 |
ความคิดเห็นที่ 5 |
ที่คุณโกเมศให้ข้อมูลมามันมีส่วนทั้งใช่และไม่ใช่นะครับ
ยกตัวอย่างกับแฟลช Nikon SB-800 นี่ไม่ใช่
เพราะที่เต็มกำลังไฟ 1/1 flash duration (ช่วงเวลาฉายแสงแฟลช) = 1/1050 sec.
ที่ 1/2 = 1/1100 sec.
ที่ 1/4 = 1/2700 sec.
ที่ 1/8 = 1/5900 sec.
ที่ 1/16 = 1/10900 sec.
ที่ 1/32 = 1/17800 sec.
ที่ 1/64 = 1/32300 sec.
และที่ 1/128 = 1/41600 sec.
จะเห็นว่าช่วงเวลาการฉายแสงแฟลชไม่ได้เป็นอัตราส่วนการรับแสงเหมือนเราเปิดสปีดชัตเตอร์เวลารับแสงเพิ่ม 1 สตอปนะครับ
มันมีขยัก / เป็นขั้นตามการออกแบบของวิศวกรที่ออกแบบระบบแฟลชเอาไว้
(ข้อมูลจาก http://www.scantips.com/speed2.html )
แต่ทำไมคุณโกเมศถึงให้ข้อมูลแบบนั้นในการอบรม
ผมก็ขอเดาคำตอบเอาว่าเพราะคุณโกเมศบรรยายถึงแฟลช Canon โดยเฉพาะมากกว่าครับ
ซึ่งแฟลช Canon จะทำงานในลักษณะใช้ Duration เป็นตัวควบคุมความแรงของแฟลช (จาก Link ข้างบนเขาอ้างอิงว่า Canon ออกแบบเช่นนี้มาตั้งแต่อนุกรม EZ แล้วครับ)
แต่ (มีแต่อีกแล้ว 555)
ก็ใช่ว่าเราจะพูดได้ว่าแฟลชของ Canon เพิ่มลดกำลังไฟจากระยะเวลาการฉายแสงแฟลชเท่านั้นได้ 100% นะครับ
เพราะเคยมีคนสงสัยเรื่องนี้และอีเมล์ไปถาม Canon มาแล้วไม่ได้คำตอบ
เขาเลยทดลองเองซะเลย (ฝรั่งนี่มันขี้สงสัยเน๊อะ )
Link นี้ครับ http://www.waynesthisandthat.com/flashdurations.html
จากข้อมูลจะเห็นว่าแฟลช 580EX ของ Canon ให้กำลังไฟ 1/1 มี flash duration อยู่ที่ประมาณ 1/833 sec.
และเมื่อลดกำลงแฟลชลงระยะเวลาฉายแสงก็สั้นลงทีละประมาณเท่าตัวไปจนถึงราวๆ 1/16 ครับ
หลังจากนั้นไม่ใช่แล้ว
เพราะ 1/16 = 1/15,000 sec.
1/32 = 1/19,000 sec.
1/64 = 1/31,000 sec.
1/128 = 1/35,000 sec.
ผมก็ไม่ทราบเหตุผลที่เป็นเช่นนี้นะครับเข้าใจว่าเป็นข้อจำกัดของการทำงานของไส้หลอด (ถ้าลดเวลาไปเรื่อยความจริง 1/128 ควรจะได้ 1/107,000 sec. เร็วพอจะถ่ายภาพลูกปืนได้เลยมั้งครับ ?)
ทว่าก็ต้องถือว่าสำหรับการใช้งานทั่วๆไปแฟลช Canon ใช้วิธีทำงานแบบกำหนดความแรงของแฟลชด้วยระยะเวลาการฉายแสงแฟลชตามที่คุณโกเมศว่าไว้จริงๆครับ
ผมขอจบเรื่องน่าปวดหัวแต่เพียงเท่านี้เพราะผมก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน 555
จากคุณ |
:
ตอสระอือ
|
เขียนเมื่อ |
:
วันลอยกระทง 52 03:47:51
|
|
|
|
 |