ความคิดเห็นที่ 1 จากที่เราเข้าใจ ไฟล์ RAW คือไฟล์ดิบ ที่เราเอามาปรับแต่งได้ แต่ระหว่าง ไฟล์ RAW+JPEG กับ ไฟล์ RAW นี่ต่างกันยังไงคะ - RAW+JPEG จะได้สองรูปครับ เป็น RAW 1 รูป และ JPEG อีก 1 รูป - RAW อย่างเดียวก็จะได้แต่ RAW อย่างเดียวครับ ________________________ ถ้าเราถ่ายรูปมา เป็นแบบไฟล์ RAW เวลาจะแปลงไฟล์นี่ควรใช้โปรแกรมอะไรที่ไฟล์จะออกมาแล้ว ขนาดเล็ก + รายละเอียดหายไปน้อยที่สุดดีเอ่ย - ที่ผมใช้ก็ โฟโต้สเคป - อย่างอื่นรอน้าท่านอื่นเสริมอีกทีครับ _________________________ แล้วอยากทราบว่าเวลาซื้อเมมกล้อง ควรซื้อยี่ห้อไหนดีคะ แล้วขนาดประมาณไหนดี เพราะที่ได้แถมมาแค่ 2GB เอง สำหรับเวลาไปเที่ยวทริปต่างๆ แล้วถ่ายรูปเก็บเอาไว้ + ถ่ายวีดีโอนิดหน่อย ควรซื้อความจุที่เท่าไหร่คะ - เรื่องยี่ห้อผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ ถ้าเรื่องขนาด แนะนำว่า ประมาณ 4GB อย่างน้อยสัก2-3ตัว กำลังดี แต่ถ้าถ่ายเป็น RAW บ่อย ๆ ก็ 8GB ก็ได้ครับ แต่สำหรับผมไม่ค่อยใช้ความจุเยอะ ๆ สักเท่าไหร่ เพราะว่าถ้ามันมีปัญหาขึ้นมามันจะหายหมด แล้วจะเสียดายครับ ________________________ ที่เหลือรอน้าท่านอื่นมาเสริมแล้วกันนะครับ จากคุณ : Perfidious เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 53 05:09:47

ความคิดเห็นที่ 2 raw นี่ คือ ข้อมูลดิบๆ ฉะนั้น การจะแปลงเป็น jpg .. ตอนนี้ มีโปรแกรมนับสิบครับ ที่จะแปลงได้ ตัวไหนแปลงแล้วข้อมูลหายน้อยสุดและเล็กสุด ... ไม่มีครับ เพราะกระบวนการสำคัญกระบวนการหนึ่งในการสร้างภาพ jpg คือ ทิ้งข้อมูล ฉนั้น .. มันขึ้นกับว่า ตัวเรา เลือกที่จะทิ้งข้อมูลมากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญ สิ่งที่ถูกทิ้งไปอย่างแรก ทั้งๆที่เป็นสิ่งสำคัญสุด คือ ช่วงความสว่าง (dynamic range, contrast) JPG มันมีแค่ 8 bits แต่ raw มันกว้าง 12-14 bits ยังไงๆ ก็หายไปแน่นอน ที่ถ่าย raw ไว้นั้น .. ก็เพื่ออนาคต อันไม่ไกลนัก อีกไม่นาน เมื่อใดที่ oLED monitor กลายมาเป็นมาตรฐาน คนที่ถ่ายแต่ jpg ไว้ ก็มีสิทธิ "อึ้ง" มันก็เหมือนกับสมัยก่อน ที่ถ่าย vdo ขนาด 320 x 240 เก็บไว้ พอมาตอนนี้ จอภาพ 90% ในท้องตลาดมันขนาด 17-19" แถมความละเอียดขนาด HD ทำให้ตาย ก็ดูภาพขนาด 320 x 240 แจ่มแมวเหมือนดูภาพ vdo HD ไม่ได้ และี จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 53 06:39:03

ความคิดเห็นที่ 3 และ ... SD card เดี๋ยวนี้ 8 GB class 4 ราคาประมาณ 500-600 บาทเท่านั้น เอามาถ่าย raw + jpg ได้ไม่ต่ำกว่า 500 รูป ext HDD สำหรับ backup ขนาด 1 TB ก็ไม่ถึง 5,000 backup ได้เป็นปีๆ (ถ้าทำอย่างถูกวิธี) เอ๊ะ!!!! ผมพูดถึง raw + jpg ใช่ไหมครับ เดี๋ยวนี้ ผมถ่ายเป็น raw + jpg ครับ jpg เลือกประมาณ 5 ล้าน (2400 x 1800) และความละเอียดปานกลาง พอเม็มใกล้เต็ม ก็โอนย้ายเข้าเครื่อง ภาพ jpg เอาไว้ดู เอาไว้อัด เอาไว้แจกจ่าย ไฟล์ raw ส่งเข้า backup ไม่ต้องเสียเวลาอะไรมากมาย จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 53 06:43:41

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนว่าจะซื้อ SD card ขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่า "บ้าพลัง" ขนาดไหน เพราะอย่างที่ว่าไว้ข้างบน การ์ด 8 GB ถ้าถ่าย raw + jpg  ... จะได้ประมาณ 500 รูปเป็นอย่างต่ำ ถ้าเป็น jpg อย่างเดียว แบบใหญ่สุด ละเอียดสุด จะได้ประมาณ 1,200-1,400 รูป ถ้าถ่าย vdo แบบ HD จะได้ประมาณ 1.5 ชั่วโมง vdo ถ้าถ่ายเป็นคลิปสั้นๆ ไม่เกิน 30 วินาทีต่อครั้ง ใช้ class 4 ก็เหลือเฟือ แต่ถ้าถ่ายบ่อย หรือ ถ่ายต่อเนื่อง ไม่รอให้กล้องพัก ก็ต้องหา class 6 ขึ้นไป จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 53 06:46:54

ความคิดเห็นที่ 5 การถ่าย vdo .. ระวังให้ดีๆ มันสร้างข้อมูลขึ้นมาประมาณ 2 MB/วินาที แค่เวลา 3 วินาที ขนาดไฟล์ก็ใหญ่กว่าภาพ jpg ที่ละเอียดสุด ปัญหาไม่ได้หมดแค่นั้น ในการถ่ายรูป .. รูปไหนเบลอจัด ไม่ชัดเลย หรือ น่าเกลียดมาก เราลบทิ้งได้ คัดแต่รูปที่ดีๆไว้ แต่ vdo ... มันมาเป็นสายต่อเนื่อง (stream) ชอบ หรือ ไม่ชอบ น่าเกลียด หรือไม่น่าเกลียด ก็ต้องเก็บทั้ง stream และดูทั้ง stream การตัดแต่งไฟล์ vdo ไม่ใช่เรื่องง่าย โหดหินกว่าแต่งรูปด้วย PS หลายสิบหลายร้อยเท่า ถ่ายมาเป็นคลิปสั้นๆ ก็ดูไม่รู้เรื่อง ถ่ายมาเป็นคลิปยาวๆ ก็เอามาตัดต่อไม่ไหว ระวังหน่อยแล้วกันครับ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 53 06:50:55

ความคิดเห็นที่ 6 ตรงใจมากเลยครับน้าแมว จากคุณ : สะบายดีบางกอก เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 53 08:37:27

ความคิดเห็นที่ 7 บลูถ่าย raw อย่้างเดียวค่ะ ไม่เอา jpg เพระาแปลงไฟล์ไม่นานอะไรเลย บลูใช้ โปรแกรม dpp (Digital Photo Professional) แปลงค่ะ ข้อดีคือ เราสามารถ เปลี่ยน picture style ได้้ตามใจด้วย ปรกติบลูถ่ายก็ไม่ได้ปรับแต่งอะไรต่อ นะคะ นอกจากย่อไฟล์ ก็ยังเลือกที่จะใช้ rawอยุ่ดี สำหรับบลูภาพความทรงจำ เก้บไว้ด้วยคุรภาพสุงสุดที่กล้องจะได้ไว้เสมอดีกว่า เพราะวัน เวลาเหล่านั้นมันย้อนกลับมาไม่ได้ นอกจากดูจากภาพถ่าย แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 53 11:06:06 จากคุณ : บลูดานูป เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 53 10:40:48

ความคิดเห็นที่ 8   Raw แปลงด้วยโปรแกรมที่มาจากกล้องน่าจะดีที่สุด เพราะใน program จะมีการ set ค่าต่างๆ เหมือนในกล้อง ยกตัวอย่าง canon เหมือนที่คุณ บูลว่า เปลี่ยน picture style เปลี่ยน ความคม contrast sat ขาวดำ ความสว่าง และ อื่นๆ ขนาดของ sd การด์ขึ้นอยู่กับการใช้งานครับ ยกตัวอย่างผมใช้ SD class6 8 GB 3 ตัว เพราะ ผมถ่าย raw ขนาด ประมาณ 14 MB 8 GB จุได้ 500 ไฟล์ เวลาที่ไปเที่ยว เที่ยวทะเลไป 3-4 วัน ไม่ได้พก notebook ไป 8 GB สำหรับผมถือว่าพอดีครับ SD class 6 8GB ราคา 550 บาท ยี่ห้อถูกสุด apacer ใช้มา 1 ปีกว่าแล้วถ่ายมาเกือบ สามหมื่นภาพ ยังไม่มีปัญหา จากคุณ : dji_2000 (dji_2000) เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 53 11:39:30

ความคิดเห็นที่ 9 ใช้ ACDsee รุ่นใหม่สามารถเปิดไฟล์ RAW ได้ด้วยครับ นำมาแปลงเป็น JPEG ได้ครับ จากคุณ : donnie เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 53 22:13:08

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าลงบล็อกทั่วๆไป แต่งนิดๆหน่อยๆ หรือถ้าจะนำไปอัดขนาด จัมโบ้ สี่คูณหก นิ้ว ถ่ายเป็น jpeg ขนาด ปานกลางก็เหลือแหล่แล้วครับ จากคุณ : โออ๊ะปะ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 06:53:33

ความคิดเห็นที่ 11   ขอบคุณมากๆ ค่ะ อ่านแล้วกระจ่างเลย แต่สงสัยอีกนิดหน่อยว่า เวลาอ่านจากหลายๆ คนว่าใช้เมมกล้องเท่าไหร่ ทำไมส่วนใหญ่ถึงใช้ ... GB แต่หลายๆ อันคะ ทำไมถึงไม่ใช้เป็นขนาดใหญ่อันเดียวไปเลย แล้วถ้าเราจะซื้อ 16 GB ราคา 1100 นี่แพงไปมั๊ยคะ จากคุณ : ว่าที่คุณแม่มือใหม่ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 07:31:27 A:58.64.83.210 X: TicketID:267841

ความคิดเห็นที่ 12   เรื่องการ์ดความจำ ลองนึกดูว่าเราถ่ายครั้งละกี่ช๊อตครับ เอาแบบติดต่อกันโดยไม่พักเลย  ผมว่าได้เต็มที่ไม่เกิน 100-200 ช๊อตก็มือล้าแล้ว ยิ่งถ้าเป็น dslr ด้วยละ มือเกร็งแน่ ๆ นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมมืออาชีพเค้าไม่ใช้การ์ดขนาดใหญ่ เพราะถ่ายประมาณ 100-200 ช๊อต เค้าจะเปลี่ยนการ์ด เพื่อป้องกันการ์ดเสียหาย จากการโดนเหงื่อ ฝุ่น หรือเหตุไม่คาดฝัน เช่น การ์ดตกท่อ โดนรถทับ เพราะหากคุณพึ่งการ์ดใบเดียว เกิดการ์ดเสียหายขึ้นมา ข้อมูลทั้งหมดก็หายไปหมดเลย จะกลายเป็นว่า ถ่ายทั้งวัน ไม่ได้รูปเลยแม้แต่รูปเดียว ถ้ากลับไปถ่ายซ้ำได้ก็ดีไป แต่ถ้ากลับไปไม่ได้ จะทำอย่างไร ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย เค้าจึงไม่ใช้การ์ดขนาดใหญ่ที่สุด แต่ใช้การ์ดขนาดที่เหมาะสมที่สุดกับ format ที่เค้าถ่าย ยิ่งโดยเฉพาะถ่าย raw ผมว่าใช้ขนาด 4 GB ก็ได้ 200 กว่ารูปแล้ว ตากล้องอาชีพบางคน พกกันที่เป็น 100-200 GB แต่การ์ดขนาด 2-4 GB เป็นส่วนมาก เพราะไม่ต้องการฝากชีวิตไว้กับคุณภาพของการ์ดนะครับ ไม่ต้องเสี่ยง บางคนใช้ถ่ายรูปครั้ง หรือสองครั้ง แล้วเอาไปใช้งานอย่างอื่นเลยก็มีนะครับ (ของต่างประเทศนะครับ) ตอบประมาณนี้ หวังว่าจะช่วยให้เลือกการ์ดที่เหมาะกับการถ่ายรูปของคุณได้ดีขึ้นนะครับ จากคุณ : ตั๊กแตนไอซ์แลนด์ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 18:54:18

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้ามันเสีย มันก็เสียทั้งหมดเลยสิ... เอาซัก 8GB 2อัน จะได้มีสำรองด้วย จากคุณ : ลูกหมูร้องจิ๊บ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 19:02:59