 |
ความคิดเห็นที่ 5 |
ตามทฤษฏีเลนส์นี่เป็นแก้วที่ตัดส่วนมาจากแก้วทรงกลม เมื่อมีแสงมากระทบจะเกิดการหักเหไปตามดัชนีหักเหของแก้ว ซึ่งขึ้นกับชนิดของเนื้อแก้ว ความหนา รูปทรงของเลนส์และการเคลือบ
เลนส์ที่เป็นส่วนของทรงกลม (Spherical) จะทำให้เกิดข้อเสียอย่างหนึ่งคือทำให้แสงที่เข้ามาที่ขอบเลนส์เกิดการกระจัด (หรือกระเจิงหว่าไม่แน่ใจ) เพราะแสงสีต่างๆมันมีความถี่ไม่เท่ากัน ทำให้เกิดภาพในลักษณะที่เรียกว่า chromatic abberation คือที่ขอบของวัตถุหรือเส้นที่มี contras สูงๆ เห็นเป็นแถบสี บางทีเราเรียกอาการพวกนี้ว่าขอบม่วงขอบแดงครับ
ต่อมาจึงมีการคิดค้นเลนส์แบบคอมพาวด์ขึ้นมาแก้ โดยใช้เลนส์นูนประกบกับเลนส์เว้าเพื่อให้แสงที่แตกออกมาเป็นสีๆ รวมกันที่จุดโฟกัสให้ได้ แต่ก็ไม่สามารถแก้ได้มากนัก หนำซ้ำยังทำให้มีชิ้นเลนส์มากขึ้น น้ำหนักและราคาก็เพิ่มตามไปด้วย
เลยมีคนคิดค้นเลนส์ชนิดใหม่ขึ้นมา (ในตอนนั้น) โดยจากเดิมที่เลนส์จะเป็นส่วนของทรงกลม ก็จะมีลักษณะที่มีความโค้งผิดส่วนไม่เป็นทรงกลม (Aspherical len) ผลคือจะทำให้แสงจากวัตถุในส่วนที่วิ่งมาชนที่ขอบเลนส์ไม่เกิดการกระจัดออกเป็นสีๆ ทำให้ภาพคมชัดขึ้น
ใครมีเลนส์ sigma 10-20 ดูที่ชิ้นเลนส์หน้าสุด จะเห็นว่าเลนส์มันโค้งออกมา แต่จะตัดเรียบที่ด้านหน้าสุด จะไม่โค้งตลอดชิ้น นี่คือเลนส์ asph ไงครับ
ความคลาดทรงกลม ไม่ได้แก้โดยการใช้เลนส์ asph โดยตรง แต่จะต้องแก้โดยการวางชิ้นเลนส์ให้เหมาะสม แต่การใช้เลนส์ asph จะทำให้ความจำเป็นที่ต้องใช้ชิ้นเลนส์จำนวนมากลดลงไปด้วย
ดังนั้นเราจะเห็นแต่คำว่า Asph. len เพราะต้องออกแบบให้เป็นเลนส์ชนิด asph. จะไม่เห็นคำว่า Asph. glass เพราะไม่ได้เป็นแก้วแต่ต้องขัดให้เป็นเลนส์แล้วจึงเรียก Asph
สำหรับ ED, SLD, Apo หรือพวก UD พวกนี้เป็น"แก้ว" ที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับทำเลนส์ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจะต้องใช้แก้วที่ผลิตเป็นพิเศษและเคลือบผิวตามกระบวนการอย่างละเอียดถี่ถ้วน ผลของการใช้ ED, SLD, APo มาทำเลนส์ คือการลด Dispersion หรือก็คือลดการกระเจิงหรือกระจัดของสำแลงสีต่างๆ เช่นเดียวกับการใช้เลนส์ ASPH. นั่นเอง แต่จะเป็นการแก้โดยใช้ชนิดของเนื้อเลนส์ และการเคลือบ ไม่ใช่การเปลี่ยนรูปทรงของเลนส์
ปัจจุบันได้มีการเอาแก้ว ED มาทำเลนส์ ASPH ด้วย บางครั้งเราจะเห็นสเปคเลนส์ว่าใช้ ED glass - aspherical len คือใช้สมบัติของเลนส์ทั้งสองชนิดอยู่บนชิ้นเลนส์เดียวกัน
ปล. เลนส์ที่ใช้ ชิ้นเลนส์ ASPH เกรดสูงๆราคาไม่ถูกเลยนะครับ เพราะต้องใช้วีธีการขัดผิวซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องการความละเอียดและแม่นยำสูงมาก ตัวอย่างเช่น EF85f1.2 II ราคาได้ยินแล้วหนาว
ปล. ทั้งหมดนี้เป็นแค่ความรู้ที่ผมสรุปและเข้าใจจากการค้นคว้าด้วยตัวเอง เป็นความเห็นส่วนตัวที่อาจผิดพลาดได้ ขอน้อมรับหากมีความผิดพลาดในเชิงวิชาการเกิดขึ้นครับ
| จากคุณ |
:
BCT
|
| เขียนเมื่อ |
:
30 ก.ค. 52 22:50:34
|
|
|
|
 |