้น เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเริ่มแตกกันเป็นหลายความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหา การพยายามหยิบยกให้เห็นผลร้ายของการแตะต้องคนในศาสนามุสลิมและสถานที่อัน ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะทำให้เกิดการแบ่งแยกชาวไทยออกเป็นสองส่วน และนำไปสู่สงครามศาสนาได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ลังเล และเห็นด้วยที่จะใช้มาตรการโอนอ่อน และหลีกเลี่ยงความขัดแย้งของคนสองศาสนาในพื้นที่ จะเห็นได้จากการ ออกมาโวยวายอย่างเกินเหตุ ถึงขั้นไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ทั้งสิ้นของผู้นำชุมชนมุสลิม เพียงเพราะเจ้าหน้าที่ไปตามจับผู้ต้องสงสัยที่หลบเข้าไปในโรงเรียนสอนศาสนา การสร้างเกราะป้องกันเข้มงวดกับโรงเรียนและมัสยิด มิให้ผู้อื่นย่างกรายเข้าไปโดยง่าย เป็นแผนสร้างเกราะกำบังส่วนหนึ่ง คงเป็นไปไม่ได้ หากจะติดตามจับคนร้ายอย่างกระชั้นชิด แล้วเจ้าหน้าที่ต้องขอหนังสือตรวจค้นเป็นลายลักษณ์อักษร ต้องไม่ถืออาวุธ ไม่ใส่หมวกทหาร ไม่สวมรองเท้า (ให้ถอดบู๊ทออก กว่าจะถอดได้.. แผนการขั้นนี้ ถือว่าสำเร็จตามวัตถุประสงค์ เพราะคนเป็นใหญ่เป็นโตในรัฐบาลออกมาตำหนิเจ้าหน้าที่ของทางการว่า ดำเนินการโดยไม่ให้เกียรติ ๖/ ฆ่า..เพื่อสร้างอำนาจต่อรอง การฆ่าเจ้าหน้าที่ พระภิกษุ และชาวไทยพุทธทั้งหลายที่ เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด เพื่อสร้างความหวาดกลัวในการดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคม ทางการจับตัวคนร้ายได้บ้างไม่ได้บ้าง จับได้ก็ถูกกดดันให้ระมัดระวังในการตั้งข้อกล่าวหา และหลักฐานโยงใยไม่ชัดเจน สร้างอานุภาพให้กับผู้ก่อการอย่างไม่คาดคิด เพราะนี่เป็นจุดอ่อนที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่กล้าที่จะใช้ความเด็ดขาดลงไป บ้านเมืองใดก็ตาม หากกฎหมายไม่หย่อนยานแต่ควบคุมการใช้อย่างหย่อนยาน ก็จะทำให้โจรผู้ร้ายเกิดความเหิมเกริม นี่เป็นสัจธรรมของการปกครอง ยิ่งฆ่ามาก และลอยนวลได้เท่าไร ก็จะยิ่งสร้างอำนาจการต่อรองในสังคมได้มากขึ้น เพื่อยุติปัญหาก่อ ความไม่สงบ รัฐบาลจะเริ่มมองหามาตรการ "เจรจา" กับตัวแทน ก่อการร้าย นั่นคือ เป้าหมายที่มุ่งหวัง จะเห็นได้ว่า ในเวลาหนึ่งของแผนการนี้ ได้มีการพบปะพูดคุยและต่อรองกันอย่างลับๆ ของเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ของไทยกับหัวหน้าโจร แต่ทั้งสองฝ่ายรั้งรอที่จะเปิดเผยตัวจริง จึงกระทำผ่านตัวแทนที่ได้รับมอบหมาย แผนนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งแน่ชัดแล้ว เพราะมีการเจรจาทางลับ และ มีเจ้าหน้าที่จำนวนมากขอย้ายตัวเองออกนอกพื้นที่ แสดงว่าหวาดกลัวจนไม่เป็นอันทำมา หากิน ๗/ สร้างเงื่อนไขยึดชุมชน การรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนก่อความรุนแรงอย่างแสนสาหัสในอาณาบริเวณกว้าง เป็นความมุ่งหมายที่จะสร้างเงื่อนไขยึดชุมชน การเข้าไปรวมตัวกันในมัสยิดกรือเซะ ก็เพื่อสร้างเงื่อนไขต่อรองกับเจ้าหน้าที่ทางการ ซึ่งก็เกือบที่จะสำเร็จตามแผนการอยู่แล้ว หากสามารถถ่วงเวลาให้ยืดเยื้อไปได้ถึงวันรุ่งขึ้น การระดมพลเพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่กระทำการรุนแรง และประณามการใช้ความรุนแรงของไทย ให้เจ้าหน้าที่จากองค์กรมุสลิมทุกเครือข่ายทั้งใน และนอกประเทศจะกรูกันเข้ามากดดันมิให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการใดๆ ได้ทั้งสิ้น เว้นแต่จะมีการเจรจาผ่านตัวแทน การปล่อยตัวมุสลิมที่ยึดกรือเซะจะเกิดขึ้นในลำดับถัดมา และจะมีการเผยแพร่ภาพคนพวกนี้เป็นวีรบุรุษของชาวมุสลิม ตรงนี้จะสร้างเครือข่ายที่ใหญ่ขึ้น และระดมอิทธิพลทั้งกำลังคนและกำลังทุนได้มากขึ้นอย่างแน่นอน น่า เสียดายที่แผนมาพังทลายไป เพราะพลเอกพัภลภ ปิ่นมณี ไม่ยอมหารือกับผู้ใหญ่ในคณะรัฐบาล และดำเนินการไปอย่างที่เห็นสมควรตามแผนยุทธศาสตร์ (ตรงนี้วิเคราะห์ได้สองกรณี คือ ผู้ใหญ่ไม่สั่ง หรือ ผู้ใหญ่สั่ง แต่จำต้องใช้พลเอกพัลลภออกมารับหน้า) นี่เป็นการทำลายแผนการยึดชุมชนให้เหลือเพียง การประณามจากนานาองค์กรเรื่อง ความไม่เหมาะสม เหตุการณ์ที่หน้าสถานีตำรวจอำเภอตากใบ ก็เป็นการดัดแปลงแผนการในลำดับนี้ โดยยึดเหตุการณ์ที่กรือเซะเป็นบทเรียน การเดินทางมาชุมนุมกันเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษเป็นจำนวนนับพันๆ คน ต้องมีการนัดหมายและวางแผนกันมาเป็นอย่างดีเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีแผนการอยู่เบื้องหลัง และเป็นที่น่าสังเกต คือ เลือกเอาวันหยุดราชการ ๓ วัน ซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนเดินทางออกไปพักผ่อนนอกพื้นที่ หรือ กลับภูมิลำเนา ทำเลที่ตั้งของสถานี ตร.อำเภอตากใบ เหมาะแก่ยุทธภูมิในการปิดล้อม และเปิดให้มีทางหนีทีไล่ได้อย่างไม่ยาก ปมสำคัญ คือ รัฐจะต้องปฏิเสธไม่ปล่อยผู้ต้องหา เป็นเหตุให้เกิดการลุกฮือ และเผาที่ทำการสถานี เกิดจราจลจนไม่อาจควบคุมได้ แผนการนี้ล้มเหลวเพราะเหตุใด? บทเรียนที่กรือเซะ คือ พยายามถ่วงเวลาเพื่อให้แนวร่วมที่ประสานงานไว้เข้ามาช่วยเหลือ แต่ความช่วยเหลือยังไม่ทันมาถึงก็โดนสอยร่วงไปก่อน งานนี้ทางการคงไม่กล้าสอยทีเดียวเป็นพันๆ คน ประเมินแล้วจึงคิดว่าจะใช้การกดดัน แล้วเพิ่มชุมนุมชน จาก ๗๐๐ เป็น ๑๐๐๐ ในตอนค่ำ และทวีเป็นจำนวนหลายพันจากมุสลิมทุกภูมิภาคในเวลาต่อมา ถึงเวลา นั้น การใช้กำลังเข้าสลาย "ไม่มีวันเป็นไปได้" แต่แผนมาแตกเสีย เพราะมีคนกลัวตาย มากกว่า ไม่กลัวตาย เมื่อเจ้าหน้าที่มีเวลาเตรียมตัวและได้กำลังเสริม ระดมยิงปืนแบบบ้าระห่ำ (มิได้เล็งเป้าหมายไปที่ม็อบ) เกิดเหตุการณ์ "ผึ้งแตกรัง" ที่ไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน กระเจิด กระเจิงไปคนละทิศละทาง เพราะเข้าใจว่า กระสุนปืนมุ่งเด็ดชีพอย่างเด็ดขาด แทนที่จะตะโกนโห่ร้อง โดยผู้นำม็อบบอกว่า อย่าเคลื่อนไหว เป็นแผนลวง ให้เกาะมือกันไว้เป็นโล่ห์ป้องกันให้กันและกัน (ดั่งที่วีรบุรุษ ๑๔ ตุลา เคยทำได้) ถ้าเช่นนั้น ก็คงมีโอกาสสำเร็จลุล่วงแผนการนี้ไปได้ไม่ยาก เพราะเมื่อมีการตีข่าวออกไปทั่วโลกแล้ว ลำดับต่อไปก็จะเข้าล็อกในทันที ดูท่าว่า คงจะต้องวางแผนกันใหม่ครับ เตี๊ยมกันให้เหมาะๆ ถ้าทางการทำอย่างนี้ เราจะทำอย่างไร จำลองทุกสถานการณ์ไม่ให้พลาด โดยยึดเอากรือเซะและตากใบ เป็นอุทาหรณ์.. ..ในเมื่อแผนลำดับที่๗ ยังไม่บรรลุ ก็ยังไม่ถึงแผนขั้นที่๘ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะถึงลำดับสุดท้ายของการตั้งรัฐปัตตานีแล้ว จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:28:50 ]

ความคิดเห็นที่ 48 “พี่น้องชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามที่รัก นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่านเห็นหรือยังว่า ใครพรากลูก พรากพ่อ พรากแม่ ไปจากท่าน พวกมันที่เรียกตัวเองว่า เหล่านักรบแห่งรัฐปัตตานี หรือแล้วแต่ที่พวกมันจะแอบอ้าง นักรบ ที่คอยให้ลูกหลานท่าน ไปตายแทนมัน พวกท่านไปขับไล่เจ้าหน้าที่รัฐ แล้วตัวมันหลบไปอยู่ข้างหลัง นักรบที่ฆ่าได้เฉพาะผู้หญิงกับเด็ก และยิงข้างหลัง นักรบที่ฆ่าครูที่สอนลูกหลานของท่านให้มีความรู้ ลูกหลานของท่านตาย พวกมันเคยมาดูแลพวกท่านหรือเปล่า ท่านคงจำวันที่คนไทยทุกศาสนาอยู่รวมกันอย่างมีความสุขในพื้นที่จังหวัดชาย แดนภาคใต้ได้ วันที่เราไม่ต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวงกัน มาร่วมกันทำให้วันนั้นกลับคืนมา ขอให้ท่านไม่ให้ที่พักพิงกับพวกมัน ไม่ให้มันมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเรา นำเอาลูกหลานของเรากลับมาอยู่อย่างพร้อมหน้าอีกครั้งหนึ่ง...........ผู้รัก ความสงบ” จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:29:57 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เหอเหอ ขนาดผู้นำทหารบกขณะนั้นเดินทางไปเยี่ยมยัง เผาโชว์เลย... เมื่อวันที่ 1ธันวาคม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า จะไปเร่งรัดงานที่สั่งการผ่านการประชุมระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ว่า เรียบร้อยหรือมีปัญหาอุปสรรคอย่างไรหรือไม่ เพราะต้องการให้การทำงานออกมาเป็นรูปธรรม ส่วนที่ยังมีการโจมตีข้าราชการครู เจ้าหน้าที่ต้องพยายามสกัดกั้นให้เหตุการณ์ดังกล่าวเหลือน้อยที่สุด หรือไม่ให้เกิดขึ้นเลย โดยกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบพยายามแสดงอิทธิพล จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 50 พล.อ.สนธิ กล่าวว่า วันนี้ลงมาดูเรื่องโครงสร้างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาคและจังหวัด(กอ.รมน ภาคและกอ.รมน จังหวัด)ทราบว่าทางอำเภอยังไม่มีส่วนกำลัง กอ.รมน อำเภอ ซึ่งจะมีการตั้ง กอ.รมน.ระดับอำเภอด้วย ซึ่งการจัดตั้ง กอ.รมน.ในพื้นที่ หากมีโครงสร้างที่ดีก็จะทำให้ระบบการทำงานดีตามมา นอกจากนี้จะให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุดจึงจะเกิดประโยชน์ ส่วนอัตรากำลังขึ้นอยู่กับดุลพินิจของกองทัพว่า จะต้องเพิ่มหรือไม่ กองทัพบกก็พร้อมจัดการให้ ส่วนเรื่องจัดตั้งรัฐปัตตานี เป็นแค่ข่าวลือ เหมือนข่าวจะปักธงที่ อ.เบตง จ.ยะลา ที่พูดมานานแล้วก็ยังไม่เห็นมีเลย จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:35:24 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เรื่องฮาฮาก็มีมาแล้ว จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อะไรคือธง จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อะไรคือมวลชน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อะไรคือการนับถือศาสนา จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:46:50 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกะชาวบ้านตื่นเช้าไปกรีดยางด้วยเหรอ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:48:57 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เรามีเจ้าหน้าที่ไว้แค่ วัดความลึก คำนวนน้ามหนักดินระเบิดเท่านั้นเหรอ... จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เจ้าหน้าที่ต้องเก่งคณิตศาสตร์เท่านั้นเหรอ ไม่รวมเรื่องสอบสวน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:52:27 ]

ความคิดเห็นที่ 58 อีกเรื่องที่น่าคิด... เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร มอบหมายให้ทนายส่วนตัวเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่ สภ.ปะนาเระ และ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี จากกรณีที่ พล.ต.อ.วสิษฐ เขียนบทความในหนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 13 พฤศจิกายน 2550 หน้าที่ 6 เนื้อหาพูดถึงเหตุการณ์การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บกู้ระเบิดของ ตำรวจ 3 นาย เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2550 ซึ่งเสียชีวิตจากระเบิดทั้งที่สวมเสื้อเกราะ แต่เป็นเสื้อเกราะกันกระสุนไม่ใช่เสื้อเกราะกันระเบิด งบประมาณสำนักงานตำรวจแห่งชาติควรจัดสรรซื้ออุปกรณ์เครื่องมือเก็บกู้ แม้มีราคาแพงก็ต้องซื้อ ไม่ใช่บอกว่าเงินงบประมาณน้อยหรือไม่มีจะซื้อ แค่ต้องบริหารงบประมาณให้เป็น เช่น ไม่เอาเงินไปใช้ในกิจกรรมที่อลังการโดยไม่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์ขนาดยักษ์โฆษณาตัวเองหรือการสวนสนาม เงินอาจจะเหลือ เอาไปใช้ในการป้องกันชีวิตของเจ้าหน้าที่ได้บ้างไม่มากก็น้อย รวมทั้งอย่าอวดคำคมว่าอาชีพตำรวจเป็นอาชีพที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ใครไม่ชอบก็ไปหากินในอาชีพอื่น และบทความในวันที่ 18 ธันวาคม หัวข้อ เงินเขาหรือเงินเรา พล.ต.อ.วสิษฐเขียนถึงการชี้แจงของกองสารนิเทศ สตช. ว่าการจัดทำป้ายโฆษณาไม่ได้ใช้เงินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด เป็นความร่วมมือของเจ้าของบริษัทที่มีใจช่วยเหลือสำนักงานตำรวจแห่งชาติผ่าน กองสารนิเทศ ซึ่งผู้เขียนคอลัมน์อาจไม่เข้าใจข้อเท็จจริง หรือได้รับทราบข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ก็ได้เขียนชื่นชมถึงเลื่อมใสศรัทธา ต่อการช่วยเหลือสำนักงานตำรวจแห่งชาติและโล่งใจที่ป้ายประชาสัมพันธ์มีรูป ผบ.ตร.ที่เห็นติดตั้งประชันกับป้ายโฆษณาหาเสียงว่าที่ ส.ส.ไม่ใช่งบประมาณของ ตร. แต่อดเสียดายไม่ได้ กองสารนิเทศน่าจะชี้แจงกับบริษัทว่า ยังมีการปฏิบัติงานของตำรวจส่วนอื่นอีก ที่สำคัญเร่งด่วนกว่าการทำป้ายประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่โฆษณาตัว ผบ.ตร. เช่น การหาซื้อเสื้อเกราะป้องกันระเบิด เป็นต้น และไหนๆ ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องการทำป้ายแล้ว ก็อยากให้ชี้แจงการจัดงานสวนสนามวันตำรวจ ในวันที่ 13 ตุลาคม ที่ทุกปีทำที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน แต่ปีนี้ได้ย้ายไปทำอย่างมโหฬารที่สนามราชมังคลาฯ ว่าใช้เงินงบประมาณหรือได้รับการสนับสนุนจากเอกชน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อืมม อะไรจะขนาดนั้น.. 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 19:22:00 ผบ.ตร.มอบทนายความแจ้งความดำเนินคดีอดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ฐานเขียนคอลัมน์ หมิ่นการทำงานของผู้บริหาร สตช. ผ่าไปแจ้งความถึงปัตตานี 2 โรงพัก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียา เวส ผบ.ตร.ได้ให้ทนายส่วนตัวไปแจ้งความดำเนินคดี พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ใน ข้อหาหมิ่นประมาท ที่สภ.ปะนาเระ และสภ.สายบุรี จ.ปัตตานี จากกรณี พล.ต.อ. วสิษฐ ได้เขียนคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 13 พ. ย.2550 หน้าที่ 6 หัวข้อตำรวจเจ็บและตายความสูญเสียที่อาจบรรเทาได้ โดยเนื้อหาพูดถึงเหตุการร์การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บกู้ระเบิดของ ตำรวจ 3 นาย เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2550 ซึ่งเสียชีวิตจากระเบิดทั้งที่สวมเสื้อ เกราะ แต่เป็นเสื้อเกราะกันกระสุน ไม่ใช่เสื้อเกราะกันระเบิด งบประมาณสำนัก งานตำรวจแห่งชาติควรจัดสรรค์ซื้ออุปกรณ์เครื่องมือเก็บกู้แม้มีราคาแพงก็ ต้องซื้อไม่ใช่บอกว่าเงินงบประมาณน้อยหรือไม่มีจะซื้อ แค่ต้องบริหารงบ ประมาณให้เป็น เช่นไม่เอาเงินไปใช้ในกิจกรรมที่อลังการณ์โดยไม่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น โปสต์เตอร์ขนาดยักษ์โฆษณาตัวเองหรือการสวนสนาม เงินอาจจะเหลือ เอาไปใช้ใน การป้องกันชีวิตของเจ้าหน้าได้ได้บ้างไม่มากก็น้อย รวมทั้งอย่าอวดคำคมว่า อาชีพตำรวจเป็นอาชีพที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายใครไม่ชอบก็ไปหากินในอาชีพอื่น   ส่วนคอลัมน์วันที่ 18 ธ.ค.หัวข้อ"เงินเขาหรือเงินเรา" พล.ต.อ.วสิษฐได้เขียน ถึงการชี้แจงของกองสารนิเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าการจัดทำป้ายโฆษณาไม่ ได้ใช้เงินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด เป็นความร่วมมือของเจ้าของ บริษัทที่มีใจช่วยเหลือสำนักงานตำรวจแห่งชาติผ่านกองสารนิเทศ ซึ่งผู้เขียนคอลัมน์อาจไม่เข้าใจข้อเท็จจริง หรือได้รับทราบข้อมูลที่คลาด เคลื่อนจากความเป็นจริง ก็ได้เขียนชื่นชมเลื่อมใสศรัทธา ต่อการช่วยเหลือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโล่งใจที่ป้ายประชาสัมพันธ์มีรูป ผบ.ตร.ที่เห็น ติดตั้งประชันกับป้ายโฆษณาหาเสียงก็ป้ายว่าที่สส.ไม่ใช่งบประมาณของตร. แต่ อดเสียดายไม่ได้ กองสารนิเทศน่าจะชี้แจงกับบริษัทว่ายังมีการปฏิบัติงานของ ตำรวจส่วนอื่นอีกที่สำคัญเร่งด่วน กว่าการทำป้ายประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่โฆษณา ตัวผบ.ตร. เช่นการหาซื้อเสื้อเกราะป้องกันระเบิด เป็นต้น และไหนๆ ชี้แจงข้อ เท็จจริงเรื่องการทำป้ายแล้วก็อยากให้ชี้แจงการจัดงานสวนสนามวันตำรวจ ในวัน ที่ 13 ต.ค.ที่ทุกปีทำที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานแต่ปีนี้ได้ย้ายไปทำ อย่างมโหฬารที่สนามราชมังคลาใช้เงินงบประมาณหรือได้รับการสนับสนุนจากเอกชน ทั้งนี้ พล.ต.อ.วสิษฐ เกษียณราชการในตำแหน่งรองอธิบดีกรมตำรวจ ได้รับการยอม รับในวงการสีกากีว่า เป็นตำรวจตงฉิน และได้รับการยอมรับในการเป็นนัก ประพันธ์ และเป็นคอลัมน์นิสของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการแต่งตั้งเป็น ประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจ ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้มีความคิดเห็นในการ พัฒนางานตำรวจแตกต่างจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มาโดยตลอด จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ก็ยิ่งใหญ่ดีนะ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 14:59:25 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อืมมม จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:00:47 ]

ความคิดเห็นที่ 62 น่าเอาไปใช้ภาคใต้ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 63 มันจะทนถนนไหมนะ... จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:05:37 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ภาคใต้ถนนมักเป็นหลุมเป็นบ่อ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 65 รถก็ขับกันเหลือเกิน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เอาว่าซ่อมกันไม่ค่อยทัน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ต้องทำผิวกันใหม่ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:09:49 ]

ความคิดเห็นที่ 68 รถต้องทนทนกันหน่อย จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เป็นเรื่องจริงที่คนไทยผู้มีอานาจแกล้งลืม แกล้งคิดไม่ออก แล้วจะส่งทหารลงไปตายทำไมกัน จากคุณ : หงส์ปลายปืน - [ 22 ก.พ. 52 15:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 70 รถเสนารักษ์ก็ชอบไปหงาย จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ลอบใส่บ้าง จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 72 บางทีก็ผิดพลาด ไม่ตายดินปืนน้อย เลยต้องมีการซ้ำ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ชุดลาดตระเวณเส้นทางรถไฟสายหาดใหญ่ - เทพา ออกจากที่เกิดเหตุสะพานทางรถไฟข้ามคลองน้ำเค็ม ต.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา ที่ถูกคนร้ายผูกระเบิดบนโครงเหล็ก เป็นเหตุให้รถลาดตระเวน(รถต๊อก) ถูกระเบิดบนสะพานเต็มๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวเสียชีวิตคาที่ 3ศพ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 74 นี่ครับงานถนัด... จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:18:45 ]

ความคิดเห็นที่ 75 โบนัสครับ กลับบ้านแบบเหมาลำ... ว่าแต่เขาต้องการแค่นี้หรือในชีวิต จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 76 กระบวนการยุติธรรมล่ะ.. ทุกครั้งที่มีการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยก็จะมีกลุ่มสตรีมุสลิมออกมากดดันเจ้า หน้าที่ทุกครั้ง ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 มีนาคม ร.ต.ต.สุรจิต เพชรจอม ร้อยเวร สภ.อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งว่า มีกลุ่มสตรีมุสลิม 70 คน ใส่ชุดปกปิดใบหน้า มาชุมนุมปิดถนนสายปัตตานี-ยะลา บริเวณหน้า สภ.ต.นาประดู่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวนายซูฟยาน เจ๊ะเต๊ะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 นายอาลี ดอเลาะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 และนายฮัมดัน หะยีบูละ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 ทั้งหมดอยู่บ้านสลาม หมู่ 8 ต.นาประดู่ ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบในพื้นที่ ที่ถูกนำตัวไปสอบสวนในค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:22:05 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เหอเหอ แล้วจะทำอะไรกันดี...          นอกจากนี้ ผู้ชุมนุมนำป้ายผ้าเขียนโจมตีเจ้าหน้าที่และรัฐบาลถือและแขวนไว้ตามรั้วและ ต้นไม้หน้าค่าย พร้อมแจกใบปลิวข้อความหัวกระดาษระบุ "เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ" และเรียกร้อง 5 ข้อ คือ ให้ ปล่อยตัวผู้บริสุทธิ์ทั้งหมดอย่างไม่มีเงื่อนไข, ให้ถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากพื้นที่ที่มีปัญหา, ให้รัฐบาลชี้แจงข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละเหตุการณ์อย่างไม่ บิดเบือน, ให้รัฐบาลห้ามบีบบังคับสื่อให้บิดเบือนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และให้รัฐประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวและกฎหมายที่เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ทำร้าย และจับกุมผู้บริสุทธิ์ ทั้งให้ปล่อยตัว 24 ผู้ต้องสงสัยที่ถูกคุมตัวในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา ด้วย จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. เช้าวันที่ 8 พ.ค. ได้มีชาวบ้านประมาณ 300 คน ทยอยเดินทางมาปิดล้อมหน้าค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัว เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่อ.กรงปิยัง จ.ยะลา จำนวน 24 คน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:25:20 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ข่าวการเคลื่อนย้ายกำลังพลที่อยู่ในชั้นลับก็ถูกไส้ศึกล้วงไปได้ด้วยสายลับสองหน้า ดักบึ้ม- สภาพรถบัสส่งทหารจากค่ายเดโชชัย จ.ขอนแก่น ไปปฏิบัติหน้าที่ในจ.ปัตตานี ถูกคนร้ายวางระเบิดบนถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทำให้ทหารบาดเจ็บ 15 ราย เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. โจร ใต้เหิมเกริมบึ้มรถขนส่งทหารจากค่ายเดโชชัยขอนแก่นกลับไปยังปัตตานี จนรถคันที่ 4 เละ ทหารบาดเจ็บ 15 นาย สาหัส 4 ส่วนอีก 3 คันปลอดภัย ที่เจาะไอร้อง นราธิวาส ทหารฉก.นราธิวาส-ตำรวจ บุกปิดล้อมหมู่บ้านจับ 8 แกนนำ-แนวร่วม ยิงพนักงานปั๊มตาย 1 สาหัส 1 ที่ถ.ดุซงญอ ที่กรงปินัง ยะลา ยิงถล่มที่ปรึกษาอำเภอดับคาที่ และจับแนวร่วมได้อีก 11 คน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 80 คนเสี่ยงภัยในการถอดชนวนล่ะ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:31:26 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เมื่อไหร่จะมีเสื้อผ้าดีดีใส่ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:32:06 ]

ความคิดเห็นที่ 82 สงสัยมีไว้ให้ใช้แต่ที่ กทม. จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:34:40 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ภาคเหนือก็มี แม้จะแต่งแล้วไม่หล่อ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:37:26 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ทางใต้มันก็ได้แค่นี้แหละหล่อสุดแล้ว จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 85 คนร้ายระแงะเหิมหนัก ลอบวางระเบิดหัวสะพานบ้านซีโป เมื่อขบวนรถรองผบก.ภ.นราธิวาส กลับจากตรวจจุดเกิดเหตุ ถูกคาร์บอมบ์ซ้ำที่หน้าสถานีรถไฟตันหยงมัส ผลรถเก็บกู้ระเบิดกระจุย ตำรวจและชาว บ้านเจ็บ 7 คน รวบผู้ต้องสงสัยได้ทันควัน 8 คน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:40:38 ]

ความคิดเห็นที่ 86 โดนใส่ซะ หลังจากลวงให้ไปกู้ระเบิดแล้ว เขารู้ว่าต้องกลับทางนี้ เลยเอารถมาจอดรอไว้ คนร้ายได้กดรีโมตคอนโทรลจุดชนวนระเบิดที่ซุกไว้ในรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซู บิชิ รุ่นแลนเซ่อร์ ทะเบียน กข.2223 ปัตตานี ที่จอดไว้ริมถนนเทศบาล 8 เกิดเหตุระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้สะเก็ดระเบิดถูกรถยนต์ของชุดเก็บ กู้และทำลายวัตถุระเบิดได้รับความเสียหาย ตำรวจ นปพ.นราธิวาส ที่อยู่ในรถได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ประกอบด้วย ด.ต.แชน วรงคไพสิทธิ์, ด.ต.พลวัฒน์ เทพศร, ส.ต.ท.เกษมสุข ทองบัวแก้ว และส.ต.อ.ศุภกิจ ชัยลาภ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านได้ รับบาดเจ็บอีก 3 คน คือนายอภิยุทธ์ รัตนภิโญ ประธานหน่วยกู้ภัย นรา 01 ประจำ อ.ระแงะ,นางบือรือกิต สะอุ และ น.ส.วินิดา บือซา นำตัวส่งโรงพยาบาลระแงะ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:43:59 ]

ความคิดเห็นที่ 87 หรือลวงเจ้าหน้าที่ไปเกิดเรือใบ แล้วสั่งระเบิดซะ ภายหลังรับแจ้งพล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบก.ภ.จว.นราธิวาส นำกำลังเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุแต่เนื่องจากคนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบตลอดเส้น ทางทำให้ต้องประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.นราธิวาส เพื่อนำรถกวาดตะปูเรือใบเข้าเคลียร์เส้นทางเพื่อเข้าช่วยเหลือแต่เป็นไปด้วย ความยากลำบาก ต้องใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง จากการสอบสวนทราบว่า เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวเป็นชุดปฎิบัจติการทางจิตวิทยา สังกัดหน่วยพลรบพิเศษ จ.ลพบุรี ตั้งฐานในค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ปฎิบัติหน้าที่อบรมกลุ่มเยาวชนและประชาชนในพื้นที่ โดยขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทั้ง 7 นายนั่งรถยนต์ฟอร์ด สีเขียวหมายเลขทะเบียนบง 6205 กทม.กลับจากฝึกอบรมเยาวชนเพื่อกลับฐานที่ตั้ง พอมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายซึ่งฝังระเบิดชนิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังเคมีดับเพลิงน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 20 กิโลกรัมไว้ข้าถนนและจุดชนวนด้วยการลากสายในป่าละเมาะข้างทางประมาณ 200 เมตร โดยแรงอัดระเบิดทำให้รถพลิกกระเด็นจากพื้นสูง 2เมตร และกระเด็นจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร สภาพพังยับเยิน ขณะที่เจ้าหน้าที่ 5 นายกระเด็นออกจากรถนอนเกลื่อนถนน และพยายามตะเกียกตะกายหนีแต่คนร้ายออกจากที่ซ่อนตัวและตรงเข้าจู่โจมใช้ อาวุธปืนสงครามเข้ามาจ่อยิงที่ศรีษะเจ้าหน้าที่ทั้ง 7 นายอย่างเลือดเย็นเพื่อให้มั่นใจว่าเสียชีวิต จากนั้นคนร้ยได้ขโมยอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 7 กระบอกซึ่งเป็นอาวุธประจำกายของเจ้าหน้าที่รวมถึงอาวุธปืนพกสั้นไม่ต่ำกว่า 4-5 กระบอกหลบหนีไปพร้อมกับอุปกรณ์วิทยุสื่อสารบางส่วน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เทคนิคในการฝังระเบิดลึกหลายเมตร จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:49:18 ]

ความคิดเห็นที่ 89 อืมมม จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 90 อันนี้ นักข่าว ก่อนเกิดเหตุ ตาม คคห 27 ครู่เดียว จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ลวงให้ จนท.ของรัฐเดินทางไปตามเส้นทางที่วางระเบิดดักไว้ เหตุการณ์นายอำเภอฝีมือดีตกเป็นเหยื่อถูกลอบวางระเบิดจนเสียชีวิต เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08.05 น. วันที่ 19 มิถุนายน เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณหมู่ 3 บ้านกูวิง ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร นำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กค 1536 ยะลา หงายท้องอยู่กลางถนนห่างจากจุดระเบิด 200 เมตร สภาพรถพังยับเยิน แรงระเบิดทำให้ นายชยพัทธ์ รักษายศ นายอำเภอไม้แก่น พ.ท.สุรศักดิ์ โคดุทา นายทหาร กอ.รมน.ภาค 4 และ อส.อาหะมะ ละหาร อส.อำเภอไม้แก่น เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน คือ จ.ส.อ.สุกรรณ์ จัดสด จ.ส.อ.เสริม ก๋งหลัก และ อส.วีระชัย แดงเงิน สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายชยพัทธ์ พร้อมคณะ รวม 6 นาย เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านป่าไหม้ หมู่ 1 ต.ดอนทราย อ.ไม้แก่น หลังจากตรวจสอบเสร็จแล้วได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อื่นๆ อีก คือ ที่โรงเรียนบ้านตะโละไกรทอง และที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลดอนทราย แต่ปรากฏว่าขณะรถยนต์วิ่งมาถนนสายใน นราธิวาส-อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ห่างจากโรงเรียนบ้านป่าไหม้ประมาณ 1 กม. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ช่วยนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลไม้แก่น แต่นายชยพัทธ์ พ.ท.สุรศักดิ์ และ อส.อาหะมะ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 15:58:19 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เหยื่อสามารถ เดินทางตามเส้นทางที่เขาต้องการได้... ส่วนระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดที่บรรจุในถังดับเพลิง น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม โดยคนร้ายได้ขุดไหล่ทางถนน ฝังระเบิดไว้ใต้ท้องถนน มีสายไฟลากลงไปในป่าละเมาะข้างทางประมาณ 300 เมตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้าราชการ ประชาชน ที่ทราบเหตุการณ์ ต่างเดินทางไปที่โรงพยาบาลไม้แก่น จ.ปัตตานี ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 16:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 93 มันจะเกิดกันอีกกี่หลุม จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 16:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ต้องใช้กำลังพลอีกเท่าไหร่ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 16:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ทำไม..เราถึงจะรู้ล่วงหน้าได้ สลดทหารพราน 11 ชีวิต สังเวยโจรใต้ที่ อ.บันนังสตา เผยนาทีชีวิตยกกำลังมุ่งหน้าช่วยหน่วย ฉก.12พื้นที่ ต.ตาเนาะปูเต๊ะ ติดกับกดบึ้มตูมสนั่นกลางถนนสาย 410 ยะลา-เบตง โจรชั่วได้ทีโผล่จากที่ซุ่ม โชว์อำมหิต! จ่อยิงหัวรายตัว จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 16:07:57 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ในขณะเดียวกัน คนร้ายได้กรูออกมาใช้อาวุธปืนจ่อยิง ศีรษะรายคน จนเสียชีวิตคาที่ พร้อมกับได้นำอาวุธปืนประจำกายของผู้เสียชีวิตทั้งปืนพกสั้น อาก้า และเอ็ม 16 ก่อนหลบหนีเข้าป่าไป จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 16:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 97 7ชีวิตต้องจากไปอย่างสงบนิ่งอีกครั้งกับปฏิบัติการสุดโหดด้วยการลอบวาง ระเบิดและยิงซ้ำเป้าหมายอย่างเลือดเย็น ขณะที่ชุดลาดตระเวนเส้นทางรักษาความปลอดภัยให้กับครู ร้อย.ร.2514 (ฉก.12 ) ขณะที่เดินทางด้วยรถยนต์กระบะมาถึงบริเวณด้านหลังสถานีอนามัยบ้านบือซู หมู่ที่ 6 ต.บันนังสตา  อ.บันนังสตา  จ.ยะลา จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 16:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอเอาlinkไป รดน. ได้ไหมครับเนี่ย จะตั้ง Topic ประมาณไหนดี จากคุณ : หงส์ปลายปืน - [ 22 ก.พ. 52 18:30:59 ]

ความคิดเห็นที่ 99 อืมมม ในเมือง เค้ายังหลอกกันอยู่เลยครับ คำว่า กู้ชาติ ในเมืองหลวง มันก็คงเป็นเพียง propaganda เพื่อการเมือง เท่านั้นหล่ะ ลองไปแถวนี้มั่งสิ ผมว่า ที่พูดเก่งๆ คงพูดไม่ออก จากคุณ : nond@mcot - [ 22 ก.พ. 52 23:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เวลาจิบชาก็ใช่จะปลอดภัย... โจรใต้ก่อเหตุยิงตำรวจพร้อม ชรบ.ดับ 2 ศพ ขณะดื่มน้ำชาพื้นที่ อ.กรงปินัง หลังก่อเหตุคนร้ายฉกปืน 11 มม. พร้อมแมกกาซีน 2 อันของผู้ตายไปด้วย พยานระบุ 6 คนร้ายไม่ใช่คนในพื้นที่ คนร้ายลอบวางเพลิงห้องพักครูโรงเรียบ้านบูโบ๊ะเยาะ จ.นราธิวาส เสียหายกว่า 4 แสนบาท โรงเรียนยะลาเปิดสอนพรุ่งนี้ แนวร่วมกลุ่มอาร์.เค.เค.พื้นที่สุไหงปาดี จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 23:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 101 แม้จะจิบชากาแฟริมโรงพักก็ไม่แน่นะ... เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. นั่งกินอยู่ในร้านน้ำชาไม่มีชื่ออยู่ห่างจาก สภ.อ.กรงปินัง ราว 150 เมตร ได้มีคนร้าย 4 คน ซ้อน จยย. 2 คัน มาจอดที่หน้าร้าน จากนั้นคนนั่งซ้อนท้ายทั้ง 2 คัน ลงจากรถเข้าไปในร้านทำทีของซื้อบุหรี่จากเจ้าของร้าน วินาทีนั้น 2 วายร้ายได้ชักปืน 11 มม.คนละกระบอก จ่อยิง ด.ต.สมมาตร กับนายยูโซะ เสียงดังสนั่น แต่เหยื่อกระสุนยังไม่สิ้นใจ วิ่งกระเสือกกระสนหนีตายออกไปนอกร้าน แต่ 2 มือปืนวิ่งตามไปจ่อยิงซ้ำเข้าที่ศีรษะจนเสียชีวิตคาที่ทั้ง 2 ศพ ก่อนหลบหนีคนร้ายได้กระชาก เอาปืน 9 มม. จากเอวของ ด.ต.สมมาตรไปด้วย จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 23:23:24 ]

ความคิดเห็นที่ 102 บางก็เป็นการผลักดัน การกำจัดแม้แต่คนในศาสนาเดียวกัน อ.ธารโต จ.ยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กลุ่มโจรพยายามกดดันให้ชาวไทยพุทธหนีออกไปจากพื้นที่ และบางส่วนผวาภัยจนต้องหนีไปอยู่วัดในตัวเมืองยะลา แต่ขณะเดียวกันยังมีชาวบ้านอีกกลุ่มประกาศรักษาพื้นที่ ขอสู้ตาย โดยนายประเสริฐ ไกรสุวรรณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ต.คีรีเขต อ.ธารโต เปิดเผยว่า จากการที่กลุ่มโจรพยายามยุยงให้คนไทยพุทธ-มุสลิมใน ต.คีรีเขต เกิดความแตกแยก โดยเฉพาะกรณีนายสุกรี บาฮานิง ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา และมีการแห่ศพประท้วงในตลาดอำเภอธารโต โดยป้ายสีว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่หรือ ชรบ.เป็นคนยิง แถมพยายามข่มขู่ชาวไทยพุทธใน ต.คีรีเขต มาตลอด จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 23:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 103 อืมมม จากคุณ : คุณหนูพีพี - [ 22 ก.พ. 52 23:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ที่นิยมสุด ก็คงเป็นวางระเบิดใน จยย. http://stream.ch7.com/CH72008/1/2/5/20090115/0159120987500.wmv จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 23:29:19 ]

ความคิดเห็นที่ 105 บางทีก็ประมาท... จนท.ตรวจที่เกิดเหตุระเบิดหน้าโรงพักปัตตานี-เผยได้รับคำเตือนแล้วแต่ไม่คิดว่าคนร้ายจะกล้าทำ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 23:39:24 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ข่าวลวงเยอะ บางทีเจ้าหน้าที่มีน้อยก็เลยประมาท จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 23:41:23 ]

ความคิดเห็นที่ 107 บางทีก็สร้างความเซอร์ไพร์ซได้มาก เมื่อเวลา 06.45 น. วันที่ 15 ม.ค. เกิดเหตุระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวที่หน้าตลาดเช้า บริเวณปากซอย 11 ถนนผังเมือง 4 เขตเทศบาลนครยะลา หลังสิ้นเสียงระเบิดปรากฏว่ามีชาวบ้านที่มาซื้ออาหารและรอตักบาตรพระ ถูกแรงอัดระเบิดล้มระเนนระนาดดุจใบไม้ร่วง ร้องระงมด้วยความเจ็บปวด บางคนอาการสาหัสเลือดโชกร่าง นอนเกลือกกลิ้งบนพื้นที่อย่างน่าเวทนา และมีรถ จยย. เสียหายหลายคัน จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 23:43:00 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ภาพบนผิดนะ ต้องภาพนี้ จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 23:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 109 หลังเกิดเหตุทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ระดมช่วยกันลำเลียงคนเจ็บส่ง รพ.ศูนย์ยะลา ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 4 คน คือนายสุวิทย์ อนุกูล อายุ 51 ปี ไส้ทะลัก นางวัชราภา รังสิมนต์รัตน์ อายุ 53 ปี ปอดทะลุ นายสวัสดิ์ รังสิมันต์รัตน์ อายุ 68 ปี และนายสน ขวัญชู อายุ 64 ปี ทาง นพ.วัฒนา วัฒนายากร ผอ.รพ.ศูนย์ยะลา ต้องระดมทีมแพทย์ พยาบาล ช่วยเหลือคนเจ็บอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังมี ด.ญ.ณัฐริกา เมืองฝ้าย วัย 3 ขวบ ถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บด้วย จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 23:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ความนิยมหลักคือการระเบิดด้วยจักรยานยนต์... หลังกลุ่มโจรป่วนใต้ลอบวางบึมป่วนเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมกัน 7 จุด บริเวณย่านการค้าและแหล่งท่องเที่ยว ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวน 13 ราย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามล่ามือระเบิดสุดเหวี่ยง ปรากฏว่าคนร้ายอหังการเบนเป้าลอบใช้จักรยานยนต์บอมบ์ซุกระเบิดถล่มตลาดสด เทศบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา ทำให้ชาวบ้านทั้งเด็กเล็กๆ และผู้ใหญ่บ้านถูกแรงระเบิดฉีกร่างเสียชีวิตอนาถ 4 ศพ บาดเจ็บระนาวกว่า 20 ราย จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 23:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 111 จะความนิยมสุดฮิตดังกล่าว... ฝ่ายรัฐ ท่านเลยหัวใสกระจ่าง... ยกเบาะ : รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้ารพ.ศูนย์ยะลาทุกคันต้องยกเบาะนั่งขึ้นข้างบน พร้อมแขวหมวกกันน็อคไว้ที่แฮนด์ เพื่อป้องกันโจรใต้ลอบป่วนด้วยคาร์บอมบ์ตามนโยบายของ พ.อ.ปริญญา ฉายดิลก หน.ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ซึ่งประชาชนให้ความร่วมมือด้วยดี จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 23:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ก็คงช่วยให้ จนท. ทำงานเก็บกู้ได้สะดวกขึ้น โดยขอให้เปิดเบาะและแขวนหมวกนิรภัยไว้ที่แฮนด์รถ เพื่อป้องกันคนร้ายลอบวางระเบิดซุกไว้ในรถจักรยานยนต์(คาร์บอมบ์)เหมือนการ ก่อเหตุที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนให้ความร่วมมือด้วยดี จากคุณ : สิงหราช - [ 22 ก.พ. 52 23:53:42 ]

ความคิดเห็นที่ 113 อิอิ ลูกสองนี่เป็นอะไรที่น่ากลัวกว่า ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้พบ รถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจอดอยู่ที่หน้าร้านดังกล่าว จึงได้ตรวจสอบหมายเลขทะเบียน ปรากกฏว่า เป็น รถจักรยานยนต์ที่ขโมยมา เจ้าหน้าที่จึงเกิดความสงสัยจึงได้ปิดกั้นเส้นทางถนนสายดังกล่าว เพื่อเข้าตรวจสอบ และโชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดเก็บกู้ระเบิด สามารถเก็บกู้เอาไว้ได้ โดยคนร้ายได้บรรจุระเบิดไว้ภายในถังน้ำมันของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มีน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยนาฬิกาดิจิตอล โดยตั้งเวลาไว้ 16.00 น. ห่างจากระเบิดลูกแรก ที่ล่อไว้ประมาณ 15 นาที จากการตรวจสอบพบว่า ระเบิดลูกแรกมีน้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัม โดยคนร้ายนำมาวางไว้ที่ใต้เก้าอี้นั่งหินอ่อน ทำให้เก้าอี้ได้รับความเสียหาย และทำให้กระจกที่หน้าร้านแตกละเอียด ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน ส่วนสาเหตุเชื่อว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ จากคุณ : สิงหราช - [ 23 ก.พ. 52 00:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 114 สุดท้ายทหารก็ยังเป็นที่พึ่งได้เสมอ "ถอนทหารเราไม่ยอม" " นิดๆหน่อยๆก็สั่งย้าย แล้วใครจะทำงาน คนที่ไม่ผิดพลาดคือคนไม่ทำงาน" " ห้ามออก ห้ามออก ไม่ให้ออก อยู่กับชาวบ้านตลอดไป" และ " คนบริสุทธิ์อยู่สบายเพราะทหาร คนพาลว่าไม่ดี กี่คนแล้วที่ล้มตาย เราอยู่สบายเพราะทหารพราน" จากคุณ : สิงหราช - [ 23 ก.พ. 52 00:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 115 มีฉาวฉาวบ้างก็ดีนะ “เรามาทำหน้าที่ด้วยใจรักและชอบ” เป็นคำตอบแรกของหญิงสาว ในชุดเครื่องแบบทหารพรานทั้งห้าเมื่อถามถึงสาเหตุของการเลือกเข้ามาสู่อาชีพนี้ ชบา หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มจากนครศรีธรรมราช เมาะ พี่ใหญ่ของน้องๆ จากยะลา น้อง หน้าตาคมคายและใจสู้และยะ ตัวเล็กจากปัตตานี และยะ หญิงสาวท่าทางทะมัดทะแมงจากนราธิวาส ร่วมเล่าเรื่องราว ความเป็นมาเป็นไปของชีวิตทหารพรานหญิงที่พวกเธอเลือก จากคุณ : สิงหราช - [ 23 ก.พ. 52 00:35:31 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ม๊อบมะ จากคุณ : สิงหราช - [ 23 ก.พ. 52 00:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ทหารอรชร จากคุณ : สิงหราช - [ 23 ก.พ. 52 00:36:55 ]

ความคิดเห็นที่ 118 วิทยาการก็สำคัญหากเรายังตามโจรไม่ทัน จากคุณ : สิงหราช - [ 23 ก.พ. 52 00:57:55 ]

ความคิดเห็นที่ 119 กำลังพลมากไม่ได้ช่วยอุ่นใจในทางดีนัก จากคุณ : สิงหราช - [ 23 ก.พ. 52 01:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ไม่แค่ตำรวจหรอกนะที่โดนประจำ จากคุณ : สิงหราช - [ 23 ก.พ. 52 01:10:57 ]

ความคิดเห็นที่ 121 บางทีเรื่องลับลับก็ไม่ลับ .. รถบัสขนทหาร ฉก.ปัตตานี ที่ 25 พรุนทั้งคัน เมื่อ โดนระเบิด ที่คนร้ายผูกติดกับต้นไม้ ริมถนน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อเช้ามืด 23 มค .. เจ็บ 7 นาย ... คำถาม .... แล้วโจรมันรู้ได้ยังไง ถ้าไม่มีสายลับ โจร ส่งข่าวออกมา .. จากคุณ : สิงหราช - [ 23 ก.พ. 52 01:12:27 ]

ความคิดเห็นที่ 122 มันรู้ได้ไวว่าพวกนี้เป็นทหาร บนถนนสายเอเชีย พื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี .. เมื่อรถทัวร์ ขนทหารจากค่ายสีหราชเดโชชัย จ.ขอนแก่น  กลับสู่ที่ตั้ง จากคุณ : สิงหราช - [ 23 ก.พ. 52 01:13:41 ]

ความคิดเห็นที่ 123 บางทีกว่าจะรู้ก็สาย จากคุณ : สิงหราช - [ 23 ก.พ. 52 01:14:44 ]

ความคิดเห็นที่ 124 จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่คณะของเจ้าหน้าที่ทหาร สังกัด ร้อย ร.8 พัน 3 ค่ายสีหราชเดโชชัย จ.ขอนแก่น กว่า 200 นาย เดินทางมากับรถทัวร์โดยสาร 4 คัน เพื่อเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ที่ จ.ปัตตานี โดยตั้งฐานอยู่ที่วัดหลักเมืองปัตตานี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ปรากฏ ว่าคนร้ายได้กดชนวนระเบิดทันที ทำให้รถทัวร์คันแรกที่ขับนำหน้าถูกแรงระเบิดอย่างจัง จนล้อหน้าด้านขวาหลุด ส่วนรถไถลไปไกล 50 เมตร ก่อนที่ทหารที่อยู่ภายในรถวิ่งลงจากรถมาหมอบข้างทางเพราะเกรงว่าคนร้ายจะยิง ซ้ำ จากคุณ : สิงหราช - [ 23 ก.พ. 52 01:16:43 ]

ความคิดเห็นที่ 125 อิอิ จากคุณ : สิงหราช - [ 23 ก.พ. 52 01:24:42 ]