ความคิดเห็นที่ 1 อันดับ 10. ชื่อภาพ ::: Andy Warhol (1987) ช่างภาพ ::: Robert Mapplethorpe ราคา ::: $643,200 (21,225,600 บาท) จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:32:40

ความคิดเห็นที่ 2 อันดับ 9. ชื่อภาพ ::: The Great Wave, Sete (1857) ช่างภาพ ::: Gustave Le Gray ราคา ::: $838,000 (27,654,000 บาท) จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:35:07

ความคิดเห็นที่ 3 อันดับ 8. ชื่อภาพ ::: Athènes,T[emple] de J[upiter] olympien pris de l'est (1842) ช่างภาพ ::: Joseph-Philibert Girault de Prangey ราคา ::: $922,488 (30,442,104 บาท) จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:36:58

ความคิดเห็นที่ 4 อันดับ 7. ชื่อภาพ ::: Cowboy (1989) ช่างภาพ ::: Richard Prince ราคา ::: $1,248,000 (41,184,000 บาท) จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:38:58

ความคิดเห็นที่ 5 อันดับ 6. ชื่อภาพ ::: Nude (1919) ช่างภาพ ::: Alfred Stieglitz ราคา ::: $1,360,000 ( 44,880,000 บาท) จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:40:22

ความคิดเห็นที่ 6 อันดับ 5. ชื่อภาพ ::: Hands (1919) ช่างภาพ ::: Alfred Stieglitz ราคา ::: $1,470,000 ( 48,510,000 บาท) จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:41:45

ความคิดเห็นที่ 7 อันดับ 4. ชื่อภาพ ::: Nude (1925) ช่างภาพ ::: Edward Weston ราคา ::: $1,609,000 ( 53,097,000 บาท) จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:43:21

ความคิดเห็นที่ 8 อันดับ 3. ชื่อภาพ ::: Kremlin of Tobolsk (2009) ช่างภาพ ::: Dmitry Medvedev ราคา ::: $1,750,000 ( 57,750,000 บาท) จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:45:04

ความคิดเห็นที่ 9 อันดับ 2. ชื่อภาพ :::  The Pond-Moonlight (1904) ช่างภาพ ::: Edward Steichen ราคา ::: $2,928,000 ( 96,624,000 บาท) จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:46:43

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณ จขกท ครับ ผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อยครับ ยกตัวอย่าง ภาพในความเห็น #1 มันแพงเพราะอะไร จากคุณ : ริชาร์ด เกี๋ยง เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:47:22

ความคิดเห็นที่ 11 อยากรู้เหมือนกันเลยค่ะ  ว่าแพงที่ตรงไหน  คนถ่าย หรือคุณค่าของสิ่งที่เกิด จากคุณ : พู่กันกะจานสี เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:49:44

ความคิดเห็นที่ 12 อันดับ 1. ชื่อภาพ :::   99 Cent II Diptychon (2001) ช่างภาพ ::: Andreas Gursky ราคา ::: $3,346,456 ( 110,433,048 บาท) *** ภาพนี้มีการปริ้นท์ภาพออกมาทั้งหมด 3 ครั้ง 2ครั้งที่เหลือราคาของภาพคือ $2,400,000 และ $2,250,000 เพราะฉะนั้นมูลค่ารวมของภาพนี้ก็ลองบวกดูครับ ... ........................ ทำไมภาพพวกนี้ถึงแพง..ใครตอบผมหน่อย เหอเหอ.. จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:51:35

ความคิดเห็นที่ 13 อยากรู้ด้วยครับว่าแพงด้วยเทคนิค คนถ่าย หรือความเก่าครับ ถ้าเป็นความเก่าจะได้เอากล้องไปถ่ายอัดไฟล์ใหญ่ๆเก็บไว้เป็นมรดก อิอิ จากคุณ : i_candyman เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:51:52

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าแพงเพราะมีคนมีเงินอยากได้มาก ๆ แน่เลย บางทีเหตุผลของคนที่อยากได้มันก็อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แค่อยากได้เฉย ๆ จากคุณ : Morgoth Bauglir เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:54:38

ความคิดเห็นที่ 15 ผมก็ไม่ทราบหรอกครับว่าเพราะเหตุใดภาพพวกนี้ถึงแพงหูฉี่..แต่เคยอ่านข้อความของท่านนึงมา ขออนุญาตยกมานะครับ  ลองอ่านดูครับว่าเพราะอะไรภาพพวกนี้มันถึงแพง.. .......................................... มาร่วมแสดงความคิดเห็นครับ ผม เพิ่งเรียน เกี่ยวกับ contemporary art ของ america มา แล้วก็ เคยลงเรีรยน Western art มาด้วย ก็เลย มี อะไร พวกนี้ผ่านตา มาบ้าง ----- จริงๆๆแล้ว การขายรูปหรือขายพวก sculptures ที่ดูเหมอืน ไม่มีอะไร แต่ ได้ราคา งามๆ นี่ จริงๆ แล้วมันก็มีมาตั้งนานแล้ว และ ก็ เป็นอะไร ที่ common มากๆๆ ใน วงการ ของพวก ศิลปิน ไม่ทราบว่า เคยได้ยิน คำว่า "DADAISM" หรือ "NEO-DADA" หรือเปล่าครับ?? คนกลุ่มนี้ มี Duchamp เป็น คนก่อตั้งครับ สิ่งที่เค้าทำ หลายๆอย่าง มันเป็น สิ่งที่ non-sense ในสายตาคนจำนวนมาก โดยเฉพาะ  ชิ้นงานที่ดังที่สุดชิ้นนึงของเค้า คือ "Fountain" มันคือการเอา โถปัสสาวะ มา กลับด้าน ครับ แล้ว ก็วางอยู่อย่างงั้น แต่กลับดัง ซะงั้น ซึ่ง ชาว ดาดาอิสท์ นี่ เค้ามี วลี เด็ด ที่ จำกัดความเป็นตัวของตัวเค้า คือ "Turn somethings useful to be something useless" ซึ่งมันก็เป็น อย่างงั้นจริงๆๆ แต่ ขายได้แพง และ รวย ครับ หรือ อย่าง ยุคที่ pop art บูมๆๆ ทั้ง Andy Warhol และ Roy Lichtenstein ศิลปิน ที่ดังมากๆๆ โดย ขโมยรูปคนอื่น มา แล้ว resize ให้ ใหญ่ เปลี่ยนสี จัด layout ทำซ้ำ แล้ว ขายได้ แพงมากๆๆ แพงจนพวกนี้รวยเป็น เศรษฐีไปเลย ทั้งๆที่ในรูป ไม่มีอะไร เลยครับ เพราะว่า ของพวกนี้ อยู่ที่การนำเสนอ/คาแรกเตอร์ของศิลปิน ยิ่งอีโก้สูง ยิ่งกวนทีน ยิ่งดัง ขายได้ราคาไม่ได้ราคา มันมักจะไม่ได้อยู่ที่ ค่าของงานจริงๆครับ แต่มันอยู่ที่ ค่าของของ ที่คน แอด มันลงไป มากกว่า เหมือน ไลก้า กับ คาร์ล ไซส์ เลนส์มันอาจจะดีจริง ถ้าเทียบ กะับ เลนส์ นิก เลนส์หนอน เลนส์กบ แต่ถามว่า่ มัน ดีกว่า เทียบเท่า กับ ส่วนต่างที่ต้องเสียหรือเปล่า คำตอบ มันก็บอกกันไม่ได้แบบ เป๊ะๆ หรอกครับ มันก็ขึ้นอยู่กับ รสนิยม และ สายตาอีก ก็เหมอืน พวกงาน ศิลปะ พวกนี้ ล่ะครับ เพราะฉะนั้น มันกไม่แปลก หรอก ที่ รูปที่แพงที่สุด กลับเป็นรูปที่คนดู ดูไม่รู้เรื่องเหมือนอย่างเราๆ ท่านๆ เพราะเราไม่ได้ รับ information อย่างอื่น นอกเหนือจากการดูภาพ บางที ถ้าเราอยู่ ณ ที่การประมูล  และมีโอกาสได้ฟัง presentation จาก ช่างภาพ ที่ถ่าย ภาพนี้ ได้รับรู้แนวคิด อารมณ์ เหตุผล ที่เค้าถ่ายภาพนี้ เราอาจจะบอกว่า "ช่างเป็นงานศิลป์ที่สุดยอดจริงๆ" หรือ "เพี้ยนป่ะครับ" พวก presenter นี่ มีผล กับการขาย งานมากนะครับ อย่างเช่น ที่ดังที่สุดในประวัติศาสตร์ ก็ คอื Leo Castelli คนนี้ ขายได้ทุกอย่างในราคาที่ คนได้เยิน ต้องอึ้ง เขาสามารถขาย กระป๋องเบียร์ 2 กระป๋องบุบๆ ในราคาที่ว่า "แพงบรรลัย" ได้ เรื่องพวกนี้สนุกครับ ลองหาอ่าน ดูได้ แล้วจะรู้ว่า ในโลกของ capitalism นั้น สมอง + ปาก สำคัญที่สุด no matter ว่า ถ่ายสวยหรอืไม่สวย เลย ครับ ถ้าพูดดี แต่งเรื่องได้ดี ก็ รวยแล้วครับ -------------- ถือว่า เป็นการ แบ่งปันความคิดละกันนะครับ ถ้ามีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยล่วงหน้าครับ ...เครดิต คุณหมนพู จาก etcfoto ครับ จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 09:57:04

ความคิดเห็นที่ 16 ชอบ อันดับที่ 8 กับ อันดับที่ 5 อะครับ เด๋วจะเก็บตังซื้อ เอิ๊กๆ จากคุณ : KanangZarr เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 10:01:15

ความคิดเห็นที่ 17 ภาพอันดับ 3 นั่นคนถ่ายเป็นประธานาธิบดีของรัสเซียใช่หรือเปล่าครับ เพิ่งเห็นข่าวในนสพ.เมื่อวันก่อน จากคุณ : HazmaT เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 10:06:28

ความคิดเห็นที่ 18   เพื่ออะไร ผมเอามั่งมั้ย จะมีใครซื้อ ขอซักล้านนึงก็พอเอามั้ย อิอิ จากคุณ : LiFEillusion เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 10:06:30

ความคิดเห็นที่ 19   ผมขออยู่คนละโลกกับคนพวกนั้นดีกว่า (หมายความว่าอยู่บนโลกความจริงครับ) จากคุณ : shiro_kuro เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 10:11:44

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเป็นไปตามที่ 15 ว่าไว้ ผมคนนึงละครับที่ไม่แยแสกับรูปที่มีค่าแค่การปั่นราคา ปล่อยให้คนรวยๆเงินเหลือๆ ไม่รู้จะเอาไปใช้ทำอะไรเค้าซื้อไปเหอะครับ ปอลิง ทั้งหมดชอบรูป cowboy ครับ สงสัยว่าคนซื้อน่าจะเป็น marlboro ซะมั๊ง?? จากคุณ : หน้าบ่าแดง แฮงบ่ามี เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 10:12:01

ความคิดเห็นที่ 21 -15-  ชัดเจน และเข้าใจในแนวทางเค้าแล้วครับ ^ ^ จากคุณ : espucino-ccj เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 10:21:41

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณครับที่เอามาให้ชมกัน อย่าคิดมากครับ ก็ตั่งราคากันไปตามเรื่องละครับ จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 10:26:18

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันครับ คุณค่า อยู่ที่การนำเสนอ ชอบคำนี้ครับ เพราะถ้าคนมองสิ่งที่ผู้ถ่ายทอดศิลปะ นำเสนอออกมา คงไม่มีคนมานั่งจับผิดว่า  "ไอ้ภาพนี้ก่อนแต่ง:-)ไม่สวยหรอก" "สวยเพราะมันแต่งภาพหว่ะ" หลายๆ ครั้งสิ่งที่เขานำเสนอออกมา มันน่าสนใจกว่าฝีมือถ่ายภาพเสียอีก (แต่ถ้าคนแต่งภาพ แล้วเสรือกมาบอกว่า ภาพนี้ถ่ายกับมือ กรูเจ๋ง อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องครับ) อ๊ะ นอกเรื่องใช่ไหม ขอโทษครับ : ) กลับเข้าเรื่องในกระทู้ สำหรับภาพหลายๆ ภาพ เป็นไปได้ไหมว่า เพราะภาพบางภาพในสมัยนั้น เป็นไอเดียที่แปลกใหม่ในยุคนั้น คุณค่าในตอนนั้นมันจึงยิ่งสูงขึ้น ซึ่งแม้ปัจจุบันจะมีภาพลักษณะคล้ายๆ กัน ที่อาจจะสวยกว่า แต่ความประทับใจ หรือความน่าตื่นตาตื่นใจมันไม่เท่ากับภาพในสมัยโน้น จากคุณ : Jumping Monkeyy เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 10:31:28

ความคิดเห็นที่ 24 Dmitry Medvedev ที่ได้อันดับสาม ใช่นายก รัสเซีย ป่ะ http://en.wikipedia.org/wiki/Dmitry_Medvedev จากคุณ : +หนุ่มพลังช้าง+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 10:35:05

ความคิดเห็นที่ 25 แพงที่ชื่อคนถ่ายยังไงล่ะครับ จากคุณ : เวลาในขวดเหล้า เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 10:35:37

ความคิดเห็นที่ 26 ผมว่านะ เราจะรู้ซึ้งถึงคุณค่าของภาพที่เราถ่ายเมื่อมันมีความหมายกับคนดูมากกว่าตัวเงินที่ได้นะครับ เพราะภาพที่ผมภูมิใจมากและมีความหมายในชีวิตผม เป็นภาพที่ไม่เคยให้ใครตีราคาเลย จากคุณ : น้าวันดีมีแอล เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 10:48:07

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพพวกนี้ ได้ราคาจาก คนที่เห็นงานศิลปะ มาเป็นหมื่นๆภาพ แถมเป็นหมื่นๆ ศิลปินมองด้วยใช่มั้ยครับ ส่วนผมในฐานะไม่ค่อยดูงานศิลป์ ทั้งภาพเขียน ภาพถ่าย ตาไม่ถึงจริงๆ ดูแล้วไม่โดนใจเลยครับ แห่ะๆ จากคุณ : ฟูนัน เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 10:49:12

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องนี้มัน นานาจิตตัง ครับ บางครั้งราคามันแพงจากการประมูล เพราะการต้องการเอาชนะคู่แข่งในการประมูลก็มี ซึ่งคนที่โดนผีสิงย่อมรู้ดี หน้ามืดบิดเข้าไปได้ แค่ต้องการเอาชนะ ยอมจ่ายแพงเพื่อเอามาประดับบารมี เสริมให้ดูมีเงิน ดูน่าเชื่อถือ มีผลการสถานะทางสังคม ภาพลักษณ์ในทางธุรกิจ อีกมากมาย สุดท้ายมันก็แล้วเหตุผลของแต่ละคนแหล่ะครับ ผมไม่ค่อยสนใจกับราคา  แต่ผมสนใจในแนวความคิดของช่างภาพคนนั้นมากกว่า ก่อนกดและขณะกดชัตเตอร์เค้าคิดอะไร จากคุณ : ตาบอดสีขี้สงสัย (tist108) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 10:56:39

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่เข้าใจพวกนี้เลยจริงๆนะ สงสัยยังเข้าไม่ถึง จากคุณ : captainnova เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 11:03:51

ความคิดเห็นที่ 30 ผมเคยขายรูปให้พี่สาวผม 4-500 รูป ผมคิดเขา 3 รูป 5 บาท..โหยยยยยย.. จากคุณ : คนบางปะอิน เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 11:23:49

ความคิดเห็นที่ 31 ยกยอกันเองในกลุ่ม แล้วออกใบรับรองให้กัน เพื่อปั่นราคาในสถาบันประมูลดังๆ เศรษฐีที่ซื้อเหล่านั้น อาจะไม่ได้บ้าศิลปะสักเท่าไหร่ แต่ซื้อเพราะมีจุดประสงค์แอบแฝง ซึ่งเบื้องหลังมันคือ การฟอกเงิน และการหลบเลี่ยงภาษีมรดก ครับ (รู้สึกคุ้นๆ กับวงการพระเครื่องบ้านเราไหม?) ปล. อย่าคิดแบบที่ "เรา" คิดกันครับ เรื่องบางเรื่อง ต้องลองสมมติตัวเองเป็น "เขา" ก่อน แล้ว(อาจจะ)เข้าใจ จากคุณ : Piggie MM เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 12:08:57

ความคิดเห็นที่ 32 ฟอกเงินหรือเปล่าครับ จากคุณ : ped cad เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 12:47:01

ความคิดเห็นที่ 33 พวกนี้เด็กๆ ครับ รูปที่ผมถ่าย ส่วนใหญ่ ราคาอยู่ในประเภท  "ประเมินค่าไม่ได้"  แทบทั้งนั้น  555 จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 12:50:44

ความคิดเห็นที่ 34 เอารูปมาให้ประเมินราคาครับ เผื่อจะรวย (ขำๆ555) จากคุณ : champchenko เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 12:56:43

ความคิดเห็นที่ 35 มีรูปมาให้ตีราคาเหมือนกันครับ (เอามั่ง) ชื่อรูป "วิถีแห่งมาโคร แมลงปอบิน" รูปนี้ผมกำลังถ่ายแมลงปอบินครับ มันกำลังบินนิ่งๆผมหมุนโฟกัสล็อคเป้าหมายเห็นว่าชัดก็กดแช๊ะ จากนั้นรีบดูหลังกล้องได้รูปแมลงปอบิน(ไปแล้ว)จริงๆ นี่แหละครับวิถีแห่งมาโคร ไม่มีอะไรได้มาง่ายดังใจเสมอ.... จากคุณ : Ti_ศ.บางปะอิน (Ti_ser) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 13:05:57

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นศิลปะที่เราเข้าไม่ถึงจริงๆ จากคุณ : korlela เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 13:07:59

ความคิดเห็นที่ 37 สำหรับผม ภาพที่มีค่าที่สุด ตีราคาไม่ได้ คือภาพ "ครอบครัว" ของผมเอง จากคุณ : Gundam ELPIS เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 13:51:23

ความคิดเห็นที่ 38   ชอบรูปความเห็น 34 ครับ ให้เต็มที่เลย 4 ล้าน พอจะขายให้ผมได้มั้ยครับ จากคุณ : อิอิ (Schumy789) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 13:57:07

ความคิดเห็นที่ 39 โอ้ว.ศิลปินนี่ ยากที่จะเข้าถึง..จิงๆ.. จากคุณ : TookTong เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 14:12:58

ความคิดเห็นที่ 40 ภาพอื่นๆ ภาพก้น ภาพนู๊ด เนี่ย ก็คิดว่าขายได้โอเคนะ ถึงจะแพงมากมาย แต่ก็ยังน่าดู น่ามอง และภาพก็เก่ามากด้วย ดูจากปีที่ถ่าย แต่ภาพใน คห. 1 อันดับที่ 10 เนี่ย ไม่เข้าใจว่าคืออะไรอ่ะ........อย่างงี้ก็ขายได้.......งง??? จากคุณ : นักเพลง เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 15:39:54

ความคิดเห็นที่ 41 แฮะๆ คิดว่าที่มันแพงเพราะ "Stories behind the pictures" มากกว่าตัวรูปน่ะค่ะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 16:42:44

ความคิดเห็นที่ 42 เอาวะ เป็นไงเป็นกัน อารมณ์ติสต์แตกสุดๆ แล้ว   ขอส่งรูปนี้เข้ารับการประมูลครับ จากคุณ : badhermit เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 16:55:20

ความคิดเห็นที่ 43 คห. 42  ลืมเปิดฝาเลนส์ครับ....^^ จากคุณ : ashfield เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 17:11:20

ความคิดเห็นที่ 44 555 จากคุณ : TagMyZky เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 17:12:40

ความคิดเห็นที่ 45 ชอบรูป "วิถีแห่งมาโคร แมลงปอบิน" ^^ จากคุณ : JoomLoveSick เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 17:16:04

ความคิดเห็นที่ 46   ร่วมประเมินด้วยคนครับ จากคุณ : เทพบุตรล้านนา (Made In Lanna) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 17:18:15

ความคิดเห็นที่ 47 ได้ความรู้ ได้ความรู้ จากคุณ : nuthplayer เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 17:19:37

ความคิดเห็นที่ 48 ประเมินกันไม่ถูกเลยทีนี้ แต่ละรูปมันติสต์แตกกันทั้งนั้น 5555+ จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 17:31:49

ความคิดเห็นที่ 49 ยายให้รูปละ ฉองล้าน เอามั๊ายยยยยย จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 17:39:28

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณนะคะที่ทำให้เริ่มเข้าใจอะไร ๆ เพิ่มขึ้นหลายอย่าง ^_^   อ้อ ขอบคุณด้วยค่ะที่เอารูปแพง ๆ มาให้ดูกัน จากคุณ : พู่กันกะจานสี เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 17:46:10

ความคิดเห็นที่ 51 ผมคงเข้าไม่ถึงศิลปะจริงๆ Art สุดๆในชีวิตและ เท่าไรดีครับ จากคุณ : Sympho เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 17:56:37

ความคิดเห็นที่ 52   ภาพที่อายุกว่า 100 ปีแล้ว อย่างภาพอันดับ 9, 8, 6 ,5 4 ,2  คิดว่าน่าจะเป็นภาพสะสมมากกว่าเพราะว่าสมัยนั้นเทคโนโลยีอะไรก็ไม่ดี แต่ถ่ายรูปออกมาได้ ถ้าเมืองไทยก็ต้องเป็นภาพพวกชีวิตไทยสมัย ร. 5 อะไรอย่างนั้น รูปอื่นๆก็อยู่ที่การประมูลมากกว่าว่าใครซื้อตอนไหน อาจเป็นการประมูลการกุศล บางครั้งอาจแพงเพราะคนถ่ายด้วย แต่รูปอันดับ 1 ไม่รู้ว่าแพงยังไง ช่วยหาที่มาที่ไปให้หน่อยครับ แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 53 18:04:36 จากคุณ : LiverLife เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 18:00:19

ความคิดเห็นที่ 53 ถ้าผมไปถ่าย Lotus - roll back 99 บาท จะขายได้ราคาเหมือน ภาพอันดับ 1 อ๊ะป่าวเนี่ย ผมขอ  5000 บาทก็พอจะมีใครซื้อป่าวอ่ะ - - จากคุณ : waspy เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 18:30:36

ความคิดเห็นที่ 54 ผมดูแล้วคิดว่าปัจจัยที่ทำให้มันแพงน่าจะมาจาก 1. ความหายาก เพราะมีน้อย หลายภาพน่าจะไม่มีฟิล์มอยู่แล้วเหลือแค่ภาพที่อัดขยายไว้ คิดว่าส่วนมากจะมีเหลือเพียงภาพเดียวในโลกครับ 2. ความเก่าแก่ ยิ่งเก่าก็ยิ่งมีมูลค่าสูงมากตามเวลา 3. ความสมบูรณ์ ภาพต้องมีความสมบูรณ์อยู่สูงมาก เก็บรักษาไว้อย่างดี 4. เป็นของศิลปินมีชื่อที่ล่วงลับ ดูอย่างภาพของแวนโก๊ะ หรือ ปิกัสโซ่ครับ ผมว่าแพงกว่านี้อีกนะครับ สุดท้าย ราคาก็แค่สิ่งสมมติครับ อาจจะเทียบกับคุณค่าอย่างที่น้าๆหลายท่านได้กล่าวไว้แล้ว จากคุณ : ปะการังสีเพลิง เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 18:41:45

ความคิดเห็นที่ 55   Alfred Stieglitz เป็นคนแรก ๆ ที่แยก ศิลปินถ่ายภาพออกมาจากช่างถ่ายภาพอะครับ เดิมช่างถ่ายภาพยุกแรกๆเป็นแค่ คน documentary เท่านั้น alfred ทำให้ภาพถ่ายกลายเป้นงานศิลปะที่เล่าเรื่องราวและคนดูดูแล้วคิดต่อถึงเหตุการ บ้างก็เสียดสีสังคมอะไรประมาณนั้นครับ ส่วน andy worhal เค้าดังเพราะว่าเค้าเป็น symbol ของ  pop art เมื่อก่อนก็ไม่มีใครทำอะไรแบบนี้ ภาพพิมพ์(ไม่ใ่ช่ภาพถ่ายนะครับ)ของ andy น่าจะเป็นภาพศิลปะที่มีราคาแพงที่สุดในโลกด้วยครับ มันก็มองได้หลายแง่ครับ สำหรับตัวผม คิดว่าถ้าไปก้อบมุมมองของคนอื่นมาแล้วใช้อุปกรณ์แพงๆอาจจะได้ภาพดีกว่า แต่หน้าที่ก็เหมือนถ่ายแค่คนเอกสารครับ(เฮียช่างภาพนิยาสรหนึ่งชอบอกว่าถ้าจะถ่ายแบบนั้นไปถ่ายเอกสารหรือแสกนก้อบจากหนังสือจะง่ายกว่า) จินตนาการนั้นประเมิณค่าไม่ได้ครับ และก็ราคาของของนั้นมันขึ้นกับความพอใจครับประเมิณไม่ได้เช่นกัน เหมือนกับ brand เสื้อผ้าแพงๆมันก็ขึ้นกับความพอใจครับ ...ถ้าของก้อปคุณภาพดีก็น่าใช้เหมือนกัน ... : P จากคุณ : photoprop เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 18:42:11

ความคิดเห็นที่ 56 น้าวันดีมีแอล #26 ไม่ทำลายน้ำ ภาพนี้มีลงหนังสือแน่.....แจ่มจริง.. จากคุณ : ลุงบุญคำ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 19:00:00

ความคิดเห็นที่ 57 รูปที่มีค่าของผมคือรูปของลูกค่าครับ ถ่ายมาจะทำหายทำเสียไม่ได้เด็ดขาด เพราะ เราไม่สามารถชดเชยให้เค้าเป็นเงินเพราะ เวลาที่เค้าต้องการให้เราถ่ายมันผ่านไปแล้ว จากคุณ : dust su เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 19:11:04

ความคิดเห็นที่ 58   จากประสบการณ์น้อยนิดที่ผมมี ภาพที่มีมูลค่าในตัวเอง ไม่ใช่ภาพที่ให้แล้วรู้สึกโดดเด่น เพราะใครๆที่มีีฝีมือหน่อยก็ถ่ายได้ แต่คือภาพธรรมดาๆ แต่ทุกองค์ประกอบในภาพสมบูรณ์แบบ ในขณะเดียวกันก็สื้อความหมายออกมาในมุมมองที่น่าสนใจ ็ภาพแพงสุดเค้า แดกดัน american culture นะครับ แล้วมุมที่เลือกเป็นมุมตรง แล้วกดลง ทำให้ รู้สึกว่าชั้นวางของมันอัดๆๆๆๆ กันมากๆ และของมันเยอะแยอะเต็มไปหมด ทั้งๆที่จริงๆอาจจะดูโล่งๆ ถ้าถ่ายมุมอื่นเช่นแค่แถวเดียว หรือเฉียงนิด อาจจะเห็นทางเดิน หรือช่องว่า ไม่ให้ความรู้สึกอัดแน่นขนาดนี้ ระยะการถ่ายก็พอดีที่จะให้เรารู้ว่ามันพวกของกินของใช้ แต่เราก็มองไม่รู้ว่าของที่อยู่บนชั้นมันเป็นอะไร ยี่ห้อไหน ทำให้ความสำคัญไม่ไปกระจุกกันจุดใดจุดหนึ่ง ทำให้คนมองตีความว่า มันเป็นพวอของใหญ่กองใหญ่ๆกองหนึ่ง มากกว่าจะไปเจาะจงอะไรเป็นพิเศษ ประเด็นสำคัญอีกอย่างคือป้าย 99cent ที่อ่านได้ชัดเจนเป็นตัวสื่อความหมายในภาพได้อย่างดี ุ้ถ้ามองในแง่ความสวยงามของรูป องค์ประกอบ อะไรไม่ว่าจะเป็นเส้นต่างๆ สีก็ลงตัว จากคุณ : จัมบาลายา เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 19:44:56

ความคิดเห็นที่ 59 ขอเสริมข้อมูลของภาพ 99 Cent II Diptychon เจ้าของอันดับ1 99 Cent II Diptychon, © copyright 2001 door Andreas Gursky ---------------------------- ภาพถ่ายที่แพงที่สุดในโลก!!! เป็นสถิติที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2007 ในการประมูลของซอเธบี ด้วยค่าตัว 3.34 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ผลงานของ “แอนเดรียส เกอร์สกี” ซึ่งมีชื่อว่า “99 Cent II Diptychon” โด่งดังไปทั่วโลก  “แอนเดรียส เกอร์สกีลั่นไกถ่ายไว้ตั้งแต่ปี 1999 ภาพนี้จึงถูกเรียกอีกชื่อว่า “99 cent.1999” ภาพภายในซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน มีทางเดินหลายช่อง เต็มไปด้วยสิ่งของมากมาย หลากหลายสีสัน ภาพถ่ายนี้ใช้เทคนิคของเทคโนโลยียุคดิจิตอล ผ่านการทำให้เกิดสีในแบบที่เรียกว่า โครโมจีนิก หรือ ซีพรินต์ ภาพถ่าย 99 Cent II Diptychon นี้มีขนาด 2.07 x 3.37 เมตร ประมูลที่ Sotheby ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2007 ในราคา 116.9 ล้านบาท ( 3.34 ล้านเหรียญสหรัฐ ) แอนเดรียส เกอร์สกี ชาวเยอรมัน ปัจจุบันอายุ 54 ปี นับเป็นหนึ่งในช่างภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งยังมีชีวิตอยู่ เขามีชื่อเสียงในเรื่องการถ่ายภาพสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ และภาพแลนด์สเคปที่เต็มไปด้วยสีสัน ผลงานที่เป็นเอกลักษณ์คือภาพถ่ายสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ภาพถ่ายภูมิทัศน์, ภาพภูมิประเทศ, ทิวทัศน์ ที่มีสีสรรค์ฉูดฉาด รุนแรง  ภาพถ่ายจากมุมสูง เรียบเรียงข้อมูลจาก ARTgazine Articles http://wowboom.blogspot.com จากคุณ : 9george (ge-or-ge) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 20:13:31

ความคิดเห็นที่ 60 cowboy... จากคุณ : AprilSnow เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 20:15:46

ความคิดเห็นที่ 61 สมมติว่าผมเจอภาพเก่าๆเหล่านี้อยู่ในบ้าน ผมคงเอาไปทิ้งนะเนี่ย...เข้าไม่ถึงอ่ะ จากคุณ : ray daddy เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 20:17:23

ความคิดเห็นที่ 62   42 ผมจองนะครับ เป็นไงเป็นกัน ผมเห็นสิ่งที่คุณจะพยายามถ่ายทอดครับ จากคุณ : ตื่นนอนตอนกลางวัน เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 20:20:59 A:58.9.206.144 X: TicketID:189779

ความคิดเห็นที่ 63 จำได้ว่าเหตุผลที่ได้อันดับ 1 ...นี่เหมือนที่คุณ (ge-or-ge) ลงข้อมูลไว้เลยค่ะ... ....เคยอ่านเจอจากหนังสือ... จากคุณ : hinghoii & toiiting เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 20:30:12

ความคิดเห็นที่ 64 นอกจากคุณค่าของตัวภาพแล้ว ความยากของขั้นตอนในการ process และ print หรือเปล่า จากคุณ : interaction เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 20:42:18

ความคิดเห็นที่ 65 ก็ไม่ได้ตังใจถ่ายอะครับ แต่ชอบยังไงก็ไม่รู้ จากคุณ : TECHNO_FEVER เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 21:27:17

ความคิดเห็นที่ 66 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 21:29:24

ความคิดเห็นที่ 67 มันเอาอะไรมาแพงฟระ งี้กล้องมือถือก็ขายได้เป็นแสนเลยมั้งเนี่ย จากคุณ : สะบายดีบางกอก เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 21:52:29

ความคิดเห็นที่ 68 เอาภาพหน้าตาของช่างภาพแต่ละคนมาให้ดูครับ .. เจ้าของอันดับที่ 10..Robert Mapplethorpe จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 21:58:08

ความคิดเห็นที่ 69 เจ้าของอันดับที่ 9..Gustave Le Gray จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 21:58:47

ความคิดเห็นที่ 70 ถึงบางอ้อ... สักทีครับ! จากคุณ : แบงค์(ขี้) (Banky405) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 21:58:56

ความคิดเห็นที่ 71 เจ้าของอันดับที่ 8...Joseph-Philibert Girault de Prangey จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 21:59:40

ความคิดเห็นที่ 72 เจ้าของอันดับที่ 7....Richard Prince จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 22:00:22

ความคิดเห็นที่ 73 อย่าว่างู้นงี้เลยนะ... บางภาพนี่ เห็นทำหล่นตรงหน้าผมยังไม่เก็บเลย อิอิ เอื้อมไม่ถึงฟ่ะ... จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 22:01:16

ความคิดเห็นที่ 74 เจ้าของอันดับที่ 6และอันดับ5....Alfred Stieglitz จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 22:01:23

ความคิดเห็นที่ 75 เจ้าของอันดับที่ 4....Edward Weston จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 22:03:40

ความคิดเห็นที่ 76 เจ้าของอันดับที่ 3....Dmitry Medvedev มีคนเคยสงสัยว่า Medvedev ใช้กล้อง Canon EOS 1 กับ 70-200 f2.8 หรือเปล่า แต่จากภาพนี้ เค้าใช้ Leica S2 ราคาบอดี้แค่  $26,000 เท่านั้นเอง เหอเหอ.. จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 22:09:48

ความคิดเห็นที่ 77 เจ้าของอันดับที่ 2....Edward Steichen จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 22:10:37

ความคิดเห็นที่ 78 เจ้าของอันดับที่ 1....Andreas Gursky จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 22:11:20

ความคิดเห็นที่ 79 *64 ไม่ค่อยเกี่ยวกับความยากง่ายในการ process หรอกครับ ตามที่ได้และติดตามภาพที่แพงที่สุด 99 cent อันนี้มาบ้าง คิดว่าความสำคัญอย่างนึงของภาพนี้คือเป็นสัญลักษณ์ของ consumerism ที่พัฒนาขึ้นในระบบเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 20 เช่นเดียวกับศิลปะราคาแพงหลายชิ้นที่คุณค่าของงานไม่ใช่เรื่องความยากง่ายของการทำ  แต่เป็นสิ่งที่อยู่ข้างหลังชิ้นงานทั้งหลาย เช่นงานของ Duchamp หรือ Andy Warhol ที่ท่าน ๆ ข้างบนได้กล่าวไปแล้ว Pop art ของ Andy Warhol ที่เป็นรูปสกรีนซ้ำ ๆ ของซุปกระป๋องหรือรูปมาริลีน มอนโร สะท้อนถึงความเป็นยุคสมัยของป๊อบ ที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย  Warhol ได้บอกผ่านภาพว่า ในสมัยใหม่ งานศิลปะสามารถก๊อปได้ง่าย ๆ เพราะมันเป็น ป๊อบ ซึ่งมุ่งหมายการทำซ้ำกันเยอะๆ ดังนั้นความสวยงามของงานของ Warhol ก็เปรียบเทียบกับงานของดาร์วินชีไม่ได้ แต่ในมุมของประวัติศาสตร์ศิลปะ ต่างก็มีคุณค่าสูงในตัวของมันเองไม่ด้อยกว่ากัน ถ้ามองในแง่ศิลปะ 99 cent น่าจะพูดความหมายคล้าย ๆ Pop art ของ Warhol ครับ นั่นคือแสดงถึงยุคสมัย และยอมรับกันเถอะว่า เรา ๆ ท่าน ๆ ก้ชอบร้านพวก 99 cent หรือพวกทั้งร้านราคา 20 บาททุกชิ้นประมาณนั้น และนี่ก็เป็นผลผลิตของ consumerism หรือ บริโภคนิยม ไม่เชิงว่าเสียดสีสังคม แต่เป็นเหมือนการตะโกนขึ้นเฉย ๆ ว่าปัจจุบันคืออะไร นั่นคือสิ่งที่ภาพแสดงออกมาครับ แต่ในขณะเดียวกัน ราคาของงานศิลปะบางทีก็ไม่ได้ไปด้วยกันกับคุณค่าทางประวัติศาสตร์ศิลปะก็มีเช่นกัน เช่นภาพเขียนที่เรารู้กันว่าแพงที่สุดในโลกเป็นภาพในยุค Impressionism ของ Vincent van Gogh แต่ Impressionism ในทางประวัติศาสตร์ศิลปะจะกล่าวถึงงานของศิลปินท่านอื่นมากกว่าเช่น Monet หรือ Manet หรือ CeZanne ในขณะที่งานของแวนโก๊ะที่ขายได้แพงมากก็ไม่ได้รับการพูดถึงมากนักครับ แต่ในความเป็นจริง เรื่องวงการศิลปะ มันก็คู่กันไปกับการซื้อเพื่อเก็งกำไร หรือการปั่นราคา นั่นแหละครับ ยิ่งมีข่าวว่าราคาแพง ก็สามารถขายต่อได้แพงขึ้นต่อไป แล้วยังได้หน้า หรือได้ชื่อเสียงด้วยว่า มีเงินและมีสายตาสำหรับศิลปะ หุหุ จากคุณ : Mr.December เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 22:12:56

ความคิดเห็นที่ 80   เข้ามาซึมซาบ..อึ้งๆ..งงงัน..และขำๆกับงานศิลประดับอภิมหาภาพถ่าย จากคุณ : เข้าใจแต่เข้าไม่ถึง (สะบก) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 22:13:32

ความคิดเห็นที่ 81 อื่ม จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 22:32:26

ความคิดเห็นที่ 82 ชอบภาพที่แพงที่สุดนะ สวยดี จากคุณ : วันดีวันร้าย เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 22:33:10

ความคิดเห็นที่ 83 งึมงำๆ จากคุณ : แค่มีเธอก็สุขใจ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 22:55:16

ความคิดเห็นที่ 84 ชอบกระทู้แบบนี้ครับ แล้วก็ชอบหลายๆ ความคิดเห็น และ ชอบ #79 มากที่สุด จากคุณ : Vich เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 23:09:19

ความคิดเห็นที่ 85 ขอถามคุณ 9george คุณ December หรือ ผู้รู้ท่านอื่นๆ หน่อย เจ้าของภาพที่ได้ที่ 1 เขาดังก่อนที่จะถ่ายภาพนี้ หรือภาพนี้ทำให้เขาดัง จากคุณ : ริชาร์ด เกี๋ยง เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 23:16:36

ความคิดเห็นที่ 86 ...ผมว่าของผมสวยนะ..แต่ต้องเก็บไว้ดูคนเดียว...ฮ่า. จากคุณ : dih (dih2552) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 00:15:22

ความคิดเห็นที่ 87 น้าวันดีมีแอล พูดได้โดนมากครับ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 53 01:05:35 จากคุณ : Don't follow me I've been lost เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 01:05:21

ความคิดเห็นที่ 88   Andy Warhol ในภาพอันดับที่ 10 ก็เป็นศิลปิน pop art ที่มีชื่อเสียงมากคนนึงเลยเหมือนกัน ภาพศิลปะเค้าแพงมากๆ แบบ $100m เลย ที่ดังๆก็มีก็ภาพกระป๋อง Campbell's ซุป รูปมาริลินไรงี้ จากคุณ : ด.ญ.ปริศนา เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 07:21:42

ความคิดเห็นที่ 89 เข้ามาเสพศิลปะ จากคุณ : อยากรู้เจิ๊น เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 09:48:28

ความคิดเห็นที่ 90 ขอส่งประกวดด้วยคนครับ จากคุณ : HMC เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 09:57:18

ความคิดเห็นที่ 91 พยายามดูให้มันสวยสุดยอดแล้วล่่ะ... จากคุณ : ผ่านหน่อยได้ไหม เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 10:06:50

ความคิดเห็นที่ 92 มีเงินซื้ออย่างเดียวไม่พอ ต้องโง่ด้วยใช่ม่ะเนี่ย 555 จากคุณ : ผู้หญิงโหดร้าย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 12:12:23

ความคิดเห็นที่ 93 ถ้าภาพมันขายไม่ได้ให้ฟรีผมยังไม่เอาเลย บอกตามตรงนะ หา save ภาพในห้องกล้องไปลง destop ยังสวยกว่าเยอะครับ   จริงๆ จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 12:12:39

ความคิดเห็นที่ 94   มีกำลังใจขึ้นเยอะ จากคุณ : ตะอีโม่ง เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 12:57:24 A:110.49.137.113 X: TicketID:160546

ความคิดเห็นที่ 95 เห็นรูปแล้วไม่เข้าใจครับ แต่อ่าน คห 15 แล้วเข้าใจดี จากคุณ : freelance_law เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 14:05:59

ความคิดเห็นที่ 96 ลึกซึ้งเกิน จากคุณ : Mr.pokpak เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 15:05:06

ความคิดเห็นที่ 97 โอ้ โอ้... ผมรับรู้ได้ถึงอารมณ์ในรูปที่ 42 ครับ มันเต็มไปด้วยความมืดดำ หม่นเศร้าของชีวิต แสดงถึงความหดหู่และทุกข์ระทมของศิลปิน รอคอยแสงสว่างแม้เพียงแสงหิ่งห้อยจะผ่านเข้ามาเพื่อให้ได้เพียงเห็นหนทางแม้เพียงริบหรี่ก็ตาม.... จากคุณ : Trip Fuel 3.3 เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 18:19:17

ความคิดเห็นที่ 98 ภาพแนวสมาคม     ราคาสุดปลื้ม จากคุณ : tik เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 20:05:24

ความคิดเห็นที่ 99 art พอมั้ยคะ 555 คิดว่าแต่ละภาพก็น่าจะมีเหตุผลแหละนะ (ถึงจะเป็นเหตุผลที่เราไม่เข้าใจก็เหอะ =_=) จากคุณ : เพนกวินน้อยลอยน้ำ เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 21:45:14

ความคิดเห็นที่ 100 ถ้ายังตอบตัวเองไม่ได้ ว่า ทำไมถึงถ่ายรูปนั้น ก็ ไม่ต้องไปคิดถึง ราคาของภาพหรอกครับ จากคุณ : Angryman เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 23:25:06

ความคิดเห็นที่ 101 ผมขายรูปของผมไป 1 รูป  ได้เงินมาเท่านี้เองครับ ...... .......... ............ ............... ................. .................... ........................ ............................ ................................ ................................... ........................................ ............................................. ................................................. ..................................................... .......................................................... .............................................................. ..................................................................... .............................................................................. ....................................................................................... รูปได้มาจาก Fw. Mail ครับ ต้องขอโทษที่ไม่ทราบว่าเป็นเครดิตของใครครับ   เป็นภาพที่ตำรวจ Macxico บุกยึดบ้านของราชายาเสพติดครับ  แล้วนำเงินมากองเรียงกันเป็นห้องเลยครับ มีทั้งเงิน U.S. DOLLARS  และ เงิน EURO แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 00:34:46 จากคุณ : ผมแดงครับ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 00:32:59

ความคิดเห็นที่ 102 ราคา น่าจะ ขึ้นอยู่กับ คนถ่ายมากกว่า จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 00:38:33

ความคิดเห็นที่ 103 ชอบบางรูป จากคุณ : benbeljung เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 12:52:29

ความคิดเห็นที่ 104   องุ่นเปรี้ยว :D เชื่อว่า ถ้ามีเงินล้านมากองตรงหน้า แลกกับรูป 1 รูป เป็นใครก็คว้า :D จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 13:33:49

ความคิดเห็นที่ 105 คห.104 ไม่เสมอไปครับ  เพราะถ้าผมมี 1000 ล้าน  ผมก้อบอกไปว่า ไม่ได้ 100 ล้าน ไม่ต้องมาคุย แต่ถ้าตอนนี้ พันเดียวก้อเอาแว้วววววว จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 14:51:47

ความคิดเห็นที่ 106 Dmitry Medvedev  จาก คห. 8 เป็นประธานาธิบดีรัสเซียครับ ส่วนนายกคือ Vladimir Putin ครับ อดีตประธานาธิบดีคนก่อน จากคุณ : jonaja เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 00:17:07

ความคิดเห็นที่ 107 เห็นภาพกับราคาแล้ว ยอมรับว่าตาไม่ถึงพวกเขาจริงๆครับ จากคุณ : e20 เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 00:17:16

ความคิดเห็นที่ 108   พวกคุณๆดูงานศิลปะแต่ละชิ้นไม่ออกหรอกเหรอครับว่าแต่ละภาพมันวิเศษขนาดไหน การจัดองค์ประกอบ แสง ค่าความชื้นสัมพัทธ์ ระดับความเค้นขณะถ่าย แต่ละภาพถ่ายทอดเรื่องราวมีความทับซ้อนของมิติมากมาย ทุกภาพบ่งบอกเรื่องราวความเหนือชั้นของเหตุการณ์ในแต่ละช่วงของประวัติศาสตร์โลกในช่วงยุคของความเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของราชวงค์ต่างๆ กอร์ปกับสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานทิศทางลมการวัดค่า fo ขณะกดซัตเตอร์มีความเป็น phdระดับมากกว่า 2.8ip. ไม่ง่ายเลยนะครับ มีศิลปินนับคนบนโลกจะทำได้ขนาดนี้ ราคายังไปได้อีกไกลนะครับ จากคุณ : ปลาแมน ผู้เข้าถึง เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 04:47:09 A:124.120.228.244 X: TicketID:148264

ความคิดเห็นที่ 109 งานศิลปะกับการตีราคา มันแหกกฎเกณฑ์ทุกอย่างครับ เป็นเรื่องที่มาวิเคาราะห์ยากครับว่าทำไมถึงแพง ? อะไรที่ทำให้แพง ? มันสวยยังไง(วะ) ? เพราะเรื่องของศิลปะ มันเป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก บางทีแทบไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเหตุผลอยู่ในนั้นเลย ถ้าพูดถึงการตั้งราคา  มันอธิบายยากครับ แต่ละท่าน แต่ละผลงานมีอะไรแตกต่างกันเยอะ จึงไม่มีบรรทัดฐานที่ชัดเจนเก่ยวกับเรื่องนี้ ผมรู้จักศิลปินท่านนึง พี่แกตั้งราคาภาพวาดภาพละไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นบาท ผมก็ถามแกว่า ทำไมตั้งแพงจัง ? ใครจะซื้อ ? แกบอก การตั้งราคาเหมือนกับวางตัวเราให้อยู่ในระดับนั้น (แต่ฝีมือและชื่อเสียงต้องมีนะ) ถ้าแกตั้งราคาภาพละ 5000 แกก็จะเป็นแค่ศิลปินตามถนน ตามห้องภาพเล็กๆ จากคุณ : kennyG เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 10:56:35

ความคิดเห็นที่ 110 สำหรับผมแล้วภาพพวกนี้ไม่มีค่าอะไรเลย แต่สำหรับศิลปินแล้ว คงมีค่ามาก เพราะ ????? จากคุณ : thongchai9309 เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 12:11:48

ความคิดเห็นที่ 111 ผมว่ามันแพงเพราะค่าจ้างถ่ายครับ จากคุณ : mann'black เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 22:52:27