ความคิดเห็นที่ 1 วัดเจดีย์สามองค์ สร้างอยู่ที่เนินเขา (จำชื่อไม่ได้) หน้าทะเลสาบเอ๋อไห่ ตามความเชื่อที่ว่า เดิมนั้น มังกรในทะเลสาบเอ๋อไห่ ชอบออกมาเล่นน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมเมืองต้าหลี่อยู่เนืองๆ จนกระทั่งมีคำทำนายว่า ให้สร้างวัดที่ด้านหน้าทะเลสาบเอ๋อไห่ ในชัยภูมิที่จะสามารถมองเห็นทะเลสาบได้ทั้งหมด จึงได้มีการเริ่มสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมา และนับตั้งแต่นั้น ทะเลสาบแห่งนี้ ก็ไม่เคยเกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรงอีกสืบไป จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:20:22

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากอธิบายประวัติของทางวัดแล้ว คุณไกด์จันทรา แจ้งให้พวกเราทราบว่า ด้วยความกว้างขวางของวัดแห่งนี้ รวมถึงระยะทางอันแสนไกล ที่ต้องไต่ภูเขาขึ้นไป ทางทัวร์จะจัดให้พวกเราขึ้นรถกอล์ฟไปดูจากด้านบน แล้วค่อยๆ เดินลงมาด้านล่าง เพื่อประหวัดเวลา และเพื่อประหยัดกำลังของพวกเราด้วยค่ะ จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:21:57

ความคิดเห็นที่ 3 เราเดินเข้าประตูวัดไป ก็จะเริ่มเห็นจุดเด่นของวัดนี้อย่างชัดเจน ก็คือ เจดีย์สามองค์ ที่สร้างในสองยุคของชาวจีน (แต่จากภัยแผ่นดินไหวก็ทำให้ต้องมีการบูรณะกันหลายครั้งหลายหน) ด้านขวามือจะเป็นสถานีรถกอล์ฟที่จะพาทุกๆ คนขึ้นไปยังวิหารด้านบนค่ะ เก็บภาพมุมนี้ไว้ก่อน แม้ว่าจะเห็นเจดีย์แค่สององค์ก็ตาม จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:23:29

ความคิดเห็นที่ 4 ระหว่างรอขึ้นรถกอล์ฟไปยังวิหารศากยมุนี (พระพุทธเจ้า) ด้านบน เราก็สังเกตรอบๆ บริเวณ และแน่นอนที่สุด ป้ายภาษาอังกฤษต่างๆ ในประเทศจีน มีอยู่เป็นจำนวนมากที่พิมพ์ผิด เขียนผิด เช่นป้ายนี้เป็นต้น จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:24:46

ความคิดเห็นที่ 5 จากการเดินทางท่องเที่ยวประเทศจีนสองหน ข้าพเจ้าพบว่า คนจีนพากันมาเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ในประเทศจีนเยอะมาก นับว่านโยบายการท่องเที่ยวในประเทศของเขาได้รับการตอบสนองจากประชาชนเป็นอย่างดี คิดว่าบ้านเรา เมืองไทยของเรา ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ปัญหาที่เราพบบ่อยที่สุดก็คือ ค่าเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศของเรานั้น แพงมากๆ เมื่อเทียบกับ ค่าเดินทางไปเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียด้วยกัน ทั้งๆ ที่น่าจะถูกกว่ามาก ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกทีเดียว จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:26:47

ความคิดเห็นที่ 6 ในที่สุดก็ได้เวลาที่กลุ่มของเราจะขึ้นนั่งรถกอล์ฟไปยังวิหารศากยมุนีด้านบนค่ะ ข้าพเจ้าได้นั่งไปคันเดียวกับคุณไกด์ท้องถิ่นชาวไป๋ ซึ่งประเทศจีนมีกฎบังคับไว้ว่า ไกด์ท้องถิ่นในต้าหลี่และลี่เจียงทั้งหมด ต้องแต่งชุดชนเผ่า ขณะปฏิบัติหน้าที่ (คุณไกด์จันทรา มาจากคุนหมิง จึงไม่ต้องเปลี่ยนชุดเป็นชุดท้องถิ่นดังกล่าว) ถ่ายภาพจากด้านหลังขณะรถกอล์ฟกำลังวิ่งค่ะ ชุดของชนเผ่าไป๋ จะแสดงนัยถึงการอยู่ร่วมกันของคนกับธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เครื่องประดับบนศีรษะ หมายถึง ทะเลสาบ ท้องฟ้า ดวงดาว ดอกไม้ และพระอาทิตย์ ในขณะที่พู่สีขาวของสาวโสดที่ห้อยลงมาด้านล่าง แสดงถึงสายลม พู่สีขาวนี้เป็นของสำคัญ หากชายใดไปจับที่พู่นี้ จะต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับสาวชาวไป๋ ซึ่งเมื่อแต่งงานแล้ว สาวไป๋ จะม้วนพู่สีขาวขึ้นไปไว้ด้านบนแทน หญิงสาวด้วยกันจะไม่จับพู่ของกันและกัน เพราะถือว่าเป็นเรื่องไม่สุภาพมากๆ ค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 52 11:30:25 จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:29:57

ความคิดเห็นที่ 7 รถกอล์ฟนำเรามาส่งยังด้านหน้าวิหารศากยมุนี (หรือวิหารพระพุทธเจ้า) เพื่อให้เราได้สักการะพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่อยู่ในวิหาร และเพื่อแสดงให้เห็นว่า วัดนี้เป็นวัดของชาวพุทธ ค่ะ มีข้อห้ามในการถ่ายรูปในวิหาร ดังนั้นจึงเก็บมาแต่ภาพด้านนอก และภาพมุมกว้างค่ะ โชคดีหรือไม่ดีก็ไม่แน่ใจ เมื่อขึ้นมาถึงวิหารด้านบน ฝนหยุดตกแล้ว แดดออกจ้า และค่อนข้างร้อน จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:32:17

ความคิดเห็นที่ 8 จากหน้าวิหารศากยมุนี จะเห็นกระถางธูปขนาดใหญ่ (เพราะคนจีนใช้ธูปดอกใหญ่สักการะพระพุทธเจ้า) ควันจากธูปฟุ้งกระจาย ข้าพเจ้าไม่ค่อยเห็นการสักการะด้วยเทียนเท่าไร อาจจะเพราะบริเวณนี้ลมแรงมากก็เป็นได้ มองลงไปจากหน้าวิหารซึ่งอยู่บนเขา จะเห็นแนวทะเลสาบเอ๋อไห่เป็นแนวยาวสีขาวค่ะ จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:34:48

ความคิดเห็นที่ 9 จากพลังศรัทธา ก่อให้เกิดสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ และสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ก็สะท้อนให้เห็นถึงแรงศรัทธาที่ไม่มีวันสิ้นสุดของมนุษย์เช่นกัน บางครั้ง แรงศรัทธานี่เอง ที่ทำให้เราเกิดความพยายาม ที่จะสร้าง จะทำสิ่งต่างๆ ในด้านดี เพื่อให้ประสบผลดังที่เราตั้งใจและวาดหวัง แม้ว่ามันอาจจะดูไร้ค่าในสายตาของคนเป็นจำนวนมากก็ตามที แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 52 11:37:05 จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:36:34

ความคิดเห็นที่ 10 ตราบเท่าที่พระพุทธวจนะ ยังคงอยู่ ผู้คนก็จะยังหนุนเนื่องมาสักการะอธิษฐานเพื่อน้อมนำเอาความดีงามไปปรับใช้ในชีวิต อย่างน้อยก็เพื่อให้จิตที่วุ่นวายรู้สึกสุขสงบมากยิ่งขึ้น และอย่างน้อย ก็ให้เป็นบุญกุศลที่สั่งสม ให้ทุกดวงวิญญาณเข้าใกล้การสิ้นสุดแห่งสังสารวัฏ อันหมายถึงการเวียนว่ายตายเกิดมากที่สุด จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:39:15

ความคิดเห็นที่ 11 จากวิหารศากยมุนีด้านบน เราพากันเดินลงไปด้านล่าง เพื่อชมและสักการะวิหารต่างๆ เช่น วิหารเซียน วิหารพระสังกัจจายณ์ ที่มีพระสังกัจจายณ์ อยู่ตรงกลาง แล้วมีเทพเจ้าองค์อื่นๆ ที่เป็นที่นับถือของคนจีนอยู่รอบๆ ข้าง เช่น เทพเจ้ากวนอู และเทพเจ้าแห่งยมโลก ที่จะมาตามลงโทษมนุษย์ที่กระทำความผิด เป็นต้น ตามข้อตกลงคือห้ามถ่ายภาพในวิหาร ดังนั้นจึงมีแต่ภาพมุมกว้างๆ เท่าที่เห็นนี้ค่ะ จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:43:09

ความคิดเห็นที่ 12 วิหารแล้ววิหารเล่าที่เราเดินเรื่อยๆ ลงตามเนินเขามาชมนั้น แสดงให้เห็นถึงพลังศรัทธาอย่างถึงที่สุดที่มนุษย์จะมอบให้แก่สิ่งที่เขาเหล่านั้นนับถือได้ สิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตและมหัศจรรย์เหล่านี้ จะยังคงอยู่ไปอีกนานเท่านั้น แม้ว่าชีพของมนุษย์ที่สร้างสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ขึ้นมา จะลี้ลับดับสูญไปสิ้นแล้วก็ตามที จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:44:54

ความคิดเห็นที่ 13 หลายครั้งในการดำรงชีวิตอยู่หลังกล้อง ทำให้เราแทบไม่มีภาพปรากฏอยู่หน้ากล้องนั้น หากไม่ได้ร่วมเดินทางไปกับเพื่อนที่เป็นคนหลังกล้องด้วยกัน หลายคนตั้งคำถามว่า เราไม่อยากบันทึกภาพตัวเองร่วมกับสถานที่ต่างๆ ที่เราได้ไปหรือ คำตอบคือ เราก็อยากบันทึกเช่นกัน แต่จะรบกวนใครให้บันทึกได้เล่า เขาอาจจะไม่เข้าใจ และกลายเป็นคำติฉินนินทาไม่รู้จบ ให้เราระคายเคืองใจ ว่าเรานั้นไซร้อยากออกมาอยู่หน้ากล้อง ไปเสียเท่านั้น เหนื่อยใจ แต่ก็นั่นแหละ คิดอีกที ก็คงไม่ทุกคนที่ได้เดินทางไปไกลเหมือนอย่างเรา และคิดอีกที ก็คงไม่ทุกคน ที่มีคนอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้หรอก หรือมิใช่ จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:47:22

ความคิดเห็นที่ 14 ในขณะที่เรากำลังเดินลงมาจากภูเขา ผ่านวิหารแล้ววิหารเล่า เพื่อซึมซับพลังแห่งศรัทธาของมนุษย์ คนอีกเป็นจำนวนมากก็เลือกที่จะเดินขึ้น เพื่อสัมผัสพลังแห่งความศรัทธานั้นอย่างแท้จริง ความคิดของมนุษย์จำนวนมาก มักจะสวนทางกันเสมอมา เราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าแท้ที่จริงแล้ว คิดแบบไหนจะถูกต้องมากกว่ากัน แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือ ยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน น่าจะเป็นเรื่องดีที่สุด ที่จะทำให้เราอยู่ร่วมกันได้อย่างปรกติสุข จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:51:56

ความคิดเห็นที่ 15 .............. ป.า.ด .................. จากคุณ : กลิ้งคี่ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:53:25

ความคิดเห็นที่ 16 อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง มีใครเคยคิดเหมือนข้าพเจ้าไหม เพราะในวัยเด็กไม่ว่าเราจะทำอะไร กฎเกณฑ์ทั้งหลายที่ครอบคลุมเราอยู่ จะได้รับการผ่อนปรน เราอาจจะทำผิดพลาดไปบ้าง ก็ยังคงมีคนที่รักและจะประคับประคองเราให้โอกาสเราแก้ไขข้อผิดพลาดนั้นตลอดไป เมื่อวัยผู้ใหญ่มาเยือน เราอาจไม่มีโอกาสเช่นนั้นอีกแล้ว เราจึงได้แต่ครุ่นคิดและระมัดระวังไม่ให้กระทำการใดๆ ผิดพลาดได้ หรือหากจะผิดพลาดก็ให้น้อยที่สุด อย่างน้อย หากเราจะบอกเล่าแก่ลูกหลานเราเพื่อให้แนวทางแก่เขา เราก็จะสามารถบอกได้ว่า การที่ชีวิตไม่มีข้อผิดพลาดที่เกินกว่าจะรับได้นั้น มันดีอย่างไร จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:59:34

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีค่ะ น้ากลิ้งฯ -------------------------------------------------------------- เมื่อเราเดินผ่านสิ่งที่เรารู้สึกตื่นเต้นในคราวแรกบ่อยครั้งเข้า ความตื่นเต้นตระการตาก็ลดลง กลายเป็นความธรรมดา นี่หรือคือจิตของมนุษย์ ที่ยากจะควบคุม มันเคยชินง่ายดายเหลือเกิน จึงควรพินิจว่า อารมณ์ต่างๆ นั้น ต่างก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ทั้งยังทำใจให้ชินกับมันได้ง่ายเสียเหลือเกิน จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 12:09:19

ความคิดเห็นที่ 18 ความทรงจำบันทึกได้ด้วยสมองและสองตา หากแต่ภาพถ่ายนั้นยังคงเป็นหลักฐานที่ชัดเจนเมื่อมีคนถามถึง ว่าได้เคยไปเยือนมาแล้วอย่างแท้จริง ความเชื่อของคน และวิถีปฏิบัติของชีวิตนั้นแตกต่างกัน เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกเชื่ออย่างที่เราเชื่อ เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกทำอย่างที่เราทำ แต่สิ่งที่พึงระลึกไว้เสมอก็คือ เราจะไม่ทำร้ายและทำลายคนอื่นเพียงเพราะคนอื่นคิดและเชื่อไม่เหมือนเราเท่านั้น จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 12:11:45

ความคิดเห็นที่ 19 คน น้ำ เขา สิ่งก่อสร้าง ไม่มีสิ่งใดแปลกปลอม เพราะทุกสิ่งอยู่ร่วมกัน เป็นหนึ่งเดียว ครั้งหนึ่ง เราเรียนประวัติศาสตร์ พบการพูดถึงอาณาจักรน่านเจ้า ที่ต่อมาเรียก ตาลีฟู ที่มีทะเลสาบชื่อ หนองแส เป็นไปได้ไหมว่า ที่นั่นคือ ต้าหลี่ และทะเลสาบหนองแส ในตำนาน ก็คือ ทะเลสาบเอ๋อไห่ นี่เอง ตำนานทางอีสานนั้นมีอยู่ว่า นาคสองตนเป็นเพื่อนรักกันสนิทใจ ชื่อ สุทโธนาค และ สุวรรณนาค สุทโธนาค ไปหาช้างมาเป็นอาหารได้ ก็นำไปทำเป็นลาบและ แบ่งปันไปให้สุวรรณนาคกินด้วย พร้อมทั้งแนบขนช้างไปที่ริมจาน ต่อมา สุวรรณนาคไปหาเม่นได้มาเป็นอาหาร ก็นำมาทำลาบ แล้วแบ่งไปให้เพื่อนรับประทาน พร้อมแนบขนเม่นไปด้วย เพื่อนเกิดข้อสงสัย เราแบ่งเนื้อช้างให้ พร้อมแนบขนช้างสั้นๆ ยังได้เนื้อมากมายก่ายกอง เหตุไฉนเพื่อนเราได้เนื้อสัตว์ซึ่งขนยาวเยี่ยงเม่นนี้ กลับปันเนื้อเม่นมาให้เราเพียงน้อยนิด จากความเคลือบแคลงกลายเป็นคลอนแคลนมิตรภาพ ไม่นานนาคสองตนก็ทะเลาะกัน ทะเลสาบเกิดความวิปริตแปรปรวน น้ำเอ่อท่วมท้นรอบบริเวณ ผู้คนล้มตาย สัตว์ทั้งหลายเจียนสูญพันธุ์ เทวดาเบื้องบนร้อนรนทนไม่ได้ จึงมายุติศึก แล้วแจ้งแก่นาคว่า เมื่ออยู่ร่วมหนองกันไม่ได้ ก็จงขุดควักแผ่นดินลงไปทางใต้ สร้างเป็นทางน้ำแห่งตน หากใครสร้างแล้วเสร็จก่อน และสายน้ำนั้นยาวยืนกว่า จะมอบของขวัญสุดวิเศษ ที่ไม่มีในท้องน้ำใดให้แก่ท้องน้ำนั้น สุวรรณนาคขุดควักแผ่นดินลงมาเป็นแม่น้ำสายใหญ่ ชื่อ สายน้ำน่าน เรื่อยลงมาทางใต้ สุทโธนาคนั้นไซร้ ด้วยพละกำลังและอารมณ์ ขุดคุ้ยแผ่นดินลงมาได้ไกลกว่า ชื่อว่า แม่น้ำโขง หรือ แม่น้ำล้านช้าง เทวดารักษาสัจจะวาจาแห่งตน จึงมอบ ปลาบึก แห่งลุ่มแม่น้ำโขงไว้เป็นของกำนัลแก่น้ำโขงนั้น ตลอดมา จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 12:42:39

ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อเรามองไปด้านหน้านานๆ แล้ว เคยหันกลับมามองที่ด้านหลังกันบ้างหรือไม่ ว่าในหนทางเส้นที่เดินผ่านมาผ่านไป เราเดินผ่านอะไรกันมาบ้าง และสิ่งที่เราเดินผ่านนั้น ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ในชีวิตและประสบการณ์ของเรา ให้ครุ่นคิด ให้จดจำ และคำนึงหาหวนไห้ จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 12:55:00

ความคิดเห็นที่ 21 เพื่อนร่วมทริปกลุ่มแรกมาถึงก่อน ได้สิทธิ์ในการออกเดินทางก่อน เราเองก็มาถึงก่อนเช่นกัน แต่ขอใช้สิทธิ์ในการรอเพื่อนที่ยังมาไม่ถึงสักครู่ เพื่อที่จะได้ไปพร้อมๆ กัน ระหว่างนั้น ก็ได้ซึมซับบรรยากาศของการรอคอย ได้เรียนรู้จิตตัวเองอีกครั้ง ว่ามันวิ่งวุ่นวายเพียงใด จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 13:16:59

ความคิดเห็นที่ 22 รู้ทั้งรู้ว่าพักนี้ตัวบวม อ้วนหน้ากลมขึ้นมากมาย แถมแต่งตัวพะรุงพะรัง ก็ลุยฝนมันหนาว แถมฝนตกแป๊บๆ แดดก็ออกเปรี้ยงๆ ก็เลยต้องถือร่มด้วย พันคอให้อุ่นๆ ด้วย แต่ก็นะ ยังขออนุญาตให้น้องที่ไปด้วยกัน เก็บภาพไว้สักหน่อย อ้วนหน่อยจะเป็นไรไป ดูสมบูรณ์พูนสุขจะตายเนอะ จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 13:23:00

ความคิดเห็นที่ 23 สุดท้าย นั่งรถกอล์ฟตามเขาลงมา ที่ใกล้ๆ ฐานเจดีย์สามองค์ด้านล่าง คุณไกด์เตือนทุกคนว่า อย่าเข้าใกล้ฐานเจดีย์มากนัก เธอว่าเธอหวาดเสียว โดยเหตุที่ก่อนหน้านี้เคยมีแผ่นดินไหว เมื่อราวสิบปีที่ผ่านมา แล้วตัวเจดีย์องค์กลาง ซึ่งเก่าแก่ที่สุด ใหญ่โตที่สุด แยกเป็นสองส่วน พังทะลายลงมา ให้ต้องซ่อมแซมและสร้างขึ้นมาใหม่ให้เห็นในสภาพนี้ เราเชื่อเธอ ถ่ายรูปตอนแสงส่องต้องเจดีย์ แล้วเดินจากมา จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 13:24:57

ความคิดเห็นที่ 24 เพื่อนร่วมทริปหลายคนขอตัวแยกไปเข้าห้องน้ำ เพราะมีเสียงบอกต่อๆ กันมาว่า ห้องน้ำที่นี่สะอาด เข้าได้ ซึ่งคล้ายเป็นเสียงสวรรค์ นานๆ ทีเราจะเจอห้องน้ำสะอาดๆ และพอจะเข้าได้ซะที แต่ทำไงได้ เรายังไม่อยากเข้าห้องน้ำตอนนั้น เลยเดินเล่นถ่ายรูปลูกสนสดๆ ที่กิ่งสนใกล้ๆ ห้องน้ำไปพลางๆ ไม่เคยเห็นลูกสนสดมาก่อน เห็นครั้งแรก อืม แปลกตาดี ถ้ามีหิมะเกาะ คงสวยเนาะ แต่วาสนาเราจะพอได้ไปเห็นหิมะหรือ จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 13:26:58

ความคิดเห็นที่ 25 สุดท้าย ที่ลานจอดรถการเอากล้องแขวนไว้ที่คอ ห้อยลงมาที่พุงอันอวบอ้วน บางครั้งก็ส่งผลเสีย คือ พุงไปสะกิดให้เปลี่ยนจากไวท์บาลานซ์ออโต้ที่ชอบใช้ กลายไปเป็นแบบฟลูออเรสเซนส์ ภาพเลยกลายเป็นโทนสีม่วงแบบนี้ ที่แก้เท่าไรก็ไม่หายเพี้ยนสักที และพลาดเองด้วยที่ไม่ได้ถ่ายเป็น RAW FILE เพราะเกรงว่าเมมโมรี่ที่เตรียมไปจะไม่เพียงพอ   เอาไว้ติดตามตอนต่อไป ชิมชาที่หมู่บ้านชาวไป๋ ต่อด้วยการเดินทางไปที่เมืองลี่เจียง มรดกโลกกระทู้หน้าก็แล้วกัน ขอได้รับความขอบคุณจากแมวๆ พิคเจอร์ เช่นเคยค่ะ จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 13:33:42

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาบอกว่าอิจฉาคนไปเที่ยวลี่เจียง  ชริ  ชริ ^,^ อ้อ..... ขอแอบตามไปเที่ยวแบบแห้งๆ (ไม่เปียกฝน หุหุ) นะขอรับ จากคุณ : กลิ้งคี่ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 13:43:26

ความคิดเห็นที่ 27 ลอกน้ากลิ้งครับป้าแอน... อยากมีโอกาสไปสัมผัสบรรยากาศแบบนี้มั่งจัง... ภาพสวยตามมาตรฐานของป้าแอนอยู่แล้วครับ .... จากคุณ : นายนก เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 14:56:42

ความคิดเห็นที่ 28 ตามมาเที่ยวต่อ จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 22:39:50

ความคิดเห็นที่ 29   ตามไกด์คนงามไปเที่ยว โตยเน้อ อ่านคำบรรยายจนเมื่อยเลยแต่ก็ชอบครับ พร้อมพักสายตาด้วยภาพสวยๆ เชียงใหม่ก็มีหิมะไม่ใช่หรือ  ขอหลินปิงเขาเข้าไปดูซิ จากคุณ : KNAMCHIAW เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 10:32:05

ความคิดเห็นที่ 30 ตามมาเที่ยวด้วยครับ... จากคุณ : Red Fox เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 15:49:18

ความคิดเห็นที่ 31 รอไปเที่ยวอีกค่ะคุณแอน (แอบเก็บเข้าคลังกระทู้ ไม่ว่ากันนะคะ อิอิ) จากคุณ : magicwork เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 22:37:57