ความคิดเห็นที่ 1 ภาพนี้ผมอยากจะถ่ายให้ได้ภาพชัดลึกครับ ข้อมูล Exif ของภาพนี้นะครับ 26mm ISO100 Shutter 1/200s F8 วัดแสงที่สนามหญ้า ชดเชย +0.3EV ใช้ AE-Lock WB auto โฟกัสที่หลังคาปราสาท ถ่าย Raw ใช้ PS ย่อไฟล์ จาก 3872 > 3000+USM > 2000+USM > 1000+USM > 800 > save for web ตั้งค่า Quality 100% ได้ขนาดไฟล์ 197K (ลงเวปได้พอดี) ค่า USM คามนี้ครับ Amount 50% Radius 0.02 pixels Threshold 0 Level แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 09:53:04 จากคุณ : เล็ก (ดี40ติงต๊อง) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 09:47:35

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพที่สอง ขอบคุณครูเปาครับ จากคุณ : เล็ก (ดี40ติงต๊อง) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 09:48:50

ความคิดเห็นที่ 3 ภาพนี้ผมอยากจะถ่ายให้ได้ภาพชัดตื้นครับ ข้อมูล Exif ของภาพนี้นะครับ 55mm ISO100 Shutter 1/320s F5.6 วัดแสงที่ใบบัวด้านข้าง ชดเชย -0.7EV ใช้ AE-Lock WB auto โฟกัสที่เกสรดอกบัว ถ่าย Raw ใช้ PS ย่อไฟล์ จาก 3872 > 3000+USM > 2000+USM > 1000+USM > 800 > save for web ตั้งค่า Quality 100% ได้ขนาดไฟล์ 195K (ลงเวปได้พอดี) ค่า USM คามนี้ครับ Amount 50% Radius 0.02 pixels Threshold 0 Level จากคุณ : เล็ก (ดี40ติงต๊อง) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 09:52:35

ความคิดเห็นที่ 4   ผม มะมี ความรู้อะไรมาเท่าไหร นักหลอกครับ แต่ผมรู้ซึกว่า ฟ้ากับพืนดินมันมีที่กว่าไม่หน่อยนะครับ เลย ทำให้ตัวพระตำหนัก ไม่คมและไม่โดดเด่นเท่าไหรนะครับ.... จากคุณ : บีชี้ชัด เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 09:52:46

ความคิดเห็นที่ 5 ทั้งสองภาพไม่ได้ปรับอะไรเพิ่ม ย่อแล้ว Save มาเลย เชิญรุมกินโต๊ะผมได้ตามสะดวกครับ (เฮ้ยๆ ติงต๊องอีกแระ) จากคุณ : เล็ก (ดี40ติงต๊อง) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 09:56:06

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพแรกเนี่ย..... ปัจจัยลบคือ ท้องฟ้าที่ไม่สวย เมฆปกคลุมเต็มไปหมด ถ้าให้ดี รอจังหวะนกบินผ่าน แล้วถ่ายมีนกในภาพด้วย จะดีขึ้น (เนื่องจากเราเล่นอะไรกับฟ้าไม่ได้แล้ว และต้องการมุมนี้) ต้องการชัดลึก คราวหน้าลอง F22 (มากๆ ไปเลย) ใช้ขาตั้ง แล้วเลือกโฟกัสตรงจุดที่วัดแสงดูครับ ลองเปรียบเทียบดู คร่าวๆ คือ ถ้าจะให้ชัดทั่วทั้งภาพ ลองเลือกตำแหน่งจุดโฟกัสเป็น ตำแหน่งประมาณ 1/3 ของความลึกภาพดู คือเนื่องจาก โดยธรรมชาติของเลนส์ ของกล้อง มันจะมีช่วงความชัดจากจุดที่เราโฟกัสเนี่ย ไปข้างหลัง 2 ส่วน มาข้างหน้า 1 ส่วน เมื่อจะให้ชัดทั้งภาพ ก็พอจะใช้เทนนิคนี้ได้ ถ้าเอาเป๊ะๆ จริง ต้องค้นหาข้อมูลเรื่อง hyperfocus ดูครับ - - โดยส่วนตัว ผมชอบภาพสว่างๆ หน่อยครับ แม้ในเวลาจริงมันจะครึ้มๆ ก็อยากได้ภาพสว่างๆ ถ้าเป็นผม ในกรณีนี้ ผมจะถ่ายโอเวอร์มากหน่อย ดึงตัวปราสาทให้ขาวครับ และคงไปดึง curve เพิ่มในโฟโตชอปอีกหน่อย จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 10:55:35

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพสอง เช่นเดิมครับ ผมค่อนข้างชอบภาพสว่างๆ หน่อย แบบนี้ ผมคงเลือกดึง curve + sat ร่วมด้วย แล้วไปจัดการ ทำขอบภาพให้มืดกว่าปกติหน่อย ดึงให้ดอกบัวเด่นขึ้น โอกาสหน้า ลองเอากรวดเล็กๆ โยนลงน้ำ ให้เกิดระลอกคลื่นบางๆ แล้วจับจังหวะถ่ายดูครับ ดูว่าภาพจะออกมายังไง (เลือกโยนไปตัวเงามุมซ้ายบน ให้ลงแถวๆ ตำแหน่งจุดตัดเก้าช่องครับ) ลองเอาภาพไปครอปให้ออกแนวยาว เลือกครอปที่ระดับใบบัวซ้ายบนสุดดูครับ ว่าออกมาเป็นยังไง จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 11:00:32

ความคิดเห็นที่ 8 ตัวอย่างครับ จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 11:40:37

ความคิดเห็นที่ 9 อีกตัวอย่างครับ จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 11:42:32

ความคิดเห็นที่ 10 ดอกบัวมั่งครับ จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 11:43:23

ความคิดเห็นที่ 11 ดอกบัว อีกแบบ จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 11:44:38

ความคิดเห็นที่ 12 มีคลื่นนิดหน่อย ไม่เหมือนเท่าไรครับ ใช้ชอปทำง่ายๆ จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 11:45:52

ความคิดเห็นที่ 13 ภาพแบบนี้ต้องเอามาทำต่อครับ ลงเลย จะดูจืดๆ แต่ขอชมว่าเก็บข้อมูลไฟล์มาดีมากๆ ถ้าได้ทำจาก raw จะดึงได้มากกว่านี้อีกเยอะเลย ^ ^ ส่วนเรื่ององค์ประกอบ คงต้องว่ากันยาวๆครับ แต่ผมก็มีหลักง่ายๆคือ ฟ้าไม่สวย ดูแล้วดึงไม่ขึ้น ก็ไม่เอามาครับ   จากคุณ : espucino-ccj เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 13:40:46

ความคิดเห็นที่ 14 เยี่ยมครับความรู้เน้นๆ เลย ขอบคุณครับ จากคุณ : เนตร (ohhayo) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 13:55:37

ความคิดเห็นที่ 15 ต้องขอขอบคุณน้า proofman, น้าเจษ ที่ช่วยแนะวิธีแก้ไขครับ ที่ผมไม่ตกแต่งเลยเพราะอยากให้เห็นภาพดิบๆเดิมๆจากกล้อง จะได้ข้อมูลที่เป็นข้อมูลจริงๆของภาพจุดประสงค์เพื่อขอคำชื้แนะจากผู้มีประสบการณ์ พอจะแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคหรือวิธีการที่จะให้ได้ภาพจากหลังกล้อง ออกมาดีกว่าที่เป็นอยู่มั๊ยครับ เป็นต้นว่า เปลี่ยนจุดวัดแสง เปลี่ยนจุดโฟกัส เพิ่มหรือลดค่า รูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ และอื่นๆ เพื่อให้ได้คุณภาพไฟล์ที่ดีกว่าเดิม เพราะผมคิดว่าขีดความสามารถของอุปกรณ์ที่มีน่าจะทำได้ดีกว่านี้ วันที่ถ่ายใช้ Nikon D80+18-55VR ครับ ท่านอื่นๆ เชิญคอมเม้นท์ตามสะดวกครับ ขอเน้นความรู้เพื่อการปรับปรุงครับผม (อู้ว..... Serious จริงโว้ย) จากคุณ : เล็ก (ดี40ติงต๊อง) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 15:18:57

ความคิดเห็นที่ 16 แอบอ่านที่ทำงานแล้วปวดหัว ไว้กลับบ้านเดี๋ยวมาอ่านใหม่ จากคุณ : ::: the 4th hand ::: เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 16:23:30

ความคิดเห็นที่ 17 ขอคอมเม้นท์ด้วยดิน้าหมูภา ขอบคุณครับ 55 จากคุณ : เล็ก (ดี40ติงต๊อง) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 17:55:53

ความคิดเห็นที่ 18 เอาจริงอะน้า .... ไม่ค่อยได้คอมเมนท์ใครเท่าไหร่  หลังจาก เป็น คอมเหม็นเตเตอร์ รูขี้ ลีค ครั้งที่ 1 555+ ภาพแรก "วิหาร" พยายามอิงหลัก กฏ 3 ส่วนใช่มั๊ยคะ เอาปราสาทไว้ส่วนแรก เหลือท้องฟ้าไว้ 2 ส่วน "กฏมีไว้เป็นแนวทาง" ภาพที่ออกมา ในความรู้สึกส่วนตัวนะคะ "อึดอัด" ... น้าลองคิดถึงภาพที่น้าถ่ายนะคะ ว่า ถ่ายออกมา ต้องการจะสื่อถึงอะไร 1. มันคือวิหาร 2. มันคือวิหารที่สวยงาม 3. มันคือวิหารที่สวยงามใหญ่ยักษ์ อลังการ 4. มันคือวิหารที่สวยงาม ใหญ่ยักษ์ อลังการ และเป็นที่นิยม 5. มันคือฉากหลัง สี .... การวัดแสง หลักการวัดแสงที่ง่ายที่สุด คือ วัน ณ จุดที่ เป็นสี กลาง นั่นก็คือ ไม่ใช่จุดที่สว่างที่สุด และไม่ใช่จุดที่ มืดที่สุด วัดให้พอดีไว้ แค่นั้น ไม่ต้องคิด บวกลบเลข ปวดหัว ถ่าย RAW มากลัวไร พลาดนิดพลาดหน่อย ขำๆ จากภาพ เนื่องจากฟ้า ขาวโพลน เพราะเมฆครึ้มดังนั้นแสงในภาพ จะสว่างกว่าปกติแน่นอน สิ่งที่ควรทำคือ 1. ปรับโหมดให้เป็น cloudy เพราะไม่มีแสงอาทิตย์ 2. วัดแสงตามที่ต้องการ 3. "โปรเสจต่อ ในคอมพิวเตอร์" อย่าคิดว่า การถ่ายภาพออกมาทีเดียว สวยโป๊ะเชะ ไม่ต้องปรับแต่งอะไร นั่นหมายความว่าเรามีฝีมือดี เปล่าเลย ไม่ว่าจะเป็น อตีต หรือ ปัจจุบัน การโพรเสจภาพเกิดขึ้นตลอดเวลา สมัยภาพขาวดำ เค้าก็เบิร์นแสงกันในห้องมืด มีการรีทัช สิวฝ้า บนแผ่นฟิล์ม สมัยใหม่ กล้องดิจิตอลเข้ามา จุดด้อยของกล้องก็คือ ความละเอียดภาพ อย่างแรก ยังไงเราก็ต้องชาร์ป เพราะเมื่อย่อ ความละเอียด ก็จะหายไป ทำให้ภาพเบลอ ซึ่งน้าก็ได้ทำแล้ว โดยแต่ละคน ก็มีวิธีการที่ต่างกันไป ... ภาพ raw ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า มันยังดิบ อยู่ ดังนั้นหมายความว่าเราต้องไปปรุง น้าเล่นเอามา ไวท์บาลานซ์ก็ไม่เปลี่ยน เหมือนเอาเนื้อดิบ มาถามว่า แร่ ถูกแนวมั๊ย มันตอบลำบากนะน้าขา จากที่ดูภาพของน้า ... ทำไมสี ถึงจืดจัง D40 นิค่อน สีน่าจะสดกว่าีนี้ จริงมั๊ยคะ ไว้รอบหน้า อยากดูแบบ ออกมาเป็นจานพร้อมเสิร์ฟ นะคะ โดยสรุป composition: ภาพอึดอัดไป แต่ก็ครบตามกฏ 3 ส่วน idea: ยังไม่โดดเด่นน่าสนใจ ยังดึงจุดเด่นของ subject ออกมาไม่ได้ process: น้าทำได้ดีกว่านี้ .... หนูมั่นใจ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ภาพที่ 2 "ดอกบัว" อันนี้กะวาง จุดตัด 9 ช่อง ใช่มั๊ยคะ มุมขวาล่าง หลักการทำจุดตัด 9 ช่อง จุดที่คนมองมากที่สุด คือ มุมซ้ายบน (เพราะเราอ่านหนังสือ เราต้องเริ่มที่จุดนั้นเสมอ) ถัดมาก็คือ จุดมุมขวาล่าง และน้อยสุดก็คือ มุมซ้ายล่าง การวางวัตถุที่จุดตัด ทำให้ภาพของเราดูน่าสนใจขึ้น แต่ข้อควรระวังคือ กลีบล่าง ที่จะหลุดออกจากเฟรม ทิ้งพื้นที่ด้านบนสูงเกินไป (น้าพรูฟแก้ไขให้แล้ว) ทำให้ภาพเกิดน้ำหนักเอียงลงมา การวัดแสงที่พอดี ใช่ว่าจะดีเสมอไป ในรูปนี้เข้าใจว่า เป็นเพราะวันนั้นอากาศครึ้ม ทำให้ถ่ายภาพได้ยาก เพราะภาพนี้ ถ้าโดนแสงแดด จ้าๆ จะเกิดคอนทราสในตัวเอง ทำให้ได้ภาพแบบที่ น้าพรูฟ ได้โพรเสจเอาไว้ โดยไม่ต้องตกแต่งก็ได้ การดึงจุดเด่นของดอกบัว เป็นสิ่งสำคัญ ตอนนี้ที่น้าสอบผ่านคือการทำภาพ ชัดลึก และชัดตื้นได้สำเร็จ เพราะใจภาพมีวัตถุที่เด่น เพียง 1 จุด ไม่โดนอะไรมาแย่งซีน แต่ถึงอย่างนั้น ในภาพ ดอกบัว ใบบัวบางใบ ยังคงแย่งซีนน้องบัวชมพู (ฟอร์ด) อยู่ ยกตัวอย่างเช่น ใบที่ จิ้มจุดวัดแสงไว้ มันคมกริ๊บ มากกว่า ดอกบัวซะอีก วิธีการหลีกเลี่ยงการโดดนแย่งซีน วิธีหนึ่งก็คือ การเผามันซะ (แบบที่น้าพรูฟแก้ให้อีกนั่นเอง) ภาพที่มีจุดเด่น (มันเป็นแนวน้าพรูฟ ชอบเผาขอบ 555) โดยสรุป composition: จำกฏได้ ถ่ายชัดตื้นผ่าน แต่ ภาพหนักซ้ายล่างเพราะเหลือพื้นที่ข้างบนเยอะไป idea: ผ่าน มุมดี หาจุดเด่นดอกบัวได้ process: น้าทำได้ดีกว่านี้ .... หนูมั่นใจ จากคุณ : ::: the 4th hand ::: เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 21:15:43

ความคิดเห็นที่ 19 ดอกบัวดอกเดียวกัน ถ่ายตอนเวลาใกล้ๆกัน วัดแสงแบบจุดในดอกบัวตรงกลีบด้านในสีขาว โฟกัสที่เกสร จากคุณ : วาฬอันดามัน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 00:03:13

ความคิดเห็นที่ 20 รูปเดิม ตัดภาพ + ปรับความสว่าง ใช้โปรแกรม Photo scape จากคุณ : วาฬอันดามัน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 00:07:31

ความคิดเห็นที่ 21 รูปดอกบัวของน้าเล็ก ใบบัวมุมซ้ายล่างแข่งแย่งซีน ส่วนเรื่องวัดแสง โฟกัสเปาแนะนำไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้ ^^   เลยเอาภาพของตัวเองมาลงด้วยซะเลย ขอคอมเม้นต์บ้างนะคะ   ป.ล. ตอนที่ถ่ายตั้งใจถ่ายเน้นไปในดอกบัว แต่อุปกรณ์ไม่เอื้ออำนวย เดี๋ยวมา  แป๊บนึง จากคุณ : วาฬอันดามัน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 00:13:34

ความคิดเห็นที่ 22 ลืมบอก กล้อง แพนเท๊ก เคสิบดี + คิท 18-55 อันนี้ที่ตั้งใจจะทำตั้งแต่ตอนแรก คอมเม้นต์ + แนะนำด้วยนะคะ -------------------------------------------------------------------------- รูปปราสาทพระศรีสรรเพชร (รึเปล่า)   มานั่งอ่านคอมเม้นท์ด้วยคนจ้า จากคุณ : วาฬอันดามัน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 00:24:41

ความคิดเห็นที่ 23 รูปนี้ ตัดภาพ + เพิ่มความสว่าง จากอีกรูปนึง เนื่องจากรูปก่อนมุมไม่ถูกใจ ออกมาเป็นแบบนี้ (สว่างไปป่าวไหมไม่รู้ ) จากคุณ : วาฬอันดามัน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 00:39:42

ความคิดเห็นที่ 24 บางทีเราต้องเข้าใจการทำงานของกล้องด้วยครับว่า มันเก็บอะไรมา แล้วเก็บมาได้แค่ไหนครับ ภาพนี้ ถ้าจะถ่ายให้ได้คอนทราสต์จริงๆ สีจัดๆ ตั้งแต่ในกล้อง นี่ต้องมากันเหนื่อยเลยครับ เพราะโดยสภาพแสงที่ฟุ้งเป็นหมอกแดด ย่อมทำให้คอนทราสต์หายไปเป็นธรรมดา ถ้าอยากให้เก็บหญ้ามาได้เขียวๆสดๆ ก็ต้องยอมเสียฟ้าไป เพราะฟ้าสว่างกว่ามาก หลุดแน่นอน และถ้าจะเก็บฟ้า เงาที่หลังคาปราสาท ก็จมจนแบนไม่มีมิติความลึก ที่ผมชมว่า เก็บมาได้ครบ นั่นคือ มาถูกทางแล้วครับ กล้องดิจิตอลส่วนที่สำคัญเลย คือข้อมูลแสง ทำยังไงให้เราเอาข้อมูลเหล่านั้นกลับมาให้ได้ครบมากที่สุด และการถ่าย raw ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะให้ได้ข้อมูลเหล่านั้นกลับมา ซึ่งไม่สามารถจบได้จากหลังกล้องครับ  //หรืออยากจบแบบแบนๆตุ่นๆแบบนี้ก็ไม่ว่ากันครับ แต่ถ้าต้องการจบหลังกล้อง ก็มีวีธีครับ หาฟิลเตอร์มาตัดแสงในพื้นที่ของฟ้าออก แล้ววัดแสงที่หญ้าเหมือนเดิม ไม่ต้องชดเชยแสง+ ตั้งpreset WB เดินไปจิ้มที่ผนังปราสาท แล้วกลับมาจัดเฟรมถ่าย ตั้งprofile เป็น sRGB (จอมันแสดงได้เท่านี้) +sat +contrast แล้วก็ถ่ายเป็น jpg  (เอา raw มาแปลงเป็น jpg โดยไม่ต้มยำทำแกงซะหน่อย ผมว่าห่วยกว่า jpg จากกล้องซะอีก) //Raw มันเป็นแบบนี้ล่ะครับ ต้องออกแรงถึงจะดูดี ^ ^ //DR มันพอๆกับ D70s แหล่ะ แต่ได้คำสั่งจัดการไฟล์ใหม่กว่า ก็เลยทำให้ดูดีกว่า แต่นั่นก็คือต้องผ่านไปเป็น jpg แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 52 02:23:45 จากคุณ : espucino-ccj เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 02:20:20

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เป็นกระทู้ที่ดีจริงๆครับ สร้าง case study ได้มากมายเลย... ขอแจมด้วยคนนะคับ ภาพแรกก่อน สภาพฟ้าในวันนั้นยอมรับจริงๆว่าโหดมาก เมฆครึ้มทั้งฟ้า มีแดดพอประมาณ จะดึง contrast ให้ได้เต็มที่คงไม่ไหว ดูจากข้อมูลที่บอกมา ยังขาดไปนิดนึง ที่บอกว่า วัดแสงตรงพื้นหญ้าน่ะ วัดด้วยโหมดไหนครับ แล้วทำไมถึงชดเชย +0.3 ตอนถ่ายได้เช็คดู histogram ไม๊ครับ จากคุณ : Alcedinidae เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 07:57:16

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นช่วง highlight ไม๊ครับ ว่าเรายังสามารถเพิ่มแสงได้อีก โดยที่ยังไม่เกิด highlight clipping ผมคงจะไม่แนะนำในส่วนของการ process นะครับ เพราะน้าๆท่านอื่นได้แนะนำไปแล้ว แต่อยากให้ลองเช็คดูปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการถ่าย มีวิธีคิดและตัดสินใจง่ายๆ อยู่ไม่กี่ขั้นตอนน่ะครับ 1. ตั้งค่ากล้อง ถ้าถ่ายลักษณะนี้ ตั้งค่า iso ต่ำๆไว้เลย และควรใช้โหมดการถ่ายภาพแบบ manual 2. รู้ในสิ่งที่ต้องการ คือเรามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้วคิดว่าต้องการได้ภาพอย่างไร เพื่อที่จะคิดต่อไปว่าจะตั้งค่าการถ่ายภาพอย่างไร 3. ลองถ่ายดูแล้วมองหาปัญหา 4. ถ้ามีปัญหา มองให้ออกว่าปัญหาคืออะไร แล้วจะแก้อย่างไร 5. ถ่ายใหม่ อย่างภาพนี้ ปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ ก็คือสภาพของแสง ซึ่งเวลานั้นเป็นเวลาเกือบเที่ยง ซึ่งแสงลงมาจากข้างบนตรงๆ และดันมีเมฆอีก ถ้ามองในแง่ดี คือแสงมาจากทุกทางเท่าๆกัน ทำให้เราหมุนทิศทางการถ่ายได้หลากหลายแนว มากกว่าการถ่ายที่มีทิศทางแสงมาด้านเดียว ทีนี้ถ้าภาพนี้ถ่ายออกมาแล้วมันดู under ไป ตามที่ histogram บอก เราควรทำอย่างไร มามองที่การตั้งค่ากล้องก่อน focal length 28mm s 1/200 f8 ชดเชย +0.3 ขอเดาว่าถ่ายโหมด A ใช่ไม๊ครับ ถ้าสมมติว่าไม่ชดเชยแสง ก็จะได้ s1/250 f8 ซึ่งมองแล้วเทียบกับทางยาวโฟกัสแล้วมากเกินไปหน่อย เราเอา speed ตรงนั้นมาเพิ่มให้กับรูรับแสงน่าจะได้ผลกับการถ่าย landscape ที่ดีกว่า สมมติว่าเราลด speed ลงสัก 1 stop แล้วไปเพิ่มรูรับแสงแคบลงอีก 1 stop ก็จะได้ s1/100 f11อ่ะ speed ยังสูงอยู่ ลดลงอีกสัก 1 stop ก็จะได้ s1/50 f16 อืมเท่านี้เราก็จะได้ความชัดลึกที่มากขึ้นใน speed ที่ไวพอสำหรับทางยาวโฟกัสที่เลือกใช้ จากนั้น เมื่อกี้บอกว่าชดเชยแสง +0.3 อ่ะลดความไวชัตเตอร์ลงอีก 0.3 stop ก็จะได้ 1/40 อืม ยังได้อยู่ แล้วพอถ่ายมาเช็คที่ histogram อ่าว ยังมีช่วง highlight เหลืออีกเยอะ ทำไงดี มีให้เลือก 3 ทางครับ 1.ลดความไวชัตเตอร์ 2.เพิ่มรูรับแสงให้กว้างขึ้น 3.เพิ่ม iso ถ้าหากเราใช้ขาตั้งกล้อง เราตัดข้อ 2 และ 3 ทิ้งไปได้เลย แต่กรณีนี้เราไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้อง ถ้าเพิมแสงอีก 1 stop โดยลดความไวชัตเตอร์ลง ก็จะเหลือ 1/20 กับทางยาวโฟกัส 28mm ถือว่าไม่เสี่ยงต่อการสั่นไหวมากนั้น ถ้าคิดว่าสามารถควบคุมความนิ่งของตัวเองได้ จากนั้นก็ลองถ่ายดูอีกที สมมติว่าถ้ายัง under อยู่อีก เราก็ต้องมาตัดสินใจอีกทีว่าจะลดความไวชัตเตอร์ลงอีกไม๊ ถ้ามันช้าเกินกว่าจะถือไว้ได้ ก็เพิ่มรูรับแสงเอาก็ได้ จากคุณ : Alcedinidae เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 09:11:39

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพที่สอง ภาพนี้เด่นชัดมากครับ ดอกบัวสีขาว แยกออกจากฉากหลังที่มืดกว่า ดูจากการตั่งค่ากล้อง สงสัยอีกแล้วครับว่าทำไมต้องชดเชย -0.7 ที่ถามนี่ไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ อยากทราบจริงๆว่าเหตุผลคืออะไร ทั้งๆที่สีเขียวมันก็ใกล้กับเทากลางอยู่แล้ว และสภาพแสงทีเห็นก็แทบจะไม่มีเงา แสดงว่าแสงนุ่มทั่วกันอยู่แล้ว และภาพที่ออกมาก็ under จริงๆ ถามว่าถ้าหากเราวัดพอดี แสงจะสว่างพอดีไม๊ จากคุณ : Alcedinidae เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 09:40:42

ความคิดเห็นที่ 28 โย่ว....ครูมากันอื้อเลย ตายหล่ะตรู 55 (ยังมีหน้ามาขำอีก) คห.18 ก่อนเลย ขอบคุณน้ามู๋ภาครับ ไม่ผิดหวังสำหรับคอมเมนต์ จะเก็บไปทำเป็นการบ้านต่อครับ " กฎ 3 ส่วน จุดตัด 9 ช่อง มีไว้เป็นแนวทาง " อันนี้เน้นๆครับ คห.19-23 ขอบคุณน้าเปา ผมเองก็มีเหตุผลเดียวกันกะน้าหล่ะตรับ แต่ผมขาดความละเอียด หลายจุดมาก วันนั้นที่ถามน้าเปาเรื่องจุดวัดแสง เพราะผมฟันธงไม่ได้ว่าจะวัดจากจุดใหนดี คห.24 ขอบคุณน้าเจษ ทำให้ผมเข้าใจว่า จากข้อจำกัดด้านอุปกรณ์ที่มีใช้ เราควรเลือกที่จะตัดบางส่วนทิ้งเพื่อคงส่วนที่ต้องการเน้นเอาไว้ หรือ หาวิธีการ Process เพื่อลดข้อด้อยเหล่านั้นทิ้งไป ถูกต้องมั๊ยครับ คห.25-27 ขอบคุณครูโปรหมออิ๊บ ผมใช้โหมด A ครับ เหตุผลที่ชดเชย +0.3 สนามหญ้าที่มองเห็น ณ เวลานั้น ผมมองว่ามันสว่างกว่าเทากลางนิ๊ดนึงครับ (ความจริงวันนั้นครูอิ๊บแนะนำให้ลองวัดที่ผนังปราสาทแล้วชดเชยเอาครับ) ข้อผิดพลาดของผมข้อสำคัญคือลืมดู Histrogram ครับครู ส่วนภาพดอกบัว ใบบัวที่วัดแสงผมมองว่ามันมืดกว่าเทากลางครับ ตอนแรกจะวัดแสงที่เกสรดอกบัว กลัวว่ามันจะติดจุดดำๆในเกสร เลยเลือกจุดอื่นแทนครับ ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ควรจะต้องชดเชยเลยใช่มั๊ยครับ หมายความว่าผมยังมองจุดที่เป็นเทากลางไม่ขาดไช่มั๊ยครับครู อีกอย่างคือควรจะถ่ายมาหลายๆรูป หลายๆค่าแสง เพื่อเปรียบเทียบกัน จากภาพสองภาพนี้ ผมพบข้อผิดพลาดเป็นกาละมังเลยครับ จับกล้องมาสองเดือนเศษ อ่านกระทู้มาก็เยอะพอควร ทฤษฎีพอนึกได้บ้าง ลืมบ้าง แต่พอออกทริปปฏิบัติจริง ออกทะเลไปนู่นเลย เดี๋ยวผมจะลองทบทวนดูหลายๆรอบ แล้วจะสรุปความผิดพลาด และแนวทางแก้ไขที่ ครูหลายๆท่านแนะนำออกมาเป็นข้อๆ เพื่อสมาชิกท่านอื่นได้เก็บเกี่ยวความรู้ไปด้วยกันครับ ขอขอบคุณทุกๆท่านมากๆครับ มีอะไรคอมเม้นต์ต่อก็เอาเลยนะ ยินดีครับ จากคุณ : เล็ก (ดี40ติงต๊อง) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 11:34:59

ความคิดเห็นที่ 29 ผมไม่ใช่ครู มาขอเป็นลูกศิษย์ รับการชี้แนะครับ ผม .... จากคุณ : JjOoYy เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 17:31:03

ความคิดเห็นที่ 30 ^ ^ น้าเก่งแล้ว ..... ปล. หนูเป็นครูอะ ... แต่เป็นครูอังกิด ึครูวาสนาบอกว่านี่คือหนังสือภาษาอังกฤษ ถ้าอยากสะปี๊คอิงลิช ต้องเรียนอังกฤษอย่างตั้งใจ... บทที่ 1 คือ lesson 1 เข้าใจ๋ จากคุณ : ::: the 4th hand ::: เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 18:24:10

ความคิดเห็นที่ 31 ^ ^ ^ ถ้านักเรียนหัวใว แสดงว่าครูสอนดี ในบทแรก ที่เราเปิดขึ้นมา นักเรียนคงเห็นนะจ๊ะ ว่ามันเป็นตัวอะไร มีหนูกับแมว แล้วก็ค้างคาวใช่มะ นักเรียนทุกคนตั้งใจ สะกดพร้อมกันตามครู... แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 52 18:50:45 จากคุณ : Alcedinidae เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 18:26:24

ความคิดเห็นที่ 32 ครามรู้ทั้งนั้นเลย....ต้องรีบเก็บแระ จากคุณ : cocodesign เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 19:02:50

ความคิดเห็นที่ 33 มาอ่านด้วยคน จากคุณ : วาฬอันดามัน เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 10:44:05

ความคิดเห็นที่ 34 คห.24 ขอบคุณน้าเจษ ทำให้ผมเข้าใจว่า จากข้อจำกัดด้านอุปกรณ์ที่มีใช้ เราควรเลือกที่จะตัดบางส่วนทิ้งเพื่อคงส่วนที่ต้องการเน้นเอาไว้ หรือ หาวิธีการ Process เพื่อลดข้อด้อยเหล่านั้นทิ้งไป ถูกต้องมั๊ยครับ ผมจะเรียกว่า work flow ครับ คือมันเป็นกระบวนการที่่ต่อเนื่องกันของการถ่าย raw ของผม กล้องเก่งแค่ไหน แต่กระบวนการจัดการ และการตัดสินใจ ว่าจะทำอะไรกับภาพนั้นๆ เราทำเองย่อมดีกว่าครับ แต่นั่นก็ต้องมาจาการที่เราถ่ายมาดีตั้งแต่แรก ซึ่งก็คือ การวัดแสงที่ถูกต้อง เก็บข้อมูลมาให้ได้ครบๆ เต็มๆ ไม่ขาดไม่เกิน  //จากฮิสโตรแกรมที่น้าอิ๊บอธิบาย  ชัดเจนครับ ^ ^ การดึงภาพในคอม ก็ไม่ได้ต่างจากการปรับค่าพารามิเตอร์ในกล้องหรอกครับ เพียงแต่มาทำในคอมเราจะจัดการได้ลึกกว่า ตรงจุดที่เราต้องการมากกว่า ที่สำคัญไม่ต้องตากแดดนานตากฝน //ค่าพารามิเตอร์ก็เช่น sat contrast hue tone curve sharp แต่ค่าที่เราต้องจัดการให้ดีตั้งแต่ตอนถ่ายก็คือ สปีด กับรูรับแสง และ wb (อันนี้ต้องยอมนานแค่ไหนก็ต้องทน) เพราะนี่จะเป็นค่าข้อมูลจริงๆที่กล้องเก็บให้เรา แล้วจึงเอาไปผ่านค่าพารามิเตอร์ออกมาเป็น jpg //wb นำมาปรับได้ทีหลังก็จริง แต่ถ้าหากตั้งแต่แรกเพี้ยนมากๆ จะดึงกลับยากกว่า ตั้งไว้ให้ใกล้เคียงตั้งแต่ตอนถ่าย อาจจะงงๆ แต่นี่ก็เป็น work flow ของผมครับ ^ ^ จากคุณ : espucino-ccj เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 12:31:39

ความคิดเห็นที่ 35 คือว่า....อ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่จะพยายามทำความเข้าใจต่อไปครับ ขอถามว่าวิธีดูฮีทโตแกรม ดูยังไง และฮีทโตแกรมที่ดีตั้งมีค่ายังไงครับ ที่จริงก็งงอีกเยอะครับ...T_T จากคุณ : Ananda_F11 เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 21:38:22

ความคิดเห็นที่ 36 แบบคห 25 ก็ถือว่ามีข้อมูลครบครับ เพียงแต่ข้อมูลด้านสว่างมีน้อยแบบต่ำเตี้ยเลี่ยพื้น ทำให้เพิ่มมามากขึ้นด้วยการ ชดเชยแสง+ , ลากสปีดให้เก็บแสงนานอีกหน่อย ฮิสโตรแกรมที่ครบ ควรให้ปลายทั้งสองข้างลาดลงแตะขอบ แต่ถ้าแบบ 27 จะถือว่า ข้อมูลด้านสว่างไม่มีเลย แถมข้อมูลด้านมืดหลุดหายไปพอควร การที่ฮิสโตรแกรม ด้านซ้ายชิดขอบแบบนั้น แสดงว่าต้องมีข้อมูลส่วนชาโดว์หายไปบ้างแล้วล่ะ ในทางกลับกัน ถ้าชิดด้านสว่าง ก็คือ ส่วนของไฮท์ไลท์หลุดไปเรียบร้อยแล้ว จากคุณ : espucino-ccj เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 23:01:00