ไม่ใช่แค่มุมมอง แต่ต้องมีเนื้อหา ภาพถึงน่าสนใจ

พอดีไปอ่านเจอคุณ wern22 คุยกับ คุณ tongfolio ที่ link นี้นะครับ
http://wern22.ไม่อนุญาตให้โฆษณา/journal?&page_start=40

เขาพูดกันถึงมุมมอง แล้วคุณต้องก็แนะนำคุณเหวินไป เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างไม่มากก็น้อย เลยนำมาเผยแพร่ให้อ่านกันครับ
เป็นคำสนทนาของมืออาชีพเขาครับ อิอิ ศึกษาไว้พวกเรา

(เพิ่งรู้ว่า copy link multiply มาตรงๆ แล้วระบบจะใส่เป็น "ไม่อนุญาตให้โฆษณา แป่วววว ทั้งสองอยู่ใน multiply นะครับ)
...
...
...

ขอเก็บ comments ระหว่างผมกับพี่ตองหน่อยนะครับ สิ่งที่พูดคุยกับพี่มาระหว่างทาง เป็นประโยชน์ต่อผมเองไม่น้อยเลยทีเดียว และอาจจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นซึ่งเดินทางเส้นนี้ร่วมกันอยู่ครับผม...
tongfolio said

มุมนี้สวยครับ นางแบบสวยดีครับ แต่ผมว่าวางเฟรมแน่นไปนิดนึงครับ..............
"หลังๆผมว่าผมยิ่งถ่าย ยิ่งไม่มั่นใจขึ้นไปทุกวันครับ" เพราะเม้นท์ของผมรึเปล่าครับ คงไม่ใช่นะ
ทำ ให้ผมลังเลที่จะเม้นท์ครับ เพราะไม่ใช่ความตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นครับ ติเพื่อก่อให้เห็นปัญหา
และหาทางแก้ครับ "ศิลปะไม่มี ถูกผิดครับ" มีแต่ "ดีกว่า งามกว่า" ครับ.......
ผมเห็นมาเยอะแล้วครับ "พรสวรรค์แพ้ พรขยันครับ".........................อีกนิดนะคนไทย :D
wern said
ผมตอบประเด็นนี้จากใจเลยนะครับว่า ทุกคอมเมนท์ผมยินดีรับฟังมากเลยครับ อยากฟังข้อเสียมากกว่าข้อดีซะอีกครับ พี่ตองไม่ต้องกังวลเรื่องการคอมเมนท์ของพี่ตองเลยครับ ผมกลับคิดซะอีกว่าที่พี่ตองมองงานผมหรือคอมเมนท์ข้อดีไม่ดีต่างๆกลับเป็น กำลังใจให้ผมซะมากกว่าครับพี่ แต่ที่ผมยิ่งถ่ายยิ่งไม่มั่นใจก็เพราะว่า ผมรู้สึกว่าตัวผมเองกำลังย่ำอยู่กับที่ อยู่กับมุมเก่าๆ มุมเดิมๆ ความคิดเดิมๆ ต่างหากครับ ผมอยากหักล้างกับหลายทฤษฎี แต่ก็มิใช่แหกกฎ ชัดตื้นคงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายไปตลอดของผมแน่ๆ ผมกำลังเข้าถ้ำกระบอกเพื่อเลิก head shot & half shot วันนี้ผมก็ได้ออกไปลองสิ่งๆใหม่ๆทันทีครับพี่ จนเพื่อนผมมันขำผมไปเลยว่า เฮ้ย วันนี้ปฎิวัติ F1.8 หรือ 2.8 เหรอ ผมบอกว่า ใช่..และบอกกลับไปว่า "กรูขอเวลาสักพัก" ครับพี่ ขอบคุณพี่ตองที่เป็นห่วงครับ เคารพพี่เสมอครับ เหวิน

tongfolio wrote today at 5:17 AM
โอเคเลยครับ.....เข้า ใจละค่อยโล่งอกขึ้นหน่อยครับ........ผมมีข้อเสนอแนะนิดนึงอาจเป็นประโยชน์ บ้างน่ะครับ
คือแทนที่เราจะมามัวมองหา"มุุม" ใหม่ๆในการนำเสนอ ผมว่าลองเปลี่ยนวิธีคิดอีกแบบน่าจะเห็นทางออกได้นะ
ความหมายของผมคือ การมองหา"มุม" ก็เหมือนการเดินรอบวัตถุที่จะถ่ายเป็นรูป"วงกลม" ไม่ว่าจะวนซ้ายไปขวา
หรือ วนจากบนลงล่าง ก็ยังหนีการ"ซ้ำ" ไม่ได้
แต่ ถ้าเราเปลี่ยนวิธีการคิดใหม่ คือ "ไม่สรรย์หามุม" แต่สรรย์หา"เรื่อง" อาจจะเพิ่มให้งานเรามีแก่นน่าสนใจมากขึ้นได้ครับ
ยกตัวอย่างให้เข้าใจได้ ง่ายๆในความหมายนี้ เช่น เพลงที่ไพเราะ มักจะมีท่วงทำนองที่ระรื่นหู แต่เพลงที่เป็น"อมตะ" มักจะต้องเป็นเพลง
ที่มี "เนื้อหา กินใจ" ดูไม่เห็นจะเกี่ยวรูปถ่ายเลยเนาะ ลองคิดดูดีๆนะครับ มันเกี่ยวอย่างมากเลย
เรา เคยเบื่อมั๊ยที่ ต้องถ่ายรูปนางแบบสวยๆ ซึ่งเราสั่งให้แต่งตัว+แต่งหน้าทำผมสวยๆๆๆๆๆๆ แล้วมายืนบิดซ้าย+ขวา บิดจนหมดไอเดียแล้ว
ว่าจะให้บิดมุมไหนอีก สุดท้ายก็แล้วแต่นางแบบจะคิดเอาละกัน กรูรอถ่ายอย่างเดียว หมดมุขละ
เรา ลองเปลี่ยน มาสร้าง "conceptual" ให้กับงานน่าจะดีกว่า ไม่ต้องมัวพะวงกับ"มุม" แต่ปล่อยให้จินตนาการมันรื่นไหลไปกับ เรื่องราวที่เราคิดเป็น
concept ไว้ดีกว่า โดยในการทำงานแต่ละครัั้งมีการคิด concept ไว้แล้วคุยกับทีมงาน นางแบบ ให้เข้าใจจะได้ช่วยกันรื่นไหลจินตนาการ
ผมว่าอาจจะช่วยทำให้งาน ที่เราเริ่มหมดมุข มีอะไรใหม่ๆมากระตุกต่อมตื่นเต้นได้อีกนะครับ
ลองย้อน คิดดูดีๆนะครับ งานที่ประทับอยู่ในใจเรา ส่วนใหญ่จะเป็นงานที่มี"story" อยู่ในนั้นเสมอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพียงแต่เรา "ตระหนัก"ถึงมันรึเปล่าเท่านั้นครับ
ยก ตัวอย่างเช่นงานของบรมครูศิลปินแห่งชาติ อาจารย์จิต จงจิตมั่น "ภาพคนถ่อเรือ" ที่เห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ(คุณเหวินคงพอนึกออก ถ้านึกไม่ออกเดี๋ยววันหลังจะหารูปส่งไปให้ดู) ภาพนั้นเป็นภาพที่ติดตาติดใจใครหลายๆคน รวมทั้งผมด้วย ผมเคยนั่งวิเคราะห์ว่าทำไมมันถึงโดนใจเราได้นะ "มุม" ก็ธรรมดาๆไม่ได้แปลกพิเศษอะไรเลย
ช่วงเวลาที่ถ่าย ก็อาจจะฟลุ๊คน่ะ เมฆครึ้มขนาดนั้น สรูปก็คือ"เนื้อหา" น่ะเองที่"สร้างจินตนาการ"ร่วมในการดูงานทำให้เรา"ลืม" เรื่อง"มุม" พิเศษพิศดารไปเลย

สรูปที่เขียนมายืดยาวนี่ก็เพียงแค่อยากจะแชร์แนว ความคิดไว้ว่า งานที่สวยแค่มองว่า"สวย" ก็จบแล้ว แต่งานที่มีเนื้อหา มักจะมี"สวย+กินใจ" มีอะไรให้จินตนาการต่อไปได้อีก ลองสังเกตุดูงานช่างภาพแฟชั่นที่ดังๆๆๆๆทั่วโลกซิครับ มักมีมากกว่าสวยเสมอๆ ส่วนใหญ่งานเขาจะแฝง "concept+Story" ไว้เสมอๆเพียงแต่เราผู้ดูจะรู้สึกรึเปล่าเท่านั้นเองครับ

ปล. head shot & half shot ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ ผมเคยเห็นงานที่ถ่ายhead shot & half shot ธรรมดาๆนี่แหละ แต่ดวงตาของแบบ บอกเล่า"Story" ที่เราดูภาพแล้วอึ้ง
ลืมเรื่องความเป็นhead shot ไปเลยครับ แค่เราเปลี่ยน"วิธีคิด" ใหม่ "เอาเรื่องราว" มาเป็นตัวนำในการทำงาน ไม่ใช่"เอามุมมอง" มาเป็นตัวนำในการทำงานแค่นั้นเอง
เราก็จะได้อะไรใหม่ๆ อย่างที่เราก็คาดไม่ถึงได้เลยครับ "เวลาเราดูรูปภาพ สิ่งสำคัญ คือภาษากาย"ครับไม่ใช่ภาษาที่เป็น "เสียง" เอาไว้วันหลังจะหาhead shot & half shot ที่มี
เนื้อหาอย่างที่บอกส่งไปให้ดูครับ
ปล.อีกที ครับ 555 ไม่ต้องถึงขนาดเคารพหรอกครับ ไม่กล้ารับครับ ผมไม่แน่ใจว่าคุณเหวินกับผมใครอาวุโสกว่ากัน ผมปีนี้ 44 ครับเกิด 2507 แต่ถึงผมอาวุโสกว่าผมก็ไม่อยากแก่ 555 ขอเป็นเพื่อนกันดีกว่าครับ ขำๆครับไม่ซีเรียส
ต้องครับ

tongfolio said
เอา head shot & half shot มาให้ดูครับไม่รู้ว่าคุณเหวิน เคยเข้ามาดูของคนนี้หรือยัง
เป็น ช่างภาพชาว ฟิลิบปินส์ครับ งานหลักเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่รร.นานาชาติที่เมืองไทยนี่เอง
ดูงานของเขา แล้วพิจารณาดูให้ดีจะรู้สึกเลยว่า เขาใช้ เรื่องราวเป็นตัวนำ(โดยมี concept เป็นแก่นครับ)
มุมมองก็ไม่ได้พิเศษอะไร แต่เราดูแล้วลืมเรื่องมุมไปเลยครับ

http://www.pbase.com/manny_librodo/image/87148279
และ
http://www.pbase.com/manny_librodo/image/92649915
และ อันนี้โดนมากชอบ
http://www.pbase.com/manny_librodo/image/58292334
แค่ ใช้แสงให้เป็น เรื่องราวที่มีมิติ
ปล. เอามาแบ่งปันครับ เปิดโลกทรรศน์กันและกัน คุณเหวินมีก็แนะนำได้นะครับ
ผมชอบศึกษาครับ

แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 53 20:47:40

จากคุณ	: ไม้แดง
เขียนเมื่อ	: 25 มิ.ย. 53 20:45:15