ความคิดเห็นที่ 1 ชำมะนาด,ชมนาด, ดอกข้าวใหม่ ไม้เลื้อยดอกหอม กลิ่นคล้ายใบเตยหรือข้าวหอมมะลิใหม่ เลยเป็นที่มาของชื่อ "ดอกข้าวใหม่" ชื่อสามัญ : Bread Flower ภาพชุดที่ถ่ายเต็ม แบบไม่ครอปอยู่ที่นี่นะคะ http://www.pantip.com/cafe/gallery/topic/G7681270/G7681270.html แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 52 00:25:20 จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 00:03:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดอกผักบุ้ง ความงามนอกรั้วที่ใครๆ มักมองผ่าน.. โคลสได้สุดๆ คือเต็มดอก แต่โฟกัสพลาด จริงๆ ควรเล็งเกสร แต่ดันไปตกที่กลีบด้านหลัง - -" จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 00:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โยทะกา หรือ ชงโคเหลือง  ...ญาติสนิทของกาหลงกับชงโค ชื่อสามัญ: Bell Bauhinia, Butterfly Flower (ชื่อหลังนี่ ใช้เรียก ทั้งกาหลง-ชงโค-โยทะกา มีที่มาจากลักษณะของใบ) ดอกห้อยคว่ำลง อยู่ใต้ร่มไม้ โฟกัสยากมากๆ เลนส์วืดฟืดฟาด จนต้องหมุนมือเอา ไม่รู้โฟกัสไปตกที่ไหน สงสัยต้องตัดแว่นแล้ว ....  เลนส์ก็เก่า คนก็แก่  - -" จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 00:06:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พวงคราม.. หรือบางคนเรียก ...ช่อม่วง ชื่อสามัญ : Purple wreath, Queen's wreath, Sandpaper vine ชื่อสุดท้ายคงได้มาจากใบที่เนื้อหยาบๆ สากๆ เหมือนกระดาษทราย คราวที่แล้วถ่ายเต็มช่อ อยากได้แบบดอกเดียวมั่ง ใกล้ไปถ่ายไม่ได้ก็ถอยออกมาหน่อย  แล้วค่อยครอปเอา ..ปัญหาบางอย่างแก้ตรงๆ ไม่ได้  ถอยสักก้าว แล้วเดินทางอ้อมเอาก็ได้ ^o^ จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 00:08:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ดอกเดียว เดี๋ยวเหงา มาเป็นคู่ แต่มองคนละมุม จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 00:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถึงวันนี้จะยัง  ...แต่ต้องมีสักวันที่ดอกไม้บานแน่ๆ จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 00:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โมกซ้อน จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 00:10:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ราชาวดี บางคนเรียก "หางกระรอก" แต่คงเป็นกระรอกตัวเล็กอยู่สักหน่อย เพราะช่อดอกมันยาวสักสามนิ้วเท่านั้นเอง ชื่อสามัญ : Summer Lilac, Curly Butterfly Bush จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 00:12:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แม่ "กรรณิการ์" ก้านแสด ชื่อสามัญ: Night blooming jasmine ขนาดดอก ~1.5 ซม. แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 52 00:16:12 จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 00:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ดอกกรรณิการ์จะบานและหอมตอนกลางคืน  ดอกดกช่วงปลายฝนต้นหนาว เช้าๆ ร่วงพราวเต็มพื้นทีเดียว ..ช่วงนี้พอมีบ้างดอกสองดอก เลยได้โชว์เดี่ยว จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 00:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลั่นทม... อยากเจาะเฉพาะลายเส้นกลางดอกอย่างนี้นานแล้ว เมื่อถ่ายตรงๆ ไม่ได้ ก็ใช้วิธีเดียวกับดอกผักบุ้งข้างบน crop crop crop ^__^ จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 00:18:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ้าว.. ลืมรูปซะงั้น - -" แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 52 00:23:05 จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 00:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เอาใหม่  ปิดท้ายค่ะ ... ลั่นทมต้นเดิม แต่คนละดอก พันธุ์นี้ดอกเพิ่งบานจะมีสีเจือส้มๆ หน่อยแบบนี้ค่ะ (บานหลายวันสีส้มจะจางไป กลายเป็นชมพูล้วนแบบข้างบน) เป็นยังไงค่ะ  แบบนี้พอจะปลอมตัวเป็นมาโครได้มั้ย ขาดตกบกพร่องตรงไหน  ติได้ แนะนำได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ^__^ จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 00:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ชอบรูปหยดน้ำรูปแรกค่ะ จากคุณ : booklovers - [ 2 เม.ย. 52 00:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวยทุกรูป ชอบรูปแรกที่สุดเหมือนกัน : ) จากคุณ : skybrigde - [ 2 เม.ย. 52 01:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คนถ่ายสวยน่ารักเหมือนรูปรึเปล่าน่า จากคุณ : narahad - [ 2 เม.ย. 52 05:05:24 A:222.123.188.57 X: TicketID:207454 ]

ความคิดเห็นที่ 17 รอดจ้า ...โดยเฉพาะรูปเปิด หาเรื่องเสียเงินอีกแล้ว macro เนี่้ย .. ทางยาวโฟกัสยิ่งมาก ยิ่งดี (และยิ่งแพง) ระยะห่างเกือบเมตร นั่นแหละ .. ของดีครับ ยิ่งเวลาถ่ายพวกแมลง ผีเสื้อ หรือ ผึ้ง ... จะภาวนาของสองเมตรด้วยซ้ำ การโฟกัส .. มาโครเนี่ย ปิด auto ไปได้เลย ระยะชัดลึก .. มัน ... ไม่มี เลนส์จะวืดแน่นอน เทคนิคของ nature macro ที่เซีัยนทุกคนใช้คือ "โยกคอ" ไม่มีทางเลี่ยงที่สอง หมุนโฟกัสไปที่อัตราขยายที่ต้องการ แล้วโยกคอเอา ให้เป้าที่ต้องการ เข้ามาอยู่ในโฟกัส ไม่จำเป็นต้องอยู่้เป๊ะๆ .. แค่ใกล้เคียง ก็เริ่มกดชัตเตอร์ แช๊ะๆๆๆๆๆ หวังว่าคงได้ซักรูปนึงหละน่า ที่โฟกัสตรง กล้องดีๆ บางรุ่น จะมีฟังก์ชั่น focus bracketing ให้ .. กดแช่ กล้องจะยิง 3-5 รูป โดยเปลี่ยนตำแหน่งโฟกัสอย่างว่า ถ้าจะซื้อเลนส์ macro ก็ต้องคิดให้ดีๆ .. แฟลชวงแหวน หรือ แผ่นกระจายแสง หรือ ท่อต่อ ฯลฯ จะตามมาเป็นขบวน ... เสียเงินทั้งน้าน จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 2 เม.ย. 52 07:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ภาพสวย ข้อมูลดี ขอบคุณค่ะ จากคุณ : มินเอง - [ 2 เม.ย. 52 07:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 งามครับ... จากคุณ : โว่โว่โว่... - [ 2 เม.ย. 52 07:20:39 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวยทุกรูปเลยครับ แต่ก็ชอบรูปแรกครับ ^_^ ที่บ้านดอกไม้เยอะจัง อิจฉา  ^^" จากคุณ : หนอนแก้วตากลม - [ 2 เม.ย. 52 07:30:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตามน้าแมวว่าเลยครับ มาโครนั้นเลือกเอาเลยว่าอยากได้แบบใหญ่แค่ไหน แล้วโยกตัวเข้าออกเพื่อโฟกัสแทน แมนนวลล้วน ๆ จะเร็วกว่า ภาพหยดน้ำได้เงาสะท้อนแล้ว แต่ลองเลือกเงาสะท้อนให้มันแจ่ม ๆ สักอย่างจะยิ่งน่าสนใจ ลองดูภาพสะท้อนมันหยดน้ำจาก Lord V ดูครับ จริง ๆ ในห้องน้าบางฯก็มีผลงานหยดน้ำสวย ๆ เยอะแยะ แต่ให้ดูของ Lord V ดูก่อนเพราะเค้าเก็บเป็นเซ็ตเยอะมาก ๆ จะได้ดูหลาย ๆ แบบ http://www.flickr.com/photos/lordv/sets/72057594101162264/?page=7 มาโครต้องอาศัยความอดทนสูงมากครับ อย่างเหนื่อย ลมแทบจับกว่าจะกดได้สักรูป จากคุณ : Morgoth Bauglir - [ 2 เม.ย. 52 08:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบภาพแรกครับ แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 52 08:35:02 แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 52 08:33:09 จากคุณ : CIA001 - [ 2 เม.ย. 52 08:32:43 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ได้แบบนี้ก็ถือว่าใช้งานคุ้มแล้วหล่ะครับ เพิ่มเทคนิคอีกนิดๆหน่อยๆ ก็เทรินโปร ได้แล้วครับ อย่าลืมเล่นกับแสง และแฟลชนะครับ เค้าว่ากันว่าสนุกเชียว เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : CIA001 - [ 2 เม.ย. 52 08:37:40 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวยงามมากอ่ะครับ ใช้คุ้มราคาเลย สุดยอดๆ นี่แหละที่เค้าคนมีฝีมือไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์ให้มากมายนักก็แค่ดึงคุณภาพของมันออกมาใช้ให้เต็มที่ของมันก็พอแล้ว เจ๋งจริงๆ จากคุณ : tump - [ 2 เม.ย. 52 09:22:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สรุปว่า  เข้าใจสับสนคลาดเคลื่อนไปหน่อย สิ่งที่ต้องการไม่ใช่ระยะโฟกัสที่ใกล้ขึ้น แต่เป็นกำลังขยายที่มากขึ้นต่างหาก  ^__^ ...แต่เปรยไปงั้นแหละค่ะ  ช่วงนี้บ่จี๊งบไม่มี  คงต้อง crop ไปพลางๆ ก่อนเหมือนเดิม     -*- ขนาดแฟลชนอกยังบ่มีปัญญาเลย เมื่อก่อนถ่ายแต่แลนด์สเคปเป็นหลักเลยไม่ค่อยได้ใช้ด้วย (แต่เคยได้เข้าป่าไปถ่ายเห็ด  พร้อมกระบอกไฟฉายท่อนเท่าแขนมาแล้ว...    อย่างฮา  ^ ^") เดี๋ยวนี้ไม่มีไปไหน อยู่กับเหย้าเฝ้ากับสวน ถ่ายภาพดอกไม้คงเป็นงานอดิเรกคู่การทำสวนได้ดี  ^o^ เรื่องโฟกัส ปกติอิฉันไม่ค่อยใช้ manual จะ auto ตลอด เพราะใส่คอนแทคเลนส์เบอร์ไม่ค่อยตรงสายตา (ของหมดสต็อกบ่อย) .. บางเดือนซื้อได้เบอร์ต่ำกว่า 25-50-75 ไปเรื่อย เลยมีสภาพเหมือนคนสายตาสั้นนิดๆ ที่พิกัดไม่แน่นอน ทำให้ไม่ค่อยเชื่อสายตาตัวเอง   (แล้วทำไมไม่รู้จักใช้ปุ่มปรับแก้สายตานะ  - -" ) ยังไงก็ขอบคุณมากๆ  ... สำหรับทุกกำลังใจและคำแนะนำนะคะ ปล. link ที่น้า Morgoth Bauglir ให้มา สวยสุดใจเลยค่ะ ส่วนภาพของน้าบางฯ อิฉันก็ตามดูเรื่อยอยู่แล้ว ของดีอย่างนั้นพลาดได้ไง ....แนะนำเพิ่มเติมอีกได้นะคะ  งบไม่มีก็เก็บข้อมูลไปก่อน หรือหากมีคำแนะนำเด็ดๆ แบบไม่เพิ่มงบ ก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 09:25:02 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อก่อนตอนที่เริ่มเล่นกล้องใหม่ๆ ผมมี tamron 70 -300 เป็นเลนส์ที่ถ่ายภาพโคลสอัพในอัตราขยาย 1:2 ได้โดยสามารถ เปิดฟังก์ชันนี้ได้ก้ต่อเมื่อซูมเลนสืไปที่ 180 มม. แล้วสับสวิตช์ (ไม่รู้ซิกมารุ่นที่คุณเจ้าของกระทู้ใช้อยู่เป็นเหมือนกันหรือเปล่า) แต่ที่แน่ๆ เมื่อเปิดโหมดนี้ ระยะโฟกัสใกล้สุดจะอยู่ที่ 1.8 เมตร และเมื่อให้ได้อัตราขยายสูงสุด ถ้าผมจำไม่ผิด ต้องใช้ที่ช่วง 300มม. ซึ่งมันจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยด้วยการถือมือเปล่าถ่ายภาพโคลสอัพด้วยเลนส์ตัวนี้  เพราะด้วยช่วงความชัดลึกที่ระดับ 300 มม. นี่มันบางเฉียบ ถ้าจะถ่ายให้ระยะชัดครอบคลุมจุดที่ต้องการ ต้องอัด F แคบตั้งแต่ 11 ขึ้นไป ถ่ายทีไรผมทำความไวชัตเตอร์ได้ไม่เกิน 200 ทุกที เหนื่อยใจสุดๆ ภาพแบบโคลสอัพแบบนี้เราหายใจแรงนิดเดียว ภาพเบลอแล้ว ต่อให้ใช้แฟลชก็ควบคุมยาก(ในตอนนั้น) ผมจึงเลือกความคิดถ่ายโคลสอัพด้วยเลนสืประเภทนี้อีก คิดว่ามันเป็นของแถมที่พอใช้งานได้ จึงตัดสินใจซื้อเลนส์มาโครแท้ๆ มาใช้  โอ้ สบายใจกว่ากันเยอะ....ก้แค่อยากเล่าความรู้สุกเก่าๆ ให้ฟังน่ะครับ จากผลงานที่เห็นผมว่าคุณ จิตรางคทา ใช้เลนส์ตัวนี้ได้คุ้มค่าแล้ว ถ้าใจรักมาโครจริง ผมเชียร์ให้ซื้อเลนส์มาโครครับ จากคุณ : เวลาในขวดเหล้า - [ 2 เม.ย. 52 10:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพสวย ข้อมูลแม่น ขอบคุณมากมายที่ให้มาชม จากคุณ : Topio - [ 2 เม.ย. 52 11:49:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณ น้า "เวลาในขวดเหล้า" ค่ะ SIGMA ตัวนี้ก็คล้ายกันค่ะ ใช้ฟังก์ชั่น macro ได้ที่ 200-300 mm. อัตราขยายน่าจะพอๆ กัน ต้องใช้ F แคบๆ เหมือนกัน   ..ถ่ายที่บ้านไม่มีปัญหา ไม่ขี้เกียจแบกขาตั้งเท่าไหร่ (แค่บางทีเท่านั้น - -") จะพยายามฝึกไปก่อน ระหว่างเก็บข้อมูล+เก็บตังค์ + เห่อสวนด้วย  ปีนี้ต้นไม้ที่บ้านเริ่มงามเต็มที่ กว่าจะหมดฝน คงมีมาฝากอีกเยอะเลยค่ะ ถ้าไม่เบื่อกันซะก่อน   ^__^ จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 12:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอมองคนละอย่าง  อย่างแรกคือ ... 300mm มันดีกว่า  macro จากระยะ่ห่าง สามารถเข้าใกล้ได้  แต่จากระยะใกล้่ ถ้าจะถอยห่าง มันเป็นเรื่องลำบากมากๆ  อย่างที่สอง ... แฟลชหัวกล้อง ถึงจะอ่อนไปสำหรับงานถ่ายภาพอย่างอื่น  แต่สำหรับงาน macro .. มันสว่างเกินพอด้วยซ้ำ  เราสามารถใช้ตัวกระจายแสงแฟลช แบบร่มชูชีพ เสียบที่ hotshoe  หรือ แบบแผ่นผ้าผืินใหญ่ (ของ kenko) เสียบบนเลนส์  จะทำให้ได้ภาพ macro ที่ 1/200, f/8 หรือ f/11 สบายๆ  สำหรับ 70-300 นี่ .. ถ้าใช้ close-up แบบ multicoat เบอร์ 4 ... เหลือเฟือสำหรับถ่าย natural macro  ในราคาไม่กี่ร้อย  ภาพตัวอย่าง ... 100mm, f/8, 1/90 sec, แฟลชหัวกล้อง, ตัวกระจายแสงแบบแผ่นบนเลนส์ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 2 เม.ย. 52 13:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อูวววว์....สวยงามมาก ชอบค่ะชอบบบบบบบ จากคุณ : kookcool~ - [ 2 เม.ย. 52 16:16:00 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อืมๆ ตัวกระจายแสงแฟลช กับ close-up เหรอคะ ..น่าสนๆ  ขอบคุณน้าแมวเหมียวฯ ค่ะ ความสุขจากการถ่ายภาพ ไม่จำเป็นต้องเป็นความสุขราคาแพงเสมอไปนี่เนาะ .. เจริญรอยตามกระบี่ไม้ไผ่ของอาฮุยก็ได้ ไว้เงินเหลือพอช่วยเศรษฐกิจชาติเมื่อไหร่ ค่อยว่ากันอีกที  ^o^ ขอบคุณอีกหลายๆๆๆ  รอบค่ะ จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 16:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอผมมองอีกมุมบ้างนะ เผื่อเป็นแนวทางให้เจ้าของกระทู้ตัดสินใจ จริงอยู่ที่มาโครในทวงเทเลนั้นทำให้เราถ่ายออฟเจคที่เคลื่อนไหวเช่นแมลง ได้ง่ายขึ้น ถ้าเป็นเลนส์มาโครแท้ๆ เขาก็ออกแบบมาโครช่วง 150 - 180 ออกมาเอาใจคนชอบมาโครด้วย ซึ่งผมคิดว่าเลนส์พวกนี้ดีครับ ดีจริงๆ (ผมยังอยากได้เลย ปกติใช้ 100 มม. 2.8 อยู่) แต่เลนส์พวกนี้เขาออกแบบมาสำหรับการถ่ายมาโครจริงๆ สามารถรับเปลี่ยน ถอยเข้าถอยออกตามอัตราขยายที่เราต้องการได้ (ผมก็ใช้วิธีนี้คือ fix อัตราขยายไว้เลย แล้วเดินเข้าเดินออกออฟเจคเอา เจอพวกแมลงเคลื่อนที่ช้าๆ ก็ ok อยู่ แต่ไปเจอเจ้าเวหา บางทีก็ต้องใช้ความอดทนสูง) แต่เลนส์เทเลเอนกประสงค์ที่ติดฟังก์ชันโคลสอัพอย่างวิกมาหรือทามรอนนี้มีข้อจำกัดตรงที่ระยะโฟกัสใกล้สุดมันบังคับไว้ไกลคือเกือบ 2 เมตร แถมได้ทางยาวโฟกัสตั้งแต่ 200 -300 มม. ที่รูรับแสง 5.6 เข้าไปอีก จริงอยู่ที่ที่ระยะขนาดนั้นถ้าเปิด 2.8 ไม่มีทาง คุมระยะชัดได้แน่ 5.6 จึงไม่ใช่ประเด็น แต่ใครก็ตามที่ขี้เกียจแบกขาตั้งบ่อยๆ (ผมด้วยคนหนึ่ง) อยากเปิดรูรับแสงกว้างๆ เพื่อพอได้รูปมาบ้าง เจอ 5.6 ที่ 300 มม. ก็หนาวเหมือนกัน ถ้าถ้ายดอกไม้ที่ระนาบตัวดอกอยู่ในระนาบเดียวกัน ก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าเจอแมลงปอ อยากถ่ายให้แค่ชัดลงไปแค่หัว ที่ 300 มม บางทีเราก็ต้องเปิด F ตั้ง f 11 เข้าไปนู่นนน ของแบบนี้บังคับใช้แฟลชกันสถานเดียว หรือไม่ก็ต้องไปถ่ายกันกลางแจ้งแดดเปรี้ยง โหยเหนื่อยครับ  หลายครั้งผมกัดใจเปิด F5.6  แล้วลองถ่ายดู ได้ภาพดีบ้าง โฟกัสหลุดบ้าง ระยะชัดบางเกินบ้าง เหนื่อยใจไปเยอะ อีกอย่างช่วง 200- 300 มม. เริ่มเป็นช่วงวิกฤตที่คุณภาพทางด้านออฟติคของเลนส์พวกนี้เริ่มตกลงไปมากแล้วทั้งคอนทราสต์ ความคมชัด และสีสัน ยิ่งถ้าใช้ฟิลเตอร์ยิ่งดรอปลงไปอีก แต่ถ้าถ่ายเล่นๆ สนุกๆ ผมว่าก็โอเคอยู่ ยิ่งไม่อัดขยายเต็มๆ หน้า อัดแค่จั้มโบ้ ถ่ายมาแล้วเร่งสีนิดหน่อย บางทีดูไม่ออก  แต่ถ้าจริงๆ จังและเริ่มสนุกกับมันผมว่ากัดฟันซื้อมาโครแท้ๆ ดุไปเลย แต่วางแผนกันให้ดี เพราะเศรษฐกิจช่วงนี้น่าเป็นห่วง ถ้ายังไม่รีบก็ลองใช้ ซิกมาของคุณแก้ขัดไปก่อน จริงๆ มันก็เป็นเลนส์ที่สนุกมากตัวหนึ่งครับ เอาไปถ่ายดอกไมดอกใหญ่ๆ หน่อยนี่ฉากหลังละลายสวยกว่าเลนส์มาโครแท้ๆ อีก จริงๆ ถ้าเลนส์พวกนี้ออกแบบมาให้ใช้โมโครโหมดได้ที่สัก 150 f 4.5 จะเป็นเลนส์ที่เอนกประสงค์และน่าใช้มากๆ  แต่ราคาคงไม่ 4 หลักแบบทุกวันนี้แน่ และที่สำคัญคงทำให้เลนส์มาโครแท้ๆ ขายไม่ออก อันนี้ผมมีตัวอย่างถ่ายด้วยทามรอนสมัยหัดๆ ถ่ายดอ้ดห กดมา เกือบ 10 ภาพ ได้ภาพที่ชัดพอเอาไปใช้ได้ 2 เอง เรื่องสีหายห่วง ดรอบไปเยอะ แต่ไม่เป็นไร เอามาดึงใน PS แก้ขัดได้ จากคุณ : เวลาในขวดเหล้า - [ 2 เม.ย. 52 16:59:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แต่ถ้าเป็นดอกไม้ดอกใหญ่ ๆ  ถ่ายไกลหน่อยเปิด F กว้างๆ ก็พอเก็บรายละเอียดของดอกได้ เลนส์พวกนี้ทำลายฉากหลังเกลี้ยง ผมว่าสวยกว่าการถ่ายด้วยเลนส์มาโครไปอีกแบบ จากคุณ : เวลาในขวดเหล้า - [ 2 เม.ย. 52 17:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อีกหนึ่งทางเลือกนะครับ ถ้าหากอยากประหยัดเงินไม่ซื้อเลนส์มาโครแท้ๆ ก็หา ext. tube มาใช้ครับราคาประมาณ 4-5พันบาท หรือไม่ถ้าอยากประหยัดลงไปอีก ก็หา TC จะ 1.4x หรือ 2x ก็ได้ เอาแบบที่ชิ้นเลนส์มันเสียแล้วเขาจะทิ้งแล้ว มาถอดชิ้นเลนส์ออก ก็ใช้ แทน ext. tube ไปได้เหมือนกัน แต่ถ้าเมื่อไหร่พร้อมจะถอยเลนส์มาโครมาใช้งาน ช่วง 90-105mm จะคุม DOF ได้ง่ายกว่าเลนส์มาโครช่วง 180-200mm นะครับ อีกทั้งน้ำหนักก็จะเบากว่าช่วง 180-200mm เยอะ ใช้สะดวกและเหมาะกับผู้หญิงมากกว่าครับ แต่ถ้าแข็งแรงอันนี้ไม่ว่ากันนะ เพราะผมเองก็ใช้ 200f4macro G อยู่ครับ จากคุณ : arnold_A1 - [ 2 เม.ย. 52 21:52:20 ]

ความคิดเห็นที่ 35 รูปนี้เอามาเปรียบเทียบให้เห็นนะครับ ว่า macro ที่ 200mm ช่วงชัดลึก มันแคบนิดเดียว (หรือชัดตื้นมากๆนั่นละ ) ดอกเดียวกันนะครับขนาดจริงของมันเล็กกว่ากลักไม้ขีด  ผมโฟกัสที่กลีบ เกสรก็ out focus แล้วนะ total Depth ของมันแค่ 2-3 cms เองครับ  ถ้ารักจะซื้อเลนส์ช่วงนี้มาใช้และต้องการคุม DOF และความคมชัดให้ได้อย่างใจ  ขาตั้งกล้องเป็นสิ่งที่ขาดแทบไม่ได้เลยละครับ แต่ก่อนหน้าที่ผมจะได้เลนส์ตัวนี้มาผมใช้ Tamron 180 macro อยู่ก่อนครับ ที่ 180mm ต่างจากเลนส์ตัวนี้แค่ 20mm แต่กลับคุม DOF ได้ง่ายกว่ากันเยอะเลยนะ จากคุณ : arnold_A1 - [ 2 เม.ย. 52 22:04:47 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มาขอบคุณอีกรอบค่ะ แนะนำได้เรื่อยๆ นะคะ รอเก็บข้อมูลอยู่ จากคุณ : จิตรางคทา - [ 2 เม.ย. 52 23:18:19 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ภาพสวยงามพอสมควรแล้วครับ จะเล่นกับระยะชัดอย่างไร..นี่แหล่ะคือเรื่องที่ต้องฝึก.. โจทย์ยากเอาการเสียด้วย.. จากคุณ : คนบางปะอิน - [ 3 เม.ย. 52 20:14:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ^ ^ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคะ ติดตามผลงานน้ามานานแล้ว ... โจทย์ยิ่งยากยิ่งสนุก และท้าทาย   จะพยายามฝึกให้มากๆ ขึ้นอีกคะ จากคุณ : จิตรางคทา - [ 3 เม.ย. 52 23:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวยครับ...สวยมากกก จากคุณ : สี่พล - [ 4 เม.ย. 52 04:22:03 ]