ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณคุณจี สำหรับบทความดีๆ หลายๆข้อความอ่านแล้วได้คิดเหมือนกัน จากคุณ : ไม่มีตัวตนในโลกไซเบอร์ - [ 20 พ.ค. 52 20:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากคุณ : the เด็ก - [ 20 พ.ค. 52 20:54:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณจขกท และ คุณจี เอาไป 3 give 1 vote จากคุณ : คุณนายม่วง - [ 20 พ.ค. 52 20:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โหวตให้เลย หลายข้อตรงเผงเลย จากคุณ : Morgoth Bauglir - [ 20 พ.ค. 52 21:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อนุรักษ์นิยม กับ สมัยนิยม บางทีก็เดินไปด้วยกันได้นะครับ ลองเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ บ้าง ชีวิตจะสดใสขึ้นครับ ผมเป็นคนหนึ่ง ที่นาน ๆ ถ่ายกล้องฟิล์มที เพราะว่ากล้อง digital ทำได้ทุกอย่างที่กล้องฟิล์มทำ แถม ไม่ต้องเสียเวลาฝ่ารถติด ออกไปล้างฟิล์มอีกต่างหากครับ แต่วันไหนนึกสนุก ก็เอามาถ่ายเล่นกันบ้างครับ แก้คิดถึง :D จากคุณ : pwit - [ 20 พ.ค. 52 21:23:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โดนผมทุกข้อ ทุกวันนี้หากล้องฟิมล์มาใช้ สนุกมาก ^^ แต่กล้องฟิมล์ ดันไปเล่นกันคนละค่ายกับ DSLR จากคุณ : cud28 - [ 20 พ.ค. 52 21:25:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมคนนึงละที่ใช้ DSLR และไม่คิดจะเปลี่ยนกล้องตามกระแส รอมันพัง แล้วซ่อมสอง สามรอบ ก่อน ค่อยคิดอีกที อยู่กับ IT มาเยอะ รู้ว่าโลก IT เป็นยังไงครับ จากคุณ : Vkvs09 - [ 20 พ.ค. 52 21:39:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 i still love fancy features :D จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ 20 พ.ค. 52 22:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเคยอ่านบทความนี้ในไทยดี มาแล้ว ค่อนข้างเห็นด้วยอย่างมากๆ(ขอบคุณๆจีที่แปลบทความให้เราๆได้อ่านกันครับ) เดี่ยวนี้ใส่ฟีเจอร์ลงไปอย่างกะโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตลาดกล้องคอมแพคก็เป็นเช่นนี้อยู่ ต่อไปก็จะเป็นตาของกล้อง DSLR บ้าง จากคุณ : AjuntaPall - [ 20 พ.ค. 52 22:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่าความทนทานของกล้องดิจิตอลมันมีน้อยมาก เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เปลี่ยนเร็ว อีกเหตุผลคือ เรากดถ่ายภาพมากขึ้น เล็กๆ น้อยๆ อะไรก็ถ่าย ปีนึง เป็นหมื่น สองหมื่นรูป ถ้าสมัยกล้องฟิล์ม เรา(พวกสมัครเล่นทั้งหลายที่ไม่ได้ถ่ายภาพเป็นอาชีพหลัก) คงไม่ถ่ายเยอะขนาดนั้น ตีซะ ปี ละ 12000 รูป ฟิล์มเต็มที่ 40 รูป ตก 300 ม้วนต่อปี 25 ม้วนต่อ เดือน เกือบๆ วันละม้วน คงไม่เยอะอย่างนั้นแน่ มันมีส่วนทำให้ กล้องพังเร็วขึ้น เปลี่ยนเร็วขึ้น อีกแรงนึง สมัยกล้องฟิล์ม แค่เปลี่ยนฟิล์ม ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ ก็เหมือนได้กล้องตัวใหม่ไปแล้ว แต่สมัยดิจิตอล มันเปลี่ยนแต่เซ็นเซอร์ไม่ได้ ที่ผมอยากจะบอกคือ ที่ผู้บริโภคเปลี่ยนกล้องเร็วๆ บ่อยๆน่ะ ไม่ใช้เพราะแฟนซีฟีเจอร์ไรหรอก แต่เพราะส่วนนึงกล้องมันพังไวขึ้น และสอง เทคโนโลยี(เฉพาะด้านการรับภาพ) มันก็พัฒนาดีขึ้น(เช่น 3ccd การเรียงตัวเม็ดสีccd) มันพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ เลยทำให้คนเราเปลี่ยนไวขึ้น แต่ก็นั่นแหละ ยังมีอีกเยอะ ที่เขายังใช้กล้องเมื่อ สี่ห้าปีที่แล้วอยู่เลย(พวกE1) เพิ่มอีกนิดครับ ผู้บริโภตส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากเปลี่ยนกล้องบ่อยๆ หรอก ซื้อมาแพงก็อยากให้มันอยู่ใช้ได้นานๆ แต่ทำไงได้  มันพังน่ะ ส่วนไอ้ผู้ผลิตนี่ก็  นอกจากจะขยันแข่งเรื่องแฟนซีฟีเจอร์ทั้งหลายแล้ว ยังชยันแข่งลดต้นทุนกันจัง อย่าง ไอ้ 1000D เนี้ยะ ผมรู้สึกว่ามันบอบบางเหลือเกิน (ไม่ใช่ไม่ดีนะ แต่มันไม่แข็งแรง) อีกแนวหนึ่งที่เปลี่ยนเพราะ บางทีไปรับงานอะไรเนี่ยะ ลูกค้าเขาอยากได้ไฟล์ใหญ่ๆ (จะเอาไปอัดโปสการ์ดแปะฝาบ้านเหรอ) พอเรามีกล้องที่มีความละเอียดต่ำ ก็พาลไม่จ้างอีก  เอ้า สรุปอีกทีคือ เขาไม่อย่างเปลี่ยนกันหรอก  แต่โดนบังคับให้เปลี่ยน แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 06:50:05 จากคุณ : รุกฆาต - [ 20 พ.ค. 52 22:27:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เพราะ body มันเป็นส่วนที่เป็นดิจิตัลล้วนๆ ซึ่งธรรมชาติของเครื่องใช้ไฟฟ้าดิจิตัลอายุการใช้งานจะสั้น หมดประกันก็เพิ่มพัง ใช้นานๆโดยไม่เปลี่ยนรุ่นก็ไม่ได้เพราะอะไหล่และอุปกรณ์ที่ compatible ด้วยกันก็ตกรุ่นเลยเลิกผลิตตามๆกันไป เราในฐานะผู้บริโภคก็ต้องตั้งตัวให้ดีว่าจะก้าวตามมันอย่างไรในขอบเขตการใช้งานจริงของเรา ขอบคุณบทความดีๆครับ จากคุณ : kennyG - [ 20 พ.ค. 52 22:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ทุกคนควรจำไว้ครับ  เด๋วนี้กระแสกล้องมาแรง.... ผมก็หนึ่งคน ที่เล่นกล้องพ่อมาแต่เด็กๆ  แต่ก็เพิ่งจะเริ่มเอาจิงเมื่อ ปี-2ปีนี้เอง.... ยอมรับครับ  ว่าเป็นหนึ่งคน ที่ต้องการไต่เต้า  ไปใช้บอดี้เกรดโปรๆ  เลนส์เกรดโปรๆ ทุกอย่างเป็นไปตามสภาพครับ  เงินเป็นปัจจัยที่จำกัดไว้ว่าเราควรเริ่มต้นแค่ไหน... และงาน  เงินที่ได้จากงาน  จะเป็นปัจจัยต่อไป ว่าเราควรก้าวต่อไปยังไง ขอบคุณสำหรับข้อความดีๆครับ.... จากคุณ : racetruck - [ 20 พ.ค. 52 22:31:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมากครับ โหวตแล้วนะครับ คิดว่าคงเตือนใจๆหลายๆท่านที่กำลังจะซื้อกล้องใหม่ในเร็ววันนี้ได้บ้าง เทคโนโลยีในทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปเร็วมากจริงๆ แต่ผมก็ยังเชื่อว่ายังมีคนอีกไม่น้อยที่ยังยึดติดอยู่กับกล้องตัวเดิมของพวกเขา อาจจะมาจากความรัก หรืออะไรก็ตามที่มีกับกล้อง แต่สิ่งนึงที่เหมือนกันก็คือ "มันยังใช้ได้" จากคุณ : ผ่านการตรวจสอบ - [ 20 พ.ค. 52 22:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณจี (GEE) โพสในเวบ thaid ครับ เห็นนานแล้วล่ะ เป็นบทความที่เยี่ยมยอดอันหนึ่งเลยครับ จากคุณ : Take a Look Around - [ 20 พ.ค. 52 22:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยอย่างแรง ผมมี Cannon 400d ตัวนึง เลนส์ 2 ตัว ไม่คิดจะเปลี่ยนเพราะตามมันไม่ไหว ภูมิใจได้ปีกว่าก็ตกรุ่นซะแล้ว ตอนนี้หันมาเล่นกล้องฟิล์มโลโมด้วยกับ Holga 120N มันก็เติมเต็มอะไรบางอย่างในหัวใจได้บ้าง ผมชอบติจิตอลแต่ก็ไม่ลืมกลิ่นฟิล์มครับ มันหอมดี จากคุณ : tuipeera - [ 20 พ.ค. 52 22:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมกะว่า จะใช้ 450D จนแหลกคามือก่อน แล้วถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน ว่าจะเล่นตระกูล ร้อยD หรือไป full frameเลย ขึ้นอยู่กับว่าสามารถหารายได้จากมันรึเปล่า เลนส์ก็เอาแค่ normal zoom 50F1.8 แล้วก็ Tele สามตัว ผมเป็นคนหนึ่งที่พึ่งมาเกาะกระแสกล้องครับ แต่ประกอบกับว่าอยากมีกล้องเป็นของตัวเองนานแล้วเลยขอจับDslrเลยหล่ะกัน แต่ก็เล่นบนพื้นฐาน ในข้อจำกัดของตัวเอง แต่ก็มีคนไม่น้อยที่คิดว่า "กล้องที่ดี" จะทำให้รูปสวยทุกรูปได้อยู่ไม่น้อย ทำให้บางคนคิดว่า การถอย 5D MkII มาทำให้ถ่ายรูปสวย ซึ่งตรงนี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่ง ที่เป็นประโยชน์กับผู้ผลิต ก็เลยยัด fancy feature ไปเยอะๆ แล้วอ้างสารพัด (Marketing) จากคุณ : WaZK - [ 20 พ.ค. 52 22:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เอ ... ทำไม E1 ยังมีคนใช้ ส่วนผม ก็ยังใช้ E500 กะว่าจะใช้ให้มันพังคามือเลย พังเเล้ว ก็จะเปลี่ยนม่านชัตเตอร์ใช้ต่อ ใช้จนกว่ามันจะใช้ไม่ได้ เพราะผมรักมัน เเม้ใครว่ามันไม่ดี ผมก็จะใช้ เพราะผมฝีมือ ฮ่าๆ (แอบชมมตัวเอง) ผมรัก E500 เเต่ถ้ารับงานจริงๆในอนาคต ผมก็คงต้องถอย canon สักตัวล่ะครับ ไม่ใช่เพราะพฤติกรรมการบริโภคนะ เเต่เพราะความรวดเร็วในการทำงานน่ะ จากคุณ : อาร์ตตี้ (อย่าร้องไห้น้า) - [ 20 พ.ค. 52 22:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านจบก็เห็นด้วยหมดเลยตอนนี้ผมก็มีความสุขดีกับ 400d ถ้าจะซื้อกล้องใหม่ก็คงมันพังเนี้ยแหละ จากคุณ : varu - [ 20 พ.ค. 52 22:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณที่เตือนสติกัน เกือบจะปล่อยเจ้าเพื่อนยาก E1 ไปเพราะทานกระแส E3 ไม่ไหว จนหลงลืมไปว่า ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับมันมายาวนานสามปีเข้าไปแล้ว ไม่ใช่เพราะมันตอบสนองผมไม่ได้ ผมยังรีดความสามารถของมันออกมาไม่หมดด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะกิเลสความอยาก จนลืมไปว่าเลือกถ่ายภาพเพราะใจรัก จากคุณ : คนข้างใจ - [ 20 พ.ค. 52 23:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อืมมมม อ่านจบแล้ว โดยส่วนตัวคิดว่าบทความนี้เป็นบทความที่ดี แต่ก็ยังมองในมุมของผู้บริโภคเท่านั้น ไม่ได้มองในมุมของผู้ผลิต ปัจจุบันนี้ฐานผู้บริโภคที่หันมาเล่น SLR มีเยอะกว่าเมื่อก่อนมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วคนที่มาเล่น SLR สมัยนี้เหมือนกับเมื่อก่อนรึเปล่า?? ผู้ใช้ DSLR สมัยนี้มาจากพื้นฐานของฟิล์มส่วนนึง และส่วนนึงไม่เคยเล่นกล้องประเภทนี้เลย (สังเกตง่ายๆจากกระทู้ใน pantip เนี่ยแหละ "อยากซื้อกล้อง DSLR แต่ไม่มีความรู้เลย แนะนำหน่อย") แล้วผู้ผลิตแต่ละรายจะทำอย่างไร ถึงจะจับผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างความมั่งคั่งและความอยู่รอดให้กับบริษัทตัวเอง ที่ต้องใส่คำว่า"ความอยู่รอด"ไปด้วย เพราะผมคิดว่าการตลาดสมัยนี้มันโหดมากครับ หยุดเมื่อไหร่ตายเมื่อนั้น ผู้ผลิตแต่ละเจ้าจึงต้องทำกล้องให้มีความโดดเด่นกว่าคู่แข่ง การยัด feature ใหม่ๆเข้าไปในกล้องจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่ในมุมของผู้บริโภค แต่เป็นในมุมของผู้ผลิต เอาแค่ feature ธรรมดาก็ได้ อย่างเ่ช่นจอ LCD ถามว่าเมื่อก่อนจอขนาด 1.5 นิ้ว ออกมามีใครบ่นมั๊ย ---- ไม่มี      มาตอนนี้ถ้ายี่ห้อไหนออกกล้องที่มีจอ 1.5 นิ้ว คุณจะซื้อมั๊ย ---- ไม่ซื้อ เมื่อก่อนจอ LCD ไม่มี live view มีใครบ่นมั๊ย ---- ไม่มี (หรือมีแต่น้อย)    ตอนนี้กล้องที่ไม่มี live view ขายได้มั๊ย ---- ขายได้ แต่น้อยลง  เพราะถ้าราคาเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน กล้องตัวนึงมี อีกตัวไม่มี ผู้บริโภคจะเลือกอะไร?? คือบางครั้งเราในฐานะผู้บริโภคมันก็เลือกไม่ได้หรอกครับ เพราะอีกฝั่งเค้าก็พัฒนาไปเรื่อยๆไม่หยุด บ่นไปบ่นมา นึกถึงสุภาษิตอันนึง "น้ำเชี่ยว อย่าเอาเรือขวาง" เอวัง จากคุณ : ม่วงโตน - [ 20 พ.ค. 52 23:49:47 ]

ความคิดเห็นที่ 21 -*- ..... เห็นแย้งหน่อยนึง.....ผมรู้สึกว่าเจ้าของบทความ ยึดติดกับกล้องเก่ามากไปหน่อย.....จะเปลี่ยนมาเป็น ดิจิตอล ก็กลัวว่าจะใช้ได้ไม่นาน เดี๋ยวตกรุ่น เลยไม่กล้าใช้ อันนี้เป็นความรู้สึกจริงๆ ที่อ่านจบนะครับ....... ส่วนข้างล่างเป็นเหตุผลแย้ง ในบทความนั้น 1. การพัฒนา sensor เร็วมาก เร็วกว่าการพัฒนาเลนส์ เร็วกว่าจริง และ มันก็มีเหตุผลที่ต้องเร็วกว่า.......       1. คนที่ทำวิจัยเรื่องนี้มีทุกมหาวิทยาลัย และทุกบริษัท...... มีการแลกเปลี่ยนความรู้กันกัน ปีนึงอย่างต่ำ ก็ 2 ครั้ง .... สิ่งที่ทำให้การพัฒนาเซ็นเซอร์ทำได้ มันไม่ได้มีเรื่องเดียว ..... การออกแบบวงจรใหม่เล็กลงได้, การทำภาคขยายที่ให้ SNR สูงๆได้, การออกแบบวงจร A/D ที่ให้ความละเอียดสูงขึ้น, เรียงFilterใหม่....... และอีกหลายๆเรื่อง (หลักๆก็ไฟฟ้า) แต่ละอยากที่ว่ามาข้างบน เอาไปทำเซ็นเซอร์ใหม่ ได้หมด       2. การตลาดมันดันอยู่ ...... ค่ายนี้ไม่ทำ ค่ายอื่นก็ทำ (แล้วการตลาดก็มาดันวิศวะ อีกที ให้หาของใหม่มาลง -*-)       3. เรื่องเลนส์ ..... หลักๆ คือ การจัดเรียงชิ้นกระจก และ Coating.... ตัวกระจกเอง ก็มีการพัฒนาเยอะเหมือนกัน เพียงแค่ มันเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ..... ต่างจาก เซ็นเซอร์ ที่เป้าหมายมันอยู่อีกไกล 2. ทั้งๆที่ feature หลายๆตัวนั้นเป็นเพียง fancy feature หรือเหมือนของเล่นที่ไม่มีความจำเป็นจริงๆ เเต่ถูกยัดเยียดให้ โฆษณาเเละปลูกฝังให้เชื่อว่า feature เหล่านั้นมีประโยชน์ คุณต้องการมัน ยกตัวอย่างเช่น video / picture style / face detection / . . . อันนี้ผมค้านเต็มๆเลยละ ..... มันอยู่ที่คนใช้..... Face detection.......ลองไปเที่ยวกับแฟน 2 คน ....พกกล้องไป 1 ตัว แล้วอยากจะถ่ายรูปคู่กับแฟน.....ว่าแล้ว คุณก็เอากล้องไปวางไว้ที่ โต๊ะ แล้วตั้งเวลา  แล้วก็วิ่งไปเข้าหน้ากล้องคู่กับแฟน..... กล้องไหนมันจะได้รูปโดนใจมากกว่ากัน ระหว่าง มี/ไม่มี Face detection Picture style มันก็คือการปรับ สีในตัวกล้องเลย ..... สำหรับผม รูปถ่ายคือ การถ่ายทอด สิ่งที่เห็น + จินตนาการของผมเอง ....... ถ้าผมเห็นสถานที่นึงแล้วอยากถ่ายรูป แต่ในหัวผมคิดว่า ถ้า Contrast สูงกว่านี้ก็ดี ว่าแล้ว ก็ปรับ Picture style ให้ได้ตามที่หัวคิดไว้ .... แบบนี้คิดว่ามันจำเป็นไหมละ (หรือว่าจะต้องมานั่งปรับในคอม หรือตอนล้างฟิล์ม -*-) 3. + กลุ่มผู้ใช้จะยินดีเเละยอมรับ feature ที่ผู้ผลิตใส่มาให้เเละจะไม่เรื่องมากหรือ demand สูงเกี่ยวกับสเปคกล้อง  กลับกัน จะให้ความสำคัญในเรื่อง film & filter เเทน ถ้าตัดเรื่อง เซ็นเซอร์ แล้ว ส่วนที่เขียน Memory card ออก..... มันก็เหมือนกันนั่นแหละ ..... ....เซ็นเซอร์ กับ ฟิล์ม ........ เพียงแค่กล้องดิจิตอลมันเปลี่ยนเซ็นเซอร์ไม่ได้ -*- และอีกหลายๆเรื่องที่ผมรู้สึก ขัดๆกับบทความนี้ เหมือนคนแก่ ไม่กล้าเปลี่ยนมาเล่น ดิจิตอล แล้วก็หาข้ออ้างมาแก้ตัว -*-...... ปล. 45 focus point  .... ลองใส่ Object tracking ไปสิครับ ได้ประโยชน์เต็มๆเลยละ ..... แล้วกล้องสมัยก่อนมันทำได้ไหม ถ้าไม่มี CPU มาคุม (จริงๆก็ทำได้แหละ แลกกับ พื้นที่ให้วงจรไฟฟ้าแผงนึงไปนอนอยู่ในตัวกล้อง) จากคุณ : ginosty - [ 20 พ.ค. 52 23:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อันนี้ว่ากันไม่ได้นะครับ เหมือนกับรถยนต์...คุณเห็นไหมว่ามันก็ไม่พัง แค่เสื่อมสภาพ+ดูเก่าไม่ทันสมัย ก็ขายทิ้งเปลี่ยนใหม่ทั้งๆที่เพิ่งผ่อนหมดก็มี กล้องก็เช่นกัน  โดยส่วนตัวใช้ 350d มาปีกว่าๆไม่รวม like พอมายุคหลังๆ iso เอย  ขนาดจอเลย  มันดีขึ้นจนต้องยอมที่จะเปลี่ยน เฉกเช่น รถรุ่นใหม่ที่มันแรงขึ้น สวยขึ้น? และมีเทคโนโลยีมากขึ้น abs บลาๆๆๆ   ดงนั้น เงินใครก็เงินใครจบ   ไม่งั้นก็ไม่ต้องเล่นมันทั้งกล้องทั้งรถ เปลืองเงิน จริงไหม? จากคุณ : ผืนแผ่นดิน - [ 20 พ.ค. 52 23:53:12 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อืม อ่านแล้วได้ข้อคิดดีครับ ส่วนตัว ผมว่าจะใช้กล้องจนกว่ามันจะพังน่ะครับ คือคิดว่ากล้องมันทำได้หลายอย่างแล้วล่ะ เหลือแต่ผมหมายถึง เทคนิคการถ่าย,ความใฝ่รู้,ความพยายาม,ความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ อันหลังนี่ผมว่าสำคัญกว่าตัวกล้องเยอะ อีกข้อนึง ในยุคนี้อย่าว่าแต่กล้องเลยคับ ดูง่าย ๆ มือถือ คอมพิวเตอร์ รถยนต์ อะไร ๆ ก็ตกรุ่นเร็วทั้งนั้นแระ สัจธรรมของโลกยุคนี้ ตราบใดที่ความพอใจของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด สินค้าก็ยังขายได้ จากคุณ : FlasherZ - [ 21 พ.ค. 52 00:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เหมือนคนบ้าอัพคอม หลักเดียวกัน จากคุณ : Galim_ - [ 21 พ.ค. 52 00:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมก็คิดคล้ายๆคุณ ginosty ว่า แม้ผมจะเห็นด้วยในหลายๆด้าน แต่ก็ค้านในอีกหลายๆด้านเหมือนกัน ตรงที่เขาบอกว่า คนที่เห็นลูกเล่นใหม่ๆว่าดีเป็นพวกที่ถูกกลืนไปในกระแส เป็นพวกทาสเทคโนโลยีอะไรเทือกนั้น แหม ผมก็เห็นว่า คนเขียนบทความนี้ เป็นพวกไดโนเสาร์เต่าล้านปี มีความคิดโบราณคร่ำครึ รอวันจะสูญพันธ์ เพราะมัวแต่กลัวของใหม่ กลัวการเปลี่ยนแปลง เลยไปยึดติดกับของเก่าๆอยู่นั่นแหละ แล้วก็พยายามหาเหตุผลมาปิดบังความกลัวเทคโนโลยีของตนเอง ถ้าจะว่าไปแล้ว ถ้าจะคิดแบบคนต้นเรื่องนี้ อะไรๆก็เรียกว่าเป็น fancy features ได้ทั้งนั้นแหละ สมัยกล้องมีออกมาใหม่ๆ ไม่มีระบบวัดแสง คนเรียนกฎ sunny 16 ก็ถ่ายรูปได้ พอมีระบบวัดแสงใส่มาในกล้อง ใส่มาทำไม ไร้สาระ เป็น fancy feature แล้วดูทุกวันนี้ซิ? เลนส์แต่ก่อน ก็ manual focus เอา ก็ถ่ายกันได้ชัดดี ก็คิดระบบ auto focus ออกมา คนหัวโบราณก็หาว่าเป็น fancy feature แล้วดูทุกวันนี้ซิ? แต่ก่อนกล้องมีแต่ manual วัดแสงแล้วก็ตั้งค่าเอง เดี๋ยวนี้มีสมองกล มีโหมด av tv p ช่วยคิดให้ออโต้ให้ ทำมาทำไม fancy features ทั้งนั้น ตั้งเองก็ได้ แล้วดูทุกวันนี้ซิ? นี่ผมยังพูดอยู่ในยุคของฟิล์มอยู่เลยนะครับ ยังไม่ได้ข้ามมายุค digital ด้วยซ้ำ จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีใหม่ๆหลายอย่างได้กลายมาเป็นสิ่งที่คนได้ใช้กันจริงๆและมันก็อำนวยความสะดวกให้กับตากล้องไม่น้อย แต่ก่อนก็มีคนบ่นเหมือนกันแหละ ว่าพวกนี้มันไร้สาระ ของเล่น fancy features ฯลฯ ทุกวันนี้มีใครบ่นไม้? ก็เห็นใช้กันทุกคนนะแหละ แต่นายคนนี้ กลับมาบ่นว่าเทคโลโลยีใหม่ๆสมัยนี้มันเป็นแค่ fancy features กล้อง dslr มาถ่ายวิดิโอได้ ทำมาทำไม? fancy features แต่ผมเชื่อว่า ในอนาคตอีกหน่อย มันก็จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา และจะมีกลุ่มนักเล่นกล้องกลุ่มใหม่ขึ้นมาคือนักถ่ายวิดิโอสมัครเล่น ที่ถ่ายวิดิโอได้คุณภาพสูงๆ แสดงผลงานกันเกร่อ เหมือนกับที่เราเอาภาพถ่ายมาอวดกันอย่่างทุกวันนี้ fancy features หรือ? ผมไม่เห็นด้วย และผมว่าไม่ใช่ แต่มันอาจจะใช่ ในความคิดของคนที่จมอยู่กับของเก่าๆและพยายามที่จะยึดติดกับมัน (และพยายามหาพวก)เหมือนกับพวกที่เคยคิดว่า AF เป็นของเล่น กล้องออโต้สมองกลฉลาดๆ เป็นแค่ของเล่น คนพวกนี้ และความคิดแบบนี้ มีมาทุกยุคทุกสมัย แต่ทุกวันนี้ เทคโนโลยีก็ยังก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ สิ่งที่ล้มหายตายจากและสูญพันธ์ไป คือความคิดโบราณๆพวกนี้ต่างหากครับ --==NICK==-- จากคุณ : NICK (||ic|<) - [ 21 พ.ค. 52 00:45:54 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สาเหตุที่ไม่อัพเกรดของช่างภาพอาชีพ + กล้องปัจจุบันหรืออาจจะตกรุ่นไปเเล้ว ยังให้คุณภาพที่ดีพอ ยังได้รับการยอมรับจากลูกค้าว่าคุณภาพยังดีอยู่ + มองเห็นว่าการใช้กล้องอย่างน้อยๆ3-5 ปี เป็นความคิดที่ถูก เป็นการบริหารเงินที่ถูกต้อง ในเเง่หนึ่ง สาเหตุที่ไม่อัพเกรดของช่างภาพมือสมัครเล่น + ไม่มีตังครับ 350D ตัวปัจจุบันตกน้ำมารอบนึง เปิดติดบ้าง ไม่ติดบ้าง แล้วแต่อารมณ์กล้อง แต่ก็ยังทนใช้ต่อไป จากคุณ : ZigmAnia - [ 21 พ.ค. 52 01:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 27 นานาจิตตัง สำคัญที่ตังค์! ของแต่ละองค์ จากคุณ : ILIE_Romania - [ 21 พ.ค. 52 02:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องระหว่างค่ายยังพอ ยังมีเรื่องระหว่างยุคมาให้ขบกันอีก แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 03:18:52 จากคุณ : espucino-ccj - [ 21 พ.ค. 52 03:11:13 ]

ความคิดเห็นที่ 29 " เราใช้กล้องฟิล์มจนพังไปแล้ว ตอนที่จะซื้อกล้องใหม่มันไม่ต้องคิดอะไร มากเลย แน่นอนว่าต้องเป็นกล้อง digital อยู่แล้ว เพราะมันอยู่ในยุคของเขา พอดี ถ้าจะขายต่อยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะเราคงใช้นานจนมันตกรุ่นไปจนไม่ เหลือค่าอะไรอีกหรือพังจนไม่คุ้มค่าซ่อม อย่างเช่นโทรศัพท์มือถือ Nokia 3310 ซึ่งเคยมีราคาเรือนหมื่นมาก่อน " จากคุณ : ตุ๊กตาหมี - [ 21 พ.ค. 52 03:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอให้ข้อมูลเพิ่มอีกนิดนะครับ คุณGEEแกเป็นตากล้องแนวเวดดิ้ง"มืออาชีพ"อยู่ที่อเมริกานะครับ ความคิดเห็นบางอย่างเลยไม่ค่อยตรงกับโลกทัศน์แบบเราๆ แต่ผมดันเห็นด้วยกับแกนะ ห้าห้าห้า (ว่าแล้วก็เก็บ FM เข้ากรุต่อ) จากคุณ : ความคิดเห็นที่3 - [ 21 พ.ค. 52 05:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ็ผมเห็นด้วยกับ คห. 21 ครับ จากคุณ : pohpo - [ 21 พ.ค. 52 05:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณครับคุณจี จากคุณ : ไอ้คุณแหลม - [ 21 พ.ค. 52 07:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จริง ๆ แล้วเรื่องพวกนี้ไม่จำเป็นต้องอ่าน ก็รู้ดีอยู่แล้วหละ แต่ อย่างว่า "ดีชั่วรู้หมด แต่อดไม่ได้"  เพราะอะไรหรือมั้ย ก็เพราะสื่อไง ยกตัวอย่างง่าย บอร์ดพันทิพกล้องก็เป็นตัวหนึ่ง Review กล้องกันเข้าไป เอามายั่วยวน แถมบางคนย้ำนะครับ บางคน ก็มีวาระซ่อนเร้นกับผลประโยชน์กับค่ายกล้องบ้าง คนเข้ามาดูเข้าอ่านก็น้ำลายไหล  รุ่นนี้ภาพดีอย่างนี้ รุ่นนี้ HDR แจ่ม ผมก็เลยเป็นหนึ่งในนั้น อิอิ  ดีชั่วรู้หมดแต่อดไม่ได้ เหมือนกัน  เหอ เหอ จากคุณ : Kent - [ 21 พ.ค. 52 08:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่ค่อยเห็นด้วยกับบทความนะครับ กล้องฟิล์มมันก็พยายามยัดเทคโนเหมือนกันนั่นแหละครับ ต่างกันตรงตลาดมันไม่ได้ขยายตัวเหมือนกล้องดิจิตอล เพราะข้อจำกัดของฟิล์มซึ่งมันใช้งานไม่สะดวก ในมุมมองของผู้บริโภค R&D จึงไม่รุนแรงเหมือนปัจจุบัน แล้วที่ว่าอายุกล้องดิจิตอลแค่ 1 ปี มันจะ 1 ปีได้ยังไงครับ มันอยู่ที่ผู้บริโภคว่ามีความจำเป็นที่จะเปลี่ยนขนาดไหน หรือหลงไปกับกระแสเทคโนขนาดไหน ผู้บริโภคเลือกเองครับ แต่ผมเห็นด้วยกรณีหากอยากซื้อพวก Assesory ต่างๆ อีกสองสามปีอาจจะไม่มีครับ Fancy feature ก็เป็นเสมือน 1 ในกระบวนการ R&D ทั้งหลาย ซึ่ง 10 อย่างอาจจะรอดซัก 1 อย่าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ผมกับเห็นเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคได้ประโยชน์จากการแข่งขันกันพัฒนานี้ ส่วนเรื่อง Body พลาสติกไม่ทน น้องสาวผมมี EOS 500N บอดีห่วยกว่า 1000D อีกครับ แต่ตอนนี้มันยังไม่พังเลยครับ ยังค้างฟิล์มไว้ถ่ายเล่นๆอยู่เลยครับ จากคุณ : เป็ดจิ๋ว - [ 21 พ.ค. 52 08:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ที่เขาบอกว่า ใส่ๆ มา เป็นแฟนซีน่ะ ไม่จำเป็นน่ะ ก็เพราะเมื่อก่อน เราไม่มีความรู้ในการทำให้มันมีขึ้นมาน่ะ มันก็ต้องใช้เท่าที่มีน่ะแหละ แต่ถึงวันนี้ เรามีความรู้ขึ้นมา เราก็ทำ มันก็ใช้สะดวกขึ้น มันก็ได้ มีให้ใช้ บางความสามารถ ที่พูดๆ กันว่า ที่เมื่อก่อนไม่มียังใช้กันได้ ก็เพราะเมื่อก่อนมันไม่มีไง มันถึงใช้ได้ เงินก้อนเดียวกัน เลือกของที่ได้มากกว่า เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว คนส่วนใหญ่ ถ้าของไม่พัง ยังใช้ได้ ตอบสนองได้ เขาก็ไม่เปลี่ยนกันง่ายๆ หรอก ระดับ entry level ราคามันถูกซะที่ไหน จากคุณ : proofman - [ 21 พ.ค. 52 08:51:53 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นจริงทุกประการ จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ - [ 21 พ.ค. 52 09:10:07 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผมคิดว่าเวลาเปลี่ยน..วิถีก็เปลี่ยนครับ ไม่ควรดูถูกผู้บริโภคครับ... ธรรมดาผู้ผลิตย่อมต้องการทั้งยอดขายและกำไรสูงสุด ปัจจุบันกล้องถ่ายภาพก็จัดอยู่ในหมวดสินค้าไอที.. ย่อมไม่พ้นวิถีสินค้าเทคโนโลยี...ที่เราเห็นๆกันครับ จากคุณ : กระเพราเป็ด - [ 21 พ.ค. 52 09:29:07 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ชอบอ่านอะไรประมาณนี้จัง จากคุณ : paefah - [ 21 พ.ค. 52 09:43:30 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ชอบกระทู้แบบนี้จัง ได้มุมมองในอีกหลายๆมุม จากคุณ : Kun.POP - [ 21 พ.ค. 52 10:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อยู่ในแวดวง IT ครับ พอจะเห็นธรรมชาติวัฎจักร์อายุของเทคโนโลยีต่างๆมาพอสมควร ซึ่งตอนนี้ยังใช้ 350D ครับ แต่คงยังไม่เปลี่ยน เพราะมันยังไม่พัง และก็ยังคงชอบถ่ายภาพ แต่คงไม่ยึดเป็นอาชีพหลักแน่นอน.. เพราะมีงานทำอยู่แล้วและถ่ายรุปเป็นงานอดิเรกยามว่างๆ ซึ่งก็มีความสุขดีอยู่แล้วว มีชีวิตที่พอเพียงกันเถอะครับ จากคุณ : น้ำพริกหมูแดง - [ 21 พ.ค. 52 10:44:30 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณสำหรับขอมูลที่น่าสนใจ  แต่ผมจะบอกไว้อย่างว่า คนไทยก็มีนิสัยแบบคนไทยล่ะครับ คือเอาแน่ไม่ได้ จึงมักไม่ค่อยเข้าเกณฑ์ไหนได้เลย ขอให้มีเงินเถอะ ไม่มีข้อจำกัดอยู่แล้ว มีเพื่อนผมเพิ่งจะเริ่มถ่ายภาพ มาปรึกษาผมว่า เขาควรซื้อกล้องรุ่นไหนมาใช้ดี ผมก็บอกไปว่า เริ่มที่ 1000D, D60, 450D, E520 ดีมั๊ย ราคาไม่สูงมาก   สักพักเจอกันอีกที พวกเล่นถือ D700 กับเลนส์อีกสองตัว แล้วก็พูดลอยๆ ว่าแค่ แสนกว่าเอง นี่ขนาดว่ายังไม่ค่อยรู้เรื่องถ่ายภาพนะครับ คิดดูแล้วกัน     สำหรับผมเองวันนี้ถือ D60 ด้วยเหตุผลนึง แต่วันข้างหน้า ผมอาจจะอ้างเหตุผลอื่นๆ เพื่อจะซื้อ D700 หรือ D3 ก็ได้ครับ จากคุณ : E22QV - [ 21 พ.ค. 52 10:58:59 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้างั้น... ผมก็ใช้ 20D ต่อไป... ดีกว่า... ประหยัดตังค์เปลี่ยนกล้องรุ่นใหม่ จากคุณ : zardamonoxication (zardamon) - [ 21 พ.ค. 52 11:13:24 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ก็แค่ความคิดแบบอนุรักษ์นิยม ผมเห็นด้วย ถ้าทำให้คนที่อ่านมีสติในการซื้อ ไม่ให้เดือดร้อนตัวเองและผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง แต่ถ้าเค้าไม่ได้เดือดร้อนก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ผมไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาบทความทั้งหมด เพราะมันเหมือนการโจมตีคนอื่นด้วยการคิดแบบอนุรักษ์นิยมนะ ที่ว่า fancyๆ ทั้งหลายนั้น ผมอยากให้มีให้หมดนั่นแหละ เพราะผมคิดว่าผมได้ใช้ทุกอย่าง ถ่าย vdo นี่ชอบเลย จอใหญ่ๆ ละเอียดๆ ยิ่งมียิ่งชอบ ฯลฯ ใส่มาเถอะครับ ขอให้ราคาจับต้องได้ก็พอแล้วละ โลกมันต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ นั่นละครับ เราจะไปสวนกระแสทำไม ถ้ามีเงิน พอใจก็ซื้อ ไม่พอใจก็ไม่ต้องซื้อ เพียงแต่เวลาจะทำอะไรก็ให้ใช้สติ ใช้หลักความพอเพียง ไม่จำเป็นต้องไปปฏิเสธมันหรอก ไม่จำเป็นต้องไปคิดแบบอนุรักษ์นิยมเลย ไม่จำเป็นซักนิด จากคุณ : เล็ก มหึมา (^oio^) - [ 21 พ.ค. 52 11:30:30 ]

ความคิดเห็นที่ 44 รู้สึกเหมือนฟังคนแก่บ่น เรือ่งที่ไม่ใช่เรืองของตัวเองง่า ใครจะถนัดใช้แบบไหน ก็แบบนั้นแหละ กล้องอายุลดลง?? ...ยังไง ...ก็ไม่ได้บอกให้เปลี่ยนนี่ มันก็ดีเหลือเฟืออยู่แล้ว จะเปลี่ยนทำไม พังแล้วค่อยเปลี่ยน หรือคิดว่า ควรเปลี่ยนแล้วค่อยเ่ปลี่ยนก็ได้นี่ จะเดือดร้อนอะไร ทำไมต้องไปเปรียบเทียบกับกล้องคนอื่น ทำไมต้องใช้อันที่ดีที่สุด หรือเกือบที่สุดเสมอ? อ่านไปอ่านมา เอ๊ะ หรือเขาเข้าใจ เ๊อ๊ะ ยังไง หุหุ เหมือนเขาจะเข้าใจตัวเอง หรือไม่เข้่าใจก็ไม่รู้ หุหุ งงๆ จากคุณ : ... (GreenEyes) - [ 21 พ.ค. 52 11:54:17 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ... โหวต!!! จากคุณ : ดาราวิปลาส - [ 21 พ.ค. 52 12:10:29 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผมก็เริ่มบ้าตามเทคโนโลยี่ เขาอาจจะทำได้100M แต่เขาค่อยๆทะยอยออกมาขาย กินตังค์เราไปเรื่อยๆ แห่ะๆ มันเหมือนฮาร์ดิส พื้นฐาน เมื่อก่อนเป็นM เดี๋ยวนี้ เป็น หลายร้อยG ในราคาคอมพ์ที่เท่าๆเดิม แต่ได้มากกว่า เมื่อก่อนมอเตอร์ไซด์ขับยากจัง ทั้งมือ ทั้งเท้า คลัช  เดี๋ยวนี้เกียร์ออโต้ บางคันหาที่สตาร์ทเท้าไม่เจอ แค่กดสวิช บิดกับเบรค ไปถึงที่เหมือนกัน ผลสุดท้าย สิ่งที่เรียกว่า fancy feature ก็จะกลายเป็นของปกติและอาจต้องมีในกล้องทุกระดับ live view ที่ใครคิดว่าไม่จำเป็น โลกไปไวมาก ต่อไปก็พัฒนาจนถ่ายได้ รวดเร็วไร้ขีดจำกัด ทำไมต้อง สะท้อนผ่านกระจกขึ้นมาก่อน เอาตาแนบรูจึงจะดูภาพได้ ในเมื่อ เราดูภาพได้จากการผ่านกระบวนการอื่นที่ทันสมัยไฮเทค ต่อไปอาจไม่เห็นภาพ คนเอาตาแนบกล้อง นอนหงาย นอนคว่ำ กลางพื้น อีกต่อไป เพราะจอหมุนได้หมด กล้องดีวีดี ก็ไม่มีใครเอาตาแนบกล้องไปแล้ว ยกเว้นกล้องงานยักษ์ ต่อไป มันอาจจะพัฒนาให้ง่าย จน ชาวบ้านธรรมดาไม่ใช่มือมืออาชีพ ก็จะกดถ่ายรูปได้ เหมือนมีออาชีพ เพราะกล้องอาจจะมีปุ่มเมนูอะไร ต่อมิอะไรให้เลือก เรียบร้อย  จะขาวดำ สีจัด โลว์คีย์ไฮคีย์ แค่ท่านส่องไปที่วัตถุ  ว่าจะเอาภาพแบบไหน มีให้ดูก่อนกด  อย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่ต้องมาเลือก รูรับแสง เลือกความเร็ว เหมือนอย่าง white balannce ของกล้องlike ที่เลื่อนจอยเปลี่ยนปุ๊บ ก็เห็นเลย ว่าจะได้ภาพออกมาแสง สีอย่างไร ไม่ต้องมานั่งนึก หรือลองกดถ่ายไล่ ว่าอยู่ในโบสถ์หรือ ห้องพักโรงแรม  แล้วจะเอาแสงออกส้มๆ สวยจนน่าเข้าพัก  จะต้องตั้ง day light หรืออะไรดี ,หรือพอถ่ายวิวเลื่อนปุ๊บก็เห็นฟ้าเปลี่ยนเป็นสีม่วงได้เลย แต่ตอนนี้ ไม่มีตังค์ อิอิ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 12:30:20 แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 12:19:29 แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 12:18:19 จากคุณ : ฟูนัน - [ 21 พ.ค. 52 12:12:36 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมเจอแบบในบทความทุกวันแต่ก็ต้องทำใจเพราะมีเหตุผลหลายอย่าง หุหุ ไม่เจอเองใครก็คงไม่รู้ แต่ยังงัยก็แล้วแต่ผมก็ยังเป็นพวกนิยมของเก่าอยู่ หุหุ ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนกล้องถ้ามันไม่พังและก็ไม่เคยสนหรือใช้Fancy featureเลยถึงแม้จะเห็นมันอยู่ทุกวัน จากคุณ : snoom - [ 21 พ.ค. 52 12:19:42 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ของเล่นผู้ชายมี รถ กล้อง ปืน และกิ้ก และเป็นแบบนี้มานานตั้งแต่รุ่นปู่แล้ว ถ้าสมัยก่อน  กล้องเปลี่ยนทุก 10 ปี ระหว่างนั้นก็เอาเงินไปซื้อรถใหม่ ปินใหม่ หรือเลี้ยงเมียน้อย แทน ปัจจุบันมีกล้องใหม่ทุก 2 ปี เงินที่เอาไปลงปืน รถ กิ้ก ก็น้อยลง เพราะบ้ากล้องแทน อย่างนี้คุณผู้หญิงยังจะใหฺ้แฟนเลิกบ้ากล้องมั้ยล่ะ จากคุณ : jaycee - [ 21 พ.ค. 52 12:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 49 .. การตามเทคโนโลยี กล้อง ไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ได้แตกต่างอะไรไปจาก การเปลี่ยนมือถือ หรือ คอมพิวเตอร์เลยนะครับ เพียงแต่ ต้องรู้จักประมาณตน และหลักการพอเพียงเท่านั้นเอง บทความนี้ มีเจตนาที่ดี  แต่ก็ต้องเปิดช่อง รับมุมมอง และใจกว้างให้กับคนที่มีศักยภาพเพียงพอในการตามเทคโนโลยีด้วย ทุกวันนี้ผมใช้ 400D เพราะยังสนุกกับมัน ยังใช้การได้ และที่สำคัญ คือ กำลังทรัพย์ก็ไม่ได้มากมายอะไรที่จะไปซื้อเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด แต่สมมติว่า จู่ๆผมได้งานใหม่ เงินเดือน 2-3 หมื่น .... ถ้าไม่มีภาระใช้จ่ายอะไร  50D ก็ลอยมาแล้วครับ หรือ สมมติว่า ถูกล็อตเตอรี่ ได้มาเปล่าๆ 2 ล้าน .... 1Ds M III ก็ลอยมาแล้วครับ .. จากคุณ : POGGHI - [ 21 พ.ค. 52 13:03:50 ]

ความคิดเห็นที่ 50 กล้องเป็นแค่อุปกรณ์ ที่ถ่ายทอดทอดความคิดออกมาผ่านสายตา ผ่านประสบการณ์ ผ่านสมอง แล้วเราถึงใช้ความรู้ทั้งหมดตัดสินใจกดชัตเตอร์ให้กล้องบันทึกออกมาเป็นรูปภาพ คนยุคนี้สนใจแต่สิ่งที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จ โดยไม่สนใจที่จะพัฒนาทักษะและแนวความคิด ในจิตใจและสมองเราเอง มัวแต่ไปพึ่งพาอาศัยปัจจัยภายนอก เครื่องไหน อุปกรณ์ใด ถึงจะเจ๋ง ถึงจะสุดยอด จริงอยู่ที่อุปกรณ์ดีๆ จะช่วยทำให้สิ่งเราต้องการออกมาดีีคุณภาพ แต่ตัวเราเองใช้มันได้เป็น ใช้มันได้คุ้มค่าปล่าว ไม่ว่ากล้องดิจิตอลหรือกล้องฟิล์ม เชื่อว่าหากใครให้มันเป็นใช้มันให้ถูกทาง มันก็ดีทั้งคู่แหละครับ หลังๆ ผมใช้กล้องฟิล์มมากขึ้น เพราะสนุกกับการถ่าย สนุกกับการเดา สนุกกับการรอคอย ที่สำคัญทำให้เรามีสมาธิมีสติก่อนจะถ่ายอะไรๆ มากขึ้น ทำให้ใจช้าลง ผมเห็นพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ในห้องนี้ส่วนมาก มักจะเพิ่งอุปกรณ์มากกว่าที่จะรักที่จะถ่ายภาพจริงๆ มีกล้องใหม่ เลนส์รุ่นใหม่ ตัวไหนออกมา รู้หมด หาซื้อมาใช้หมด แน่นอนครับ ว่ามันเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน แต่ถ้าเราให้ความสนใจกับอุปกรณ์น้อยลง มาใส่ใจกับมุมมอง ความคิด ทัศนะคติ และเทคนิคกันมากขึ้น ผมเชื่อว่าไม่ว่าจะกล้องฟิล์มหรือดิจิตอล รุ่นใหม่ หรือรุ่นเก่า ราคาเป้นแสนหรือแค่ 5-600 บาท มันก็ไม่สำคัญ เท่าความสวยงามที่ภาพเหล่านั้นถูกถ่ายทอดออกมาจากใจเรา ของอนุญาตแสดงความเห็นส่วนตัวนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : iba500 - [ 21 พ.ค. 52 13:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณสำหรับบทความค่ะ คงโดนใจใครหลายๆคนทีเดียว ตัวเราเองพึ่งถอยกล้องใหม่ และคิดว่าคงใช้ไปอีกนานค่ะ เนื่องจากเงินจำกัด ณ ตอนนี้ EOS 50 (กล้องฟิล์ม) กับ EOS 50D เหลือเฟือค่ะ จากคุณ : Lambogini - [ 21 พ.ค. 52 13:25:33 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ไม่ต่างอะไรกับ Program NERO แต่ก่อนใช้ burn แผ่นอย่างเดียว เดี๋ยวนี่ fancy program ติดมาเพียบ! 5D MarkII fancy มีคนเอาไปถ่ายหนังนะครับ ไม่ใช่ขี้ๆ fancy feature ไม่ดึงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ คุณก็จ่ายในส่วนที่ไม่ได้ใช้ไป เขาทำให้ใช้ก็ใช้ๆไป เถอะ ต้องใช้ให้ครบมั้ย ไม่จำเป็นครับ! ราคาก็แทนที่รุ่นเก่า แต่ได้เยอะกว่า จะเปลี่ยนตามเรื่อยๆ นั้นเรื่องของคนซื้อเอง โทษเทคโนโลยีไม่ได้ จากคุณ : WATERBOY R - [ 21 พ.ค. 52 13:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 53 โลกเราหมุนรอบตัวเองทุกวันครับ อย่ายึดติด จากคุณ : กังป๋วย - [ 21 พ.ค. 52 15:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เดี๋ยวนี้ผู้คนมีมุมมองไม่เหมือนแต่ก่อน มีการพัฒนาที่ไวเกินไป ทั้งด้านการใช้เงิน การหลอกล่อ หาจุดขายที่คิดว่าคนซื้อต้องซื้อแน่นอน อีกทั้งยังย้ำว่าดีกว่าแต่ก่อนแน่ๆ แล้วอย่างนี้ คนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องดีจะทำอย่างไรล่ะ? จากคุณ : Bouyanca - [ 21 พ.ค. 52 15:18:20 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สิ่งที่ชนะยากที่สุด คือ "ใจตน" จากคุณ : คลิกที่นี่เพื่อส่งข้อความ - [ 21 พ.ค. 52 17:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ผมใช้จนมันรวนนะครับ ตอนนี้ D80 รวน จนไม่กล้ารับงานแล้ว แต่ยังไม่มีเงินซื้อใหม่เลย จากคุณ : ออมทอง - [ 21 พ.ค. 52 17:37:57 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณ เจ้าของกระทู้ครับ กล้องเป็นสิ่งที่ทำให้ผมได้ถ่ายทอดความรู้สึก .... ตอนนี้เวลาเครียด ก็หยิบกล้องแล้วก็ ปุเลงๆ มอเตอร์ไซด์ไปถ่ายวัดครับ ถ่ายไปเรื่อยๆ จนได้เพื่อนฝูงมากมาย มีความสุขที่ได้เข้ามาสังคมคนหลังเลนส์ เรื่องการเปลี่ยน อุปกรณ์ มันอยู่ที่ความพอเพียงครับ . ถ้าเราพอ ชุดไหนก็พอแล้ว จากคุณ : Gazz - [ 21 พ.ค. 52 18:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 58 อ่านบทความดีๆ นี้ที่ THAIDPHOTO นานแล้ว แต่ก็ตามมาอ่านครับ ขอบคุณครับสำหรับบทความดีๆ จากคุณ : SaManTa[GTR] - [ 21 พ.ค. 52 19:35:36 ]

ความคิดเห็นที่ 59 รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ซื้อของแล้วคิดว่า ชั้นใช้ไปจนกว่ามันจะพังแน่ๆ ตอนซื้อ D80 นี่ก็คิดอยู่นานมาก จะรีบใช้ แต่ช่วงนั้นมันก็ยังแพงมาก มีกล้องหลายยี่ห้อที่ราคาย่อมกว่า แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อ เพราะหนึ่งล่ะ เราชอบสีของนิคอน แล้วเราชอบถ่ายภาพก็จริง แต่การใช้งานของเราแค่ รับจ๊อบถ่ายรูปแบบขำๆ ไม่ได้มีอาชีพที่ต้องถ่ายภาพโดยตรง คงไม่ต้องการกล้องที่บอดี้คุณภาพจัดมากขนาดนั้น ส่วนอื่นๆ พวก เสปค  เลนส์ที่สามารถเปลี่ยนใช้ด้วยได้ ก็โอเค สามารถขยับขยายได้อีกเยอะพอสมควร หลังๆ ข่ายกล้องการตลาดรุนแรงมากค่ะ บางครั้งโฆษณา หรือกระแสอะไรบางอย่างก็ดุงผู้บริโภคเข้าไปในวังวน ของของที่ต้องใช้..แต่ไม่จำเป็นมากเกินไป จากคุณ : Razit_GenZo - [ 21 พ.ค. 52 20:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 60 บทความดีครับ แต่ลองหามุมมองผู้ใช้รุ่นใหม่ๆประกอบด้วย การถ่ายภาพสำหรับคนมือใหม่ๆขึ้นคงสะดวกและน่าสนใจแน่นอนครับ จากคุณ : Son&Ning - [ 21 พ.ค. 52 20:25:35 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เคยคิดว่า จะใช้กล้องตัวนี้ไปจนวัน(กล้อง)ตาย หรือพังน่ะเอง ตอนนี้ก็ใช้มาหลายปีละ ไม่เคยคิดจะเปลี่ยน  แม้จะเริ่มอยากเปลี่ยนบ้างนิดๆ แต่นิสัยเราไม่ใช้ซื้อตัวใหม่ ขายตัวเก่า ไรงี้อยู่แล้ว  เลยไม่ยอมเปลี่ยนกล้องสักที แต่ว่า ในที่สุดก็พ่ายแพ้ต่อกิเลส ถอยกล้องใหม่มาเมื่อต้นเดือนนี่เอง ทั้งที่ของเก่าก็ยังไม่พัง  แต่สาเหตุเพราะอยากได้กล้องกันน้ำ ซึ่งกล้องตัวเก่ายังไงๆ ก็ทำไม่ได้ เคยอยากได้มานานแต่ตอนนั้นไม่มีงบอ้ะ ก็ยอมรับว่าที่ซื้อเพราะช่วงนั้นกระแสกล้องกันน้ำกำลังแรง คนมาโพสกันเยอะ  ราคาไม่แพง แล้วเราก็จะไปทะเลพอดีด้วย  แบบนี้จะเรียกว่ากระแสพาไปรึป่าวเนี่ย จากคุณ : sinit - [ 21 พ.ค. 52 21:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ความคิดใครก็ความคิดคนนั้น ก็แล้วแต่คนจะคิดกันไป จากคุณ : bedub - [ 21 พ.ค. 52 22:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คงไม่ได้เป็นแบบนั้นหมดมั้งครับ ผมเองไม่ได้ถ่ายอาชีพ เลยไม่ได้สนใจจะอัพเกรดเท่าไรนัก ใช้กล้องดิจิตอลรุ่นโบราณมานานแล้ว ยังไม่เห็นอยากเปลี่ยนเท่าไรเลย ยอมรับว่าอยากได้ FF แต่มันยังไม่จำเป็น ผมกลับอยากได้เลนส์มากกว่าไม่รู้เท่าไร จากคุณ : @Lfa7D - [ 21 พ.ค. 52 22:32:37 ]

ความคิดเห็นที่ 64 พ่อหนูเป็นตากล้องยุคฟิล์มเต็มตัว พอเจอความง่ายของดิิจิตอล มันบั่นทอนศรัทธาที่มีต่อการถ่ายรูปของท่านไปไม่น้อยเลย "มันหมดยุคฟิล์มไปแล้ว" เป็นประโยคที่หนูได้ยินตลอด น่าเศร้าเหมือนกันนะ หนูว่าบางทีคุณค่าของแต่ละรูปมันก็ลดลงด้วย ตั้งกี่ภาพแล้วล่ะ ที่มีช่วงชีวิตสั้นๆแค่ แชะ>รีิวิว>ดีลีท หนูบ่นเรื่อยเปื่อย อย่าถือสานะคะ ขอบคุณแง่คิดดีๆ ที่โพสค่ะ หนูศรัทธาคุณนะ จากคุณ : Ridge - [ 22 พ.ค. 52 00:16:44 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ู^ ^ ^ เห็นด้วยกับความเห็นด้านบนนี้จัง เพราะรู้สึกเหมือนกันว่าทุกวันนี้เสน่ห์ของการถ่ายภาพมันน้อยลงไปเยอะ เทียบกับเมื่อสมัยเราถ่ายกล้องฟิลม์กัน ตอนนี้กล้องก็เหมือนสินค้าเทคโนโลยีอื่นๆ สำหรับหลายๆคนอาจจะไปเหมือนรถด้วยซ้ำ .. ขับยี่ห้อนี้แล้วรู้สึกดี ถือกล้องรุ่นนี้แล้วรู้สึกดี .. มันอยู่ที่กำลังซื้อ ไม่จำเป็นว่า เป็นมือใหม่แล้วต้องใช้กล้องรุ่นเล็กเสมอไป มือใหม่อาจจะไปใช้กล้องราคาระดับแสน .. ก็เหมือนกับคนขับรถมือใหม่นั่นแหละ เริ่มขับที ก็ขับรถเบนซ์ บีเอ็มเลย มีเยอะแยะ เพราะมันอยู่ที่กำลังซื้อมากกว่า จากคุณ : Cookie 'n' Cream - [ 22 พ.ค. 52 01:36:49 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ยุคสมัยฟิล์ม คนนึงกว่าจะชำนาญต้องใช้ทั้งเวลาและเงินทุนมาก ผิดกับยุคดิจิตอล ทำให้เราเห็นภาพถ่ายสวยๆมากมายเต็มไปหมด นั่นทำให้คนยุคฟิล์มที่ไม่ปรับตัวยอมรับรู้สึกท้อ.. แต่อ้างว่าดิจิตอลทำขาดเสน่ห์ จากคุณ : กระเพราเป็ด - [ 22 พ.ค. 52 08:55:21 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อ่านแล้ว ความรู้สึกอยากขึ้นดอยหาย ไป เยอะเลย.... D80 ของ เราตอยโจทย์อะไรไม่ได้หรอ.... น่านซิเนอะ ก็แค่ถ้าเทียบกับ D300 แล้วแล้ว จับถนัด น้อยกว่า ไม่ใช่ว่าไม่ถนัดสักหน่อย รู้สึกแบบนั้นครับ... เรื่อง noise ก็แบบว่า..ปกติรับงานรับปริญญา ก็ถ่ายกลางแดดนี่เนอะ...เออ เอาจริงๆ ก็โดน การโฆษณา ทำให้เขวไป .... ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับบทความครับ ..... รู้สึกว่า อาจจะดูพูดรุนแรง และ แนวตามเทคโนโลยีไม่ทัน..แต่ก็น่าคิดครับ.... สรุป ผมว่าใช้ให้เหมาะสมกับความจำเป็นดีกว่าครับ... พอเพียงครับ จากคุณ : >> (bbee_blue) - [ 22 พ.ค. 52 13:39:48 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ผมเองค่อนไปทางหัว Technology นะครับ ก็คงต้องบอกว่ามันเป็นความแตกต่างระหว่างกล้องฟิลม์ กับดิจิตอลนะครับ และที่สำคัญความคิดเห็นนี้น่าจะเป็นความคิดเห็นของคนที่หากินกับการถ่ายภาพนะครับ ซึ่งผมคงไม่มีปัญญาซื้อกล้องแรงๆ ในตอนนี้นะครับ สำหรับผม ผมมองว่า Fancy Feature ทั้งหลายนี้บางอย่างผมคิดว่ามันก็ไม่เลวนะครับ อย่าง Face Detection นี้มันเจ๋งมากๆสำหรับคนถ่ายรูปมือใหม่และจำเป็นสำหรับกล้อง Compact ไม่น้อย (จริงๆ ผมอยากให้มีฟังก์ชั่นเตือนเวลามีคนหลับตาในกล้อง Compact นะครับ ตั้งชื่อว่าเป็น Closed eye warning Detection ละกัน 5 5 5) ส่วน Video ผมว่าคนใช้งานทั่วไปน่าจะใช้ประโยชน์จากลูกเล่นพวกนี้ได้นะครับ มีหลายสถานการณ์ที่ภาพเคลื่อนไหวมีค่ามากกว่าภาพนิ่งราวฟ้ากับเหว แน่นอนครับว่าลูกเล่นนี้คงทำไม่ได้ในยุคกล้องฟิลม์ จากคุณ : Jc (Jc2000) - [ 22 พ.ค. 52 14:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ซื้อกล้องใหม่ไปแล้ว... อ่านไม่ทันค่ะ ๕๕๕ วันนั้นเพิ่งคิดเรื่องคล้ายๆแบบนี้อยู่เลย แต่ไม่ได้คิดมากอะไรนะคะ (สมองน้อยนิด คิดมากไม่ได้) เพิ่งถอยกล้องใหม่มา ก็มานั่งคิดว่า ตอนนี้เราเลือกกล้องกันที่อะไรหว่า ทำไมต้องคิดมากขนาดนี้ ทั้งที่คุณภาพก็ไม่ต่างมาก แต่ต้องคิดว่าจับแล้วชอบไหม ชอบสีไหม ชอบแสงที่มันวัดให้ไหม ก่อนนี้ใช้ฟิล์ม ไม่ค่อยได้คิดเรื่องกล้อง (หรือเพราะตอนนั้นไม่มีเงินเลือกเองด้วย) มีกล้องก็แค่ เออ รุ่นนี้คมดีแฮะ จะมาต้องเลือกก็คือ ฟิล์ม เอ เอา 100 หรือ 200 ดี สี Kodak ก็สวย สี Agfa ก็ดีเหมือนกัน ถูกกว่าด้วย แล้วก็มาลุ้นตอน อัดรูปอีกที มันเปลี่ยนไปเยอะเลยเนอะ ( digital ดีมากๆที่ประหยัดค่าล้างอัด แต่เหนื่อยที่มันแต่งรูปได้นี่แหล่ะ) PS. ตัวที่เพิ่งถอยคือ compact ... คิดได้ว่า อย่างอื่นช่างมัน มุมแกไม่สวย ถ่ายอะไรก็ไม่สวยสักที มาหัดที่มุมมองก่อนดีกว่า (ถ่ายไม่สวยเอง จะได้โทษกล้องได้ว่า หนูใช้แค่กล้องเล็กนี่นา ^_^) จากคุณ : angpang - [ 22 พ.ค. 52 14:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ผมว่า กล้อง ฟิล์ม กับกล้อง ดิจิตอล...ถ้าถ่ายปริมาณ เท่ากัน.. กล้องดิจิตอล ประหยัดกว่า...... ..ฟิล์ม ม้วนละ 100  ค่าล้าง 20 บาท ค่าอัด แผ่นละ 3 บาท  ฟิล์ม 1ม้วน 36 ภาพ  108 บาท รวมค่าใช้จ่าย  228 บาท ต่อ 36 ภาพ.............. ...ดิจิตอล  เมม การ์ด 4 กิ๊ก 500 ภาพ  ไม่อัด ไม่เสียตังค์  หรือ ไม่เน้นมาก ใช้พรินเตอร์ ยังพอดูไหว.......... ............................................................ ผมว่า ถึงจะเปลี่ยนรุ่นเร็ว ยังพอ ทนไหว....รุ่นใหม่ ไม่ชอบก็ไม่ซื้อ แล้วก็ ส่วนมาก ซื้อแล้วก็ใช้ขนคุ้มค่า นะครับ.... คงมีน้อยคน ที่จะซื้อ กล้องรุ่นที่ออกใหม่ๆ ทุกๆปี จากคุณ : Stalwart - [ 22 พ.ค. 52 14:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ระดับเงินเดือนคงไม่สามารถเปลี่ยนได้หลายๆตัว แค่อยากมี DSLR ประจำตัวไว้สัก 1 เครื่อง คิดเอาไว้เหมือนกันว่าจะใช้ 450D จนพังกันไปเลย ขอบคุณสำหรับบทความดีๆด้วยนะคะ จากคุณ : มันแน่นอนจริงจริง - [ 22 พ.ค. 52 15:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ที่บ้านไม่เปลี่ยนแน่นอนเหมือนกันค่ะ ถ้ามันไม่พังไปซะก่อน กะใช้ตัวนี้ยันมันซ่อมแล้วไม่คุ้ม แต่คิดว่าตอนนี้จะเก็บเงินไว้ลงทุนกับเลนส์ เพราะเห็นเค้าบอกว่าขายขนาดไหนก็ไม่มีตกรุ่น บอดีเก่า แต่เลนส์เก๋ากว่า เอาค่ะ อิอิ จากคุณ : บล๊อกนี้___ไม่มีชื่อ - [ 22 พ.ค. 52 16:51:59 ]

ความคิดเห็นที่ 73 โลกมันหมุนทุกวันครับ หยุดการพัฒนาไม่ได้หรอก พัฒนาก็เพื่อพานิชย์ จากคุณ : nerdearth - [ 22 พ.ค. 52 18:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เห็นด้วยครับ ด้วยเทคโนโลยีของDSLRในวันนี้ไม่ต้องเปลี่ยนกล้องแล้วล่ะ ใช้ได้ยาวๆเลย เปลี่ยนแค่เลนส์ก็พอ แต่กิเลสมนุษย์ กับการพัฒนากล้องของบริษัทผลิตกล้องคงหยุดไม่ได้หรอกครับ ถ้ามีกล้องที่ดีแล้วก็ต้องพอเพียงกัน แต่เราจะทนกิเลสตัวเองได้หรือปล่าวนั่นนะซิครับ จากคุณ : nice rider - [ 22 พ.ค. 52 19:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ผมว่าตัวกระทู้เองแหละ สุดยอด คือ ใช้หลักแนวคิดอนุรักษ์นิยม สานต่อแนวคิดรูปบบใหม่ๆ ในมุมมองเปิดกว้าง ถ้าไล่อ่านตั้งหัวกระทู้จน คอมเม้น สุดท้ายก็จะเข้าใจ ว่ากล้องก็คือกล้อง ถ้าต้องการเห็นแค่กล้อง ก้จะไม่เห็นอย่างอื่น สนุกมากๆ ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Ikki - [ 22 พ.ค. 52 23:37:22 A:125.24.203.89 X: TicketID:216233 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ..... ออกตัวก่อนว่า เป็นมนุษย์ analog ค่ะ  หัวช้าเรื่อง digital แต่พยายามศึกษาอยู่ อ่านหลายๆ ความเห็นแล้วแอบนึกถึง บทสัมภาษณ์ช่างภาพท่านหนึ่ง จำไม่ได้แม่นนัก แต่เนื้อความประมาณว่า.. "กล้องฟิล์มกับกล้องดิจิตอลบอกไม่ได้ว่าอะไรดีกว่า แต่มันควรเป็นเรื่องของทางเลือก ..ถึงจะเป็นยุคของสิ่งใหม่ แต่ก็ควรเหลือที่ทางให้สิ่งเก่าๆ ได้ยืนได้เดินบ้าง" ..การตลาดทุกวันนี้ ทั้งที่ "เหมือน" มีตัวเลือกให้เรามากมาย แต่จริงๆ ไม่ค่อยเหลือทางเลือกให้เราเลยนะ จากคุณ : จิตรางคทา - [ 23 พ.ค. 52 00:19:30 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ เราลืมไปแล้วเหรอว่า จุดประสงค์ที่แท้จริงของกล้องคือ เพื่อ"บันทึกภาพ"เท่านั้น เราภูมิใจที่ยังใช้1000Dต่อไป จากคุณ : -นู๋ปอ- - [ 23 พ.ค. 52 03:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เรื่องของเรื่องก็คือ มันมีเส้นบางๆ ตรงกลางระหว่าง "ถ่ายรูปได้" กับ "ถ่ายรูปเป็น" เดี๋ยวนี้ถ้าถามถึง กฎ Sunny 16 คงหาคนอธิบายยาก ว่ามันคืออะไร ใช้อย่างไร จากคุณ : Mr.balloon - [ 23 พ.ค. 52 05:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ได้หลากหลาย  มุมมองจริง ๆ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : The Sphinx - [ 23 พ.ค. 52 08:06:21 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เป็นบทความที่ดีมากมากครับ    ตามงบ  ตามยุค  ตามให้ทันเทคโนโลยี แต่อย่าตามตัวอย่างของความโก้  ฟุ่มเฟือย ไร้จุดยืนที่แท้จริง    ถ่ายภาพเป็นศิลปะที่ต้องใช้จิตวิญญาณ ใช้ใจและจินตนาการเข้าสัมผัส จึงจะได้รูปได้ภาพที่ออกมาจากข้างใน(ใจ)     ที่แบกกล้องข้าวหลามกันทั้งเมือง จะมีใครกี่คน ที่ถ่ายรูปเป็น กล้องฟิล์มไม่ได้หมดค่า เพียงแต่ตอบสนองความต้องการ  ความรวดเร็วของ โลกาภิวัฒนาได้ไม่เต็มสูบก็เท่านั้น จึงมีคนใช้น้อยลง   อย่าลืมความพอเพียงที่เราควรจะมี เป็นความคิดเห็นส่วนตัว   ขอบคุณครับ จากคุณ : theodenn - [ 23 พ.ค. 52 10:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ยิ่งโรงงานทำรุ่นใหม่ๆออกมา ใครจะซื้อจะหาก็ตามใจ ยังไงก็ต้องนำเข้ามาขาย ต่างชาติได้เงิน รัฐได้ภาษี คนซื้อได้ของ เห็นรุ่นใหม่มา ของเดิมในมือก็ขาย ให้รุ่นน้องได้สัมผัสในความงามของภาพถ่าย ในราคาไม่แพง รุ่นพี่เปลี่ยนบ่อย ขายของเก่าบ่อย รุ่นน้องได้สอยรับช่วงต่อ เลนส์กล้องดิจิตอล เป็นของมือสอง ที่ราคาไม่ตกมาก เพราะยังมีคนอยากใช้เรื่อยๆ เลนส์ใหม่ที่ผลิตมาเป็นปี ก็ยังมีคนซื้อใช้เรื่อยๆ เพราะมันไม่ใช่ของที่ตกยุคง่ายๆ เทคโนของเลนส์ยังไม่ก้าวกระโดดไปไกลกว่ากล้อง หลักการทำงานเหมือนเดิม ต่างแค่วิธีทำงานที่เปลี่ยนไป๋ เลนส์เก่า กล้องใหม่ คนถ่ายแก่ มีเยอะแยะ เลนส์เก่าในมือพี่ ขายให้น้องเถอะครับ จากคุณ : ตะอีโม่ง - [ 23 พ.ค. 52 11:39:55 A:115.67.172.107 X: TicketID:160546 ]

ความคิดเห็นที่ 82 video / picture style / face detection ไม่รู้ใส่มาทำไม  ไม่เคยได้ใช้เลย เพราะไงสุดท้ายก็ต้องจบที่คอมอยู่ดี จากคุณ : zaskar27 - [ 23 พ.ค. 52 16:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 84 Fancy Feature อันนึงที่กล้องดิจิตอลทำไม่ได้เลย คือ Full Mechanic ครับ จากคุณ : Komeks - [ 24 พ.ค. 52 00:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ผมว่าบทความนี้ก็ไม่ได้ถึงกับบ่นเป็นคนแก่พร่ำเพ้อหาแต่อดีต หรือโจมตีกล้องดิจิตอลนะครับ เพียงแต่ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมการบริโภคของคนสมัยปัจจุบันต่อเทคโนโลยีกล้องดิจิตอล  เจตนาของบทความนี้ ผมว่าก็คือให้ผู้บริโภคมีสติรู้เท่าทันการตลาด  ใช้เงินที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าที่สุดในการเลือกซื้อกล้องดิจิตอล โดยดูจากความจำเป็นและความต้องการที่แท้จริงเป็นหลัก ไม่ใช่เห่อไปตามแฟชั่นหรือพวก fancy feature ที่ตัวเองแทบไม่ได้ใช้งาน  และก็ให้ใช้กล้องให้คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปมากที่สุด  การซื้อกล้องใหม่แทนกล้องเดิม(ในกรณีที่กล้องเก่ายังไม่พัง)ก็ควรคำนึงว่า feature ใหม่อันนั้นเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีหรือไม่ คุ้มกับเงินที่จ่ายไปหรือไม่ จากคุณ : David_kop - [ 24 พ.ค. 52 05:12:08 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เขียนได้ จ๊าป มากเพ่ จากคุณ : ZxRiDxzZ (ZxRiDxzZ) - [ 24 พ.ค. 52 21:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 87 จะรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่สิ่งสำคัญก็อยู่ที่คนเบื้องหลังล่ะครับ ผมว่าต่างคนต่างความคิด ขอแบ่งเป็น สองฝ่ายคือ ผู้บริโภค กับผู้ผลิต ทำไมกล้องผมตกรุ่นเร็วจัง สำหรับสิ่งทีเราคิดว่ามันดีที่สุดในวันนี้ แต่อีกไม่นานก็จะมีสิ่งที่ดีกว่ามาทดแทน ผมไม่เห็นว่าฟังก์ชั่นต่างๆที่ผู้ผลิต ใส่เพิ่มมามันจะไม่ดีตรงไหน ดีครับหลายๆอย่างถ้ามันเกิดมาตั้งแต่สมัยกล้องฟิล์มก็คงดี เช่น iso wb  แต่ผมยอมรับว่าการที่ผู้ผลิต ยกเลิกสายพานการผลิตเร็วไป ก็ส่งผลต่อเราๆครับ เช่น รุ่นนี้อะหลั่ยเลิกผลิตไปแล้ว etcพอซ่อมไม่ได้ก็ต้องซื้อของของเขาอีก ผมอยากให้กล้องมีน้อยรุ่นกว่านี้ครับ แต่ขอให้มีอะหลั่ยให้เปลี่ยนกันนานๆ เห็นด้วยนะครับกับ ความคิดเห็นที่ 76   ..... ออกตัวก่อนว่า เป็นมนุษย์ analog ค่ะ  หัวช้าเรื่อง digital แต่พยายามศึกษาอยู่ อ่านหลายๆ ความเห็นแล้วแอบนึกถึง บทสัมภาษณ์ช่างภาพท่านหนึ่ง จำไม่ได้แม่นนัก แต่เนื้อความประมาณว่า.. "กล้องฟิล์มกับกล้องดิจิตอลบอกไม่ได้ว่าอะไรดีกว่า แต่มันควรเป็นเรื่องของทางเลือก ..ถึงจะเป็นยุคของสิ่งใหม่ แต่ก็ควรเหลือที่ทางให้สิ่งเก่าๆ ได้ยืนได้เดินบ้าง" ..การตลาดทุกวันนี้ ทั้งที่ "เหมือน" มีตัวเลือกให้เรามากมาย แต่จริงๆ ไม่ค่อยเหลือทางเลือกให้เราเลยนะ จากคุณ : จิตรางคทา   - [ 23 พ.ค. 52 00:19:30 ] จากคุณ : yoslam - [ 1 มิ.ย. 52 03:42:56 ]