 |
ความคิดเห็นที่ 16 |
มาตอบเอง..
เริ่มต้นเมื่อ 4 ปีเศษที่ผ่านมา ผมซื้อกล้อง DSLR Like มา 1 ตัวเพื่อถ่ายภาพ ลูกๆเวลาเราไปเที่ยวกัน ต้องการฝึกถ่ายภาพให้สวยขึ้นด้วย ผมเป็นคนชอบ เดินทาง ทุกวันหยุดก็จะพาครอบครัวออกตะลอนเที่ยวกัน อยากเก็บภาพ ไว้ดูตอนแก่และเมื่อเด็กๆอายุมากขึ้น..
ฝึกไปฝึกมา มาลงที่..มาโคร เพราะ ตัวแบบหาง่าย ป่าหญ้าข้างบ้าน หรือสวนหย่อมที่ทำงาน ก็ถ่ายได้หมด ฝึกไปฝึกมา..มาโครเข้าเส้น..ซึมเข้าไป โดยมิทันรู้ตัว..55 ฝึกอยู่ 1 ปีเต็มๆ
เมื่อมาเล่นพันทิพเอาภาพโพสท์ในห้องกล้อง..คนชอบวุ๊ย บ้านน้าบางตัวแบบ แปลกๆเยอะวุ๊ย ผมก็โพสท์เป็นประจำทุกวันอยู่ห้องฟูจิ เน้นมาโครเป็นหลัก เพราะดูท่าทางแล้วมีแววรุ่ง..กร๊ากกก ในขณะเดียวกันก็ถ่ายภาพแนวอื่น ไปด้วย ทักษะต่างๆที่เราฝึกจากมาโคร เช่น ถ่ายให้ชัด กำจัดฉากหลัง วางแบบให้ถูกที่ทาง ฯลฯ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการถ่ายภาพแนวอื่นได้.. ผมโพสท์ด้วยความสนุกสนานจนได้รับการโหวตให้เป็น Macro Of The year ีปี 2006,2007 ถึง 2 ปีซ้อน
ผมถ่ายรูปมากมายตลอดระยะเวลา 4 ปีเศษที่ผ่านมา ด้วยอุปกรณ์พื้นๆ
กล้อง : S 5500(ปีแรก)-D70(ปีที่ 2 และ3)-D200(ปลายปีที่ 3 ถึงปัจจุบัน) เลนส์ : 18-70,60 Micro Nikkor,70-300 Sigma มีอยู่เท่านี้แหล่ะ ปีนี้พี่ท่านหนึ่งในนิค่อนเอาเลนส์เก่าเก็บมายกให้ 105 MF อีก1 ตัว แฟลช : SB600,SB800 (ผมซื้อ 2 ตัวเพราะต้องสำรองใช้เวลาถ่ายงาน)
อุปกรณ์เล็กๆน้อยอื่นๆ ก็ UV Filter , CPL อะไรพวกนี้ แค่พอใช้งาน กับการ์ด(4 อัน)อีก 8 Gb..เท่านี้แหล่ะ
เมื่อผมมาเล่นประจำอยู่ห้องนิค่อน ผมก็เลยมาคิดๆดูหลังจากทริปใหญ่ไม่ค่อยมี ห้องก็เงียบๆ เลยจัดทริปมาโครซะเลย เพื่อความสนุกสนาน จัดไปจัดมา ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 6 แล้ว..
ในความสนุกสนานเหล่านั้นจะมีอะไรแฝงไว้มากมาย คุณไม่ได้มา คุณไม่มีทาง ได้รู้แน่ ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง..
..............................................................................................
"เพราะค่าอุปกรณ์แพงมาก"
ไม่จริง..เพราะคอมแพ็คท์ก็มี ในทริปน่ะ หลายตัวด้วย ,DSLR+Kits ก็หลายชุด
ที่แพงก็มีมากเพราะพี่เขามีตังค์ ดูกระเป๋าน้าโชคกระเป๋าเดียวก็เหยียบล้านแล้ว ก็เรื่องของพี่เขา เพราะพี่เขามีตังค์..55 พี่เขาทำอะไรไม่น่าเกลียดอยู่แล้ว
"มันไม่เหมือนกับการถ่ายแบบ ถ่ายงานทั่วไป อย่างนี้มันพอรับงานได้"
ปัจจุบันผมก็รับงานอยู่ งานพิธีทั่วไป รับปริญญา ถ่ายเมนู ถ่ายอะไรอีกจิปาถะ ตามที่เขาจะจ้าง มีงานบ้าง ไม่มีงานบ้าง ก็ว่ากันไป..ผมไม่ได้โฆษณา อาศัยการบอกต่อกันไป ใครชอบงานผมก็มาจ้าง ไม่ชอบก็ไม่ต้องจ้าง เพราะผมบอกๆเขาว่า ค่าแรงผมแพงกว่าปกติทั่วไปนะ(อัตราแถวบ้านผมนะ) ถ่ายงานนี่สุกรมากสำหรับผม หลับหูหลับตาถ่ายังได้เลย ถ่ายมาโครยาก กว่าเยอะ ขอบอก..
"คือกำลังคนหาตัวเองอยู่ว่าจะไปแนวทางไหนดี จะได้ไม่ต้องลงทุนมากในการค้นหาแนวทาง"
คิดละหรือว่าจะหาแนวทางเจอ..กร๊ากกก
ผมล้อเล่น..การหาแนวทางของตัวเอง มันต้องถ่ายไปสักระยะหนึ่ง บางทีมันอาจ เร็ว หรือนานมาก(นานจนหาไม่เจอ)ก็ได้ ไม่มีใครรู้..บางคนก็ไม่ได้เกิดมาเพื่อ สิ่งนี้ ยิ่งถ่ายยิ่งไปเรื่อยเปื่อย..ออกทะเลไปเลยก็มี
"ได้อะไรจากการถ่ายมาโคร (รายได้ที่จะตามมาไหม ? อย่างไร)"
ถ้าคนอื่นผมไม่รู้นะ สำหรับผมเองก็..
ถ่ายเมนูอาหาร รับทำป้ายอิ๊งค์เจ็ทแขวนหน้าร้าน..ใช้วิชามาโครส่วนใหญ่ ถ่ายแหวน ถ่ายของชำร่วยงานแต่ง..มาโครชัดๆเลย ในงานบวช งานรับปริญญา งานศพ..ก็มีการใช้วิธีการถ่ายแบบมาโคร
เรื่องเล่าขำๆ..ผมรับถ่ายงานศพเจ้าภาพเป็นคนมีชื่อเสียงแถวบ้านผม 5 คืน กับอีก 1 วัน..บางช่วงผมถ่ายด้วย 60 ไมโคร ผมถ่ายดอกไม้ชัด ฉากหลังเป็นรูปผู้เสียชีวิตแบบเบลอๆ ล้อมด้วยโบเก้หลากสีจากไฟกระพริบ ผมถ่ายมาโครเยอะเหมือนกัน ราวๆ 100 กว่าภาพจาก 600 ภาพ โดยเฉพาะดอกไม้งานศพ..เก็บทุกช็อต..อย่างสวย วันส่งงานได้ค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้เก้าพันห้า คุยไปคุยมาดูรูปไปด้วย พอเห็นรูปชอบใจใหญ่แล้วบอกว่า โห..สวยพี่ ดีพี่ ผมเพิ่งเคยเห็นภาพงานศพ แบบนี้..ติ๊ปให้ผมอีกสองพัน..นี่แหล่ะอานุภาพจากภาพมาโคร..55
ภาพมาโครที่ผมเคยคิดว่าถ่ายเล่นๆ สนุกๆ นับแสนๆภาพที่มีเก็บไว้ ในปัจจุบันมันจะเปลี่ยนเป็นเงินแล้ว..นั่งคัดแทบตายกว่าจะเลือกได้ เพื่อใช้งาน..หนังสือ Easy Macro โดย..คนบางปะอิน จะออกภาพในเดือนหน้านี่แหล่ะ คอยดู(และอุดหนุนด้วย)ก็แล้วกัน..
ผมมีเพื่อนเพราะการถ่ายมาโครสัก 3-400 ร้อยคน มากที่สุดเท่าที่เคยพบมา เพราะชีวิตก่อนหน้านั้น 40 ปี..ผมมีเพื่อนแค่ไม่ถึง 10 คน แค่เรื่องเพื่อนเรื่องเดียว ก็โคตรคุ้มแล้วสำหรับผม ส่วนเรื่องเงินทอง..ไม่ต้องมาคุยกับผม
ถ้ามันไม่มากพอ..กร๊ากกกก
จากคุณ |
:
คนบางปะอิน
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ต.ค. 52 18:53:06
|
|
|
|
 |