ความคิดเห็นที่ 1 ตามความรู้สึกผมนะครับ ตัวผู้ถูกถ่ายน่าจะมีสิทธิในภาพนั้นครับ เพราะถือว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่ไอ้กรณีกรากฟิล์มชาวบ้านไปทั้งหมดนี่ผมว่า  เค้าก็ละเมิดตากล้องอีกทีนึงครับ ถ้าเป็นกล้องดิจิตอล ลบเฉพาะภาพๆนั้นก็อีกเรื่องนึง จากคุณ : adagio เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 53 23:26:47

ความคิดเห็นที่ 2 เมืองไทย ยังคลุมเคลือ แต่เมืองนอก .. ฟ้องเรียกค่าเสียหายกันหมดตัว ลองศึกษาเรื่อง Model Release Form ดูได้ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 53 23:40:34

ความคิดเห็นที่ 3 กฏหมายคุ้มครองเฉพาะการถ่ายรูปในลักษณะสะกดรอย การหาข่าวล้วงความลับจึงจะเข้าข่ายการละเมิดสิทธิการเป็นส่วนตัวของบุคคล ตามมาตรา34 สิทธิ ของบุคคล ใน ครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือ ความเป็นอยู่ส่วนตัว ย่อมได้รับความคุ้มครอง            การกล่าว หรือ ไขข่าวแพร่หลาย ซึ่ง ข้อความ หรือ ภาพ ไม่ว่าด้วยวิธีใด ไปยังสาธารณชน อันเป็นการละเมิด หรือ กระทบถึง สิทธิ ของบุคคล ใน ครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือ ความเป็นอยู่ส่วนตัว จะกระทำมิได้ เว้นแต่ กรณีที่ เป็นประโยชน์ ต่อสาธารณชน แต่ ความหมายของการเป็นส่วนบุคคลไม่รวมถึง การกระทำใด ๆใน ที่สาธารณะ ฉะนั้นผู้ปรากฏในถาพถ่ายที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ ต้องพิสูจน์ต่อศาลให้ได้ว่า ภาพนั้น ละเมิดหรือ กระทบสิทธิ ของบุคคล ครอบครัวเกียรติยศ ชื่อเสียง หรือไม่ ยกตัวอย่าง ถ้าถ่ายประตูทางเข้า อาบอบนวด แล้วในภาพเกิดมี บุคคลหนึ่งในภาพซึ่งภาพนั้นถูกนำไปเผยแพร่ จนภรรยาของบุคคลในภาพนั้นภาพนั้นเห็นเข้า เป็นเหตุให้บุคคลนั้นถูกฟ้องหย่า ผู้เผยแพร่ภาพนั้นมีความผิด ฐานก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย ซึ่งเกียรติยศ (มีความผิด ปรับ400บาท) แต่ ถ้า ถ่ายแม่ค้าพายเรือในตลาดน้ำ แล้วแม่ค้าไม่พอใจจะมาเรียกร้อง ขอค่าตัวที่ถูกถ่าย (มีการฟ้องหลายคดีแล้ว ) สุดท้ายพิสูจน์ไม่ได้ว่าได้รับผลต่อสิทธิส่วนบุคคลหรือไม่ ผู้ถ่ายภาพไม่มีความผิด การฟ้องร้องเป็นเท็จ ผู้ถ่ายภาพ ฟ้องกลับ ได้ ตามตรรกะของกฏหมายการถ่ายภาพเป็นการบันทึกการมองเห็น สิทธิในการมองเห็นและบันทึก ย่อมเป็นของผู้มองเห็นและบันทึก ตราบใดที่การมองเห็นและบันทึกไม่ได้เป็นการคุกคาม ก่อความเดือดร้อนรำคาญ (ซึ่งมีโท ษปรับไม่เกิน 100 บาท) และ ตรรกะของการเผยแพร่ภาพในลักษณะแสดงภาพไม่ได้เป็นการสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและสิทธิส่วนบุคคลถือเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน (บุคคลอื่นได้มองเห็นด้วย) ไม่มีความผิดใด ๆครับ แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 53 23:56:19 จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 53 23:50:09

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณน้า greeny pony สำหรับความรู้ดีๆครับ จากคุณ : adagio เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 53 23:54:42

ความคิดเห็นที่ 5 ตามกฏหมายผมว่ารูปสิทธิเป็นของคนถ่ายภาพ(ถ้าถ่ายในที่สาธารณะ) แต่ถ้านำไปเผยแพร่แล้วเกิดความเสียหาย อับอายต่อบุคคลในรูป ก็สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้  แต่ถ้าเกิดนำไปใช้แล้วไม่เกิดความเสียหายอับอายต่อเจ้าของภาพ ไม่น่าจะเรียกร้องอะไรได้นะครับ ไม่งั้นมันอาจจะเกิดกรณี ประมาณว่า ไปถ่ายรูปนายแบบที่ป้ายรถเมล์ แต่มันติดคนอื่นๆที่รออยู่ด้วยมา แล้วคนในภาพก็มาฟ้องขอส่วนแบ่งรายได้ด้วยเนื่องจากภาพที่ใช้มีตัวเองในรูป ผมว่ามันก็พิลึกอยู่ จากคุณ : BigWolf เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 00:08:11

ความคิดเห็นที่ 6 จากคุณ : rraiwa เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 00:08:39

ความคิดเห็นที่ 7 อืม  ผมว่า  พูดยากอ่ะ ต่อให้ผู้ถ่ายภาพเก็บภาพไว้คนเดียว สมมตินะครับ ว่าเป็นภาพแอบถ่ายใต้กระโปรงแบบที่ลงข่าวกัน เก็บไว้คนเดียวก็ผิดนี่ครับ จากคุณ : adagio เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 00:17:42

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้ารูปนั้นถูกนำไปใช้ในการหาผลประโยชน์ละครับ... สมมติว่า...เราไปถ่ายภาพใครสักคน...แล้วเอาภาพเขาไปขาย...ซึ่งเห็นเหมาะกับที่ลูกค้าต้องการ...แล้วเขาก็ซื้อภาพของผมไปด้วยเงินจำนวนนึง...ซึ่งเขาก็จะมีสิทธิ์ในภาพนั้น...และเขาก็นำภาพนั้นไปใช้ส่วนหนึ่งในการทำโฆษณา...ติดแบรน์เนอร์ใหญ่ๆโดยคนที่ถูกถ่ายก็ไม่ได้รับรู้ว่าภาพที่มีรูปเขาจะถูกนำไปใช้อย่างนั้น...เขาจะมีสิทธิ์เรียกร้องไหม... ...กลับกัน...สมมติว่า...ผมไปงานรับปริญาเพื่อนแล้วช่างภาพที่จ้างมาถ่ายผมแลบัณฑิตเจ้าของงาน...แล้วนำภาพนั้นไปลงใน เวปต่างๆเพื่อโปรโมทตัวหรือหางานเพิ่มก็แล้วแต่...แต่ผมไม่พอใจ...แล้วขอให้เขาเอาภาพที่มีรูปผมนั้นออกไป...แล้วเขาไม่ทำตาม...อ้างว่าสิทธิ์ของเขา...ถ้างั้น...ผมไม่ได้ต้องการอะไร...แต่ไม่พอใจไม่ชอบใจ...อันนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้เลยหรือเปล่า...ครับ จากคุณ : Kura Kuri เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 00:22:42

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วงานที่ดาราโชว์ตัวล่ะครับ เช่น การประกาศรางวัลตุ๊กตาทอง ที่ดาราสาวใส่กันเต้าแทบหลุด เห็นบางเวป คนไปถ่ายก็มามาลง อย่างนี้ดาราฟ้องได้ไหม หรือ ภาพถ่ายพริตตี้ ที่นมหกก็เห็นเอามาลงบ่อยๆอย่างนี้เจ้าตัว(ผู้ถูกถ่ายจะนำมาฟ้องได้ไหม) จากคุณ : smutux เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 02:09:05

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าขณะถ่ายทำให้เดือดร้อนรำคาญ ก็มีความผิดครับ มีโทษปรับนิดหน่อย ถ้าเผยแพร่แล้วทำให้ subject ได้รับความเสื่อมเสีย มีความผิดฐานละเมิด ถ้าเอาไปทำการค้า subbject สามารถฟ้องขอส่วนแบ่งได้ กรณีที่ช่างภาพเอาภาพบัณฑิต ไปโฆษณาเพื่อรับงาน โดยบัณฑิตไม่ได้อนุญาต บัณฑิตฟ้องเรียกค่าตัวได้ครับ เพราะมีฐานะเป็นนายแบบ ที่ถูกเอารูปไปใช้โฆษณา แต่ไม่ได้รับค่าตัว ถ่ายใต้กระโปรงมีความผิดเรื่องเดือดร้อนรำคาญ กับเรื่องอะไรอีกสักอย่างจำไม่ได้ แต่จำได้ว่าเคยมีเรื่องลงหนังสือพิมพ์นานมาแล้ว ว่ามีคนเอากล้องไปถ่ายสาวๆ โป๊ ตอนลงจากรถ ยามจับส่งตำรวจ จ่ายค่าปรับห้าร้อย ตอนนั้นยังแปลกใจเลยว่า แค่ห้าร้อยเองเหรอ? จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 07:01:42

ความคิดเห็นที่ 11 ดีจังได้รับความรู้เพิ่ม ขอบคุณครับ จากคุณ : เนตร (ohhayo) เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 07:16:49

ความคิดเห็นที่ 12 คห.9  เคสนั้น เค้าไม่กลัวช่างภาพถ่ายครับ   เค้ากลัวช่างภาพไม่ถ่ายมากกว่า ถึงต้องใส่กันขนาดนั้นน่ะ จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 07:17:53

ความคิดเห็นที่ 13 มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ การรับจ้าง ถ่ายภาพ ผลงานต้องเป็นของผุ้ลงทุน ซึ่งก็คือ ผู้ว่าจ้าง ผุ้รับจ้างถ่ายภาพไม่มีสิทธิในผลงานไม่มีสิทธินำไปเผยแพร่เพื่อผลประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์ตนเองเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานครับ การถ่ายภาพเป็นการรับจ้างทำของ ซึ่งของชิ้นนั้น ไม่ใชสิ่งประดิษฐ์ใหม่ลิขสิทธิ์ในชิ้นงานตกอยู่กับผู้ลงทุนทำของชิ้นนั้น ครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 53 08:10:54 จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 07:19:09

ความคิดเห็นที่ 14 แต่ ถ้า ช่างภาพ จ้างนางแบบมาเพื่อถ่ายภาพแน่นอนผลงานและลิขสิทธิ์ย่อมเป็นของ ผู้จ่ายเงินเพื่อสร้างผลงานนั้น กรณีนี้ ใช้กับ บริษัทหนึ่งจ้างทั้งแบบและจ้างทั้งช่างภาพมาสร้างผลงานตามที่ตนเองกำหนดให้เป็น ผลงานย่อมเป็นสิทธิของเจ้าของทุน ทั้งช่างภาพและ แบบ ย่อมไม่มีสิทธิ์ในผลงานนั้นๆ เว้นแต่ จะมี สัญญาหรือข้อตกลงร่วมกันว่าจะทรงสิทธิ์ ร่วมกัน หรีอกำหนด การใช้สิทธิ์ของผู้ทรงสิทธิ์เช่น ถ่ายรูปนางแบบแล้วกำหนดในสัญญาว่า เอาไปลงนิตยสารผู้หญิง ฉบับหนึ่ง เท่านั้น แต่ภาพนี้ดันไปปรากฏในหนังสืออีกฉบับหนึ่ง ในเครือ เช่นนี้ ผู้เป็นแบบ สามารถเรียกร้องสิทธิ์แห่งตนเพิ่มเติมได้ ตัวบทนี้ หมายความรวมถึง การตกลงด้วยปากเปล่าด้วยคำว่า ขออนุญาต เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เอ่ยปาก ขอ แล้ว ผู้ถูกถ่ายภาพไม่ขัดข้องให้ถ่ายไม่แสดงตนเพื่อแจ้งว่า ขัดขืน ไม่ยินยอม ให้ถือว่า อนุญาตให้ถ่าย ย่อมถือว่าเสมือนการตกลงในสัญญา จะบิดพลิ้วภายหลัง มิได้ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 53 08:12:09 จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 08:08:09

ความคิดเห็นที่ 15 กรณีจริงที่เคยเกิดขึ้นในเหลิมไทย นิชคุณไปเกณฑ์ทหาร แล้วแฟนคลับถ่ายรูปติดเด็กคนอื่นมาด้วยซึ่งดำมากกกกกกกกกกก แล้วนำมาโพสต์ ถ้าคนโพสต์พูดทำนองล้อเลียนว่าทำไมต่างกันเช่นนี้ เหมือนนรกกับสวรรค์ หรืออีกคนนี่หน้าตาดูไม่ได้เลย แบบนี้ฟ้องได้มั้ย แล้วถ้าคนโพสต์ไม่ได้พูดอะไรทำนองนั้น แต่คนเข้ามาตอบพูดล้อเลียนแทน ใครต้องรับผิดชอบครับ จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 10:43:35

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบ ข้อ 15 ก็ต้องหยิบกฏหมายอีกข้อมาพิจารณา ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 บัญญัติว่า “ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และ มาตรา 328 บัญญัติว่า “ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทกระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฎด้วยวิธีใด แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียงอย่างอื่น กระทำโดยการกระจายเสียง หรือโดยการกระทำป่าวประกาศด้วยวิธีอื่นใด ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท” จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 11:17:29

ความคิดเห็นที่ 17 การใส่ความผู้อื่นไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆ เช่น พูด เขียน พิมพ์ข้อความ หรือแสดงกริยาต่างๆ โดยการใส่ความดังกล่าวนั้นต้องเป็นการกระทำให้บุคคลที่สามรับทราบ ซึ่งเป็นการทำให้ผู้ถูกใส่ความนั้นได้รับความเสียหาย” ดังนั้น ความผิดในการหมิ่นประมาท ทางอาญาอาจจะเป็นความจริงหรือความเท็จก็ได้ ตามคำกล่าวที่ว่า “ยิ่งจริงยิ่งหมิ่นประมาท” เพราะหลักกฎหมายมุ่งพิจารณาแต่เพียงว่าถ้ามีการกล่าวถึงบุคคลอื่นในด้านไม่ดีแล้ว ย่อมทำให้สังคมไม่สงบสุข ไม่ว่าข้อความนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ ทำให้ ความรับผิดในการกระทำหมิ่นประมาท หากข้อความที่กล่าวเป็นเรื่องเท็จ ผู้กระทำต้องรับผิดทางอาญา และชดใช้ความเสียหายทางแพ่ง แต่ถ้าหากข้อความที่กล่าวเป็นจริง ผู้กระทำจะมีความผิดทางอาญา แต่ไม่ต้องชดใช้ความเสียหายทางแพ่ง จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 11:17:58

ความคิดเห็นที่ 18 หมวด 3 ความผิดฐานหมิ่นประมาท มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะ ทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำ ความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ หมายเหตุมาตรา 326 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2535 มาตรา 327 ผู้ใดใส่ความผู้ตายต่อบุคคลที่สามและการใส่ความนั้น น่าจะเป็นเหตุให้ บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้ตายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษดังบัญญัติไว้ใน มาตรา 326 นั้น มาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณา ด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ ทำให้ปรากฏด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสองปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท หมายเหตุมาตรา 328 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2535 มาตรา 329 ผู้ใดแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต (1) เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับ ตนตามคลองธรรม (2) ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่ (3) ติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัย ของประชาชนย่อมกระทำ หรือ (4) ในการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรม เรื่องการดำเนินการอันเปิด เผยในศาลหรือในการประชุม ผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท มาตรา 330 ในกรณีหมิ่นประมาท ถ้าผู้ถูกหาว่ากระทำความผิด พิสูจน์ได้ว่าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้อง รับโทษ แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ ถ้าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นการใส่ ความในเรื่องส่วนตัว และการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน มาตรา 331 คู่ความ หรือทนายความของคู่ความ ซึ่งแสดงความคิด เห็น หรือข้อความในกระบวนพิจารณาคดีในศาล เพื่อประโยชน์แก่คดี ของตน ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท มาตรา 332 ในคดีหมิ่นประมาทซึ่งมีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความ ผิด ศาลอาจสั่ง (1) ให้ยึด และทำลายวัตถุหรือส่วนของวัตถุที่มีข้อความหมิ่นประมาท (2) ให้โฆษณาคำพิพากษาทั้งหมด หรือแต่บางส่วนในหนังสือ พิมพ์หนึ่งฉบับหรือหลายฉบับครั้งเดียวหรือหลายครั้งโดยให้จำเลย เป็นผู้ชำระค่าโฆษณา มาตรา 333 ความผิดในหมวดนี้เป็นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายในความผิดฐานหมิ่นประมาทตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดามารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ ถือว่าเป็นผู้เสียหาย จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 11:19:20

ความคิดเห็นที่ 19 ฉะนั้น ถ้าผู้โพสภาพกล่าวเพียงว่า เอาภาพนิชคุณมาให้ชมครับ/ค่ะ โดยไม่มีเจตนาดูหมิ่นผุ้ใดในภาพประกอบนั้น ไม่ผิด แต่ ภ้ามีคนโพสข้อความว่า โห ดูคนข้างๆนั่นดิ ดำปี๋เลยทำไมแตกต่างกันเช่นนี้ ข้อความนั้น ผิด สามารถยกประเด็นขึ้นมาฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาทได้ และ เมื่อผุ้โพสภาพ เห็นการกระทำกดังกล่าว แล้วไม่โพสข้แอความว่า อย่าไปว่าเขาอย่างนั้น เจตนาผม/ฉันให้ดูภาพนิชคุณเท่านั้นนะ คนอื่นไม่ได้เจตนาให้วิจารณ์ในลักษณะนี้ อาจถูกพ่วงรวม ไปใน ฐานผู้สมรู้ ก็ได้ เพราะ บทขยายของมาตรา 326มีบอกไว้ว่า การหมิ่นประมาททางโปรแกรม IRC , Pirch ,TCQ , Yahoo Msn หรือ โปรแกรม Microsoft MSN ที่ Server ได้จัดให้บุคคลอื่นเข้าไปพิมพ์ข้อความสนทนา หากข้อความที่พิมพ์ มีลักษณะหมิ่นประมาทผู้อื่นแล้ว ก็จะเป็นการหมิ่นประมาททางอินเตอร์เน็ตอย่างหนึ่ง แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 53 11:25:14 จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 11:23:37

ความคิดเห็นที่ 20 สมมติว่า... เราออกกำลังกายในสวนสาธารณะ...แล้วมีคนแอบถ่ายภาพเรา...แล้วนำภาพนั้นส่งไปประกวด...แล้วภาพนั้นถูกโหวตได้รางวัลขึ้นมา...เรามีกรรมสิทธิ์ในภาพนั้นไหม...เรามีสิทธิ์ห้ามเผยแพร่ภาพนั้นหรือไม่... หรือกรณีแม่ค้า...ถ้าเราเป็นช่างภาพ...เราถ่ายภาพขณะที่แม่ค้ากำลังขายของอยู่กับลูกค้า...เรามีสิทธิ์เข้าไปถ่ายเขา(เนื่องจากมีผู้ว่าจ้างซื้อภาพบรรยากาศภายในตลาดหรืออะไรก็แล้วแต่ที่สามารถแปลงเป็นผลประโยชน์ส่วนตัวได้)โดยไม่ต้องขออนุญาตหรือไม่... หรือถ้าบอกว่า...การถ่ายภาพเป็นการบันทึกมุมมอง...เราพบผู้หญิงคนนึงซึ่งเหมาะกับบรรยากาศว่าสวยเราจึงกดภาพบันทึกไว้...ผู้หญิงที่ถูกถ่ายมีสิทธิ์ขอให้ผู้ถ่ายลบภาพนั้นหรือไม่...โดยผู้ถ่ายอ้างว่าไม่ได้ใช้หาผลประโยชน์ใดและไม่ได้คุกคามใดๆกับเจ้าของภาพแค่บันทึกภาพเก็บ...แล้วแฟนของผู้หญิงคนนั้นมีสิทธิ์เอาเรื่องแทนผู้หญิงหรือไม่... ... ขอบคุณหลายความเห็นครับ... ได้ความรู้ดี...ประเด็นคืออยากออกไปถ่ายนอกสถานที่บ้าง...ที่เป็นบบรยากาศคน...เลยอยากรู้ขอบเขตความมีมารยาท...หรือเรื่องควรไม่ควร...ในการถ่ายภาพครับ... จากคุณ : Kura Kuri เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 11:28:11

ความคิดเห็นที่ 21 เพิ่มนิด...โดยส่วนตัว... ...เกิดผมทำกิจภายนอก...อาจจะทานอาหารหรือเดินเล่น...จู่ๆมีคนเอากล้องมาจ่อหน้าผมแล้วก็ถ่าย...ผมเองก็รู้สึกไม่พอใจ...(ผมว่าเป็นใครก็ไม่น่าพอใจแหละ)...หรือช่างภาพมีสิทธิ์ทำอย่างนั้น...ครับ...ทั้งที่ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไรแค่ไม่อยากให้ถ่าย...อันนี้ถือว่าสร้างความรำคาญใจหรือละเมิอสิทธิส่วนบุคคลได้ไหม... จากคุณ : Kura Kuri เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 11:43:24

ความคิดเห็นที่ 22 การที่เขาถ่ายเราไป โดยเราไม่ทราบว่าเราถูกถ่าย สามารถฟ้องร้องได้ว่า เป็นการ สะกดรอย มีความผิดละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งก็ต้องไปพิสูจน์ต่อศาลว่าตัวเรา ถูกรบกวนจนกระทบถึง สิทธิ ของบุคคล ใน ครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือ ความเป็นอยู่ส่วนตัว แต่ถ้าการถ่ายภาพนั้นไม่ได้ทำให้คุณเดือดร้อน เขาเอาภาพเราไปประกวด แล้วได้รางวัลเราไม่มีสิทธิ์ใด ๆในรางวัลนั้นครับ เพราะเราไม่ได้จ้างเขามาถ่ายเราไม่ได้ออกแบบท่าทางและเราไม่ได้ห้ามไว้ก่อนว่าห้ามถ่าย การถ่ายภาพ ในตลาดที่มีแม่ค้า ค้าขายอยู่ ถือเป็นสิทธิ์อันพึงมีพึงได้ของผุ้ถ่าย เนื่องจากการค้าขายเป็นกิจกรรมในสาธารณสถาน ไม่ใชความเป็นอยู่ส่วนตัว ฟ้องในฐานละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลไม่ได้ครับ แต่ถ้าเจ้าของตลาดเจ้าของร้านเจ้าของแผงได้ว่ากล่าว ออกไปว่า ถ่ายไม่ได้นะ ไม่อนุญาตเราหมดสิทธิ์ถ่ายทันทีเพราะนั้น ถือเป็นสัญญา ห้ามถ่ายไปเสียแล้ว ครับก็แค่ เปลี่ยมมุมไม่ถ่ายให้เห็นผู้ไม่อนุญาตให้ได้ก็คงได้ ส่วน คห.21 การถูกถ่ายภาพโดยคุณไม่พอใจ  คำว่า ไม่พอใจ อาจไม่เพียงพอต่อคำร้องว่าถูกรบกวนการการถ่ายภาพ เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่า อีตาช่างภาพคนนั้น ตามจิกคุณในทุกอิริยาบทจนสงสัยได้ว่า จะถ่ายภาพไปเพื่อประโยชน์เชิง หมื่นประมาทคุณสามารถแจ้งให้ทราบว่าไม่ต้องการให้ถ่ายภาพ แต่ยังไม่การถ่ายภาพหลังการแจ้งให้ทราบแล้ว นั่นจะเป็นการละเมิด ครับ (โทษ ปรับ 100 บาท ครับ) แล้วเมื่อภาพนั้น ถูกเผยแพร่เมื่อไหร่ (การนำกลับมาดู โดยบุคคลที่ถ่ายอีกครั้งให้ถือเป็นการเผยแพร่ด้วยเหมือนกัน) นั่นคือการ หมื่นประมาท และถ้าภาพนั้นเป็นไปในทางอนาจาร ยิ่งต้องโดนข้อหาอนาจารอีกกระทง ทั้งหมด ทั้งมวลมันเป็นเส้นบางๆระหว่าง ความพอเหมาะพอดี ในการอยู่ร่วมกันในสังคม น่ะครับเมื่อถึงจึดที่ เกินไป มากไป มีความผิด ทั้งนั้น ครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 53 14:15:32 จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 14:09:47

ความคิดเห็นที่ 23 กำลังอยากทราบพอดี ข้อมูลมีประโยชน์มากๆ ขอบคุณมากๆนะคะ ตรงนี้ ... เล่านิดนึง...สมัยนึง...ที่ยังเป็นฟิล์ม...รุ่นพี่ผมถ่ายขอทานบนสะพานลอยเพื่อไปทำงาน...สักพักก็มีคนกลุ่มนึงมาล้อมแล้วถามว่าถ่ายไปทำไม...แล้วก็กระชากกล้องไปดึงฟิล์มนั้นทิ้งไป...แล้วคืนกล้องไป...ถามแถมด้วยละกันว่า...ผู้ถูกถ่ายมีสิทธิ์ขนาดนั้นไหม... อันนี้น่ากลัวค่ะ เหมือนมาเป็นแก๊งเลย ถ้าเจอแบบนี้สะกิดๆบอกคุณตำรวจไว้ก็ดีนะคะ จากคุณ : ปานิปานิ เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 15:40:44

ความคิดเห็นที่ 24 ขอถามบ้าง   อาจจะยาวหน่อยนะ  ทนๆ อ่านละกัน   สมมุติว่า เราไปถ่ายรูปตามแหล่งที่เที่ยวต่างๆ ในตจว.  เช่น เทศกาลลอย กระทงที่สุโขทัย   เทศกาลสงกรานต์ที่เชียงใหม่  เป็นต้น   แล้วบังเอิญ เราจัดองค์ประกอบ  โดยมี หนุ่ม-สาวคู่หนึ่ง เป็นแบคกาวด์ ห่างๆ  พอสังเกตุเห็นได้     แล้วบังเอิญเราเอารูปออกเผยแพร่ทางเวบไซด์  หรือ เอาไปประกวดจน ได้รางวัลขั้นต่ำ     สมมุติว่า  เบื้องหลังของเหตุการณ์  คือ ชายหนุ่มคนนั้นได้หลอกแฟน ตัวเองว่าอยู่ที่ต่างๆ (คนละที่กับในเหตุการณ์ที่ถูกถ่ายรูปมานั้น)   โดยได้ แอบไปเที่ยวกับกิ๊ก     แล้วทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา     อยากจะถามว่า เราเป็นฝ่ายผิดหรือไม่   และชายหนุ่มคนนั้นสามารถเอา เรื่องมาฟ้องร้องเราได้หรือไม่   แต่สำหรับผม คิดว่าไม่ผิด  เพราะ ทั้งๆ ที่เป็นสถานที่สาธารณะทั่วๆไป  สมมุติว่าเราไม่ไปถ่ายคนนั้นๆมา  อาจจะมีคนรู้จักของแฟนคนนั้นมารับรู้  เห็นเหตุการณ์ก็ได้    เลยอยากทราบข้อเท็จจริง เหตุผล ว่าผิดหรือไม่ จากคุณ : NAF เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 21:32:40