 |
ความคิดเห็นที่ 68 |
บ้านเมืองออนไลน์ เมื่อเวลา 9:32:00
สกู๊ป : ประชดประชัน
ประชดประชันหลังจากที่ “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” คนประเทศออสเตรีย ที่เข้ามาเป็นนายสิ...บท หารให้กองทัพประเทศเยอรมนี สู้ศึกในสงครามโลกครั้งที่ 1 รบกับฝรั่งเศสและอังกฤษ ซึ่งเยอรมนีแพ้ ชาติย่อยยับ อับอายขายขี้หน้ามาก ฮิต เลอร์ก็เลยรวบรวมพรรคพวกที่เป็นคนเยอรมัน ตั้งพรรคการเมืองชื่อ พรรคนาซีขึ้นมา แล้วก็ขายไอเดียลัทธิชาตินิยม จะนำความยิ่งใหญ่กลับคืน สู่เยอรมนี จนชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล ฮิตเลอร์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็ยกตัวเองเป็นท่านผู้นำ
แล้วก็เริ่มสงครามด้วยการลงนามสนธิ สัญญากับรัสเซียเมื่อสิงหาคม 2482 จะไม่รุกรานกันจากนั้นเยอรมันกับรัสเซียก็เข้าตีโปแลนด์แตก แล้วแบ่งแผ่นดินโปแลนด์ออกเป็น 2 ส่วน ปกครองกันคนละครึ่ง30 พฤศจิกายน 2482 รัสเซียก็เริ่มเข้าตีประเทศฟินแลนด์ ด้วยกำลังทหาร 630,000 คน รถถัง รถสายพานลำเลียงหุ้มเกราะหลายหมื่นคัน เครื่องบินรบ 200 ลำอาวุธ เด็ดขาด อย่างหนึ่งของรัสเซียในขณะนั้นคือ โคตรระเบิด RRAB-3 เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร ยาว 2.25 เมตร มีใบพัดที่หาง เมื่อทิ้งลงไปแล้วใบพัดหมุนครบรอบฝา ระเบิดจะเปิดออก แล้วระเบิดเพลิงขนาดเล็กที่อยู่ภายใน 60 ลูก ก็จะ กระจายออกโดยที่หางใบพัดเช่นกัน เมื่อต้องลมก็จะกระจายออกห่างกัน เมื่อกระทบเป้าก็จะแตกเป็น ระเบิดเพลิง เผาบ้านเรือนคนโปแลนด์แถบชายแดนวอดวายรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ส่ง หนังสือประท้วงรัสเซียทันทีที่ โจมตีพลเรือน ยุคนั้นไม่มีสำนักข่าวซี เอ็นเอ็น อินเตอร์เน็ตก็ยังไม่มี จึง ไม่มีรูปไม่มีข่าวให้ชาวโลกได้เห็นทันที
ทำให้ รมว.ต่างประเทศของรัส เซียผู้มีชื่อว่า Vyacheslav Molotov (วยาเชสลาฟ โมโลตอฟ” :-)ได้อย่างเพลิดเพลินตอบสหรัฐไปอย่างน่ารักว่า มันไม่ ระเบิดหรอกนะ ตัวเอง แต่มันคือตะกร้าอาหารที่รัสเซียโปรยลงไปให้ชาวฟินแลนด์ผู้หิวโหยตะกร้า อาหาร ภาษาอังกฤษเขียนว่า Molotov Bread Basketคนที่จะเป็น รมว.ต่างประเทศได้ มันจะต้อง:-)สุดๆ อย่างนี้
ขณะที่กองทัพรัสเซียบุก เรียกกันว่าสงคราม ฤดูหนาว ฟินแลนด์มีทหารอยู่แค่ 250,000 คน รถถังก็ไม่กี่คัน เครื่องบินรบไม่ต้องพูดถึง สรรพกำลังรบด้อยกว่ารัสเซียถึง 200 เท่า กองทัพฟินแลนด์ได้สั่งให้ ร.อ.อีโร คุยติเนน (Eero Kuitinen) ที่ประจำอยู่ชายแดน ใช้อาวุธผลิตเองสู้ โดยเอาอย่างมาจากทหารของ พล.อ.ฟรัง โก้ ที่ใช้สู้กับทหารของรัฐบาลสเปน ในการพยายามยึดอำนาจเมื่อปี 2479 และรบชนะรัฐประหารสำเร็จ ได้เป็นประธานาธิบดีจอมเผด็จการอยู่ยาวถึง 26 ปีจนตายคาเก้าอี้อาวุธนี้ก็คือ การเอาน้ำมันใส่ขวดแก้วเอาผ้าชุบ น้ำมันจุกปากขวดแล้วจุดไฟ ขว้างใส่รถถังแต่ ระเบิดขวดน้ำมันใช้ยาก คนขว้างจะต้องอยู่นิ่งๆ นิด หนึ่งเพื่อจุดไฟให้ติดผ้าก่อนแล้วจึงขว้าง ทำให้ถูกยิงสวนได้ง่าย ร.อ.คุย ติเนน จึงดัดแปลงใช้ “กรดซัลฟูริค” บรรจุหลอดแก้วเล็กๆ พันไว้ติดขวด น้ำมัน ขว้างไปโดนรถหุ้มเกราะ น้ำกรดจะแตกเป็นประกายไฟติดน้ำมัน ไฟลุกพรึ่บทำลายรถถังได้ร.อ.คุย ติเนน สั่งให้โรงงานผลิตเหล้า “อัลโค” ที่มีอยู่โรงเดียวในประเทศ มีคนงานหญิงล้วน 87 คน หยุดผลิตเหล้า หันมาผลิตกรดซัลฟูริค และผลิตระเบิดขวดน้ำมันได้ 5 แสนขวด ซึ่ง ทหารชาวฟินแลนด์ขว้างทำลายรถถังรัสเซียที่มีถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ ด้านบนได้ถึง 350 คัน ตลอดระยะเวลา 113 วันของสงครามฤดูหนาว ที่สุด กองทัพรัสเซียยอมถอย ฟินแลนด์ชนะระเบิดขวดน้ำมันเอาชนะกองทัพรถถังรัส เซียที่เกรียงไกรได้ มันก็ดังกระเดื่องไปทั่วโลก ผู้คนก็เลยเข้าใจกันว่า การที่เรียกระเบิด ขวดน้ำมันว่า “โมโลตอฟคอกเทล” คือยกย่องเชิดชูคนคิดผลิต แต่ของจริงไม่ ใช่ของจริงคือ เป็นการประชดประชันที่น่ารักในท่ามกลางสงคราม“วลา เชสลาฟ โมโลตอฟ” รมว.ต่าง ประเทศรัสเซีย หลอกอเมริกาว่า ระเบิดที่ทิ้งลงไปเผาบ้านพลเรือนฟินแลนด์ คือ “ตะกร้าอาหารจากโมโลตอฟ” ฝ่ายคนฟินแลนด์ก็ผลิตระเบิดน้ำมันขึ้นมา สู้ และเรียกชื่อมันว่า “โมโลตอฟคอกเทล” ซึ่งหมายความว่า เมื่อแกส่งตะกร้าอาหารมาให้ คนฟินแลนด์ก็ขอมอบเหล้าคอกเทลคืนกลับไปให้ แก ซึ่งก็คือระเบิดน้ำมันที่เรียกว่า โมโลตอฟคอกเทลนั่นเองในสงครามก็มีการ ประชดประชันที่น่ารักนายสบาย
จากคุณ |
:
สิงหราช
|
เขียนเมื่อ |
:
7 พ.ค. 53 15:29:06
|
|
|
|
 |