ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มจาก เมล็ด กาแฟ คั่วกลาง(คั่วเข้ม ไว้ทำกาแฟเย็น คั่วกลาง คั่ว อ่อนไว้ทำกาแฟ ร้อน) เครื่องบด.. ในที่นี้ผมใช้ มูลีเน็กซ์ ครับ..(จริงๆ  เครื่องบดกาแฟ โดยเฉพาะ จะดีกว่า.. แต่ว่าตอนนั้นยังหาซื้อไม่ได้.. เลยซื้อ แบบนี้มา แล้วด้วยความงก ก็จะใช้จนกว่ามันจะพัง) ป.ล.เพื่อนผมไปซื้อตามมา ยี่ห้อ ถูก ๆ ก็ใช้งานได้เหมือนกัน..สามร้อยกว่า ก็มีครับ.. ไม่ต้องเป็นห่วง ว่า กินกาแฟแบบ ไฮโซ จะต้องใช้เงินมาก.. เดี๋ยวตามผมมาเรื่อย ๆ (หลายกระทู้หน่อย) ก็จะ พบว่า.. กาแฟไฮโซ แต่ใช้งบยาจก ครับผม จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:39:35

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าจะไปหาซื้อ เครื่องปั่น มา..ก็สังเกตุ หน้าตาของ ถ้วยปั่นนะครับ..ใช้ได้หมด.. จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:41:07

ความคิดเห็นที่ 3 ลักษณะ กาแฟ คั่วกลาง..สีเค้าจะไม่ดำสนิท.. จะออก น้ำตาลบ้าง อย่าบดเยอะ ครับ เพราะบด เยอะ แล้วเหลือ เกินสองวัน กินไม่อร่อยแล้ว... แต่ถ้ามาเป็น เม็ด ๆ แล้วแช่ เย็นจัด ไว้..เก็บได้เป็นเดือน..แต่ พอบดแล้ว..จะไม่อร่อยในสองวัน.. (เป็นเหตุว่า บางท่านไม่ทราบ แล้ว บดทิ้งไว้ พอมากินจะไม่อร่อย) จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:42:53

ความคิดเห็นที่ 4 บดนานเท่าไร ก็ ประมาณไม่ถูก แต่ไม่กี่สิบวินาที หรอกครับ (แต่ไม่ถึงนาที).. ผมจะดูว่า พอ กาแฟ มัน เริ่ม ละเอียด มันจะเกาะ ฝาถ้วยบด สูงขึ้นมา..ตอนกดปั่น เราต้องเขย่า ๆ นิด หน่อยนะครับ..ไม่งั้นมันจะบดไม่ละเอียด เพราะ ปลิวขึ้นมาอยู่ขอบ ๆ เสียหมด... แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 21:05:06 จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:44:20

ความคิดเห็นที่ 5 พอเขย่า มันจะ ตกกลับไป โดนใบมีด สับ อีก.. ผมบด จน เห็นว่า ด้าน บน ๆ ของผงกาแฟ มันไม่ค่อยวิ่ง..แต่ด้านล่าง ยัง วิ่งอยู่ ก็มักจะเป็น ขนาด การบด ที่พอดี.. ถ้ายังไม่ชำนาญ ไม่เป็นไร เพราะ เรา แก้ไขได้.. สมมติ คุณบด หยาบไป กินแล้วจืด ไป..เอากลับมาบดใหม่ได้.. แต่ถ้าบดละเอียดไป.. เครื่อง ดันน้ำไม่ออก.. เพราะ ตัน.. ก็ให้บด หยาบ ๆ อีกล๊อต..เอามาผสมกัน.. มันจะกลับมาใช้ได้ครับ.. จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:46:16

ความคิดเห็นที่ 6 ขนาดเม็ดเกรน..ที่ผม ชอบ ที่สุด(รสชาติ) อยู่ราว ๆ นี้ครับ..(เอาเหรียญ สิบบาท ไว้เทียบ ขนาด) อย่างหนึ่งที่ให้สังเกตุ ว่าผงกาแฟ มีขนาด ไม่เท่ากัน.. ซึ่ง ถ้าใช้เครื่องบดกาแฟ..โดยเฉพาะ เราจะได้ขนาดของผงกาแฟ ค่อนข้างคงที่..(แต่เครื่องบด ราคา หลายหมื่นบาท คงไม่เหมาะกับ เรา ๆ ท่าน ๆ จะเอามาใช้ที่บ้าน แน่ นอน) ดังนั้น หรูสุดคงเป็น เครื่องบดแบบมือหมุน.. น่าจะให้ผลที่ดี..กว่า เครื่องบดแบบนี้..แต่ว่าตอนนี้ ..ซื้อมาแล้ว..ยังไงก็คงใช้ไปก่อนครับ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 16:50:38 จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:47:06

ความคิดเห็นที่ 7 อีกอย่าง ที่คนไม่ค่อยทราบ..ก็คือ Espresso นั้น จะต้อง Press ด้วย..คือ ต้องมี Stamper ที่มาพร้อมกับเครื่องชง (บางท่าน ทำหาย ไปนานแล้ว) เพื่อ อัด ผงกาแฟ ให้ แน่น(พอสมควร ไม่ถึงกับแน่น ปึ๊ก) เพื่อให้ ไอ้น้ำ ความดันสูง ผ่าน เนื้อกาแฟ ไป แล้วได้รสชาติ หอมหวล ร้านที่ชงไม่เป็น ใส่ผงกาแฟ แล้ว เข้าเครื่องเลย..นั้น.. คอกาแฟ ยกซดแล้วจะร้องว่า.. จ๊ากกก น้ำล้างแก้ว.. จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:54:02

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าอัดแน่นไป.. เครื่องชงถูก ๆ นี่ น้ำกาแฟ..จะ ไม่ออกเลย.. คงต้องเอาไปทิ้ง...(ทั้งเครื่อง ทั้ง กาแฟ ล้อเล่นน่ะ) แต่เครื่อง แพง ๆ (เป็นแสน บาท) เค้า อัด แล้ว ออกมาแบบ เข้มข้นสุด ๆ .. อยาก ลองมาก ว่า ถ้าขึ้นไปยืนบด ตัว Stamper ให้มันแน่น มาก ๆ แล้ว ยังจะออกมั๊ย..แต่ไม่มีใคร เอาเครื่องชง แพง ๆ มาให้ รีวิว สักที..(จะมีมั๊ย ล่ะเนี่ย) จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:55:48

ความคิดเห็นที่ 9 และแล้ว..อัดเพลิน..ไป เครื่องชง ถูก ๆ ที่ผมใช้ มันก็แทบ ไม่ หยด กาแฟ ออกมาเลย..ต้อง ลุ้น แทบตาย.. เครื่องนี้ ของพี่ชาย ซื้อมาจาก แม็คโคร.. สามพันกว่าบาท..เป็นเครื่องชงที่ใช้ตามบ้าน..แบบถูกสุด ที่ผมเคยเห็น..ใช้มา สามปีกว่า..ยังไม่พัง ถือว่าผ่าน แต่ว่า เครื่องพวกนี้ ความดันจะต่ำ.. ประมาณแล้วไม่น่าถึง สิบบาร์.. หม้อโมก้า..(ในกระทู้ก่อน) นั้นให้ความดันราว 3.5 บาร์ (ซึ่งผมชอบ เพราะกาแฟจะไม่ขม มาก) แต่ เครื่อง Espresso ดี ๆ จะให้ความดันเกิน 10 บาร์ (หรือ บางเครื่อง ตั้งได้ ให้สูง ๆ เพื่อ ทำกาแฟ พิเศษ) ส่วนเครื่องนี้ เท่าที่ผม ดู ๆ ด้วยตา น่าจะ เกิน 4 บาร์ แต่ไม่ถึง 8 บาร์ครับ จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:59:17

ความคิดเห็นที่ 10 หน้าตา เครื่อง..ขณะ โดนผม ทรมาณ..ด้วยการอัด กาแฟ แน่นเกินไป.. จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:00:07

ความคิดเห็นที่ 11 ทีนี้มาดูผลงาน.. กาแฟ ถ้วยนี้.. กดออกมา แล้วราว ๆ หนึ่ง ถึงสองนาที.. ฟองที่เคยฟูฟ่อง ก็หายไปเกือบหมดแล้ว..(เป็นตัวบอกเราว่า เครื่องนี้ความดันไม่ถึง..) เครื่อง เอสเปรสโซ แพง ๆ จะ ทำฟองได้ หนามาก ๆ แล้วก็ไม่ ฝ่อ ลงไปเลย..บางที ดื่มจนจะหมดแล้ว ฟองยัง ฟู ฟ่อง อยู่เลย(สงสัย ล้างแก้ว แล้ว น้ำยาล้างจานออก ไม่หมด หรือเปล่าน๊อ) อีกเรื่อง จะสังเกตุ เห็น ฟองมีสองสี.. นั่นเป็นตัวบอกว่า ผงกาแฟ นั้น บดความละเอียด ไม่คงที่ครับ.. แต่ถึงจะ ด้อยด้วย การบด ด้อยด้วยเครื่องชง แต่ว่า ประหยัด หน่อย..อีกอย่าง..อย่างน้อยผมก็เลือก กาแฟ อย่างพิถีพิถัน(และ งก หาแหล่ง ถูก ๆ หน่อย) ดังนั้น รสชาติ ก็ไม่เลวนัก รสชาติ จะสู้ เครื่องหลักแสนบาท คงไม่ได้..แต่ว่า เท่านี้ก็ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็นแล้วครับ.. จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:04:04

ความคิดเห็นที่ 12 ผมจะค่อย ๆ ลงตอนต่อ ๆ ไปเรื่อย ๆ (ตามแต่ ความขี้เกียจ) เพราะ จริงๆ มีวิธีชง อยู่ราว ๆ เจ็ด แปดวิธี..ที่ทำเองได้ในบ้าน ..(และ แน่นอน ไม่แพง)  แต่ถ้า ทำวันเดียว.. ทุกวิธี..เห็นทีจะต้องไปเกิดใหม่..(เผื่อจะผอมกว่านี้) เพราะ ต้องกินเข้าไปทุกแก้ว ด้วยความ งก.. และตะกละ.. ไว้พบกัน ทู้หน้าครับ.. สวัสดีครับ จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:06:36

ความคิดเห็นที่ 13   ติดตามอย่างใกล้ชิดครับ น้าHead SN ชงกาแฟดีๆ แบบ งบต่ำ นี้เข้าทางเลย  ครับ นี้ก้อเพิ่งได้ โมก้า แบบ 6 ถ้วยมา ยังไม่ได้ลองเลย จากคุณ : อั๋น อ่อนนุช เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:27:18

ความคิดเห็นที่ 14 แบบ หกถ้วย มันใช้ไม่เวิร์ค น่ะครับ.. ผมมีแบบ หนึ่ง สาม และ หก..แบบ หก มันต้มไม่ค่อยขึ้น.. ตัวที่ใช้บ่อยจะเป็นตัว สาม ช็อตครับ จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:40:17

ความคิดเห็นที่ 15   น่ากินจังครับ แต่ผมขี๊เกียจล้างนี่สิ จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:41:02

ความคิดเห็นที่ 16 ตามมากินด้วยคนครับ จากคุณ : imf41 เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 18:02:23

ความคิดเห็นที่ 17 อ่อ ถ้า ใช้ทุกวัน ไม่ต้องล้างครับ.. เอาไส้มา เป่า พรืดดด  กากมันจะ หลุดออกอีกทาง..แล้วก็ใช้ต่อได้เลย..(เซียน ๆ ท่านว่าไว้ ว่า ถ้าล้างมาใหม่ ๆ มันจะมีกลิ่นโลหะ.. ของอร่อย ๆ ต้อง ใช้โดยไม่ล้าง.. จริง ๆนะเออ) จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 18:21:44

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมากครับพี่ แจ่มจริงๆ ผมละพี่งร้านตลอด เคยได้กาแฟดีมา ฝากเขาบด เครื่องชงซื้อ พันกว่าบาทนิดๆ ที่ตักใส่แล้วเทน้ำด้านข้าง กลั่นเป็นไอมาเป็นน้ำร้อน พอซดแหลกไม่ล่า่ย ..  5555555+ สงสัยต้องหาชุดแบบพี่ถูกๆ ไว้ซักชุดแล้วละ รีบๆ รีวิวนะครับ ผมเห็นในบ้านผีสิงมีเครื่องบด เครื่องชงแบบเก่าๆ เยอะ ไม่รู้ว่าแพงกว่าบ้านเราไหม รอชมภาคต่อไปด้วยความระทึกในดวงหทัยครับ จากคุณ : liverpoolism เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 18:42:28

ความคิดเห็นที่ 19   ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถูกใจจริงๆ กินแล้วไม่ต้องล้าง ตกลงว่า กาแฟ สั่งซื้อจากเชียงใหม่ ห่อนึง200กว่าใช่มั้ยครับ แล้วคน ชงละครับ สั่งจากที่ไหน นอกจากขี้เกียจล้างแล้ว ยังขี้เกียจชงด้วยครับ อันนี้ชอบหวานๆครับ ขมไม่เอา  ฮิฮิ จากคุณ : ป่ากลางเมือง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 18:52:31

ความคิดเห็นที่ 20 .....มารับความรู้ครับ ทั้งบ้านผมทานกาแฟคนเดียว ได้รู้ขั้นตอนการชงกาแฟ .... จากคุณ : เขียวแก่ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 19:33:01

ความคิดเห็นที่ 21 มามุง เพราะผมกิน 3 in 1 เช้าละ 2 ซอง/แก้ว  (20กรัม/ 1ซอง)  5 บาทกว่า ๆ /วัน อิอิ จากคุณ : wat06 (HS6GDE) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 19:34:31

ความคิดเห็นที่ 22 โอ้ว หอมฉุยมาเลยครับ ผมคนนึงที่ชอบกินกาแฟสด แต่มันแพง นานๆกินที มาดูกระทู้นี้จุดประกายให้ผมไปหาอุปกรณ์มาปั่นชง กาแฟสดกินเองมั่งครับผม จากคุณ : ครูชายที่ชายแดน เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:04:25

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดี ทุกท่านครับ.. ที่ผมเอาเรื่องนี้ ขึ้นก่อน เพราะ สำคัญครับ..เนื่องจากกาแฟ นั้น หลังจาก บดแล้ว มันจะหมด กลิ่นหอม อย่างรวดเร็ว.. ดังนั้น.. ขั้นตอนการเตรียมกาแฟ  อย่างถูกต้อง นั้นสำคัญมาก กาแฟ ที่ ผมสั่งซื้อจากเชียงใหม่ คือ กาแฟ ดอยสะเก็ด..ราคา ซองละแปดสิบบาท.. น้ำหนัก สองร้อยห้าสิบ กรัม... แต่ถ้าซื้อ สี่ซอง ราคาเหลือ สามร้อยบาท..  หนึ่งซองกินได้นานพอสมควร.. ซื้อ สี่ซอง กินไปได้ เป็นสองสามเดือนครับ จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:26:58

ความคิดเห็นที่ 24 เนื่องจากต้องเก็บ นาน..ผมจะเอาเมล็ดกาแฟที่ได้มา... ใส่ไว้ในช่องฟรีท เพื่อเก็บได้ นาน ๆ นั้นส่วนหนึ่ง.. แต่อีกเหตุผล ก็คือ การบดกาแฟ นั้น.. จะเกิดความร้อนสูง.. แล้ว น้ำมันหอม มันจะระเหยไปส่วนหนึ่ง.. ดังนั้นการ แช่ ให้เย็น ก่อนบด จึงเป็นการถนอมกลิ่นหอม ของกาแฟ จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:30:52

ความคิดเห็นที่ 25 สำหรับ ผม ชอบสั่งกาแฟสด ๆ ที่คั่ว วันนั้น ออกขายวันนั้น..เพื่อ กลิ่นหอม รุนแรง..แต่สำหรับ ร้านกาแฟ แล้ว จะนำ กาแฟ ที่เพิ่งคั่ว ไปเก็บไว้ เฉย ๆ ก่อน ประมาณ หนึ่งสัปดาห์ เพื่อให้ กาแฟ คาย แก๊ซ ออกให้หมด ก่อน แล้วรสชาติ จะคงที่..   แต่ผมชอบ แบบ หอม มาก ๆ เลยนิยม คั่ว วันต่อวันน่ะครับ.. อันนี้แล้วแต่ชอบ อีกอย่างหนึ่งก็คือ การ ออกเสาะหา แหล่งซื้อกาแฟ กาแฟ ที่ผมชอบทาน มีตั้งแต่ กาแฟ จากโครงการหลวง..   จาก คณะเกษตร ม.ช. จาก ดอยสะเก็ด..หรือจาก ซุเปอร์มาร์เก็ต ใกล้บ้าน.. หรือแม้แต่ร้าน กาแฟ ที่ไปกิน ทุกวัน .. ล้วนมีเมล็ดกาแฟ คั่ว..ขาย..ให้เอามา ลอง กันจน ตาถลน.. เป็นการทำให้การเดินทางไปในทุกที่ มีสีสรร ไปอีกแบบครับ... เคยกระทั่งไป ถ่ายงานที่ อ.แม่แจ่ม.. แล้วเจองาน เกษตรแพร์ ยังไปเจอะ บูธขายเมล็ดกาแฟให้หอบกลับมาเป็นกิโล แล้วพอนาน ๆ ไปก็จะเริ่มชำนาญ ในการ พิสูจน์กลิ่นกาแฟ ดูลักษณะเมล็ด ดูระดับ การคั่ว ว่า เข้ม กลาง อ่อน..  เริ่มรู้ว่า กาแฟ จากประเทศนี้ มีจุดเด่นอะไร..และอื่น ๆ อีกมากมาย... ขอให้ ลองดูแล้วจะรู้ว่า.. มันสนุก ไม่แพ้ มือหมุนนี่แหละครับท่าน... จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:37:31

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนที่ ตอบกระทู้นี้ ก็ นั่งดื่มกาแฟ อยู่ในร้านกาแฟ..ครับ..(กินที่บ้านมาแล้ว ยังไม่วาย) และก็ มักจะ อาศัย เครื่องมือที่พร้อมกว่า ของร้านกาแฟ ทำสูตรต่าง ๆ ที่เราไปขโมย ชาวบ้านมา.. อย่างเช่นกาแฟ สูตรของผมที่ชอบทาน (นอกบ้าน) นั้นประกอบไปด้วย..กาแฟ อเมริกาโน หนึ่งช็อต แ้ล้วใส่ มะนาวฝาน บาง ๆ ลงไปให้กลิ่น หอมของน้ำมันจากผิวมะนาว กรุ่นขึ้นมา... ก่อนจะใส่ เหล้ารัมลงไปนิดหน่อย..   กลิ่นหอม และรสชาติ มันจะทำให้เรา กระปรี้กระเปร่า ไปได้อีกหลายชั่วโมงครับ. จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:40:41

ความคิดเห็นที่ 27   น้าHead SN หก ช๊อดของผมมันไม่ work แล้วมีทางแก้หรือป่าวครับ เนี๊ยะ ยังไม่ได้ลองเลย คงไปลองพรุ่งนี้ กาแฟอยู่บ้านพ่อ จากคุณ : อั๋น อ่อนนุช เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:45:26

ความคิดเห็นที่ 28 มันไม่เวอร์ค อยู่สองข้อครับ..คือ ตัวหม้อมันใหญ่ จน แรงดันน้ำต้มธรรมดา มันไม่ค่อยพอ.. ดังนั้น เวลาใช้ ใส่กาแฟให้เต็ม แต่ไม่ต้องอัด เพราะถ้าอัด แล้วน้ำกาแฟมันจะไม่ออก..  แต่ความดันมันจะเกิน แล้ว วาล์ว ฉุกเฉินมันจะ ระบายแรงดันออกมา.. (จะเห็นเอง) ไม่เวอร์ค อย่างที่สอง ก็คือ คุณกินคนเดียว..แต่ซัดเข้าไปขนาด หกคน ธรรมดากิน..(หรือ สามคน แบบติดกาแฟกิน) มัน แรงไป.. เดี๋ยวได้ วูบกันพอดี ขนาด หม้อ แบบ สามช็อต นั้น ตอนผม ต้มแรก ๆ แ้ล้วตะกละ กินเข้าไปคนเดียวหมด ยังมีเวียนหัว มึน เดินไม่ตรงทาง.. ดังนั้น กิน เข้าไป หกช็อต ไม่ดีแน่... ซื้อใหม่ครับ.. สี่ร้อย กว่า ๆ เอง.. อิ ๆ... อันนั้นก็เก็บเอาไว้ ปาร์ตี้ กัน.. ว่าง ๆ เจอกันหลาย ๆ คน ค่อย ขุดมาใช้ครับ... จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:54:59

ความคิดเห็นที่ 29 หลังจากกระทู้ที่แล้ว น้า head SN มากระตุ้นจนเกิดกิเลส ผมก็เลยต้องเก็บตังค์ซื้อเครื่องบดมือหมุน กะว่าจะเอาแบบ burrs เค้าว่ามันไม่เหม็นไหม้ดีครับ จากคุณ : ใต้ต้นหญ้า เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:05:58

ความคิดเห็นที่ 30 ถูกต้องครับ.. กูรู กาแฟ ได้สอนผมว่า.. เครื่องบดไฟฟ้า นั้นเกิดความร้อนสูง แล้ว น้ำมันหอมระเหยจะเสียไปบางส่วน.. กาแฟ อร่อย ต้องเครื่องบดมือหมุน..ฉันใด.. ภาพ สวย ๆ ถ่าย แล้วมีความสุข ก็ต้องใช้เลนส์มือหมุนฉันนั้น....     กรัก ๆ ๆ ๆ มั่วไปเรื่อยแระ... อ่า..อ่านทบทวนดู ... ลืม บอกไปเรื่อง.. ตายล่ะวา.. ลืมบอกไปว่า ทั้งหมดใช้เลนส์ Nikkor50 f1.2 + Tube ครับ...(แย่แว้ว ลืมไปได้) แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 21:13:51 จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:10:57

ความคิดเห็นที่ 31   เรื่องกาแฟนี่ ถูกใจผมจิงๆ  ขออนุญาต เซพนะน้าหัวสน จากคุณ : guru nop เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:57:20

ความคิดเห็นที่ 32 กาแฟ แก้วนี้.. แพง ง่ะ.. ตั้งพัน นึงแน่ะ.. คือ ตอนเอาเลนส์ ยัดเข้าทิ้ว.. ใส่แรงไป..(แล้วผม ก็ติดชิพ เองด้วย) คอนแทคมันครูด กับ หน้าสัมผัสของทิ้ว.. ชิพ ยูโรเกรด ราคาหนึ่งพันบาท.. ลาโลกไปหนึ่งตัว.. ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ (เพิ่งมาเห็น ตอนจะเก็บ กล้อง) แง๊ ๆ ๆ ๆ   กาแฟแก้วนี้..แพงมาก.. ฮือ ๆ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 22:48:23 จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 22:45:17

ความคิดเห็นที่ 33 ตามกลิ่นกาแฟแก้วละพันมาคะ ติดใจวิธีการทำกาแฟกับเกร็ดเล็กๆน้อยๆที่น้าบอก รอชมกระืทู้ต่อไปคะ แก้วละสองพันป่าวไม่รุ อิอิ ปล ขอสูตรกาแฟคาปูเย็นด้วยนะคะ เอาไว้จะลองไปทำดูบ้างคะ =) จากคุณ : สาวฮ่องกง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:05:20

ความคิดเห็นที่ 34 ได้ลิ่นกาแฟเลยครับน้า ว่าแล้วไปชงมากิน รอบอลดีกว่า จากคุณ : กบแก่ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:53:09

ความคิดเห็นที่ 35 อ่อ.. ฐานของกาแฟ สูตร หลัก ๆ จะอยู่ที่ เอสเพรสโซ่ครับ.. ถ้าเอา เอสเพรสโซ่ หนึ่งช็อต มาใส่น้ำร้อน เข้าไป เราจะได้ อเมริกาโน่.. ถ้าเอา นมสด(ต้องนม มีไขมัน นะ) มา สเปรย์ ด้วยหัวสตรีม..(ก้าน ๆ ที่ยื่นออกมาจากเครื่อง ชงน่ะ) จนได้ฟอง นม.. หนา ๆ นุ่ม ๆ ก่อน   แล้วค่อย ปั๊ม Espresso ลงไปใน ฟองนม..พอเสร็จ ให้เอาผง ชินเอมอน โรยด้านบน(หาซื้อตามซูปเปอร์มาร์เก็ต) เราเรียก คาปูชิโน(ร้อน) ถ้า กาแฟเย็น จะต้องเปลี่ยนเป็น เมล็ดที่คั่วเข้ม มาชง(เพื่อต้องการความขม ที่แรงกว่า กาแฟร้อน) และอาจ ต้องกด มากถึง 4 ช็อต..ตอนร้อน ๆ อยู่ให้ใส่น้ำตาล สักหน่อย ก่อน..(ถ้า จะปรุงตอนเย็นต้องเตรียมน้ำเชื่อม)  แล้วก็ เอาฟองนมที่สเปรย์ เตรียมไว้.. นั้น ใส่ลงไป.. เคล็ดลับที่ กาแฟเย็นทั้งหลาย อร่อยนั้น เกิดจากความมัน หอม ของ นม..ซึ่งเท่าที่ผมแอบไป ดู ๆ แล้ว ปรากฏว่า ซัดกันทั้ง ครีมเทียม นมสด นมข้นหวาน นมข้นจืด....มิน่า มันถึงอร่อย(แต่อ้วน) ถ้ารู้ส่วนผสม แล้วคราวนี้ต้อง ชงแล้วปรับจน พอใจเองครับ.. ทริก ก็คือ ใช้เมล็ดกาแฟที่คั่วเข้ม..และก็ กด เอสเปรสโซ สองช็อต หรือสี่ช็อต มาเป็นฐาน.. ที่เหลือ ก็ปรุงด้วย น้ำตาล น้ำเชื่อม นมสด นมข้น นมข้นหวาน..ครีมเทียม แต่ คาปูชิโน ต้องมีฟอง.ดังนั้น บนสุด ต้องสเปรย์นม ปิดไว้ด้านบน ๆ และที่สำคัญ ต้องไปซื้อผง ชินเอมอน มาโรยหน้า ด้วย..(อบเชย กระมัง ผมไม่แน่ใจชื่อภาษาไทย) คือ ตามโรงแรม หรู ๆ พี่แก จะเอาเปลือก ไม้ (น่าจะไม้ชินเอมอน นี่ล่ะ)เป็น แท่ง ๆ มาเลย (อาจมี หุ้มฟลอยให้เป็นด้ามจับ) ให้เรามาคน แทนช้อน.. แล้ว กาแฟจะมีกลิ่น หอม มาก ๆ.. (แต่ เปลือง น่ะ.. จริงๆ  บดให้เป็นผงจะถูกกว่า แต่อย่างว่า ต้องหรู ไว้ก่อน) คาปูชิโน นั้นก็คือ เอสเปรสโซ่ แล้วสเปรย์นมเป็นฟองลงไป..ปรุงรส แล้วใส่ ผงอบเชย..นั่นเองครับ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 13:24:26 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 23:59:18 จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:56:02

ความคิดเห็นที่ 36 เอ่อ.. ป.ล. ประเดี๋ยวจะนึกว่า ผม ทำร้านกาแฟ.. ทั้งหมดเป็นสูตร อย่างง่าย ๆ นะครับ..ไว้ทำกินเอง.. ถ้า สนใจศึกษาเอง..ต้องไปเรียน..เป็น บาริสต้า(ผู้ชงกาแฟ) ซึ่งจะมีรายละเอียด เยอะกว่านี้ และ ดีกว่านี้มาก..อันนี้แบบ มวย วัด... มั่วเอา อ่อ..อีกเรื่อง สำหรับผู้ที่ กินกาแฟชง.. จนเบื่อ.. ลองไปหา คาราเมล..มา ใส่ลงในกาแฟ..(นิดเดียว..ครึ่งหยด ก็พอ ต่อหนึ่งแก้ว) กาแฟ โลโซของท่าน จะมีรสชาติ และกลิ่นเหมือนกาแฟไฮโซขึ้นทันใด..(สูตรลับจาก รุ่นพี่ผมอีกท่าน) จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 00:01:26

ความคิดเห็นที่ 37   ขอบคุณครับน้าHead SN ผมไม่ห่วงเรื่องกินนะครับ ปกติกินกาแฟแทนน้ำ อิอิ กลัวแค่แรงดันไม่พอ  แต่ได้ ทริก ที่น้าว่ามา จะลองทำดูครับ เข้าคลังเลยดีกว่าครับ สุนทรียะแห่งการดื่มกาแฟ เลยนะ จากคุณ : อั๋น อ่อนนุช เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 00:10:44

ความคิดเห็นที่ 38 ถ้าจำเป็นต้องใช้ หม้อ 6 shot จริง ๆ ก็อย่าบด กาแฟละเอียดมาก นัก..และก็ไม่ต้อง อัดครับ.. ใช้ไฟแรง กว่าปรกติ หน่อยนึง.. ตามนั้น..ครับ จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 12:27:31

ความคิดเห็นที่ 39 อย่างนี้มันต้อง ชง !! จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:00:18

ความคิดเห็นที่ 40 โอ๊ะลืม E-300 + OM 50/1.8 ครับ จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:02:00

ความคิดเห็นที่ 41 ผมใช้หม้อ Moka ขนาด 3 แก้ว ใช้ชงกาแฟเย็น จะพอดีเป๊ะ 1 แก้วขนาดที่ร้านทั่วไปขายเลยครับ ปกติ ชงกาแฟเสร็จ ก็เติม นมข้นหวาน 2 ช้อนโต๊ะ คนให้ละลาย + นมสดตามชอบ ใส่น้ำแข็งได้เลยครับ หรือสูตรแบบฝรั่ง (ไม่ใส่นมข้นหวาน) ก็เอากาแฟที่ชงเสร็จ ใส่น้ำเชื่อม (ทำเอง = น้ำตาล + น้ำ เท่าๆกัน อุ่นให้ละลาย )  ใส่นม ใส่น้ำแข็งได้เลย เอาไว้มีโอกาส จะทำมาประชัน กับ จขกท บ้าง ;-) จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:07:07

ความคิดเห็นที่ 42 ตั้งกระทู้ รวมพล คนรักหม้อ(โมก้า)ดีมั๊งเนี่ย...... ป.ล. ลืมพูดถึง ไลท์ครีม..ที่เอาไว้ปรุงกาแฟ ทั้งเย็น และร้อน.. อันว่า ไลท์ครีมนี้ ให้เอา นมสด หรือนมข้นจืด..มา อุ่นให้ร้อน(ในไมโครเวฟ จะสะดวกสุด เพราะ นมนั้น ถ้าต้มตรง ๆ จะมีกลิ่นเหม็นไหม้.) บางท่านจะต้มน้ำให้เดือด แล้วเอา นม ใส่ภาชนะ อีกอันลงไปอุ่นเอา.. (ห้ามต้ม นม ตรง ๆ) พอนมร้อน แล้ว..ก็เอา คอฟฟี่เมต ใส่ลงไป เท่า ๆ กัน.. ท่านก็จะได้ไลท์ครีม..(ผมเรียกว่า ครีม ซูปเปอร์ มัน) ต้องเก็บในตู้เย็นนะครับ..มันเสียง่าย.. แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 13:13:50 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 13:11:13 จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:10:07

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณครับ สำหรับความรู้   อบเชยนี่ฝรั่งชอบมาก ไม่รู้เป็นไง ทำขนมอะไรก็ใส่แทบทั้งหมด จากคุณ : Manucer เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:27:40

ความคิดเห็นที่ 44   เย็นนี้ จะไปกินกาแฟสด สักถ้วย จากคุณ : Centurymai เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:50:46

ความคิดเห็นที่ 45 อ่า..วิธี ชิมกาแฟ ให้หอม.. กรุ่น.. นั้น.. อันดับแรก .. เมื่อจิบเข้าไปคำแรก.. กลั้วให้ทั่วปาก..แล้ว ถ่ม ออกมาก่อน(แต่ถ้าคนเยอะ ๆ ก็ ไม่ต้องหรอกครับ..) แต่วิธีกิน ก็คือ เมื่อกาแฟ ที่เราจิบ แตะปลายลิ้น แล้วก็ เอากลั้วให้ทั่วปาก.... จากนั้น กลืนลงไป แล้วก็หายใจ ออก..ยาว ๆ.. จะได้กลิ่น และรส.. อย่าง อิ่มเอิบ..     และ พวก เอสเพรสโซ่ นั้น ให้ลองจิบ แบบนี้ดู.. โดยยังไม่ต้อง ปรุงใด ๆ ..  ไม่แน่ว่า กาแฟถ้วยต่อ ๆ ไปของคุณ อาจจะ เลิกใส่ สิ่งใด ๆ เช่น น้ำตาล และครีม ไปเลยก็ได้...(แต่ที่แน่ ๆ ควรจะใส่ แก้ว) ป.ล.(แล้ว ก็ป.ล.อีก) ที่อธิบาย เสียยืดดด ยาวววนี่ก็เหตุเพราะ สิ่งสำคัญก็คือ ความเข้าใจ ว่า อะไรเกิดเพราะสิ่งใด..เนื่องจาก การนำความรู้ใด ๆ ไปใช้นั้น จำต้องปรับเปลี่ยน และ ปรับปรุงให้เข้า กับ ที่ ๆ นำไปใช้ด้วย.. ดังนั้นสิ่งที่ผมบอกไป ไม่จำเป็นต้องทำให้เหมือน นะครับ.. ขอให้ไปปรับให้เข้ากับรสนิยม..อุปกรณ์ สถานะการณ์ .. ขอให้มีความสุขกับการ ดื่ม..และการ หมุน... ทุก ๆ ท่านครับ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 14:11:15 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 14:09:35 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 14:06:16 จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 14:03:13

ความคิดเห็นที่ 46 ว๊าก ขอโทษที่เพิ่งโผล่มาพร้อมกับคำถามครับ ไม่รู้ว่าทันรึเปล่า? อยากถามว่าหม้อ Moka 3 shots ของจีนที่เห็นขายๆกันต่ำกว่าห้าร้อยนี่มันใช้ดีทนคุ้มค่า เมื่อเทียบกับอิตาเลียนแปดเก้าร้อย (อาจจะมีดีไซน์ตามสไตล์อิตาเลียโน่) มั้ยครับ คือซื้ออย่างไหนคุ้มกว่ากันครับ ถ้ามีงบไม่เกินพัน แล้วชงกับ Moka กดกาแฟยังไงนะครับ? ส่วนสูตรของท่านอาจารย์ เฮดฯ ..กาแฟ อเมริกาโน หนึ่งช็อต แ้ล้วใส่ มะนาวฝาน บาง ๆ ลงไปให้กลิ่น หอมของน้ำมันจากผิวมะนาว กรุ่นขึ้นมา... ก่อนจะใส่ เหล้ารัมลงไปนิดหน่อย.. ขออนุญาตยึดเลยนะครับ แค่ฟังก็หอมคลุ้งขึ้นมาแล้ว ขอบคุณมากๆนะครับ จากคุณ : demonnoom เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 16:01:56

ความคิดเห็นที่ 47 มีเรื่อง เล่า..(อีกแว้ว) ให้ฟังว่า.. หม้อโมก้านั้น มีอะไหล่ที่จะต้องเปลี่ยนอยู่บ้าง..ก็คือ ซีลยาง.. ที่คอยกักไอน้ำไม่ให้ รั่ว.. เป็น ซีลขอบถ้วย..(ตอนแยกส่วนมัน ลองมองเข้าไปที่ ด้านล่าง ของ ชิ้นบน) ผมใช้จนซีลมันเปื่อย.. แล้วหาอะไหล่ไม่ได้.. เลยฝากเพื่อน ๆ ดูให้.. อยู่มาวันหนึ่ง.. คุณตะวัน...เจอซีลยางนี้มีขายที่ สยามพารากอน.. ด้วยความใจดี..ท่านเลยซื้อมาฝากผม ยี่สิบอัน.. (เพราะมันอันละสิบกว่าบาท) คุณตะวันก็ถามผมว่า แล้วอันนึงใช้ได้ นานหรือไม่...(ด้วยเกรงว่าจะซื้อมาไม่พอใช้) ผมก็ตอบไปว่า ขอบพระคุณมากครับ.. ซีลยางอันนึง ผมใช้อยู่ราว สิบปีเศษ ๆ กว่ามันจะเปื่อย... ตอนนี้มี อยู่ ยี่สิบอัน.. ผมก็จะมีใช้ไปอีกสองร้อยกว่าปี.. ขอบคุณมากคร๊าบบบ ป.ล. หม้อ จีนที่คุณซื้อมา ถ้าคอยเปลี่ยน ซีล เรื่อย ๆ (ทุก ๆ สิบปี )ผมคิดว่า มันจะอายุยืนกว่า เรา ๆ ท่าน ๆ อีกครับ ป.ล. สอง..ถ้าหม้อโมก้า 1 shot กด นิดหน่อย..  ส่วน 3 shot นี่ ถ้าบด ละเอียด ๆ แล้ว ไม่ต้องกด เลย.. หรือ กดก็เบา ๆ คับ..เพราะ ความดันหม้อพวกนี้ไม่สูงเท่าไหร่ แต่ถ้าพวก 6 shot นี่ ไม่ต้องกด มันก็ยังไม่ค่อยยอม ถ่มกาแฟ ออกมาให้กินเลย.. ป.ล. แต่กาแฟ ต้องใส่ให้เต็มที่บรรจุ นะครับ..ถ้าเหลือช่องว่างไว้ น้ำร้อนมันจะขึ้นไม่ดี.. รสชาติ จะดี..กาแฟ ต้องเต็ม ที่บรรจุ.. จะอัด หรือไม่อัด ให้ไปปรับใช้เอา ..แต่หลักสำคัญของหม้อโมก้าคือ กาแฟต้อง เต็มที่บรรจุพอดี.. แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 19:06:30 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 19:04:50 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 17:05:48 จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 16:50:56

ความคิดเห็นที่ 48 หม้อจีนที่ใช้อยู่ ก็ใช้ได้ดีนะครับ เพียงแต่ผมไม่เคยมีหม้ออิตาลี่ ซะด้วย แต่เมื่อเทียบดู factor ในการชงด้วยหม้อ Moka มันไม่น่าจะมีปัจจัยอะไรที่จะทำให้ กาแฟที่ชงด้วยหม้อ 2 ประเทศนี้จะแตกต่างกันได้นะ อ้อ หม้อที่ว่า หมายถึงหม้อ Moka Pot นะครับ ไม่ใช่หม้ออย่างอื่น จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 17:01:57

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณนะครับ สำหรับคำตอบของน้าเฮดฯ และน้าอยู่คนเดียวฯ ใจผมก็เอียงไปทางหม้อจีนอยู่แล้ว เงินที่ประหยัดได้ไปลงกับเมล็ดกาแฟดีกว่า ส่วนเครื่องบดใช้เครื่องบดอาหารที่บ้านเอา หุหุ รอฟัง chapter ถัดไปพร้อมภาพประกอบอันสวยงามนะครับ จากคุณ : demonnoom เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 19:18:21

ความคิดเห็นที่ 50 ของผม espresso triple shot ทุกเช้า วันละสองแก้ว เปลืองมาก แต่อร่อย (ผมไม่ชอบการใส่น้ำตาลลงบนกาแฟร้อนทุกชนิด) จากคุณ : Mr.KiNg เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:20:47

ความคิดเห็นที่ 51 อูย ลืมดูกระทู้นี้ไปได้ไงเนี่ย  ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องกาแฟด้วยครับ จากคุณ : TKM เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 53 13:02:26

ความคิดเห็นที่ 52 ลืมโยน ไปกระทู้สอง..ขออนุญาต ใส่ไว้ตรงนี้..(ใครอนุญาต ฟะ) http://www.pantip.com/cafe/camera/topic/O9404049/O9404049.html จากคุณ : Head SN เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 53 01:10:10