ความคิดเห็นที่ 7

โหยยย น้าโน่ ถามแบบนี้สงสารกล้องมันนะครับ..... เอาว่าสำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก Leicaflex ผมขออนุญาตให้ข้อมูลเบื้องต้น (แบบเวอร์ๆ แต่จริงจัง) ดังนี้ครับ (ผมอ่านเยอะมากก่อนตัดสินใจซื้อ เลยมีเกร็ดมาแชร์นิดหน่อยครับ ข้อมูลส่วนมากมาจาก forum ของ photo.net (ผมว่าเป็น forum ที่ guru เยอะที่สุดในโลกแล้ว เข้าไปอ่านที อ่านเพลินไปเลย ลืมงานลืมการ) ตอนนั้นมี R8 กับ Leicaflex SL นี่แหละ ที่เป็นตัวเลือก สองตัวนี้อายุห่างกันยี่สิบกว่าปีครับ)
- Leicaflex SL เป็นกล้อง SLR ตัวที่สองของ Leica ที่ว่ากันว่าขายแล้วขาดทุนเพราะต้นทุนการผลิต แพงกว่าราคาขาย!! - Leicaflex SL ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ว่ากันว่าตกจากเครื่องบินก็ยังถ่ายต่อได้ ตัวที่ตกจากเครื่องบินนี้ ตอนนี้โชว์อยู่ที่ museum แห่งหนึ่งในเยอรมัน - Leicaflex SL เป็นกล้องตัวหนึ่งที่ได้รับการยอมรับว่าช่องมองใหญ่และสว่างที่สุดในประวัติศาสตร์ SLR!!! อันนี้ผมพิสูจน์มาแล้ว ต้องบอกว่าจริงครับ ผมทดสอบโดยเอา Dynax 9 ซึ่งได้ชื่อว่า screen สว่างบรรลัยเป็นตัวตั้ง แล้วใช้ DOF Preview หรี่รูรับแสงลงมาแล้วดูว่ากล้องอื่นๆ เทียบกับ Dynax 9 มันห่างกันกี่ stop (ใช้เลนส์ 50mm ทั้งหมด) ผมปรากฎว่ามีแค่ OM-1 ที่ใช้ screen ของ Nikon F90 เท่านั้นที่สว่างเท่า Dynax 9 ครับ ส่วน Leicaflex ทำได้ใกล้เคียงมาก โดยมืดกว่าแค่ 0.5 เท่านั้นเอง ตรงนี้ ผมต้องอธิบายอีกนิด ผมอนุมานว่าน้าๆ หลายๆ ท่านคงทราบแล้วว่า screen สว่างไม่ได้แปลว่า focus ง่าย แต่มันขึ้นอยู่กับ contrast ของ screen และวัตถุที่โฟกัสด้วยว่าเป็นลักษณะไหน (Beattie หลายๆ รุ่นทำออกมาสว่างแต่ขาด contrast คนก็ด่ากันขรมเหมือนกัน) screen ของ SL เป็นแบบเรียบ แปลว่ามันไม่หยาบ (coarse) สำหรับการถ่ายทั่วๆ ไปอาจจะดูรายละเอียดเล็กๆ ยาก แต่พอชินแล้วก็จะชอบครับ เพราะมันจะสว่างกว่าแบบหยาบพอสมควร (ใครนึกภาพไม่ออก ลองยกกล้อง AF ขึ้นมาส่องได้ครับ แบบนั้นแหละครับ) screen ของ K1000 หยาบมาก (ผมว่าหยาบที่สุดที่เคยเห็นเลยมั๊ง) แทบจะเห็นเป็นเส้นๆ ในช่องมองภาพเลย แต่ก็ทำให้โฟกัสง่ายดีนะครับ ส่วนเจ้า SL ต้องบอกว่าความง่ายในการโฟกัสอยู่ในระดับ "ดีมาก" แต่ยังไม่ดีที่สุดครับ (แพ้ X700, MX) - จนถึงวันนี้ Leica ก็ยังมี parts ของ SL อยู่ นัยว่าใช้ไม่หมด เพราะกล้องทน!!!
แบบเวอร์ๆ ก็มีเท่านั้นล่ะครับ นอกจากนั้นก็มีระบบวัดแสงแบบ spot เนื้อที่เท่า micro prism (ในยุคนั้นไม่มีกล้องโปรไหนมีแบบนี้) แล้วก็มาเรื่องเลนส์ เจ้า SL จะว่าไปมันก็คือ Leica R1 ล่ะครับ (Leicaflex = R0, SL2 = R2) แต่ว่ามันใช้เลนส์ R ได้ไม่หมด ที่ไม่ได้แน่ๆ คือเลนส์ ROM เพราะมันจะเจ๊ง เลนส์ 1CAM ใช้ได้ แต่ต้อง stop down วัดแสง และเลนส์ต่อไปนี้ใช้ไม่ได้ครับ (เพราะ mirror clearance ไม่พอ)
15mm Elmarit 15mm Elmarit 16mm Fisheye 19mm Elamrit รุ่นใหม่ 24mm Elmarit 35mm Summilux 50mm Summilux รุ่นใหม่ 80-200mm f/4.5 Vario Elmar
น้าๆ ที่เล่น M อาจจะเห็น SL เป็นก้อนเหล็กเก่าๆ แต่สำหรับคอ SLR อย่างผม ผมบอกเลยว่าชอบมากๆ งานประกอบดีมาก (ดีกว่า OM-1, K1000 อย่างเห็นได้ชัด เอาง่ายๆ ว่าตอนเลื่อนรูรับแสง หรือปรับชัตเตอร์ ไม่ต้องกลัวระบบ couple มันจะเจ๊ง เพราะมันไม่มีทีท่าว่าจะเจ๊งเลย!!) ชัตเตอร์ผ้าแต่วิ่งได้ถึง 1/2000 วินาที และที่สำคัญ ราคาคุ้มค่ามากๆ ถ้าดูดีๆ ในนังเบย์ ตัวสีเงินใหม่ๆ เลยราคาอย่างแพงก็หมื่นกว่าบาทไทยเท่านั้นเองครับ
ภาพนี้จาก SL ครับ มุมที่ผมชอบที่สุดใน Aberdeen
จากคุณ :
csirre
- [
31 พ.ค. 52 08:32:13
]
|
|
|