ความคิดเห็นที่ 1   เรามองเห็นโลกอย่างไร บางคนก็บอกว่าสายตาเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ทำให้เราเป็นสิ่งต่างๆ ในโลกอย่างสวยงาม เห็นสีได้มากมายหลายเฉดที่กล้องถ่ายภาพมองไม่เห็น เห็นแสงได้ช่วงกว้างมากกว่าที่กล้องหรือฟิล์มทำได้ แต่ความจริงแล้วดวงตามนุษย์ค่อนข้างประสิทธิภาพต่ำทีเดียว ถ้าทำงานตามลำพัง สิ่งที่ทำให้การมองเห็นของเรายอดเยี่ยมมาก มาจากการทำงานของสมอง สายตานั้น สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ชัดเจน มีสีสันถูกต้องเฉพาะกลางภาพ และเห็นแต่สิ่งที่เรากำลังสนใจอยู่เท่านั้น ภาพรอบข้างจะเป็นสีที่ผิดเพี้ยน ส่วนที่ไกลจากจุดศูนย์กลาง จะพร่าเบลอ และเป็นขาวดำ ในการมองนั้นสายตาจะกวาดไปตามจุดต่างๆ ในภาพ ในหลายระยะใกล้ไกล แล้วก็เป็นหน้าที่ของสมองที่จะนำชิ้นส่วนต่างๆ เหล่านั้นมาประกอบกันให้เป็นภาพของโลกสามมิติ ที่มีสีสันชัดเจน มีรายละเอียดครบถ้วนทั้งส่วนมืดส่วนสว่าง ระยะใกล้ไกล ในใจ (ตามทฤษฎีแนว Constructivism) เมื่ออายุมากขึ้น กระจกตา และเลนส์ตา จะขุ่นมากขึ้น และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองมากขึ้น ตอนนั้นสมองก็ลืมไปแล้วว่าสมัยยังเด็กๆ เราเคยเห็นโลกสดใสแค่ไหน แต่ความสามารถของสมองของเราที่สามารถแก้ไขความคลาดเคลื่อนนี้ ก็ยังทำให้เราเห็นโลกในแบบที่สดใสในใจได้เหมือนเดิม แม้ว่าสายตาจะเปลี่ยนแปลงไป ..เอารูปหัวเหม่งมาลง จะโดนหนูโยตื้บมั้ยวะเนี่ย จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:36:56

ความคิดเห็นที่ 2   รูปด้านล่างต่อไปนี้ มาจาก http://vision.arc.nasa.gov/personnel/al/papers/64vision/17.htm จะแสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วการมองเห็นของตามนุษย์ เป็นอย่างไร ภาพแรก การมองเห็นจากตาข้างเดียว แสดง Field of View   ในตาเราจะมีจุดบอดอยู่ด้วย เป็นจุดรวมเส้นประสาทจากตัวรับภาพในลูกตา ที่วิ่งออกไปสมอง ตรงตำแหน่งนั้นไม่มีเซลรับภาพอยู่ ป.ล. หากต้องการรู้เรื่องดวงตา และการมองเห็นอย่างละเอียด แนะนำให้ศึกษาลิ๊งค์นี้ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 16:15:21 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:37:37

ความคิดเห็นที่ 3   ภาพสอง จะแสดงให้เห็นถึงความไวในการมองเห็นสี ในแต่ละบริเวณของการเห็น ในแต่ละส่วนของ FOV (ภาษาไทยเรียกคลองจักษุ) จะมองเห็นสีแต่ละสี มีความเข้มแตกต่างกันไป น่าประหลาดที่สมองจะผสมสีจากการมองเห็น ให้กลายเป็นสีที่ถูกต้อง (?) ในใจได้ทั้งภาพที่ใจเห็น * ใส่เครื่องหมายคำถามเอาไว้ เพราะ "สีที่ถูกต้อง" หรือ "สีเหมือนตาเห็น" หรือ "สีที่เป็นธรรมชาติ" ไม่เคยมีอยู่จริง ที่พอจะมีจริงก็คือ "สีที่เหมือนตารางสีมาตรฐาน" (และอะไรประมาณนั้น) เท่านั้น มนุษย์แต่ละคนก็มองเห็นสีต่างกันไปนิดๆ หน่อยๆ แล้วแต่ภาพจากตา และการแปลผลในสมอง อย่าว่าโง้นงี้เลย แค่ลูกกะตาลูกเดียว ยังมองเห็นสีจากแต่ละส่วนในคลองจักษุไม่เหมือนกันเลย ดังนั้นไม่ต้องมาคุยให้รำคาญ ว่ากล้องยี่ห้อไหนให้สีธรรมชาติกว่ากัน หรือถูกต้องเหมือนตาเห็นกว่ากัน   ถ้าใครมาคุยเรื่องกล้องข้าพเจ้าให้สีถูกต้อง ของคุณเอ็งให้สีผิด ระวังผมจะแจกคุณโอโล่ให้รับประทาน จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:38:10

ความคิดเห็นที่ 4   ในการมองเห็นตามปกติของสายตามนุษย์ ข้อบกพร่องเรื่องจุดบอด กับการเห็นสีผิด จะถูกชดเชยด้วยการทำงานร่วมกันของดวงตาทั้งสองข้าง (ก่อนจะถูกแก้ไขอีกชั้นหนึ่งในสมอง) ภาพนี้จะแสดงให้เห็น FOV ที่ได้จากตาทั้งสองข้างทำงานร่วมกัน จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:38:59

ความคิดเห็นที่ 5   We see the world by BRAIN not an eyes, and human brain is DREAM machine. เรามองเห็นโลกด้วยสมอง ไม่ใช่ตา ตามทฤษฎีตามแนวจิตวิทยาของ Gestalt สิ่งที่ตาเห็นทั้งหมดรวมกัน ก็ยังน้อยกว่าสิ่งที่สมองเห็น เพราะสมองจะเติมแต่งข้อมูลจากจินตนาการลงไปในสิ่งที่เราเห็นด้วย ลองนึกถึงป้ายไฟวิ่ง ไฟไม่ได้วิ่งไปไหน มันแค่กระพริบ เปิดปิดของมันอยู่ตรงนั้น แต่สมองของเรากลับมองเห็นไฟวิ่งได้ หรือที่เห็นบ่อยๆ ในยุคนี้ก็พวก GIF Animation ในเว็บต่างๆ การมองเห็น = การรับภาพจากตา + การแปลผลของสมอง ภาพจาก lasvegasvegas.com แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 12:40:36 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:39:52

ความคิดเห็นที่ 6   ภาพที่มาจากตาเห็นนั้น เป็นเพียงแค่ภาพที่ไร้ความหมาย การที่จะใส่ความหมายแก่ภาพนั้น สมองจะ ตัด ต่อ แต่ง เติม ภาพที่เห็น ใส่ความหมาย ควบคุมการให้ความสนใจ และแปลผลโดยใช้ข้อมูลจากคลังข้อมูลในสมองมาประกอบเป็นส่วนใหญ่ การแปลผลของสมอง ก็เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมวาากก สมองสามารถเอาข้อมูลที่ขาดวิ่น ตกหล่น ที่ตาเห็น มาเติมแต่ง แปลงผล ให้กลายเป็นภาพในใจที่สมบูรณ์ชัดเจนได้ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:41:32

ความคิดเห็นที่ 7   ในศิลปะของการสื่อสารด้วยภาพ สิ่งที่คนดูเติมแต่งให้แก่ภาพนั้น เป็นข้อมูลของคนดูเอง ไม่ใช่ข้อมูลที่ศิลปินใส่เข้าไปให้ ดังนั้นข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนแบบนี้ กลับให้ภาพที่ชัดเจนในใจของผู้ดู ได้มากกว่าภาพที่สมบูรณ์ชัดเจนที่ศิลปินสร้างให้ แนวคิดนี้เป็นที่นิยมใช้อย่างกว้างขวาง เราจะเห็นได้ชัดเจนในภาพยนต์ฮอลลีวู้ด โดยเฉพาะภาพยนต์แนวสยองขวัญ ที่นิยมใช้ความมืด ความลึกลับ ความไม่รู้ มาสร้างภาพของความกลัวในใจของผู้ชม พูดถึงเรื่องนี้ ก็ขาดไม่ได้ ว่าจะต้องอ้างอิงจากภาพยนต์เรื่อง Psycho ของฮิชท์คอค เป็นกรณีศึกษาคลาสสิค ของคนที่เรียนทางสื่อเลยทีเดียว ป.ล. หลักการนี้อาจจะได้ยินชื่อเรียกว่า Closure ครับ มีหลักอยู่ว่า ถ้าต้องการให้ภาพเกิดขึ้นชัดเจนที่สุด อย่านำเสนอภาพทั้งหมดให้แก่ผู้ดู ให้นำเสนอภาพเพียงบางส่วน แล้วให้ผู้ดูสร้างภาพที่เหลือในใจขึ้นเอง ผมคุ้นๆ ว่าศิลปินจีนโบราณ เคยบอกไว้ว่า จะไม่วาดมังกรให้เห็นทั้งตัว อะไรประมาณนี้แหละ ใครจำได้ช่วยบอกหน่อย ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันเลย แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 16:24:17 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:42:15

ความคิดเห็นที่ 8   ที่ว่ามาข้างบนทั้งหมดเป็น intro คร่าวๆ ของการทำงานร่วมกันระหว่างสมองกับดวงตา ในตอนหน้า สมองแปลความได้อย่างไร ว่าอะไรคือวัตถุ อะไรคือฉาก และสมองมีวิธีการจัดกลุ่มสิ่งที่เห็นได้อย่างไร   สมองใช้อะไรมาแบ่งว่าสิ่งนี้เป็นกลุ่มเดียวกับสิ่งนั้น  แต่คนละกลุ่มกับสิ่งโน้น <<<<<<<<<< To be Continue >>>>>>>>>> แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 12:43:38 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:43:08

ความคิดเห็นที่ 9   ลงชื่อก่อนเลย เบอร์หนึ่ง แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 12:50:41 จากคุณ : รุกฆาต เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:49:25

ความคิดเห็นที่ 10   เยี่ยม... มวาากก(แปลว่ามาก ๆ ใช่ไหมน้าอะธี) จะติดตามอ่านจนจบครับ แม้จะมึน ๆ บ้าง อิอิ จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:01:39

ความคิดเห็นที่ 11   ตามมาอ่าน จากคุณ : ปืนเถื่อน (Colt 1911 A1) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:02:02

ความคิดเห็นที่ 12   มาจองที่นั่ง..... จากคุณ : กระเพราเป็ด เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:14:40

ความคิดเห็นที่ 13   เรื่องน่ารู้ดีครับ Thx so much จากคุณ : ฟางข้าวในทุ่งนา เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:23:20

ความคิดเห็นที่ 14   ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียว จากคุณ : The Painter เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:35:23

ความคิดเห็นที่ 15   มาลงชื่อครับ จากคุณ : นายไวรัส เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:56:29

ความคิดเห็นที่ 16   เคลิ้มไปเลยทีเดียว นึกว่าอยู่หว้ากอ (อิอิ) ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ จะรอติดตามตอนต่อไปค่ะ จากคุณ : smaws เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:58:49

ความคิดเห็นที่ 17   ที่ผมจะว่านี้ ไม่รู้เกี่ยวรึเล่า แต่ผมคิดว่า ความแตกต่าง ระหว่างตากล้องมือเก่า กับตากล้องมือใหม่คือว่า... ขณะที่จะถ่ายรูปนั้น ตากล้องมือใหม่   มักจะมองเห็นแต่สิ่งที่สนใจจะถ่ายเท่านั้น (สมองไม่รับรู้อะไรนอกจากซับเจค คือ มองไม่เห็นเลยก็ว่าได้) ขณะที่ตากล้องมือเก่า จะมองภาพทั้งภาพ (อาจจะมาจากการฝึกมองภาพทั้งภาพ ให้เห็นเป็นภาพว่าสุดท้ายแล้วภาพจะเป็นยังไง อะไรอยู่ซ้ายขวาหน้าหลัง น้ำหนัก สมดุล ฯลฯ) เช่น รูปข้างล่างนี้ ตอนถ่าย ตากล้องมือใหม่จะมองเห็นแต่เด็กข้างหน้า มองไม่เห็นคนที่อยู่ด้านหลัง มองไม่เห็นทีวีด้านซ้าย จนกระทั้งออกมาเป็นภาพสำเร็จ ถึงค่อยมองเห็น มันทำให้องค์ประกอบภาพและความโดดเด่นลดลงไปหน่อย ถูกดึงสายตา .... เป็นต้น แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 14:22:38 จากคุณ : รุกฆาต เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:16:59

ความคิดเห็นที่ 18   ข้า(ความรู้)น้อย ขอเข้ามาสูบ จากคุณ : muly เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:52:13

ความคิดเห็นที่ 19   ขอบคุณครับ ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว จากคุณ : เนตร (ohhayo) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:54:45

ความคิดเห็นที่ 20   ยินดีให้.... นำไปใช้เพื่อกิจส่วนตัว เพื่อสาธารณประโยชน์ เพื่อการศึกษา หรือเพื่อการค้าได้ อนุญาตให้ ตัดต่อ ดัดแปลง อ้างอิง ทำซ้ำ เผยแพร่ จำหน่าย จ่าย แจก ได้ น้าเป็นคนดีที่1เลย... จากคุณ : BenJaZa เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:59:37

ความคิดเห็นที่ 21   อืมม  ถ้าตามคอมเมนท์ ของ น้ารุกฆาต  ผมว่า เราอาจตีความได้ว่า ตากล้องมือใหม่ ถ่ายภาพที่ตัวเองชอบ ส่วนตากล้องมือเก่า ถ่ายภาพที่ต้องการให้คนอื่นชอบ ได้มั้ยครับ จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:02:08

ความคิดเห็นที่ 22   ตามน้ารุกฆาต เราเรียกว่า Attention System ครับ ที่จริงก็ว่าจะพูดถึงล่ะ แต่เดี๋ยวจะหว้ากอมากไป ค้นในคลังกระทู้หว้ากอ เกี่ยวกับเรื่อง โรคประหลาดของสมองดูครับ จะมีโรคชนิดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับระบบนี้ คือคนไข้จะไม่สามารถให้ความสนใจกับซีกซ้ายของการมองเห็นได้ เช่นเวลาให้วาดรูป จะวาดแต่ด้านขวา เพราะ "ระบบให้ความสนใจ" จะทิ้งความสนใจซีกซ้ายไป พอคนอื่นชี้ให้ดู ถึงจะเห็น กับอีกโรคหนึ่ง คือระบบ Face Recognition เสีย จะไม่สามารถแยกแยะ หรือให้ความสำคัญกับใบหน้ามนุษย์ได้ เดี๋ยวจะพูดในตอนหน้าครับ โรคเมินซ้าย เมินขวานี่ ลองค้นจากคำว่า Hemineglect ดูครับ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 16:06:59 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:30:47

ความคิดเห็นที่ 23   แหล่มครับ จากคุณ : ผมแอบชอบ ค.ห.17 เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:32:52

ความคิดเห็นที่ 24   เรื่อง Attention ของสิ่งอื่น นอกจากวัตถุที่สำคัญในภาพ (เวลาถ่ายภาพ) เป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝนครับ เป็นสิ่งที่ต่างระหว่างมือใหม่ กับมือเก่าอย่างหนึ่ง เพราะมันเป็นการฝืนระบบการให้ความสนใจ ตามปกติธรรมชาติของการมองเห็น นักถ่ายภาพจำเป็นต้องให้ความสนใจทั้งเฟรม ไม่ใช่เฉพาะจุดที่สำคัญเหมือนคนทั่วไปมอง และมากไปกว่านั้น ต้องให้ความสำคัญกับทุกสิ่งที่ตาเห็น แม้ไม่ได้ยกกล้องขึ้นมา จึงจะมองเห็น "มุมถ่ายภาพ" ได้ เป็นเรื่องที่มือใหม่จะแปลกใจมาก ว่านักถ่ายภาพมือเก่ามันเห็นมุมนี้ได้ไงหว่า... ไปยืนถ่ายภาพชนิดไหล่ชนกัน ทำไมเราไม่เห็น จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:36:27

ความคิดเห็นที่ 25   น่าสนใจดีครับ จะติดตามต่อนะครับ ^^ จากคุณ : nucleon เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:42:26

ความคิดเห็นที่ 26   จะติดตาม....อ่านจนจบ......... มันเยี่ยม.....อย่างนี้นี่เอง...... มองโลกอีกแบบ... จากคุณ : มอแกน2010 (kbkk) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:56:03

ความคิดเห็นที่ 27   อ้อ...อย่างงี้นี่เอง สมองคนเรามันก็ตลกดีนะครับ รออ่านตอนสอง จากคุณ : รุกฆาต เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 16:03:00

ความคิดเห็นที่ 28   อืม ต้องมองรวมๆสินะ แล้วดึงจุดสนใจออกมา ขอคาราวะด้วย ไวตามิลดิ์อินแบล๊ค (ผมไม่กินเหล้า) จากคุณ : ผมมันคนกรุงเทพฯจริงๆนะ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 16:32:01

ความคิดเห็นที่ 29   เจิ่ด จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 17:03:46

ความคิดเห็นที่ 30   ติดตามอ่านจนจบ ไม่เจอหน้าหนูเอลเวียโผล่มาสัก คห. เลยครับ จากคุณ : Piggie MM เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 17:06:00

ความคิดเห็นที่ 31   จบแล้วเข้าปักหมุดคลังกระทู้ด้วยนะครับน้า จากคุณ : น้ากล้วย (iamfat) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 17:23:04

ความคิดเห็นที่ 32   สำหรับหนูเอลเวีย รอปูเหลียวก่องน้า... ผมเตรียมหัวข้อสำหรับ Elvia ไว้แล้ว ได้เห็นหน้าแน่ครับน้าหมู จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 17:29:27

ความคิดเห็นที่ 33   กิฟหมดแย๊ว...  เอา ไปแทนละกันนะครับ รอชม หนู Elvia ด้วยคน  ;) เรื่องการมอง... ก็รู้สึกว่า สมองผม จะมีการ Delay ภาพ ในบางสภาพแสง แล้ว ยังมีการแปลงสี ให้กลายเป็นขาวดำ ในบางจังหวะของชีวิต อ้อ... มีเรื่องประมาณว่า...   การรับรู้ ถูกเร่งให้เร็วกว่าปกติด้วยรึเปล่าครับ ?  เคยเห็นภาพเป็น Slow motion ตอนเกิดอุบัติเหตุ... โลกที่น่าอยู่... สังคมที่ดี...   ไม่มีขาย อยากได้...   ต้องช่วยกันสร้าง โดยเริ่มจาก...   ตัวเราเอง...   เดี๋ยวนี้... จากคุณ : Phoenixนิลมังกร เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 17:56:56

ความคิดเห็นที่ 34   มาดักความรู้คร้าบ จากคุณ : เด็กน้อยด้อยปัญญา เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 00:35:53