ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามารอคำตอบจ้า สงสัยเหมือนกัน แต่งงๆ ว่า ถ้าไม่ได้กะได้เองว่าต้องใช้ s,a เท่าไหร่เนี่ย เวลากดวัด มันจะถ่ายรูปได้ทันใจเหรอครับ แบบว่าคนเยอะต้องรีบถ่ายอะครับ T T อยากให้ fuji 6500 noise น้อยๆ จะได้กด auto เวลารีบๆ อะ :| จากคุณ : I-Present เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 15:11:20

ความคิดเห็นที่ 2 วัดเหมือนเดิมครับ แต่เรากำหนดเอาเองว่าเราจะให้ Exposure ออกมายังไง ดูสเกลแสงในช่องมองภาพประกอบไปด้วย สเกลนี้จะเปลี่ยน Bias ไปตามค่าการชดเชยแสงของเราด้วย จากคุณ : Morgoth Bauglir เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 15:15:00

ความคิดเห็นที่ 3 แหะๆ เจอคำถามนี้ ไปไม่เป็นเลยผม ^__^ ถ้าจะถ่ายภาพมันต้องวักแสงทุกโหมดล่ะครับ แตโหมด M มันจะมีขีดที่บอกค่ากลางๆพอดีๆมาให้ คราวนี้ก็อยู่ที่เราจะเอา ชัดลึก ชัดตื้น ภาพไหว ภาพนิ่ง..... จากคุณ : 9george (ge-or-ge) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 15:17:35

ความคิดเห็นที่ 4 คือถ่ายภาพทุกครั้งต้องวัดแสงอยู่แล้วครับ สมมติ น้าถ่าย แมวสีขาวๆ ถ้าในสภาพปกติทั่วๆไป ในโหมด A น้าก็จะ วัดแสงและชดเชยไปทาง +ประมาณ1 stopใช่มั๊ยครับ พอมา    M น้าจะถ่ายแมวตัวเดิม ต้องชดเชย +ประมาณ1 stop                แต่ในโหมดนี้มันไม่ต้องมากดปุ่มชดเชยแสง กับปุ่มล๊อกแสง                แล้วครับ                น้าใช้วิธีปรับ รูรับแสง หรือสปีดชัตเตอร์เอาเลย ปรับอะไรก็ได้                ตามใจน้า ให้สเกล ที่อยู่ในช่องมองภาพ เลื่อนไปที่ +1                ลองดูนะครับ แรกๆอาจจะสับสนนึดนึง(ผมก็เป็นครับ) ถ้าตอนนี้มีกล้องก็ลองเอามาทำเลยครับ หากระดาษขาว(หรือจะอย่างอื่นก็ได้ครับ แต่ผมชอบกระดาษ)มา1แผ่นครับ ลองจัดองค์ประกอบให้ขนาด เต็มเฟรม  แล้วทำตามนี้เลยครับ **ตั้งวัดแสงแบบเฉลี่ยหนักกลาง(เพราะมีทุกกล้อง) **ตั้งรูรับแสงไปที่ 5.6(มีแน่นอน) **ปรับเป็นแมนนวลโฟกัสเลยครับ เพราะกระดาษขาวทั้งแผ่นกล้องจะโฟกัส    ไม่ได้  หรือไม่ก็เอาปากกามา กากบาท บนนกระดาษบริเวณที่กรอบโฟกัส    เล็งอยู่ก็ได้นะครับ 1.ใช้โหมดAถ่าย ถ่ายแบบไม่ต้องชดเชยแสงดูครับ แบบว่าขีดอยู่ตรงกลางเลย    น้าจะได้กระดาษ ที่ไม่ค่อขาวเท่าไร ออกไปทางหม่นๆ เทาๆ    ทีนี้ในโหมดAเหมือนเดิมนะครับ น้าลองชดเชยแสงไปทางบวกซัก +1.7stop    แล้วถ่ายดู น้าจะได้กระดาษสีขาวๆ เหมือนของจริงแล้ว ใช่มั๊ยครับ    ต่อๆ 2.ทีนี้ น้าลองใช้โหมดM นะครับ (ถ่ายกระดาษใบเดิม จัดองค์ประกอบแบบเดิมนะครับ)   ตั้งรูรับแสงไปที่5.6 เท่าเดิมนะครับ น้าจะเห็น สเกลข้างล่างช่องมองภาพ   ให้ปรับ สปีดชัตเตอร์ไปจนขีดมันมาอยู่ตรงกลางครับ แล้วถ่าย   น้าจะได้ กระดาษสขาวที่หม่นๆเท่าๆ เหมือนตอนใช้โหมดA แบบไม่ชดเชย   แสงเป๊ะๆ เลยครับ  ทีนี้น้าลองถ่ายอีกรูป คราวนี้ ปรับสปีดชัตเตอร์ไป ให้สเกลมันไปทาง  +1.7(ถ้าเทียบกับAแล้วเหมือนตอนนี้น้ากำลัง ชดเชยแสงไป+1.7นะครับ)  แล้วก็ แชะ!!!!! แต๊นๆๆๆๆ น้าจะได้กระดาษขาวๆ เหมือนตอนถ่ายโหมดA  แบบชดเชย+1.7 stop เด๊ะๆเลยครับ สำหรับผมแล้วเอาแบบ ง่ายๆเลยนะครับไม่อิงวิชาการเป๊ะๆ ...ในโหมดM พอเราเล็งพื้นที่ๆจะวัดแสงแล้ว ปรับให้สเกลมันไปทาง +1.7   มันก็คือ เรากำลังชดเชยแสงไปทาง+1.7เหมือนโหมดอื่นๆนั่นเองครับ  เพียงแต่ในโหมดMเราปรับเอง(จะปรับ รู หรือ สปีดก็ตามแต่ใจ) และในโหมดM พอปรับแล้ว ค่าจะไม่เปลี่ยน ก็เปรียบเสมือนเรากดปุ่ม  ล็อคความจำแสงไว้ตลอดเวลานั่นเองครับ       ไม่ทราบว่าพอจะช่วยได้มั๊ย ถ้าสงสัยก็ถามอีกนะครับ น้าๆห้องนี้       ใจดีทุกคนครับ ถ้าช่วยได้ยินดีช่วยอยู่แล้วครับ   แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 15:43:12 แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 15:36:27 จากคุณ : ไข่เจียวโหระพา เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 15:17:48

ความคิดเห็นที่ 5 ในโหมด M ดูในจอครับ มันจะมีแถบ วิ่งๆไปๆมาๆ ถ้าตรงกลางก็พอดี ถ้าแถบไปทางซ้าย (-) ก็แสดงว่า under ถ้าแถบมาทางขวา (+) ก็แสดงว่า over คุณก็ไปปรับ aperture หรือ shutter speed (หรือ ISO) ให้มันลงมาอยู่ตรงกลางพอดี แค่นี้เองครับ โหมดนี้ทำงานเหมือนกล้องฟิล์มสมัยก่อนเลย อิๆ --==NICK==-- จากคุณ : NICK (||ic|<) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 15:18:47

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ใช่อย่างแรงครับ !!!!!!!!!!!!! เห็นสเกลจรงกลางในช่องมองภาพไหมครับ ที่มันจะมีขีดวิ่งไปวิ่งมา น่ะครับ  มันจะมี 2 โซน คือ โซน ลบ กับ โซนบวก ให้ไอ้ขีด ๆตรงกลางนั่นที่มันวิ่งไปวิ่งมาอยู่ตรงกลางให้ได้  ปรับโดยการหมุนวงแหวนไปไปมามานั่นแหล่ะครับ แต่ถ้าถ่ายสิ่งที่มืดหรือมีแสงสะท้อนน้อยให้มันไปอยู่แดนลบนะครับ ถ้าถ่ายสิ่งที่สว่างหรือมีแสงสะท้อนเยอะให้ขีดมันไปวิ่ง ๆ อยู่ แดนบวก ส่วนจะบวกหรือลบเท่าไหร่ดูหลังจอที่ถ่ายมาแล้วปรับเอาตามความเหมาะสมครับ นี่คือการอธิบายคราว ๆ  นะครับ ถ้าสงสัยว่าผมเนะนำแบบนี้ไปทำไมลองหาความรู้ที่มากกว่านี้ด้วยตนเองครับ แล้วคุณจะสนุกมากขึ้น ป.ล. คุณไม่คิดว่ามันยุ่งยากหรือ ในการเข้า AV แล้วเอาค่าแสงมาตั้งใน M อีกทีน่ะครับ จากคุณ : nine_yo เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 15:27:16

ความคิดเห็นที่ 7 ถ่ายรูปต้องวัดแสงทุกโหมดครับ ตามน้าข้างบนบอกเลย จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 15:28:19

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณเพื่อนที่คนที่ตอบกระทู้เร็วมาก ปกติผมก็ทำแบบที่เพื่อนๆอธิบายมาครับ คือให้แถบอยู่ตรงกลาง ถ้าอยากอันเดอร์ก็มาด้านซ้าย โอเวอร์ก็ไปด้านขวา  แบบนี้โหมดM ก็ถ่ายได้ไวก็AV ใช่ป่าวครับ ไม่ต้องไปกดล๊อคความจำแสง แต่สปีดชัตเตอร์ต้องสัมพันธ์กับF  ถ่ายสถานที่แสงคงที่ แบบนี้ ตั้งค่าทีเดียวถ่ายยาวได้เลย คือไม่ค่อยมั่นใจว่าตัวเองจะตั้งสปีดชัตเตอร์ได้สมดุล ชอบแอบไปใช้AV วัดแสงแล้วเลียนแบบสปีดชัตเตอร์ที่กล้องคำนวนมานะครับ อยากจะถามมาตั้งนานแล้วครับ แต่กลัวว่าจะรบกวนเพราะผมมือใหม่ แต่ไม่ผิวหวัดครับ เพื่อนๆตอบคำถามช่วยเหลือดีมากเลย จากคุณ : kob_narak007 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 15:33:30

ความคิดเห็นที่ 9 ปรับปรุง คห.4 เพิ่มให้ครับ น่าจะพอช่วยได้บ้าง ยังไงก็ลองเอากล้องมาทดสอบดูนะครับน้า ปล.กลัวไม่เห็นครับเลยมาโพสบอกอีกทีนึงครับผม จากคุณ : ไข่เจียวโหระพา เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 15:37:52

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณคุณไข่เจียวโหระพา ที่อธิบายละเอียดเลย ปกติเพื่อนถ่ายรูปใช้โหมดไหนกันครับ ส่วนใหญ่น่าจะโหมดM กันซินะครับ จากคุณ : kob_narak007 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:00:05

ความคิดเห็นที่ 11 เจอคำถามแบบนี้   เดินไปหายาดมก่อนเลย ขอบคุณน้าไข่เจียวที่มาตอบครับ จากคุณ : แฉลบยอดหญ้า เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:10:33

ความคิดเห็นที่ 12 ในกรณีที่ถ่ายในสถานที่ที่แสงไม่เปลี่ยน อย่งาในสตูดิโอ การปรับโหมดเอ็มแล้ววัดแสงเพียงครั้งเดียว ก็คงใช้ได้ตลอดแหละค่ะ แต่ว่าหากเป้นสถานที่ ที่เราไม่สามารถควบคุมแสงได้อย่างแสงธรรมชาติตามสถานที่ต่างๆ แค่เปลีย่นมุมนิดหน่อย ก็ต้องวัดแสงใหม่แล้วล่ะค่ะ ดีไม่ดี โหมด Av จะไวกว่าดว้ยซ้ำ เพราะเรามุ่งเน้่นค่าที่ต้องสนใจแค่ค่าเดียว บลูแทบไม่ใช้โหมดเอ้มเลยอ่ะ ยกเว้นถ่ายพาโนรามา กับเวลาถ่ายในห้องที่ควบคุมแสงได้เอง บางทีโหมดพาโนรามายังใช้โหมก Av แล้วล๊อคแสงเอาเลยด้วยซ้ำ ไวดีค่ะ จากคุณ : บลูดานูป เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:10:54

ความคิดเห็นที่ 13 ของผมตอนนี้ 60% ใช้ M ครับ 30% ใช้ A 10% ใช้ S ครับ มันก็แล้วแต่ความถนัดนะครับ ใชแต่ M ก็ไม่ได้แปลว่าเก่งแต่อย่างใดครับ ....ผมมักจะใช้ M ในกรณีที่ สภาพแสงไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงครับ อย่างเช่น ผมถ่ายเพื่อนๆทำกิจกรรมในสนาม กลางแดดเลย จะลองวัดแสงแล้วถ่ายดู ว่าโอเคที่ค่าไหน ก็ถ่ายค่านั้นเลยครับ ไม่ต้องมากังวลว่า ค่าความเร็วชัตเตอร์จะเปลี่ยนเหมือนโหมด A เพราะถ้าใช้โหมด A เวลาเปลี่ยนมุมถ่ายแล้ว สปีดเปลี่ยนครับ พอถ่ายภาพนึงปุ๊บ เปลี่ยนมุมไปเจอ อาคารสีขาวจ้าสะท้อนแดดเปรี้ยงๆ เป็นฉากหลัง เพื่อนผมหน้า มืดไปเลยครับ จากคุณ : ไข่เจียวโหระพา เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:12:50

ความคิดเห็นที่ 14   อ้าว...ถึงน้าไข่เจียวโหระพาหรือท่านที่เข้ามาอ่านครับ ผมงง...มากมายครับกับคำว่าไม่ต้องกดปุ่มล๊อคค่าแสง สมมุติว่าผมต้องการแสงที่อยู่อีกที่นึงของตัวแบบแล้วพอผมวัดที่บริเวณนั้น (โดยปรกติก็ต้องกดปุ่มล๊อคค่าแสงตรงนั้นไว้ใช่มั้ยครับ)แต่ทีนี้ผมก็หัน กล้องกลับมาที่ตัวแบบแสงที่วัดไว้มันจะเปลี่ยนผมก็ต้องวัดใหม่อีกซิครับ.. ยังงัยรบกวนด้วยครับหรือเป็นเพราะผมเข้าใจผิดมาตลอดเลย... จากคุณ : mhu750cc เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:19:34

ความคิดเห็นที่ 15 แต่ถ้าสมมติว่าผมจะถ่าน ภาพแฟนผม อันนี้ ผมสนแค่หน้าแฟนผมพอดี นะครับ อย่างอื่นจะมืด จะสว่างเวอร์ ช่างมัน นี่เลยครับ ผมใช้A แล้วใช้วัดแสงแบบ จุด วัดไปที่หน้าแฟนผมแล้วชดเชย+0.3 stop (อยากให้แฟนเราดูสว่างนิดนึง) แฟนผมก็จะเดินวนโน่นทีนี่ที บิดซ้ายทีขวาที เข้าร่มไม้บ้าง เอาหน้ามาตากแดดบ้าง แบบนี้ โหมด M สำหรับผมแล้ว ตายครับ ตายสนิท เพราะสภาพแสงเปลี่ยนตลอดตามความพอใจของคุณแฟน นี่แหละครับ พลานุภาพของโหมดA จะสำแดงเดช เพราะถึงแม้คุณแฟนจะ เปลี่ยนอิริยาบท แบบใด จะยื่นหน้าไปรับแสง หรือ หรือจะผลุบเข้าเงามืด ผมก็ไม่กลัวแล้วครับ เพราะผมใช้โหมด A เพียงแค่จิ้มจุดวัดแสงไปที่ แก้มอันอ่อนละมุน นุ่มนิ่ม ของคุณเธอ(หน้าผากก็ได้ครับ)แล้วกด ล๊อคแสง คุณโหมดA จะปรับค่าสปีดชัตเตอร์ให้ผม โดยพลันครับ ภาพที่ได้จะเป็นหน้า สวยๆของแฟนผม ที่โอเวอร์ไป +0.3 stop ตลอด(เพราะผมตั้งไว้+0.3ไงครับ) ทีนี้หมดกังวลครับว่าหน้าคุณแฟนจะไม่พอดี เข้าใจมั๊ยครับ ปล.ว่าจะมาพักดื่มกาแฟซักห้านาที  ยาวเลยผม อิอิ จากคุณ : ไข่เจียวโหระพา เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:22:03

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบน้า mhu750cc คห.14 ถ้าน้าใช้โหมด A ตอนน้าวัดแสงอีกที่นึงแล้วจะใช้แสงตรงนั้นต้องกด ล็อค ครับ แต่ถ้าน้าใช้ M พอ วัดแสงตรงนั้น ปรับรู ปรับสปีด ให้เรียบร้อยตามที่ต้องการ พอปรับเสร็จ ไม่ต้องกดล็อคแล้วครับ เพราะยังไงค่ามันไม่เปลี่ยนอยู่แล้วครับ ................................................................... v v v v v   ลืมไปเลยครับว่า มีกระทู้ น้า อ๊อคซิน อยู่ พิมพ์ยาวเลยผม     น้า จขกท. ลองเข้าไปดู ตามลิ้งเลยนะครับ    ผมเองก็เป็น หนึ่งในมิตรรักแฟนเพลง น้า Auxinครับ  ขอบคุณน้า อะธีลาส    มากครับผม แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 19:54:29 แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 16:35:08 จากคุณ : ไข่เจียวโหระพา เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:25:07

ความคิดเห็นที่ 17 http://topicstock.pantip.com/camera/topicstock/2009/11/O8553270/O8553270.html จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:25:49

ความคิดเห็นที่ 18 ความเห็น15 อธิบายได้เห็นภาพมากมายเลยครับ ขอบคุณ จากคุณ : kob_narak007 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:33:21

ความคิดเห็นที่ 19   ถ้ามีเวลาให้ปรับ ได้เนี้ยผมจะถ่าย M ครับ แต่หาก มีเวลาไม่มาก ก็จะเป็น S กับ P ตาม สถานะการณ์นะครับ แต่ MODE M มันก็ต้องวัดแสงอยู่ดีแหละครับมันก็ต้องดูให้แสงมันไม่ over หรือ Under เช่นกัน จากคุณ : lovelytee เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 17:13:44

ความคิดเห็นที่ 20 ลองถ่าย M ไม่วัดสิ จะรู้สึก จากคุณ : AprilSnow เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 17:30:50

ความคิดเห็นที่ 21 ขอเอาวิธีการถ่ายภาพโหมด M  ของผมโดยเฉพาะตัวมาให้ดูเล่นๆ นะครับ    คิดว่าน่าจะผิดวิธี เพราะช้า อืดอาด เสียเวล่ำเวลา  เป็นต้น  ก่อนอื่น โหมด M จะใช้กับถ่ายภาพทั่วๆ ไปก็ได้  สภาพแสงอย่างไงก็ได้ แต่ถ้าใช้โหมดอื่นๆ มักจะเร็วกว่าเยอะ  แต่ที่ใช้โหมด M เพราะ อยากจะได้ บรรยากาศ อารมณ์ ความรู้สึก ในการมองภาพ ดูภาพ ดื่มด่ำไปกับวิธีการ การถ่ายภาพมากกว่าผลของภาพ    และผมใช้โหมด M ควบคู่กับ ตั้งระบบวัดแสงแบบเฉพาะจุด  หรือไม่ก็ แบบพาเทียล แล้วแต่กล้องที่จะปรับตั้งให้ได้องศาวัดแสงที่แคบที่สุดครับ  เวลาเรามองภาพไม่ว่าผ่านช่องมองภาพ (ViewFinder) หรือผ่านจอ LCD แล้ว ผมมักจะมองว่าตรงไหนควรจะสว่างที่สุดแบบที่มีรายละเอียด  ผมก็จี้ ตำแหน่งวัดแสงเฉพาะจุดไปตรงส่วนนั้น  โดยตั้งค่า F stop ไว้ล่วงหน้าแล้ว แล้วหมุนปรับค่า Speed เพื่อให้ได้ +2 (ทั้งๆที่มันตั้งค่า +3  แต่จากการดู รูปแล้วเมื่อค่า +2.3 รายละเอียดมักจะหาย)  เมื่อได้ค่าที่ตั้งแล้ว เราก็มาดูตำแหน่งที่ต้องการให้เก็บรายละเอียดในส่วนมืดที่สุด  ซึ่งในกล้องของผม อีเพ็น มันสามารถเก็บรายละเอียดในที่มืดได้ต่ำกว่า -3 ไปอีก 1.5 stop ซึ่งแน่นอนว่าถ้าตั้งโหมดถ่ายภาพที่นอกเหนือจาก M แล้ว ต่ำสุดแค่ -3 stop เท่านั้น  อันนี้แหล่ะจำเป็นต้องเลือกโหมด M  (แต่เมื่อก่อนกล้องฟิล์มยิ่งแล้ว กว่านี้ตั้งค่าแสงได้แค่ +2 ถึง -2 แค่นั้นเอง)    เมื่อเราได้ช่วงระหว่างค่าแสงมากสุด  กับค่าน้อยสุดแล้ว  เราก็มาดูตำแหน่งที่เราต้องการ (Subject) ต่อไป  ดูว่าค่ามันอยู่ในช่วงนี้หรือไม่  เช่น สีเทากลาง  แดง  ม่วง  เป็นต้น ก็พยายามให้ใกล้เคียง 0 มากที่สุด  แต่ถ้าสีอ่อน  หรือสีเข้ม ก็ + หรือ - บ้างตามแสงที่สะท้อนออกมา   ซึ่งตรงนี้เราก็ปรับค่าSpeed ต่อ  โดยยอมให้ส่วนสว่าง หรือส่วนมืด  เคลื่อนไปได้อีก เล็กน้อย  โดยพยายามเฉลี่ยปรับค่าแสงที่ยอมรับ ให้รูปออกมาใกล้เคียง ที่เราต้องการให้มากที่สุด   จากที่กล่าวมา โหมดอื่นๆ นอกจาก M เหมาะสมและไวที่สุดครับ  ไม่ต้อง มาดื่มด่ำกับบรรยากาศให้มาก  แถมยังได้ภาพไม่แตกต่างกันด้วย  สงสัยผมติดนิสัยมาจากกล้องฟิล์มครับ  ดังนั้นไม่ควรเลียนแบบ จากคุณ : NAF เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 17:47:51

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ ไข่เจียวโหระพา ขอบคุณน่ะครับที่ติดตามงานของผม แต่ชื่อ Login ผมอ่านว่า "อ๊อกซิน" ครับ ไม่ใช่ "อูซิน" ฮือๆๆๆๆ น้อยใจๆ ปล. คุณไข่เจียวโหระพาอธิบายอะไรได้เข้าใจง่ายดี น่าจะทำ Toturial มาให้สมาชิกดูกันบ้างน่ะครับ!! ส่วนคุณ จขกท ลองอ่านกระทู้ที่คุณอะธีลาสส่งให้ดูน่ะครับ หากตั้งใจอ่านทั้งหมดซัก 2 รอบคงเข้าแน่นอน!! จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 19:40:07

ความคิดเห็นที่ 23   สวัสดีครับน้า auxin...ไม่รู้จะจำผมได้มั้ย อิอิ..เคยโทรไปหาน้าด้วยแหละ ขอบอกว่าน้า auxin ใจดีมากๆครับ... จากคุณ : mhu750cc เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 19:47:19

ความคิดเห็นที่ 24 อ้าว  อ่านว่า อ๊อกซิน หรือครับ โอ้ ขอโทษจริงๆครับ เข้าใจผิดมาตลอดเลย จะแก้ไขครับผม แหะ ๆ ๆ จากคุณ : ไข่เจียวโหระพา เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 19:49:46

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ mhu750cc ผมจำชื่อเล่นครับ ชื่อ Login จำไม่ได้เพราะมันจำยาก ว่าแต่ คุณ mhu750cc นี่ใครเอ่ย ผมจำไม่ได้จริงๆ ขออภัยครับ!! คุณ ไข่เจียวโหระพา แบบนี้ต้องจ่ายค่าเสียหายมาด้วย เอา "ไข่เจียวโหระพา+ข้าวปล่าว 1 จาน" 555 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 20:25:17

ความคิดเห็นที่ 26 ผมว่าประเด็นคำถามของ จขกท. น่าจะอยู่ที่ว่า การวัดแสงแล้วตั้งค่าใน MODE M ยังไงมากกว่า เพราะเมื่อวัดแสงแล้ว สามารถตั้งค่าสปีดชัตเตอร์ให้สัมพันธ์กับรูรับแสงแล้วค่าการวัดแสงพอดี ได้หลายค่ามาก เช่น เพิ่มค่ารูรับแสงแล้วปรับค่าสปีดชัตเตอร์ให้ช้าลง เพื่อให้ได้ค่าการวัดแสงพอดี เป็นต้น ถ้าคำถามของ จขกท.เป็นอย่างนี้จริง ก็ต้องบอกว่า ค่ารูรับแสงควบคุมความชัดตื้นชัดลึก ค่าสปีดชัตเตอร์ควบคุมการเคลื่อนไหว อยากได้อะไรก็ตั้งค่าตรงนั้นเป็นหลักครับ เช่นอยากได้ภาพชัดลึกก็ต้องตั้งค่ารูรับแสงเป็นหลัก ครับ จากคุณ : CIA001 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 20:36:06

ความคิดเห็นที่ 27 เดี๋ยวนี้ไข่เจียวเก่งนะเนี่ย ให้รางวัลเป็น Omlet 1 จาน อิอิ ปล SB900 ผ่านอนุมัติยังจ๊ะ แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 21:48:28 จากคุณ : ไม่มีตัวตนในโลกไซเบอร์ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 21:48:04

ความคิดเห็นที่ 28 ยังเลยครับ พี่เอส ท่าทางจะอีกนานเลยครับ หึหึ ก็ใช้เท่าที่มีละกันครับ จากคุณ : ไข่เจียวโหระพา เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 22:03:51

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาปรบมือให้คุณไข่เจียวฯ ศ.วันดี ครับ คำอธิบาย make sense มาก ๆ sharp jing ๆ sharp jing ๆ sharp jing ๆ จากคุณ : FolkWay เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 00:17:49

ความคิดเห็นที่ 30 เข้ามาชื่นชมกับการแบ่งปันความรู้ที่ดีที่ได้ถ่ายทอดให้กัน จากคุณ : kingkiev เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 01:01:39

ความคิดเห็นที่ 31 ส่วนของ Canon นั้น มี 4 แบบคือ - Evaluative metering แบบเฉลี่ยทั้งภาพ เหมือนระบบ Matrix ของ Nikon - Partial metering แบบเฉลี่ยเฉพาะส่วน (ประมาณ 9% ของจุดศูนย์กลางช่องมองภาพ) - Spot metering แบบเฉพาะจุด (ประมาณ 4% ของจุดศูนย์กลางช่องมองภาพ) - Center-weighted average metering แบบเฉลี่ยน้ำหนักกลางภาพ ขอบคุณ พี่ auxin และ พี่ อะธีลาส ครับ ได้อ่านเรื่องการวัดแสงแล้วครับ ช่วยให้ผมเข้าใจได้มากเลยครับ ขอบคุณบทความดีๆ คือ บางครั้งอ่าน ทฤษฎีมากๆ ไม่ค่อย get แต่ถ้าอธิบาย แบบ ง่ายๆ ในแง่ของการปฎิบัติ ก็พอทำความเข้าใจได้ครับ แต่ถามเพิ่มนิดนะครับ การวัดแสงตาม โหมดต่างๆ ในกล้อง ตามด้านบน มันจะขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ใช้ไหมครับ แล้วถ้าผมอยากจะถ่ายภาพ portrat ควรจะวัด เฉลี่ย หรือ ตรงกลาง ครับ l จากคุณ : focals เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 08:17:41

ความคิดเห็นที่ 32 หลายคนเห็นคำถามนี้ แล้วอาจจะว่ิ่งไปหายมดม หลายคนบอกว่าผิดอย่างแรง แต่สำหรับผมแล้ว ผมเจอประสบการณ์แบบนี้ และใช้แบบที่จขกท.ถามมานาน คือวัดในโหมด A แล้ว เปลี่ยนเป็นโหมด M ผมใช้ที่ไหน.... ใช้กับกล้อง กึ่ง SLR ครับ กล้องคอมแพกต์กึ่ง slr ตัวก่อนของผม วัดแสงในโหมดแมนวลไม่ได้ ไม่มีสเกลอะไรบอกเลย ผมจึงต้องใช้วิธีนี้ เผื่อไว้นะครับ สำหรับบางคนที่ใช้กล้องกึ่ง slr แล้วมีลักษณะแบบนี้.... จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 08:22:29

ความคิดเห็นที่ 33 ขออนุญาต ตอบแทนน้า Auxin กับน้า อะธีลาส นะครับ ที่จริงแล้ว ทุกโหมดใช้ถ่ายได้ทุกสถาณการณ์เลยครับ แล้วแต่ว่าถนัดแบบไหน แต่ถ้าพอตเทรต ใช้แบบหนักกลางก็จะ สะดวกขึ้นหน่อยครับ อาจจะซูมหน้าตัวแบบให้เต็มๆ กลางภาพแล้ววัดแสงให้เหมาะสม คำนึงหน้าแบบ เป็นหลัก ก็สะดวกดีครับ เพราะถ้าใช้แบบทั้งภาพ ต้องมาคำนึงถึงฉากหลังด้วย เช่น ถ่ายสาวในร่มไม้ แต่ฉากหลังอยู่นอกร่มไม้ และสว่างจ้าเลย ถ้าใช้เฉลี่ยทั้งภาพ อาจจะต้องชดเชย มากถึง 1-1.5 stopเลยทีเดียว แต่ถ้าใช้ หนักกลาง อาจจะ ชดเชย แค่ 0.3-0.7 stop (เพราะ เอาความสว่างที่ฉากหลังมาคำนวนน้อยกว่าแบบทั้งภาพไงครับ)   ไม่ทราบว่า จะยังเข้ามาอ่านมั๊ย แต่ผมยินดีช่วยตอบตามที่เข้าใจครับ ผมจะได้ทบทวนเรื่องพวกนี้ไปในตัวด้วย     จากคุณ : ไข่เจียวโหระพา เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 09:18:37

ความคิดเห็นที่ 34 พอดีเมื่อวานกลับบ้านก่อน เลิกงาน เช้านี้เข้ามาอ่าน ขอบคุณเพื่อนๆน้องๆพี่ๆน้าๆทุกคนที่ร่วมอธิบาย เข้าใจขึ้นมากๆเลยครับ ตอนแรกกลัวว่าคำถามจะ ทำให้เบื่อกัน  แต่พอได้อ่านที่อธิบายมา ผมหละอยากออกไปถ่ายรูปทุกวันเลยจิงๆ อยากเห็นหน้าตาคนเก่งๆ ทุกคนจิงๆเล๋ย คงหล่อกันมากแน่ๆ ครับ จากคุณ : kob_narak007 เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 09:22:01

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณ คุณอะธีลาส ข้อมูลดีมากๆ เข้าไปอ่านมาแล้วครับ save เก็บไว้อ่าน ขอบคุณทุกๆคนที่ร่วมให้ความรู้ทุกๆท่านครับ จากคุณ : kob_narak007 เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 09:36:40

ความคิดเห็นที่ 36 ความรู้เยี่ยมเลยครับ  ปกติถ่ายอย่างเดียวใช้แต่ av ด้วยอ่ะ แค่จัดองค์ประกอบก็ยากแล้ว ค่อยๆเก็บความรู้จากน้าๆนี่แระ จากคุณ : galaga เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 15:08:45

ความคิดเห็นที่ 37 ผมใช้โหมด m แต่วิธีของผมอาจเหมือนโหมด a หรือ โหมด s นะ (งง แน่ๆ 55+) คือปกติผมจะตั้งกล้องเป็น F ที่พอใจที่สุด แล้วปรับ over หรือ under ตามความพอใจเลยครับ โดยหมุน speed shutter >>> หยั่งกับใช้โหมด A เลยเนอะ 55+ คราวนี้ถ่ายๆไป เริ่มรู้สึกว่าเฮ้ยย speed ทีได้มันต่ำเกินไป และ ผมค่อยไป ลอง เปิดรู้รับแสง เพิ่ม จนถือไหว ถ้าไม่ไหวก็เพิ่ม ISO คือผมเน้นเรื่อง speed shutter มากครับ เพราะ ปกติ มีคติว่าภาพ มืดหน่อยๆ หรือ noise มา(ไม่มากเกินไป) ยังแต่งได้แต่ภาพเบลอ แต่งไม่ได้ 55+ ตอนนี้กำลังฝึกใช้ A กับ S ให้คล่องอยู่ครับ เพราะปกติใช้ m แล้วรู้สึกว่าคล่องกว่า แต่อยากใช้ให้เป็นให้หมด จากคุณ : bbee_blue เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 20:59:46

ความคิดเห็นที่ 38 ตอนนี้ผมก็ใช้วิธีเดียวกับ bblee_blue ครับ... เนื่องจากเลนส์ซูมมีค่า F ไม่เท่ากันตลอดช่วง ผมกลัวเผลอตอนซูมแล้วค่าแสงพลาด เลยตั้ง F คงที่เลย จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 08:37:45

ความคิดเห็นที่ 39 จากที่ได้กล้องD90 มาไม่นานนี้ (1อาทิตย์)  อ่านคู่มือเพิ่งได้ครึ่งเล่ม มาเจอวิธิวัดแสงของคุณ auxin  เลยเข้าใจมาขึ้น เลยลองทำดู ผมใช้โหมดA ตามที่บอก  สมมุติว่าผมกำลังถ่ายนางแบบอยู่ขณะนั้น พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน  เลยอยากได้นางแบบ ผิวสวยๆ แล้วก็ฉากหลังที่ไม่ขาว  เลยลองทำแบบนี้ ------ #รูปแรก# วัดแสงที่ตัวแบบ ผลที่ได้ตัวแบบมีแสงพอดีมีรายละเอียด (สมมุติว่าแบบดีล่ะกันอะ) แต่ผลที่ได้ข้างหลัง โอเวอร์ไม่สวย เหมือนที่อ่านมาแป๊บเลยอิๆ จากคุณ : toshix3 เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 22:16:48

ความคิดเห็นที่ 40 ต่อมา #รูปที่2# เราอยากได้ท้องฟ้าสวยๆ เราก็วัดค่าแสงที่ท้องฟ้าแล้วก็มาจัดองค์ประกอบโฟกัสที่ตัวนางแบบ   ผลที่ได้นางแบบผมมืดมิดไปหมด แต่ท้องฟ้าสวยได้ใจ จากคุณ : toshix3 เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 22:23:41

ความคิดเห็นที่ 41 #รูปที่3 # เราก็วัดแสงที่ท้องฟ้า ล๊อคไว้ เสร็จแล้วก็มีจัดองค์ประกอบ โฟกัสไปที่น้องoนางแบบ แล้วเราก็ใช้แฟลชช่วยให้เห็นรายละเอียดของนางแบบ แล้วเราก็ยังไปท้องฟ้าสวยๆด้วย   ----------------------------------------- ที่พูดและทำมาทั้งหมดถูกต้องมั๊ยครับ ถูกผิดอย่างไร ช่วยชี้แนะด้วยครับ จากคุณ : toshix3 เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 22:29:25

ความคิดเห็นที่ 42 ปล.ผมยังไม่ได้ชดเฉยแสง เลยครับ เขียวเลยไม่เขียวเท่าไหร่  แหะๆ จากคุณ : toshix3 เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 22:41:19