 |
ความคิดเห็นที่ 28 |
|
*************************************** โดยส่วนตัวถนัดกับ Canon มากกว่าค่ะ และอยากได้ตัวฟังก์ชั่นดูดสีของ Canon -. -" จับดูแล้วถนัดมือมากกว่าค่ะ ***************************************
นี่แหละครับที่เป็นเหตุผลที่สมาชิกที่มีประสบการณ์ทุกท่าน ได้ให้ความคิดเห็นทิ้งท้ายไว้เสมอในทำนองว่า
"ไปลองจับและใช้งานจริงดูก่อนตัดสินใจ"
งานอดิเรกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถ เครื่องเสียง แฟชั่น เสื้อผ้า ต่อเนื่องจนถึงกล้องถ่ายรูป ครึ่งหนึ่งในการตัดสินใจ แม้ใครจะไม่รู้ตัว แต่ผมเห็นว่ามี "อารมณ์" เข้ามาแฝงอยู่เสมอ
เหตุผลและคุณสมบัติก็เรื่องหนึ่ง แต่พอมีอารมณ์ และความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว ล้านเหตุผลที่นำมาค้าน จะถูกปฏิเสธโดยง่ายดายทันที
เรื่องแบบนี้ไม่มี ผิด-ถูก ควร-ไม่ควร รู้แต่ "โดน" หรือ "ไม่โดน" มากกว่า ซึ่งผมมีความเห็นว่า คุณได้ตัดสินใจเหมาะกับความต้องการแล้วครับ
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมคือ
ถ่ายรูปให้เยอะๆครับ
สูตรในการคำนวณความคุ้มค่าที่ผมใช้ประจำคือ
นำจำนวนชัตเตอร์ที่กดไปหารส่วนขาดทุน (ราคาซื้อ - ราคาขายต่อ) ตัวเลขยิ่งมาก ยิ่งมีความคุ้มค่าสูงครับ
ตัวอย่างเช่น กล้องราคา 17,000 บาท ปีหน้าขายต่อได้ 12,000 บาท (จะขายด้วยเหตุผลใดก็ตาม) ถ่ายรูปไป 1,000 ภาพ แต่ขาดทุนไป 5,000 บาท เท่ากับต้นทุนรูปละ 5 บาท
แต่ถ้าถ่าย 10,000 ภาพ ขาดทุน 5,000 บาท ต้นทุนจะเปลี่ยนเป็นภาพละ 50 สตางค์ทันที!
อีกเรื่องหนึ่ง
สามสี่วันก่อน มีคู่สามีภรรยาและลูกอ่อนวัยสองขวบมาทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน (ผมขายก๋วยเตี๋ยวเป็นอาชีพหลัก) เห็นผมคุยกับเพื่อนๆ และกำลังลองกล้อง Nikon D90 ที่พรรคพวกเพิ่งซื้อมาอยู่ ผมเดินไปเก็บเงิน ตัวสามีจึงทักขึ้นมาว่า "เล่นกล้องด้วยหรือ?"
จากนั้นบทสนทนาก็เริ่มต้นขึ้น จึงทราบว่าคู่สามีภรรยาคู่นี้ ตัวสามีเองมีโครงการจะซื้อกล้อง DSLR มาใช้เป็นส่วนตัวอยู่แล้ว แต่ติดที่ภรรยายังไม่เห็นด้วย
เงินน่ะพอมี ... แต่ผบทบ.ไม่อนุมัตินี่เรื่องใหญ่ครับท่าน
พรรคพวกก็ใจกว้าง กล้องเพิ่งซื้อมาสดๆ และยังใช้ไม่คล่อง ก็ยกให้พี่ท่านนั้นลองถ่ายเล่นๆดูตามสะดวก ระหว่างนั้น เสียงค้านเล็กๆของภรรยาก็แทรกอยู่ตลอด เรียกว่าทั้งๆที่ใจก็อยากได้ แต่ยังไม่เห็นประโยชน์, ว่างั้น
กล้องที่คู่นี้เล็งไว้คือ Nikon D3000 ซึ่งตั้งใจไว้ว่า เดือนหน้าจะไปเที่ยวภาคเหนือ ยืมกล้องเพื่อนๆไปถ่ายมาตลอด แต่คราวนี้ไปทริปยาวๆ และเป็นเรื่องส่วนตัว คงดูกระไรอยู่หากจะยืมกล้องเพื่อน
รู้ความต้องการแล้ว ผมจึงเดินไปหยิบกล้อง Canon 400D ตัวเก่ง กับเลนส์ 50/1.8 มาลองถ่ายรูปลูกสาวให้ทั้งสองดู ถ่ายไปคุยไปเรื่อยๆ ตัวภรรยาเองก็เห็นภาพแล้วว่าสวย ราคากล้องในระดับนี้ ไม่ว่ายี่ห้อไหน ส่วนใหญ่คุณภาพพอๆกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับคนใช้ว่าติดกับยี่ห้อไหน ในแง่มุมใดมากกว่า
(ปกติ ถ้ามีลูกค้ามีเด็กๆมาด้วย ผมมักจะขอเข้าไปถ่ายรูปให้ ถึงเวลาคราวหน้ามา ก็จะไร้ท์ลง DVD ให้ ถือเป็นน้ำใจเสมอ)
เมื่อได้ลองกล้องจนสมใจแล้ว ฝ่ายสามีจึงเปิดเรื่องเจรจาซื้อกล้อง โดยมีผม (ที่อยู่ก็เข้ามายุ่งกับเรื่องชาวบ้านแบบเลี่ยงไม่ได้) เป็นคนกลาง
"กล้องมันแพงนะคะ ว่าจะรอให้ตกรุ่นหรือลดราคาก่อนแล้วค่อยซื้อ" ภรรยากล่าว
"แต่เราจะไปเที่ยวกันแล้วนะเธอ" สามีเป็นฝ่ายแย้งบ้าง
การเจรจาดำเนินต่อไป ดูท่าไม่ค่อยดี เพราะเสียงเริ่มแข็ง ผมจึงต้องแทรกเสียหน่อย
"กล้องแพง ... ผมเห็นด้วยครับ รอลดราคาเป็นเรื่องฉลาดใช้เงิน ผมก็เห็นด้วยครับ
แต่ถามหน่อย ... หลานสาวกี่ขวบแล้วครับ?"
"จะสองขวบแล้วค่ะ"
"สมมุติว่า รออีกสักปี เพื่อให้กล้องตกรุ่นและราคาลดลงมาจนซื้อได้ คำถามที่ผมจะถามคือ
สมมติว่า ราคากล้องลดลง 50% จากวันนี้ ได้ส่วนต่างคืนกล้บมาเป็นหมื่นๆ แต่ช่วงเวลาเกือบ 2 ขวบของหลานคนนี้หายไป ไม่ว่าจะเป็นทศกาลต่างๆ วันสำคัญต่างๆ วันเกิดเค้า วันเกิดเรา วันครบรอบแต่งงานของคุณพี่ทั้งสอง และอื่นๆ
คุณพี่ตีคุณค่าการเสียโอกาสเหล่านี้ไว้เป็นเงินเท่าไหร่ครับ?"
ไม่มีคำตอบ เพราะผมถามอีกหลายคำถาม ที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าในการบันทึกภาพ ไม่ว่าจะสวย-ไม่สวย หรือจะเป็นภาพใดๆก็แล้วแต่ เจตนาของกล้อง ถูกออกแบบมาเพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ ที่ผ่านมาแล้ว และไม่สามารถย้อนกลับไปเวลานั้นได้อีก
ความสุขของการถ่ายภาพ จึงไม่ได้อยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง ไม่ได้อยู่ที่รูปจะสวยหรือไม่สวย ไม่ใช่เฉพาะเรื่องเทคนิคชั้นยอด ไม่ใช่เรื่องของกล้องและเลนส์คุณภาพสุดยอด หรือกล้องคอมแพ็ค
แต่ความสุขของการถ่ายภาพ - เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนถ่ายภาพแล้ว
... แม้ผมเข้าใจ แต่ผมก็ยังสงสัยอยู่เสมอ เมื่อเห็นผู้คนที่เล่นกล้องและรักการถ่ายรูป มาถกเถียงกันคนคอเป็นเอ็น ในเรื่องที่ไม่ได้สร้างความสุขในการถ่ายรูปภาพ
สงสัยว่า เขาเหล่านั้น ... เวลาถ่ายภาพมีความสุขหรือเปล่า?
ทิ้งท้ายสักนิดกับข้ออ้างสุดฮิต
"กลัวชัตเตอร์พัง"
ใช่ครับ
รถซื้อมาอย่าไปขับนะครับ - เดี๋ยวมันพัง โทรทัศน์ซื้อมาอย่าเปิดนะครับ - เดี๋ยวมันพัง เครื่องปรับอากาศติดตั้งแล้วอย่าเปิดใช้งานนะครับ - เดี๋ยวมันพัง อะไรๆก็แล้วแต่ ซื้อมาแล้วอย่าไปใช้มันนะครับ - เดี๋ยวมันพัง ภรรยา - สามี แต่งงานไปแล้วอย่าใช้งานนะครับ - เดี๋ยวมันพัง
มีอะไรในโลก - ไม่เสื่อม ไม่พังบ้าง?
ปล. ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการถ่ายภาพนะครับ
ปล2. ภาพสุดท้ายนี้ ไม่ใช่จากกล้อง LX3 นะครับ เป็น DSLR ยี่ห้อดังรุ่นหนึ่ง
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 22:16:46
จากคุณ |
:
yutaponglim
|
เขียนเมื่อ |
:
30 พ.ย. 52 19:47:54
|
|
|
|
 |