บทนำ
"หนูอยากเล่นโลโม่ พี่หากล้องให้หนูหน่อยสิ"
เป็นคำพูดที่ผมได้ยินบ่อยมากในช่วงปีที่ผ่านมา
ก่อนที่ผมจะอุทานว่า "ตูจะไปหาที่ไหนล่ะหวา"
เดิมผมเคยคิดว่าLOMOเป็นการถ่ายภาพของช่างภาพเก่งๆ
และใช้อุปกรณ์ระดับมืออาชีพ ซึ่งเบื่อหน่ายจากงานเดิมๆของตัวเอง ที่ต้องคิดและทำให้ได้ดังต้องการ มาถ่ายภาพแบบไม่คิดบ้าง
แต่เมื่อมีน้องๆซึ่งเป็นมือใหม่เอื่อมๆพูดแบบนี้ก็ให้คิดไปเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ภาพโลโม่หลายภาพที่ถูกหยิบยกมาบอกว่า "หนูชอบมันจัง" ผมยังมองไม่ออกว่ามันสวยงามอย่างไรตรงไหน
แต่ดูเหมือนว่าสังคมโลโม่กำลังแพร่ขยายออกไปเรื่อยๆ
น้องมือใหม่หัดถ่าย 3 ใน 5 คนที่ผมรู้จัก ตอนนี้ออกกล้องโลโม่มาใช้แล้ว และมีอีกหลายคนที่รองบประมาณอยู่
ผมถ่ายภาพมาประมาณสิบปี เทียบกับหลายๆท่านแล้ว คงเหมือนยังเป็นทารกในวงการ
ด้วยความที่เรียนสายวิทย์พิเศษ ศิลปะเป็นวิชาที่ถูกตัดออกไปเป็นอย่างแรก
และเสริมวิทยาศาสตร์ให้เข้มแข็งจนมีแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ซึมลึกเข้าไปอยู่ในจิตใต้สำนึก
(ด้วยหลักการของวิทยาศาสตร์ที่เชื่อมั่นว่า สักวัน เราจะเข้าถึงความจริงของโลกได้ทั้งหมด)
ผมลงเรียนวิชาที่ว่าด้วยความรู้ อย่างญาณวิทยา ซึ่งเนื้อหาสิ้นสุดอยู่ที่ ยุคใหม่ หรือยุคmodern
และpostmodern ถูกทิ้งไว้เป็นการบ้านให้ค้นคว้าเองต่อไป
การบ้านชิ้นนี้เพิ่งถูกรื้อขึ้นมาทำหลังจากเวลานั้น 6ปี ถ้ายังเรียนอยู่เห็นจะโดนตีก้นลาย
แม้ว่าจะไม่ได้เข้าถึงทฤษฎีศิลปะในเชิงลึก แต่มันก็ทำให้อะไรๆชัดเจนขึ้นในความคิดผม
และพบว่า postmodern กระจายตัวอยู่ทุกแห่งหน และเป็นส่วนหนึ่งของสังคมมานานแล้ว
และLOMOก็ถือเป็นผลผลิตที่เห็นได้ชัดเจนของยุคนี้
หากผมเข้าใจผิดพลาดประการใด ก็ขอคำชี้แนะด้วย แต่อยากให้ใช้การให้เหตุผลร่วมด้วย ดีกว่าจะใช้คำว่า "ไม่สน" หรือ "เหลวไหล"
แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 52 11:26:28
จากคุณ :
The Omens
- [
3 เม.ย. 52 11:06:32
]