Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มือใหม่ กับการหัดใช้โหมด M อย่างถูกวิธี(มั้ง){แตกประเด็นจาก O8514660}  

ปัญหาหนึ่งที่มักพบเห็นได้ในมือใหม่ คือ มือใหม่ มักจะพยายามทำตามอย่างโปร โดยไม่ค่อยสนใจศึกษาว่าโปรทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร เป็นผลให้สิ่งที่ทำไปมันผิดจุดประสงค์ที่ควรจะเป็น ผิดเวลา หรือผิดที่ผิดทาง ก่อผลร้าย มากกว่าผลดี (ไม่ใช่แค่เริ่องถ่ายภาพ แต่เป็นกันทั่วไป)

โหมด M นี่ก็เรื่องหนึ่ง มือใหม่หลายต่อหลายคน เห็นโปร หรือมือเก่าๆ ใช้โหมด M ก็อาจคิดว่าใช้แล้วดี หรือใช้แล้วเท่ห์ มือเก่าบางคนก็แนะให้มือใหม่เรียนรู้การใช้โหมด M แต่อาจไม่ได้อธิบายให้ละเอียดว่าหัดอย่างไร จึงจะเป็นประโยชน์

ใน คคห ผม ไม่ใช่ว่ามือใหม่ไม่ควรใช้โหมด M แต่ควรใช้โหมด M เฉพาะเมื่อมันจำเป็นต้องใช้ (หรือเมื่อมันมีประโยชน์)

บางคนอาจจะถามว่า "อ้าว ถ้าไม่หัดใช้ไว้ก่อน แล้วถึงเวลามันจะใช้เป็นได้ยังไง"
ตอบ โหมด M มันไม่มีอะไรให้หัดหรอก มันก็แค่ดูมิเตอร์ แล้วหมุนปรับรูรับแสง กับความเร็วชัตเตอร์ เรื่องแค่นี้ไม่ถึง 5 นาทีก็ใช้เป็นแล้ว

ถามต่อว่า "อ้าว แล้วเมื่อไหร่ถึงจะต้องใช้โหมด M หละ"
ตอบ ข้อดีของโหมด M คือ
1) หลังจากที่ท่านเลือกรูรับแสง กับความเร็วชัตเตอร์แล้ว ไม่ว่าท่านจะหันกล้องไปทางไหน นานแค่ไหน มันก็ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ปิดกล้องเปิดใหม่มันก็ยังอยู่ค่าเดิมเลยมั้ง
2) มันมีมิเตอร์บอกให้ดูว่าจากที่กล้องมันวัดแสงได้ ภาพมันโอเวอร์อันเดอร์มากน้อยแค่ไหน

ดังนั้น มันจึงเหมาะที่จะใช้เวลาที่ท่านอาจต้องชดเชยแสงอยู่ตลอดเวลา และค่าที่ชดเชยมันไม่แน่ไม่นอน อาจจะวัดทีเดียวใช้ทั้งงาน ไม่ต้องคอยกด EV-L บ่อยๆ หรือปรับเปลี่ยนชดเชยแสงได้ง่ายๆ ด้วย dial ไม่ต้องไปคอยปรับ EV +/-


โหมด M มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้การถ่ายภาพอย่างไร และหัดใช้อย่างไรจึงเหมาะสม

ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน กล้องมันฉลาดขึ้นมากมาย ระบบวัดแสงค่อนข้างแม่นยำ ชนิดที่ว่า ใช้งานทั่วไป ผู้ใช้แทบไม่ต้องเดือดร้อนมาคอยชดเชยแสงแต่อย่างใด ตั้งออโต้ก็เหลือเฟือแล้ว บวกกับดิจิตอลสะดวกสบาย ถ่ายมาไม่ดี PS ช่วยท่านได้

แต่ถ้าหากว่าท่านอยากฝึกฝน เรียนรู้การชดเชยแสง โหมด M ก็มีประโยชน์ช่วยท่านเรียนรู้ได้ มือเก่าหลายท่านที่แนะนำให้มือใหม่หัดใช้โหมด M ก็อาจเพราะเหตุนี้

การหัดใช้โหมด M อย่างถูกวิธี
1) หัดสังเกตมิเตอร์ คอยดูว่าสถานการณ์นั้นๆ สภาพแสงนั้นๆ กล้องมันวัดออกมาโอเวอร์อันเดอร์มากน้อยแค่ไหน อย่างไร
2) หัดดู LCD และ histogram ว่าภาพที่เราถ่ายมามันอันเดอร์โอเวอร์มากน้อยแค่ไหน อย่างไร
3) กลับไปดูมิเตอร์ ว่าต้องปรับชดเชยแค่ไหน หรือวัดแสงตำแหน่งไหน มันจึงจะพอดีที่เราต้องการ
4) จดจำเก็บเป็นประสบการณ์ว่าสถานการณ์แบบนี้ทำอย่างไรจึงจะได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับที่เราต้องการ คราวต่อไปเจอสถานการณ์ใกล้เคียงกัน จะได้ปรับกล้องได้เร็วขึ้น (ในกรณีที่โหมดออโต้มันพึ่งพาไม่ได้)


การใช้โหมด M ที่ผมเห็นว่า ไม่ถูกวิธี หรือไม่เกิดประโยชน์

1) เปิดโหมด P จำค่าความเร็วชัตเตอร์ กับรูรับแสง ไว้ แล้วปรับไปโหมด M ตั้งตามค่าที่จำได้จากโหมด P
- วิธีนี้มันไม่มีประโยชน์อันใด การปรับไปโหมด M ในกรณีนี้มันไม่ได้ช่วยให้ท่านเรียนรู้อันใดเลย แถมเสียเวลาอีกต่างหาก แถมผลลัพธ์ที่ได้ ภาพมันก็ไม่ได้ต่างจากใช้โหมด P

2) เปิดโหมด M ปรับรูรับแสงตามต้องการ แล้วปรับความเร็วชัตเตอร์ ให้มิเตอร์วัดแสงมันชี้ไปที่ 0
- แทบไม่มีประโยชน์อันใดอีกเช่นกัน หากจะบอกว่าต้องการเรียนรู้การควบคุมรูรับแสง ท่านเปลี่ยนไปใช้โหมด A หรือ Av เอาก็ได้ สะดวกกว่า

3) เหมือนข้อสอง แต่สลับกันระหว่างความเร็วชัตเตอร์ กับรูรับแสง
- ก็เหมือนกับข้อสองแหละ แต่กรณีนี้ใช้โหมด S หรือ Tv สะดวกกว่า

4) ดูรูปชาวบ้าน ตามหนังสือ หรือตามเวบ จำค่าต่างๆ ที่เขาใช้ แล้วเอามาตั้งตาม
- ต่างที่ ต่างวัน ต่างเวลา ไม่ใช่ว่ามันจะเอาค่ามาใช้แทนกันได้ เพราะสภาพแสงมันอาจจะไม่เหมือนกัน (เออ ถ้าดูของคนข้างๆ ก็ว่าไปอย่าง แต่อย่าลืมถาม ISO ด้วยแล้วกัน)

5) ปรับทั้งความเร็วชัตเตอร์ กับรูรับแสง ตามที่ท่านอยากให้มันเป็น ไม่ใช่ค่าจากการคาดการ หรือคำนวนอันใด เรียกง่ายว่านั่งเทียนมา (เช่น อยากได้ชัดลึกเลยปรับรูรับแสงแคบๆ ก็ตั้งมัน f/22 แต่อยากได้ความเร็วชัตเตอร์สูงๆ ด้วย ก็ปรับไปซะ 1/1000 สภาพแสงตอนนั้นเป็นอย่างไร ฉันไม่สน) โดยที่มิได้สนใจทั้งมิเตอร์วัดแสง หรือผลลัพธ์บน lcd และไม่รู้ว่าจะปรับชดเชยอย่างไร
- ภาพที่ท่านได้มันอาจจะมืดตื๋อ หรือขาวโพลน หากท่านทำเช่นนี้ แล้วสงสัยว่ามันเพราะอะไร ขอแนะนำให้กลับไปศึกษาเรื่องการเลือกใช้ความเร็วชัตเตอร์ กับรูรับแสง และการวัดแสงอีกทีแล้วกัน

หากท่านสงสัยว่า แล้วถ้ามันจำเป็นที่จะต้องให้ได้รูรับแสงเท่านั้นกับความเร็วชัตเตอร์เท่านี้ แล้วจะให้ทำยังไง คำตอบคือ ก็ปรับ ISO ชดเชยไง ถ้าขี้เกียจเข้าเมนูไปปรับ ISO บ่อย ขอแนะนำให้ใช้กล้องอย่าง Pentax ที่มันมีโหมด TAv ที่คอยปรับ ISO ชดเชยให้โดยอัตโนมัติ

แต่อย่าลืมว่า อุปกรณ์มันมีข้อจำกัด ปรับทั้งสามอย่างแล้วอาจไม่พอ ก็ต้องหาอุปกรณ์เสริม เช่น flash ช่วยเติมแสง หรือ filter ช่วยตัดแสง หรือต้องทำใจ

----------------------------------------------------------------------------

หวังว่า สิ่งที่พูดไปนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งกับมือใหม่ และมือเก่าที่จะเอาไว้แนะนำมือใหม่ ให้นำไปใช้งาน เรียนรู้ พัฒนาฝีมือ ได้อย่างเหมาะสม และถ่ายภาพได้อย่างมีความสุขนะครับ

หากท่านมีความเห็นแนะนำเพิ่มเติมอันใด ก็บอกกันได้ กระผมยินดีรับไว้พิจารณา แก้ไข ปรับปรุง

หากมีข้อติเตียนอันใด ก็ว่ามาได้ แต่ขอให้เป็นเหตุเป็นผล และอย่าใช้ภาษาที่มันรุนแรง หรือเสียดแทงนัก กระผมเสียว ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : คาเมะจัง
เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 19:27:41




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com