ความคิดเห็นที่ 1 แล้วผมก็ไม่เข้าใจคำว่า explosed 200 x 60s ด้วย ่มันหมายถึงถ่าย 200 ครั้งที่ 60 วินาที เอามาคูณกันก็เป็น 200 นาที (3 ชม. 20 นาที) ใช่ไหมอะครับ ถ้าถ่ายแบบนั้น ท้องฟ้าก็ต้องเป็นเส้นโค้งๆสิ ผมล่ะงงจริงๆ ใครก็ได้ช่วยตีความเทคนิคเค้าทีจิครับ ---------------------------------------- เเล้วก็ ฟิลเตอร์ Hutech IDAS LPS-P2 Front Filter นี่ด้วยครับ อยากเห็นตัวเป็นๆจังเลย จากคุณ : อาร์ตตี้ (อย่าร้องไห้น้า) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 22:37:05

ความคิดเห็นที่ 2 อาร์ตตี้ จะเล่นสาย Astro เลยเหรอครับ... พี่จนปัญญาจะช่วยเหลือจริง ๆ       แต่ถ้าเป็น astrochemistry ผมมีหนังสืออยู่เล่ม เคยเรียนตอนปี 4 จากคุณ : mixz เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 23:10:23

ความคิดเห็นที่ 3 ถ่ายเยอะๆแล้วเอามาซ้อนเลเย้อในps ป่าว ดัน iso ซะสูงเลย เพื่อให้เห็นแสงดาว เวลาแค่ 60s อาจยังไม่เห็นดาวเคลื่อนตัวมาก แต่มันก็เคลื่อนได้นิดๆยังไม่เป็นเส้น วันไหนฟ้าเปิดๆลองถ่ายดูดิ เอาซัก 10-20 เฟรม แล้วซ้อนๆเลเย้อดู จากคุณ : PONDX เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 23:13:39

ความคิดเห็นที่ 4   กระทู้นี้มีรูปนึงครับ ถ่ายโดยชาวD90fanนะครับ http://www.thaidphoto.com/forums/showthread.php?t จากคุณ : .. เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 23:30:16 A:58.8.139.207 X: TicketID:198485

ความคิดเห็นที่ 5 สงสารกล้องครับ อยากให้มันใช้ได้นานๆ จากคุณ : BigWolf เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 23:30:17

ความคิดเห็นที่ 6   http://www.thaidphoto.com/forums/showthread.php?t=139412&page=11 จากคุณ : " เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 23:31:09 A:58.8.139.207 X: TicketID:198485

ความคิดเห็นที่ 7 สายเทคนิค  ต้องรอน้าเหมียวครับ  ^^ จากคุณ : eMiLe เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 23:48:47

ความคิดเห็นที่ 8 เล่นไม่ไหวค่ะแนวนี้ แถวบ้านมีทั้งสนามกีฬา + สนามกอล์ฟ บรรยากาศไม่เป็นใจซักนิด จากคุณ : 4om เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 23:53:19

ความคิดเห็นที่ 9 เอามารอฟัง -*- จากคุณ : hookman13 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 23:54:37

ความคิดเห็นที่ 10   ถ้าสนใจจะถ่ายแบบนี้ คงต้องยอมเสียกล้องตัวนึงเลยมั้งครับ เพื่อมาแปลงทำให้ถ่ายแนวแบบนี้เฉพาะ เพราะต้องเอา IR blocked Filter ออก(แล้วมันก็จะถ่ายแบบปกติไม่ได้) เหมือนคุ้นๆว่า เมื่อก่อน canon 20DA สร้างมาเพื่อให้ถ่ายภาพแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้เห็นเขาว่าแปลงกันได้แล้วนะครับ ไม่รู้ว่ามันจะเหมือนกับที่เขานำมาถ่าย IR กันป่าว จากคุณ : chawanut เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 00:01:42

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณพี่ๆทุกคนเลยครับ   ว่าเเต่น้าเอ๋ครับ ถ้าเราใช้เป็นกล้องฟิล์มไปทำบล็อก IR มันจะเเทนกันได้ไหมอะครับ เพราะผมมี 500N อยู่ตัวนึง เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เอามาเจาะบล็อกใส่ฟิลเตอร์สะเลย ขอบคุณพี่ mixz เเละพี่ปอนด์ง้าบ  เดี๋ยวต้องลองซักหน่อย เเต่คงต้องยืม 350D เพื่อนมาลองแหงมๆ (เสียดาย E500) จากคุณ : อาร์ตตี้ (อย่าร้องไห้น้า) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 01:26:34

ความคิดเห็นที่ 12   แนวนี้ไม่รู้เรื่องเลยอะ.... T_T จากคุณ : peaw_gt เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 02:48:31

ความคิดเห็นที่ 13 ครายยย จุดธูปตมมมมดูมาแต่เช้าาาาา 1. โปรแกรมไม่แพง ถ้าจำไม่ผิด Iris นี่ฟรี (หรือ stacker หว่า?) 2. ตัวแพงหน่อย ก็คือ ขาตั้งตามดาว  ตัวแพงสุดคือ "เวลา"  อย่าลืมว่า ถ่ายดาว มันต้องถ่ายกลางคืน  และ ต้องเป็นคืนเดือนมืด รอบข้างไม่มีแสงไฟ 3. ถ่ายดาวแบบเป็นจุด .. f/stop ไม่สำคัญ  ขนาดหน้าเลนส์ สำคัญกว่า  ยิ่งกว้าง ยิ่งได้ภาพสว่างๆ 4. เลนส์กระจก ดีกว่าเลนส์แก้ว เพราะหน้ากว้างมากๆได้ และปัญหาเรื่องสีเหลื่อม (apochromatic) มีน้อย .. เพราะมันเป็นธรรมชาติของเลนส์กระัจก 5. Canon 20DA ห่วยกว่า 350D ที่ไปถอด IR มาซะอีก 6. กล้องฟิล์ม ทำ stackering ไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 53 04:59:36 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 04:45:59

ความคิดเห็นที่ 14 7. Olympus เมืองไทย ไม่มีใครสามารถพอที่จะเอา IR ออก และใส่ IR pass เข้าไปแทนได้ ...  และถ้าจะทำจริงๆ ต้องรื้อระบบเขย่าฝุ่นทิ้ง 8. หลักการของ stackering คือ ถ่ายภาพเดิม ซ้ำๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ละภาพจะมีข้อมูล (signal, S) + สัญญาณกวน (noise, N) สมมุติถ่ายมาจำนวน R รูป เมื่อเอามารวมกัน .. ปริมาณข้อมูลรวม = R * S ปริมาณสัญญาณกวน = sqrt (R * N^2) หรือ sqrt(R) * N ข้อมูล ต่อ สัญญาณกวน (S/N) = [R * S] / [sqrt(R) * N] ในขณะที่ถ้าเปิดยาววววว ... ปริมาณข้อมูลรวม = R * S ปริมาณสัญญาณกวน = R * N S/N กรณีนี้ = [R *S] / [R*N] เอาสองอันมาเทียบกัน (เริ่้มปวดหัวแล้ว ) ... S/N#1 : S/N#2 จะพบว่า การ stackering จะทำให้สัญญาณกวน น้อยลง = sqrt(R) สรุปคือ การเปิดนาน 1 ชั่วโมง ให้สัญญาณกวน = 1 ชั่วโมง หรือ 60 นาที แต่เปิดนาน 1 นาที * 60 หน ให้สัญญาณกวน = sqrt(60) หรือ เทียบเท่าสัญญาณกวนที่เกิดจากการเปิดหน้ากล้อง แค่ 8 นาที ในขณะที่ทั้งสองกรณี ให้สัญญาณภาพที่เทียบเท่่าการเปิดหน้ากล้องนาน 60 นาที เท่าๆกัน แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 53 04:59:02 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 04:58:08

ความคิดเห็นที่ 15 9. จุดเด่นสุดของการซ้อนภาพ (image stackering) คือ ในภาพจำนวน R นั้น .. ถ้ามันเสียไป ก็ยังสามารถเอาที่เหลือมาซ้อนกันได้ ในขณะที่การถ่ายภาพเดียว ... เสียแล้วเสียเลย 10. การถ่ายภาพดาว โอกาสภาพเสีย .. เครื่องบินบินผ่าน , แสงไฟฉายส่องเข้ากล้อง , แสงไฟส่องขึ้นท้องฟ้า , เมฆลอยมาบัง (มันมาจากไหนฟร่ะ! อุตส่าห์เลือกคืนฟ้าใสๆแล้ว) แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 53 05:04:24 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 05:03:11

ความคิดเห็นที่ 16 11. เปิดหน้ากล้องแต่ละ shot นานเท่าไหร่? จำนวน R ยิ่งเยอะยิ่งดี แต่มันไม่ใช่คำตอบครอบจักรวาล การเปิดหน้ากล้องแต่ละครั้ง ต้องนานพอที่จะให้สัญญาณภาพ แต่ยิ่งเปิดนาน .. สัญญาณกวนก็ยิ่งเยอะ ในกล้องทั่วไป .. ภาพ under ได้ 3-4 stop มากกว่านั้น มันแทบแยกไม่ออกจาก noise และ over ได้อีก 1-2 stop โดย highlight ยังไม่หาย รวมๆแล้วก็คือ 4-6 stop 4 stop  = 2^4 หรือ 16 หน 6 stop = 2^6 หรือ 64 หน ไอ้ที่เปิดเป็นร้อยหนนั่นหนะ มันกล้อง modified เพิ่ม ติดพวก thermoelectric chip เข้าไป chip พวกนี้ หาซื้อไม่ยาก ติดตั้งไม่ยาก .. บ้านหม้อมีขาย มันเป็น chip ที่ใช้ทำตู้เย็นพกพา จ่ายไฟเข้าไป มันจะดึงความร้อนออกมาจากด้านหนึ่ง (ด้านเย็น) ไปสู้อีกด้าน (ใส่้พัดลมและแผ่นระบายความร้อนด้านนี้) ติดตั้งไม่ยาก แต่ ปัญหาเพียบ เพราะเมื่อตัว sensor เย็นเจี้ยบๆ ... -20 ถึง -40 องศา ไอน้ำในอากาศผ่านมาเจอ ... กลายเป็นน้ำแข็งทันควัน ต้องหาทางซีลกล้อง (หรือ เซนเซอร์) ไม่ให้โดนอากาศที่มีไอน้ำเด็ดขาด จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 05:12:44

ความคิดเห็นที่ 17 12. การ stackering นอกจากเพื่อให้สัญญาณ (S) แรงขึ้น และ noise (N) ลดลง (ตามข้อ 11 แล้ว) ยังสามารถทำเพื่อลด N อย่างเดียว ใช้ในกรณีที่ถ่ายดาวที่สว่างมากพอสมควร สมมุติเปิดหน้่ากล้อง 5 นาที ก็ได้ภาพแล้ว แต่ noise ตรึม ถ้าเราเปิดหน้ากล้อง 5 นาที จำนวน 30 หน เราจะได้ภาพที่แสงพอ 30 ภาพ + noise 30 ตัว ถ้าเอามารวมกัน โดย ลด ขนาดสัญญาณแต่ละภาพลง สัญญาณ noise มันก็จะลดลงเช่นกัน เนื่องจากสัญญาณภาพ มันเกิดตำแหน่งเดิมทุกหน สี, ความสว่าง ฯลฯ อยู่ตำแหน่งคงที่ ในขณะที่ noise มันเกิดแบบสุ่ม โปรแกรมพวก stacker จะเก็บข้อมูลทั้งภาพมาเทียบกัน ตรงไหนมีข้อมูลคงที่ .. ทั้ง R ภาพ ก็จะใช้ข้อมูลนั้น ตรงไหนมีมั่ง ไม่มีมั่ง ก็ถือว่าเป็น noise และกำจัดทิ้่งออกไป noise มันจะหายไปเพียบ เช้าแล้ว .. โดนแสงสว่างไม่ได้ .. จบดีกว่า จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 05:20:59

ความคิดเห็นที่ 18 [-''-] ....ไม่น่าคลิกเข้ามาเพราะอยากรู้เลยตรู ..... เพิ่งหายปวดหัวไมเกรน อ่่านมาเจอน้าแมวตอบ ไมเกรนพาลจะกำเริบซะ ไปนอนดีกว่า............ฟิ้วววววววววววววววววววววววววว จากคุณ : DeE dEe เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 08:25:51

ความคิดเห็นที่ 19 อ่า.....เคยถ่ายแต่น้องดาว จากคุณ : แพรมรกต เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 09:44:11

ความคิดเห็นที่ 20 อู้ฮู... ดูราคาขาตั้งและมอเตอร์แล้ว ราคาถูกสุด ซื้อขาตั้ง Carbon Fiber ของผมได้ตั้งสองตัว จากคุณ : ALTuS เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 10:20:39

ความคิดเห็นที่ 21   กระทู้นี้ได้ความรู้เพียบเลยครับ เปิดโลกทัศน์ไปอีกระดับครับ จากคุณ : balladman เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 10:59:55

ความคิดเห็นที่ 22   เก็บความรู้ด้วยคนครับเคยเห็น e500 โมแล้วขายใน ebay อยุ่ 2-3 ครั้ง เอา  ราคามหาโหด จากคุณ : photoprop เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 18:36:03

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบพระคุณน้าเเมวเหมียวพุงป่องเป็นอย่างยิ่งครับ ผมล่ะซึ้งเลยในความรู้ที่น้าถ่ายทอดออกมาให้ผม ขอบคุณครับ เเล้วผมจะไปถ่ายเนบิลล่ามาฝากนะครับ เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า โอลี่ก็ทำได้ จากคุณ : อย่าร้องไห้น้า เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 01:31:33

ความคิดเห็นที่ 24 มึนครับ แต่ขอบคุนน้าแมวที่เอาความรู้มาแชร์ให้กันครับ จะค่อยๆทำความเข้าใจ จากคุณ : สงวนศรี เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 10:25:37

ความคิดเห็นที่ 25 ไมเกรน เกิดเฉพาะ คนสูงอายุ ป่ะครับ เจ้ 555+ ไปล่ะะะ จากคุณ : kaposs เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 16:12:00

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาดูดความรู้ด้วยคนครับ.. ..แต่ท่าทางจะดูดไม่ค่อยได้แฮะ ยากส์..เกินส์...อิอิ แต่ขอบคุณทั้งผู้ถามและผู้ตอบ(โดยเฉพาะน้าเหมียว) สำหรับความรู้ดีๆ ครับผม จากคุณ : ป๊าตัว art (แม่ยู้-ลูกหมูนะโม) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 23:18:48