นานหลายปีแล้วที่ห่างเหินไปจากห้องกล้อง
นานๆจะเข้ามาอ่านสักที
นานๆจะเข้ามาตอบสักคห.
จะไม่พูดถึงประเด็นจริยธรรมอะไร ขอแยกเรื่องนั้นออกไป
ตั้งเป็นประเด็นใหม่ คือ ประเด็น การจัดฉาก
และ แนวทางถ่ายภาพแบบสมาคมถ่ายภาพ
อันแรก คือ แนวทางถ่ายภาพแบบสมาคม
ฟังแล้วสะดุ้งทุกที เพราะดูเหมือนว่าเวลาใครพูดคำนี้คล้ายๆ จะเยาะๆ ยิ้มๆ พิกลๆ อยู่
ใครที่เพิ่งเข้ามาในวงการถ่ายภาพ
หรือใครที่ไม่สนใจไม่เคยเข้าไปสัมผัสสมาคม
มักจะเข้าใจผิดในเรื่องบางเรื่อง
ภาพถ่ายแนวสมาคม ต่อให้ใครก็ตามที่ออกปากอย่างเต็มปากว่า
ไม่เอาถ่ายภาพแนวทางนี้
ไม่ชอบ เชย ตลกๆ
หรือจะเพราะอคติ หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่
นั่นคงเป็นเพราะมองข้ามบางอย่างไป
การเน้นเรื่อง
แสง
สี
เงา
รูปทรง
เรื่องราว
การจัดวาง
ออบเจคต์
มิติ ทัศนมิติ
บาลานซ์
อุณหภูมิแสง
ฯลฯ และ ฯลฯ (มันมีมากมายหลายเรื่อง)
เหล่านี้คืออะไร ?
มันคือ ส่วนที่เสริม-สร้าง มีผลต่อความเป็นศิลปะ
------------------------------
ไม่ว่าคุณจะชอบ หรือไม่ชอบการถ่ายภาพแนวหนึ่งแนวใด
------------------------------
แต่คุณไม่อาจปฎเสธความจริงที่จะต้องใช้ กติกาทางศิลปะทั้งหลายทั้งมวล
(ดังตัวอย่างข้อกำหนดคร่าวๆที่ให้ไว้ข้างบน)
ไม่มีใครที่ต้องการสร้างสรรค์ภาพถ่ายสวยๆ แล้วไม่ต้องใช้ กติกาทางศิลปะ
บางคนใช้ เพราะรู้ ว่ามีหลักเกณฑ์ที่วว่านี้
บางคนใช้ ใช้ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามีหลักเกณฑ์นี้
คือใช้โดยแรงบันดาลใจที่มีตามศักยภาพพรสวรรค์ที่มีอยู่
แต่ก็นั่นแหละ .. มันคืออันเดียวกัน
ในส่วนของสมาคมถ่ายภาพของประเทศไทยทุกๆสมาคม เขาก็ใช้หลักการเดียวกัน
แต่ แสดงออกอย่างชัดเจน ในการ--ประกาศว่าใช้กติกาศิลปะเหล่านี้
เพียงแต่ ความนิยมชมชอบของคนส่วนหนึ่งในสมาคม
ชอบนำมันไปใช้กับภาพถ่ายประเภทหนึ่ง
คือ ภาพถ่ายแนว พิคทอเรียล
มีความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเข้าถึงพิคทอเรียล เป็นเรื่องยาก
และการถ่ายทอดความคิดจากคนๆหนึ่งให้อีกคนๆหนึ่ง มันยาก
ยิ่งการถ่ายทอดวิธีการถ่ายภาพพิคทอเรียลให้กันต่อกัน ยิ่งยากหนักหนา
คนที่ตามกันไปไม่ทันจึงได้ไปเพียง เปลือกหุ้มห่อคุณลักษณะของพิคทอเรียล
แต่ไม่สามารถสร้างภาพที่เป็น พิคทอเรียล ได้ถึงที่สุด
ตัวอย่างเช่น ได้แต่การวางภาพแบบจุดตัดเก้าช่อง แสงข้าง อะไรประมาณนั้น
แต่ ขาดการให้อารมณ์ศิลปะ
และ การสร้างความรู้สึกให้เกิดความคล้อยตามของคนดูภาพ
ภาพสาวน้อยในชุด สะไบ นั่งร้อยดอกไม้ ด้านหลังเป็นฉากฝาเฟี้ยม
ที่เห็นๆ กันจากการจัดฉาก
จึงดูไม่ เนียน ไม่ทำให้เกิดความคล้อยตามไปตามอารมณ์
เกิดความขัดแย้งเมื่อได้เห็นภาพนั้น เช่น มองภาพแล้วก็บอกว่า--ไม่สมจริง
ดังนี้เป็นต้น
หรือใครจะปฏิเสธว่าไม่เคยเห็นและชื่นชมกับภาพสวยๆที่ได้อารมณ์แบบนี้
ภาพที่เป็นภาพที่ใช้ แนวทางพิคทอเรียล
แล้ว จัดการทุกๆอย่างในภาพ ได้--ลงตัว ?
================================
ประเด็นใหญ่ ที่สมาคมถ่ายทอดยีนส์กันมาได้ไม่ครบ หรือรับกันไปไม่ครบ
จะอยู่ที่ ความไม่สมบูรณ์ของการ จัดใส่ความเป็นพิคทอเรียล
================================
แต่กระนั้น ก็ต้องแยกประเด็นอีกว่า
ภาพถ่าย มีทั้งแบบ Drama และ Realism
อะไรที่มันเนี้ยบจนเกินจริง เช่น
การจัด ระยะห่างระหว่างก้าวต่อก้าว ของแถวพระสงฆ์
การจัดวาง ระดับนั่งล้อมวงของสาวๆในชุดผ้าคลุมหิญาบ
ถ้าทำได้ดีจนถึงที่สุด มันเป็น Drama
และหากสลับกัน การจัดวางแถว วางระยะของ ออปเจคต์ ให้ดูสมจริงสมจัง
นั่นมันก็เป็น Realism
โดยสรุปก็คือ ที่ถูกหัวเราะเยาะ ขำ ตลก
เมื่อคนหลายๆคนเห็นภาพบางภาพ แล้วชี้ว่า นั่นไง ! ภาพแนวสมาคม
ก็เพราะ ความไม่สมบูรณ์ของพิคทอเรียลในภาพนั้นๆต่างหาก
ไม่ใช่ว่า ภาพแนวพิคทอเรียลไม่ดี
สมาคมถ่ายภาพ จัดแบบถ่ายภาพ จัดฉากถ่ายภาพ
เขาทำเป็นกิจกรรมให้สมาชิกได้ฝึกหัด ได้ลองวิชา
ในงบประมาณจำกัด และ เวลา-สถานที่จำกัด
จึงมักจะได้ภาพที่เป็น พิคทอเรียลไม่สมบูรณ์ ไม่ถึงที่สุด---(เป็นส่วนมาก)
ซึ่งแน่นอนว่า ในเวลาอันจำกัด จึงหลึกไม่พ้นที่จะต้อง จัดฉากถ่ายภาพ
เมื่อพูดถึงเรื่อง การจัดฉาก
นี่ยิ่งปฏิเสธไม่ได้ ว่าแม้แต่คนที่เยาะๆ ว่า จัดฉากทำไม ทำไมไม่ถ่ายไปแบบ Lifeๆ
แต่ละคนก็ล้วนจัดฉากทั้งนั้น (หากเงื่อนไขเอื้อให้ทำได้)
จริง ! ที่ว่า ภาพถ่ายที่ได้มา หากได้ภาพที่เยี่ยมยอด และไม่ได้จัดฉาก
ย่อมเป็นสิ่งวิเศษสุดๆ
แต่ถ้ามันมีเงื่อนไขอื่นๆที่สามารถทำให้ในเฟรมนั้นเป็นภาพสวยสุดยอด
ทำให้คนคล้อยตามอารมณ์ภาพได้
ไม่ว่าจะเป็น ภาพแบบ Drama หรือ Realism
มันไม่ดีกว่าได้ภาพที่ขาดๆเกินๆมาหรอกหรือ ?
โดยทัศนะคติส่วนตัวผมไม่ค่อนแคะ รังเกียจภาพแนวหนึ่งแนวใด
และจะถ่ายภาพทุกๆแนว แล้วแต่ว่าต้องการสื่อภาพไปในแนวทางใด
ต้องการสื่อความหมายอะไร
แม้แต่
การที่ไม่เซ็ท ไม่จัดฉากอะไรเลย
ใช้กล้องรุ่นเยี่ยมยอด เป็น เครื่องถ่ายเอกสารรุ่นยอดเยี่ยม
เจออะไร ก็ถ่ายสำเนาเอกสาร ที่เหมือนเป๊ะๆ กับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าออกมาเป็นภาพถ่าย
ขอบคุณ และขอโทษ หากเขียนอะไรที่ทำให้คนที่เข้ามาอ่านขัดเคืองใจ
หมายเหตุ
----------
สมาคมถ่ายภาพ จริงๆ ก็น่าเบื่ออยู่มาก ที่ไม่ค่อยอัพเดต
ถึงจะห่างสมาคมไปเป็นสิบปี แต่ก็ตามดูผลงานอยู่
ยังขำๆกับนักถ่ายภาพอาวุโสท่านหนึ่งที่เคยไปสัมภาษณ์ เมื่อ 15 ปีก่อน
ท่านแขวะว่า
นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในอดีต (ก็หมายถึงอ.จิตต์)
เมื่อ สี่สิบปีก่อน ถ่อเรือ เดี๋ยวนี้ก็ยัง ถ่อเรืออยู่อีก
เมื่อไม่กี่วันมานี่ เห็นมีนิทรรศการ เอามาลงตีพิมพ์ในหนังสือ
ผมก็ยังเห็น ภาพถ่อเรือ--พายุโหม เหมือนเดิม
.
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 01:51:14
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 01:42:11
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 00:48:53
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 00:46:45