ความคิดเห็นที่ 1 เคยไปสองครั้ง (ตั้งแต่สมัยยังไม่มีกล้องของตัวเอง) ถ้าต้องการไปดูน้ำตก แนะนำว่าไปเดือนตุลาคม สวยกว่า ช่วงปลายฝนต้นหนาวกำลังงามครับ (ระวังช่วงนี้ทากเยอะ !!) แต่ถ้าต้องการไปดูใบไม้เปลี่ยนสี ไปช่วงปีใหม่หรือปลายธันวาคมจะกำลังดี ข้อเสียของการไปช่วงนี้ น้ำจะน้อยแล้ว (ปีที่ผมไปน้ำตกวังกวาง กลายเป็นฉี่กวางเลย T_T) แต่ถ้าต้องการเข้าไปในส่วนป่าปิด เพื่อไปดูป่าที่สมบูรณ์จริงๆ ต้องไปช่วงเมษา (ช่วงนี้เค้าปิดเพราะอันตรายเกินไป) --------------------------------------------- วันขึ้นภู ไปแต่เช้า  ถ้าเพื่อนในกลุ่มฟิตมากหน่อย แค่ 2-3 ชั่วโมงก็ถึงตีนแป(ยอดภู)แล้ว น่าจะใกล้ๆเที่ยง แต่ถ้ามีเด็ก-ผู้หญิงไปด้วย หรือมีอายุมากหน่อยกว่าจะถึงคงบ่ายๆ เอาของติดตัวขึ้นไปให้น้อยที่สุด อะไรฝากลูกหาบได้ฝากให้หมด พกติดตัวไปแต่ของมีค่า และน้ำขวดเล็กๆซักขวดเผื่อหิวระหว่างทางก็พอ (เดี๋ยวระหว่างทางมีขายเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัว รับรองอิ่มตลอดทาง) ขาตั้งกล้องไม่น่าจะได้ใช้ระหว่างทางขึ้น(ยกเว้นเอามาใช้แทนไม้เท้า) ยัดใส่กระเป๋า ฝากลูกหาบขึ้นไปน่าจะดีกว่า   ขึ้นไปถึงตีนแป จะมีร้านให้เช่าจักยาน ถ้าขี้เกียจเดินก็เช่าไป อย่าลืมตรวจสอบระบบ break กับศูนย์รถให้ดีเพราะบางคันมีปัญหา(เพื่อนผมเกือบซวยมาแล้ว) ระยะทางจากตีนแปถึงที่พัก ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 3-4 km. ถ้าเดินไปตามทางคนเดินพื้นมันจะเป็นทรายๆ (เหนื่อยกว่าปรกติหน่อย)  ถ้าไปตามทางจักรยานจะเป็นคันดิน แต่อ้อมไกลกว่า ถ้าไปช่วงเทศกาลคนจะเยอะมาก (เยอะจนน่ากลัวว่าถ้ามีไฟไหม้เต้นซักหลัง คงมีการเหยียบกันตาย)  แต่ถ้าไปช่วงธรรมดาก็โล่งจนกลัวผีหลอก (ไม่เคยมีความพอดี ) อาหารการกินต้องเรียกว่ากินดีอยู่ดี มีแทบทุกอย่างให้ท่านเลือก พกไปแต่เงินก็พอ แต่บนภูมีไฟฟ้าให้้ใช้เฉพาะที่ศูนย์บริการของเจ้าหน้าที่และที่ร้านอาหารเท่านั้น และปิดหลัง 4 ทุ่ม  ฉะนั้น Battery สำรองเอาไปให้พร้อม หรือจะเอาที่ charge ไป แล้วไปนั่งเฝ้าที่ศูนย์บริการนั่งท่องเที่ยวก็ได้ (แต่ไม่แนะนำเอาเวลาไปนอนเล่นหรือพักผ่อนดีกว่า) Memory card เตรียมไปให้พร้อม (เหลือดีกว่าขาด) ถ้าวันแรกขึ้นมาถึงค่อนข้างเร็วจะพอมีเวลาไปเดินเล่นสำรวจรอบๆที่พัก หรืออาจไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก รายละเอียดเที่ยวบนภูไม่ขอพูดถึง เดี่ยวยาวเกิน แต่วันที่วางแผนจะไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก แนะนำให้เช็คเวลาพระอาทิตย์ตกกับทางเจ้าหน้าที่ให้ดี และไปถึงก่อนเวลาซัก 1-2h  ไม่งั้นไม่มีที่ให้ถ่าย (โดนชาวบ้านเอาขาตั้งไปกางจองที่หมดแล้ว) พกผ้าใบ/เสื่อไปนั่งเล่นนอนรอด้วยละกัน จากคุณ : Chanin.U เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 06:21:12

ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนเตรียมกล้อง .. เตรียมตัวให้พร้อมดีกว่าครับ ไม่งั้น .. ไม่ได้รูป เพราะเล็บฉีก มีรองเท้าดีๆ ใส่จนเข้าที่แล้วหรือยัง   อ้อ .. ในคลับ oly .. มีการนัดแนะกันว่าจะไป ราวๆเดือน พย. นี้ ลองเข้าไปดูๆนะครับ ภูกระดึง มีข้อมูลในเน็ต เพียบไปหมด ถามอากู๋ google ได้ครับ เอาข้อมูลมาประมวลให้เรียบร้อย แล้วลุยได้เลย จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 07:04:08

ความคิดเห็นที่ 3 ข้างบน บอกไปเกือบหมดแล้ว หล่ะนะ แนะนำเพิ่มเติมก็แล้วกันครับ ... ดูจำนวนวันที่จะ พักด้วยนะครับ ว่าจะนอนสักกี่คืน จะได้ศึกษาเส้นทางเดินสำรวจ + ดูวิว ได้หลายๆที่ ผมไป มา 3 รอบแล้ว ... ผาหล่มสัก ไม่ใช่เป้าหมายอีกต่อไป อยู่แค่ผาเหยียบเมฆ ก็สวยมากมายแล้วหล่ะครับ ... เดินกลับไม่ไกลด้วย ปล. เดินเท้า ตกวันละ 10 กม. นะครับ ฟิตร่างกายก่อนไปหน่อยก็ดี จากคุณ : popy_kung เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 07:05:58

ความคิดเห็นที่ 4 จุดที่ต้องระวัง เพราะจะทำให้รูปที่่ได้ ห่วยจนดูไม่ได้ คือ .. น้ำหนักอุปกรณ์ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น เพราะคุณต้องแบกของทุกอย่างที่มี ติดตัวตลอดเวลา นับแต่วินาทีแรกที่ก้าวผ่านประตูด่าน จะฝากของไว้กับคนอื่นไม่ได้ และจะทิ้งของไว้ที่เต้นท์ แบ่งไปใช้เพียงบางส่วน ก็ไม่ได้เช่นกัน มีสิทธิ แตก หัก เสีย หาย ได้ตลอดเวลา ลองเอาเป้สะพายหลัง (ไม่แนะนำอย่างอื่น) มาใส่อุปกรณ์ถ่ายรูปทุกอย่าง ที่คิดว่าจะเอาขึ้นภู แล้วไปสวนถ่ายรูปแห่งชา่ติ .. ตอนบ่ายๆ ... เดินวนถ่ายรูปให้ทั่วสวน โดยใช้เวลาซัก 3-4 ชั่วโมง รับรองจะได้รู้เลยหว่า เหนื่อยจนฟ้าเหลือง เป็นอย่างไร ----------------------------------------- ตอนเดินขึ้น เราอาจฝากอุปกรณ์ไปกับลูกหาบได้ (ค่าขน กิโลกรัมละ 15 บาท) แต่ .. แน่ใจหรือว่า ไม่แตก หัก เสีย .. หาย ลูกหาบ เขาจะเอาของทุกอย่างใส่ในถุงทะเล รวมๆกัน ก่อนมัดปากถุึง บาลานซ์น้ำหนัก หาบขึ้น ถุงมันหนักมากๆๆ (สามสิบกิโลกรัมอัพ .. แบกเข้าไปได้งัยก็ไม่รู้) เขาไม่มีทางค่อยๆยก ค่อยๆวาง ของมีสิทธิโดนแรงกระเทือนอย่างแรง ... ส่วนตัวเราเอง ผมประกันให้เลยว่า การแบกน้ำหนัก 10 โล เดินขึ้นภู มันจะทำให้ความอยากถ่ายรูป หายไปไม่น้อยกว่า 90% จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 07:14:32

ความคิดเห็นที่ 5 การถ่ายรูปบนภู มีขีดจำกัดสองสามอย่าง อย่างแรกคือ การถ่ายพระอาทิตย์ ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ตอนเช้าไม่เท่าไหร่ แต่ตอนเย็น .. ขาตั้งจะเป็นตัวปัญหา เพราะเราต้องแบกมันเดินไปด้วย ทั้งวัน เพื่อใช้ตอนเย็น 20-30 นาที ก่อนแบกมันเดินกลับอีก 8.9 กิโลเมตร ตอนกลา่งคืน ถ้าเอาขาที่น้ำหนักมากๆไป .. พอได้อารมณ์เสีย แต่ถ้าใช้ขาเบาๆ .. ก็เสี่ยงเอาเรื่อง เพราะทุกผา .. ลมแรงมาก และคนเยอะมาก มีสิทธิเตะขาตั้งกล้องเราได้ตลอดเวลา อย่างที่สองคือ แฟลช อย่าคิดว่า น้ำหนักไม่เยอะ เพราะ .. มันก็ไม่ได้ต่างจากขาตั้ง แบกไปไหนมาไหนด้่วยทั้งวัน .. ใช้แป๊บเดียวเอง (ได้ใช้หรือเปล่าหว่า ) มีเรื่องให้คุยกันได้อีกเยอะ ค่อยๆใช้จินตนาการนึกภาพไปเรื่อยๆ .. จนถึง พย. แล้วไปเจอกันที่ผาหล่มสัก จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 07:20:03

ความคิดเห็นที่ 6   เตรียมสุขภาพร่างกายให้ดีที่สุดครับ มันหยดติ่งๆเลย เอามายั่วน้ำลายครับ ^________^ ตามคำแนะนำข้างบน ถูกต้องที่ ซุด...ด.ดด.ดดด.! จากคุณ : focuszone (oatzoom) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 08:06:53

ความคิดเห็นที่ 7   รูปไม่ขึ้นขออีกที จากคุณ : focuszone (oatzoom) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 08:07:29

ความคิดเห็นที่ 8 น้าแมว เล่นสะเห็นภาพเลย จากคุณ : hookman13 เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 08:26:03

ความคิดเห็นที่ 9 เตรียมตัวฟิตร่างกาย เตรียมรองเท้าดีๆ เพราะต้องเดินไกล ระวัง ทาก......... ว่าแล้วก็อยากไปอีกจัง ไม่ได้ไปนานแล้ว จากคุณ : dark conner เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 09:01:20

ความคิดเห็นที่ 10 เคยไป  3 ครั้ง แต่ นานมากแล้ว ครั้งแรก ธันวาคม ปี 2528 โรงเรียนปิดเนื่องจากจัดซีเกมส์ที่ประเทศไทย ครั้งสุดท้าย เมื่อปี 2535 ปีนี้ กำลังวางโครงการว่าจะไป" ฟื้นอดีต " เช่นกัน เรื่องกล้อง น้าแมวแจงไปหมดแล้ว เพิ่มเติมเรื่องการเตรียมของให้ครับ รองเท้าน่าจะใช้แบบในภาพที่แนบให้ ดีกว่าผ้าใบ(ในความคิดผมนะ)แต่ในสมัยที่ผมไปยังไม่มี 555 สมัยผมไป รองเท้าผ้าใบนันยางครับ ขากลับเอากลับมาไม่ได้ เพราะหมดสภาพ เพื่อนที่เคยไปด้วยกันสมัยนั้น ทำงานที่ จ.เลย บอกมาว่า ทางสะดวกสบายมากกว่าสมัยนั้นเยอะแล้ว ข้างบนมีจักรยานให้เช่า มีร้านหมูย่างเกาหลีด้วย ไม่ต้องแบกข้าวสารขึ้นไปหุงเองเหมือนสมัยก่อน ที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากล้องของท่าน คือ ไฟฉายพร้อมแบตครับ จากคุณ : แถมฟรีน้ำ 1 ขวด เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 09:07:04

ความคิดเห็นที่ 11 ลืมรูปซะงั้น รูป จง มาๆๆๆ จากคุณ : แถมฟรีน้ำ 1 ขวด เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 09:11:14

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าไปช่วงที่มีทาก พกยาเส้นไปด้วยสำหรับกันทาก ผสมน้ำราดรอบๆเต้นท์ ดีกว่าปูนขาวอีก น้องทากไม่อันตรายเท่าไหร่ แต่ไม่ชอบหน้าตามันนี่สิ จากคุณ : เขียวหวานมะเขือเยอะๆ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 09:46:45

ความคิดเห็นที่ 13 ปีที่แล้วไปมาตอนต้นเดือน พฤษจิกา กับห้องคนรักหนัง ฝนยังตกอยู่ประปราย ส่วนใหญ่ไม่ถึงกับแฉะ แต่ทางก่อนถึงยอดภูเละมาก สถานที่กางเต๊นท์แทบจมน้ำ ผมใส่รองเท้าผ้าใบคู่ใหม่ที่ใช้ไม่ถึงเดือนไป ขึ้นไปเท้าบวมด้านบน จบทริป เล็บเท้าถอดไป 4 นิ้ว แนะนำรองเท้าแบบในภาพข้างบนครับ จะสบายทั้งขาขึ้นและขาลง ตอนเดินขึ้นพกแค่กระเป๋าคาดเอวใส่ของเล็กน้อย น้ำ 1 ขวด กับกล้องคอมแพ๊คตัวเดียว เดินถึงจุดพักแต่ละซำ พักแค่พอได้รูปแต่อย่าให้นานจนเหงื่อแห้ง ไม่งั้นท่านต้องมาวอร์มร่างกายใหม่ และจะเหนื่อยมากยิ่งขึ้น อย่าลืมยาคลายกล้ามเนื้อ ถ้ากลัวทากพกยาฉีดกันยุง ฉีดที่รองเท้าทากจะไม่มาเกาะ ฉีดที่ตัวมัน ทากจะปล่อยทันที จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 10:36:34

ความคิดเห็นที่ 14 มารำลึกถึงการขึ้นภูกระดึงอีกคนครับ น้าข้างบนบอกหมดแล้ว เรื่องเตรียมกล้อง เตรียมตัว เตรียมใจ อย่าลืมเตรียมคนข้างๆ ด้วยน่ะครับว่าเค้าพร้อมขึ้นหรือปล่าว โดยที่เค้าและเราไม่ใช่ตัวมีปัญหา ปล. หลายคู่ที่นี้เป็นที่สุดท้ายที่รักกัน (เป็นตำนานไปแล้ว..เดี่ยวนี้ยังจะจริงหรือไม่ไม่รู้แล้วครับ) สุดท้ายหาข้อมูลเยอะๆ ยังพอมีเวลาเตรียมตัว...พร้อมแล้วก็ลุยครับ...ครั้งหนึ่งในชีวิต จากคุณ : appendiculata191 เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 11:07:16

ความคิดเห็นที่ 15 ขึ้นครั้งแรก สมัยเรียนอยู่มข. ไปถึงเอาบ่าย 2 ลูกหาบหมด ต้องแบกขึ้นเอง รับเป้ของตัวเอง ราว 4-5กิโล + เต้นราคาถูกของบิ๊กซี 2 หลัง ----ผลคือ แทบตายครับ แต่ช่วงนั้นยังหุ่นเพรียวลม  เลยไม่แบกน้ำหนักเท่าไร ไปเกือบตกบันไดช่วงเกือบๆสุดท้ายครับ ที่ชั้น 80 องศา ระยะแค่ สิบกว่าเมตร หน้ามืดไปเลย ดีว่าเกาะราวเอาไว้   ครั้งที่สอง จ้างลูกหาบ สบายหน่อย เดินไปพร้อมกับคุณลุงคุณป้า อายุราวๆ 55-60  พอถึงที่ยอดตรงจุดถ่ายรูป ตบมือให้กันกราวเลยครับ แน่จริงๆถึงจะพักบ่อยก็ตาม ล่าสุด เมื่อปีใหม่ปี 50  แบกน้ำหนักเพิ่มจากเดิมอีกราว 25 กิโล (ไขมันล้วน) ขนาดสัมภาระเอาไปให้ลูกหายขนหมด เหลือแค่ S5700 อยู่ตัวเดียว เล่นเอาขึ้นเกือบไม่รอด พี่ที่ไปด้วยลงทุนจ้างลูกหาบ นอนเปลขึ้นภูนำไปแล้ว อิอิ คุ้มครับ สำหรับแหล่งท่องเที่ยว+แหล่งถ่ายรูป+ความประทับใจ หาข้อมูล วางแผนการเดินเที่ยว เตรียมตัว ออกกำลังกายให้กำลังอยู่ตัวสักหน่อย จะได้ไม่เหนื่อยมาก การเดินขึ้นภูกระดึงถือเป็นเสน่ห์ที่ควรรักษาไว้ครับ มีไม่กี่ที่ ส่วนใหญ่รถเข้าถึง เดินไม่กี่กิโล จากคุณ : *--* (sanitkku) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 11:23:08

ความคิดเห็นที่ 16 พย. นี้ผมจะไปรอบที่สามแล้วครับ น้า ๆ ข้างบนแนะนำหมดแล้วเน้อ ฟิต ๆ เข้าใว้คร้าบ ถ้าไปช่วงเดียวกัน คงได้เจอกัน จากคุณ : inutero เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 12:59:50

ความคิดเห็นที่ 17   ที่ไปมา ขาลง เหนื่อยกว่าขาขึ้น สำหรับผมนะ เพราะต้องชันตัวเองตลอดเวลา และที่สำคัญเราหันหลังให้ที่สูง ซึ่งตอนผมไปเด็กข้างๆเดินมาแล้วลื่นสไลด์โดนก้อนหินขนาดครึ่งกำมือแบบไม่ตั้งใจ  ผลที่ออกมาคือ ก้อนหินกลิ้งลงมาตามทางเดินไกลสุดตา และค่อยๆเร่งความเร็วและกระดอนสูงขึ้นเรื่อยๆ ผมกับคนอื่นตะโกนกันสุดเสียงให้ ระวังๆ! ระวังก้อนหิน      คุณคิดดูสิขาที่คนเดินขึ้นมากับเดินลง ทุกคนเหนื่อยและเดินก้มหน้า มองก้าวต่อไปของตัวเองกันทั้งนั้น พอได้ยินเสียงก็เงยหน้ามองกระโดนหลบกัน แล้วก้อนหินนั้นก็เฉทิศทางออกจากทางเดิน ไม่มีใครบาดเจ็บ  ตลอดทริปเจอประมาณ 3 ครั้งได้ อีกอย่างขาขึ้น ขึ้นให้เร็วเอาให้ถึงข้างบนเช้าๆหน่อยอย่าสายมาก เพราะผมอยากให้คุณเจอสิ่งที่ผมเจอ แบบ เฟิร์ส อิมเพรสชั่น   วางแผนเรื่องอุปกรณ์ดีๆแล้วกันครับ ไม่จำเป็นส่งให้ลูกหาบไปเลย เพราะมันมีช่วงที่ต้องไต่บันได 90 องศา ด้วย จากคุณ : เจ้าชายรองเท้าแตะ 655 เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 15:15:13

ความคิดเห็นที่ 18 เคยไปมา 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อตุลา ปี 27 สวรรค์บนดินเลยครับ ก้อนเมฆ สายหมอก ป่าสน แต่ทางไปน้ำตกยังใหม่มาก แค่รอยหญ้าล้มเนื่องจากปิดป่า ทากเพียบ ไปได้แค่ น.วังกวาง ก็ป่าแตก ทนทากไม่ไหว แตกฮือปีนขึ้นหน้าผาไปลานสนได้ยังไงก็ไม่รู้ เดินป่าช่วงทากเยอะพยายามเดินนำขบวนเป็นคนแรก หรือคนที่สองให้ได้ คนที่สามเป็นต้นไปจะเริ่มโดนทากรุ้มทึ้ง รองเท้าอย่าใช้คู่ใหม่ไปฉลองบนนั้น มันจะกัดเท้าคุณอย่างรุนแรง กายพร้อมใจพร้อมลุยเลย ข้อมูลไม่ต้องพร้อมก็ลุยได้ เมื่อตอนไปครั้งแรกนั้น ผมเตรียมข้อมูลพร้อมมาก ศึกษาทุกอย่าง จดจำได้ทุกซำ จำได้ทุกผา จำเส้นทางเดินเท้าได้ด้วย ปรากฏว่า พอขึ้นถึงบนภู ความรู้สึกเหมือนสถานที่คุ้นเคยยังไงไม่รู้ เป็นอาการของข้อมูลล้น ความตื่นเต้นจะได้รับน้อยลง จากคุณ : น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 15:48:59

ความคิดเห็นที่ 19 ก่อนไปเข้าฟิตเนส 1 เดือนอ่ะค่ะ เลยค่อนข้างชิลๆ ที่สาหัสคือเรื่อง เดิน เดิน และ เดิน เตรียมยาคลายกล้ามเนื้อและเกลือแร่ไปด้วยก็ดีนะคะ มีปัญญาถ่ายรูปมาได้เท่าเนี้ยะ แต่ของจริงมันสวยเกินบรรยาย ส่วนตัวชอบดูอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูกมากกว่าผาหล่มสัก เช่าจักรยานขี่ไป-กลับ หนุกดีค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 15:51:04

ความคิดเห็นที่ 20 ฟิตร่างกายสำคัญมากคะ ปีที่แล้วไปต้อนสิ้นปี  น้ำตกไม่ค่อยมีน้ำ...แต่ก็สวยไปอีกแบบ... จากคุณ : magnow เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 16:27:21

ความคิดเห็นที่ 21 ..*-*.. จากคุณ : magnow เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 16:30:50

ความคิดเห็นที่ 22 พย. นี้ จะไปด้วยครับ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว จะไปถ่ายรูปเหมือนกันครับ เพิ่งซื้อ  OLYMPUS SP 565 UZ มานะครับ จะเอาไปลองถ่ายเล่นดูครับ ถ้าเจอทักทายกันบ้างนะครับ จากคุณ : ท้องฟ้า...สีคราม (raknainong) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 20:43:44

ความคิดเห็นที่ 23   ไปมาเมื่อปีที่แล้วค่ะ เหนื่อยมากๆ แต่ทำให้เข้าใจในอารมณ์ที่พอได้ไปแล้ว ก็ยิ่งอยากไปอีกจริงๆ ถอย D80 เพื่อการนี้มาโดยเฉพาะ ถ่ายรูปก็ยังไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ แต่คิดว่าไหนๆก็ขึ้นไปยากแล้ว ขอภาพสวยๆ กลับมาเยอะๆ แล้วกัน อุปกรณ์ดีไว้ก่อนฝีมือค่อยมาทีหลัง อิอิอิ วันเข้ากรุงเทพเพื่อไปขึ้นรถที่หมอชิต 1 ทุ่มเพิ่งไปเดินเลือกขาตั้งกล้องที่พันธ์ทิพย์ ไม่มีให้เลือกเยอะเท่าไหร่ และในเวลาที่จำกัด หาตัวที่เหมาะกับ D80 ได้แล้ว แต่ใหญ่และหนักเอาการ พอได้มาแล้วเครียดมากจะแบกไปไหวไหมเนี้ย ถึงร้านเจ๊กิมแอบมองของคนอื่นขาตั้งเค้าตัวเล็กๆ ทั้งนั้นเลย ขาขึ้นยัดใส่ถุงดำส่งต่อให้ลูกหาบ แล้วแบก D80 ไปอย่างเดียว เห่อของใหม่ และเลือกกระเป๋ากล้องแบบเป้ไปเลยไม่หนักเท่าไหร่   เช้าวันแรกต้องแบกไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น แทบเดินถอยหลัง หนักมากอยากจะร้องไห้ เดินกันเร็วมากเพราะมีเจ้าหน้าที่นำไป แต่ภาพแรกที่เห็น หายเหนื่อยไปชั่วคราว จากคุณ : คุณนายตื่นเช้า เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 22:39:37

ความคิดเห็นที่ 24 เพ่ิมเติมเรื่องรองเท้า มีหลายคนแนะนำไปแล้วให้ใช้รองเท้าแบบเปิดนิ้วด้านหน้า เพราะเวลาเดินลงจากภูนำ้หนักมันจะไปรวมอยู่แถวๆนั้น ส่วนตัวผมใช้รองเท้าฟองน้ำ (นันยางคู่ละ 30 บาท) ทั้งเดินขึ้นเดินลงครับ ไปเปลี่ยนเป็นผ้าใบตอนอยู่บนภู ปล. ถ้าไปช่วงปีใหม่เตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้ดีด้วย ที่ริมผาลมแรง หนาวได้ที่ดีนักแล จากคุณ : Chanin.U เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 22:41:48

ความคิดเห็นที่ 25   สวยคุ้มค่ามากๆ ลืมเล่าไปค่ะ  ทริปนี้ไปกับเพื่อนผู้หญิงแค่ 2 คน เพราะจากที่นัดกันไว้ 5 คน ไม่พร้อมไป 3 คน แต่ด้วยความอยากเที่ยวมาก หน้ามืดไปกันแค่ 2 คน ช่วงขาขึ้น ด้วยความดีต่างๆ ที่สะสมมา ได้ไปเจอกับคณะของพี่ๆ รุ่นใหญ่ อายุเฉลี่ยประมาณ 40-50 ปีกันเลย แต่ยังหนุ่มสาวกันทุกคน เลยขอติดตามเที่ยวไปกับพี่ๆ ด้วย เพราะเพื่อนเราเดินไม่ค่อยไหวเท่าไหร่ มีพี่คนหนึ่งใจดีช่วยแบกขาตั้งกล้องให้ตลอดทริปเลย ประทับใจมาก จากคุณ : คุณนายตื่นเช้า เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 22:49:50

ความคิดเห็นที่ 26   เรื่องรองเท้าถ้าไปหน้าฝนแนะนำให้ซื้อแบบที่ลูกหาบใส่ค่ะ ดีมากๆ ไม่กัดเท้าด้วยค่ะ ถ้าซื้อที่ร้านค้าข้างล่าง คู่ละ 50 บาท แต่ถ้าไปซื้อข้างบน 100 บาทนะค่ะ แต่ตอนขาขึ้นใส่ scholl ไปค่ะ ติดโคลนหนึบหนับ เพราะด้วยความงกและมั่นใจในรองเท้าของเรานั้นเอง พอไปถึงข้างบนรีบไปหาซื้อรองเท้าเลย คุ้มค่าจริงๆ เวลาไต่หินแถวน้ำตก ไม่มีลื่น มั่นใจในการแบกกล้องจริงๆ จากคุณ : คุณนายตื่นเช้า เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 22:55:36

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นของพี่ๆน่ะครับ ค่อยอยากมีกำลังใจในการสู้ขึ้นไปหน่อยครับ แล้วจะเอารูปสวยๆเก็บมาให้น่ะครับ จากคุณ : ninjathai (ninjathai) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 04:05:09

ความคิดเห็นที่ 28 เตรียมแบตครับมันเบ็นมันจะถ่ายได้นอนพกแบตสำรองใส่ไว้ในตัวให้มันอุ่นๆอะครับ ถ้าไปก่อนช่วงเดือนธันวาก็ระวังทากด้วยนะ จากคุณ : mao_narak เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 04:05:37

ความคิดเห็นที่ 29 #16 แทบจะเป็นประโยคเดียวกับที่ผมอยากจะพิมพ์เลยหงะ เคยไปครั้งแรกตอน หลายๆๆปีก่อน ดันไปตอน 5 ธันวา คนหมื่นสอง ! (เห็นว่ารับได้แค่ 5 พันหละนะ) ขึ้นไปถึง(ตกเย็นไปแล้ว) โอว พระเจ้า สว่างไสว ราวกับงานวัด!! แทบไม่มีที่ตั้งเต้นท์! พย. นี้ไปเหมือนกัน แต่คงไม่ตรงวันคนเยอะๆแล้วหละนะ  หนนี้เอาผู้ใหญ่ไปด้วย เสียดายคุณแม่ เกิดจะมาเป็นหัวเข่าเสื่อม ถอดใจไปสะแล้ว เห้อ ว่ากันไป ออกกำลังกายบ้างนะ ก่อนไป แต่ยังไงไม่ต้องห่วงหรอก ไปอยู่บนนั้นเดินไหวแน่ๆ เพราะถ้าเดินไปได้ 3 km  เหลืออีก 12 km  แล้วเหนื่อยไม่อยากเดินนะ... นายก็ต้องเดินหวะ เพราะมันไม่มีทางอื่น!! 555+   พอลงมาแล้ว นายจะปลื้มใจกับกล้ามเนื้อที่น่องไปอีก หลายอาทิตย์เลยหละ เชื่อดิ คุคุคุ จากคุณ : Handy (HANDYHUNG) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 14:56:46

ความคิดเห็นที่ 30 อ้อ เพิ่มนิดนึง สมัยไปครั้งแรก มันเหมือนเดินป่าจริงๆ เลยนะ แบบว่า เราอยู่คนเดียว พอหนที่สองที่ไปเองคนเดียว นี่ นึกว่า ได้เปลี่ยวสะใจ ปรากฏ.. คลื่นมือถือ ดันทั่วถึงไปทั้งภูแล้ว ยกเว้น ในหุบน้ำตก ลึกๆ ที่จะไม่มีสัญญานแค่นั้น ก็เลย ... ไม่ได้เสี่ยงภัยตื่นกลัวอะไรเลย สบายใจ กันไป.. จากคุณ : Handy (HANDYHUNG) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 14:58:55

ความคิดเห็นที่ 31 มารำลึกถึงความหลังต่อ .. ตอนขึ้นครั้งที่สี่ หรือ ห้าเนี่ยแหละ ขึ้นกลางเดือน พค. มีเจ้าหน้าที่อยู่ประมาณ 20 คน มีนักท่องเที่ยวอยู่ 3 คน .. ผมและเพื่อนผู้หญิง 2 คน และมีสัตว์ป่านับล้านตัว ... ฝูงทากครับ ฝูงทาก ออกมาเยี่ยมเยือน ... ภูกระดึง เดือนพฤษภา ... สวยมากๆ ------------------------- พูดถึงเรื่องรองเท้า ตอนผมขึ้นหน้าหนาว ผมจะเอาไปด้วยสองคู่ คู่แรกจะเป็นผ้าใบ ที่หลวม 1 เบอร์ ... ไว้ใช้ตอนเดินขึ้น และตอนเดินเที่ยว อีกคู่ จะเป็นเท้่าแตะหุ้มส้นเปิดหัว อย่างที่เห็นในภาพ คห.บนๆ ไว้ใช้ตอนอยู่แถวๆที่พัก และตอนเดินลง น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 1 กิโลกว่าๆ .. เป็นค่าแบกแค่สามสิบบาท(ขึ้นลง) จะทำให้คุณภาพชีวิต และการท่องเที่ยว ดีขึ้นมหาศาล ถ้าจะใส่ผ้าใบเดินป่าเขา อย่าลืม .. ต้องใหญ่กว่าปกติ 1 เบอร์ เพราะเลือดมันจะไปคั่ง ทำให้เท้าโตขึ้น ... กระทู้นี้ ... เราไม่ได้พูดถึงเรื่องกล้องกันเลยใช่ไหม จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 22:10:47