ความคิดเห็นที่ 1 1. เริ่มจาก Classroom in a book ของ Adobe 2. แล้วก็หนังสือของ Scott Kelby ทั้งเซ็ตเลยครับ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:04:00

ความคิดเห็นที่ 2 คติพจน์ ประจำใจ      ระดับเริ่มต้น......จงถ่ายให้เยอะ.....แต่งให้น้อย.......ฮิฮิ                            ระดับสมัครเล่น......ถ่ายให้เยอะ.......แต่งให้เยอะ                            ระดับอาชีพ..........ถ่ายให้น้อย......แต่งให้เยอะ                            ระดับผู้เชี่ยวชาญ.....ถ่ายให้น้อย....แต่งให้น้อย   โดยส่วนตัว จะ ภูมิใจ กับ รูป ที่จบ ใน กล้อง มากกว่า รูปที่จบ ใน คอม อะ แต่ รูป ที่ จบ ในคอมอาจจะชอบ มากกว่ารูป ที่ จบ ใน กล้อง ........งง ไหม ค่ะ เนี้ย  ... ปล. แก้ คำผิด* แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 11:21:26 จากคุณ : Aliz_lima2006 เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:14:20

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อก่อนผมก็นิยมถ่ายให้จบตั้งแต่ในกล้องนะครับ แต่ประสบการณ์ก็ทำให้ผมรู้ตัวเลยว่า  Ego ของผมมันแรงไป การใช้ Photoshop ทำให้การถ่ายภาพของผมทะลุขีดจำกัดไปได้มากมาย จากคุณ : แฉลบยอดหญ้า เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:34:40

ความคิดเห็นที่ 4 ของผม เงินไม่มีครับ ฝีมือไม่มีครับ ps ไม่เก่งครับ ภาพ ไม่สวย - -" พยายามต่อไป ps ผมจะแค่ รีไซ ถ้าแต่ง จะแค่ปรับ brightness/contrast กับ color balance  (นี่แค่แล้วเหรอ)ถึงจะแค่หัดถ่าย แต่องค์ประกอบภาพ ต้องมาจากกล้องทั้งหมด จากคุณ : Mr.Kim Henry เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:51:31

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนตัวคิดว่า ถ่ายให้ใด้ดีไปเลยจะดีกว่า ถ้าภาพที่ถ่ายมาสวยอยู่แล้ว ก็จะช่วยลดเวลาตกแต่งภาพหลังจากนั้นได้มาก ลองนึกดูน่ะค่ะ ไปถ่ายรูปแต่งงานมา 500 รูป ต้องแก้ไขทุกรูป คงจะต้องเหนื่อยมากมากแน่นอนค่ะ เพราะการแต่ง 1 รูป นั้นก็ใช้เวลาพอสมควรเลยทีเดียว ถ้าไม่เก่งโปรแกรมจริงๆ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 12:22:04 จากคุณ : Kennymommy เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:20:22

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่พูดถึงอุปกรณ์เพราะคิดว่าถ้าเราเลือกอุปกรณ์ได้เหมาะสมกับภาพที่เราต้องการจะถ่ายก็ถือว่าผ่าน ผมเปรียบฝีมือถ่ายภาพเหมือนวงกลมหนึ่งวง วงกลมวงนี้สามารถขยายใหญ่ขึ้นได้เลื่อยๆตามฝีมือ และการพัฒนา ส่วนฝีมือการแต่งภาพเหมือนการดึงภาพให้ทะลุวงกลมนั้นออกมา ยิ่งเราถ่ายภาพได้ดี และแต่งภาพได้เหมาะสมก็จะยิ่ง Upgrade ความสวยงามโดดเด่นให้มากขึ้นไปอีก จากคุณ : ฟางข้าวในทุ่งนา เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:33:01

ความคิดเห็นที่ 7 ผมมองว่า โฟโต้ช็อป ไม่ใช่ตัวแก้ปัญหาภาพนะครับ คือรูปโดยพื้นฐาน  ต้องดีไว้ก่อน  ไม่ใช่ถ่ายมาแย่  อันนี้โฟโต้ช็อปคงช่วยอะไรมากไม่ได้ แต่ในแง่การเพิ่มความเข้มสี  เพิ่มคอนทราสท์  หรือลบความบกพร่องเล็กๆน้อยของภาพ  เช่นแสงบางจุดในภาพที่ให้แสงโอเวอร์ไป น่าจะทำให้  ความคิดสร้างสรรค์  เปิดกว้างขึ้นด้วยกับ เอฟเฟคท์ของโปรแกรมที่ทำให้เกิดภาพแปลกๆ เรื่องโฟโตช็อปกับ การถ่ายภาพเป็นที่ถกเถียงกันมาโดยตลอด  แต่ดูแล้วแนวโน้มของตากล้องรุ่นใหม่ๆ  มาทางเก่งทำภาพ  มากกว่าถ่ายภาพซะอีก ซึ่งผมคิดว่า  ก็ไม่เสียหายอะไร  ถ้ามองที่ภาพเป็นผลลัพธ์สุดท้าย แต่มันต้องมาเรียนรู้เพิ่มอีกสิครับ....ที่มันเสียเวลา  แต่ถ้าเก่งโฟโต้ช็อปด้วยน่าจะทำให้การถ่ายภาพสนุกขึ้นอีกนะ......ในความคิดของผม จากคุณ : หมูอ่อนนุช เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:37:15

ความคิดเห็นที่ 8 ขึ้นอยู่กับ คน และ ภาพที่ต้องการมากกว่า บางคน ถ่ายมาจบหลังกล้องเลย สวยๆก็เยอะครับ บางคน ถ่ายมาเพื่อเอามา ทำภาพ ก็มี  ถ่ายให้ได้ตามที่ต้องการ สำหรับผม  ถ่ายให้ดีก่อน 50 + มาทำภาพ 30 + อุปกรณ์ 20 ผมให้ ps 30 เพราะว่า ส่วนตัวถ่ายภาพไม่ค่อยสวย   ถ้าได้ภาพสวย ต้องรอ จังหวะ  + แสง + โอกาส + อุปกรณ์พร้อม  ซึ่งต้องมีอดทนสูง  ก็เลยถ่ายมันมาก่อน มายำเอาที่หลัง :( แต่ถ้า ถ่ายมาไม่สวย มาปรับให้ตายยังไงก็ไม่ได้ ภาพสวยแน่นอน!! จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:41:33

ความคิดเห็นที่ 9 อยากให้ภาพเป็นอย่างไรล่ะครับ เรื่องการถ่าย การใช้ PS สำหรับผม มันเป็นทางที่พาภาพของเราให้ไปถึงจุดที่เราตั้งใจ ผมไม่สนหรอกว่าทำอย่างไร แต่สนใจอย่างเดียวว่า ภาพที่ต้องการ มันเป็นไปอย่างที่อยากได้รึเปล่า คิดมากปวดหัวครับ จากคุณ : ปืนเถื่อน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:55:58

ความคิดเห็นที่ 10 ผมคิดว่า PS ไม่ใช่ที่พึ่งเวลาถ่ายภาพเสีย ผมจะเน้นถ่าย JPEG เป็นหลักเพราะมีรู้สึกว่าในการถ่ายทั่ว ๆ ไปผลลัพธ์ที่ต้องการมันจบด้วย JPEG ได้ ส่วนกรณีที่จะถ่าย RAW และรวมถึงกรณีที่อยากแต่งภาพ นั่นคือกรณ๊หลุดธรรมดา ผมเห็นภาพบางภาพมันน่าจะแต่งให้สวยขึ้นกว่านี้ ก็จะถ่าย RAW เอาไว้ แล้วมาจัดแต่งภาพยามว่างเอาอีกที ในความรู้สึกส่วนตัวที่เป็นคนแต่งภาพน้อยหน่อย ผมเน้นถ่ายให้ดีก่อนเลย 85% ซึ่งถ่ายให้ดีก่อนตรงนี้รวม ๆ เอาฝีมือกับอุปกรณ์เข้าไปด้วยกันนะ ผมให้อุปกรณ์ซัก 35% เลยละกัน เพราะในหลาย ๆ ครั้งอุปกรณ์ที่ดีมันทำให้ผมได้ภาพที่น่าพอใจมาก ส่วนเรื่องการตกแต่ง บางครั้งไม่แต่งเลย และบางครั้งก็แต่ง ถือเป็นส่วนที่เหลือไปละกัน ทั้งหมดนี้ที่รวม ๆ กัน เป็นที่มาของภาพเกือบสวยของผมล่ะ จากคุณ : Morgoth Bauglir เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:01:14

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนตัวคิดว่าแล้วแต่กรณีครับ ถ้ารับงาน ก็คงถ่ายให้ตรงกับแนวคิดที่วางกันไว้ก่อน(ส่วนใหญ่เผื่อรีทัชกันอยู่แล้ว) บางทีอัตราส่วนเป็นแบบ ถ่าย 20% โฟโตชอปกันซะ 80% บางงานถ่าย 80 โฟโตชอปกัน 20% ก็ว่ากันไป ส่วนถ้าถ่ายกันตามความพอใจ ก็คงขึ้นอยู่กับ output ตามความชอบของแต่ละคนไหมครับ อย่างบางเคสถ่ายคนนี่ โฟโตชอปซะ 40% แหะ แหะ ถ่ายวิวอาจจะซัก 10% แต่ส่วนตัวรู้สึกแหม่งๆกับประเภทที่ว่า ปรับคอนทราส ปรับความอิ่มตัวของสี ปรับความคมกล้องซะ.. แล้วเขียนว่าไม่มีการตบแต่งภาพใดๆ... ส่วนตัวคิดว่ามันก็แต่งเหมือนกันหมดน่ะครับ จากคุณ : อินแกรม เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:03:12

ความคิดเห็นที่ 12 กล้อง DSLR เวลาที่เอาออกมาดูที่คอม ทำไมไม่คมอ่ะคะ ต้องใช้ PS ปรับสีเรื่อยเลย ถ้าเอาออกมาดิบๆ มันพร่าๆ ดูเหมือนกัน กางมุ้งดูโทรทัศน์อ่ะค่ะ จากคุณ : ~@LuxSaNaRee@~ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:10:02

ความคิดเห็นที่ 13   กล้องและอุปกรณ์     ทำให้มีคุณภาพ เสริมความสามารถของมันให้สูงขึ้น เลนส์       สร้างมุมมองใหม่ ๆ ฝีมือการถ่าย    ทำให้ภาพสมบูรณ์แบบ Photoshop      เสริมสร้างจินตนาการ  ให้กว้างไกล สรุปแล้ว   ภาพถ่ายดิจิตอล    ขาดอะไรไปไม่ได้หรอกครับ เหมือน     กินผักลวก   ไม่มีน้ำพริกกะปิ  จะอร่อยหรอ  หุหุ จากคุณ : Porzaction เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:11:22

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนเวลาผมถ่าย ตั้งกล้อง คิดอย่างเดียว ให้ได้ภาพมาดีที่สุด พอจะมาแต่งใน ps ก็คิดอย่างเดียวว่า แต่งให้ภาพออกมาดูดีที่สุดครับ เช่นกัน เพราะสุดท้าย เราอยากให้ภาพของเราดูดีที่สุด จากคุณ : cha17 เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:11:44

ความคิดเห็นที่ 15 ตามถนัด ตามสบายครับ ตัวใครตัวมัน ขอให้ Final Output  สวยละกัน จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:20:50

ความคิดเห็นที่ 16   ผมไม่เรียกว่าแต่งฮะ เรียกว่าเล่น ดีกว่า สนุกดีออก ถ่ายก็สนุก แต่งก็เพลินดี มันสนุกคนละแบบ จากคุณ : ซกมกจัง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:24:17

ความคิดเห็นที่ 17   อันนี้ออริจิ้นครับ ถ่ายไม่ค่อยดีนะครับ ถ่ายดีคงหลบเสาไฟได้แต่นี้มาทั้งแท่ง 555+ ถ้ามีเวลาคงต้องกลับไปถ่ายซ่อมนะเนี่ย จากคุณ : ซกมกจัง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:36:45

ความคิดเห็นที่ 18 ความคิดเห็นที่ 1     1. เริ่มจาก Classroom in a book ของ Adobe 2. แล้วก็หนังสือของ Scott Kelby ทั้งเซ็ตเลยครับ จากคุณ : อะธีลาส     เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:04:00     ขอบคุณมากครับ  จะลองหามาอ่านดู Scott kelby เคยอ่านแต่หนังสือแนะนำการใช้ Iphone ของเค้า  เขียนสนุก  เข้าใจง่ายดี   คงต้องหาหนังสือเกี่ยวกับโฟโต้ช็อป  ของตาคนนี้มาอ่านบ้างแล้ว จากคุณ : หมูอ่อนนุช เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:29:04

ความคิดเห็นที่ 19 ปฎิบัติให้ถูกขั้นตอนของโปรแกรม โดยอ่านคู่มือ และสอบถามจากผู้รู้จริงในการแต่งภาพ จะได้ไม่เลยเถิด  หากแต่ต้องการหลุดพ้นในโลกจินตาการ ก้อสามารถก้าวข้ามเพี่ยงแค่คลิ๊ก  ...จึ๋ง..จึ๋ง..   ....กำลังศึกษาหาแนวทางอยู่เหมือนกันครับ เรื่องถ่ายแล้วแต่ง กับถ่ายแล้วจบ  ตอนนี้ก้อเริ่มให้คำตอบตัวเองได้แล้วครับว่า แต่งเพื่อนำไปใช้ประโยนช์ทางการค้าหรือในเชิงพาณิชย์  ถ่ายแล้วจบเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ และเพื่อพัฒนาฝีมือครับ ปล.อนาคตไม่ไกลจะเทริน์โปร ^_^ ( ฝันให้ไกล ไปให้ถึง ) จากคุณ : airron_man เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:47:26

ความคิดเห็นที่ 20 ของผมพยายามให้จบในกล้องครับ   โปรแกรม  มีไว้ลบสิว  กับย่อรูปอ่ะครับ ไม่ใช่ว่า  EGO สูงนะครับ  แต่ว่าเป็นความขี้เกียจสูง   เหๆ บางทีถ่ายมาเสียๆ  under over หน้าขาว หน้าดำ ก็เอา โปรแกรมช่วยดึง curve อยู่เ้หมือนกัน จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:54:49

ความคิดเห็นที่ 21 ขนาดฟิลม์ยังมีเทคนิคในห้อิงมืด จับเวลาแช่น้ำยา แต่างฟิลม์ ปรับมืดปรับสว่าง ก็แค่ย้ายจากห้องมืดมาบนจอดิจิตอลเท่านั้นเอง แถมไม่ต้องพึ่งพาช่างอัดภาพอย่างแต่ก่อน จินตนาการมีเท่าไรห่ใส่ไปได้เต็มที่ อีกอย่าง ถ้าภาพมันห่วย องค์ประกอบไม่ได้เรื่อง วัดแสงทุเรศๆ โฟโต้ชอปทำไงมันก็ดีขึ้นกว่าเดิมไม่ได้มากหรอก สำหรับบลู ภาพที่ดีคือ ภาพที่เมื่อ output อกมาแล้วตรงใจ ตรงกับจินตนาการที่วางไว้ จากคุณ : บลูดานูป เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 15:13:53

ความคิดเห็นที่ 22 ผมเคยเห็นอยู่คนหนึ่งครับ เพื่อนผมเอง เขาพยายามมาก โดยไม่ใช้ PS เหตุผลก็เพื่อจะได้พัฒนาฝีมือของเขาเอง จะได้ไม่หลงคิดว่า ตัวเองถ่ายสวยแต่จริงแล้ว สวยเพราะ PS อะไรทำนองนี้แหละครับ แต่มันก็สวยจริงนะครับ ใช้ D700 เลนส์ ก็ตามสภาพกล้องครับ นอกจากนี้ก็ใช้เทคนิคในกล้อง ก็แค่นั้นครับ จากคุณ : Renovative เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 16:01:36

ความคิดเห็นที่ 23 ผมส่งเสริมการใช้ PS ครับ แต่ต้องถ่ายให้ดี จะได้ไม่เสียเวลา ใช้ PS เพื่อทำภาพที่ดี ให้ดีขึ้น เติมแต่งจินตนาการในส่วนที่เป็นข้อจำกัดของกล้อง ใช้แก้ไขความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ขยายข้อจำกัดของกล้อง อย่ากดส่งๆ ต้องประณีตทุกช็อต อย่าหวังว่า RAW จะเป็นไฟล์สารพัดนึกที่สวรรค์ประทานมาให้ ต้นฉบับเน่า ทำออกมาก็เน่าครับ ถ้าไม่ทำแนวแปลกไปเลยก็ต้องใช้ฝีมือขั้นสุดยอด นั่งหน้าคอมพ์นานๆ เสียเวลาถ่ายภาพตายห่ะ ============================= หนังสือเล่มสำคัญที่สุดคือ Photoshop in a book นะครับ จะสอนตั้งแต่พื้นฐานเครื่องมือ และการใช้ เทคนิคต่างๆ ออพชั่นต่างๆ ของเครื่องมือ ของตาสก็อตนี่จะสอนขั้นประยุกต์ใช้ และพลิกแพลง ถ้าพื้นฐานไม่ดี ว่ากันตามหนังสือ ก็จะทำได้แค่นั้น ถ้าพื้นฐานแน่น จะต่อยอดไปได้ไกลกว่าในหนังสือมาก จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 16:35:00

ความคิดเห็นที่ 24 คิดว่าจะต้องรู้ทั้งหมด PS ใช้หรือไม่ใช้ นั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญนัก สวยหรือไม่สวย อยากได้อะไรจากภาพที่ถ่าย ต้องการเสนออะไร output ตรง โจทย์ตัวเองอย่างได้ หรือตั้งไว้ พอแล้วนะครับ สิ่งที่คุณต้องการ จำเป็นต้องใช้  PS มาเกี่ยว มันก็ต้องใช้นะครับ เลี่ยงไม่ได้ ถ้าสิ่งที่คุณต้องการ มันสามารถจบได้ในช็อตเดียว หรือแต่งโดยทางอื่นได้... ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ PS หรือถ้าคุณเป็นพวกเสพติด PS เผื่อภาพสวย จนกลัวด้อยพัมนาการถ่ายภาพ พึ่งระลึกไว้ ตราบใจไม่ได้ผิดศีลธรรม ไม่ได้ผิดกติการการแข่งขันใดๆ ก็ใช้ไปเถอะ จากคุณ : WATERBOY R เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 16:40:23

ความคิดเห็นที่ 25 ผมถ่ายเพื่อจับแสง จับบรรยากาศตรงนั้น ออกมายังไง ก้อคืออย่างนั้น ผมใช้ PS ทำให้สวยกว่านั้นได้  แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมจะนำเสนอ ผมนำเสนอแค่ความจริง จากที่ตาผมเห็น ณ.จุดของเวลานั้น   ผมกินก๋วยเตี๋ยว ไม่เคยปรุงรสครับ เพราะผมไม่รู้จะปรุงไปเพื่ออะไร ในเมื่อผมคาดการณ์ได้อยู่แล้ว ว่า ใส่น้ำตาลมันต้องหวาน ใส่พริกมันต้องเผ็ด น้ำส้มมันก้อต้องเปรี้ยว  ผมไม่ใส่อะไรเลย เพราะผมอยากรู้ว่า รสชาดฝีมือคนทำเป็นอย่างไร เหมือนผมอยากให้คนรู้ว่า ที่ผมเห็นมาเป็นอย่างไร แต่ถ้าใครจะเอาไปเพิ่มเติมรสชาดยังไง อันนี้ก้อสุดแต่ความพอใจเค้าครับ ไม่เกี่ยวกับผม เป็นเรื่องของรสนิยม  แต่ผม อยากให้ คนที่ ใช้ PS แก้ภาพ แก้แสง  รับรู้ไว้อย่างนะครับ  การทำอะไร คุณควรทำให้อยู่บน พื้นฐานของความจริง ภาพคนยังพอทำเนา แต่ภาพวิว มันก้อควรสวยตามจริง  ยังไงก้อสงสาร คนที่เค้าอุตส่าห์เดินทางมา เพราะคิดว่ามันสวยอย่างในภาพหน่อยก้อดีนะ ไม่งั้นก้อลงลายน้ำไปเลยว่า ภาพนี้ผ่านการตกแต่ง ใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น 555 จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 17:16:40

ความคิดเห็นที่ 26 การถ่ายภาพยุคดิจิตอล วิถีการตกแต่งไฟล์ภาพ มันก็มาและมีอยู่ในตัวกล้องแล้วด้วยซ้ำไป ฟังค์ชั่นการปรับแต่งภาพง่ายๆในตัวกล้องก็มี เช่นปรับ sat, sharp, contrast หรือพวก picture style ต่างๆในบางยี่ห้อ มันก็คือการปรับแต่งไฟล์ภาพ หรือถ้าทำได้มากกว่านั้น คนผลิตกล้องก็คงอยากพยายามยัด PS แบบเบสิค มาลงกล้องให้มากขึ้นอยู่แล้วอย่างเช่น Auto DR อันนี้มันก็มีใน PS ถ้าแต่งภาพด้วยฟังค์ชั่นในตัวกล้อง หรือบางทีให้กล้องมันแต่งให้ด้วยซ้ำ ในโหมดออโต้ เช่นใช้ Auto DR ถ้าอันนี้ยังถือว่าอยู่ในกระบวนการถ่ายภาพ แล้วกับการเอาไฟล์ raw มาลงคอมฯ มาปรับมาแต่งต่อเอง ไม่แต่งด้วยตัวกล้อง หรือไม่ยอมให้กล้องมันแต่งให้ มันจะไม่ใช่เรื่องการถ่ายภาพตรงไหน มันไม่ใช้ฝีมือตรงไหน จะอุปกรณ์ จะฝีมือใช้กล้อง จะฝีมือใช้ PS อะไรจะสำคัญกว่าอะไรก็แล้วแต่กันไป ก็แล้วแต่คน แล้วแต่งาน แล้วแต่สถานการณ์ ในที่สุดก็วัดกันที่เงิน ที่เวลาที่ใช้ไป กับผลงานรูปที่ได้ออกมา ส่วนวิธีการวิธีทำ มีที่มายังไง จะจบหลังกล้อง จะแต่งภาพด้วยกล้อง จะให้กล้องแต่งภาพให้ หรือจะเอามาจากหลังกล้องมาแต่งต่อให้จบที่คอมฯ ก็ตามสดวกตามสบาย ตามแต่ศักยภาพกันไปเถอะครับ เพียงแต่เคารพในทางเลือกและวิธีการที่แตกต่างกันออกไปก็แค่นั้นเอง บางคนจะฝึกใช้การใช้กล้องให้คล่อง ก็แล้วแต่สดวก บางคนจะฝึกการใช้ PS ให้คล่อง ก็แล้วแต่สดวก แต่คิดว่าไม่มีใครเจ๋งเมพกว่าใครหรอกครับในเรื่องวิธีการ เงิน เวลาที่ใช้ไป กับผลงานที่ออกมานั่นแหละครับ บทสรุป สำหรับผมเอง อันพื้นฐานในการใช้กล้องนั้น ผมอ่านคู่มือกล้องแค่ 3 วัน 7 วัน ก็จบครับ ก็พอจะใช้กล้องได้ครับ แต่พื้นฐานการใช้ PS นี่ แค่อ่านคู่มือและเปิดคอมฯ หัดตามไป 3 เดือน 7 เดือนนี่ ผมยังไม่แน่ใจว่าผมจะรู้เรื่องครบถ้วนในขั้นพื้นฐานเลยครับ หุ หุ แค่นี้อะไรยากกว่า ผมก็พอประเมินประมาณได้แล้วครับ ฝอยมากคั่นสายตาด้วยภาพ 1 ภาพ ที่ย่อและโพสเท่านั้น พร้อมกะบอกว่า.. กล้องน่าจะมีฟังค์ชั่นลบสิวอัตโนมัติมาให้ด้วย.. เน๊อะ.. คริ คริ คริ จากคุณ : focus me not เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 17:50:02

ความคิดเห็นที่ 27 ผมอ่อนทุกอย่างเลย จากคุณ : Bonzai Pix เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 18:54:36

ความคิดเห็นที่ 28 ไวอากร้าสิครับ อย่างน้อยก็ช่วยได้อย่างนึง จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 20:16:16

ความคิดเห็นที่ 29 กล้อง คือ แม่ ช่างภาพ คือ พ่อ รูปถ่าย คือ ลูกสาว ลูกจะหน้าตาดีต้องขึ้นกับทั้ง พ่อ และ แม่ พ่อดี แต่ แม่แย่ --> ลูกก็ไม่ perfect พ่อแย่ แต่ แม่ดี --> ก็เหมือนกัน ทั้งพ่อและแม่แย่ --> ให้พาลูกสาวไปศัลยกรรมที่คลีนิก PS ลูกก็ดูดีแบบปลอมๆ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ ครับ (- -' จากคุณ : ยังไม่มี dslr (Sun Eagle) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 21:44:51

ความคิดเห็นที่ 30 อีตาสก็อตเนี่ย ครู PS ผมเลย ตำรา PS เค้า เขียนเข้าใจง่ายดีครับ เทคนิคการซ้อนเลเยอร์ Screen , Multiply หรือ Softlight เนี่ย ผมใช้จนติดไปแล้ว  แย่เลย   ^^" จากคุณ : eMiLe เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 22:34:43

ความคิดเห็นที่ 31 " ไม่เหมือนยุดกล้องฟิล์ม หรือสไลด์ ที่ต้องจบงานตั้งแต่  กดชัตเตอร์เป็นส่วนใหญ่" จริงอ่ะ  ??? แล้วคำว่า "บัง"   "เผา"   นี่มันมาเข้ามาในหัวผมจากเรื่องอะไรหว่า  -   -" สงสัยมาจาก บังมุม  กับ เผางาน   จากคุณ : espucino-ccj เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 23:35:10

ความคิดเห็นที่ 32 " ผมถ่ายให้จบในกล้องไม่เป็น จอ LCD เล็กๆ ผมดูไม่ออกหรอก เอามาดูในคอมพิวเตอร์ดีกว่าเยอะ และมีเหตุผลมากมายเกินจะเอ่ยที่ผมใช้โปรแกรมทำภาพ แม้ว่าในบางครั้งการทำนั้นผู้ดูอาจจะไม่สังเกตเห็นความแตกต่างได้ง่ายนัก " จากคุณ : ตุ๊กตาหมี เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 23:51:08

ความคิดเห็นที่ 33 ของผมคิดตั้งแต่ก่อนถ่ายแล้วว่าภาพนี้จะแต่งยังไง จากคุณ : chicken01 เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 01:11:12

ความคิดเห็นที่ 34 PS ช่วยเรื่อง มุมมองไม่ได้ อ่ะครับ ผมว่าสำหรับนักถ่ายภาพ สมัครเล่น หรือจะจริงจังเป็นอาชีพ น่าจะพยายามถ่ายให้ดีที่สุดออกมาก่อนดีกว่า  PS มันก้แค่ ผงชูรส จากคุณ : x-philes เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 14:20:00

ความคิดเห็นที่ 35 45 - 10 - 45 ประมาณนั้นแหละ ถ้าโลกนี้ไม่มี ps ผมคงตกงาน..อิอิ จากคุณ : Pollutor เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 15:22:44