 |
ความคิดเห็นที่ 9 |
ปรากฎการณ์ มีชื่อว่า R a i n b o w C l o u d s 'เมฆสีรุ้ง'
มี ชื่อเรียกทั่วไปว่า irridescent clouds ภาษาทางวิทยาศาสตร์ เรียกว่า Irisation คือมันเป็นการเกิดสีบนเมฆ ต่างหากจาก ทรงกลดแบบที่เรียกว่า โคโรน่า พวกเฮโลกับโคโรน่านี่เป็นวงกลมอยู่ใกล้แหล่งกำเนิดแสงคือ ดวงอาทิตย์ หรือดวงจันทร์ โคโรน่า จะเป็นวงรัศมีประมาณไม่เกิน ๑๐ องศา(นับจากขอบฟ้าด้านหนึ่งไปด้านตรงข้ามเป็น ๑๘๐ องศา) ส่วน เฮโล จะเป็นวงรัศมี ๒๒ หรือ ๔๕ องศา อันมาจากความแตกต่างของมุมหักเหของแสง ส่วน Irisation นั้น ไม่เป็นวง เป็นแต้มบนเมฆ และจะอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ ประมาณ ๕-๔๕ องศา จะเป็นสีอะไรก็ได้ แล้วแต่ขนาดของเม็ดน้ำ และระยะห่างระหว่างเม็ด เช่น ถ้าเม็ดน้ำอยู่ใกล้กันกว่าความยาวของคลื่นแสง(สีนั้นๆ) มันก็จะโอเว่อร์แล็พ(นึกภาษาไทยไม่ทันค่ะ ขออภัย)กัน แล้วทำให้ออกเหลือบๆดูเป็นสีแบบ metalic แต่บางครั้งจะเห็นเป็นแถบสีอย่างชัดเจนตามส่วนขอบของเมฆ ถ้าปรากฏการณ์นี้อยู่ใกล้ๆกับดวงอาทิตย์ มันก็คล้ายๆกับปรากฏการณ์ ทรงกลด นั่นแหละค่ะ แต่มันเกี่ยวข้องเฉพาะหยดน้ำในก้อนเมฆ ไม่ใช่หยดน้ำในอากาศทั่วไป(ซึ่งแห้งกว่า เลยไม่เห็นเป็นทรงกลดจริงๆ) เห็นเค้าว่า โดยทั่วไป เรามักจะเห็นเป็นสีม่วง กับสีชมพู คลื่นเมื่อมันหักเหแบบ diffraction ออกมาแล้ว มันก็ยังทำการ interference กันอีก แล้วแต่ว่าจะเป็น order ไหนของ interference เราดูได้จากสีของมันค่ะ แล้วก็ยังบอกลักษณะทางกายภาพได้ด้วยว่า หยดน้ำเล็กๆพวกนี้ มัน uniform (คือความเท่าๆกันของขนาดในกลุ่มหยดน้ำเหล่านี้) แค่ไหน หรือกำลังฟอร์มตัวขึ้นมา หรือกำลังระเหยไปอีก
... ยังไม่ค่อยมีการศึกษาเกี่ยวกับ meteorological optics กันมากเท่าไหร่ นักอุตุนิยมวิทยาส่วนใหญ่เชื่อกันว่ามันไม่ได้ช่วยการพยากรณ์อากาศอะไร เลยไม่ค่อยมีคนค้นคว้าเรื่องนี้มากค่ะ สาขาวิชานี้ เพิ่งมีคนเขียนหนังสือกันจริงๆ จังๆ ไม่มากเลยค่ะ ถ้าสนใจจริงๆ ขอแนะนำหนังสือชื่อ Sunsets, Twilights and evening skies โดย Aden & Marjorie Meinel ท่านทั้งสองได้ศึกษาด้วยตัวเอง และเป็นผู้บุกเบิกสาชาวิชานี้ท่านหนึ่ง Aden Meinel นั้น เป็นนักดาราศาสตร์คนสำคัญ ที่ออกแบบกล้องดูดาวสำคัญๆของโลกไว้มาก ที่สำคัญก็คือกล้อง Keck Telescope โดยเฉพาะส่วนที่เป็น interferrometry น่ะค่ะ ทั้งสองท่านมีบ้านอยู่ในทะเลทรายในรัฐอริโซน่า และเป็นผู้บุกเบิกการสังเกตการณ์ที่บอกให้ทราบว่ามี ภูเขาไฟระเบิด จากสีท้องฟ้าตอนตะวันตกดินน่ะค่ะ หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องปรากฏการณ์ทางแสงบนท้องฟ้าไว้มากเลย แต่ไม่มีเรื่อง irisation หรอก
... บางครั้งเค้าก็เรียกว่า Mother-of-Pearls clouds คือแบบที่ว่าข้างบนว่ามันเป็นสีแบบเมทาลิค คือออกเหลือบๆค่ะค่ะ คนเลยเรียกว่า เมฆลายมุข เพราะมันเหลือบเหมือนด้านในของหอยไข่มุข คำว่า irisation มีรากศัพท์จากคำว่า Iris ในภาษากรีก เป็นเทพธิดาแห่งรุ้ง เลยเอามาเรียกเพราะสีมันเป็นสีรุ้งไง
ที่มา เว็บไซส์ http://sci4fun.com/cloud/cloud.html
: )
จากคุณ |
:
skybrigde
|
เขียนเมื่อ |
:
2 มิ.ย. 53 18:44:46
|
|
|
|
 |