ความคิดเห็นที่ 6
 
จากน้าเป็ด hotduckz ในนิคอนคลับมันติพลายครับ
_____________________________________________________________
เป็นสิ่งที่มีอยู่ในกล้องระดับมืออาชีพเท่านั้น เช่น D300, D700, D3, D3X
เมื่อก่อนก็มีใน D100, D200 กล้องเลขเดี่ยว D1, D2 มีกันทุกรุ่น แต่พวก D70, D80, D90 หรือต่ำกว่านั้นจะไม่มี
TIFF นั้นจะเป็นไฟล์ที่มีคุณภาพสูง เพราะไม่มีการบีบอัดข้อมูลแต่อย่างใด โดยส่วนมาก TIFF จะใช้กับเฉพาะกับ "มืออาชีพ" จริงๆ เท่านั้น เพราะมันทำงานด้วยช้า เนื่องจากขนาดไฟล์ TIFF นั้นจะใหญ่มาก ซึ่งทำให้บางครั้งมือสมัครเล่นก็โวยวายว่าจะให้มาทำไมเหมือนกัน เนื่องจากคุณภาพมันก็แค่เทียบเท่า RAW ซ้ำร้ายมันยังปรับแต่งได้น้อยกว่า แต่คุณจะให้ทำยังไงก็ในเมื่อมันยังมีคนใช้ TIFF อยู่ จะเอามีดไปจี้ให้เขาเลิกเหรอครับ? (วันนึงถ้าผมได้เป็นผู้บริหาร Nikon ผมจะทำกล้องโปรมาเป็นสองเวอร์ชั่น แบบมี TIFF กับไม่มี TIFF ให้ก็แล้วกัน)
โดยแรกเริ่มของยุคคอมพิวเตอร์นั้นไฟล์ภาพนั้นจะเป็นไฟล์ที่เรียกว่า ไฟล์แบบ Bitmap ซึ่งไม่มีอะไรมากนัก นอกจากจะเป็นไฟล์ภาพที่เกิดจากจุดหลายๆ จุดมารวมกัน (Pixel; PICture ELelement) แต่พอมาวันหนึ่ง ความต้องการของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ก็สูงขึ้นจึงก่อให้เกิดเป็นไฟล์ TIFF ที่มีความสามารถที่เหนือกว่าขึ้นมาแทนไฟล์ Bitmap หรือ *.bmp แต่ส่วน JPEG หรือ *.jpg นั้นเกิดขึ้นมาจาก Joint Photographic Expert Group ที่ต้องการจะสร้างไฟล์ที่ไว้สำหรับใช้งานร่วมกับอินเตอร์เนตที่ต้องมีขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถดาวน์โหลด หรืออัพโหลดได้รวดเร็ว มันจึงเป็นไฟล์ที่เกิดมาเพื่อบีบอัดภาพโดยเฉพาะ ส่วนจะเล็กได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของการบีบอัด แต่ยิ่งบีบมาก ภาพก็จะยิ่งมีคุณภาพที่ลดลง
TIFF สำหรับมืออาชีพ จะใช้กันแทน JPEG เนื่องด้วยมันไม่บีบอัดข้อมูลดังที่กล่าวไปแล้ว และการใช้งานแบบมืออาชีพ การถ่ายภาพนั้นจะมีการควบคุมทุกกระบวนการอยู่แล้ว ดังนั้นการปรับแต่งหลังการถ่ายจึงไม่จำเป็น (แต่งอีกทีก็ระดับ retouch แล้วครับ ตรงนี้ช่างภาพจะไม่เกี่ยวข้องสักเท่าไหร่) ส่วนมากเขาจึงไ่ม่ถ่ายเป็น RAW ก็เนื่องมาจากว่า RAW นั้นต้องนำไปแปลงเป็น TIFF หรือ JPEG อีกทีให้เสียเปลืองเวลาและทรัพยากร แต่ TIFF นั้นให้คุณภาพดี และไม่ต้องแปลงไฟล์ซ้ำอีกแล้ว อีกอย่างสำหรับพวกมืออาชีพ คอมพิวเตอร์ของเขานั้นรองรับไฟล์ TIFF ที่ชาวบ้านทั่วไปว่าใหญ่ได้สบายๆ และในวงการต่างๆ เกี่ยวกับภาพนั้นก็ให้การยอมรับ TIFF เป็นอย่างดี โดยปัจจุบันจะมีการโน้มเอียงมาทาง RAW มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องด้วยหลายสาเหตุ
สาเหตุหลักนั้น ผมว่ามาจากการที่ Adobe นั้นพัฒนาให้ซอฟท์แวร์ของตนนั้นรองรับ RAW มากขึ้น เช่น สามารถใช้ RAW เป็น Smart object ที่ปรับแต่งด้วย ACR ได้ตลอดเวลา (แต่ให้พูดเถอะ กะอีแค่ ACR มันจะแต่งอะไรได้สักเท่าไหร่เชียว ผมว่ามันสู้ทำเป็น TIFF หรือ PSD ไม่ได้ด้วยซ้ำ...)
สาเหตุหนึ่งที่ผมสงสัยก็คือ มันมีค่ายกล้องบางค่ายยอมจับมือกับบริษัทซอฟท์แวร์จัดการ RAW เพื่อช่วยกันขายทั้งกล้องทั้งซอฟท์แวร์ ด้วยการตัด TIFF ออกจากกล้อง แล้วก็ทำซอฟท์แวร์ของค่ายตนออกมาห่วยๆ เพื่อให้ซอฟท์แวร์จัดการ RAW ยี่ห้อนั้นขายได้ (หรือว่า "ฮั้ว" กันนั่นเอง อิอิ)
ส่วนคู่ฮั๊ว ผมว่า Canon กับ Capture One หุหุ
โธ่!! Hasselblad H3D-II ไฟล์ 50 Megapixel ยังมี TIFF เลย...
ใช่, บางครั้งสิ่งที่เราไม่ได้ใช้อาจจะเป็นสิ่งน่ารังเกียจสำหรับเรา
แต่ผมก็อยากให้เข้าใจกัน
ข้อเท็จจริงอื่นๆ ของ TIFF
TIFF อ่านว่า "ทิ๊ฟ"
TIFF ย่อมาจาก Tagged Image File Format
TIFF หมายความว่า 'ไฟล์นี้เป็นไฟล์ภาพ'
TIFF เป็นได้ทั้ง Raster และ Vector
TIFF มีนามสกุลว่า .TIF หรือ .TIFF
TIFF นั้นเป็นไฟล์ที่มีคุณภาพสูงเพราะภาพไม่บีบอัด
TIFF ก็สามารถบีบอัดได้ แต่ผมไม่เคยทำนะ, ZIP ดีกว่า ว่างั้น
TIFF มีแบบ 8-bit, 16-bit และ 32-bit ยิ่งมาก ยิ่งใหญ่
TIFF จากกล้องจะเป็น 8-bit, แต่อย่าเว่อร์นักเลย
TIFF มีทั้ง RGB และ CYMK
TIFF จากกล้องจะเป็น RGB เสมอ
TIFF มีเลเยอร์ได้ ขึ้นอยู่กับซอฟท์แวร์ที่ใช้
TIFF นิยมใช้มาตั้งแต่ยุคแรกของงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิค
TIFF เวลาไปส่งร้านอัดรูป เขาก็จะแปลงไฟล์เป็น JPEG ก่อนอยู่ดี
TIFF ดึงไปแปะในงานได้ทันที แต่ RAW ต้องทำเป็น Smart object
TIFF คุณจะใช้ไปทำไม? ตั้งคำถามก่อนใช้เสมอครับ
TIFF เพื่อนผมบางคนใช้มันเพราะกดผิด 555+
จากคุณ :
TeMpLaTe   
- [
18 มี.ค. 52 22:03:01
]
|
|
|
