ความคิดเห็นที่ 1 ม่าย จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 09:54:31

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่คิดมากหรอกครับ ธรรมชาติของคนแก่ ล้อเล่นน้าาา จากคุณ : bedub เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 09:58:56

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนดิจิตอลมาใหม่ๆนี่ ดีใจ๊ ดีใจ จะได้ถ่ายแบบไม่ยั้งสะที  ตอนถ่ายฟิล์มนี่ แสนจะลำบาก  ต้องถ่ายอย่างระมัดระวัง เพราะม้วนนึงมันมีแค่ 36 รูป  แถมค่าล้าง ค่าอัด ก็แสนแพง   พอมาดิจิตอลนี่ ใส่ได้ไม่ยั้ง  แบบว่าเก็บกดมานาน   แถมรูปอะไรๆที่เอาไปล้างที่ร้านไม่ได้   เอาไปล้างทีไร ฟิล์มเสียกลับมาทุกที  ไม่รู้เป็นไง     เขาไม่ยอมล้างให้หรือไงไม่รู้  คราวนี้ก็สามารถถ่ายมาดูได้แล้ว   อิอิ จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 09:59:06

ความคิดเห็นที่ 4 เฉยๆ ครับ ผมปรับตัวตามยุคได้ ผมไม่ยอมขวางยุคสมัยแน่นอน จากคุณ : leetaesok เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 09:59:15

ความคิดเห็นที่ 5   เทคโนโลยี่ใหม่มักจะไล่เทคโนโลยี่เก่า ๆ ออกไป เสียดาย แต่ก็ไม่อาจต้านกระแสร์ได้ ตอนนี้อยากให้มีเทคโนโลยี่ราคาถูกกว่าเทคโนโลยี่ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง การใช้ำน้ำมันเชื้อเพลิงได้หมดไป เหมือนกล้องฟิล์ม จากคุณ : Alway love you เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 10:00:34

ความคิดเห็นที่ 6 ยังชอบฟิล์มนะ ไม่ใช่อะไร มันถูกน่ะ เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้มา จากคุณ : csirre เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 10:11:56

ความคิดเห็นที่ 7 ต้องยอมรับกันแหละครับ เหมือนกับการบันทึกไฟล์บนสื่อของคอมพิวเตอร์แหละครับ สมัยก่อนบันทึกลงแผ่น 5.25 หรือ 3.5 นิ้ว ก็ว่าเพียงพอ ยอมที่จะแบกกันหลายสิบแผ่น ก็เปรียบเสมือนยอมแบกกลักฟิล์มไปหลายอันเพื่อถ่ายรูป แต่สมัยนี้สิครับ ใช้ thumpdrive หรือ DVD บันทึกไฟล์ได้มหาศาล เปรียบเสมือน เราใช้ memory ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเก็บภาพได้มากขึ้น จากคุณ : Buddykung เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 10:20:49

ความคิดเห็นที่ 8 มันขึ้นอยู่อยู่กับว่าตอนนี้เราใช้เทคโนโลยี่ที่ถืออยู่ได้คุ้มค่า และเหมาะสมแล้วหรือยัง... แต่ถ้าถามผม ผมไม่เสียดายนะ เพราะอีกหน่อยถ้ามีเทคโนโลยี่ที่ดีกว่า กล้องดิจิตอลยุคนี้ก็คงต้องถึงยุคล่มสลายเหมือนกัน.... แต่ถ้ากล้ิองดิจิตอลทุกวันนี้ มันทนทานเหมือนกล้องฟิล์มจะดีไม่น้อย.. (คิดจากราคากล้องที่ใกล้เคียงกันนะครับ) แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 52 10:30:02 จากคุณ : หมั่นโถวจิ้มแจ่ว เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 10:27:01

ความคิดเห็นที่ 9 สมัยยุคเฟื่องฟูของกล้องฟิล์ม ผมยังขอเงินแม่ไปเรียนหนังสืออยู่น่ะครับ จึงไม่ได้เข้ามาสัมผัสตรงนั้น ณ วันนี้ตอนนี้ วิวัฒนาการมันก้าวหน้าไป ผมพร้อมที่จะเป็นเจ้าของกล้องซักตัวแล้วด้วยเงินตัวเอง ผมมาทันใช้ตอนเป็นดิจิตอลครับ แต่ก็เลือกใช้กล้องตามงบประมาณครับ ผมไม่อยากตามช้าง กลัวก้นฉีก...... ๆ จากคุณ : เด็กหนอนข้างบ้าน(CND) (blue bike) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 10:31:32

ความคิดเห็นที่ 10 เสียดายกล้องฟิล์มเดิมครับ ซื้อมาเพียบเลย ขายก็ขายไม่ลง เพราะรัก แต่ตอนนี้ก็ไม่อยากจะใช้กล้องฟิล์มอีกแล้วล่ะครับ ในยุคที่ Notebook/PC เกลื่อนเมืองแบบนี้ จากคุณ : เป็ดจิ๋ว เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 10:32:24

ความคิดเห็นที่ 11 คล้ายๆน้าtamrongล่ะค่ะ ถ่ายกล้องฟิล์มนี่เกรงใจเงินในกระเป๋าสตางค์ แถมต้องลุ้นอีกว่ารูปจะดีรึเปล่า พอเป็นดิจิตอลแล้วกดไม่ยั้ง แต่สำหรับอิฉันเอง ถือว่ากล้องฟิล์มคือครูค่ะ ^^ จากคุณ : kenmania เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 10:42:31

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ใช่เลย เหมือนอยากเรียนกับครูที่สอนเก่งคนนึง แต่แกเกษียรไปก่อนผมเลื่อนชั้นปี มันเลยกลายเป็นเรื่องเกือบเป็นไปไม่ได้ และเสียดายอยู่ลึกๆเสมอ จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 10:50:37

ความคิดเห็นที่ 13 ดีแล้วหล่ะครับ กลับไปดูภาพเก่า (ที่ถ่ายด้วยฟิล์ม) บางทีไปเที่ยวซะไกล ถ่ายมาแค่เนี้ย (เพราะข้อจำกัดของฟิล์ม) เดี๋ยวนี้ยุคดิจิตอล ไปไหนถ่ายไม่อั้น บันทึกและเก็บทุกรายละเอียดของความทรงจำได้ดีกว่านะครับ เลยไม่รู้สึกเสียดายอะไรเลย ที่ฟิล์มต้องล้มสลายไป จากคุณ : Ballkung_CM เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 10:57:30

ความคิดเห็นที่ 14 เฉยๆ..เพราะผมเกิดยุคดิจิตอล.. จากคุณ : คนบางปะอิน เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 11:10:49

ความคิดเห็นที่ 15 เสียดาย ไม่เสียดาย เพราะมันไม่ได้ล่มสลาย เพียงแค่เปลี่ยนแปลงไป จากระดับที่คนทั่วไปใช้ได้โดย "ไม่ต้องคิดอะไรมาก" กลายเป็นระดับ "มือโปร(หรือคนเล่นระดับซีเรียส)เท่านั้นที่(บ้า)กล้าใช้" จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 11:12:15

ความคิดเห็นที่ 16 ล่มสลายเลยหรอคะ...ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ห้องข้างๆอย่างกล้องเก่า ก็ยังใช้ฟิล์มกันอยู่ จะให้ถูกคงเป็น ..คนใช้ฟิล์มน้อยลงค่ะ ... ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว หนูเองเคยต่อต้านยุคดิจิฯ เพราะมีความเห็นว่า พอดิจิเข้ามา คนก็เริ่มจะเรียนรู้พื้นฐานการถ่ายภาพน้อยลง เช่น ความสำคัญของการตั้งรูรับแสง หรือชัตเตอร์ หรือค่าความยืดหยุ่นของฟิล์มในการรับแสง หรือแม้แต่น้ำยาล้างฟิล์ม เรื่องพวกนี้ เป็นสิ่งที่ต้องคิดและเรียนรู้ก่อนการถ่ายภาพทั้งสิ้น แต่พอดิจิเข้ามา อาศัยว่า กดๆไป ได้ภาพไม่พอใจก็มาไล่ตั้งค่าแสงฯลฯ กันใหม่ แล้วกดใหม่ .... อันนี้ไม่ได้ว่าใครนะคะ แค่อยากจะบอกว่า พอไม่เสียค่าฟิล์ม ค่าล้าง คนเลยมีโอกาสลองผิดลองถูกมากขึ้น ใครที่จริงจังหน่อย เกิดสงสัยว่าทำไมภาพนี้สวย ภาพนี้ไม่สวย ก็จะเริ่มกลับมาศึกษาพื้นฐานต่างๆ แล้วปรับใช้ ก่อเกิดความรู้ การพัฒนา ...... อย่างที่บอก หนูเคยต่อต้านดิจิฯ แต่เดี๋ยวนี้หนู่เองก็ต้องใช้ดิจิฯในการทำงาน ปรับตัวเองจากหาความรู้เรื่องฟิล์ม มาเป็นพัฒนาการใช้โฟโต้ชอบไปด้วย ส่วนความสุขเล็กๆจากฟิล์ม ก็ยังมีอยู่ ยังมีกล้องฟิล์มติดตัวเสมอ ซึ่งก็อยู่คู่กับดิจิฯเสมอเช่นกัน ..... ปล.ค่าฟิล์ม ค่าล้าง ยังราคาเท่าเดิมค่ะ นั่นแปลว่า ฟิล์มไม่ได้กำลังจะตายถึงขนาดเป็นของหายาก ราคาแพง ..... ขอให้มีความสุขกับการถ่ายภาพค่ะ จากคุณ : ฝุ่นหอม เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 11:28:07

ความคิดเห็นที่ 17 มันเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีครับ แต่..หากถามว่า เดี๋ยวนี้ ยังมีคนหาซื้อแผ่นเสียงอยู่ไหม? ตอบว่ายังมีครับ จากคุณ : DUB-COOK เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 12:23:41

ความคิดเห็นที่ 18 อา...นึกถึงสมัยก่อนแล้วขนลุก ออกทริปทีนึง ค่าฟิล์ม ล้าง อัด ล่อไปทริปละพันกว่าบาท จากคุณ : Capo เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 12:38:42

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่เห็นด้วยกับคุณ  จขกท. แต่เห็นด้วยกับคุณแมวเหมียวพุงป่อง  กับ  ฝุ่นหอม   ช่วงนี้ผมถ่ายฟิล์มเยอะขึ้นมาก  หลังจากสนุกกับเทคโนโลยีและลุ้นกับพัฒนาการของดิจิตอลมาพักใหญ่ๆ ผมใช้ดิจิตอลเฉพาะรูปถ่ายเล่นๆทิ้งๆขว้างๆ  หรือถ่ายเพื่อทดสอบดูผลบางอย่าง  ด้วยเหตุผลด้านความสะดวกและราคาถูก   ส่วนรูปที่ต้องการจริงๆจะใช้ฟิล์ม  ด้วยเหตุผลเรื่องคุณภาพ  อายุการใช้งาน  คุณค่า  และสุดท้ายคือ  ผมไม่จำเป็นต้องดูพรีวิวภาพหลังกล้องก็สามารถสร้างภาพได้  ไม่ต่างจากกล้องที่มีพรีวิวให้ดู สรุป  ใช้งานทั้งคู่  แต่ต่างกรรมต่างวาระครับ  ใครจะไปรู้  อนาคตอาจจะเหมือนกับตลาดนาฬิกาที่ยุคหนึ่งนาฬิกาออโตเมติคก็ดูเหมือนจะตายในยุคตื่น quartz  แต่ทุกวันนี้นาฬิกาใส่ถ่านกลายเป็นของราคาถูก  นาฬิกาออโตเมติคยังยืนอยู่ได้ จากคุณ : กล้องโบราณ (e2ns) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 12:38:56

ความคิดเห็นที่ 20 สุดท้าย  เด็กๆในเจเนอร์เรชั่นต่อไป  อาจจะเรียกยุคนี้ว่า "ยุคตื่นดิจิตอล" จากคุณ : กล้องโบราณ (e2ns) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 12:41:32

ความคิดเห็นที่ 21 รู้แต่ว่าสมัยก่อน  ยังเรียนหนังสือเงินไม่ค่อยมีมาสิ้นเปลืองกับตรงนี้  กว่าจะกดภาพแต่ละที  คิดแล้วคิดอีก  ยกแล้วเล็งแล้ว  ไม่กดก็มี   ปัจจุบัน  เงินพอมี  เทคโนโลยีเป็นดิจิตอล  กดไม่ค่อยยั้งเหมือนกัน  ข้อเสียคือความปราณีตลดลง จากคุณ : โรแบโต้ง เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 12:46:01

ความคิดเห็นที่ 22 ผมเล่นกล้องครั้งแรกก็สมัยกล้องฟิล์มนะครับ สมัยก่อนมีรูปสวยๆที่ถ่ายด้วยฟิล์มเยอะเลย แถมอยากจะบอกว่าคุณภาพของฟิล์มจริงๆไม่ได้ด้อยกว่าดิจิตอลนะครับ ผมมีรูปหลายรูปที่อัดขนาด 20x30 นิ้วแล้วคุณภาพยังดีอยู่เลยครับ ที่น่าเสียดายที่สุดคือเมื่อไม่นานมานี้มีโอกาสได้เอากล้อง Film มาเล่นอีกครั้ง พึ่งจะรู้ว่าสมัยนี้ (ผ่านมาแค่ 4-5 ปี) ร้านล้างฟิล์มล้มหายตายจากไปเยอะมาก ยิ่งฟิล์มสไลด์ยิ่งหาที่ล้างยากต้องไปตามแหล่งใหญ่ๆที่คนเล่นกล้องเค้ารู้ๆกัน ไม่ได้หาล้างง่ายตามห้างเหมือนสมัยก่อน (เดี๋ยวนี้ร้านพวกนั้นเปลี่ยนเป็นร้าน Print รูปดิจิตอลกันหมดแล้ว) ที่น่าประนามที่สุดคือร้านพิมพ์รูปบางร้านดูถูกคนเอาฟิล์มไปล้างมาก (ใน CTW ฝั่งอิเซตัน ไม่เอ่ยชื่อร้านนะครับ) ผมเคยห้อน D3 เข้าไปร้านเดียวกันนี้เมื่อนานมากแล้ว คนในร้านบริการดีมากๆ ... พอมาวันนึงผมเอาฟิล์มเข้าไปถามว่า โทษนะครับที่นี่ล้างฟิล์มได้หรือเปล่า ... คนในร้านมองมาด้วยสายตาดูถูกบอกว่า "ไม่มีๆ" พอผมถามต่อไปว่าแถวนี้พอจะมีร้านไหนล้างได้ไม๊ครับ (เพราะอยากจะดูรูป ลุ้นดี ไม่ได้ถ่ายมาตั้ง 4-5 ปีและ) คนในร้านก็ทำหน้าไม่อยากจะสนใจตอบส่งๆมาว่า "ไม่รู้ๆ ไปถามที่อื่น" ..... คือผมรู้สึกว่าใช้ฟิล์มแล้วไงเหรอ ?? ทำไมต้องทำหน้าดูถูกกันแบบนั้น ล้างฟิล์มไม่ได้ตอบดีๆก็ได้ครับ สงสัยเด็กในร้านคงรู้จักแต่กล้อง Digi Canon/Nikon/etc. คงไม่รุ้ว่ากล้องที่ดูโบราณๆที่ผมถือมามันเป็นกล้องยี่ห้อตัว "L" ที่สมัยก่อนก็ไม่ได้น้อยหน้ากล้องยี่ปุ่นตัวไหนๆเหมือนกัน .. .. .. ยุคเปลี่ยนไปแล้วครับ ถ้าถ่ายเอาความสนุก ได้อารมณ์ ได้ลุ้น ฟิล์มมันก็ยังมีเสน่ห์ของมัน เหมือนคนที่ยังถ่าย BW อ่าครับ ... แต่ถ้าเน้นคุณภาพ เน้นสะดวกผมก็คงต้องยอมรับว่าเทคโนโลยี Digital สมัยนี้มันทำให้อะไรๆง่ายขึ้นไปมากครับ ^_^ ... จากคุณ : Duke (Zynos2000) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 12:48:49

ความคิดเห็นที่ 23 "แถมรูปอะไรๆที่เอาไปล้างที่ร้านไม่ได้ " ผมอ่านมาทั้งหมดติดใจข้อความของน้า  tamrong ตรงเนี้ยะ ฟิล์มยังไม่ล่มสลายหรอก ไม่กี่วันยังมีฟิล์มตัวใหม่ออกมาเลย แค่ แถวบ้านผม ไม่มีร้านรับล้างสไลด์แล้วเท่านั้นแหละ จากคุณ : รุกฆาต เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 13:02:31

ความคิดเห็นที่ 24 ก็เสียดาย แต่ก็ไม่นาน แต่คิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า วันหนึ่งกล้องจะต้องไม่ใช้ฟิล์ม แต่กล้องดิจิตอล ยุคแรกๆ ก็สุดห่วยจริงๆ ทุกวันนี้ ดีใจ ที่กล้องดิจิตอลพัฒนาไปเยอะแล้ว และราคาถูกลง ทำให้คนใช้ได้เยอะขึ้นครับ เห็นมีหลายคนเพิ่งจะเริ่มถ่ายรูป ก็เล่น DSLR กันเลย ซึ่งยุคกล้องฟิล์ม ไม่ค่อยมีแบบนี้ เมื่อวานไปงานดอกไม้สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต เป็นครั้งแรกที่สังเกตุเห็นคนถือ DSLR มีจำนวนมากพอๆ กับ Compact เลยนะครับ จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 13:02:48

ความคิดเห็นที่ 25 เคยเจอเหตุการณ์เหมือนคุณ  Duke (Zynos2000) หลังจากนั้นก็เลยส่งแต่ Lab  คุณภาพสูงๆหรือล้างเอง  Lab  ไหนดูแล้วเข้าไปก็ทำไม่ได้  หรือทำได้ก็ไม่ดี  ก็อย่าไปเข้าเลย  ร้านพวกนี้ถึงทำได้คุณภาพก็เข้าขั้นแย่ครับ  เข้าร้านพวกนี้เราก็เท่ากับดูถูกผลงานตัวเองก่อนที่จะให้คนอื่นดูถูกซ้ำ จากคุณ : กล้องโบราณ (e2ns) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 13:05:48

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่เสียดาย เพราะมันง่ายกว่าก่อนมาก เสียดายแต่กล้องเดิมๆที่วางอยู่ในตู้เท่านั้น จากคุณ : หล่อเกินระบบจะรองรับ เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 13:31:51

ความคิดเห็นที่ 27   รู้สึกเฉย ๆ มีกล้อง film เต็มตู้ ตอนนี้เริ่มสะสม digital อีกแล้ว มีดี มีด้อย ต่างกัน หากจะว่า กล้องใช้ฟิล์ม มัน... มีอะไรบางอย่างมากกว่าในยุคนี้ ก็อยากจะบอกว่า digital photography ก็มีอะไรที่กล้อง film ไม่มีเหมือนกัน ถ้าทำความรู้จักกับมันดี ๆ อย่าใช้กล้อง digital ในฐานะตัวแทนกล้อง film อย่างเดียว จากคุณ : ก็แล้วแต่ เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 13:45:23 A:202.28.24.245 X: TicketID:106200

ความคิดเห็นที่ 28 ภาพถ่ายนางแบบในนิตยสารต่างประเทศหรือภาพถ่ายที่ผลงานละเอียดแบบ ฟูลแฟรม  หรือผลงานของช่างภาพระดับโลกยังใช้กล้องฟิล์ม อยู่น่ะ ผมคิดเอาไว้เมื่อ50ปีที่แล้วเมื่อผมเล่นกล้องฟิล์มใหม่ ถ่ายที่ไรมันจะต้องมีภาพที่เสียอย่างน้อย2-5ภาพบ่อยๆ ผมก็เลยคิดว่าเออีกหน่อยมันต้องมีกล้องที่ไม่ต้องใช้ฟิล์มคิดแบบพูดปะชดน่ะ ปัจจุบันมันก็เป็นจริง  ปัจจุบันผมหยิบกล้องดิจิตอล ไปใช้งาน ผมก็คิดแบบโง่ๆอีกนั่นแหละว่า บริษัทกล้องเขาคงจะคิดดัดแปลงแบบ กล้องที่ใช้การบันทึกภาพแบบ CFและแบบฟิล์ม ออกมาขายบ้างแหละ มีใครคิดอย่างผมบ้างนะ จากคุณ : julapolb (julapolboon) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 13:54:11

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ได้เสียใจเลยครับ เพราะมันไม่ใช่การล่มสลาย เป็นแค่การเปลี่ยนรูปแบบเท่านั้นเอง เห็นหลายท่านพูดถึงเรื่องคุณภาพ ผมขอเรียนไว้ตรงนี้นะครับว่า ถึงตอนนี้ กล้องดิจิตอลได้คุณภาพที่เหนือกว่าฟิล์มแล้วครับ แล้วสะดวกกว่ามากๆ ไฟล์ที่ได้ยืดหยุ่นดี ปรับในกล้องหลังถ่ายยังได้ ผมอาจเป็นเด็กรุ่นใหม่ครับ ที่หลายคนมองว่าอาจไม่รู้จักการถ่ายภาพดีพอ การวัดแสงแมนนวล การขึ้นฟิล์ม การล้างรูป ฯลฯ บางอันผมก็ไม่รู้ ทำไม่เป็น ผมคุ้นเคยกับการตกแต่งรูปในคอมพิวเตอร์มากกว่า ผมคุ้นเคยกับ CF, sdhc, xd ผมอาจไม่มีอารมณ์ละเมียดละไมกับการถ่ายภาพโดยไม่ดูจอ preview สุดท้าย ก็ได้ภาพเหมือนกัน ใช่มั้ยครับ ? จากคุณ : transfinity เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 14:05:00

ความคิดเห็นที่ 30 ผมกลับว่า digital เสียเงินมากกว่า film อีกนะ มันมีค่าใช้จ่ายแฝงมากมาย แต่ดิจิตอลก็ยังมีข้อดีเยอะกว่าสำหรับคนทั่วไป - อุปกรณ์อิเลกโทรนิกส์ พังง่ายกว่า เมคานิค และมีราคาแพงกว่า - ต้องมีอุปกรณ์ดูภาพ (computer, etc) หรือไม่ก็ต้องพิมพ์มันออกมา - ความปราณีต หรือความเข้าใจในหลักการถ่ายภาพลดลงส่งผลให้ ต้องแต่งภาพ (ซื้อโปรแกรมแต่งภาพราคาแพง, หนังสือสอนแต่งภาพ, เข้าคอร์สอบรม) - ลงทุนกับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ( CD, DVD, Ext HDD) จากคุณ : Claz เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 14:29:39

ความคิดเห็นที่ 31 เฉย ๆ เรื่องกล้องฟิล์มกับกล้องดิจิตอล มันให้อารมณ์ที่แตกต่างกัน ก่อนหน้านี้เคยอยากได้กล้องฟิล์ม SLR เหมือนกัน แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงในแต่ละม้วน ก็เลยเฉย ๆ ไว้ก่อน เวลาไปเที่ยวที ต้องติดฟิล์มเผื่อไว้หลาย ๆ ม้วน จะกดแต่ละที ต้องแน่ใจ แฟนผม ไม่กล้าจับเลย บ่นว่าเสียดาย เวลาถ่ายเสีย จนดิจิตอลเข้ามาแทนที เดี๋ยวนี้ คุณเธอแย่งกล้องไปถ่ายแล้ว ผมแทบไม่มีโอกาสได้จับกล้องเลย แก้ไขเพิ่มนะครับ รูปที่ได้ ดีบ้างเสียบ้าง แต่รูปที่ดีน่ะสิ เอามาข่มผมตลอด..... แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 52 08:23:19 จากคุณ : ป้ายแดง เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 14:45:23

ความคิดเห็นที่ 32 #29 ยังห่างชั้นจาก film ครับ resolution noise, grain dynamic range บนดิจิตอลผมว่ามันละเมียดละไม ได้ง่ายกว่านะครับ สามารถดูหลังจอแล้วปรับได้ทันที การไปปลุกปล้ำบนโปรแกรมตกแต่งรูป นั่นหมายความว่า คุณย้อนเวลากลับไปถ่ายไม่ไ้ด้แล้ว แต่ปัจจุบันไฟล์ที่ได้จากดิจิตอลก็เพียงพอแก่การใช้งานทั่ว ๆ ไป จากคุณ : Claz เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 14:48:40

ความคิดเห็นที่ 33 ็ต้องไปตามยุคแหละึ แต่ยังงัยๆ ยอมรับว่าการถ่ายรูปด้วยกล้องฟิมล์จะพิถีพิถันกว่าดิจิตอลมากๆๆๆๆ (มันเกี่ยวกะเรื่องค่าใช้จ่าย) วันก่อนผมไปรื้อเอากล้อง SLR ตัวเก่า Olympus OM-1n เอามาลองกดชัทเตอร์ดู ความนุ่มกะเสียง นุ่มนิ่ีมบาดใจจริงๆ เสียดายเลนส์ 24 มม. / 50 มม. 1.4 รึ 1.2 ไม่แน่ใจ กะเลนส์ 200 มม. ขึ้นราเต็มไปหมดแล้ว นี่ถ้ามาเทียบกับ canon 1000D ที่ผมใช้อยู่ ผมว่าแคนอนมันก๊องๆแก๊งๆ ยังงัยๆก็ไม่รู้ ครับ ยังงัยๆ ก็ยอมรับเรื่องความสะดวก ทุกอย่างๆ ที่มีในโลกดิจิตอลครับ จากคุณ : คนพื้นที่99 เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 14:48:42

ความคิดเห็นที่ 34 จะกล้องฟิล์มหรือดิจิตอล  สุดท้าย ก็ได้ภาพเหมือนกัน ใช่มั้ยครับ ? คือตอบคือ  ใช่  แต่ต้องขยายหน่อยว่าได้คุณภาพต่างกัน ที่สำคัญ  เห็นด้วยกับคุณ  Claz  ว่ากล้องดิจิตอลมันมีค่าใช้จ่ายแฝงมากมาย  ที่หลายคนอาจมองไม่เห็น กล้องดิจิตอลผู้ผลิตเขาบวกค่าฟิล์มไปในกล้องเรียบร้อยแล้ว  แต่หลายคนอาจจะไม่ทันสังเกตุ Canon 1Ds Mark III  ก็คือกล้อง  Canon 1V  บวกค่าฟิล์มที่มีเกรนละเอียดไปอีก 1000  ม้วน  ในราคาเหมาจ่าย  ถ้าถ่ายเยอะกว่านั้นก็คือกำไร ส่วนกล้องรุ่นเล็กอย่าง  Canon 500D  ก็คล้ายๆกับกล้อง  Canon  500n บวกฟิล์มคอนซูมเมอร์  ไปอีก 300  มัวน  ถ้าได้ภาพเกินก็ถือว่ากำไร อันนี้มองแบบคนที่ตามเทคโนโลยีมาตลอด  ผมว่ามีน้อยคนที่ซื้อกล้องดิจิตอลตัวเดียวและไม่เคยเปลี่ยนเลย  ตลอดช่วงการพัฒนาที่ผ่านมาของระบบดิจิตอลครับ จากคุณ : กล้องโบราณ (e2ns) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 15:23:44

ความคิดเห็นที่ 35 ตามยุคตามสมัยครับ ทุกวันนี้ก็ยังมีคนฟังแผ่นเสียงอยู่ แต่เห็นคนเล่นแผ่นเสียงก็มีเครื่องเล่นซีดีกันทุกคน จากคุณ : TeMpLaTe เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 16:44:22

ความคิดเห็นที่ 36 อยากเล่นกล้องฟิล์มแต่ไม่มีปัญญาจะเล่นถ่ายแต่ล่ะรูปคิดแล้วคิดอีก กว่าจะกดชัตเตอร์ได้ แถมค่าฟิล์มก็แสนแพง ค่าล้างค่าอัดอีก คิดแล้วเศร้า ไม่เหมือนDIGITAL กดไม่ยั้ง รูปไม่สวยลบแล้วถ่ายใหม่ จากคุณ : mao_narak เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 17:14:38

ความคิดเห็นที่ 37   ถ้าใครเริ่ม FM หรอ FM2 อย่างผม มันทำให้เรา เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง การปรับกล้อง ค่าISO ที่มาจากฟิล์ม การชดเชยแสงต้องตั้งค่าหลอก หรือเอาแสงอื่นช่วย ทุกอย่างต้องคิดเองตลอด มาวันนี้มีคอมพิวเตอร์ใช้ มีชิปประมวลผล ความยากก้อน้อยลง แต่พื้นฐานที่ติดตัวเรามายัง มีอยู่ คงเหมือน ถ้าถามว่าเสียดายไหมที่ตอนนี้ขับเกียร์ออโต้ อย่างน้อยกลับไปขับเกียร์รรมดายังเป็นอยู่ล่ะ แต่ดีใจที่มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยต่างหาก มันช่วยให้เราสร้างผลงานได้ดีขึ้น เด็กรุ่นใหม่ได้เห็นศิลปะที่สวยงามมากขึ้น เนี่ยะข้อดี ของเทคโนโลยี จากคุณ : เด็กวัด (topiican) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 18:03:19

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่รู้สึกอะไรครับ เพราะเริ่มเล่นก็เป็นดิจิตอลเลยไม่เคยเล่นฟิล์ม เล่นดิจิตอลก็ปราณีตได้ครับ เพราะยังใหม่อยู่ พอจะกดแต่ละทีต้องคิดมาก พอเริ่มเป็นก็ไม่ค่อยคิดแล้วกดไม่ยั้ง แต่มาตอนนี้หลังจากกดไปปีกว่า เปลี่ยนชุดชัตเตอร์ไม่หนึ่งครั้ง โดนฮาร์ดดีส 500 GB ไป 5 ลูก แผ่น ดีวีดี อีก 300 กว่าแผ่น ฯลฯ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยกล้ากดแล้วต้องมั่นใจว่าสวยจริงๆถึงจะกด จะกดแต่ละทีคิดแล้วคิดอีก  ไม่กล้าแล้วจ้า จากคุณ : chicken01 เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 18:53:39

ความคิดเห็นที่ 39 ตามอายุครับ  มีเก่า ย่อมมีใหม่มาแทนที่ อย่าไปเสียดาย จากคุณ : pungem เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 20:10:56

ความคิดเห็นที่ 40   เป็นคนไม่มีฝีมือ ถ่ายงาน event คราวละ 4-500 รูปใช้ได้ประมาณ 20-30 รูป ถ่าย hi-speed shot 200 รูปใช้ได้ 2-3 รูป กล้องฟิล์มยังเก็บไว้เป็นแรงจูงใจให้รีบพัฒนาฝีมือให้ได้ก่อนจะไม่มีฟิล์มให้ใช้ จากคุณ : ขี่อาร์ไอ เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 20:30:00

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่เสียดายครับ แต่รู้สึกว่าเราโชคดี ที่มีโอกาสได้ถ่ายกล้องฟิล์ม ยังจำความรู้สึกเวลาไปร้านถ่ายรูป เพื่อรับรูปที่ถ่ายไว้เลยคับ  ยังกะประกาสผลสอบ กลับมา ก้อมานั่งคิด นั่งย้อนอดีตว่าตอนนั้น เราถ่ายยังไง มันดีตรงที่ว่า ความที่ค่าใช้จ่ายเยอะ ทำให้เราถ่ายได้น้อย เลยทำให้เรารู้จักคิด ทั้งก่อนถ่าย และหลังถ่าย จากคุณ : ววมฟ้วก (ววมฟ้วก) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 20:51:07

ความคิดเห็นที่ 42 สิ่งที่เกิด ย่อมมีดับไปเป็นเรื่องปกติครับ จากคุณ : AprilSnow เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 21:24:08

ความคิดเห็นที่ 43 ใครก็ตาม ที่คิดว่า ภาพที่ได้จากฟิล์มกับดิจิตอล เหมือนๆกัน ขออภัย .. ผมไม่ชวนมากินเหล้าบ้านผมเป็นอันขาด เพราะคงแยกไม่ออก ระหว่าง .. เอ่อ .. บลูลาเบล กับ แสงโสม เพราะกินแล้ว .. เมาเหมือนกัน (แต่มันก็เมาหัวทิ่มบ่อเหมือนกันจริงๆนี่หว่า .. เปลี่ยนเป็นอะไรดีหว่า ) ตอนนี้ ถ้ามีงานสำคัญๆ ที่ต้องเก็บความละเอียดละไม ระดับไหโซไส้ตี่ ... ผมพกกล้องฟิล์มไปด้วย  2 ตัวครับ ตัวนึงใส่ฟิล์มขาว-ดำ อีกตัวใส่ฟิล์ม negative มีตู้เย็น  1 ตู้ แบ่งช่องฟรีซไว้ สำหรับเก็บฟิล์มโดยเฉพาะ หมด negative ล็อตนี้ คงเล่นแต่สไลด์แล้ว "อารมณ์ภาพ" ที่ฟิล์มให้มาเนี่ย กว่าดิจิตอลจะตามทัน คงต้องรออีกหลาย(สิบ)ปี แต่ก็ไม่แน่ วันใดที่ กล้อง 3-CCD หรือ foveon-based ออกวางตลาด ผมอาจพิจารณาเลิกเล่นฟิล์ม และคงเลิกได้ขาด ถ้าหากว่าแต่ละ pixel ของ sensor พวกนั้น สามารถเปลี่ยนความไว และขนาด ได้ชนิด true random จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 22:22:32

ความคิดเห็นที่ 44 อาลัยกับฟิล์มล่มสลายหรือเปล่าไม่รู้ แต่ดีใจที่ยังอยู่ทันยุคดิจิตอล และหวังว่าจะอยู่ต่อไปจนทันเห็นดิจิตอลล่มสลาย ปกติผมถ่ายภาพเผื่อแผ่ให้คนอื่น ยุคฟิล์ม ล้างมาแล้ว ก็ต้องคอยอัดให้ใครต่อใคร ถ้าให้เขายืมฟิล์มไปอัดเองทีไร ฟิล์มมันไม่เคยกลับมาซักกะที ถ่ายดิจิตอล ใครจะเอาก็ก็อปกันไป หรือไม่ก็ก็อปลง CD ให้ไปทั้งชุด ก็สะดวกดี แต่ถ้าให้มองอีกมุม ถ่ายฟิล์ม เก็บฟิล์ม เก็บรูป ในกล่อง ในลัง เบื่อๆ หยิบขึ้นมาเล็งๆ ดู ก็มีความสุขดี ถ่ายดิจิตอล ไม่ค่อยได้อัดรูป เขียนลง CD หยิบดูไม่ได้ ต้องเปิดในคอม ก็ผิดอารมณ์ไป แถมไปๆ มาๆ มีแต่แผ่น AV กับอนิเม ทับถมท่วมห้องไปหมด หาแผ่นรูปทีก็หาไม่ค่อยจะเจอ จากคุณ : คาเมะจัง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 09:06:12

ความคิดเห็นที่ 45 ของมันมีเกิดและมีดับครับ จากคุณ : TriNergy เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 09:48:46

ความคิดเห็นที่ 46 ฟิล์ม กว่าจะใส่ฟิล์มเข้ากล้อง ถ่ายแต่ละรูป คิดแล้วคิดอีก ภาพคมชัดเพราะมีแค่ 36 ม้วน พิถีพิถัน คิดมากขึ้น ผ่านขั้นตอนเอาไปล้าง เสียตังค์เยอะ ค่าอัดอีกล่ะ แสนจะลำบาก ยุ่งยาก แต่ภาพที่ได้ที่ลงบนฟิล์ม เอามาอัดใหม่ได้ เก็บดีๆ เก็บได้นาน เอามาให้ลูกหลานดูได้ ดิจิตอล สะดวก สะบาย ถ่ายมั่วๆเป็นร้อยๆรูปยังได้ ไม่สวยก็ถ่ายใหม่ อัดก้ได้ ไม่อัดก้ได้ ปรับแสง ปรับสี แต่งโฟโต้ชอปได้สบาย ง่าย เร็ว ลบเร็ว หายได้ทั้งอัลบั้ม ถ้ากดผิด  ปรับได้เพียงปลายนิ้ว คุณค่ามันต่างกันไปคนละแบบค่ะ มันคนละโลก นานาจิตตัง จากคุณ : soully เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 10:46:00

ความคิดเห็นที่ 47 ล่มสลาย? oh my god! ไม่ได้อยากต่อต้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เพราะตอนนี้ก็สนุกกับการได้ลองอยู่ แค่อยากให้โลกนี้มีที่ให้ความแตกต่างได้ยืนบ้าง ..ก็เท่านั้น (เกี่ยวอะไร ?) ปัญหาเดียวกับ #23 เดี๋ยวนี้ร้านที่รับล้างสไลด์หายากชะมัด ((อย่าให้ถึงกับต้องสร้างห้องมืดล้างเองเลยนะ อิฉันไม่มีปัญญา -*-)) จากคุณ : จิตรางคทา เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 11:54:09

ความคิดเห็นที่ 48 ปล. #43  อยากกินบลูฯ บ้านน้าแมวเหมียวฯ อ่ะค่ะ จากคุณ : จิตรางคทา เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 11:56:19

ความคิดเห็นที่ 49 อาจารย์ที่สอนถ่ายรูป เคยบอกกับผมไว้ว่า ยังไงกล้องดิจิตอล ก็ยังไม่สามารถสู้ฟิล์มได้ อาจารย์เอาภาพที่ถ่ายด้วยฟิล์มสไลด์โปร มาเทียบไฟล์ภาพดิจิตอล 22ล้าน พิกเซล คนละเรื่องกันเลย แต่ก็ต้องเข้าใจครับ ว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไป เราต้องตามกระแส เพื่อปรับตัวกับเทคโนโลยีเพื่อความอยู่รอด ** ร้านที่ล้างฟิล์มที่ได้คุณภาพดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเข้าไปส่งล้าง คือร้าน i.q labs ครับ จากคุณ : k.y.u.club เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 13:32:10

ความคิดเห็นที่ 50 ภาพที่ได้จากฟิล์มกับดิจิตอล ไม่มีทางเหมือนกันครับ ยืนยัน.. เหตุผล เผื่อฟลุ๊คได้ไปกินฉลากฟ้า บ้านน้าแมวเหมียวพุงป่องน่ะครับ แหะๆ.. จากคุณ : DUB-COOK เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 14:24:14

ความคิดเห็นที่ 51 เวลานั้งรถเมลล์ก็เห็นร้านถ่ายรูปล้างรูปเล็กๆๆตามข้างทาง...บางร้านก็ยังเปิดกิจการแต่หลายๆๆร้านก็ต้องปิดตัวลง...ก็คงเป็นไปตามยุคตามสมัยค่ะ จากคุณ : honghang_toy (Ratcha_26) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 15:32:43

ความคิดเห็นที่ 52   แค่ขึ้นว่าฟิล์มล่มสลายมันก็ผิดเสียแล้วครับ ฟิล์มยังคงมีกลุ่มผู้ใช้อย่างเหนียวแน่นครับ และไม่ใช่แค่กลุ่มเดียว ขาวดำ / โลโม่ / ผู้เสพติดกล้องเก่า / บลาๆๆๆ ฟิล์มโกดักรุ่นใหม่ก็เพิ่งออกมาครับ ผมคิดว่าโกดักคิดดีแล้วครับ กว่าจะออกฟิล์มตัวนี้ออกมา และที่สำคัญ "ยังมีคนใช้" ส่วนตัว ถ้าต้องเลือกกล้องดิจิตอลซักตัว ผมก็ยังอยากได้คอมแพคดีๆเหมือนกันครับ เพราะทุกวันนี้แค่กล้องฟิล์ม ผมก็พกทีนึงสองตัวแล้ว ถ้าต้องแบก Dslr อีกตัวนี่ ไหล่ทรุดแน่ๆ (Dslrผม 350ดี+แทมร่อน 17-50/2.8ครับ เอาไว้ทำงานอย่างเดียวเลย :) ) ปล. อยากได้ lx3   :3 จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 01:35:41

ความคิดเห็นที่ 53 คุณ  supererky  พูดถูกครับ  ^_^   ผมว่าน่าจะเลยจุดต่ำสุดของฟิล์มแล้วด้วยซ้ำ  อีกหน่อยหากบริษัทผลิตฟิล์มปรับตัวได้  จับตลาดบนกับฮอลลีวูด  น่าจะอยู่ได้อีกนาน  เผลอๆ  อยู่จนมีระบบใหม่ที่เข้ามาแทนดิจิตอลก็ได้นะ จากคุณ : กล้องโบราณ (e2ns) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 07:45:52

ความคิดเห็นที่ 54 ทำ detail ได้ขนาดนี้ก่อน ผมถึงจะเลิกใช้ครับ :) จากคุณ : Keng -w เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 08:02:50

ความคิดเห็นที่ 55   ผมมีรูปสมัยเด็ก ๆ สองสามรูปเอง ถ้าสมัยโน้นมีดิจิตอลผมคงมีภาพให้หวนรำลึกมากกว่านี้ ตอนนี้ผมถ่ายรูปให้ลูกหลานเยอะมาก เวลาเขาโตเขาคงนึกขอบคุณผมบ้าง จากคุณ : naj เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 11:06:40 A:10.0.2.196 X:11.1.1.2, 125.25.168.41

ความคิดเห็นที่ 56 กระทู้โดนใจมากเลย โหวตสามดวงเลย คงเป็นคนที่ สว ซักนิดราว 40 ขึ้นอะนะ แล้วเคยใช้กล้องฟิล์มมาก่อน ก็รู้สึกคล้ายๆกัน แถมช่วงแรกต่อต้านดิจิตอลด้วยซ้ำ แต่พอน่านไป อืม มันก็มีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็ยังคิดถึงอีแก่ตัวเก่า FM2 ที่ไม่ได้หยิบมาใช้อีกเลย เพราะค่าฟิล์มและค่าต่างๆนาๆ หาที่ล้างอัดยาก แพง ก็ยังรู้สึกว่า เวลาที่เราได้ถ่ายรูป ได้วัดแสง ชดเชย เล่นอะไรต่างๆนาๆ แล้วมารอลุ้น ดูผลว่าล้างออกมาแล้วเป็นไง เนี่ย มันให้ความสุขที่ต่างไปจากกล้องดิจิตอลซึ่งไม่ต้องคอย ไม่ชอบลบทิ้งถ่ายใหม่ได้ แต่กล้องฟิล์มมันสอนให้อดทน ก็นะ นานาจิตตัง แต่ขอโหวตให้คุณ จขกท จากใจจริงเลย จากคุณ : mumu_i เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 19:35:10

ความคิดเห็นที่ 57   แรกๆออกมาใหม่ๆนี่ แอนตี้กันจมหุเหมือนกันนะครับ ของแคนน่อนมั้ง 300 บอกภาพเหลืองมั่งไรมั่งช่วงนั้นผมเลิกภ่ายภาพไปช่วงที่กล้อง ดิจิ เข้ามาใหม่ๆครับ พอมาดูตอนนี้อีกที โอ้แม่เจ้า!!!! ฟิล์มสูญพันธ์ ไปแล้วรึนี่ แต่เคยคุยกะช่างภาพอาชีพเค้ายังบอกอยู่เลยว่า เค้ายังรักกล้องฟิล์มมากกว่า และ เค้ายังคิดว่ากล้องฟิล์มถ่ายสวยกว่า +งานส่วนตัวบางงานยังใช้ฟิล์มครับ จากคุณ : bam เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:19:06 A:58.9.50.235 X: TicketID:081576

ความคิดเห็นที่ 58 รูปของท่าน "Keng -w" พิสูจน์ได้ชัดเจนมากครับ จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 19:29:36

ความคิดเห็นที่ 59 คิดถึงกล้องฟีล์มเหมือนกันค่ะ มีอยู่ที่บ้าน ขายก็ขายไม่ลง แต่ก็ไม่ได้ใช้ คิดถึงตอนยังอยู่ชมรม ออกไปตะรอนๆถ่ายรูปกันสี่ห้าวัน กลับมาล้างรูปแล้วเอามาดูด้วยกัน มันลุ้นในการไปรับรูปที่ร้านแต่ละครั้ง แล้วก็สนุกกับการค่อยๆมานั่งดูรูปกับเพื่อนๆ จะถ่ายคนเลือกฟีล์มโกดัก จะถ่ายดอกไม้เลือกฟีล์มฟูจิ....แถมต้องเลื่อกรุ่น เลื่อกซีรีส์ฟีล์ม เลือก ISO ฟีล์มวุ่นวายมากมาย ใช้สมองคิด...สีกี่ม้วน ขาวดำกี่ม้วน สไลด์ล่ะ ตอนไหนถ่ายสี ตอนไหนถ่ายขาวดำอีก.....ฟิลเตอร์เอาสีอะไรไปบ้าง เหลือง เต็มแผ่น ครึ่งแผ่น  แดงสำหรับขาวดำ ซอฟท์ไม๊ ......PL ต้องติดไว้ก่อน.....ของเล่นอื่นๆเอาอะไรบ้าง ฟิลเตอร์ ดาว แฉก .....เฮ้อออ......กว่าจะออกทริปแต่ละที ทำเอาเหนื่อยกับการสับสนในตัวเอง จนมาช่วงหลังถ่ายสไลด์ ก็สนุกกับสีใสปิ๊งแบบสไลด์ แล้วก็สนุกกับการลุ้นว่าสวยกี่รูป เจ๊งกี่ม้วน .... -_-" เมื่อฟีล์มคือครู สไลด์คือครูใหญ่ที่พลาดไม่ได้ มันฟ้องเห็นๆ วันนี้ใช้ DSLR ถ่ายเสร็จ ดูรูป ไม่พอใจ แก้ด่วน เพิ่ม ลบ กี่สต๊อปว่ากันตอนนั้น เปลี่ยนมุม ซูมเพิ่ม ไวด์ออก เห็นภาพก็รู้ความผิดพลาดทันที แก้ได้ทันที กลับขึ้นรถก็นั่งดูรูปที่เพิ่งถ่ายมาได้เลย ....โหลดรูปเข้าเครื่อง แก้สี แก้ภาพ ตัดนิด ต่อหน่อย ลบบ้าง แปะบ้าง ใส่ฟิลเตอร์ ใส่เอฟเฟค เปลี่ยนกลางวันกลางคืน สารพัด.....พระเจ้าจอร์จ..!!! ก็มีความสุขกับยุคดิจิตอลดีค่ะ แต่บางอย่างมันหายไปจริงๆด้วย จากคุณ : On my own wing เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 00:27:25

ความคิดเห็นที่ 60   รู้สึกเหมือน #59 ครับ มันมีข้อดี ข้อเสีย ทั้งคู่ ดิจิตอล ได้ความสดวก ฟิลม์ได้ความประณีต เห็นด้วยว่า มันถึงจุดต่ำสุดของฟิลม์แล้ว ฉนั้น ใครอยากซื้ออะไรที่เกี่ยวกับฟิลม์ ก็ซื้อได้แล้ว มันจะเหมือนช่วงแผ่นเสียงกำลังวายจากตลาด เซ็นทรัลลาดพร้าวลดราดา เหลือแผ่นละร้อย จนไม่กล้าซื้อ นึกว่า เป็นแผ่นเสีย เครื่องเล่นระดับโปรเหลือไม่ถึงสี่พัน ตอนนี้ ใครอยากซื้อหามาใช้ เห็นราคาแล้วหนาว แผ่นละ สองพันอัพ แล้วแต่ศิลปิน ช่วงนี้ กล้องฟิลม์ ระดับโปรมือสอง ราคาไม่ถึงหมื่น ถ้าเอามาใช้ รับรองใช้ไปได้อีกนาน เพิ่งได้ นิค เอฟ 4 ไม่ถึงหมื่น ดาต้าแบค ได้มาพันหก เห็น พวก เอฟเอน2 แค่ สี่ห้าพัน สภาพยังดีๆ ค่าฟิลม์ ถ้าล้างอย่างเดียวก็ไม่กี่ตังค์ รูป ผมสแกนเอา กำลังสแกนรูปเก่าเก็บไว้ด้วย ค่าใช้จ่ายการถ่ายดิจิตอล มันถูกบวกเข้าไปในราคากล้องแล้วจริงๆ ลองคิดต่าเสื่อมราคา ต่อรูป จะรู้ว่า ไม่น้อย ยิ่งคนใช้กล้องถ่ายภาพไม่มากจะยิ่งแพง ถึงใช้มาก ก็มีจำนวนจำนวนหนึ่งที่กล้องจะพังจนม่คุ้มค่าซ่อม จากคุณ : let it be เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 18:28:43 A:118.172.52.147 X:

ความคิดเห็นที่ 61   เรื่อง ค่าใช้จ่าย ที่ว่า ดิจิตอล ถูกกว่า ไม่ใช่จริง แบบไม่มีเงื่อนไข ลองคิดดูตามที่ #34 แสดงตัวเลขไว้ แต่ฟิลม์ ก็มีข้อด้อย ตรงไม่สามารถให้ภาพ ให้เราเห็นได้ทันที บางที การได้เห็นภาพทันที และรู้ว่า มันใช้ไม่ได้ ทำให้เราถ่ายซ่อมได้ทันที เพราะ บางครั้ง โอกาส มันผ่านมาครั้งเดียว ถ้า มอง การถ่ายภาพ เหมือน แผ่นเสียง กับ ซีดี จุดประสงค์ คือฟังเพลง ถ่ายภาพ ก็เหมือนกัน ใช้อะไรก็ได้ ที่เราสดวก ราคาพอสมควร เหมาะกับกระเป๋า ยอมรับ ข้อด้อยของมันได้ ใช้ให้คุ้มค่า มีความสุขกับมัน ก็ใช้ได้แล้ว ตอนนี้ ก็ใช้ กล้อง ดี60 + กล้องฟิลม์เก่า+เลนส์เก่าๆ+อุปกรณ์เก่าๆ ถ้าถ่ายฟิลม์ล้างแล้วก็สแกนเอา บางทีก็ถ่ายเป็นดิจิตอลจาก ดี60 ก็พยายามใช้ ของให้คุ้มค่า ใช้เงินเท่าที่จำเป็น ก็ยอมรับว่า เทคโนโลยี มันต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ ก็เดินตามไปเท่าที่ จำเป็น/หรืออยาก แต่ไม่ตามแบบไม่ลืมหูลืมตา อะไรใหม่ ดีหมด จำเป็นหมด ทั้งที่ มันอาจไม่จริง 100% จากคุณ : let it be เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 20:06:26 A:118.172.52.147 X:

ความคิดเห็นที่ 62   อ้างถึง #28 เคยใช้แต่ กล้องแมคคานิค รุ่นโบราณ ไม่เคยใช้พวก กล้องฟิลม์ ออโต้โฟกัส มาก่อน เพิ่งได้ นิคอน เอฟ4 กล้องฟิลม์ อิเลคโทรนิค รุ่นแรก อายุ 20 ปี มา แล้วได้ ดาต้าแบค เอมเอฟ 23 มาเปลี่ยนฝาหลัง ทำให้กล้องทำงานมากขึ้น เห็น การประกอบกับวัสดุที่ใช้ทำกล้อง แล้ว เห็นการเพิ่ม/เปลี่ยน ดาต้าแบคที่ทำให้กล้องทำอะไรได้เพิ่มอีกมาก การเปลี่ยนก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เกิดความรู้สึก เหมือน #28 ว่า ทำไม ไม่มีกล้องที่เปลี่ยนเฉพาะ ส่วนที่เป็น จอรับภาพ (เช่น ccd หรือ cmos) ที่ต้องพัฒนาให้ดีขึ้น ส่วนบอดี้ มันไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก ควรทำให้ทนทานใช้งานได้นานๆ เลนส์ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนอะไรมาก นอกจาก หลอกว่า มี โค๊ตติ้งดีขึ้น ถ่ายชัดขึ้น ผมเอามาถ่ายเทียบกับ เลนส์อายุ 20-30 ปี ที่แล้ว ก็ไม่ได้ดีกว่าเท่าไหร่ ถ้าคิด แบบ #34 การถ่ายภาพด้วยกล้อง ดิจิตอล ก็ไม่ได้ ถูกเท่าไหร่ เพียงแต่ มันถูกควักจ่ายไปล่วงหน้า โดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าทำแบบที่ ผมฝันไว้ สงสัย บริษัททำกล้อง เจ๊ง แน่นอน กล้องตัวนึง ใช้ไป 30 ปี 55555. จากคุณ : let it be เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 22:27:19 A:118.172.52.147 X: