ความคิดเห็นที่ 1 มันเป็นงานศิลปะ จากคุณ : PowerBerry เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 11:36:14

ความคิดเห็นที่ 2 core i7 เลยครับ เพื่อการตัดต่อโดยเฉพาะ.. จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 11:36:55

ความคิดเห็นที่ 3   อยู่ที่สเปกเครื่อง และการ์ดจอครับ  + ความสามารถของผู้ใช้อีกหน่อย จากคุณ : เด็ดดอกฟ้าสะเทือนถึงดวงใจ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 11:46:07

ความคิดเห็นที่ 4 1. แต่ละช็อต ถ่ายยาวไม่เกิน 30 วินาที ควบคุมให้ได้ 15-20 วินาที จะดีที่สุด 2. แต่ละช็อต edit ให้เหลือความยาว 6 วิ เท่านั้น ถ้าจะลากยาว ให้ยาวสุดได้ไม่เกิน 10 วิ 3. ควรมีช็อตที่ edit แล้วยาว 3-4 วิ เข้าแทรกเป็นระยะๆ เพื่อกันความ"น่าเบื่อ" ถ้ากดมารวดเดียว 1 ชม แล้ว edit ให้เหลือ 20 นาที ... มันเป็นการไม่ได้ "คิดก่อนถ่าย" ... เมื่อไม่ยอมคิดก่อนถ่าย ก็ต้องคิดหลังถ่าย&แก้ปัญหาไปเรื่อยๆ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 11:59:50

ความคิดเห็นที่ 5 หลักการเวบาทำหนังจะมีเวลาของ climax อยู่ที่ประมาณ นาที ที่ 40 ครับ เพาะว่า เวลาเดินเรื่องก้อจะมันต้องมี ปูเรื่อง ใส่เรื่องที่สอง สาม สี่ แล้วก้อ ลูกเล่น มากมาย แต่เนื้อๆแล้ว ถ้าอยากครองความสนใจของคนดูได้ต้องมีจังหวะครับ เช่น ทุกๆ 20 นาทีก้อใส่เหตุการที่ตื่นเด้นลงไปเพื่อกระตุ้น ลองดูหนังผีครับ พวก จูออน หรือ saw อะไรงี้ก้อได้ แล้วลองนั่งจดเวลาดูว่า ทุกๆกี่นาทีจะมีเหตุการณ์ที่ตื่นเต้นขึ้นมา ประมาณนี้ครับ ส่วนอันที่ต้องตัดทิ้ง มันเป็นธรรมดาครับ บางทีผมก้อไม่ได้ใช้ แต่ต้องคิดไว้เสมอว่า มีเกินที่กว่าขาดนะครับ เพราะการถ่ายหนังแล้ว มันจะเสียเวลามากถ้าต้องออกไปอีกครั้ง อีกวิธีคือ คิดให้หนักเลยคับ ตั้งแต่แรกว่าจะเอาอะไรไว้ไหน ตอนไหน แล้วก้อ คิดถึงว่า ถ้าเกิดช๊อตนี้ไม่ดี จะเอาช๊อตไหนมาเสริมได้บ้าง พอคิดว่าเสดแล้ว มานั่งเล่าเรื่องกันอีกทีครับ นั่งเล่าตาม สตอรี่บอร์ดเลย ใส่อารมณ์ด้วยครับ เพราะมันจะกระตุ้นให้ไอเดียมันเพิ่มขึ้น ถ้าเห็นว่า ช๊อตยาวๆจนดูแล้วเบื่อ ก้อใส่ อินเสิร์ทเลยครับ เสียงวิ่งอยู่แต่ตัดภาพไปเป็นอย่างอื่นบ้าง ทุกนาทีก้อได้ ผมว่า ไม่ควรเกิน นาที ถ้าเป็นไได้ หาอีกกล้องนึงเลยครับ แต่เปลี่ยนมุม แค่นี้ก้อได้การครองคนดูให้อยู่กับคุณได้อีกครับ งานหนักไม่กี่อึดใจในตอนแรก ทำให้ผลงานเราดีขึ้นไปอีกครับผม สู้ๆครับ อย่าท้อ จากคุณ : ต้นค้าบบบ (arlarmTon) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:15:30

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับผมทำความเข้าใจงานให้มากๆ ก่อนตัด จากคุณ : bluesoul เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:21:56

ความคิดเห็นที่ 7   แนะนำให้ดูงานของฝรั่งนะครับ อย่างของ ทิม เบอร์ตัน  พี่แก ใช้สต๊อปโมชั่นทีละเฟรม กว่าจะเป็นหนังสักเรื่องนี่ ล่อไปเกือบปี ค่อยๆขยับหุ่นดินน้ำมัน ไปทีละก้าว แล้วถ่าย แล้วมาต่อทีละช็อต ถ้าหวังจะทำอะไรลวกๆ ง่ายๆ  ...ลองดูคนที่ทำงานเพราะใจรักก่อนนะครับ ผลที่ได้ออกมามันต่างกันมาก จากคุณ : เด็ดดอกฟ้าสะเทือนถึงดวงใจ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:39:01

ความคิดเห็นที่ 8 เขียนสคริป แล้วถ่ายตามสคริปท์ ^^ จากคุณ : Jumping Monkeyy เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:46:54

ความคิดเห็นที่ 9 1 ชั่วโมงติดต่อ 10 เท่าของเวลาถือว่างานเบานะครับน้า งานโฆษณาตามทีวีหรือแม้แต่หนังซักเรื่องนึ่งเนี่ยตัดต่อกันเป็นเดือนเป็นปีนะคร้าบบบบบบ จากคุณ : snoom เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:50:10

ความคิดเห็นที่ 10 การถ่าย VDO ก็เหมือนการถ่ายภาพแหล่ะครับ ต้องคิดก่อนถ่าย เพราะฉะนั้นการที่จะหยิบกล้อง VDO ออกไปถ่ายเป็นเรื่อง เป็นราว จึงต้องมีการทำ Story board ก่อน โดยในแต่ละช๊อต ปกติถ้าไม่ให้ดูจนง่วง ก็ใช้เวลาบันทึกราวๆ 15-30 วินาที เท่านั้น และเมื่อนำแต่ละตอนมาร้อยเรียงกันเป็นเรื่องๆเดียว ดูแล้วจะไม่รู้สึกเบื่อหน่าย มันขึ้นอยู่กับวิธีนำเสนอเรื่องราวน่ะครับ จากคุณ : the เด็ก เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:08:33

ความคิดเห็นที่ 11 งานส่วนใหญ่ ต้องใช้ความคิดความรอบคอบก่อนการลงมือทำครับ อย่างจะแต่งเพลง แต่งทำนอง สร้างเกมสักเรื่อง... อย่างเรื่องหนังนี่ ผมว่า ตามที่น้าแมวบอกว่าทำเป็นชอตสั้นๆ edit เสร็จแล้วเอามารวมกัน หรือแทรก  ผมไม่เข้าใจแต่เดาว่าคงหมายถึงเอางานที่สำเร็จในตัวมันเอง ที่เป็นส่วนๆ แต่มีมุมมองคนละมุมมอง หรือ แตกต่าง (ตามที่จะเห็นได้ทั่วไปในหนัง ที่ไม่ใช่ละครหลังข่าว ที่มีอย่างมาก 3 มุมกล้อง ตัดไปมา) ซึ่ง ชอตสั้นๆ เหล่านี้ เราจะถ่ายทำ หรือ จะตัดแต่งได้ แสดงว่า เราต้องหั่นเรื่องของเราเป็นส่วนๆ เล็กๆ ได้ก่อน และเราต้องมองให้เห็นภาพของทั้งเรื่องก่อนเลยว่า ช่วงนี้ เรื่องเป็นอย่างนี้ๆ  แต่เราจะให้สายตาคนดูได้เห็นหลังพระเอกบ้าง ใต้้โต๊ะบ้าง หรือ มุมมืดๆ ที่มัน abstract บ้างให้ คนดูไม่เบื่อและ ..โดยส่วนใหญ่ ก็น่าจะมีการแทรกสัญลักษณ์ หรือ ปรัชญาอะไรลงไปในเฟรมสั้นๆ เหล่านั้นด้วย ออกตัวว่าพล่ามตามความเข้าใจนะครับ และการแบ่ง/วางแผนการทำงาน จะทำให้เรารู้ว่าเราอยากจะถ่าย หรือ สื่ออะไรออกมาตั้งแต่ต้น ที่สำคัญมากๆ มันจะเป็นการแบ่งตัวเนื้องาน หรือ ไฟล์ ที่ต้องจัดการลงไปได้ด้วย ทำให้ไม่ต้องโหลดงานใหญ่ๆ ลงคอม เพื่อจัดการในครั้งเดียว อะไรแบบนั้นครับ งานก็จะไวขึ้นได้ และอาจจะยาวไปถึง การแบ่งงานให้หลายๆ คนช่วยทำได้ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : HANDYHUNG เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:11:14

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อก่อนก็บอกว่า core 2 duo เอาไวัตัดต่อ ลงทุนซื้อมาใช้ก็อืด ตอนนี้บอกว่า core i7 อีกละ core 2 duo มันทำงานพวกนี้ไม่ไหว -*- พอเราเก็บตางซื้อ core i7 ได้มันก็จะบอกว่าอันนี้ช้าไปต้อง i14 จากคุณ : leetaesok เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:16:30

ความคิดเห็นที่ 13 1.ถ้าเป็น"เรื่อง"ที่มีการวางแผนแน่นอน คำตอบ คือ สตอรี่บอร์ด 2.ถ้าเป็นงานแบบ แต่งงาน สังสันท์ บวช วันเกิด ดู คห.4 ครับ 3.ถ้าเป็นงานท่องเที่ยว ถ่ายเรื่อยเปื่อย ก็เลือกเฉพาะชอร์ทที่สำคัญ และที่สำคัญกว่า คือ ภาพไม่สั่นไหว โฟกัสเยี่ยม ไม่แพนไปแพนมาจนคนดูเวียนหัวก็น่าจะพอแล้วครับ จากคุณ : ครูศิลปะ50 (ครูศิลปะ50) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:36:23

ความคิดเห็นที่ 14 VDO ของผม เป็นการเก็บเรื่องราวในงานครับ (งานศพยาย) เหตุการณ์ 5 วัน - ถ่าย shot ละ 10-20 วินาที  รวม 1 ชั่วโมง ยุบให้เหลือไม่เกิน 40 นาที รวมกับภาพนิ่งด้วย เพราะมันจะมีบางฉากที่ต้องถ่ายกระดาน พวงหรีด สติกเกอร์ชื่อหน่วยงานที่ติดรถตู้  ซึ่งมันอยู่นิ่งๆ อยู่แล้ว เลยถ่ายภาพนิ่ง เอามา Pan ด้วยโปรแกรม การเคลื่อนไหว smooth ชัดกว่า Hidef (เล่นดึงจากไฟล์รูป 8Mpix เลยนี่) เนื้อหาจบแล้ว ก็มี MV ประกอบด้วย ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าใครจ้างผมไปถ่าย VDO มีหวังรองานจนลืมแน่ๆ เลย จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:42:23

ความคิดเห็นที่ 15   ต้องการเน้นอะไร อะไรเป็นไฮไลท์ ลิตมามีกี่ชอต แล้วค่อยมาเรียบเรียง ไม่ถึง 40นาทีอยู่แล้ว อยู่ที่สาระที่จะนำเสนอ ลองดูอย่างเรื่องจริงผ่านจอ หรือรายการอื่นๆ ที่สรุปข่าวสิครับ นั่นก็เหตุการณ์หลายวัน หลายช่วงเวลาก็สรุปมาสั้นๆ 10-15นาที แถมต้องถ่ายเพิ่มเหตุการณ์จำลอง แนะนำให้ไปวางแผนก่อน คิดก่อน อะไรไม่จำเป็นก็ตัดทิ้งไป พวงหรีดคงไม่จำเป็นต้องทุกพวงหรอก .... จากคุณ : เด็ดดอกฟ้าสะเทือนถึงดวงใจ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:45:41

ความคิดเห็นที่ 16 เบื่อการตัดต่อ .. มีเทคนิคดีๆ ในการจบงานตัดต่อเร็วๆ ไหมครับ อยู่ที่ใจครับ.... ถ้าเรารักงานที่เราทำ จะทำให้เรามีความสุข และงานก็จะไม่รู้สึกเบื่อครับ จากคุณ : ลิงหน้าหมู เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 14:32:12

ความคิดเห็นที่ 17 ผมไม่เคยถ่ายเป็นเรื่องเป็นราวนะ  แต่มีโอกาสได้ตัดต่องาน บ่อยอยู่เหมือนกัน จากประสบการณ์ที่ตัดต่อมา บอกได้อย่างนึงว่า อย่าถ่ายต่อเนื่อง เอาเป็น Shot สั้นๆ จะช่วยในการตัดต่อได้เยอะ จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 14:41:44

ความคิดเห็นที่ 18 เล่าเรื่องให้กระชับ อย่าเสียดาย Footage คนตัดต่อส่วนมากไม่ค่อยเสียดายฟุจเทจนะครับ สนุกกับการตัดต่อ แล้วจะเล่าเรื่องได้เก่งๆ จากคุณ : jack_xstream เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 15:05:46

ความคิดเห็นที่ 19 >เป็นปัญหาครับถ้าคนถ่ายกับคนตัดต่อไม่เข้าใจกัน หรือมีคอนเส็ปในมุมมองที่ต่างกัน ผมใช้วิธีให้คนถ่ายมานั่งดูตอนผมตัดต่อแล้วอธิบายตรงนั้นเลย พร้อมทั้งอธิบายเหตุผลว่าทำไมผมต้องตัดแค่นี้ หรือผมอยากได้ตรงใหนเพิ่ม พอคนถ่ายกับคนตัดมีมุมมองไปทางเดียวกันแล้วงานต่อไปจะง่ายขึ้นมากครับ.... แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 17:11:07 จากคุณ : theletter14 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 17:10:23

ความคิดเห็นที่ 20 อีกเรื่องคือ อย่าเสียดายครับ อยากจะมี นู่น มี นี่ ถ่ายมาแล้วไม่เอาลง กลัวเสียดายของเปล่าๆ พวกนี้มันจะทำให้ยาวขึ้นโดยไม่จำเป็นครับ ถ้าเอาแต่เนื้อๆมาเลย น่าสนใจกว่า น้ำเยอะๆแน่นอน จากคุณ : GooGooDoll เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 19:02:38

ความคิดเห็นที่ 21 มานั่งเรียนด้วยคนครับ ประสบการณ์ ผมคัดชอทเด็ด มาทำไตเติล ให้ผู้ชมเลือกตอนที่ต้องการชมเอง ถ้าไม่เลือกก็เล่นต่อเนื่องไปจนจบ การแบ่งตอนอย่างเช่นงานบวช - ขอขมา-ปลงผม - อาบน้ำนาค-แต่งนาค - ทำขวัญนาค - แห่นาค - อุปสมบท - จบทิ้งท้ายซึ้ง ๆ ทำเป็นดีวีดี. คุณภาพไม่ลดลงมาก แบ่งตอนง่าย ดูสบาย ๆ ไม่อยากดูก็ข้ามไปได้เลย เพราะเจ้าภาพก็อยากดูแขกไปร่วมงานและเหตุการณ์ช่วงนั้น ๆ ซึ่งเจ้าภาพไม่ได้เห็นทุกขั้นตอนด้วย ถูกหรือผิดอย่างไรขอรับคำชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณความรู้ความเห็นข้างต้นทุกท่าน จากคุณ : gs33dv เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 22:17:22

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาเก็บเกี่ยว จากคุณ : จั๊กกะจี๋ เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 00:29:46

ความคิดเห็นที่ 23 ลองอ่านดูครับ มืออาชีพอยู่ที่ไหน จาก http://www.thaidv.net/ ถ้าวันหนึ่ง งานของคุณไม่ต้องแก้ไขข้อผิดพลาดเดิมซ้ำซาก ถ้าวันหนึ่ง งานของคุณได้รับ คำชมมากกว่าคำติ ถ้าวันหนึ่ง คุณแก้ไขงานให้ฟรี เมื่อความผิดพลาดเกิดจากคุณ ถ้าวันหนึ่ง ลูกค้าวิ่งมาหาคุณ เอาเงินมากองตรงหน้า อ้อนวอนขอให้คุณทำงาน โดยไม่ต่อรองราคา ถ้าวันหนึ่ง คุณสนุกกับงานโดยไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่รู้สึกอะไรเลย เมื่อได้ยินคำว่า มืออาชีพ หรือ สมัครเล่น แค่ยักไหล่กับคำพูดไร้สาระ แล้วก้มหน้าทำงานต่อไป ถึงวันนั้นเมื่อไหร่ คุณจะเป็นยิ่งกว่า มืออาชีพ เสียอีก ... ถ้าคุณยังใส่ใจกับคำพูดปรักปรำว่า ไม่เป็นมืออาชีพ ที่เขายกมาเป็นข้ออ้างในการต่อรองราคา หรือที่เขาใช้เพื่อเอารัดเอาเปรียบคุณ แปลว่า คุณก็ยังไม่เป็นมืออาชีพอย่างเขาว่านั่นแหละ จงยิ้มน้อมรับทุกคำพูดติชมจากลูกค้า จบการติดต่อธุรกิจด้วย ความสันติ ทิ้งร่องรอยแห่งมิตรภาพให้เขาจดจำ มืออาชีพ มีความหยิ่งพอที่จะไม่ใส่ใจกับการเอาเปรียบ มืออาชีพ ฉลาดพอ ที่จะไม่เสียเวลานานกับ ความผิดหวัง มืออาชีพ อ่อนไหวได้ แต่ไม่เคยอ่อนแอ มืออาชีพ ... แล้ว สักวันหนึ่ง คนที่เอาเปรียบคุณ เขาจะเสียใจ ที่เคยเอาเปรียบคุณ สักวันหนึ่ง เขาจะซมซาน กลับมาคุกเข่าขอรัองให้คุณช่วย สักวันหนึ่ง... ในวันที่คุณก้าวสู่ความเป็นยิ่งกว่า มืออาชีพ เขาจะกลับมาสารภาพบาปนั้นเอง ขอให้คุณเดินทางถึงวันนั้นในที่สุด และขอเป็นกำลังใจให้ครับ ... มืออาชีพ ก็เหมือน คำชม นั่นแหละ เป็นคำที่มีค่าเมื่อ คนอื่นพูดถึงเรา ไม่ใช่คำที่เรา พูดถึงตัวเอง คุณค่าแท้จริงของ คำชม อยู่ตรงที่ มันหลุดออกมาจาก ปากคนอื่น ไม่ใช่ ตัวเราเอง รักจะเป็นมืออาชีพ จง ทำงาน ทำงาน ทำงาน และทำงาน แล้วสักวันจะประสบความสำเร็จ ก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพด้วยการตั้งใจทำงานจริงจัง ขอรับ สรุป กฏของมืออาชีพ คือ อย่าไปแคร์กับคำว่า มืออาชีพ มืออาชีพ ไม่มีเครื่องมือตรวจวัด มืออาชีพ ก็แค่ รู้สึกไปเอง "มันไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากความคิดของเธอเอง" ... จากคุณ : Video Mania เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 15:17:17