ความคิดเห็นที่ 1 มันมือ อีกสักภาพครับ ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะครับ ผมจะใช้เป็นแนวทางในการถ่ายภาพ จากคุณ : S.P เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 15:53:12

ความคิดเห็นที่ 2 เท่าที่ดูภาพของน้า S.P ที่ผ่านมา คงไม่ใช่มือใหม่แล้วครับ ^ ^ ภาพดูดี มีมิติ ดีออก ส่วนตัวผม ก็พยายามฝึกหัดเหมือนกันครับ ถ้าถามเรื่องการมีมิติ ผมให้น้ำหนักเรื่อง ชัดลึก-ตื้น, ฉากหน้า-หลัง, แสง-สี, และเส้นนำสายตาของภาพครับ    ประเด็นอื่นๆ ก็มีอีกมาก แต่หลักๆ เวลาผมยกกล้องยิง ผมมองจาก 4 ประเด็นนี้ก่อนครับ ปูเสื่อรอน้าท่านอื่นมาตอบอีกทีครับ จากคุณ : AtomicZen เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 16:02:30

ความคิดเห็นที่ 3 ใช้พื้นฐานการถ่ายภาพครับ ผมหมายถึงพื้นฐานทุกอย่างเลย ยิ่งพื้นฐานดี อะไรๆ มันก็จะดีตามมาเองครับ ง่ายๆ เลยคือเรื่องแสงและเงา ภาพเดียวกันถ่ายตอนเที่ยงแดดตรงหัวกับถ่ายตอนบ่ายแดดเฉียงๆ ก็ให้มิติต่างกันแล้วครับ ผมเคยเห็นบางรูปไม่มีอะไรเลยพื้นฐานมากๆ แต่ก็สวยมากๆ บางครั้งเราก็ใส่อะไรกันมากเกินไปจนลืมไปว่าความเรียบง่ายของพื้นฐานนั้นมีพลังขนาดไหน ทำเป็นพูดดีไป ผมก็ยังถ่ายรูปไม่สวยอยู่เลย อิอิ สงสัยนิดนึงครับ รูปแรกจุดสีขาวๆ ตรงเกือบกลางถาพมันคืออะไรครับ จากคุณ : oxopro เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 16:13:56

ความคิดเห็นที่ 4 เกี่ยวพันกันทั้งหมดครับ ตามน้านันท์กับน้าอ๊อฟว่าเลย แล้วก็คุณลักษณะของเลนส์แต่ละตัวด้วย เลนส์มุมกว้างบางตัว ถ่ายใกล้ได้ ก็เป็นข้อได้เปรียบ เพราะเราถ่ายให้เห็นชัดตื้นได้ง่าย ทำให้ฉากหลังเบลอง่ายกว่า นั่นทำให้ดูมีมิติมากกว่า ทิศทางของแสงก็เกี่ยวข้องครับ เลือกมุมว่าแสงเข้าทางใด แล้วเราถ่ายภาพจากมุมใด จะได้มิติดีกว่า ซึ่งอันนี้ต้องดูเป็นสถานการณ์ๆ ไปครับ การถ่ายภาพมันไม่มีที่สิ้นสุด มีอะไรให้ศึกษาไปได้เรื่อยๆ หากเราต้องการพัฒนาตัวเอง เราก็จะพบเจอสิ่งใหม่ๆ ให้ค้นหาครับ เคยเจอคำพูดที่ว่า เราชอบแบบนี้ ถ่ายภาพมาแล้วมีความสุข ก็พอแล้ว อันนั้นก็ถูกครับ แต่ในทางศาสตร์และศิลป์ มันจะต้องมีการพัฒนา และค้นหาสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ให้เราได้ทดลองต่อไป สู้ๆ ครับ ผมก็จะสู้ๆ เช่นกัน จากคุณ : ไอ้คุณแหลม เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 16:27:55

ความคิดเห็นที่ 5   มาฟังครับ มาฟังด้วยคน......ได้อะไรๆดีๆกลับไปอีกเยอะเลยครับ จากคุณ : ลมระบัด เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 16:40:30

ความคิดเห็นที่ 6 มาฟังด้วยคนครับ จากคุณ : onnuch3sib เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 16:47:14

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบคำถามน้า oxopro ครับ "สงสัยนิดนึงครับ รูปแรกจุดสีขาวๆ ตรงเกือบกลางถาพมันคืออะไรครับ" คำตอบคือ   ไม่รู้ครับ  555  สงสัยจะเป็นแสงสะท้อนกับวัตถุอะไรสักอย่างครับ เพราะผมยิง flash ช่วย จากคุณ : S.P เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 16:53:04

ความคิดเห็นที่ 8   รูปดอกไม้สวยครับ อย่างนี้ก็เรียกมิติแล้ว เพราะวัตถุหลักใสสว่างกว่า วัตถุรองทำให้มองแล้วมีความลึก พวกมาโครชอบทำหลังดำก็ด้วยเหตุนี้แหละ จากคุณ : ไอร้อนแรง (ไอร้อนแรง) เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 17:15:59

ความคิดเห็นที่ 9 ได้แต่มาฟ้งด้วยคน ยังถ่ายรูปไม่ได้เรื่องอยู่เลยครับ อิอิ จากคุณ : TKM เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 17:23:12

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าถ่ายเป็นงานอดิเรก มีความสุขกับการกดชัตเตอร์ ก็คงไม่ต้องซีเรียสกับกฎเกณฑ์อะไรมากนักครับ   แต่ถ้าอยากจะปรับปรุงพัฒนาฝีมือมุมมอง คงต้องปรับจากกฎพื้นฐานก่อนดีที่สุดครับ ถ้าเบสิกแน่น ๆ เวลาต่อยอดนี่ไปเร็ว   สมัยนี้ความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพหาอ่านในโลกอินเตอร์เน็ตไม่ยากแล้วครับ   ลองทำ workshop ด้วยตัวเองก็ได้ครับ อย่างวันนี้ ลอง composition พรุ่งนี้ลอง วัดแสง ทำบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชิน แต่ก่อนกดชัตเตอร์ทุกครั้งอย่าตามใจนิ้วเกินไปนะครับ ลองทบทวนสิ่งที่ต้องการดูก่อนว่าตรงตามที่ต้องการหรือตรงตามโจทย์ที่เราต้องการหรือเปล่า เวลาเอารูปกลับมาที่บ้านดูผ่านจอ ก็จะได้ความรู้เพิ่มเยอะเลย ( ผมลองด้วยวิธีนี้ล่ะครับ อิอิ )   ดูรูปภาพเยอะ ๆ แรก ๆ ถ้ายังคิดเรื่องมุมมองได้ไม่กว้างเท่าไหร่ ก็ลองถ่าย copy ไปเลยครับ ( ผมใช้บ่อย) พอสักพักมุมมองที่เราถ่ายบ่อยๆ ก็พัฒนาต่อได้กลายเป็นลายเซ็นต์ของเราเอง    อิอิ แค่คุยแลกปลี่ยนทัศนะกันนะครับ ผมเองก็ยังต้องฝึกอยู่อีกเยอะเหมือนกัน สู้ สู้ นะครับ จากคุณ : num_r เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 17:44:52

ความคิดเห็นที่ 11 ความเห็นของผมนะครับ ถ้าทำให้ object เด่นกว่าฉากหลังได้ ก็ดูมีมิติแล้วครับ จากคุณ : ha ha yee เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 18:46:49

ความคิดเห็นที่ 12 มามุงครับ  ลำพังตัวเองถ่ายให้มีโบเก้ยังน้อยมากที่จะถ่ายได้  อิอิ จากคุณ : wat06 (HS6GDE) เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 18:59:27

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นหัวข้อคำถามที่ดีเลย ขออนุญาตตอบเท่าที่รู้นะครับ ก่อนอื่นอยากให้ทราบสาเหตุที่ตาเราเห็นภาพเป็น 3 มิติก่อน เนื่องจากตามนุษย์ มี 2 ข้าง และมีระยะห่างจากกันพอสมควร ทำให้ตาแต่ละข้างมีมุมรับภาพต่างกัน ในขณะที่เรามองวัตถุ ตาทั้งสองข้างจะโฟกัสไปที่วัตถุนั้นด้วยมุมมองที่ต่างกัน เมื่อสมองได้รับข้อมูลจากตาทั้งสองข้างจะทำการคำนวณจากสิ่งที่เห็นทั้งสองมุมมองและแปลความหมายออกมา ทำให้เรารับรู้ถึงขนาด รูปทรง และระยะห่างได้ ---------------------------------------------------------------- ภาพถ่ายนั้นโดยธรรมชาติจะเป็นภาพ 2 มิติ เนื่องจากเกิดจากเลนส์ตัวเดียวมุมเดียว ทำให้เราต้องพยายามหาวิธีสร้างมิติที่ 3 ให้กับภาพ ด้วยการสร้างสิ่งที่เมื่อเรามองเห็น สมองจะรับรู้ถึงมิติที่ 3 ได้ ซึ่งก็มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน คือ 1. การควบคุมระยะชัด ให้ชัดตื้น - เวลาเรามองสิ่งของ(โดยเฉพาะในระยะใกล้) จะเห็นว่าสิ่งที่อยู่ไกลออกไปจากจุดที่ตาเราโฟกัสอยู่นั้นจะเบลอ ซึ่งเป็นธรรมชาติของการมองเห็น ในทางเดียวกัน หากเรามองภาพถ่ายที่ชัดตื้น สมองจะรับรู้ได้ถึงมิติที่ 3 โดยอัตโนมัติ ว่าสิ่งที่อยู่นอกระยะโฟกัสนั้นคือสิ่งที่อยู่คนละระนาบกับวัตถุที่เราถ่าย เป็น 1 ในวิธีง่ายๆในการสร้างมิติที่ 3 ทำให้สมองได้รับรู้ถึงระยะที่ต่างกัน 2. ใช้เส้น สร้างมิติ - เราสามารถใช้เส้นสายในภาพเป็นจุดอ้างอิง ว่าสิ่งไหนอยู่ใกล้ สิ่งไหนอยู่ไกลเพื่อสร้างมิติในด้านระยะทางเพิ่มขึ้นมา โดยอาจจะใช้คุณสมบัติด้าน perspective ของเลนส์เข้าช่วยด้วยก็ได้ ผมจะยกตัวอย่างถนนแล้วกันนะครับ หากเรายืนอยู่บนถนนแล้วมอง จะเห็นว่าถนนที่อยู่ห่างออกไปจะลู่เข้าหากัน ทั้งๆที่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น ในการถ่ายภาพ หากเราถ่ายภาพถนนที่มี perspective รุนแรงโดยถนนที่ไกลออกไปลู่เข้าหากัน สมองก็จะสามารถรับรู้ถึงระยะได้โดยอัตโนมัติเช่นเดียวกัน ถ้าเส้นลู่เข้าหากันมาก สมองก็จะแปลความหมายด้านระยะทางมากขึ้นและชัดเจนขึ้น คราวนี้เราก็จะเข้าใจชัดเจนมากขึ้นว่าทำไมโปรหลายคนถึงนิยมใช้เลนส์มุมกว้างมากๆ หรือเลนส์เทเล นั้นก็เป็นเพราะคุณสมบัติของเลนส์มุมกว้างและเทเลนั้นสามารถสร้างมิติบนภาพได้ง่ายๆนั้นเอง ------------------------------- ขอตัวไปทำธุระก่อนเดี๋ยวมาต่อครับ จากคุณ : กล้องโบราณ (e2ns) เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 20:11:51

ความคิดเห็นที่ 14 มาแลคเชอร์ครับ ความรู้เพียบครับ จากคุณ : ครูชายที่ชายแดน เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 20:16:56

ความคิดเห็นที่ 15 ต่อ.... 3. ใช้แสงเงา.... - ในการมองเห็นปกติ สมองสามารถรับรู้ถึงรูปทรง(form)ของวัตถุได้จากมุมมองที่ต่างกันของตาทั้งสองข้าง เราสามารถสร้างมิติในด้านของรูปทรงได้ด้วยการใช้แสงเงาเข้ามาเป็นพระเอก ลองหลับตาแล้วนึกถึงภาพวัตถุทรงกลมสีขาว อย่างเช่นลูกโลกจำลองที่เป็นสีขาวล้วนยังไม่ได้ลงลวดลาย หากเราถ่ายภาพโดยใช้แสงแฟลชยิงตรงจากกล้อง เราจะได้ภาพที่เห็นเฉพาะรูปร่าง(shape)ว่าวัตถุนั้นเป็นวงกลม แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าวัตถุนั้นเป็นทรงกลม ในทางกลับกัน หากเราย้ายตำแหน่งของแฟลชจากบนหัวกล้องไปอยู่ที่ด้านข้าง 45 องศาของวัตถุ แสงและเงาที่เกิดขึ้นบนวัตถุนั้นจะเปิดเผยให้เห็นถึงรูปทรงของวัตถุ โดยจะเห็นชัดเจนเมื่อเราเปลี่ยนชนิดของแหล่งกำเนิดแสงให้นุ่มลงเพื่อให้การไล่ระดับของแสงเงาชัดเจนขึ้น 3. ใช้การเปรียบเทียบขนาด - หากเราถ่ายภาพวัตถุสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างเช่นก้อนหินหนึ่งก้อน เราไม่สามารถจะบอกได้ว่าก้อนหิ้นก้อนนั้นความจริงมีขนาดเท่าไหร่ เนื่องจากสมองไม่ได้รับข้อมูลเรื่องระยะห่างของวัตถุจากหน้าเลนส์ ต่างจากการมองปกติที่สมองสามารถคำนาณขนาดของวัตถุชิ้นนั้นคร่าวๆได้ ในการสร้างมิติเรื่องขนาด นิยมใช้การวางวัตถุที่สมองสามารถรับรู้ถึงขนาด วางไว้เปรียบเทียบกับวัตถุที่เราต้องการถ่าย ยกตัวอย่างเช่น ถ่ายก้อนหินก้อนนั้นคู่กับไม้บรรทัด หรือถ่ายรูปเด็กทารกนอนอยู่ในมือของผู้ใหญ่ ถ่ายรูปหอไอเฟลให้ติดคนอยู่ในภาพ เป็นต้น จริงๆยังมีอีกหลายวิธี ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าต่อครับ จากคุณ : กล้องโบราณ (e2ns) เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 21:22:04

ความคิดเห็นที่ 16 อย่างนี้เข้าตัวอย่างข้อ 2 น้ากล้องโบราณไหมครับ จากคุณ : liverpoolism เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 22:08:28

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาเรียนด้วยคนครับ จากคุณ : imf41 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 22:20:10

ความคิดเห็นที่ 18 ข้อที่ 3 แสงและเงา ผมคิดเอาเองนะครับ ว่าเป็นข้อนี้ น้ากล้องโบราณอธิบายได้ชัดเจน เลยขอนำภาพมาให้วิเคราะห์ครับ จากคุณ : liverpoolism เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 22:24:50

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วนภาพนี้ ผมคิดว่า เป็นข้อที่ 1 นะครับ แต่ดูๆ เหมือนจะอยู่ในข้อ 2 ด้วย จากคุณ : liverpoolism เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 22:27:23

ความคิดเห็นที่ 20 อ้าว....กระทู้นี้  มาเก็บอีกแล้วครับ ใส่กล่องเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยเอาออกมาศึกษา... จากคุณ : ดีจัง เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 22:31:46

ความคิดเห็นที่ 21 ภาพนี้ก็คิดว่าน่าจะเป็นข้อที่ 3 ส่วน ข้อที่ 4 นั้นพยายามหาภาพ ก็หาไม่ได้เลย เรื่องมิตินี่มันดูเหมือนง่าย แต่ยาก เพราะมันรวมเอาทุกอย่างที่มีอยู่ในตัวเราตอนนั้น เคี่ยวรวมเปนภาพ 1 ภาพ มันจึงอยู่ที่การฝึกฝนพื้นฐานนี่แหละ สิ่งที่สำัคัญที่สุด จากคุณ : liverpoolism เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 22:40:27

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามา save ข้อมมูลความรู้ทั้งนั้น จากคุณ : Deamonicus เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 22:41:13

ความคิดเห็นที่ 23 ของผมเอาให้ชัดได้ก็ดีใจแทบแย่แล้วครับ จากคุณ : ปูตาลา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 22:52:46

ความคิดเห็นที่ 24 มารับความรู้ครับ จากคุณ : ตาไผ่05 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 22:52:47

ความคิดเห็นที่ 25 ตามหลังมาเข้าชั้นเรียนด้วยคนคะ ถ่ายแบบที่เราอยากให้มันเป็น ไม่เข้าใจก็ศึกษาหรือไถ่ถาม ผชช คุณน้าในห้องนี้เก่งๆกันทุกคนคะ จากคุณ : สาวฮ่องกง เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 23:31:18

ความคิดเห็นที่ 26 ของผมเอาให้ชัดได้ก็ดีใจแทบแย่แล้วครับ จากคุณ : ปูตาลา +++++++++++++++++++++++ เหมือนผมเรยยย T-T จากคุณ : parasite_moll เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 00:37:45

ความคิดเห็นที่ 27 ขอเสริมนิดนึงครับ นอกจากเล่นกับ  dof และแสงเงาแล้ว เล่นกับ perspective ของเลนส์ได้ด้วยครับ เลนส์มุมกว้างขยายบางส่วนให้ใหญ่ขึ้นได้ เลนส์เทเลกดบางส่วนให้แบนลงได้ จะขยายตรงไหนให้บวมหรือกดตรงไหนให้แบน ก็เลือกใช้ตามใจชอบครับ คิดเอาเองว่าจะใช้เลนส์อะไรถ่ายนางแบบ ตัวผอมๆ จากคุณ : jaycee เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 10:31:24

ความคิดเห็นที่ 28 ต่ออีก....... 5. ใช้บรรยากาศ (atmosphere) - ในชั้นบรรยากาศบนโลกประกอบด้วยฝุ่นละอองเป็นจำนวนมาก เป็นสาเหตุของปรากฏการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้น ในขณะที่เรากำลังชมวิวทิวทัศน์ ฝุ่นละอองจะเป็นตัวทำให้สิ่งที่อยู่ไกลออกไปมีความคมชัดน้อยกว่าสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา นั้นเป็นธรรมชาติที่สมองรับรู้ ในภาพถ่าย หากเราถ่ายภาพให้สิ่งที่อยู่ไกลออกไปมีความหลดหลั่นความคมชัด สมองจะรับรู้ได้ถึงมิติของระยะทาง และตีความได้ว่าสิ่งที่ขาดความคมชัดนั้นคือสิ่งที่อยู่ไกลโดยอัตโนมัติ                 ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เห็นภาพ คงต้องมีภาพประกอบ แต่ขอติดไว้ก่อนนะครับตอนนี้ยังไม่สะดวก 6. ใช้ความเคลื่อนไหว - หากเราถ่ายภาพให้ภาพคมชัด ในขณะที่บางสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวขาดความคมชัดจากการเคลื่อนไหวนั้น เป็นการสร้างมิติที่ 3 ในเรื่องของการเคลื่อนไหว เราจะสามารถรับรู้ได้ว่าส่วนที่ขาดความคมชัดคือสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหว มีเทคนิคเล็กน้อยในเรื่องนี้ คือเราต้องถ่ายให้มีส่วนที่ชัด และส่วนที่เบลอจากการเคลื่อนไหว เพราะถ้าทั้งภาพมีแต่สิ่งที่เบลอ ภาพนั้นจะกลายเป็นภาพที่ขาดความคมชัดแทน จากคุณ : กล้องโบราณ (e2ns) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 11:26:14

ความคิดเห็นที่ 29 จนปัญญาครับ  บังคับมันไม่ได้ ถ้าแสงใช่ เลนส์ใช่  เดี๋ยวมันก็ออกมาเองครับ จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 11:49:31

ความคิดเห็นที่ 30   ขอบคุณครับความรู้ทั้งนั้น จากคุณ : pantip-oba เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 22:49:46