ความคิดเห็นที่ 1 อืมๆ จากคุณ : espucino-ccj - [ 28 มิ.ย. 52 21:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปาดและเซฟ จากคุณ : booklovers - [ 28 มิ.ย. 52 21:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มารอรับความรู้ครับ จากคุณ : AODAOD29 - [ 28 มิ.ย. 52 22:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีข้อสงสัยนิดหน่อยเกี่ยวกับ พรบ. ลิขสิทธิ์ กับ ปพพ. ในเรื่องสัญญาจ้างทำของ ซึ่งใน ปพพ. ระบุว่าถ้าเป็นสัญญาจ้างให้ทำงานชิ้นหนึ่งๆ ขึ้น โดยผู้ว่าจ้างจ่ายเงินให้กับผู้สร้างสรรค์ผลงาน ผลงานนั้นๆ จะเป็นของผู้ว่าจ้าง อันนี้ผมเคยได้ยินได้เห็นมา แต่ไม่เคยเปรียบเทียบกันอย่างจริงจัง อย่างไรรบกวนผู้รู้ช่วยชี้แจงด้วยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ritaldi (ritaldi) - [ 28 มิ.ย. 52 22:57:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 DVD ที่ซื้อมาดู แผ่นเราเป็นเจ้าของ แต่ตัวหนังไม่ใช่ของเรา จากคุณ : leetaesok - [ 29 มิ.ย. 52 08:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อืมมม นั่นเองสินะ (เสียดาย กระทู้ต้นตอหายไปซะแล้ว เลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น) แต่ถ้าถามผม copyright เป็น IP ที่ยากที่สุดแล้วครับ ไม่แปลกที่คนจะไม่เข้าใจ (และมั่นใจด้วยว่าคนที่คิดว่าเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจทั้งหมดอยู่ดี) จากคุณ : csirre - [ 29 มิ.ย. 52 09:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ได้ความรู้มากๆเลยค่ะ ขอบคุณคุณแมวเหมียวนะคะ จากคุณ : IdiotDog - [ 29 มิ.ย. 52 10:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ก็ประมาณว่า mem ไฮโซ อักษรย่อตัว t. เจ้าเก่านั้นแหล่ะครับ เฮี่ยนจริงๆ จากคุณ : leetaesok - [ 29 มิ.ย. 52 12:02:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 #4 จ้างทำของคือสัญญาที่ระบุงานเป็นชิ้นๆ การทำสัญญาคือการทำสัญญาสั่งให้สร้างงาน หรือถ้าพูดแล้วเข้าใจง่าย คือ "สั่งซื้อของโดยให้ผลิตให้" (แต่ "ของ" มันไม่จำเป็นต้องเป็น "ของ" แบบจับต้องได้นะ เอาเป็นว่าง "ชิ้นงาน" อย่าง การไปพูด หรือการตัดผมให้ อาบน้ำให้ ฯลฯ พวกนี้ทางกฎหมายถือเป็น "ของ" ตามเอกเทศสัญยาลักษณะนี้) การจ้างทำของ จะทำให้ผู้ว่าจ้างได้ทั้งตัวงานนั้น และลิขสิทธิ์ในงานนั้น เว้นแต่ตกลงกันเป็นอื่น เช่น จ้างคนมาถ่ายรูป จะได้ไฟล์ หรือได้รูปภาพ พร้อมลิขสิทธิ์ คือคนถ่ายก็ไม่มีลิขสิทธิ์แล้ว จะนำภาพนั้นไปขายที่อื่น หรือให้เช่าใช้ไม่ได้ แต่นั่นแหละครับ กฎหมายแพ่งมันตกลงเป็นอื่นได้ถ้าไม่มีกฎหมายห้ามหรือกำหนดอะไรไว้ กรณีจ้างแรงงาน คือการจ้างที่มีวัตถุประสงค์ให้ทำงานให้ เสร็จไม่เสร็จไม่ใช่ประเด็น คือ ถึงไม่เสร็จก็ต้องจ่ายเงินให้รายเดือน รายงวด หรือรายอะไรสักอย่างอยู่ดี เช่นนี้ตามกฎหมายแล้ว ผู้ว่าจ้างไม่ได้ลิขสิทธิ์ เช่น บริษัทจ้างคนมาทำหน้าที่เวบมาสเตอร์ มีเงินเดือน มีสวัสดิการ ไปแจ้งประกันสังคม เป็นลูกจ้างตามกฎหมายจ้างแรงงานและคุ้มครองแรงงาน งานของเวบมาสเตอร์ เช่นการออกแบบแฟลช (ไฟล์เคลื่อนไหวนะครับ ไม่ใช่ SB800 หรือ 580 EX) การไปถ่ายรูปมาลง การเขียนข้อความประชาสัมพันธ์ ตามกฎหมายแล้วถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้ทำงานนั้น แต่มันไม่อย่างนั้นเสมอไป บางครั้ง มันมีประเด็นซ้อนกันให้เป็นปัญหา เช่น ว่าจ้างทำเวบ และต้องถ่ายภาพสินค้าลงเวบ แบบและลายของสินค้า บางครั้งเป็นลิขสิทธิ์ของนายจ้าง รูปถ่ายเป็นลิขสิทธิ์ของลูกจ้างก็จริง แต่ ลูกจ้างเอาไปเผยแพร่หรือให้เช่าใช้ มันเสี่ยงกับการละเมิดลิขสิทธิ์ของนายจ้างเหมือนกัน (น่างง - เออ ผมยกตัวอย่างเองยังงงเองเลย) อันนี้ต้องรอผู้เชี่ยวชาญ ผมไม่ได้เอกด้านลิขสิทธิ์ แต่ชอบและสนใจเป็นพิเศษเท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 52 23:15:35 จากคุณ : บุญชิตฯ (Players) - [ 29 มิ.ย. 52 23:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อีกเรื่องที่ไม่ค่อยเข้าใจกัน คือ "คน" "สิ่งมีชีวิต" "สถานที่" ไม่มีลิขสิทธิ์นะครับ การที่ช่างภาพถ่ายภาพนางแบบ นางแบบไม่ได้มีลิขสิทธิ์ในภาพนะครับ ช่างภาพนั้นต่างหากที่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นผู้สร้างสรรค์งาน หลายคนเข้าใจผิดในเรื่องนี้ แต่ การเผยแพร่ภาพบุคคลในทางที่ทำให้เขาเสียหาย เขาจะมีสิทธิตามกฎหมายแพ่งที่จะเรียกค่าเสียหาย หรือถ้าเข้าองค์ประกอบในความผิดฐานหมิ่นประมาท ก็จะมีสิทธิในทางอาญาด้วย จากคุณ : บุญชิตฯ (Players) - [ 29 มิ.ย. 52 23:14:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณ คุณบุญชิตฯ (Players) มากครับ สรุปจากข้อมูลได้ว่า 1. กรณีของการจ้างให้เป็นพนักงานประจำของบริษัทที่มีเงินเดือนนั้น หากพนักงานมีการสร้างสรรค์ผลงานออกมาด้วยความสามารถของพนักงาน แม้ว่าจะใช้ทรัพยากรของบริษัท แต่ผลงานที่ว่าอาจเป็นลิขสิทธิ์ของพนักงาน 2. กรณีของจ้างเป็นรายครั้ง เพื่อให้ทำผลงานออกมาตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการ โดยจ่ายค่าตอบแทนในการทำงานนั้นๆ อาทิ การจ้างให้ช่างภาพถ่ายภาพแฟชันของเสื้อผ้าของห้องเสื้อ เป็นต้น ลิขสิทธิ์และผลงานจะเป็นของผู้ว่าจ้างแต่เพียงผู้เดียว ตามที่ระบุใน ปพพ. ส่วนของสัญญาจ้างทำของ เว้นแต่ช่างภาพกับผู้ว่าจ้างจะมีการตกลงกันไว้ว่าช่างภาพมีส่วนในลิขสิทธิ์ของรูปที่ถ่ายออกมา ซึ่งในทางปฏิบัติผู้ว่าจ้างในลักษณะนี้มักไม่ยอม เพราะมีผลในเชิงพาณิชย์ของสินค้า หรืออาจยอมให้ใช้ได้เมื่อเวลาผ่านไปพอสมควร แต่จะมีการทำสัญญาระบุให้ชัดเจนว่าเป็นเมื่อใด ซึ่งหากไม่มีการทำสัญญาระบุไว้ และช่างภาพนำภาพไปใช้ทางใดทางหนึ่งซึ่งได้ผลประโยชน์ตอบแทน ช่างภาพอาจถูกฟ้องได้ฐานนำผลงานไปใช้ในเชิงพาณิชย์โดยมิได้ขออนุญาตเจ้าของผลงานและเจ้าของลิขสิทธิ์ หากผิดพลาดประการใด รบกวนเพื่อนชี้แนะด้วยนะครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 52 18:10:52 จากคุณ : ritaldi - [ 30 มิ.ย. 52 18:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 >> หากพนักงานมีการสร้างสรรค์ผลงานออกมา ด้วยความสามารถของพนักงาน แม้ว่าจะใช้ทรัพยากรของบริษัท แต่ผลงานที่ว่าอาจเป็นลิขสิทธิ์ของพนักงาน  ตรงนี้ ถ้าจำไม่ผิด ไม่ใช่ครับ  ถ้าใช้เวลา และทรัพยากรของบริษัท ไปสร้างสรรค์ผลงานใดๆ ก็ตามที ผลงานนั้น เป็นของบริษัทครับ  ถ้าจะอ้างว่า เป็นของพนักงาน .. มันก็ผิดถนัด  เพราะเวลาก็เป็นเวลาที่่ลูกจ้าง ต้องทำงานให้บริษัท  ทรัพยากร ก็เป็นของบริษัท  พนักงาน/ลูกจ้างจึงไม่มีสิทธิใดๆทั้งสิ้น  แต่ถ้าลูกจ้าง ใช้เวลานอกเวลางาน  ใช้ทรัีพยากรของตัวเอง ไปสร้างผลงาน ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทเลย ... อันนี้ เป็นของลูกจ้าง  แต่ต้องระวังให้ดี .. เพราะต่อให้ทรัพยากรเป็นของตัวเอง .. แต่ถ้ามีผลงานของ บ.เข้าไปปน .. ฟ้องร้องกันได้สนุกนัก  สัญญาว่าจ้างของ หลายๆ บ. กำหนดด้วยซ้ำว่า หากออกไปแล้ว ลูกจ้างจะไม่สามารถประกอบวิชาชีพ ในลักษณะเดียวกับทาง บ. เป็นเวลาไม่น้อยกว่า สามปีห้าปี  ลูกจ้างร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดัง .. ก็ต้องเซ็นสัญญาแบบนี้ครับ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 1 ก.ค. 52 16:23:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับน้าแมวเหมียวพุงป่อง จากคุณ : ritaldi - [ 1 ก.ค. 52 18:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 #12 อันนี้ตามกฎหมาย ผมเข้าใจว่า น่าจะเป็นไปตาม 11 นะครับ พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ ๒๕๓๗ ... มาตรา ๙ งานที่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ขึ้นในฐานะพนักงานหรือลูกจ้าง ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ให้ลิขสิทธิ์ในงานนั้นเป็นของผู้สร้างสรรค์ แต่นายจ้างมีสิทธินำงานนั้นออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้ตามที่เป็นวัตถุประสงค์แห่งการจ้างแรงงานนั้น มาตรา ๙ นี้กฎหมายไม่ได้พิจารณาว่า ใช้ทรัพยากรหรือเวลา ของใครนะครับ เพียงแต่ทำในขอบเขตการงานที่จ้าง ลูกจ้างคือผู้สร้างงานได้ลิขสิทธิ์ หากไม่ตกลงกันเป็นอื่น แต่นายจ้างสามารถนำงานไป "ใช้" ได้ในขอบเขตของงานนั้นๆ กรณีรับจ้างทำงานเป็นชิ้นๆ ก็เป็นไปตาม มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๐ งานที่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ขึ้นโดยการรับจ้างบุคคลอื่น ให้ผู้ว่าจ้างเป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในงานนั้น เว้นแต่ผู้สร้างสรรค์และผู้ว่าจ้างจะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น แต่ทุกกรณีทั้งสองมาตรา หมายถึง "ไม่มีการกำหนดเป็นอื่น" นะครับ ซึ่งกฎหมายลิขสิทธิ์ในส่วนนี้เป็นกฎหมายแพ่ง ตกลงกันอย่างไรก็ได้ บางทีช่างภาพเขี้ยวๆ ถึงรับจ้าง ตามมาตรา ๑๐ แต่ตกลงให้ลิขสิทธิ์เป็นของตนเองก็มี ผู้จ้างนำไปใช้ได้เป็นคราวๆ จะใช้คราวต่อไปต้องมาเสียเงินค่าใช้อีก คือถึงรับจ้างทำงาน แต่ก็ไม่ขายงานแบบขายขาด ว่างั้น แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 52 23:41:40 จากคุณ : บุญชิตฯ (Players) - [ 1 ก.ค. 52 23:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากคุณบุญชิตฯ (Players) ครับ กระทู้นี้ทำให้ผมเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาลิขสิทธิ์ของภาพที่หลายๆท่านถกเถียงกันมาตลอด ซึ่งที่ผ่านมามีทั้งความเห็นที่ผิดและถูกในแต่ละกระทู้ ซึ่งจากข้อความตามกฎหมายน่าจะทำให้เข้าใจได้ตรงกันแล้วนะครับ สำหรับช่างภาพที่รับจ้างตามสัญญาจ้างทำของ อย่างเช่น งานแต่งงาน งานรับปริญญา เป็นต้น หากต้องการนำผลงานไปใช้เพื่อเป็น portfolio หรือประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณะ ทางที่ปลอดภัยที่สุดก็ควรจะต้องขออนุญาตจากผู้ว่าจ้าง "เป็นลายลักษณ์อักษร" เพื่อความสบายใจกันทั้งสองฝ่ายนะครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 09:13:01 จากคุณ : ritaldi - [ 2 ก.ค. 52 09:11:39 ]