ความคิดเห็นที่ 1   2 จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:34:41

ความคิดเห็นที่ 2   3 จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:35:16

ความคิดเห็นที่ 3   4 จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:35:58

ความคิดเห็นที่ 4   5 จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:36:23

ความคิดเห็นที่ 5   6 จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:36:48

ความคิดเห็นที่ 6   7 จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:37:19

ความคิดเห็นที่ 7   8 จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:37:43

ความคิดเห็นที่ 8   9 จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:38:03

ความคิดเห็นที่ 9   10 จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:38:35

ความคิดเห็นที่ 10   11 จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:39:25

ความคิดเห็นที่ 11   12 รบกวนหน่อยนะครับพอแยกภาพให้มันห่างๆกันแล้วดูเหมือนไม่ค่อยต่างเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:40:28

ความคิดเห็นที่ 12 เนื่องจากไม่ได้อยู่ที่เดียวกันกับน้าตอนถ่ายภาพมาก ก็เอาที่ผมว่าพอดีจากที่เห็นที่น้าถ่ายมาก็แล้วกันนะครับ 1 , 5 , 9 , 10 ครับ ข้างล่างนี่เอามาฝากครับ ไว้เป็นแนว ๆ ตอนวัดแสง ใช้ร่วมกับเฉพาะจุดจะดีมากครับ เอามาจากไหนจำไม่ได้เหมือนกันครับ จากคุณ : ^Tagachi^ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:09:22

ความคิดเห็นที่ 13   ขอบคุณครับน้า ^Tagachi^ ว่าแต่มันใช้ยังไงครับรบกวนบอกด้วย จะได้เป็นความรู้ให้คนอื่นด้วยครับ จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:16:20

ความคิดเห็นที่ 14 เหมือนๆ ผมจะมีอยู่คล้่ายๆ กับของน้า ^Tagachi^ ครับ จากคุณ : ชนินทร์ธร เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:17:56

ความคิดเห็นที่ 15 ขอโทษด้วยนะครับ ภาพใหญ่ไป ก่อนโพสไม่ได้ดูขนาด จากคุณ : ชนินทร์ธร เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:18:55

ความคิดเห็นที่ 16 ผมก็ว่า 1 5 9 10 ผมใช้ความรู้สึกครับ ทฤษฏีไม่รู้เลย อิอิ แต่ตอบตามที่ตัวเองใช้เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง ผมว่าสถานะการมันต่างกันทุกที่ และมันมีความสัมพันธุ์กันทั้งหมดของค่าต่างๆที่ตั้ง คงจะเอาวัตถุสถานที่สีและเวลาแสงใดๆเป็นค่าตายตัวไม่ได้ ต้องซ้อมบ่อยๆครับ แล้วจะรู้เองโดยธรรมชาติ โดยไม่อาศัยทฤษฏีใดๆ เหมือนกินก๋วยเตี๋ยว ตอนเราปรุง เราไม่จำเป็นต้องเอาเครื่องมือวัดใดๆมาวัด ว่าใส่น้ำตาลเท่าไหร่ น้ำปลาเท่าไหร่อะไรเท่าไหร่ ถึงจะอร่อยเรา แต่เราชิมเราจะรู้ทันทีว่าต้องใส่อะไรเท่าไหร่ ชิมแล้วยังไม่ถูกใจก็ใ่ส่เครื่องปรุงใหม่อีกครั้ง โดยใช้ความรู้สึกล้วนๆ นั้นแหล่ะครับคือความพอดีที่ความรู้สึกมันเกิดขึ้นมาเองจากธรรมชาติ ผมจะกดไปก่อน 1ภาพแล้วดูว่าควรปรับอะไรที่เท่าไหร่ เหมือนชิมไปก่อนถ้าไม่ถูกใจก็ปรุงใหม่ได้ ไม่รีบ ต่อไปมันจะแม่นเอง ที 2 ที ได้เลย เป็นการเรียนแบบจิตใต้สำนึก อิอิ แล้วความรู้สึกมันจะมาจากไหน มันจะมาจากดูงานคนอื่นเยอะๆ แล้วสีของภาพ แสง องค์ประกอบ อื่นๆมันจะฝังเข้าไปในความรู้สึกเราเองครับ ว่านั้นคือพอดีสวย ถ้าเ้ข้าใจความสัมพันธุ์ของค่ารูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ ISO ก็จะรู้ว่าควรปรับอะไรเท่าไหร่ เพื่อให้มันพอดี ผมเองก็ไม่รู้ ทฤษฏี เลยครับ ไม่รู้ว่าสตอปมันคืออะไร แบบนี้ควรปรับไปกี่สต๊อป วัตถุแบบนี้ควรใช้วัดแสงแบบใด ผมก็ถ่ายไปตามเรื่องตามราวใช้ความรู้สึกเอา ถ้ารู้ทฤษฏีก็ดีครับ แต่สมองผมความจำน้อยเกินกว่าจะจำทฤษฏี อิอิ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 01:51:18 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 01:45:19 จากคุณ : santhan เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:40:24

ความคิดเห็นที่ 17 วิธีที่ผมใช้ตารางนี้ (ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่านะครับ) ก็คือเวลาวัดแสง ให้เราวัดแสงที่วัตถุสีเทากลาง 18 % ซึ่งช่างภาพบางท่านก็จะมีกระดาษสีเทากลาง 18 %พกติดตัว เพื่อความแม่นยำในการวัดแสง แต่ในกรณีที่ไม่มี เราก็หาวัตถุสีเทา ให้ใกล้เคียงเทากลาง 18% ถ้าไม่มี ก็เอาสีอื่นที่ความเข้มแสงใกล้เคียงเทากลาง 18% ซึ่งก็คือสีที่อยู่ใต้เลขศูนย์ ถ้าอ้างอิงตารางน้าช่อน ก็เช่นสีเขียว แดงเลือดหมู ... ถ้าไม่มีอีก ก็ดูว่ามีสีอะไรบ้าง อย่างเช่น +2    สีขาว         เราก็ตั้งกล้อง -2    EV            +1.5 สีเหลือง      เราก็ตั้งกล้อง -1.5  EV            -1     สีม่วง         เราก็ตั้งกล้อง +1    Ev ทำไปเพื่อชดเชยแสง ให้ได้ค่าใกล้เคียงเทากลาง 18% จำเป็นต้องจำตารางนี้ไหม จำได้ก็ดีครับ  แต่เข้าใจก็ช่วยให้จำได้มากขึ้น สีขาว  สว่างสุด +2 สีดำ    มืดสุด   -2      สองสีอ้ันนี้ ตรงไปตรงมา ในบรรดาสีต่าง (ถ้าไม่นับสีขาว) สีเหลืองเป็นสีที่มีอิทธิพลต่อสีอื่นๆมากที่สุด(คนทำงาน graphic design จะรู้ดี) เพราะสีเหลื่องเป็นสีที่สว่างที่สุด                           -->  +1.5 สีที่ผสมสีเหลือง ก็คือ สีส้ม ก็สว่างออกมาน้อยหน่อย   --> +1 ถ่ายที่มีตึก ก็หาเทากลางจากตึก ถ้าถ่ายต้นไม้ ก็หาสีเขียวใบไม้ ใช้เป็นเทากลางแทน   ---> 0 สีน้ำเงิน/ม่วง ออกโทนมืดๆ                                ---> -1     ที่พูดมาทั้งหมดเอาไว้จำ แต่เวลาใช้จริงๆ ใช้ตากะเอาครับ แค่พอรู้ว่า ว่าสีนี้มันอยู่ในโทนมืดหรือโทนสว่างครับก็พอครับ แล้วก็ปรับๆมั่วๆเอา คุ้นๆเดี๋ยวมันก็ดีเอง ปล.ที่พูดทั้งหมดผมยังฝึกอยู่เลยครับ ถ่ายก็ยังเพี้ยนอยู่เลยครับ หวังว่าซักวันจะเก่งอย่างน้าๆในห้องนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 01:56:57 จากคุณ : ใต้ต้นหญ้า เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:49:34

ความคิดเห็นที่ 18 มาแถมอีกหน่อยครับ ดูจากฮิตโตแกรมก็ได้นะครับ ** ภาพประกอบทาง internet จำที่มาไม่ได้ จากคุณ : ชนินทร์ธร เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:27:31

ความคิดเห็นที่ 19 มาอ่านเอาความรู้ด้วยครับ กล้องกบ กล้องหนอน ยังดีใช้โหมด A M ได้และยังมีสเกลมองเห็นได้ว่า จะให้แสงเวอร์หรือเดอร์ได้  กล้องนิคต้องวัดแสงด้วยจิตผมดู Histogramเอา แล้วเดาๆว่าจะปรับ F หรือ speed หรือ ISO แต่เลนส์เก่าบางตัวก็ไม่เหมือนกันอีก บางตัวต้องให้แสงเวอร์หน่อยไม่งั้นมืด แปลกเหมือนกัน ปัญหาของผมเหมือนของน้าเลย   จากคุณ : prakorbs เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 05:35:46

ความคิดเห็นที่ 20 ผมถ่ายแล้วดูจากรูปใน LCD บวกฮิสโตแกรมเอาครับ อยากให้รูปมีอารมณ์อย่างไหนก็ปรับเอา จากคุณ : imf41 เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 05:56:26

ความคิดเห็นที่ 21 ผมใช้ 5D โหมด M + spot metering กับมือหมุนเป็นประจำนะครับ วิธีก็อย่างเราว่าเราหาเทากลางไม่ได้แต่ถว ๆ นั้นมีสีเขียวอ่อน โทนประมาณ +1 ev ผมก็เอาโฟกัสจุดกลางไปจิ้มตรงสีเขียวนั้น แล้วปรับ ค่ากล้องให้ สเกลวัดแสงไปอยู่แถว ๆ + 1 ครับ ไปจำเป็นต้องเป๊ะๆ ส่วนถ้าใช้สีขาวหรือดำ นี่ก้อย่าให้มัน -/+2 แบบสุดสเกลและก็กระพริบนะครับ แบบนั้นมันสว่างหรือ มีดเกินไป ถ้าโหมด A, Tv ก็ตั้งชดเชยแสงที่กล้องตามข้างบนได้เลยครับ แต่ในบางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องวัดให้ได้พอดีเสมอไปนะครับ บางอารมณ์เราก็อาจจะอยากได้โอเวอร์นิด ๆ หรือมืดหน่อย ๆ แต่เราก็ควรจะเป็นคนปรับให้มันได้ตามที่เราต้องการ ไม่ใช่บังเอิญ อิอิ  บังเอิญนี่ผมค่อนข้างจะเป็นบ่อยครับ ฮ่า ๆ ปล.แบบของน้าปลาช่อนจะดูเข้าใจง่ายกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 06:24:22 จากคุณ : ^Tagachi^ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 06:20:34

ความคิดเห็นที่ 22 แนะนำแบบพื้นๆ เลยนะครับ เอฟสตอป, สปีดชัตเตอร์ และองค์ประกอบภาพ สำคัญที่สุด ก่อนจะถ่ายต้องมีภาพในหัวแล้ว นั่นก็คือ องค์ประกอบภาพ จากนั้นก็ปรับเอฟ แล้วดูสปีดชัตเตอร์ ว่ามันไหวไหมกับภาพที่ต้องการ ถ้าไม่ไหวก็ปรับ ISO สำหรับข้อ 1 ถ่ายหลุด ก็ต้องซ้อมๆ ให้เยอะ ทำความรู้จักเลนส์ให้มากที่สุด ว่ามันชอบแบบไหน เหมือนแฟนนั่นแหละ ถ้าไม่รู้จักกันดีพอเดี๋ยวก็มีปัญหา ข้อ 2 วัดแสง และ 3 สำคัญมาก ตามที่น้าๆ ยกภาพการวัดแสงสีต่างๆมาให้ดู เป็นพื้นฐานที่ดี ลองทำความเข้าใจดูนะครับ ข้อ 4 เรื่องมุมมอง พื้นฐานสำคัญก็ จุดตัด 9 ช่อง  อย่าเข้าแต่ห้องมือหมุน ลองท่องโลกถ่ายภาพที่อื่นดูบ้าง เผื่อจะได้อะไรใหม่ๆ   ไม่รู้จะแนะนำไรเพิ่มเติม ลองทำความเข้าใจกับพื้นฐานการถ่ายภาพให้ลึกซึ้งดู มันพลิกแำพลงอะไรได้เยอะ .. จากคุณ : liverpoolism เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 06:34:25

ความคิดเห็นที่ 23 มามุงด้วยคน เพราะตอนที่ถ่ายดูแต่ภาพในจอ  ไม่เก่งทางทฤษฎี  เลยไม่ยึดกฎเกณฑ์อะไรตายตัว  ที่ใช้อยู่ก็คือ.- 1. หมุนบ่อยๆ  ทำความคุ้นเคยกับเลนส์แต่ละตัว เพราะแม้เอฟเท่ากันแต่นิสัยไม่เหมือนกัน 2. วัดแสงในส่วนที่ขาวที่สุด แล้วชดเชยเป็น -0.03 / -1.0  แล้วแต่ว่าแสงจะจ้าขนาดไหน (ข้อนี้อาจจะค้านกับทฤษฎีใน คห.12/14 แต่เป็นประสบการณ์ที่ใช้จริง(โดยเฉพาะถ่ายมาโคร) ชอบภาพอันเดอร์มากกว่าโอเวอร์เพราะแก้ไขได้ดีกว่า) 3. ใช้ค่า One Touch WB ค่าเดียวตลอด และปรับค่า R/G ให้ได้สีพอดี 4. มุมมองก็คิดเองบ้าง ลักจำของคนอื่นบ้าง  อาศัยดูจากเวปต่างๆ ทั้งไทย/เทศ ให้มากๆ (แต่ไม่ค่อยจะจำนี่สิทำไงดี) แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 07:27:04 จากคุณ : wat06 (HS6GDE) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 07:20:40

ความคิดเห็นที่ 24 1-5-9 10กับ11 ได้ทั้งคู่ครับ ตามน้าๆข้างบนครับเรื่องทฤษฏี จากคุณ : onnuch3sib เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 07:40:56

ความคิดเห็นที่ 25 ........ผมมุง...... จากคุณ : เขียวแก่ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 07:52:12

ความคิดเห็นที่ 26 มุงละกันครับน้าๆสอนไปหมดแล้ว แต่ที่ผมใช้คือวัดแบบเฉพาะจุด ผมจะวัดสีเขียวของใบไม้ +0.0-0.3 แล้วแต่มันโดนแดดไม่โดนแดด ส่วนพอร์ทเทรตวัดที่หน้าหน้าแบบ ถ้าผิวคนไทย +0.0 -0.3 ขาวหมวย +0.7-1.0 วัดแบบนี้คือไม่สนใจฉากหลังนะครับ แต่ลองเอาไปใช้ง่ายๆ ดูครับ จากคุณ : ปกตั้งหมายเลขเจ็ด เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 08:26:58

ความคิดเห็นที่ 27 ผมก็วัดใจเช่นกันครับ อยากให้เป๊ะๆ มันไม่ได้ดั่งใจเลย โดยมากผมจะลดให้มันอันเดอร์สักนิดตามแบบที่ชอบ เว้นแต่นางแบบขาวๆนี่อัดไป+1เลย ....ฮา จากคุณ : ไม่ทู่ก็แหลม..ไม่แหลมก็ทู่.... (มิทู่) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 09:12:07

ความคิดเห็นที่ 28 น้าๆให้ความกระจ่างหมดเเล้วทุกข้อสงสัยจริงๆๆ ผมก็ได้รับความรู้ด้วยครับ ส่วนผม+1 -1 เป็นคัวเลขที่ปวดหัว แต่หากเป็นเลขขนาดนี้ กลับชอบ 35-26-35 จากคุณ : ktt116 เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 09:29:56

ความคิดเห็นที่ 29   ขอตามมาฟัง ตามมาเรียนรู้ด้วยคนนะครับ จากคุณ : ลมระบัด เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:16:18

ความคิดเห็นที่ 30 วัดแสงด้วยจออ่ะครับ   set  lcd ให้ตรงกับจอคอมเรา แล้วก็ดูจอเอา  555 จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:25:53

ความคิดเห็นที่ 31 มุุงด้วยคน จากคุณ : Olyphile เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:51:14

ความคิดเห็นที่ 32 น้า ๆ เค้า่บอกไปหมดแล้วคับ ส่วนตัวผม ถ้าถ่ายดิจิตอล ผมไม่ค่อยได้สนใจเท่าไรนักเพราะถือว่าปรับได้ ถ้าเวลาถ่ายฟิลม์ ผมมักจะเลือกเอาเลยว่าอยากได้อะไร? กล้องฟิลม์ผม วัดแสงเฉลี่ยหนักกลาง (เท่าที่สังเกตุ) ถ้าซัพเจค มันมืดเกินไป แน่นอนว่าแสงส่วนเกินมันจะทำให้โอเวอร์ทั้งหมด ทีนี้ผมก็ต้องเลือกว่าจะเอาอะไรแทน ผมก็พยายามหาจุดสว่างในซัพเจคนั้นแทน ผมไม่ค่อยได้สนใจเรื่องตัวเลขที่เป็นค่าแน่นอนเท่าไร ... เน้นสิ่งที่อยากได้มากกว่า //ภาพผมเลยเละประจำน่ะน้า (_ _!) จากคุณ : parasite_moll เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:32:48

ความคิดเห็นที่ 33 ทฤษฎีท่องแปะๆแต่เวลาไปเจอของจริงมันต้องแก้สถาณะการณ์เฉพาะหน้าน่ะ กล้องผมใช้400ดี เวลาใช้กับมือเลนส์หมุน ต้องตั้งค่าISO100  ถึง200 Metering mode ใช้ เฉลี่ยหนักกลาง AF-point จุดตรงกลาง ใช้โหมดM ถ่าย ตั้งค่าให้Under1-1/2 stop ภาพก็พอได้ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 17:21:00 จากคุณ : julapolb (julapolboon) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 15:12:52

ความคิดเห็นที่ 34   ขอบคุณครับน้าๆ ที่มาให้ความรู้อ่านไม่หมดเลยครับ เดี๋ยวค่อยๆไล่อ่านอีกรอบ จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 15:12:57

ความคิดเห็นที่ 35 มาช่วยเป็นกำลังใจให้อีกรอบ ภาพตัวอย่าง จากคุณ : julapolb (julapolboon) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 15:15:23

ความคิดเห็นที่ 36 ผมตั้งโอโต้ WBตลอดครับ ส่วนวัดแสงนั้นส่วนมาทดลองยิงก่อนครับ จากคุณ : ครูชายที่ชายแดน เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 07:30:54

ความคิดเห็นที่ 37 1ถ่ายหลุด -  หมุนจนตาเริ่มเหล่ แล้วจะแม่นขึ้น 2วัดแสงพลาด -  zone system + histogram เลยครับ ถ้าไม่ calibrate จอก็เชื่อได้ครึ่งเดียว พอดีที่เราแต่อาจไม่พอดีที่จอคนอื่น อาจต้องหา macbook pro มาใช้ อิอิ 3wb เพี้ยน - custom wb ชัวร์ที่สุดครับ แสงจากหลอดไฟนี่ตัวดีเลย 4มุมมองห่วย - อันนี้แล้วแต่ประสบการณ์ ตากล้องบางคนจัดเหมือนถ่ายรูปติดบัตร แต่ก็ออกมาสวยได้ จากคุณ : jaycee เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 10:35:45