ความคิดเห็นที่ 1 พอมีวันหยุด เลยได้มีโอกาสไปเที่ยวกับเค้าบ่าง .....  พอดี ญาติๆ มาจาก ตจว  เลย พาญาติๆ ไปเที่ยวกัน  9 ชีวิต     กับ ฟอรจูนเนอร์ของปู่(เต็มคัน) ปลายทางที่เราจะไปวันนี้คือ   ....  สุพรรณบุรี ... จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:25:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สถานที่แรกที่เราจะไปกันคือ ** ศาลหลักเมือง สุพรรณบุรี   (มังกรยักษ์) ** .... ศาลหลักเมืองสุพรรณบุรี เป็นศาลหลักเมืองโบราณ มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจทั้งในอดีตกับเรื่องราวของ “สามศิลปกรรม” และในปัจจุบันทันสมัย กับเรื่องราวของ "มังกรที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ครับ .                ศาลหลักเมืองตั้งอยู่ใจกลางเมืองป้อมปราการสุพรรณบุรีในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งในปัจจุบันทางเข้าศาลจะอยู่ริมถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ สังเกตได้จากริมถนนจะมีเสามังกรศิลปกรรมแบบจีนตั้งเด่นเป็นสัญลักษณ์ของทางเข้าไปสู่ตัวศาล .        ชาวสุพรรณนิยมเรียกศาลหลักเมืองว่า  "ศาลเจ้าพ่อหรือศาลเจ้าพ่อหลักเมือง" จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ที่นี่มีความแตกต่างจากศาลหลักเมืองของที่อื่นๆ นั่นก็คือสิ่งก่อสร้างและอาคารต่างๆ ในบริเวณนี้ล้วนแล้วแต่เป็นศิลปะแบบจีนทั้งสิ้น และสิ่งที่สะดุดตาที่สุดคงหนีไม่พ้นเหล่ามังกรหลากหลายอิริยาบถ อันได้แก่ มังกรพันเสา ที่มีความสูงถึง 22 ม. หรือจะเป็นอาคารชุดหลังใหม่ที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ในเร็ววันนี้ นั่นคือพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรเป็นอาคารทรงมังกรที่ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความยาว 135 ม. สูง 35 ม. กว้าง 18 ม. ซึ่งภายในเป็นห้องจัดแสดงประวัติศาสตร์อารยธรรมของชาวจีนย้อนหลังไปถึง 5,000 ปี โดยมีวัตถุประสงค์ให้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้ทั้งความรู้และความบันเทิง จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สันนิษฐานกันว่า ศาลหลักเมืองสุพรรณในสมัยแรกสร้าง น่าจะเป็นเทวสถานในลัทธิพราหมณ์ - ฮินดู มีเสาหลักเป็นรูปศิวลึงค์และมีรูปสลักเทพเจ้าประดับอยู่ ก่อนถูกรื้อทำลาย ต่อมามีการบูรณะใหม่ในสมัยกรุงศรีอยุธยามาเป็นศาลขนาดไม่ใหญ่นัก และน่าจะมีเสาหลักเมืองประดิษฐานอยู่ ซึ่งน่าจะสร้างขึ้นพร้อม ๆ กับการสร้างเมืองป้อมปราการ .       เมื่อประมาณ 200 ปีที่แล้ว ชาวจีนอพยพจำนวนมากได้เดินทางล่องเรือตามแม่น้ำท่าจีนหรือแม่น้ำสุพรรณบุรีเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเขตใกล้ตัวเมืองป้อมปราการสุพรรณบุรี แทนที่บ้านเมืองเดิมที่ร้างไปภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาในปี 2310 และพัฒนามาจนกลายเป็นย่านตลาดใหญ่ในปัจจุบันครับ จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:31:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พอปี 2505  มีการตัดถนนมาลัยแมนเชื่อมต่อจากจังหวัดนครปฐม ผ่านอำเภออู่ทอง และผ่านมาทางหน้าศาลเจ้าพ่อเข้าสู่ตัวเมืองสุพรรณบุรี การเดินทางไปนมัสการที่ศาลเจ้าพ่อทางบกจึงเริ่มสะดวกสบายมากกว่าแต่เดิม การเดินทางทางน้ำก็เริ่มหมดความนิยมไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป .        การตัดถนนสายมาลัยแมนเข้าสู่เมืองสุพรรณบุรี ได้ทำลายเพนียดคล้องช้างโบราณของเมืองสุพรรณบุรีไปจนหมด ไม่เหลือร่องรอยให้เห็นแล้วอีกแล้วในปัจจุบันครับ จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอปาดก่อนนะครับน้าปู่ รอดูรูปต่อครับ จากคุณ : voravuds (Mr.V) - [ 1 มี.ค. 52 22:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ดีคับน้า วีย์ ... ขอบคุณมากคับ ในตอนนี้ พิพิธภัณฑ์ดังกล่าว จะจัดให้เป็นอาคารเก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ห้องนิทรรศการ ห้องสมุด ศูนย์สารสนเทศและหอเกียรติยศบุคคลสำคัญชาวเมืองสุพรรณบุรีเชื้อสายจีนตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:34:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หลังจากนั้น พวกเราก็เดินทางไปเที่ยวต่อที่ตลาดสามชุก ตลาด 100ปี ของจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นตลาดห้องแถวไม้ 2 ชั้นขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสุพรรณบุรี(ท่าจีน) และรายล้อมด้วยบรรยากาศของบ้านเรือนรวมถึงเรื่องราวของผู้คนในอดีต โดยแทบไม่มีการดัดแปลงเสริมแต่ง ย้อนอดีตกลับไปยุคสมัยที่ตลาดสามชุกเฟื่องฟู ยุคนั้นชาวบ้านจะนำของพื้นเมือง รวมทั้ง เกลือ ฝ้าย แร่ สมุนไพร มาแลกเปลี่ยนซื้อขายให้กับพ่อค้าที่เป็นชาวเรือ จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:37:06 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ต่อมาเมื่อริมแม่น้ำสุพรรณ กลายเป็นแหล่งทำนาที่สำคัญ มีโรงสีไฟขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายแห่ง ตลาดสามชุกก็กลายเป็นตลาดข้าวที่สำคัญ มีการค้าขายกันอย่างคึกคัก ทำให้ตลาดสามชุกไม่จำกัดบริเวณอยู่เฉพาะริมน้ำ แต่ยังขยายมาถึงริมฝั่ง โดยแต่ละปีมีการเก็บภาษีได้จำนวนมาก พร้อมๆกับมีการตั้งนายอากรคนแรก ชื่อ “ขุนจำนง จีนารักษ์” จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ช่วงเวลาเฟื่องฟูของตลาดสามชุกกินเวลานานหลายสิบปี แต่หลังจากที่มีการตัดถนนผ่านสามชุก ผู้คนเปลี่ยนไปใช้ถนนเป็นเส้นทางสัญจรมากขึ้น ส่งผลให้ วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ และการค้าที่ตลาดสามชุกเริ่มซบเซา แต่ตลาดสามชุกก็ยังคงดำเนินวิถีของตลาดห้องแถวไปอย่างต่อเนื่อง จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ด้วยความที่ วิถีชีวิตและลักษณะทางกายภาพของชุมชนตลาดสามชุกมีกาลเปลี่ยนแปลงน้อยมาก แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามานับร้อยปี เหตุนี้ประชาคมชาวตลาดสามชุกจึงได้มีการปรับปรุง ฟื้นฟู และร่วมกันอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไม้ของตลาดสามชุกไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม รวมทั้งพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และแหล่งเรียนรู้ของชุมชน เพื่อให้ตลาดสามชุกกลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขุนจำนง จีนารักษ์ ซึ่งเป็นนายภาษีอากรคนแรกและเป็นเจ้าของตลาดสามชุก ได้สร้างบ้านหลังแรกขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2459 ใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนในครอบครัว รวมทั้งเป็นที่ต้อนรับและพักอาศัยของผู้หลักผู้ใหญ่และแขกบ้านแขกเมืองหลายคน จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:41:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 การเดินทาง สู่ตลาดสามชุก จากกรุงเทพฯ ผ่าน อ. บางบัวทอง จ. นนทบุรี ไปจนถึงตัว จ.สุพรรณบุรี ระยะทางประมาณ 107 กม. จากนั้นไปตามหลวงหมายเลข 340 แยกเข้า อ. สามชุก ตัวตลาดอยู่ริมแม่น้ำสุพรรณติดกับที่ว่าการอำเภอสามชุก จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:42:38 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อยากจะบอกตามตรงวัน การได้มาที่ตลาดแห่งนี้ทำให้นึกถึง น้าๆ ทุกคนในห้องนิคอน อยากจะให้จัดทริปมาเที่ยวที่นี้มากๆ  เพราะ มีมุม ให้ถ่ายรูปมากมายเยอะแยะเหลือเกินครับ บวก กับอาหารการกินที่นี้อร่อย และ แม่ค้าที่นี้ใจดีกันทุกคนเลยคับ จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:45:35 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หลังจากเสร้จจาก  ตลาดสามชุก ปู่ก็มุ่งหน้าไปยัง  บึงฉวาก ต่อนะคับ มีตำนาน บึงฉวากมาฝากด้วยนะคับ บนเส้นทางระหว่างอำเภอเดิมบาง-นางบวชจังหวัดสุพรรณบุรีไปอำเภอหันคาจังหวัดชัยนาทกลางบึงเต็มไปด้วยดอกบัวหลวง ทั้งสีขาวและสีชมพู และในราวเดือนกันยายน – พฤษภาคม จะเห็นเป็ดแดงฝูงใหญ่ลอยตัวจับกลุ่มอยู่ตามกอบัว ที่นี่คือ “บึงฉวาก” ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่ามาตั้งแต่ ปี 252 เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:49:04 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตามไปเที่ยวบ้านเกิด จากคุณ : Lamai~Rock~ - [ 1 มี.ค. 52 22:50:12 ]

ความคิดเห็นที่ 17 .ในพื้นที่ร่วม 2,000ไร่ นี้ไว้และด้วยความ หลากหลายของพันธุ์พืชและสัตว์ที่มีในบึง . บึงฉวากจึงถูกจัดให้เป็น พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติตาม อนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) ที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีมาตั้งแต่ปี 2541 ลักษณะที่เรียกมีบึงน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ กว้างไกล สุดสายตาว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตาม อนุสัญญาแรมซาร์นั้นก็คือ พื้นที่ลุ่ม พื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลุ่มชื้นแฉะ พื้นที่ฉ่ำน้ำ มีน้ำท่วม น้ำขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหล่งน้ำ ทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้าง ทั้งที่มีน้ำขังหรือท่วมถาวรและชั่วคราว ทั้งแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:50:23 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีคับน้า Lamai~Rock~ แหล่งน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม รวมไปถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเล และทะเลในบริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดต่ำสุด น้ำลึกไม่เกิน 6 เมตร ซึ่งบึงฉวากเข้าข่ายลักษณะดังกล่าวที่เป็นบึงน้ำจืดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีความลึกเฉลี่ยประมาณ 1-3 เมตร บึงฉวากนั้นเดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของสายน้ำท่าจีน เมื่อผ่านระยะเวลาและการทับถมของตะกอนดินโคลน จึงทำให้ส่วนหนึ่งของแม่น้ำแยกตัวออกมาเป็นบึงรูปโค้ง มีขนาดใหญ่กินพื้นที่อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี และอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ก่อนหน้าที่จะประกาศให้บึงฉวากเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่านั้น นายจรินทร์ กาญจโนมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ในขณะนั้น ได้เข้ามาบุกเบิกพัฒนาพื้นที่รอบบึงเมื่อปี พ.ศ.2525 และเห็นว่าบึงฉวากมีธรรมชาติสวยงาม มีนกน้ำจำนวนมากมายอาศัยอยู่ จึงได้ประสานงานไปยังกรมป่าไม้ นับตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2526 ...  ปล  ภาพ นักประดานัำอาจไม่ค่อยชัดนะคับ เนื่องจากแสงน้อย เลยดันISO ไป 1200  noise เลยเยอะไปนิด นะคับ จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียติก่อสร้างขึ้น ภายใต้โครงการพัฒนาบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เป็นโครงการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2539 และสามารถเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2541 โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อให้เป็นสถานที่ศึกษาพฤติกรรมสัตว์น้ำที่สำคัญให้กับนักวิชาการ ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนผู้สนใจโดยทั่วไป เพื่อปลูกสร้างจิตสำนึกให้รู้จัก และรักษาทรัพยากร อันมีค่ายิ่งของไทย สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำฉวากเฉลิมพระเกียรติมีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้ จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 22:55:20 ]

ความคิดเห็นที่ 20 1. อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ 1 ซึ่งประกอบด้วยตู้ปลาน้ำจืด ขนาด 30 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 1 ตู้ และตู้ปลาน้ำจืด ... ขนาด 1 – 3 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 24 ตู้ 2. อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ 2 เนื่องด้วยอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ 1 มีขนาดเล็กสามารถ จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำได้เพียง 50 กว่าชนิดเท่านั้น ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา จึงดำริให้จัดสร้างอาคาร แสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ 2 ขึ้น โดยให้ตัวอาคารทั้งสองหลังเชื่อมติดกัน ภายในตัวอาคาร ประกอบด้วย ตู้ปลาขนาดใหญ่ บรรจุน้ำได้ 400 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 1 ตู้ สามารถเดินดูปลาได้รอบตู้ และมีอุโมงค์ลอดใต้ตู้สามารถชมความเคลื่อนไหวของสัตว์น้ำในตู้จาก อุโมงค์ได้ อุโมงค์มีความยาว ประมาณ 8.5 เมตร อุโมงค์ปลาน้ำจืด ตู้ปลาใหญ่นี้ใช้อะครีลิคในการสร้างตู้ ซึ่งอะครีลิคมีความหนาถึง 88 ม.ม. (3.5 นิ้ว) นอกจากตู้ปลาใหญ่แล้วยังมีตู้ปลาน้ำจืดขนาด 1 ลูกบาศก์เมตร อีก 30 ตู้ ซึ่งอาคารหลังที่ 2 นี้ สามารถเปิดให้ชมได้ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2546 นอกจากตู้ปลาน้ำจืดในอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ยังจัดแสดงตู้ปลาน้ำเค็มด้วย โดยจัดแสดงอยู่ในอาคารหลังที่ 1 จำนวน 3 ตู้ และในอาคารหลังที่ 2 จำนวน 7 ตู้ การจัดแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดในอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ทั้ง 2 อาคาร มีทั้งพันธุ์ปลาไทยและพันธุ์ปลาต่างประเทศ ซึ่งมีประมาณ 110 ชนิด สำหรับพันธุ์ปลาที่น่าสนใจ เช่น จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 23:00:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สวยจังเลยยยยยยยยยยยยย  อยากไปบ้างงงงงงงงงงงงงง จากคุณ : Nguhn - [ 1 มี.ค. 52 23:00:01 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีคับ ป๋าเงิน    ว่างๆ ไปเทีย่ว ถ่ายรูปด้วยกันนะคับ ภายในฟาร์มจระเข้ยังมีกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจมากมายหลายชนิด เช่น การแสดงการจับจระเข้ด้วยมือเปล่า , การต่อสู้กับจระเข้ , การนำศรีษะของผู้แสดงเข้าไปในปากจระเข้ , การให้อาหารจระเข้ด้วยตนเองของนักท่องเที่ยว , การถ่ายรูปกับจระเข้เป็นๆ และจระเข้สต๊าฟขนาดใหญ่ จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 23:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไป survey ไว้ จัดทริป เหรอน้า จากคุณ : ^DriftingClouD^ - [ 1 มี.ค. 52 23:01:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 พี่ ไกรทอง  ของเรา....      ดูไป ฮาไปคับ ... แต่เสียดายที่การไปครั้งนี้ ไปแบบไม่ได้ตั้งใจอะไรมาก  เลยไม่ได้เตรียมตัวมา ทำให้ลืม ชาตแบตมาด้วย ทำให้  รูปนี้เป้นรูปสุดท้ายก็ที่แบต จะหมด นะคับ    แง้วววว ...  ไว้คราวหน้าสัญญา คับว่าจะไปแก้ตัวแล้วถ่าย มาฝาก อีกครั้งนึงคับ จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 23:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ลากันด้วยรูปสุดท้ายนะคราบบบบบ   ข้อมูลอ้างอิง บึงฉวาก http://www.suphanburi.go.th/bungchawak/ เสาหลักเมือง http://www.oknation.net/blog/print.php?id=119055 ตลาดสามชุก http://www.thai-tour.com/thai-tour/Central/Suphanburi/data/place/samchuk.htm .....  ขอขอบคุณมากๆ  สำหรับทุกความคิดเห้นนะคับ    ...... ไว้มีโอกาส จัด มินิทริป เดียวปู่จะพาไปถ่ายที่สุพรรณนะคราบบบบบ (มีใครสนใจบ่างป่าววววว) .....  ถั่งปู่ซู่ซ่า  มาแว้วววววว .... จากคุณ : ถั่งปู่ซู่ซ่า - [ 1 มี.ค. 52 23:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 26 โห......ไปไม่ชวนเลย ............. ขอบคุณที่เอาภาพมา ฝากครับ....... จากคุณ : OUNNOI - [ 1 มี.ค. 52 23:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โหยๆๆๆน้าปู่ สวยมากกกกกก ชอบจริงๆครับ สีสวย มุมสวยมากๆครับ จากคุณ : pong_hartmann - [ 1 มี.ค. 52 23:21:20 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ปู่มีรถคันใหม่ พวกเราคงได้เห็นรูปสวยเยอะอีกแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 23:59:06 จากคุณ : เอก (aawu1079) - [ 1 มี.ค. 52 23:58:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อยากกินปลาสลิด อิอิ จากคุณ : เจี๊ยบ ม.บูรพา - [ 2 มี.ค. 52 00:11:43 ]

ความคิดเห็นที่ 30 รูปสุดท้ายทำไมไม่ทอดก่อนเอามาโพส แล้วจะกินได้ยังไงละเนี่ยน้าปู่ eiei รูปแจ่มๆทั้งนั้นเลนน้าปู่สีสรรค์สะจายมากๆ จากคุณ : Ap.1657 - [ 2 มี.ค. 52 00:35:49 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โอ้ว ฟอร์จูนเนอร์ 9 คน อัดเข้าไปยังงายยย จากคุณ : Take a Look Around - [ 2 มี.ค. 52 00:57:55 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ภาพสวยครับน้าปู่ แต่เสียวอะ....ที่ให้อาหารจรเข้....ด้วยตัวเอง (แล้วจะเหลืออะไรกลับบ้านละเนี๊ยะ.....)                   จากคุณ : ผมแดงครับ - [ 2 มี.ค. 52 01:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สวยทุกรูปเลย ทำให้อยากไปเทียวมั้ง......... จากคุณ : หลวงตาชัย - [ 2 มี.ค. 52 07:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โอวว รูปปิด สวยสยอง มากครับน้าปู่ ^ ^ จากคุณ : TeMpLaTe - [ 2 มี.ค. 52 08:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อิอิ ไม่ชวนกันเล้ยยยยยย อิอิื จากคุณ : pigyarmy - [ 2 มี.ค. 52 08:08:15 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สวยจัง.... จากคุณ : jayshuro - [ 2 มี.ค. 52 08:12:42 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สวยมากๆ ครับ จากคุณ : Nataku-IZ8 - [ 2 มี.ค. 52 08:52:50 ]

ความคิดเห็นที่ 38 สวยมั๊ก ๆ จากคุณ : Bonzai Pix - [ 2 มี.ค. 52 09:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มุมสวย ข้อมูลปึ้ก บรรยายสนุกชวนติดตามมากเลยจ้า จากคุณ : ถวัลย์รวีณ์ - [ 2 มี.ค. 52 09:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สวยงามมากมายเลยครับ ^_^ จากคุณ : Curly - [ 2 มี.ค. 52 09:39:37 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ... หูย มุมกล้องโปรจริง ๆ เลยฮับน้าปู่ สีสันได้ใจชาวนิคจริง ๆ เลย ข้อมูลประกอบแน่นเอี๊ยด ภาพสวยเหมือนได้ไปเที่ยวกับตัวเองเลย ปลิงชอบภาพที่คนกำลังให้อาหารปลาจัง หาดูยากน๊า ... กระทู้ 5 ดาวฮับ ... แบ่ร แบ่ร จากคุณ : ปลิงไทยก้าวไกลไประดับโลก - [ 2 มี.ค. 52 10:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ภาพเด่น ข้อมูลดี..เจ๋งมาก จากคุณ : คนบางปะอิน - [ 2 มี.ค. 52 10:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 43 น่าไปๆ  มุมสวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ คิดถึงบึงฉวากไม่ได้ไปนานล่ะ จากคุณ : ตองเจ็ด - [ 2 มี.ค. 52 11:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 44 แจ่มมากครับ ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ และข้อมูลดีๆ ด้วยครับ ภาพล้ำหน้ามาก คาระวะ จากคุณ : mr_toy - [ 2 มี.ค. 52 12:14:28 ]

ความคิดเห็นที่ 45 งามมากเลยครับปู่แสงงามหลาย จากคุณ : MR.Bong Jovi - [ 2 มี.ค. 52 12:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 46 หนีงานไปเที่ยวอีกแล้วเหรอ น้า น่าไปด้วยจัง อิอิ จากคุณ : TD70s (TD70s) - [ 2 มี.ค. 52 13:13:24 ]

ความคิดเห็นที่ 47 จัดเลยอย่าให้ช้าครับน้าปู่ จากคุณ : IrishCoffee - [ 2 มี.ค. 52 18:40:21 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อยากกินปลาเค็มครับปู่... สงสัยจะอร่อยครับ.... จากคุณ : นายบาส (kanyupon) - [ 2 มี.ค. 52 19:55:47 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ยังไม่เคยไปเลยอะ  ปลาหน้ากินมากเลย จากคุณ : =Left-Head= - [ 2 มี.ค. 52 20:32:16 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สีสันดีมากครับน้า จากคุณ : นายปาฏิหาริย์ - [ 3 มี.ค. 52 00:44:17 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เยี่ยมมาก น้าปู่ จากคุณ : กวงศักดิ์ - [ 3 มี.ค. 52 06:46:57 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สวยมาก มาก ครับ จากคุณ : art of art (artofart) - [ 3 มี.ค. 52 07:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เด่นทั้งสีสรร และมุมมอง สุดยอดจริงๆ ครับ จากคุณ : ทักษะ - [ 3 มี.ค. 52 17:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 54 งิงิ ไปไม่ชวนกันมั่งเลย รูปสวยมากเลยอะ แหล่มๆ ปล. โลโก้เสร็จแว้ววววนะปู่ จากคุณ : เหตุวิสัยในไหวิเศษ - [ 3 มี.ค. 52 18:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 55 พี่ ไกรทอง  แอคชั่นเท่ห์ไปเลยครับน้าปู่ จากคุณ : blackearsociety - [ 3 มี.ค. 52 20:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ภาพชุดนี้สวยทั้งชุดเลยค่ะ ชอบ ๆ ๆ จากคุณ : i'm not superman - [ 4 มี.ค. 52 09:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 57 งามจัดเลยปู่ จากคุณ : ฟ้าทะยานโจน - [ 7 มี.ค. 52 00:42:24 ]