ความคิดเห็นที่ 1 Under นี้ยังสามารถดึงแสงช่วยได้นะครับ Over ไปแล้วเนี้ยะไม่สามารถเอาอะไรกลับมาได้เลยนอกจากขาวๆ สำหรับผมการถ่ายให้แสงแต่พอดีไม่ over หรือ under ดีที่สุดครับ จากคุณ : leetaesok เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 22:36:58

ความคิดเห็นที่ 2 แป่วว ตรงข้ามผมเลยแฮะ  น้า lee over  ยังพอแก้ไหว แต่ถ้า under ละดึง noise  มาแน่ๆเลย ตกลงยังงายกานเนี่ยย    -"- จากคุณ : bomwoq เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 22:40:16

ความคิดเห็นที่ 3 ลืมตัวอย่างจากปาล์มมี่ ถ่ายให้พอดีไปเลยจะดีกว่าครับ จากคุณ : leetaesok เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 22:41:15

ความคิดเห็นที่ 4 น้า bom ฮะ ถ้ามันโอเวอร์มันก็คือขาดรายละเอียด ขาวไปหมดเลย ถ้าดูในฮิสโตแกรม มันจะกระพริบ ปริ๊บๆๆๆๆๆ ไม่มีรายละเอียดภายใน ถ้าเป็น under ยังคงมีรายละเอียด เราสามารถดึงแสงมาได้อีกอะครับ under แล้วดึงแสงเห็น noise แน่นอนครับ ผมถึงใช้วิธีถ่ายให้แสงมันพอดีไปเลยอะครับ จะได้ไม่ต้องห่วง noise ด้วย แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 52 22:43:25 จากคุณ : leetaesok เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 22:42:32

ความคิดเห็นที่ 5 over ได้ แต่ดู histogram แล้วต้องไม่หลุดขวาออกไปครับ จากคุณ : Take a Look Around เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 22:58:37

ความคิดเห็นที่ 6 ที่เคยถ่ายๆ มานิดๆ หน่อยๆ นะครับ บางที ที่แสงส่องเยอะๆ  เป็นจุดๆ ไม่สม่ำเสมอ    ถ่ายมาแล้ว บางจุดของภาพมันจะมีโอกาสโอเวอร์เกินไปนะครับ   อ้อ วัดอันเดอร์ไป  ยังจะได้ค่าสปีดชัตเตอร์ที่สูงขึ้นด้วยหน่ะครับ (เพราะแสงน้อยๆ ไงๆ ก็มืดอยู่แล้ว ทำให้สปีดชัตเตอร์ต่ำมากไป)   ช่วยให้มีโอกาสได้ภาพคมขึ้นได้ (ถ้าต้องใช้ในช่วงซูมเยอะๆ ) แม้จะต้องแลกกะ Noise บ้าง (ในตอนดึงแสงขึ้นถ้ามืดไป)  ^^"  ถ้าจังหวะสำคัญๆ ถ่ายมาเบลอๆ เพราะมือสั่นนี่แย่เลย แต่ถ้าวัดมืดไป  ก็ไม่ไหวเหมือนกันครับ   Noise มาเยอะเกิน  วัดให้พอดีๆ แล้วได้สปีดไม่น้อย (ไปถ้าใช้ช่วงซูมเยอะๆ ) ดีกว่าอ่ะครับ จากคุณ : goddance เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 23:00:10

ความคิดเห็นที่ 7 ขออภัยที่อยากจะออกความเห็นที่แตกต่างนะครับ คือว่าเคยดู video ของ Kelby training เรื่องเกี่ยวกับ raw processing เขาเทียบให้ดูเลยว่า ถ้าถ่ายมาแบบ over กับ under อันไหนจะดีกว่ากัน ปรากฏว่า ถ่ายแบบ over แล้วมา process raw ให้มืดลงจะได้รายละเอียดที่ครบกว่า แบบ under ซึ่งเมื่อดึงให้สว่างขึ้น รายละเอียดจะไม่เท่าแบบสว่างน่ะครับ ส่วนการที่บางคนแนะนำให้ถ่าย under คงต้องการเห็นแสงเป็นลำๆ มั้งครับ อันนี้เดาเองล้วนๆ ^^ * เพิ่มอีกนิด ตอนที่เค้าทำให้ดู ภาพจะ over/under ไม่เกิน 1 stop นะครับ ถ้ามากกว่านั้นคงดึงให้ดียาก แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 52 23:17:32 จากคุณ : ปรศุ เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 23:01:29

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าใช้ spot metering .. ก็จิ้มไปตรง highlight แล้วล็อคเลย ถ้าใช้ average .. ภาพมีส่วนมืดเยอะ (มาก) ... กล้องจะคำนวนแล้วตัดสินว่า แสงน้อย ... ถ้าเราให้มันทำงานเอง มันจะชดเชย เปิดหน้ากล้อง/ชัตเตอร์ให้แสงเข้ามากขึ้น ทั้งที่ส่วน highlight แสงมากอยู่แล้ว ... มันจะกลายเป็น over -------------- คำนวนคร่าวๆ จาก คห.3 ภาพส่วนมืด .. EV1 ประมาณ 25% ภาพส่วนพอดี (ตัวปาล์มมี่) .. EV6 ประมาณ 70% ภาพส่วนแสงสปอตไลท์ .. EV15 ประมาณ 5% ลองเอามาคูณและถ่วงน้ำหนักดู [(1*25) + (6*70) + (15*5)] / 100 ==   5.20 กล้องจะคำนวนว่าแสงแค่ EV5 ฉนั้น .. ถ้าคุณเปิดรับแสง เพื่อให้ EV5 คือ แสงพอดี อยู่ตรงกลาง ภาพตัวปาล์มมี่ .. จะสว่างเกินไป EV6 - EV5 = 1 stop เท่านั้น ้ถ้าลดแสงลง 1 stop .. มันก็พอดีๆ แต่ถ้าถ่ายห่างออกมา ตัวปาล์มมี่เล็กลง ภาพส่วนมืด .. EV1 ประมาณ 70% ภาพส่วนพอดี (ตัวปาล์มมี่) .. EV6 ประมาณ 25% ภาพส่วนแสงสปอตไลท์ .. EV15 ประมาณ 5% ลองเอามาคูณและถ่วงน้ำหนักดู [(1*70) + (6*25) + (15*5)] / 100 ==   2.95 กล้องจะคำนวนว่า ภาพนี้ แสงเฉลี่ยแค่ EV3 ถ้าคุณเปิดเพื่อให้ EV3 คือ แสงพอดี อยู่ตรงกลาง ภาพตัวปาล์มมี่ .. จะสว่างเกินไป EV6 - EV3 = 3 stop !! จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 23:01:58

ความคิดเห็นที่ 9 จากประสบการณ์อันน้อยนิด ของ ตากอล์ฟ เคลปี้ (ผมเอง) เข้ามาถือหางว่า ถ่ายเวอร์ แก้ให้ดี ยากกว่า...... จากคุณ : เด็กหนอนข้างบ้าน(CND) (blue bike) เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 23:07:01

ความคิดเห็นที่ 10 อ่าฮะ เห็นภาพจากน้าแมวเลย ทีนี้  ผมถามต่อนิดนึงฮะ คือ เพิ่งถ่ายมาได้ไม่นานเหมือนกันอะนะ ผมสงสัยว่า  น้าแมว ดูยังไง  ว่าตรงไหน ev เท่าไหร่อะครับ คือ ดูภาพละบอกได้เลยหรอ   ขอความรู้ด้วยฮะ ^^ จากคุณ : bomwoq เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 23:13:10

ความคิดเห็นที่ 11 ผมคิดว่าถ้า under หน่อย ๆ จะทำให้แสงไฟไม่จ้าเกินนะครับ จะได้อารมณ์คอนเสิร์ตด้วย อาจจะได้แสงเฉพาะนักร้องที่ไม่มากเกินไป จากคุณ : Buddykung เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 23:23:31

ความคิดเห็นที่ 12 มาอึ้งน้าแมวครับ แบบว่าเจ้าแห่งการถอดระหัสจริงๆ เลย สุโก้ย ปรกติผมตั้งวัดแสงแบบหนักกลาง เวลาถ่ายอย่างปาล์มมี่ โคลสอัพเข้าไปก็มักจะพอดี จากคุณ : leetaesok เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 23:27:44

ความคิดเห็นที่ 13 จากที่เคยถ่ายคอนเสิร์ท ถ้าเวทีที่มืด แสงสปอร์ต พุ่งลงนักร้อง ถ้าวัดแสงเฉลี่ย กล้องจะคิดว่าแสงน้อย ปรับสปีดช้าลง หรือเร่ง ISO หรือเพิ่มรูรับแสง แล้วแต่ว่าอยู่ที่โหมดไหน  ผลออกมาว่า ตัวนักร้องสว่างเวอร์  เขาจึงแนะนำให้ถ่ายติดอันเดอร์ไว้ แต่ถ้าปรับกล้องให้วัดแสงเฉพาะจุด เล็งนักร้องไว้กลาง ก็ถ่ายพอดีได้เลยครับ  ใช้แบบนี้ดีกว่า ถ่าย RAW มาแล้วแก้เอา ปกติผมจะตั้งชัตเตอร์เอาไว้อย่างน้อย 250 ครับ ให้กล้องคำนวนรูรับแสงเอาเอง ISO ใช้ตั้งแต่ 400 ส่วนใหญ่ 800 ครับ จากคุณ : ซาตาน No.13 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 23:31:48

ความคิดเห็นที่ 14 ถ่ายโอเวอร์นิดๆ มันก็ดีนะ แต่ระวังอย่าให้เกิด highlight clipping ละกัน แล้วที่เขาแนะนำให้วัดแสงอันเดอร์นั่น มันก็อยู่ที่ว่าใช้กับระบบวัดแสงแบบไหนด้วยนะ อย่างใช้พวก วัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ กับ เฉลี่ยหนักกลาง ถ้าในเฟรมที่ถ่ายมีพื้นที่มืดมาก ก็คงต้องชดเชยอันเดอร์บ้างนั่นแหละ ไม่งั้นรูปอาจออกมาโอเวอร์เกินไปก็ได้นะ ส่วนที่จขกท.ว่า เพราะคนไม่มีประสบการณ์ก็เข้าใจว่าต้องตั้งค่าให้ over เผื่อมืดเอาไว้ ก็ต้องกลับไปฝึกเรื่องการวัดแสงก่อนนะ จากคุณ : DoraeMew เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 01:14:41

ความคิดเห็นที่ 15 แชร์ประสบการณ์ของมือสมัครเล่นด้วยคนค่ะ... ถ้าใช้วัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพก็จะปรับให้อันเดอร์ไว้ค่ะ  เพราะพื้นที่ส่วนมืดในคอนมันเยอะ ตอนถ่ายคอนเสิร์ตเราไม่ค่อยใช้วัดแสงแบบ spot กลัวจิ้มไม่ตรง (คือนักร้องจะไม่อยู่นิ่ง เดี๋ยววัดแสงไม่ตรงจุด) จากคุณ : เจี๊ยบเหมียว เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 04:21:07

ความคิดเห็นที่ 16 กำลังสนใจเรื่องนี้อยู่พอดี เข้ามาเจอกระทู้นี้ ต้องขอเก็บไว้อ่านนานๆเลยครับ จากคุณ : e20 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 09:35:29

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาขอบคุณทุกความรู้ที่ให้นะครับ จากคุณ : tee-aun เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 11:13:59

ความคิดเห็นที่ 18 อืมเทคนิคน่าสนใจเพียบเลยครับ ของผมก็ตั้ง under แต่เหตุผลไม่ได้สนใจ highlight clip เท่าใหร่ ของผมกด under เพื่อให้ shadow ของภาพให้มืดลงให้อยู่ในระดับที่สะใจแค่นั้นเองครับ ในคอนเสิร์ตแสงมันจะฉุดฉาดอยู่แล้ว  พวกแสงเป็นลำๆถ้าเลือกจังหวะดีจะได้มาเองเลยครับ จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 11:27:32

ความคิดเห็นที่ 19 Q: ทำไมภาพคอนเสิร์ทเขาถึงแนะนำให้วัดแสง under ละครับ A: เดานะครับ เพราะว่าคอนเสิร์ทมันมีพื้นดำเยอะ ถ้าวัดเฉลี่ย หรือไม่ได้วัด Spot ที่เล็กจริงๆ มันจะติดพื้นดำมาเยอะนะครับ ส่วนเรื่องดึง HiLight กับ Shadow ผมไม่คิดสำหรับงานแนวนี้ครับ ผมเอาแค่ถ่ายให้ได้ ถ่ายให้ชัด ถ่ายได้จังหวะ ได้อารมณ์ก็พอแล้ว จะมืด สว่าง ขาดๆ เกินๆนิดหน่อยก็หยวนนะครับ 5 5 5 อ้อ . . จริงแล้วงานคอนเสิตเป็นผม ผมใช้น้อง M นะครับ ปรับให้อยู่แต่แรกเลย เสร็จแล้วค่อยปรับแต่งเล็กๆน้อยๆเอานะครับ จากคุณ : Jc2000 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:08:52

ความคิดเห็นที่ 20 ผมดูที่จอหลังกล้องเลย  และฮิสโตแกรม ครับ จากคุณ : เงาฝันที่ฉันเดิน เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:05:00

ความคิดเห็นที่ 21 ภาพแบบนี้ histogram ชวนงงมากกว่าครับ และ histogram นั่นแหละตัวปวดหัว เพราะภาพถ่ายทั่วๆไป .. histogram ควรออกมาเป็นรูประฆังคว่ำ จะเบ้ซ้ายหรือเบ้ขวาก็ได้ .. แต่อย่าให้ติดขอบ ถ่ายทั่วๆไป อาจใช้ได้ แต่ถ่ายภาพคอนทราสต์จัดอย่างคอนเสิร์ต .. เละครับ ยิ่งถ่ายพระจันทร์ ยิ่งเละหนัก --------------------- ถ้าจะให้ง่าย 1. ซูมไปที่ tele สุด ... ให้ภาพตัวนักร้องเต็มเฟรม แล้วถ่ายออกมา .. ภาพจะเบลอ จะไม่ชัด ก็ไม่ต้องไปสนใจ ดูภาพหลังกล้อง .. ถ้ามันออกมาพอดี ก็เอาอย่างนั้นแหละ ล็อกค่าแสงซะ .. จะใช้เป็น AE-lock หรือ โหมด M ก็ได้ แต่ล็อกมันเข้าไป 2. แล้วซูม wide ออกมา ... แสงจะเท่าไหร่ ไม่ต้องไปสนใจมาก แสงบนเวที มันเปลี่ยนวูบวาบก็จริง แต่ไม่เกิน +/- 2 stop .. raw เอาอยู่อยู่แล้ว จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:13:09

ความคิดเห็นที่ 22 วัดแสงเฉพาะจุด แม่นดีจ้า จากคุณ : แค่มีเธอก็สุขใจ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:56:10

ความคิดเห็นที่ 23 มาตามเก็บความรู้ฮับ จากคุณ : pattashmily เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 01:25:34

ความคิดเห็นที่ 24 ..เพราะคนไม่มีประสบการณ์ก็เข้าใจว่าต้องตั้งค่าให้ over เผื่อมืดเอาไว้ " ต้องทำความเข้าใจเรื่องการวัดแสงและการชดเชยแสงเลยครับ เพราะคุณจะรู้เองเลยว่าทำไม " จากคุณ : ตุ๊กตาหมี เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 07:54:53

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องวัดแสงผม อ่านกี่ที ยังไม่เข้าใจเลย แล้วที่เขาบอกว่าให้วัดแสง ตรงจุดที่เทากลาง ท้องฟ้าเข้มๆ พื้นหญ้า ที่นี้ในคอนเสิร์ตมืดๆ ไม่มีสีเทา เขาทำยังไงครับ จากคุณ : ฟูนัน เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 08:13:02

ความคิดเห็นที่ 26 ตอบ คห.25 ต้องฝึกอ่านครับ ถ้าอ่านเจอตรง "เขาบอกว่า" .. ต้องพยายามหาเหตุผลให้ได้ว่า "ทำไม เขาถึงบอกอย่างนั้น" การวัดแสง มีหลักง่ายๆ .. ง่ายสุดๆคือ วัดจุดที่ต้องการ ภาพทิวทัศน์ ... ถ้าจุดที่ต้องการ คือท้องฟ้า ก็วัดที่ท้องฟ้า ถ้าต้องการพื้นหญ้า ก็วัดที่พื้นหญ้า ในคอนเสริต ถ้าต้องการฉากหลัก ก็วัดที่ฉากหลัง ถ้าต้องการหน้าตาคนแสดง .. ก็วัดที่นั่น กล้อง ... วัดออกมาแล้ว จะเสนอแนะว่า ถ้าตั้งแสงตรงจุดที่เราวัด ถามที่กล้องบอก จะให้ภาพตรงนั้น สว่างพอดีๆ นั่นคือ กล้องเสนอแนะ ตรงตามที่เราต้องการ แต่ถ้าเราต้องการให้ตรงนั้น มืดลงไปอีก หรือสว่างขึ้น (เพื่ออะไรก็ตามที) เราก็ ลดแสง หรือเพิ่มแสง ตามที่เรา ต้องการ เราไม่จำเป็นต้องทำตามที่กล้องเสนอแนะเสมอไป จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 08:24:42

ความคิดเห็นที่ 27 การวัดแสงที่บอกใน คห.ข้างบน เป็นการวัดแสง "เฉพาะจุด" ซึ่ง .. แม่นมาก และภาพออกมา ตรงตามที่เราต้องการเป๊ะๆๆๆ แต่ ถ้าเราไม่แม่นว่าต้องการอะไร หรือ ไม่รู้ความต้องการตัวเองชัดๆ ก็ออกมาเละไปเป็นท่า วิศวกรออกแบบกล้อง เขาวิเคราะห์แล้ว พบว่า ภาพส่วนใหญ่ (ไม่ใช่ทั้งหมด แต่เป็นส่วนใหญ่) .. ความสำคัญภาพจะอยู่ที่ตรงกลาง รอบข้าง จะมีแสงแตกต่างจากตรงกลาง ไม่มากนัก เขาเลยวัดแสงมันทั้งภาพ โดยให้น้ำหนักกับค่าแสงที่วัดได้ตรงกลาง มากกว่าส่วนอื่น ทำให้คนที่ไม่แม่นความต้องการตัวเอง ... ถ่ายรูปออกมาได้ดีขึ้น จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 08:29:23

ความคิดเห็นที่ 28 แต่คอนเสิร์ต มันไม่ใช่ภาพที่คนส่วนใหญ่ถ่าย เพราะแสงรอบข้างน้อยมากๆๆๆๆ (มืดตึดตื๋อ เพื่อคนเข้าดูจะได้ไม่เห็นลิปซิ้งค์ ) และแถมด้วยแสงสปอตไลท์ ... แสงเป็นจุด & เป็นจุดที่สว่างมากๆๆๆๆ กล้องถึงวัดแสงออกมา คำนวนเสร็จสรรพ .. แนะนำมั่ว ถ้าเราไม่แม่นเรื่องวัดแสง และไม่แม่นเรื่องความต้องการตัวเอง ก็ต้องเชื่อคำแนะนำ ที่กล้องมั่วๆออกมาให้เรา ภาพเละครับท่าน ... เละเป็นบระเจ้า จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 08:33:17

ความคิดเห็นที่ 29 ตำราวัดแสงอ่ะครับ คือมันเป็น เจดีย์ แล้วมีท้องฟ้า หรือผืนหญ้า ทำไมไม่กดวัดเจดีย์ไปเลยครับ   แต่เขาให้วัดที่ตรงท้องฟ้า หรือ ผืนหญ้า แถวนั้น แล้วล็อคค่าไว้ จากนั้นจึงเลื่อนมาถ่ายที่วัตถุ  แล้วก็ต้องดูว่า ในภาพมีสัดส่วนเข้ม สว่าง อันไหนมากกว่ากัน จึงปรับ ชดเชยไปทาง + หรือ -  อีกด้วยครับ จากคุณ : ฟูนัน เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 09:29:32

ความคิดเห็นที่ 30 ตำราวัดแสงเล่มไหนหว่า ถ้ามีเจดีย์ (ซึ่งขนาดใหญ่มาก) แต่ให้วัดแสงที่พื้นหญ้าแทน .. ผมก็เป็นงงมากๆพอแรงแล้ว ยิ่งให้วัดแสงที่ท้องฟ้า ก่อนมาชดเชย +/- .. อันนี้ เกินความสามารถที่จะเข้าใจได้ เพราะถ้าเป็นผม .. ผมต้องการแสงที่เจดีย์พอดีๆ ผมก็วัดแสงที่เจดีย์ แล้วใช้ค่าที่กล้องแนะนำ ถ้าต้องการให้เจดีย์มืดลง .. ก็ลดแสง ถ้าต้องการให้เจดีย์สว่างขึ้น .. ก็เพิ่มแสง ตรงอื่นจะเป็นอย่างไร .. ไม่ค่อยสนใจมาก เพราะจะเน้นแสงที่เจดีย์ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:41:06

ความคิดเห็นที่ 31 เวลาวัดแสง เข้าใจง่ายๆ ก็วัดที่อะไรก็ได้ที่เรารู้ว่าต้องชดเชยไปเท่าไหร่ครับ ไม่จำเป็นต้องวัดที่วัตถุที่เป็นเป้าหมายก็ได้ เช่นเราจำได้่ว่าสีเขียวประมาณนี้ต้องชดเชย +1 เราก็ไปวัดแสงที่หญ้า แล้วตั้งกล้องให้มันวัดค่าได้ +1 ก่อนจะเลื่อนไปถ่ายที่วัตถุ บางตำราก็แนะให้หัดวัดที่หลังมือ วิธีนี้จะง่ายสำหรับผู้เร่ิมต้นเพราะไม่่ต้องจำหลายสี แต่ใช้งานจริงอาจลำบากเพราะหาสีที่รู้จักไม่เจอ (มีข้อแม้ว่า วัตถุที่เราจะวัดกับจะถ่ายต้องอยู่ใต้สภาพแสงเดียวกัน ไม่ใช่ว่าอันหนึ่งอยู่ในร่ม อีกอันอยู่กลางแดด)  แต่ถ้าชำนาญพอและรู้ว่าสีของเจดีต้องชดเชยไปเท่าไหร่ก็วัดที่เจดีไปเลยก็ได้ (มักเป็นโทนนำ้ตาล ทำให้ต้องชดไปทางลบหน่อยๆ) แต่กรณีที่ถ่ายเจดีนี่ แล้วให้วัดแสงที่ท้องฟ้านี่ผมนึกไม่ออกเหมือนกัน เพราะถ้าทำแบบนั้นเจดีมักจะมืดขาดรายละเอียดไปเลย เนื่องจากความต่างของแสงมีมากเกินไป จากคุณ : Chanin.U เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 22:27:47

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวผมเซฟข้างบนๆไว้อ่านก่อนครับ ผมอาจจะเข้าใจผิด ไปจากที่เขาสอนก็ได้ ขอไปเปิดอ่านอีกทีครับ จากคุณ : ฟูนัน เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 08:46:02

ความคิดเห็นที่ 33 โอเค วัดบ้าง จากคุณ : ต้นมังคุด เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 00:10:49